Coolsculpting คืออะไร? ทำความรู้จักกับการสลายไขมันด้วยความเย็น

บทความเกี่ยวกับ : Coolsculpting , สลายไขมัน , สลายไขมันด้วยความเย็น

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็นคืออะไร
ช่วงนี้ใคร Enjoy eating หนักๆ แล้วรู้สึกว่าจะต้องกลับมารักหุ่นแล้วมารวมกันตรงนี้ได้เลย เพราะเรามีวิธีลดหุ่นแบบเร่งด่วน ไม่เจ็บ ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ด้วย Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น

ใครอยากรู้เคล็ดไม่ลับของนวัตกรรมเครื่อง Coolsculpting ในการลดไขมันว่าสามารถลดได้จริงๆ หรือไม่ แล้วขั้นตอนกระบวนการทำงานของเครื่องCoolsculpting ทำงานอย่างไร บทความนี้ครบจบทุกคำตอบเรื่อง Coolsculpting

สารบัญ สลายไขมันด้วยความเย็น ( Coolsculpting )
Coolsculpting คืออะไร? ทำความรู้จักกับการสลายไขมันด้วยความเย็น
ข้อดีของการลดไขมันด้วย Coolsculpting
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
Coolsculpting สามารถลดไขมันส่วนไหนได้บ้าง
Coolsculpting ปลอดภัยหรือไม่? ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ควรรู้
Coolsculpting แตกต่างจากการดูดไขมันอย่างไร?
ขั้นตอนการทำ Coolsculpting
ผลลัพธ์ของ Coolsculpting หลังทำทันที
Coolsculpting ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงเห็นผลชัดเจน
คำแนะนำในการดูแลผลลัพธ์หลังการทำ Coolsculpting เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
การเลือกคลินิก Coolsculpting ที่ปลอดภัยและเห็นผลเร็วที่สุด
Coolsculpting รวมแล้วราคาอยู่ที่เท่าไหร่
สรุปทุกเรื่องของ Coolsculpting กาสลายไขมันด้วยความเย็น
รวบทุกคำถามที่เกี่ยวกับ Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น

Coolsculpting คืออะไร? ทำความรู้จักกับการสลายไขมันด้วยความเย็น
Coolsculpting หรือถ้าเรารู้กันในชื่อของการสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินในร่างกายของเราออกโดยใช้ความเย็น ซึ่งความเย็นที่ใช้นั้นจะเป็นการแช่แข็งเซลล์ไขมันโดยเฉพาะ เนื่องจากว่าเซลล์ไขมันในร่างกายของเรานั้นมันไวต่อความเย็นมากกว่าเซลล์ชนิดอื่นๆในร่างกาย ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับตอนที่เรานำอาหารที่มีไขมันไปแช่เย็น ตัวของไขมันในอาหารนั้นจะแข็งตัวและแยกตัวออกมาอย่างรวดเร็ว

บทความน่ารู้เกี่ยวกับการสลายไขมัน 20 วิธีการสลายไขมัน มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

กลไกการทำงานของ Coolsculpting (การสลายไขมันด้วยความเย็น) คือการใช้นวัตกรรม Cryolipolysis® Technology ในการแช่แข็งเซลล์ไขมัน โดยอาศัยอุณหภูมิต่ำจนทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัวและตายไป จากนั้นร่างกายจะกำจัดเซลล์ไขมันเหล่านี้ออกตามธรรมชาติ

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น คืออะไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

หลักการทำงานของ Cryolipolysis®
1.การใช้ความเย็น : Cryolipolysis® ใช้เครื่องมือที่สร้างความเย็นเยือกแข็ง ซึ่งจะถูกนำไปสัมผัสกับบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่ เช่น พุง ต้นขา หรือสะโพก

2.การทำลายเซลล์ไขมัน : เมื่อเซลล์ไขมันได้รับความเย็นจัดจะเกิดการแตกตัวและตายไปตามธรรมชาติ ในระยะเวลา 2-4 เดือนต่อจากการรักษา เซลล์ไขมันที่ตายไปจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลือง

3.ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ : เนื่องจากเป็นการทำลายไขมันโดยไม่ใช้การผ่าตัดหรือเข็ม ผลลัพธ์จะเป็นธรรมชาติและไม่ทิ้งรอยแผลเป็น

