บทความเกี่ยวกับ : อาหารเสริมลดความอ้วน , อาหารเสริม , ลดความอ้วน
อาหารเสริมลดความอ้วน ดีจริงไหม กินยังไงให้ปลอดภัย
ใครก็อยากมีหุ่นที่ดี รูปร่างที่สมส่วนเลยเลือกตัวเลือกทางลัดเป็นอาหารเสริมลดความอ้วน เราจะมาแนะนำการเลือกอาหารเสริมลดความอ้วนที่ปลอดภัย ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพกัน
รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับอาหารเสริมลดความอ้วน
• อาหารเสริมลดความอ้วนคืออะไร
• วิธีการเลือกอาหารเสริมลดความอ้วนอย่างปลอดภัย
• สารต้องห้ามในอาหารเสริมลดความอ้วนที่ควรหลีกเลี่ยง
• ตรวจสอบมาตรฐาน อย. ก่อนเลือกซื้ออาหารเสริมลดความอ้วน
• สิ่งที่ต้องระวังเมื่อซื้ออาหารเสริมลดความอ้วนทางออนไลน์
• ข้อแตกต่างของอาหารเสริมลดความอ้วนแบบธรรมชาติและแบบเคมี
• อาหารเสริมลดความอ้วนกับยาลดน้ำหนักต่างกันยังไง
• วิธีทดสอบอาการแพ้ก่อนรับประทานอาหารเสริมลดความอ้วน
• ข้อควรระวังในการกินอาหารเสริมลดความอ้วนในระยะยาว
• ออกกำลังกายแล้วจำเป็นต้องกินอาหารเสริมลดความอ้วนอีกไหม
• อาหารเสริมลดความอ้วนส่งผลยังไงต่อการกิน
• หลังหยุดกินอาหารเสริมลดความอ้วนต้องดูแลตัวเองยังไง
• สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับอาหารเสริมลดความอ้วน
อาหารเสริมลดความอ้วนคืออะไร
• เข้าใจความหมายของอาหารเสริมลดความอ้วนเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
- อาหารเสริมลดความอ้วนคือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยสนับสนุนการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก
- อาหารเสริมลดความอ้วนถูกออกแบบมา เพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันหรือยับยั้งความอยากอาหาร
- อาหารเสริมลดความอ้วน มีส่วนผสมหลากหลาย เช่น สมุนไพร สารสกัดจากธรรมชาติ วิตามิน หรือแร่ธาตุ
- อาหารเสริมลดความอ้วน บางผลิตภัณฑ์ช่วยเพิ่มพลังงานเพื่อการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพ
- อาหารเสริมลดความอ้วน มักมาในรูปแบบแคปซูล ผง ชา หรือเครื่องดื่มสำเร็จรูป
บทความแนะนำเกี่ยวกับการลดความอ้วน ลดความอ้วนเร่งด่วน คืออะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร มีวิธีอะไรบ้าง
• จุดประสงค์หลักๆของการใช้อาหารเสริมลดความอ้วน
- อาหารเสริมลดความอ้วนช่วยลดไขมันสะสมในร่างกาย
- อาหารเสริมลดความอ้วนช่วยควบคุมหรือปรับระดับความอยากอาหารให้น้อยลง
- อาหารเสริมลดความอ้วนช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น
- อาหารเสริมลดความอ้วนช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
บทความแนะนำเกี่ยวกับการลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน
วิธีการเลือกอาหารเสริมลดความอ้วนอย่างปลอดภัย
เรามี 10 วิธีเลือกอาหารเสริมลดความอ้วนอย่างปลอดภัยมาแนะนำ เพื่อเวลาที่เราเลือกอาหารเสริมลดความอ้วนจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว
บทความน่ารู้เกี่ยวกับการลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน
1.ตรวจสอบใบอนุญาตและการรับรอง
- เลือกซื้ออาหารเสริมลดความอ้วนที่ผ่านการรับรองจาก อย. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบเลขทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนบนฉลาก
2.อ่านส่วนผสมบนฉลาก
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติหรือสารสกัดที่ปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่มีสารกระตุ้นหรือสารต้องห้ามที่ใส่ในอาหารเสริมลดความอ้วน เช่น Sibutramine
3.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
- ขอคำแนะนำจากแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ในการแนะนำอาหารเสริมลดความอ้วน ให้เหมาะกับสุขภาพร่างกายของเรา
4.ศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้
- อ่านรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้จริง
- หาข้อมูลของอาหารเสริมลดความอ้วนที่เราตั้งใจจะตัดสินใจซื้อ จากแหล่งที่เป็นกลาง เช่น งานวิจัยหรือบทความทางการแพทย์
5.เลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนที่มีข้อมูลชัดเจน
- ฉลากควรระบุวิธีการใช้ ปริมาณที่เหมาะสม และคำเตือน
