7 สูตรลดน้ำหนักสำหรับคนขี้เกียจออกกำลังกาย

บทความเกี่ยวกับ : สูตรลดน้ำหนัก , ลดน้ำหนัก

7 สูตรลดน้ำหนักฉบับคนขี้เกียจออกกำลังกาย
ใครอยากมีหุ่นปังทันใจแต่ขี้เกียจลดน้ำหนักเรามี 7 สูตรลดน้ำหนักให้หุ่นปังทันใจ แบบไม่ต้องกลัวเสียสุขภาพ เป็นสูตรลดน้ำหนักแบบปลอดภัยไม่ทำให้ระบบเผาผลาญพังแน่นอน

หัวข้อ 7 สูตรลดน้ำหนัก ฉบับคนขี้เกียจออกกำลังกาย แต่อยากลดน้ำหนัก
• สูตรลดน้ำหนักด้วย IF
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body
• สูตรลดน้ำหนักด้วยโปรแกรม Slim & Slender
• สรุปทุกสูตรลดน้ำหนัก
• Q & A ยอดฮิตเกี่ยวกับสูตรลดน้ำหนัก

ก่อนที่เราจะไปเริ่มสูตรลดน้ำหนักแต่ละวิธี ก่อนอื่นเราต้องมาวัดน้ำหนักของเราก่อนว่าน้ำหนักของเราเกินเกณฑ์ หรือมีไขมันสะสมตรงส่วนไหนบ้าง เพื่อที่จะได้ใช้สูตรลดน้ำหนัก ที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุด

บทความแนะนำเกี่ยวกับ 5 วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ลดเร็ว หุ่นดีปลอดภัยไม่อันตราย

เครื่องมือที่ได้มาตรฐานและเหมาะสมที่สุด คือ เครื่อง Inbody ที่สามารถวัดได้ว่าเรามีไขมันสะสมในส่วนไหนของร่างกายบ้าง และไม่ได้บอกแค่ตัวเลขน้ำหนักเพียงอย่างเดียวแต่คำนวณไปถึงค่า BMI , ปริมาณกล้ามเนื้อ , เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย เมื่อเราตรวจวิเคราะห์ร่างกายอย่างละเอียดด้วยเครื่อง Inbody แล้ว เราจะสามารถเลือกสูตรลดน้ำหนักได้อย่างเหมาะสมกับร่างกายของเรา และได้ผลลัพธ์ตามแบบที่เราคาดหวังได้อย่างแน่นอน

บทความน่ารู้เกี่ยวกับการกินผลไม้ลดน้ำหนัก 10 ผลไม้ลดน้ำหนักมีอะไรบ้าง ตัวช่วยลดความอ้วน

สูตรลดน้ำหนักด้วย IF
มาเริ่มกันที่สูตรลดน้ำหนักสูตรแรก สูตรลดน้ำหนักด้วย IF

สูตรลดน้ำหนักด้วย IF คืออะไร
สูตรลดน้ำหนักด้วย IF (Intermittent Fasting) วิธีนี้เป็นวิธีการควบคุมอาหารที่เน้นการแบ่งช่วงเวลาในการกิน (Feeding Window) และการงดอาหาร (Fasting Window) เพื่อช่วยลดน้ำหนัก ปรับสมดุลของร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันให้มีเวลาในการย่อยมากขึ้น

บทความน่ารู้เกี่ยวกับลดน้ำหนัก ปากกาลดน้ำหนัก ปากกาลดความอ้วน คืออะไร ปลอดภัยไหม

หลักการสูตรลดน้ำหนักของ IF
สูตรลดน้ำหนักด้วย IF นั้นไม่ได้จำกัดประเภทอาหารที่กิน แต่เน้นที่การจัดสรรเวลาในการกินและงดอาหาร โดยจะมีรูปแบบหลักๆ 5 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่

1.16/8 Method
- งดอาหาร 16 ชั่วโมง และกินอาหารในช่วง 8 ชั่วโมง
- เช่น กินอาหารระหว่าง 12.00 - 20.00 น. และงดอาหารหลังจากนั้น

2.5:2 Diet
กินอาหารตามปกติ 5 วัน/สัปดาห์ และจำกัดแคลอรี (ประมาณ 500-600 แคลอรี) ใน 2 วันที่เหลือ