ซึ่งถ้าจะอธิบายให้แบบเห็นภาพคือ เครื่อง Coolsculpting จะใช้หัวดูดที่ออกแบบมาเพื่อดึงชั้นไขมันให้เข้ามาในตัวเครื่อง คล้ายกับการหยิบเนื้อส่วนเกินขึ้นมา ตัวเครื่องจะปล่อยความเย็นที่อุณหภูมิประมาณ -11°C เพื่อแช่แข็งไขมันในจุดนั้นเป็นเวลา 35 นาที เมื่อครบเวลา จะมีการนวดบริเวณที่ทำเพื่อช่วยให้เซลล์ไขมันตายและถูกกำจัดออกจากร่างกายตามธรรมชาติอย่างถาวร ซึ่งบางคนอาจจะเข้าใจผิดเลยไม่เรียกว่า Coolsculpting หรือ การสลายไขมันด้วยความเย็น แต่จะเรียกว่า การนวดสลายไขมันแทน

ข้อดีของการลดไขมันด้วย Coolsculpting
แน่นอนว่าการลดไขมันด้วย Coolsculpting จะต้องทำให้ไขมันของเราลดลงอยู่แล้ว แต่การใช้เครื่อง Coolsculpting ยังมีข้อดีอย่างอื่นอีกที่ทำให้วิธีการลดไขมันด้วย Coolsculpting เป็นที่สนใจมากขึ้นในปัจจุบัน

ข้อดีทั้งหมดในการสลายไขมันด้วยความเย็น ( Coolsculpting )
1.การสลายไขมันด้วย Coolsculpting ไม่ต้องผ่าตัด
ไม่มีการใช้มีดผ่าหรือเปิดแผล ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือผลข้างเคียงจากการศัลยกรรม

2.หลังจากทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็นไม่ต้องพักฟื้นนาน
หลังทำ Coolsculpting เสร็จสามารถกลับไปทำงานหรือกิจกรรมประจำวันได้ทันที ไม่ต้องหยุดพักเหมือนการผ่าตัด

3.Coolsculpting ลดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ
การสลายไขมันด้วยความเย็น สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินในจุดที่ต้องการ เช่น หน้าท้อง เอว ต้นขา หรือใต้คาง

4.Coolsculpting เป็นเทคโนโลยีได้รับการรับรองจาก FDA
ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในคุณภาพและประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน

5.ปลอดภัยต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง
การใช้เครื่อง Coolsculpting สลายไขมันจะทำลายเฉพาะเซลล์ไขมัน โดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ หรือเส้นประสาท

6.เครื่อง Coolsculpting สามารถลดไขมันได้สูงสุด 20-25% ต่อการทำ 1 ครั้ง
ผลลัพธ์จะชัดเจนมากหลังจากทำเพียงไม่กี่ครั้ง

7.คนที่กลัวการผ่าตัด แต่อยากหุ่นสวย Coolsculpting เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์
ไม่ต้องกลัวเรื่องมีดหมอและไม่ต้องพักฟื้น

8.การใช้เครื่อง Coolsculpting ไม่ต้องใช้ยาชาหรือยาสลบ
ลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของยา

9.ผลลัพธ์ของการสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร
เซลล์ไขมันที่ถูกกำจัดจะไม่กลับมาอีก หากมีการดูแลรูปร่างอย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้ปริมาณเซลล์ไขมันไม่เพิ่มขึ้นอีก

10.กระบวนการสลายไขมันด้วยความเย็นของเครื่อง Coolsculpting เป็นการกำจัดไขมันแบบธรรมชาติ
เซลล์ไขมันที่ตายจะถูกกำจัดออกทางระบบขับถ่ายของร่างกาย

11.เครื่อง Coolsculpting ลดไขมันส่วนเกินที่ลดยาก
การสลายไขมันด้วยความเย็น จะช่วยลดไขมันสะสมในจุดที่การออกกำลังกายหรือการคุมอาหารไม่สามารถช่วยลดได้ หรือในสัดส่วนที่ลดยากมากๆ

12.การสลายไขมันด้วยความเย็นของ Coolsculpting ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น
มั่นใจได้ว่าหลังจากทำแล้วจะไม่มีรอยแผลหรือร่องรอยจากการรักษา

13.Coolsculpting สามารถทำได้หลายบริเวณในครั้งเดียว
การสลายไขมันด้วยความเย็นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันในหลายจุดพร้อมกัน

14.สลายไขมันด้วยความเย็นของ Coolsculpting ใช้ระยะเวลาสั้นมากเมื่อเทียบกับการลดไขมันวิธีอื่นๆ
แต่ละจุดที่ต้องการสลายไขมันด้วย Coolsculpting ใช้เวลาเพียง 35-60 นาทีเท่านั้น

15.การใช้ Coolsculpting ในการกำจัดไขมันจะรู้สึกสบายระหว่างทำ
ขณะทำสามารถนั่งพักผ่อน ดูหนัง หรือเล่นมือถือได้เลย