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาเกินจริง เช่น "ลดน้ำหนักทันทีใน 7 วัน"
6.พิจารณาความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์
- เลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน ที่สามารถใช้ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร
- ตรวจสอบว่าอาหารเสริมลดความอ้วนนั้น สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่มีผลข้างเคียง
7.เลือกซื้ออาหารเสริมลดความอ้วนจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
- ซื้ออาหารเสริมลดความอ้วน จากร้านค้าที่มีชื่อเสียง เช่น ร้านขายยา ห้างสรรพสินค้า หรือเว็บไซต์ที่ได้รับการรับรอง
- หลีกเลี่ยงอาหารเสริมลดความอ้วนราคาถูกเกินจริงหรือไม่มีข้อมูลบริษัทผู้ผลิต
8.ระวังอาหารเสริมลดความอ้วนปลอม
- ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ของอาหารเสริมลดความอ้วนที่ต้องมีความสมบูรณ์ ไม่มีรอยเปิดหรือความเสียหาย
- ตรวจเช็กหมายเลขล็อตการผลิตและวันหมดอายุ
9.ทดลองทานอาหารเสริมลดความอ้วนในปริมาณน้อยก่อน
- ทดสอบอาการแพ้หรือผลข้างเคียงโดยเริ่มจากปริมาณน้อย
- หยุดใช้ทันทีหากมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ ใจสั่น หรือผื่นแพ้
10.หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เกินความจำเป็น
- ใช้อาหารเสริมลดความอ้วนเป็นเพียงส่วนเสริม ไม่ใช่การแทนที่การดูแลสุขภาพด้วยวิธีอื่น
- หลีกเลี่ยงการใช้เกินปริมาณที่ระบุในฉลาก
สารต้องห้ามในอาหารเสริมลดความอ้วนที่ควรหลีกเลี่ยง
สารอาหารต้องห้ามในอาหารเสริมลดความอ้วน ที่ควรหลีกเลี่ยงนั้น มีความเสี่ยงสูงมาก ต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ ควรอ่านฉลากส่วนผสมอย่างละเอียด ก่อนรับประทาน สังเกตดูว่าอาหารเสริมลดความอ้วนผสมสารเหล่านี้หรือไม่ ถ้าเกิดมีสารเหล่านี้เป็นส่วนผสมควรเลิกรับประทาน
1.ไซบูทรามีน (Sibutramine)
ผลทางยา
ไซบูทรามีนเคยใช้ในอดีตเพื่อช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้ผู้บริโภคลดปริมาณการกินลงและส่งผลให้น้ำหนักลด
เหตุผลที่ห้ามใช้
งานวิจัยทางคลินิกพบว่าการใช้ไซบูทรามีนสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
2.เฟนเทอร์มีน (Phentermine)
ผลทางยา
เฟนเทอร์มีนกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกอิ่มง่ายขึ้นและเพิ่มอัตราการเผาผลาญ
เหตุผลที่ห้ามใช้
การใช้เฟนเทอร์มีนอาจทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง นอนไม่หลับ วิตกกังวล และเสี่ยงต่อปัญหาหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาว
3.เฟนฟลูรามีน (Fenfluramine)
ผลทางยา
เคยใช้ลดความอยากอาหาร แต่ภายหลังพบว่ามีผลข้างเคียงร้ายแรง
เหตุผลที่ห้ามใช้
การใช้เฟนฟลูรามีนสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดโรคลิ้นหัวใจรั่วและความผิดปกติของระบบหลอดเลือดหัวใจ
4.สารกระตุ้นอื่น ๆ เช่น อีเฟดรีน (Ephedrine)
ผลทางยา
กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพิ่มการเผาผลาญ และลดความอยากอาหาร
เหตุผลที่ห้ามใช้
อีเฟดรีนทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น อาจทำให้ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเพิ่มโอกาสเกิดอัมพาตหรือภาวะหัวใจวาย
5.สารเผาผลาญพลังงานผิดปกติ เช่น DNP (Dinitrophenol)
ผลทางยา
DNP เร่งอัตราการเผาผลาญพลังงานจนเกิดความร้อนมากผิดปกติในร่างกาย ทำให้น้ำหนักลดลงเร็ว
เหตุผลที่ห้ามใช้
การใช้ DNP อันตรายอย่างมากเพราะทำให้เกิดความร้อนเกินขีดจำกัดของร่างกาย นำไปสู่ภาวะอวัยวะภายในล้มเหลวและอาจเสียชีวิต
การที่เรารับประทานอาหารเสริมลดความอ้วนโดยมีสารเหล่านี้ปนเปื้อน อาจส่งผลอันตรายในระยะยาวได้ เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว หรือปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรับประทานอาหารเสริมลดความอ้วน เพื่อให้สุขภาพดีได้แบบไม่ต้องเสี่ยง
ตรวจสอบมาตรฐาน อย. ก่อนเลือกซื้ออาหารเสริมลดความอ้วน
เราขอแนะนำวิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมลดความอ้วน เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเลือกซื้ออาหารเสริมลดความอ้วน
ตรวจสอบเลขที่จดแจ้ง อย.
