romrawin

โปรแกรม Exosome คืออะไร มีกี่ยี่ห้อ เลือกยี่ห้อไหนดี แตกต่างกันอย่างไร

Exosome

Exosome คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร เหมาะกับทุกสภาพผิวหรือไม่
Exosome ถือว่าเป็นนวัตรกรรม ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการฟื้นฟูผิว เพราะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น บำรุงผิวได้ล้ำลึกมากกว่าการทาสกินแคร์
Exosome คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ Exosome อย่างละเอียด เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกทำหัตถการนี้

รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับ Exosome
- Exosome คืออะไรมีหลักการทำงานอย่างไร
- Exosome มีกี่ยี่ห้ออะไรบ้าง ต่างกันอย่างไร
- เลือกฉีด Exosome ยี่ห้อไหนดี
- Exosome ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง
- ทำ Exosome จุดไหนได้บ้าง
- Exosome เหมาะกับใครบ้าง
- ใครไม่เหมาะกับการทำ Exosome
- การเตรียมตัวก่อนทำ Exosome
- การดูแลตัวเองหลังทำ Exosome
- ผลลัพธ์หลังทำ Exosome
- หัตถการ Exosome VS Rejuran ต่างกันอย่างไร
- รวมทุกคำถามของหัตถการ Exosome
1.Exosome ต้องทำบ่อยแค่ไหน
2.Exosome เหมาะกับทุกสภาพผิวหรือไม่
3.ทำไมฉีด Exosome แล้วสิวขึ้น
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับ Exosome

Exosome คืออะไรมีหลักการทำงานอย่างไร
Exosome (เอ็กโซโซม) คือถุงนาโนขนาดเล็กมากที่ถูกหลั่งออกมาจากเซลล์ รวมถึงเซลล์ต้นกำเนิดบางชนิด โดยมีขนาดประมาณ 30-100 นาโนเมตร ลักษณะคล้ายถุงกลมจิ๋วที่บรรจุ สารอาหารต่าง ๆ ไว้ภายใน เช่น โปรตีน เปปไทด์ กรดอะมิโน วัสดุพันธุกรรมบางส่วน และโมเลกุลชีวภาพหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูผิว

ในทางผิวหนัง Exosome ถูกนำมาศึกษาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีคุณสมบัติในการ ส่งสัญญาณให้เซลล์ผิวทำงานได้ดีขึ้น ช่วยปรับสมดุลเซลล์ และส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูของผิว

ส่วนประกอบสำคัญของ Exosome
Exosome มีส่วนประกอบจากชีวโมเลกุลหลายชนิดที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน เช่น

1) กลุ่มโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมผิว (Growth Factors)
เป็นโมเลกุลที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของเซลล์ผิว เช่น
• EGF (Epidermal Growth Factor) ช่วยให้ผิวมีการผลัดเซลล์และสร้างโครงสร้างผิวที่มีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว เช่น คอลลาเจนและอิลาสติน
• Fibroblast Growth Factors ช่วยส่งเสริมการทำงานของไฟโบรบลาสต์ ซึ่งเป็นเซลล์สำคัญในการคงความแข็งแรงของผิว

ทั้งหมดนี้เป็นการส่งเสริมกระบวนการทำงานของผิวตามกลไกที่มีอยู่ ไม่ใช่สารที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ

2) กลุ่มเปปไทด์ (Peptides)
เปปไทด์เป็นสายของกรดอะมิโนที่มีบทบาทสนับสนุนกระบวนการทำงานของผิว เช่น ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและดูสดชื่นขึ้น พร้อมช่วยให้ผิวแข็งแรงจากภายใน

3) กรดอะมิโน (Amino Acids)
เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของการสร้างโปรตีนในผิว เช่น คอลลาเจน เมื่อผิวได้รับกรดอะมิโนเพียงพอ จะช่วยให้ชั้นผิวมีความยืดหยุ่นและชุ่มชื้นมากขึ้น

4) โคเอนไซม์ (Coenzymes)
กลุ่มโมเลกุลที่ช่วยสนับสนุนปฏิกิริยาชีวภาพในเซลล์ และช่วยดูแลผิวจากปัจจัยที่ทำให้เสื่อมสภาพ เช่น แสงแดดหรือสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ

5) Hyaluronic Acid (HA)
สารที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำและช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)

Exosome ทำงานอย่างไรในผิว ?
การทำงานของ Exosome สามารถอธิบายแบบเห็นภาพได้ดังนี้

1) Exosome ทำหน้าที่เหมือน “ผู้ส่งสาร” ระหว่างเซลล์
Exosome จะลอยไปยังเซลล์ผิวที่เกี่ยวข้องและปล่อยสารชีวโมเลกุลที่อยู่ภายใน ช่วยให้เซลล์ผิวสามารถรับสัญญาณและปรับตัวตามความต้องการของผิวแต่ละบริเวณ

2) Exosome ส่งเสริมทำงานตามกระบวนการทำงานของผิว
สารชีวโมเลกุลที่อยู่ใน Exosome จะช่วยให้เซลล์ผิวทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น เช่น
• การสร้างคอลลาเจน อิลาสติน
• การดูแลสมดุลผิว
• การจัดการกับปัจจัยที่ทำให้ผิวดูอ่อนล้า

3) Exosome ส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูผิว
Exosome บางชนิดมีบทบาทในการช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากความแห้งกร้านหรือความอ่อนล้า โดย Exosome ส่งเสริมให้เซลล์ผิวแบ่งตัวตามกลไกปกติ และช่วยให้สภาพผิวโดยรวมดูดีขึ้น

4) Exosome ส่งเสริมระบบการทำงานของเกราะป้องกันผิว
ด้วย HA และสารชีวโมเลกุลต่าง ๆ ภายใน Exosome ช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น เกราะผิวแข็งแรงขึ้น และลดการสูญเสียน้ำจากชั้นผิว

เลือกฉีด Exosome ยี่ห้อไหนดี
ปัจจุบันในประเทศไทยมีการใช้ Exosome ทางด้านการดูแลผิวอยู่หลายยี่ห้อ โดยตัวอย่างที่มักพบในคลินิกจะมีประมาณ 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ
ASCE+ / P198 / EXOXE แต่ละยี่ห้อมีแนวคิดและจุดเด่นแตกต่างกันไป การเลือกใช้ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินความเหมาะสมตามสภาพผิวและแผนการรักษาของแต่ละคนเป็นสำคัญ

1.Exosome ASCE+
ASCE+ (Advanced Stem Cell Exosome) เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี Exosome จากสเต็มเซลล์พืช (เช่น ดอกกุหลาบ) ผสานกับสารบำรุงผิวอื่น ๆ เช่น เปปไทด์ วิตามิน และสารสกัดจากธรรมชาติบางชนิด ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้ในการดูแลและฟื้นบำรุงผิว

จุดเด่นของ Exosome ASCE+ คือ
• ผ่านการผลิตในห้องปฏิบัติการที่มีการควบคุมมาตรฐาน เพื่อช่วยให้มั่นใจในด้านความสะอาดและคุณภาพของผลิตภัณฑ์
• มีส่วนผสมของ Growth Factors และ Peptides ที่ใช้เพื่อส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูของผิว

ข้อดีของ Exosome ASCE+
• การเสริมความยืดหยุ่นผิว
• การดูแลผิวที่เริ่มมีสัญญาณความร่วงโรย
• การเสริมให้ผิวดูแข็งแรงขึ้น

เหมาะกับคนที่ต้องการแนวทางดูแลผิวแบบเน้นการฟื้นบำรุง

2.Exosome P198
P198 เป็น Exosome จากสเต็มเซลล์ที่ออกแบบให้มี โมเลกุลขนาดค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับบางยี่ห้อในท้องตลาด Exosome P198 ช่วยให้สามารถกระจายตัวและซึมผ่านผิวได้ดีในบริเวณที่ต้องการดูแล

คนที่เหมาะกับ Exosome P198
• ผู้ที่เริ่มกังวลเรื่องริ้วรอย
• ผิวดูแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
• ผิวที่ต้องการการฟื้นตัวหลังทำหัตถการบางชนิด