16.การใช้ Coolsculpting ในการสลายไขมันสามารถวางแผนเฉพาะบุคคลได้
ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจะช่วยออกแบบการรักษาให้เหมาะกับรูปร่างและเป้าหมายของแต่ละคนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับบุคคลนั้นโดยเฉพาะ

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น คืออะไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
• ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด
Coolsculpting หรือการสลายไขมันด้วยความเย็น เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมในบริเวณที่ลดได้ยาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือใต้คาง

• ผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างแต่ไม่ต้องการผ่าตัด
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงการผ่าตัดหรือการใช้วิธีการลดไขมันแบบที่ต้องพักฟื้น Coolsculpting เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

• คนที่มีน้ำหนักตัวใกล้เคียงมาตรฐาน
Coolsculpting หรือการสลายไขมันด้วยความเย็น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนมาก แต่อยากกำจัดไขมันส่วนเกินเพื่อให้รูปร่างสมส่วน ดูกระชับไม่ย้วย

• คนที่ไม่มีเวลาเข้าฟิตเนสอย่างสม่ำเสมอ
เหมาะสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ ไม่มีเวลาลดไขมันด้วยการออกกำลังกาย ทำ Coolsculpting เพียง 35 - 60 นาทีเท่านั้น

• ผู้ที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังหรือสุขภาพเฉพาะจุด
เช่น ไม่มีแผลหรือการอักเสบในบริเวณที่ต้องการทำ Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น

• คนที่พร้อมทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เหมาะกับผู้ที่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งก่อนและหลังการทำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะการทำ Coolsculpting
อาจต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี่ที่สุด

• คุณแม่หลังคลอดที่มีไขมันสะสมค่อนข้างมาก
การทำ Coolsculpting จะช่วยลดไขมันสะสมในบริเวณที่ลดยากให้ดูกระชับขึ้น

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น คืออะไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Coolsculpting สามารถลดไขมันส่วนไหนได้บ้าง
1.ใต้คาง (เหนียง)
Coolsculpting ช่วยกำจัดคางสองชั้น ทำให้ใบหน้าดูเรียวและชัดเจนเห็นเป็นรูปหน้าชัดขึ้น

2.หน้าอกผู้ชาย
ผู้ชายที่มีปัญหาหน้าอกคล้ายผู้หญิง Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น จะช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าอกในผู้ชาย ช่วยให้หน้าอกดูแบนราบและกระชับขึ้น

3.หลังส่วนบน (Bra Fat)
Coolsculpting จะช่วยลดไขมันที่หลังบริเวณที่มักจะเห็นเป็นก้อนนูนๆขึ้น เวลาที่ใส่เสื้อในหรือชุดรัดรูป

4.ต้นแขน (Upper Arms)
กำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณต้นแขน ทำให้แขนดูเล็กและเฟิร์มขึ้นด้วยการสลายไขมันด้วยความเย็นหรือ Coolsculpting

5.หน้าท้อง (Abdomen)
Coolsculpting จะช่วยกำจัดพุงส่วนเกิน ด้วยการสลายไขมันด้วยความเย็น ไม่ว่าจะเป็นพุงล่างหรือพุงรอบเอว ทำให้รูปร่างดูเพรียวขึ้น

6.เอวและด้านข้างลำตัว (Flanks/Love Handles)
Coolsculpting เก็บไขมันส่วนเอวและด้านข้างลำตัวส่วนที่เป็นห่วงยาง ช่วยให้รูปร่างดูคอดเว้า เป็นสัดส่วน

7.ด้านล่างบั้นท้าย (Banana Roll)
Coolsculpting ลดไขมันใต้บั้นท้ายการสลายไขมันด้วยความเย็นเพื่อเสริมให้สะโพกดูกระชับและได้รูปมากขึ้น

8.ต้นขาด้านในและด้านนอก (Inner & Outer Thighs)
บริเวณนี้เป็นบริเวณที่ลดยากมาก การลดด้วย Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็นในส่วนนี้จะช่วยลดไขมันต้นขาด้านในให้เรียวเล็ก และจัดการปีกขาที่ทำให้ขาใหญ่ให้ดูเล็กลงได้

9.เหนียงด้านหลังเข่า (Knee Fat)
Coolsculpting จะเข้าไปกำจัดไขมันส่วนเล็กๆ ด้านหลังหัวเข่าเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้นทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น

Coolsculpting หรือการสลายไขมันด้วยความเย็นจะช่วยปรับรูปร่างให้ดูสมส่วน กระชับ ใส่เสื้อผ้าแล้วมั่นใจมากยิ่งขึ้น ใครที่มีปัญหาตรงบริเวณไหนสามารถสอบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางในการสลายไขมันด้วย Coolsculpting ได้เลย