• มองหาเลข 13 หลักที่ระบุว่าได้รับการรับรองจาก อย. บนฉลากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน
• นำเลขที่จดแจ้งไปตรวจสอบในฐานข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของ อย.
ดูชื่อผู้ผลิตและผู้นำเข้า
• ตรวจสอบว่าผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ามีชื่อเสียง และได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ระบุแหล่งผลิตไม่ชัดเจน
สังเกตฉลากผลิตภัณฑ์
• ฉลากต้องระบุข้อมูลชัดเจน เช่น ส่วนผสม วิธีการใช้ วันหมดอายุ และคำเตือน
• ข้อความบนฉลากอาหารเสริมลดความอ้วนต้องไม่โฆษณาเกินจริง เช่น "ลดน้ำหนักทันทีใน 3 วัน" หรือ "ปลอดภัย 100%"
ตรวจสอบส่วนผสม
• อ่านส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนว่ามีสารที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือสารที่ อย. ห้ามใช้ เช่น ไซบูทรามีน
• หากไม่แน่ใจในส่วนผสม สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งที่เชื่อถือได้
สังเกตบรรจุภัณฑ์
• บรรจุภัณฑ์ของอาหารเสริมลดความอ้วน ควรมีความเรียบร้อยและปิดสนิท ไม่มีร่องรอยการแกะหรือฉีกขาด
• หลีกเลี่ยงสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ดูเหมือนสินค้าลอกเลียนแบบ
ตรวจสอบช่องทางจัดจำหน่าย
• เลือกซื้อจากร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ร้านขายยาที่ได้รับอนุญาต หรือเว็บไซต์ที่มีการรับรองมาตรฐาน
• หลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าอาหารเสริมลดความอ้วนผ่านช่องทางที่ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ เช่น เพจขายของออนไลน์ที่ไม่มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนที่อวดอ้างเกินจริง
• หากผลิตภัณฑ์มีคำโฆษณาเกินจริง เช่น "ผอมลงได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย" ควรตั้งข้อสงสัย
• คำโฆษณาที่เกินจริงอาจเป็นสัญญาณของการหลอกลวง
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
• ก่อนตัดสินใจซื้ออาหารเสริมลดความอ้วน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อประเมินความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์กับสภาพร่างกายของตนเอง
• หลีกเลี่ยงการเชื่อคำแนะนำจากบุคคลที่ไม่มีความรู้ทางการแพทย์โดยตรง
สิ่งที่ต้องระวังเมื่อซื้ออาหารเสริมลดความอ้วนทางออนไลน์
แน่นอนว่าการซื้ออาหารเสริมลดความอ้วนทางออนไลน์ สะดวกกว่าการไปซื้อที่ร้านโดยตรงแต่ การซื้ออาหารเสริมลดความอ้วนออนไลน์ ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวังอยู่เหมือนกัน เรายกตัวอย่างสิ่งต้องระวังก่อน ตัดสินใจซื้ออาหารเสริมลดความอ้วนออนไลน์มา 10 ข้อด้วยกัน เพื่อเป็นเช็คลิสต์ให้เราก่อนตัดสินใจซื้อ
1.ระวังสินค้าปลอม
• อาหารเสริมลดความอ้วนปลอมมักมีราคาถูกกว่าปกติ หรือมีโปรโมชั่นลดราคาที่ดูเกินจริง
• ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์มีการรับรองมาตรฐานจาก อย. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2.ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้า
• เลือกซื้อจากเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ที่มีรีวิวดี มีข้อมูลติดต่อชัดเจน และมีการรับรองความน่าเชื่อถือ เช่น เครื่องหมายรับรอง e-commerce
• หลีกเลี่ยงการซื้อจากร้านค้าหรือเพจที่ไม่มีประวัติชัดเจน
3.สังเกตฉลากสินค้าในภาพโฆษณา