3.Eat-Stop-Eat
งดอาหาร 24 ชั่วโมง 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เช่น กินมื้อเย็นวันนี้และกินมื้อเย็นวันถัดไป

4.Alternate Day Fasting (ADF)
สลับวันกินอาหารปกติกับวันที่กินแคลอรีต่ำหรือไม่กินเลย

5.Warrior Diet
งดอาหาร 20 ชั่วโมง และกินอาหารในช่วง 4 ชั่วโมง เช่น กินมื้อเย็นใหญ่เพียงมื้อเดียว

ประโยชน์ของการเลือกสูตรลดน้ำหนักด้วย IF
• ลดน้ำหนัก
ช่วยลดการบริโภคแคลอรีและเพิ่มการเผาผลาญไขมัน

• สูตรลดน้ำหนักด้วย IF ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด
ช่วยควบคุมระดับอินซูลิน

• สูตรลดน้ำหนักด้วย IF เพิ่มโกรทฮอร์โมน
ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมัน

• ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง
เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ

ข้อควรระวังสำหรับสูตรลดน้ำหนักด้วย IF
• สูตรลดน้ำหนักด้วย IF ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวานที่ต้องการควบคุมน้ำตาลอย่างใกล้ชิด
• สูตรลดน้ำหนักด้วย IF ไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
• สูตรลดน้ำหนักด้วย IF ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติการกินผิดปกติ (Eating Disorder)

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย IF
ก่อนเริ่มใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย IF ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนเพื่อให้เหมาะสมกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของเรา จะได้มีร่างกายที่สมส่วน น้ำหนักลดแบบแฮปปี้

สูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting
สูตรที่สองจะเป็นสูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

สูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting คืออะไร
สูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting เป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินด้วยเทคโนโลยีการแช่แข็งไขมัน (Cryolipolysis) หรือที่เรารู้กันในชื่อภาษาไทยว่า  การสลายไขมันด้วยความเย็น ที่ปลอดภัยและไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างกระชับสัดส่วน ในจุดที่ลดยากและต้องใช้ระยะเวลานานในการเห็นผลลัพธ์ 

หลักการสูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting
• ใช้ความเย็นควบคุมเพื่อแช่แข็งเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง
• เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งจะตายตามธรรมชาติ (Apoptosis)
• ระบบร่างกายจะค่อยๆ กำจัดเซลล์ไขมันที่ตายออกภายใน 1-3 เดือน

สูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting มีขั้นตอนการทำดังนี้
1.ประเมินพื้นที่สะสมไขมัน เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือใต้คาง
2.ใช้อุปกรณ์จับผิวหนังและส่งความเย็นเข้าสู่เซลล์ไขมัน
3.ทำการรักษา 30-60 นาที หลังทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น

ประโยชน์ของการเลือกสูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting
• ลดไขมันส่วนเกิน
กำจัดไขมันส่วนเกินได้ 20-25 % ต่อพื้นที่ในบริเวณที่ทำ

• ปลอดภัย
สูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting ปลอดภัยไม่ทำลายผิวหนังหรือเนื้อเยื่อรอบข้าง

• ไม่ต้องพักฟื้น
ทำเสร็จแล้วสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้เลยทันที

• เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
รูปร่างกระชับขึ้นภายใน 1-3 เดือน

ข้อควรระวังสำหรับสูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting
• ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายหรือมีโรคเกี่ยวกับความเย็น (Cold Sensitivity)
• ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักทั้งตัว แต่เน้นปรับสัดส่วน
• อาจมีรอยแดงหรือชาชั่วคราวหลังการรักษาแต่รอยแดงหรือรอยชานั้นจะหายไปเอง

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting
• ควบคุมอาหารควบคู่เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt
สูตรที่สาม สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt ตัวช่วยลดไขมันสร้างกล้ามเนื้อ

สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt คืออะไร
สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (HIFEM) เพื่อกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมันในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันและเพิ่มความกระชับของกล้ามเนื้อโดยไม่ต้องผ่าตัด

หลักการของสูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt
• ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัวอย่างเข้มข้น (Supramaximal Contractions)
• กล้ามเนื้อถูกกระตุ้นมากกว่า 20,000 ครั้งใน 30 นาที
• Emsculpt เป็นเครื่องที่เผาผลาญไขมันและสร้างกล้ามเนื้อพร้อมกัน

สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt มีขั้นตอนการทำดังนี้
1.วางอุปกรณ์บนบริเวณที่ต้องการทำ อาทิเช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือสะโพก
2.ใช้เวลาเพียง 30 นาทีต่อครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
3.ทำซ้ำ 4-6 ครั้ง (สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง) เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


ประโยชน์ของการใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt
• ลดไขมันเฉพาะจุด
สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt จะช่วยลดไขมันสะสมได้ประมาณ 19%

• เพิ่มกล้ามเนื้อ
นอกจากช่วยลดน้ำหนักแล้วยังสร้างกล้ามเนื้อได้มากขึ้นถึง 16%

• เห็นผลไว
สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 2-4 สัปดาห์

• ไม่มีแผลไม่รู้สึกเจ็บ
ปลอดภัยและไม่ต้องพักฟื้น

ข้อควรระวังสำหรับสูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt
• ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์โลหะในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ
• ควรหลีกเลี่ยงหากมีโรคประจำตัวบางประเภท เช่น โรคหัวใจ
• อาจรู้สึกตึงหรือเมื่อยกล้ามเนื้อเล็กน้อยหลังการรักษา

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินจุดที่เหมาะสมสำหรับการทำ
• ควรทำควบคู่กับการคุมอาหาร เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body
สูตรที่สี่ สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body ลดไขมันพร้อมทั้งยกกระชับผิว

สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body คืออะไร
สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้คลื่นความถี่ RF (Radio Frequency) แบบพลังงานต่ำ ช่วยลดไขมันใต้ผิวและกระชับผิวในบริเวณที่ต้องการอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัด

หลักการของสูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body
• Oligio Body จะใช้คลื่น RF เพื่อส่งความร้อนเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิว
• ความร้อนของ Oligio Body ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันและการสร้าง  คอลลาเจน
• ช่วยยกกระชับผิวและลดไขมันในจุดที่ลดยากมากๆ

สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body มีขั้นตอนการทำดังนี้
1.ประเมินพื้นที่ไขมันสะสม เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน หรือขา
2.ใช้หัวเครื่องมือปล่อยคลื่น RF บริเวณที่ต้องการทำ
3.ใช้เวลา 30-60 นาที ต่อครั้ง แบบไม่ต้องพักฟื้น

ประโยชน์ของการใช้สูตรลดน้ำหนัก Oligio Body
• ลดไขมันเฉพาะจุด
สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body ช่วยเผาผลาญไขมันในบริเวณที่ควบคุมยาก อาทิเช่น หน้าท้อง แขน ขา เป็นต้น

• กระชับผิว
ลดความหย่อนคล้อย พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

• ปลอดภัยและไม่เจ็บ
ให้ความรู้สึกอุ่นสบายระหว่างทำ Oligio Body

• เห็นผลเร็ว
สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body จะช่วยให้ผิวกระชับขึ้นและไขมันลดลงใน 4-6 สัปดาห์

ข้อควรระวังสำหรับสูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body
• ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์โลหะในร่างกายหรือโรคเกี่ยวกับคลื่นไฟฟ้า
• ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงสูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body
• อาจเกิดรอยแดงเล็กน้อยหลังทำ Oligio Body  แต่หายได้ในไม่กี่ชั่วโมง

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio body ควรทำ 4-8 ครั้ง ห่างกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
• หลังทำ Oligio Body ต้องควบคู่กับการดูแลสุขภาพและควบคุมการกินอาหารด้วย

สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba
สูตรที่ห้า สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba นวัตกรรมดูแลรูปร่างฟื้นฟูกล้ามเนื้อกำจัดไขมันระดับเซลล์

สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba คืออะไร
สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba เป็นเทคโนโลยีการดูแลรูปร่างด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) ที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ปรับผิวให้กระชับ และฟื้นฟูเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดและเพิ่มความเรียบเนียนให้กับผิว ลดเซลลูไลท์

หลักการของสูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba ใช้คลื่น RF แบบความถี่เฉพาะ (448 kHz) ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและออกซิเจนในชั้นผิว
• กระตุ้นระบบเผาผลาญของเซลล์ไขมันและฟื้นฟูเซลล์ผิว
• ลดการสะสมไขมันและช่วยให้ผิวกระชับเรียบเนียน

สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba ขั้นตอนการทำดังนี้
1.วางหัวอุปกรณ์ Indiba บริเวณที่ต้องการจะทำ อาทิเช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก หรือต้นแขน
2.ตัวเครื่อง Indiba จะปล่อยคลื่น RF พร้อมนวดกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต
3.ใช้เวลา 30-60 นาทีต่อครั้ง โดยไม่ต้องพักฟื้น

ประโยชน์ของของการใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba
• ลดไขมันเฉพาะจุด
สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba ช่วยกำจัดไขมันที่สะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• กระชับผิว
ลดความหย่อนคล้อยและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว

• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและสดใส

• ฟื้นฟูเซลล์
เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ช่วยลดอาการบวมหรือลดเซลลูไลต์

ข้อควรระวังสำหรับสูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์โลหะในร่างกาย หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนโลหิต
• หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงสูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba
• ขณะทำอาจรู้สึกอุ่นที่ผิวขณะทำ แต่ไม่เจ็บ

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba ควรทำ 6-10 ครั้ง ห่างกัน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba ควรทำควบคู่กับการควบคุมอาหาร
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและบริเวณที่เลือกทำ

สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body
สูตรที่หก สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body สลายไขมันกระชับสัดส่วนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body คืออะไร
สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency: RF) แบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ช่วยกระชับผิว ลดไขมันสะสม และปรับสัดส่วนให้ดูสมส่วนได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

หลักการของสูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body
• ใช้คลื่น RF ส่งความร้อนเข้าสู่ชั้นผิวลึก
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและการเผาผลาญไขมัน
• ช่วยยกกระชับผิวในบริเวณที่หย่อนคล้อย พร้อมลดไขมันใต้ผิว

สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body มีขั้นตอนดังนี้
1.ประเมินพื้นที่ที่ต้องการปรับรูปร่างด้วยสูตรลดน้ำหนัก Thermage Body  เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือสะโพก
2.Thermage Body ใช้หัวอุปกรณ์ส่งคลื่น RF เข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิว
3.ทำเพียงครั้งเดียว ใช้เวลา 60-90 นาที ขึ้นอยู่กับพื้นที่

ประโยชน์ของการใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body
• กระชับผิว
สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body ช่วยลดความหย่อนคล้อยและเพิ่มความเรียบเนียน

• ลดไขมันใต้ผิว
เผาผลาญไขมันสะสมเฉพาะจุด

• ไม่เจ็บปวดและปลอดภัย
ไม่มีแผลและไม่ต้องพักฟื้น

• เห็นผลลัพธ์ยาวนาน
สูตรลดน้ำหนักด้วย  Thermage Body ช่วยให้ผิวดูเฟิร์มขึ้นใน 2-6 เดือน และผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี

ข้อควรระวังสำหรับสูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body
• ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์โลหะฝังในร่างกาย
• อาจรู้สึกอุ่นหรือแดงเล็กน้อยบริเวณผิวหลังการรักษา
• ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body ไปก่อน

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body
• ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินพื้นที่และวางแผนการรักษา
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body สามารถทำซ้ำได้ปีละ 1 ครั้งหากต้องการรักษาผลลัพธ์ให้คงที่

สูตรลดน้ำหนักด้วยโปรแกรม Slim & Slende
สูตรลดน้ำหนักสูตรสุดท้าย สูตรที่ 7 โปรแกรม Slim & Slender

สูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender คืออะไร
สูตรลดน้ำหนักด้วย  Slim & Slender คือโปรแกรมควบคุมน้ำหนัก ซึ่งจะมีตัวยาสำคัญที่เป็นส่วนประกอบเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมนธรรมชาติ ที่ปล่อยออกมาเวลาเผาผลาญ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ให้เรารู้สึกอิ่มเร็วและอยากอาหารน้อยลง

หลักการของสูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender
• เลียนแบบฮอร์โมนอิ่ม GLP-1
Slim & Slender มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมน GLP-1 ในร่างกายสูงถึง 97%

• ชะลอการย่อยอาหาร
- ลดการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้
- ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น อิ่มนานขึ้น
- ช่วยลดปริมาณการทานอาหาร

• ลดความหิว
- ออกฤทธิ์ต่อสมอง เพื่อลดความรู้สึกหิว
- ลดความอยากอาหาร
- ช่วยควบคุมการกินได้ดีขึ้น

• ปรับสมดุลระดับน้ำตาล
- กระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน
- รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล
- ลดความเสี่ยงอาการวูบหรือน้ำตาลตก

• ออกฤทธิ์เฉพาะหลังทานอาหาร
- ทำงานเมื่อมีอาหารในกระเพาะอาหารเท่านั้น

สูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender มีขั้นตอนดังนี้
• เลือกตำแหน่งที่เหมาะสมในการเติมสารของโปรแกรม Slim & Slender
- ฉีดยาเข้าชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- บริเวณที่เหมาะสม หน้าท้อง, ต้นขา, ต้นแขน
- หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีกล้ามเนื้อมากหรือเส้นเลือดดำ

• ความถี่ในการเติมสาร
- เป็นประจำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง
- เวลาแนะนำ หลังตื่นนอนหรือก่อนนอน
- สามารถฉีดได้ทั้งก่อนหรือหลังรับประทานอาหาร

• ปริมาณยาที่เหมาะสม
- ใช้ปริมาณยาตามที่แพทย์กำหนด
- แพทย์จะพิจารณาปริมาณยาจากเป้าหมายการลดน้ำหนักและค่า BMI

• ความต่อเนื่องในการฉีดยา
- ฉีดยาอย่างสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
- ไม่มีระยะเวลาที่ตายตัวในการหยุดยา
- หากผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจ (BMI อยู่ในเกณฑ์ปกติ) สามารถแจ้งแพทย์เพื่อหยุดยาได้

ประโยชน์ของการใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender ช่วยคุมความอยากอาหาร
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender ปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร
• ลดน้ำหนักและลดการสะสมไขมัน
• สูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender ช่วยปรับพฤติกรรมการกิน
• ทำให้อิ่มเร็วและอิ่มนาน
• ลดความเสี่ยงจากโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน

ข้อควรระวังสำหรับสูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender
• การใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender อาจทำให้อาหารไม่ย่อย เกิดอาการปวดท้อง
• ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากเกินไปควรใช้ตามที่แพทย์แนะนำ
• ไม่เหมาะสำหรับคนตั้งครรภ์ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงก่อน

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องใช้สูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender
• ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจเลือกสูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender

สรุปทุกสูตรลดน้ำหนัก
สูตรลดน้ำหนักแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การที่เราจะรู้ว่าเราเหมาะกับสูตรลดน้ำหนักวิธีไหน ทางที่ดีที่สุดคือต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางและคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อเลือกสูตรลดน้ำหนักให้เข้ากับร่างกายของเราและปลอดภัยมากที่สุด

เบื้องต้นขอสรุปสูตรลดน้ำหนัก ทั้งหมดให้เข้าใจง่ายๆเป็นตารางดังนี้

ตารางเปรียบเทียบสูตรลดน้ำหนักแต่ละสูตร

สูตรลดน้ำหนัก

หลักการ

จุดเด่น

เหมาะสำหรับ

IF (Intermittent Fasting)

จำกัดช่วงเวลาการกินและงดอาหาร (Fasting)

ลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ ปรับสมดุลร่างกาย

ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักโดยไม่พึ่งเครื่องมือ

Coolsculpting

แช่แข็งเซลล์ไขมันจนตาย (Cryolipolysis)