Coolsculpting ปลอดภัยหรือไม่? ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ควรรู้
ความปลอดภัยของ Coolsculpting
• Coolsculpting ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลก
ได้รับการรับรองจาก FDA (องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา) ว่าเป็นวิธีการลดไขมัน หรือการสลายไขมันด้วยความเย็นที่ปลอดภัย

• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็นจะเป็นการใช้เทคโนโลยีความเย็นเฉพาะจุด จึงไม่กระทบกับเนื้อเยื่อหรือเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียง

• กระบวนการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ
การสลายไขมันด้วยความเย็นของ Coolsculpting มีระบบตรวจจับอุณหภูมิ เพื่อป้องกันไม่ให้ความเย็นส่งผลต่อผิวหนังบริเวณอื่น

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ควรรู้ของ Coolsculpting
1.อาการแดงหรือบวมชั่วคราว
หลังทำ Coolsculpting  อาจมีรอยแดงหรือบวมในบริเวณที่รับการรักษา แต่จะหายเองใน 1-2 วัน

2.รู้สึกชาเล็กน้อย
ขณะที่ทำ Coolsculpting อาจมีอาการชาบริเวณผิวหนังชั่วคราวจากความเย็น แต่จะไม่มีผลกระทบในระยะยาว

3.รู้สึกระบมเล็กน้อย
บางคนอาจรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อระบมในบริเวณที่ทำ Coolsculpting  แต่ไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยในการสลายไขมันด้วยความเย็นด้วย Coolsculpting
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก่อนตัดสินใจทำ Coolsculpting เพื่อประเมินความเหมาะสม
• เลือกสถานที่ที่มีมาตรฐานและใช้เครื่อง Coolsculpting ของแท้
• ปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนและหลังการทำ Coolsculpting เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีที่ปลอดภัยสำหรับการลดไขมันเฉพาะจุด แต่ควรทำความเข้าใจผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเพื่อการตัดสินใจที่มั่นใจยิ่งขึ้น

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น คืออะไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Coolsculpting (การสลายไขมันด้วยความเย็น) แตกต่างจากการดูดไขมันอย่างไร ?
1.วิธีการกำจัดไขมัน
• Coolsculpting ใช้ความเย็นแช่แข็งเซลล์ไขมันจนตาย และร่างกายจะกำจัดเซลล์ไขมันเหล่านั้นออกเองตามธรรมชาติ เราเลยเรียกอีกชื่อว่า การสลายไขมันด้วยความเย็น
• การดูดไขมัน ใช้เครื่องมือเจาะหรือดูดไขมันออกจากร่างกายโดยตรงผ่านการผ่าตัด

2.ความเจ็บปวด
• Coolsculpting ไม่รู้สึกเจ็บ (รู้สึกเพียงเย็นและตึงเล็กน้อย) และไม่มีแผลในการผ่าตัด
• การดูดไขมัน อาจมีความเจ็บจากการผ่าตัด ต้องใช้ยาชาหรือยาสลบในระหว่างการดูดไขมัน

3.ระยะเวลาฟื้นตัว
• Coolsculpting ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
• การดูดไขมัน ต้องพักฟื้นหลายวันและหลีกเลี่ยงการออกแรงหนัก

4.ระยะเวลาเห็นผล
• Coolsculpting เห็นผลลัพธ์แบบชัดเจนใน 1-3 เดือน เนื่องจากไขมันถูกกำจัดออกตามกระบวนการธรรมชาติ
• การดูดไขมัน เห็นผลทันทีหลังการรักษา (แต่ต้องรอให้บวมลดลงเพื่อเห็นผลชัดเจน)

5.ความเหมาะสม
• Coolsculpting เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดเล็กน้อย และต้องการลดแบบไม่เจ็บตัว
• การดูดไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินจำนวนมาก และต้องการกำจัดแบบรวดเร็ว

6.ความเสี่ยง
• Coolsculpting ความเสี่ยงน้อยมาก มีผลข้างเคียงชั่วคราว เช่น รอยแดงหรือความรู้สึกชาบริเวณที่ทำ
• การดูดไขมัน มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด เช่น แผลติดเชื้อ เลือดออก หรือรอยบุ๋ม

7.ค่าใช้จ่าย
• Coolsculpting ราคาต่อครั้งต่ำกว่าการดูดไขมัน แต่อาจจะต้องทำหลายครั้งในบางกรณี
• การดูดไขมัน ราคาสูงกว่าการทำ Coolsculpting แต่ทำครั้งเดียวจบ