• ตรวจสอบว่าในภาพอาหารเสริมลดความอ้วนมีข้อมูล เช่น เลขที่ อย. ส่วนผสม และชื่อผู้ผลิตครบถ้วนหรือไม่
• หากไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ควรตั้งข้อสงสัยทันที
4.ระวังคำโฆษณาเกินจริง
• อาหารเสริมลดความอ้วนที่มีคำโฆษณาเช่น "ลดน้ำหนักได้ใน 3 วัน" หรือ "ไม่ต้องออกกำลังกายก็ผอมได้" มักไม่น่าเชื่อถือ
• คำโฆษณาเชิงการันตีผลลัพธ์มักใช้เพื่อดึงดูดลูกค้า แต่ไม่ได้รับการรับรองทางวิทยาศาสตร์
5.เปรียบเทียบราคากับแหล่งที่เชื่อถือได้
• หากราคาสินค้าต่ำผิดปกติ อาจเป็นสินค้าปลอมหรืออาหารเสริมลดความอ้วน ที่ไม่ได้มาตรฐาน
• ควรตรวจสอบราคาจากเว็บไซต์ของผู้ผลิตหรือร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาต
6.อ่านรีวิวอย่างละเอียด
• ระวังรีวิวปลอมที่มักจะเป็นข้อความสั้น ๆ ซ้ำ ๆ และไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งานจริง
• มองหารีวิวจากผู้ใช้จริงที่มีความหลากหลายและมีคำแนะนำที่สมเหตุสมผล
7.หลีกเลี่ยงการโอนเงินก่อน
• ควรเลือกวิธีการชำระเงินแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) เพื่อป้องกันการถูกโกง
• หากต้องโอนเงิน ให้ตรวจสอบประวัติบัญชีธนาคารของร้านค้าว่าเคยมีประวัติการโกงหรือไม่
8.ตรวจสอบวันที่ผลิตและวันหมดอายุ
• หากไม่สามารถตรวจสอบวันหมดอายุจากภาพสินค้าได้ ควรสอบถามร้านค้าโดยตรง
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน ที่ไม่มีข้อมูลวันหมดอายุหรือมีการแก้ไขข้อมูล
9.อย่าหลงเชื่อคำแนะนำจากอินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
• บางครั้งอินฟลูเอนเซอร์อาจแนะนำสินค้าอาหารเสริมลดความอ้วน เพียงเพราะมีผลประโยชน์ทางการเงิน โดยไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพของสินค้า
• ให้ความสำคัญกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากกว่าความคิดเห็นส่วนบุคค
10.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้ขาย
• หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาหารเสริมลดความอ้วน เช่น เลขที่จดแจ้ง อย. หรือส่วนประกอบ ให้สอบถามผู้ขายก่อนซื้อ
• ร้านค้าที่น่าเชื่อถือควรสามารถให้ข้อมูลได้ครบถ้วนและโปร่งใส
ข้อแตกต่างของอาหารเสริมลดความอ้วนแบบธรรมชาติและแบบเคมี
อาหารเสริมลดความอ้วนแบบธรรมชาติและแบบเคมีค่อนข้างต่างกัน ขอเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นความแตกต่างแบบชัดเจนเป็นตารางดังนี้
หัวข้อ |
อาหารเสริมลดความอ้วนแบบธรรมชาติ |
อาหารเสริมลดความอ้วนแบบเคมี |
ส่วนผสมหลัก |
มาจากพืชสมุนไพรหรือสารสกัดธรรมชาติ เช่น ชาเขียว, ส้มแขก, กาแฟเขียว |
ใช้สารเคมีที่สังเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ เช่น ไซบูทรามีน, ออร์ลิสแตท |
กลไกการทำงาน |
ช่วยเร่งการเผาผลาญ, ลดความอยากอาหาร, หรือยับยั้งการสะสมไขมัน |
ทำงานโดยการกระตุ้นสมอง, ยับยั้งการดูดซึมไขมัน หรือเพิ่มการขับถ่าย |
ความปลอดภัย |
ปลอดภัยกว่าในกรณีที่ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและได้รับการรับรองมาตรฐาน |
เสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น ใจสั่น, ความดันโลหิตสูง, หรือผลกระทบต่อตับและไต |
ผลลัพธ์ |
มักเห็นผลช้ากว่าและต้องใช้อย่างต่อเนื่องร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย |
เห็นผลไวกว่า แต่ผลลัพธ์อาจมีความไม่แน่นอน และขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกาย |
ผลข้างเคียง |
ผลข้างเคียงน้อยหรือไม่มีในกรณีที่เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง |
มีผลข้างเคียงที่อาจรุนแรง เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, หรือภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ |
การรับรองมาตรฐาน |
ต้องตรวจสอบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และไม่มีการปนเปื้อนสารเคมี |
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยบริษัทที่ได้รับการรับรองจากองค์กรทางการแพทย์ |
ราคา |
มักมีราคาสูงกว่าเนื่องจากกระบวนการสกัดสารจากธรรมชาติ |
ราคาถูกกว่าเนื่องจากผลิตในปริมาณมากด้วยกระบวนการทางเคมี |
เหมาะสำหรับใคร |
เหมาะกับผู้ที่มองหาทางเลือกปลอดภัยระยะยาว หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องระวัง |
เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังภายใต้คำแนะนำของแพทย์ |
ความยั่งยืน |
ผลลัพธ์อาจยั่งยืนกว่าหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพร่วมด้วย |
อาจมีโยโย่เอฟเฟกต์หากหยุดใช้หรือไม่ปรับพฤติกรรมการกิน |
อาหารเสริมลดความอ้วนกับยาลดน้ำหนักต่างกันยังไง
• จุดประสงค์ของการใช้งาน
อาหารเสริมลดความอ้วน
ใช้เป็นตัวช่วยการลดน้ำหนัก เช่น เร่งการเผาผลาญ หรือลดความอยากอาหาร โดยไม่ใช่ยารักษาโรค
ยาลดน้ำหนัก
เป็นยาที่แพทย์สั่งเพื่อรักษาภาวะอ้วนหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
• ส่วนประกอบหลัก
อาหารเสริมลดความอ้วน
ส่วนใหญ่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ส้มแขก ชาเขียว หรือใยอาหาร
ยาลดน้ำหนัก
ประกอบด้วยสารเคมีที่ผ่านการพัฒนาและวิจัย เช่น ไซบูทรามีน ออร์ลิสแตท หรือโพรไบโอนิก
• การออกฤทธิ์
อาหารเสริมลดความอ้วน
กระตุ้นการเผาผลาญ ลดความอยากอาหาร หรือช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
ยาลดน้ำหนัก
ยับยั้งการดูดซึมไขมัน กระตุ้นสมองให้ลดความอยากอาหาร หรือเพิ่มการเผาผลาญโดยตรง
• การรับรองจากหน่วยงาน
อาหารเสริมลดความอ้วน
ต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในฐานะอาหารเสริม ไม่ใช่ยา
ยาลดน้ำหนัก
ต้องผ่านการรับรองจาก อย. ในฐานะ "ยา" ซึ่งมีการควบคุมอย่างเข้มงวดมากกว่า
• การใช้
อาหารเสริมลดความอ้วน
สามารถหาซื้อได้เองโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์
ยาลดน้ำหนัก
ต้องได้รับใบสั่งจากแพทย์ และใช้อย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำ
• ผลข้างเคียง
อาหารเสริมลดความอ้วน
ผลข้างเคียงมักน้อยกว่า แต่หากไม่ได้มาตรฐาน อาจมีสารอันตรายผสมอยู่
ยาลดน้ำหนัก
มีผลข้างเคียงที่ชัดเจนและรุนแรงกว่า เช่น ใจสั่น ความดันโลหิตสูง หรือผลกระทบต่อระบบประสาท
• ความเหมาะสมของการใช้
อาหารเสริมลดความอ้วน
เหมาะกับผู้ที่น้ำหนักเกินเล็กน้อยและต้องการเสริมการลดน้ำหนักร่วมกับการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร
ยาลดน้ำหนัก
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคอ้วนที่ส่งผลต่อสุขภาพ และจำเป็นต้องลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วน
สรุปแล้วข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างอาหารเสริมลดความอ้วนกับยาดลดน้ำหนักคือ
• อาหารเสริมลดความอ้วน เป็นตัวช่วย ไม่มีผลรักษาโรค ต้องใช้ควบคู่กับการดูแลสุขภาพ
• ยาลดน้ำหนัก เป็นยารักษาที่ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ มีประสิทธิภาพชัดเจนแต่เสี่ยงต่อผลข้างเคียง