Exosome P198 จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมการฟื้นบำรุงผิว โดยเฉพาะในเคสที่แพทย์วางแผนให้ใช้ควบคู่กับการรักษาหรือทรีตเมนต์อื่น

3.Exosome EXOXE
EXOXE เป็นผลิตภัณฑ์ Exosome ที่ระบุว่าใช้เทคโนโลยี IOE และมีความเข้มข้นของ Exosome ประมาณระดับ พันล้านพาร์ติเคิล ต่อขวด (เช่น 6,000 ล้านอนุภาค ทั้งนี้ขึ้นกับรูปแบบผลิตภัณฑ์) โดยออกแบบมาเพื่อใช้ในการดูแลและฟื้นบำรุงสภาพผิว

คนที่เหมาะกับ Exosome EXOXE
• ผิวที่มีรอยสิวเก่า
• ผิวไม่เรียบเนียน
• ผิวที่ต้องการการฟื้นบำรุงให้ดูสุขภาพดีขึ้น

ผลลัพธ์ในการดูแลรอยสิวหรือผิวไม่เรียบเนียนอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล และควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

ควรเลือก Exosome ยี่ห้อไหนดี
การเลือกยี่ห้อ Exosome ไม่ควรพิจารณาแค่ ชื่อแบรนด์ แต่ควรดูภาพรวมดังนี้

1.สภาพผิวและปัญหาหลักของแต่ละคน
• ผิวแห้ง ขาดน้ำ
• ผิวมีรอยสิว
• ผิวเริ่มมีริ้วรอย
• ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย

2.ปัญหาแต่ละแบบอาจเหมาะกับยี่ห้อหรือสูตรที่แตกต่างกัน
• แผนการรักษาที่แพทย์วางให้
• ใช้เดี่ยว ๆ หรือใช้ร่วมกับเลเซอร์/ทรีตเมนต์อื่น
• จำนวนครั้งและช่วงเวลาที่เหมาะสม

แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่า Exosome ยี่ห้อไหนเหมาะกับหัตถการที่ทำร่วมกัน

3.มาตรฐานการผลิตและเอกสารประกอบจากบริษัทผู้ผลิต
• ข้อมูลความปลอดภัย
• การผ่านการรับรองที่เกี่ยวข้อง

4.งบประมาณของคนไข้
• แต่ละยี่ห้อมีช่วงราคาที่ต่างกัน
• ควรเลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณและจำนวนครั้งที่ต้องทำต่อเนื่องตามแผนแพทย์

Exosome ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง
Exosome เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่มีบทบาทในการส่งสัญญาณให้เซลล์ผิวทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น จึงถูกนำมาใช้ในด้านการดูแลผิวเพื่อส่งเสริมกระบวนการฟื้นบำรุงผิว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมและแผนการรักษาที่แพทย์วางไว้

Exosome ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
1.ดูแลความยืดหยุ่นและความเรียบเนียนของผิว
สารชีวโมเลกุลใน Exosome เช่น โปรตีนและเปปไทด์ ช่วยส่งเสริมทำงานของไฟโบรบลาสต์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงสร้างผิว ทำให้ผิวดูยืดหยุ่น เรียบเนียน และดูสดใสมากขึ้น

2.ดูแลความหมองคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ
Exosome ถูกนำมาใช้สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลปัญหาจุดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเม็ดสี เช่น รอยดำ รอยแดง หรือผิวหมองคล้ำ โดยสารบางชนิดภายใน Exosome มีบทบาทช่วยให้ผิวทำงานได้สมดุลขึ้นในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสี

3.เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
ด้วยส่วนประกอบอย่างกรดอะมิโน เปปไทด์ และ Hyaluronic Acid จึงมีส่วนช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น ผิวดูอิ่มน้ำ อิ่มฟู และสดใสขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวล้า