สรุปเปรียบเทียบระหว่าง Coolsculpting กับการดูดไขมัน ให้เข้าใจง่าย
• หากต้องการลดไขมันแบบไม่เจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น สามารถเลือก Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น
• หากมีไขมันจำนวนมาก ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนทันที และเวลาในการพักฟื้นตัวเอง เลือกการดูดไขมัน

การเลือกวิธีที่จะสลายไขมัน ด้วย Coolsculpting หรือ การดูดไขมันนั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความสะดวกของแต่ละคนได้เลย แต่ทั้ง 2 วิธีนี้จะต้องเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ และมีแพทย์เฉพาะทางดูแล เพื่อความปลอดภัยของเรา สวยได้แต่ต้องไม่เสี่ยงนะ

ขั้นตอนการทำ Coolsculpting
ปรึกษาและวางแผนการสลายไขมันด้วยความเย็น
• เข้าพบผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง Coolsculpting (CoolSculpting Expert)
• ประเมินขนาดสัดส่วนของร่างกายปัจจุบัน
• วางแผนการรักษาตามสัดส่วนที่ต้องการ
• นัดหมายวันเข้ารับบริการ

การเตรียมตัวในวันรับบริการ
• ชั่งน้ำหนักและวัดสัดส่วนเพื่อบันทึกข้อมูล
• เซ็นเอกสารยินยอมรับบริการ
• เปลี่ยนชุดและถ่ายภาพสัดส่วนก่อนเริ่มทำ  Coolsculpting

เริ่มต้นขั้นตอนการสลายไขมันด้วยความเย็น
• เจ้าหน้าที่ทำเครื่องหมายบริเวณที่ต้องการรักษา
• ทำความสะอาดผิวในจุดที่ติดตั้งอุปกรณ์
• ติดตั้งหัวแอปพลิเคเตอร์ของเครื่อง CoolSculpting บนผิว
• เครื่องเริ่มปล่อยพลังงานความเย็นเพื่อสลายเซลล์ไขมัน

ระหว่างการรักษา
• ผู้เข้ารับบริการสามารถนั่งหรือนอนในท่าที่สบาย
• เจ้าหน้าที่จะแนะนำท่านั่งหรือนอนที่เหมาะสม เพื่อให้เครื่อง  Coolsculpting ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่หลุดออกจากผิว

หลังการรักษา
• ถ่ายภาพสัดส่วนหลังรับบริการสลายไขมันด้วยความเย็น เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
• สามารถกลับบ้านได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น

ติดตามผลลัพธ์
• หลังจากผ่านไปประมาณ 1 เดือน ผู้เชี่ยวชาญ Coolsculpting อาจนัดหมายเพื่อตรวจสอบผลลัพธ์และประเมินการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น คืออะไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ผลลัพธ์ของ Coolsculpting หลังทำทันที
หลังจากทำ Coolsculpting® หรือการสลายไขมันด้วยการแช่แข็งไขมัน (Cryolipolysis®) ผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันทีจะมีดังนี้

1.ความรู้สึกหลังทำบริเวณที่ทำ Coolsculpting
• หลังจากการสลายไขมันด้วยความเย็นไปแล้ว อาจรู้สึกเย็นและบวมเล็กน้อยในบริเวณที่ได้รับการรักษา ซึ่งเป็นผลจากการใช้ความเย็นจัด
• บางครั้งอาจรู้สึกเจ็บหรือชาจำนวนเล็กน้อยในช่วงหลังจากการรักษา แต่จะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง

2.การบวมและรอยแดง
• บริเวณที่ได้ทำ Coolsculpting จะมีอาการบวมเล็กน้อย หรือรอยแดงเกิดขึ้น แต่จะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง
• ในบางกรณีอาจมีรอยเขียวช้ำเล็กน้อย ซึ่งก็จะหายไปภายในไม่กี่วัน

3.การใช้ชีวิตประจำวัน
• โดยทั่วไปหลังจากทำ Coolsculpting ผู้รับบริการสามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที ไม่มีการพักฟื้นหรือแผลเป็น
• สามารถออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลังการสลายไขมันด้วยความเย็นได้เลย

การทำ Coolsculpting ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงเห็นผลชัดเจน
Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น ทำงานโดยการใช้ความเย็นที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันถูกทำลายและค่อยๆ ถูกขับออกจากร่างกาย ซึ่งการทำลายไขมันนี้ใช้เวลาในกระบวนการทางธรรมชาติไม่เกิดผลกระทบต่อร่างกานที่ร้ายแรงในภายหลังอย่างแน่นอน แต่จะเห็นสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนหลังจากทำการสลายไขมันด้วยความเย็นไปแล้ว 2-4 เดือน