วิธีทดสอบอาการแพ้ก่อนรับประทานอาหารเสริมลดความอ้วน
ก่อนที่เราจะทานอาหารเสริมลดความอ้วนเพื่อความปลอดภัย เราควรเช็คก่อนว่าเราแพ้อาหารเสริมลดความอ้วน หรือเปล่า เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงอาการแพ้ที่จะตามมา
1.อ่านฉลาก ตรวจสอบส่วนผสมทั้งหมดของอาหารเสริมลดความอ้วน หลีกเลี่ยงสารที่เราเคยแพ้
2.ทดลองปริมาณน้อย เริ่มรับประทานอาหารเสริมลดความอ้วนในปริมาณ 1/4 ของที่แนะนำเพื่อสังเกตปฏิกิริยา
3.สังเกตหลังรับประทานอาหารเสริมลดความอ้วน หากมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ ผื่นแดง หรือใจสั่น ให้หยุดทันที
4.ปรึกษาแพทย์ หากมีประวัติแพ้หรือสงสัยส่วนผสมในอาหารเสริมลดความอ้วน ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
5.เลือกผลิตภัณฑ์ปลอดภัย ใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน ที่มี อย. และผ่านการรับรองมาตรฐาน
6.สังเกตอาการระยะยาว หากรับประทานอาหารเสริมลดความอ้วนต่อเนื่อง ให้สังเกตผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นใน 1-2 สัปดาห์แรก
ข้อควรระวังในการกินอาหารเสริมลดความอ้วนในระยะยาว
ถ้าใช้อาหารเสริมลดความอ้วนไปนานๆอาจเกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายดังนี้
ผลข้างเคียงสะสมจากการใช้อาหารเสริมลดความอ้วน
ทานอาหารเสริมลดความอ้วนระยะยาวจะทำให้สารบางชนิดอาจสะสมในร่างกาย เช่น สารกระตุ้นระบบประสาทหรือสารเคมี อาจส่งผลต่อตับ ไต หรือหัวใจ
ละเลยการดูแลตัวเองด้วยวิธีอื่น
การกินอาหารเสริมลดความอ้วนอย่างต่อเนื่องโดยไม่ปรับพฤติกรรมการกินหรือออกกำลังกาย อาจทำให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มเมื่อหยุดใช้
เสี่ยงโยโย่เอฟเฟกต์
การหยุดใช้อาหารเสริมลดความอ้วนแบบทันที อาจทำให้ระบบเผาผลาญผิดปกติ น้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วกว่าเดิม
การลดประสิทธิภาพ
ร่างกายอาจปรับตัวจนทำให้อาหารเสริมลดความอ้วน ไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้เหมือนในช่วงแรก
กระทบระบบฮอร์โมน
อาหารเสริมลดความอ้วน บางชนิดอาจรบกวนสมดุลฮอร์โมนในระยะยาว ส่งผลต่อระบบประจำเดือนหรือการนอนหลับ
ผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร
อาหารเสริมลดความอ้วนที่มีส่วนผสมที่กระตุ้นการขับถ่าย อาจทำให้ลำไส้ทำงานผิดปกติหากใช้นานเกินไป
การปนเปื้อนสารอันตราย
อาหารเสริมลดความอ้วนที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีสารต้องห้ามหรือสารปนเปื้อนที่อันตรายเมื่อใช้นาน
ขาดสารอาหาร
การเน้นใช้อาหารเสริมลดความอ้วนแทนอาหารหลัก อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น
ปรึกษาแพทย์เป็นระยะ
หากต้องใช้อาหารเสริมลดความอ้วนเป็นระยะเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและประเมินผลกระทบต่อร่างกาย
ออกกำลังกายแล้วจำเป็นต้องกินอาหารเสริมลดความอ้วนอีกไหม
จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นเลยที่ต้องกินอาหารเสริมลดความอ้วนอีก หากควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม น้ำหนักสามารถลดได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งอาหารเสริมลดความอ้วนเลย
• ประสิทธิภาพจากการออกกำลังกาย
ช่วยเพิ่มการเผาผลาญและสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลดีต่อการลดน้ำหนัก.