ไม่เจ็บ กำจัดไขมันเฉพาะจุด 20-25%

ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด

Emsculpt

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมัน

เพิ่มกล้ามเนื้อ + ลดไขมันในเวลาเดียวกัน

ผู้ที่ต้องการรูปร่างกระชับและมีกล้ามเนื้อชัดเจน

Oligio Body

คลื่น RF ช่วยเผาผลาญไขมันและกระชับผิว

ลดไขมันพร้อมยกกระชับผิวหย่อนคล้อย

ผู้ที่มีไขมันสะสมและผิวหย่อนคล้อย

Indiba

คลื่น RF กระตุ้นการไหลเวียนและเผาผลาญไขมัน

ลดเซลลูไลต์ ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน

ผู้ที่ต้องการลดเซลลูไลต์และปรับสภาพผิว

Thermage Body

คลื่น RF ยกกระชับผิวและลดไขมันใต้ผิว

กระชับผิวยาวนาน 1-2 ปี

ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยและไขมันสะสม

Slim & Slender

โปรแกรมดูแลรูปร่างเฉพาะบุคคล (Custom Program)

ผสมผสานหลายวิธีเพื่อผลลัพธ์ตรงเป้าหมาย

ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบครบวงจรและตรงจุด

Q & A ยอดฮิตเกี่ยวกับสูตรลดน้ำหนัก
สูตรลดน้ำหนักด้วย IF
Q : ทำ IF ต้องงดอาหารประเภทไหนบ้าง?
A : IF ไม่เน้นจำกัดประเภทอาหาร แต่ควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ในช่วง Feeding Window

Q : ถ้ารู้สึกหิวช่วง Fasting ทำอย่างไร?
A : ดื่มน้ำเปล่า ชา หรือกาแฟดำไม่มีน้ำตาลเพื่อลดความหิว

สูตรลดน้ำหนักด้วย Coolsculpting
Q : CoolSculpting เจ็บไหม ?
A : ระหว่างทำอาจรู้สึกเย็นจัดหรือชาชั่วคราว แต่ไม่มีความเจ็บปวดรุนแรง

Q : ทำ CoolSculpting แล้วไขมันจะกลับมาไหม ?
A : ไขมันที่ถูกกำจัดจะไม่กลับมา แต่ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายเพื่อป้องกันการสะสมไขมันใหม่

สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt
Q : ทำ Emsculpt จะปวดกล้ามเนื้อไหม ?
A : อาจรู้สึกตึงหรือเมื่อยเล็กน้อยเหมือนออกกำลังกายหนัก แต่ไม่เจ็บ

Q : สูตรลดน้ำหนักด้วย Emsculpt ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
A : ปกติ 4-6 ครั้ง ห่างกันสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะเริ่มเห็นผลใน 2-4 สัปดาห์

สูตรลดน้ำหนักด้วย Oligio Body
Q : Oligio Body ช่วยลดเซลลูไลต์ได้ไหม ?
A : ได้แน่นอน เพราะคลื่น RF ช่วยกระชับผิวและลดไขมันใต้ผิว

Q : ใช้เวลาทำนานแค่ไหน ?
A : 30-60 นาทีต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่เข้ารับบริการ

สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba
Q : สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba ต่างจาก RF ทั่วไปอย่างไร?
A : Indiba ใช้ความถี่เฉพาะ 448 kHz ซึ่งช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและลดไขมันได้ลึกกว่า

Q : สูตรลดน้ำหนักด้วย Indiba มีผลข้างเคียงอะไรไหม?
A : อาจมีรอยแดงเล็กน้อย แต่จะหายไปในไม่กี่ชั่วโมง

สูตรลดน้ำหนักด้วย Thermage Body
Q : Thermage Body เห็นผลทันทีหรือไม่ ?
A : ผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนใน 2-6 เดือนหลังทำ เนื่องจากการลดน้ำหนักด้วยสูตร Thermage Body จะเป็นการกระตุ้นคอลลาเจน

Q : ทำ Thermage Body แล้วต้องทำซ้ำเมื่อไหร่ ?
A : ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี และสามารถทำซ้ำปีละ 1 ครั้ง

สูตรลดน้ำหนักด้วยโปรแกรม Slim & Slender
Q : สูตรลดน้ำหนักด้วย Slim & Slender เหมาะกับใคร ?
A : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแบบครบวงจรและปรับโปรแกรมเฉพาะบุคคล

Q : โปรแกรมนี้มีข้อจำกัดอะไรไหม ?
A : ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มโปรแกรม