คำแนะนำในการดูแลผลลัพธ์หลังการทำ Coolsculpting เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
การดูแลตัวเองหลังการทำ Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น มีความสำคัญในการช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและคงอยู่ได้นานขึ้น เราเลยมีทริคแนะนำและนำไปใช้ได้จริงมาฝาก

1.ดื่มน้ำมากๆ หลังทำ Coolsculpting
• หลังจากการทำ Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น การดื่มจะน้ำช่วยกระตุ้นระบบน้ำเหลืองในการขับไขมันออกจากร่างกาย ดังนั้นควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียและไขมันที่ถูกทำลายออกไปได้เร็วขึ้น

2.เดินออกกำลังกายเบาๆ
• การเดินหรือออกกำลังกายเบาๆ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยให้กระบวนการขับไขมันออกจากร่างกายเกิดขึ้นเร็วขึ้น เลือกเดินเร็วๆ สัก 30 นาทีต่อวันในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกหลังการสลายไขมันด้วยความเย็น

3.หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง
• หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันหรือแคลอรีสูงหลังการทำ Coolsculpting เพื่อไม่ให้ร่างกายสร้างไขมันใหม่มาทดแทนไขมันที่เพิ่งถูกขจัดออกไป ควรเน้นอาหารที่มีประโยชน์และผักผลไม้

4.นวดบริเวณที่ทำการรักษา
• หลังจากการทำ Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น อาจมีการบวมเล็กน้อย การนวดเบาๆ จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและกระตุ้นให้การขับไขมันเกิดขึ้นเร็วขึ้น แนะนำให้นวดเบาๆ บริเวณที่ทำการรักษาในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการทำ

5.อย่าละเลยการพักผ่อน
• การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น และช่วยในการฟื้นฟูหลังการรักษา นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืนเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวและขับไขมันได้อย่างเต็มที่

6.สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่นเกินไป
• ในระหว่างที่ทำการสลายไขมันด้วยความเย็น คุณอาจรู้สึกชาหรือบวมในบริเวณที่ได้รับการรักษา การสวมใส่เสื้อผ้าที่สบายๆ และไม่รัดแน่นเกินไปจะช่วยลดอาการไม่สบายตัวและส่งเสริมการไหลเวียนเลือด

7.ให้เวลาให้ผลลัพธ์ค่อยๆ ปรากฏ
• ผลลัพธ์ของ Coolsculpting จะเริ่มเห็นได้ภายใน 2-4 เดือนหลังการรักษา เพราะการขับไขมันจะเกิดขึ้นค่อยๆ ดังนั้นให้เวลาให้ร่างกายทำงานและอย่าคาดหวังผลลัพธ์เร็วเกินไป

8.การติดตามผลหลังการทำ
• หลังการทำ Coolsculpting ควรติดตามผลกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อดูว่าไขมันลดลงตามที่ต้องการหรือไม่ และอาจทำการปรับแผนการรักษาหากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ

9.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
• แอลกอฮอล์อาจทำให้ระบบการขับไขมันทำงานช้าลง จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงแรกหลังการสลายไขมันด้วยความเย็น เพื่อไม่ให้ผลลัพธ์ลดลง

10.พยายามรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่
• การรักษาน้ำหนักให้คงที่หลังการสลายไขมันด้วยความเย็น จะช่วยให้ผลลัพธ์ถาวรมากขึ้น ถ้าเรามีการลดน้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนักมากเกินไป อาจจะทำให้ไขมันกลับมาใหม่ได้

การดูแลตัวเองหลังการทำ Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น ไม่ซับซ้อนและยุ่งยากเลย เพียงแค่ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายเบาๆ รักษาน้ำหนักและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ดีและยั่งยืนที่สุด

การเลือกคลินิก Coolsculpting ที่ปลอดภัยและเห็นผลเร็วที่สุด
1.ตรวจสอบมาตรฐานและใบอนุญาต
• เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบการถูกต้อง และมีมาตรฐานด้าน ความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
• ควรตรวจสอบว่าใช้เครื่อง Coolsculpting แท้ ที่ผ่านการรับรองจาก FDA

2.ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์
• เลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาเกี่ยวกับการสลายไขมันด้วยความเย็น
• ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงจะช่วยประเมินรูปร่างและเลือกจุดทำ Coolsculpting ที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

3.รีวิวจากผู้ใช้จริง
• อ่านรีวิวหรือดูผลงานก่อน-หลังการรักษาจากผู้ที่เคยใช้ทำการสลายไขมันด้วยความเย็น เพื่อช่วยยืนยันผลลัพธ์
• คลินิกที่มีรีวิวในเชิงบวกและคำแนะนำปากต่อปากมักเชื่อถือได้