• อาหารธรรมชาติพอเพียง
เลือกทานโปรตีนและผักผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพแทนการพึ่งอาหารเสริม
• ข้อยกเว้น
หากต้องการเสริมจริงๆ อาจเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและได้รับการรับรอง แต่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน
อาหารเสริมลดความอ้วนส่งผลยังไงต่อการกิน
• อาหารเสริมลดความอ้วนช่วยลดความอยากอาหาร
บางชนิดช่วยลดความหิวได้ เลยส่งผลทำให้กินน้อยลง
• อาหารเสริมลดความอ้วนช่วยเพิ่มการเผาผลาญ
ช่วยเร่งการใช้พลังงานจากอาหารทำให้ไม่ไปเก็บสะสมตามร่างกายของเรา
• อาหารเสริมลดความอ้วนช่วย ควบคุมการดูดซึมไขมัน/คาร์โบไฮเดรต
อาหารเสริมลดความอ้วนบางชนิดยับยั้งการดูดซึมสารอาหารบางประเภท
• อาหารเสริมลดความอ้วนช่วยส่งเสริมการขับถ่าย
ช่วยเพิ่มการระบาย ทำให้รู้สึกตัวเบาขึ้น
หลังหยุดกินอาหารเสริมลดความอ้วนต้องดูแลตัวเองยังไง
การดูแลตัวเองหลังหยุดกินอาหารเสริมลดความอ้วนสำคัญมาก เพื่อให้เราสุขภาพดีและสามารถควบคุมน้ำหนักได้ในระยะยาว
• ควบคุมอาหารให้สมดุล
เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีนไม่ติดมัน และหลีกเลี่ยงของทอดหรือของหวาน
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
เน้นกิจกรรมที่ช่วยเผาผลาญพลังงาน เช่น การเดิน วิ่ง หรือเล่นโยคะ เพื่อรักษาน้ำหนัก
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยระบบเผาผลาญและขับของเสีย
• ปรับพฤติกรรมการกิน
ทานอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อยครั้ง หลีกเลี่ยงการอดอาหารเพื่อลดการกินเกินในมื้อต่อไป
• ตรวจสุขภาพ
หากเคยใช้อาหารเสริมเป็นเวลานาน ควรตรวจสุขภาพเพื่อเช็กการทำงานของตับ ไต และระบบย่อยอาหาร
• จัดการความเครียด
ใช้เทคนิคผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือการนอนหลับเพียงพอ เพื่อป้องกันการกินตามอารมณ์
• ตั้งเป้าหมายสุขภาพระยะยาว
มุ่งเน้นการมีสุขภาพดีมากกว่าการลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียว เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตได้แบบไม่ต้องกดดันในเรื่องน้ำหนักมากเกินไป และสามารถใช้ได้ในระยะยาว
สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับอาหารเสริมลดความอ้วน
ส่วนใหญ่แล้วคนที่เริ่มทานอาหารเสริมลดความอ้วน เพราะมีความเครียดและความกังวลเรื่องน้ำหนัก เลยเลือกที่จะใช้อาหารเสริมลดความอ้วนเป็นตัวเลือกฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อกระตุ้นให้ขับถ่ายออกมา หรือทำให้อยากอาหารน้อยลง ตัวของอาหารเสริมลดความอ้วน ก็อาจเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราคลายความกังวลใจ เกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักได้บ้าง
แต่สุดท้ายแล้วการลดน้ำหนักก็เหมือนการวิ่งมาราธอนระยะยาว การใช้อาหารเสริมลดความอ้วน หรือลดน้ำหนักอาจใช้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ถ้าในระยะยาว เราอาจจะต้องมานั่งตั้งเป้าหมายกับตัวเอง และปรับมาใช้วิธีที่ไม่เกิดผลกระทบกับร่างกายในระยะยาว อาทิเช่น ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร หรือทำ IF แต่สิ่งเหล่านี้จะต้องอาศัยความอดทนและวินัย แต่ผลลัพธ์ยั่งยืนกว่าอย่างแน่นอน เพื่อให้เรามีหุ่นที่ดีและสุขภาพที่ดีไปพร้อมๆ กัน