4.บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า
• เลือกคลินิกที่มีบริการแบบครบครัน ตั้งแต่การประเมินสภาพร่างกาย การติดตามผลหลังจากทำ Coolsculpting แล้ว ไปจนถึงคำแนะนำสำหรับการดูแลตัวเอง

5.สถานที่สะอาดและมีมาตรฐาน
• เลือกคลินิกที่มีความสะอาด เครื่องมือทันสมัย และบรรยากาศที่เป็นมืออาชีพ

6.แพ็กเกจที่คุ้มค่า
• คลินิกที่ดีควรมีการแจ้งราคาและรายละเอียดการรักษาอย่างชัดเจน ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
• หากมีโปรโมชั่น ควรตรวจสอบว่าเป็นเครื่อง Coolsculpting ของแท้และบริการไม่ลดคุณภาพ

ทำไมต้องเลือก "รมย์รวินท์คลินิก" สำหรับการสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting
1.มาตรฐานระดับสากล
• รมย์รวินท์คลินิกเลือกใช้เครื่อง Coolsculpting ของแท้ที่ผ่านการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา
• ทุกขั้นตอนดำเนินการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง

2.ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
• คลินิกมีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นในเทคโนโลยี Coolsculpting
• ด้วยความรู้และประสบการณ์ของทีม จะมั่นใจได้เลยว่าการปรับรูปร่างของคุณจะได้ผลลัพธ์ในแบบที่เราต้องการ

3.ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้จริง
• รีวิวจากลูกค้าจริงมากมายยืนยันผลลัพธ์ที่ชัดเจน ไขมันส่วนเกินลดลง รูปร่างกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• การวางแผนเฉพาะบุคคลช่วยให้การรักษาตรงจุดและได้ผลเร็ว

4.บริการที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด
• ตั้งแต่การให้คำปรึกษาก่อนทำ การติดตามผลหลังทำ ไปจนถึงคำแนะนำในการดูแลตัวเอง รมย์รวินท์คลินิกให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าเป็นอันดับหนึ่งเสมอ

5.บรรยากาศหรูหราและทันสมัย
• คลินิกออกแบบด้วยความพิถีพิถัน สะอาด สงบ และให้ความรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเข้ารับบริการ

6.คุ้มค่าทุกการลงทุน
• รมย์รวินท์คลินิกมีแพ็กเกจหลากหลายและราคาโปร่งใส พร้อมโปรโมชั่นที่ช่วยให้คุณได้บริการระดับพรีเมียมในราคาที่เหมาะสม

รมย์รวินท์คลินิก ไม่ใช่แค่สถานที่ แต่คือคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างอย่างปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์จริง เพราะเรามุ่งมั่นที่จะให้คุณมั่นใจในตัวเองในแบบที่ดีที่สุด สนใจต้องการปรับรูปร่างด้วย Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกช่องทางเลยค่ะ

Coolsculpting ราคาอยู่ที่เท่าไหร่
Coolsculpting เป็นวิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นที่ได้ผลจริง โดยไม่ต้องเจ็บตัวจากการดูดไขมัน การกำจัดไขมันเฉพาะจุด เช่น ต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ ทำให้ไขมันลดลงอย่างถาวร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรูปร่างสมส่วนโดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายวัน

การทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น คนที่ได้รับบริการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพอใจกับผลลัพธ์มาก และการสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting มีการรักษามากกว่า 8,000,000 ไซเคิลทั่วโลก ผลลัพธ์ที่ได้คือเป็นการลดไขมันเป็นไปอย่างธรรมชาติและค่อย ๆ ลดลงในระยะเวลา 2-4 เดือน

โปรโมชั่นพิเศษจาก รมย์รวินท์คลินิก
รับข้อเสนอสุดคุ้มจาก DoubleFreeze ELITE by Coolsculpting ที่ รมย์รวินท์คลินิก หรือสอบถามโปรโมชั่นผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย

• DoubleFreeze ELITE by CoolSculpting 1 ครั้ง ราคาเพียง 8,900 บาท (จากราคาปกติ 25,000 บาท)
• DoubleFreeze ELITE by CoolSculpting 10 ครั้ง ราคาเพียง 69,000 บาท (จากราคาปกติ 250,000 บาท)

มาปรึกษาเราและเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงเพื่อรูปร่างที่คุณมั่นใจ ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

สรุปทุกเรื่องของ Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น
การทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็นถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ ไม่อยากออกกำลังกาย ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองแต่อยากให้รูปร่างดูกระชับ สัดส่วนเห็นได้ชัด อีกทั้งยังรวมไปถึงใครก็ตามที่กลัวการผ่าตัด เพราะหลักการทำงานของ Coolsculpting นั้นเป็นการ ในการแช่แข็งเซลล์ไขมัน โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติดได้เลย

ใครสนใจอยากปรึกษาทำ Coolsculpting หรืออยากให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางประเมิณก่อนว่าสามารถทำวิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นได้หรือไม่ หรือควรใช้วิธีไหนในการลดสัดส่วนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในแบบที่เราพอใจที่สุดสามารถปรึกษาเราได้เลยที่ รมย์รวินท์ คลินิก ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

รวมทุกคำถามที่เกี่ยวกับ การสลายไขมันด้วยความเย็น
1.Coolsculpting คืออะไร ?
คำตอบ : Coolsculpting คือการสลายไขมันด้วยความเย็นที่จัดทำลายเซลล์ไขมันในบริเวณที่ต้องการ ลดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เข็ม

2.การทำ Coolsculpting เจ็บหรือไม่ ?
คำตอบ ระหว่างการทำ Coolsculpting คุณจะรู้สึกเย็นและอาจมีความรู้สึกหนาวและชา แต่ไม่เจ็บมาก โดยทั่วไปจะไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการทำ

3.Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น เหมาะกับใครบ้าง ?
คำตอบ Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด เช่น ต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก ที่มีไขมันสะสมไม่สามารถลดได้จากการควบคุมอาหารหรือการออกกำลังกาย

4.การทำ Coolsculpting ใช้เวลานานแค่ไหน ?
คำตอบ โดยปกติการทำ Coolsculpting ใช้เวลา 35-60 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา

5.จะเห็นผลลัพธ์หลังทำ Coolsculpting เมื่อไหร่ ?
คำตอบ ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ภายใน 2-4 เดือนหลังการทำ เมื่อไขมันเริ่มลดลงและเซลล์ไขมันถูกขับออกจากร่างกาย

6.ผลลัพธ์ของ Coolsculpting คงอยู่ได้นานแค่ไหน ?
คำตอบ ผลลัพธ์จาก Coolsculpting จะคงอยู่ถาวร เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ถูกกำจัดจะไม่กลับมาใหม่ หากรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่

7.Coolsculpting ได้ผลจริงหรือไม่ ?
คำตอบ เห็นผลลัพธ์อย่างแน่นอนเพราะ Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น ได้รับการพิสูจน์จากการศึกษาหลายครั้งว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดไขมันเฉพาะจุด

8.การทำ Coolsculpting เจ็บไหม ?
คำตอบ การทำ Coolsculpting ไม่เจ็บมาก แต่แค่อาจรู้สึกเย็นมากในช่วงแรก และมีอาการชาและบวมหลังการรักษาเล็กน้อย

9.หลังทำ Coolsculpting มีผลข้างเคียงหรือไม่
คำตอบ ผลข้างเคียงหลังทำการสลายไขมันด้วยความเย็นที่พบได้บ่อยคือการบวม แดง หรือชาบริเวณที่ทำการรักษา แต่โดยทั่วไปจะหายไปภายในไม่กี่วัน

10.การทำ Coolsculpting ควรทำจุดไหนดีที่สุด
คำตอบ Coolsculpting เหมาะสำหรับการลดไขมันในบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก รักแร้ หรือใต้คางล

11.สามารถทำ Coolsculpting พร้อมกันหลายจุดได้หรือไม่ ?
คำตอบ สามารถทำ Coolsculpting หลายจุดในครั้งเดียวได้ แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของเครื่องมือและการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ

12.Coolsculpting เหมาะสำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวเกินหรือไม่ ?
คำตอบ CoolSculpting เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันสะสมในบางจุดและมีน้ำหนักตัวค่อนข้างคงที่ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน

13.การทำ Coolsculpting มีผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ ?
คำตอบ การทำ Coolsculpting ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย เพราะมันเป็นกระบวนการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดหรือใช้สารเคมี

14.ต้องทำ Coolsculpting กี่ครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ?
คำตอบ จำนวนครั้งที่ต้องทำขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ต้องการลด บางคนอาจเห็นผลแค่ครั้งเดียว แต่บางคนอาจต้องทำหลายครั้งถึงจะได้ผลลัพธ์ที่พอใจ

15.Coolsculpting สามารถทำร่วมกับการออกกำลังกายได้หรือไม่ ?
คำตอบ สามารถทำร่วมกันได้ การออกกำลังกายสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดไขมันหลังการทำ Coolsculpting ได้ และยังช่วยให้คุณมีร่างกายที่กระชับมากขึ้น