4.ส่งเสริมการฟื้นตัวของผิว
ด้วยคุณสมบัติการส่งสัญญาณให้เซลล์ผิวซ่อมแซมตัวเองได้มีประสิทธิภาพขึ้น Exosome จึงมักถูกใช้ในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับพื้นผิว เช่น รอยสิว ผิวไม่เรียบเนียน หรือหลุมสิวตื้นบางส่วน รวมถึงผู้ที่ต้องการให้ผิวฟื้นตัวได้ดีหลังทำหัตถการบางชนิด
ผลที่ได้เป็นการฟื้นบำรุงภาพรวม ไม่ใช่การรักษารอยหรือหลุมสิวแบบเฉพาะ

5.เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น
Exosome ช่วยส่งเสริมการทำงานของชั้นผิวที่เป็นเกราะป้องกันตามธรรมชาติ ทำให้ผิวรับมือกับปัจจัยกระตุ้นได้ดีขึ้น เช่น สภาพอากาศ มลภาวะ หรือการระคายเคือง เหมาะกับผู้ที่มีผิวอ่อนแอง่าย ผิวไวต่อสิ่งเร้าหรืออักเสบง่าย

6.ผิวดูละเอียดขึ้น รูขุมขนดูกระชับ
เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นดีขึ้น โครงสร้างผิวที่แน่นขึ้นอาจทำให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวโดยรวมดูเรียบเนียนมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะผิวของแต่ละบุคคล

ทำ Exosome จุดไหนได้บ้าง
การใช้ Exosome มักถูกนำมาเสริมในการดูแลผิวบริเวณต่าง ๆ โดยอาศัยคุณสมบัติการส่งสัญญาณชีวภาพให้ผิวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นการฟื้นบำรุงผิวตามธรรมชาติ และแตกต่างกันในแต่ละบุคคล การเลือกตำแหน่งทำควรอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์

ด้านล่างเป็นตำแหน่งที่มักนำ Exosome มาใช้ในการดูแลผิว
1.ใต้ตา
ใช้ Exosome เพื่อช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาดูสดใสขึ้น ผิวเนียนขึ้น และดูอ่อนล้าลดลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีใต้ตาหมองคล้ำหรือผิวใต้ตาดูแห้งง่าย

2.หน้าผาก
บริเวณนี้มักใช้ Exosome เพื่อดูแลเรื่องความเรียบเนียนของผิว และส่งเสริมผิวที่เริ่มแสดงสัญญาณของริ้วรอยบางๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษาความยืดหยุ่นของผิวหน้าผาก

3.ร่องแก้ม
Exosome ช่วยให้ผิวบริเวณร่องแก้มมีความยืดหยุ่นดีขึ้น และดูเต็มแน่นขึ้นตามสภาพผิวของแต่ละคน เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวบริเวณนี้ดูเรียบเนียนและสดใสมากขึ้น

4.บริเวณแก้ม
มักใช้ Exosome เพื่อดูแลผิวที่มีปัญหาจุดด่างดำ รอยสิว หรือผิวแพ้ง่าย โดยช่วยให้ผิวบริเวณแก้มมีความสมดุลขึ้นและฟื้นบำรุงได้ดีขึ้น

5.ลำคอ
ผิวบริเวณลำคอมักบอบบางและเกิดรอยพับได้ง่าย Exosome จึงถูกใช้เพื่อช่วยให้ผิวบริเวณนี้ดูเรียบเนียนขึ้น และส่งเสริมความยืดหยุ่นของผิวลำคอ

6.กรอบหน้า
ใช้ Exosome เพื่อช่วยให้ผิวบริเวณกรอบหน้าดูแน่นขึ้นและมีความกระชับมากขึ้น จากการส่งเสริมการทำงานของคอลลาเจน เหมาะกับผู้ที่รู้สึกว่าผิวบริเวณกรอบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย

Exosome เหมาะกับใครบ้าง
Exosome เป็นตัวช่วยด้านการฟื้นบำรุงผิวที่ใช้หลักการส่งสัญญาณชีวภาพให้เซลล์ผิวทำงานอย่างมีประสิทธิภาพขึ้น จึงมักถูกนำมาใช้ในกลุ่มคนที่ต้องการดูแลสภาพผิวอย่างต่อเนื่อง โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นการดูแลผิวตามกลไกธรรมชาติ และผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล

กลุ่มผู้ที่เหมาะกับการดูแลผิวด้วย Exosome
1.ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยหรือความยืดหย่อนของผิว
Exosome เหมาะกับผู้ที่สังเกตว่าผิวเริ่มมีรอยเล็ก ๆ เช่น บริเวณหางตา หน้าผาก หรือร่องแก้ม และต้องการให้ผิวดูเรียบเนียนและยืดหยุ่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

2.ผู้ที่มีปัญหาเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ หรือรอยจากสิว
Exosome มักถูกนำมาใช้ในเคสที่มีความหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยดำ รอยแดงจากสิว หรือจุดด่างดำ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผิวทำงานได้สมดุลและดูกระจ่างใสขึ้น

3.ผู้ที่เป็นสิวหรือง่ายต่อการอักเสบ
เหมาะกับผู้ที่มีสิวอักเสบ สิวเรื้อรัง หรือผิวบริเวณแก้ม หน้าผาก และคางที่เกิดอาการระคายเคืองง่าย โดย Exosome อาจช่วยให้ผิวดูสมดุลและสงบขึ้นเมื่อใช้อย่างเหมาะสมร่วมกับแผนการรักษาของแพทย์

4.ผู้ที่มีหลุมสิวตื้น รอยสิว หรือรอยแผลเป็น
จากกลไกที่ส่งเสริมการฟื้นฟูของผิว Exosome จึงเหมาะกับคนที่มีผิวไม่เรียบเนียน หลุมสิวตื้น และรอยสิว เพื่อเสริมการฟื้นตัวของผิวตามกระบวนการทำงานของร่างกาย

5.ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวแห้ง หรือผิวขาดน้ำ
กลุ่มนี้มักได้รับประโยชน์จากการที่ Exosome ช่วยส่งเสริมเกราะป้องกันผิวและความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูละเอียดขึ้น เรียบเนียนขึ้น และดูสดใสมากกว่าเดิม

6.ผู้ที่รู้สึกว่าผิวหมอง โทรม หรือไม่สดใส
Exosome เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวโดยรวมดูสุขภาพดีขึ้น ดูอิ่มฟูขึ้น หรือผิวดูมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะผู้ที่พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้ผิวอ่อนล้า

ใครไม่เหมาะกับการทำ Exosome
แม้ Exosome จะถูกนำมาใช้ในงานด้านการฟื้นบำรุงผิว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำได้ การประเมินความเหมาะสมควรให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียด เพราะบางกลุ่มมีความเสี่ยงหรือข้อควรระวังมากกว่าปกติ

ด้านล่างคือกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับการทำ Exosome
1.ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
ในช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ร่างกายอยู่ในภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของ Exosome ในกลุ่มนี้ จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปก่อน

2.ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรหลีกเลี่ยงการทำ Exosome
ผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษามะเร็งหรือมีประวัติมะเร็งบางชนิดมักไม่เหมาะ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันและการแบ่งตัวของเซลล์ในร่างกายมีความไวต่อการ กระตุ้นบางรูปแบบ ควรได้รับการประเมินจากแพทย์เฉพาะทางก่อนเสมอ

3.ผู้ที่มีประวัติแพ้เกสรดอกไม้ควรหลีกเลี่ยงการทำ Exosome
Exosome บางชนิดผลิตจากสเต็มเซลล์พืชหรือมีส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับพืช หากมีประวัติแพ้เกสรหรือสารสกัดจากพืช แพทย์อาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการแพ้หรือระคายเคือง

4.ผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน
ยาประเภทนี้ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานต่ำลง จึงควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่มีการกระตุ้นการฟื้นฟูผิวหรือเกี่ยวข้องกับระบบเซลล์ผิว เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือการตอบสนองของผิวที่ผิดปกติ

5.ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตนเอง (Autoimmune Disease)
โรคกลุ่มนี้เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันมีการตอบสนองผิดปกติ การกระตุ้นเซลล์ผิวบางชนิดด้วย Exosome อาจไม่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ จึงจำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินรายบุคคลอย่างรอบคอบ และอาจต้องหลีกเลี่ยงในบางกรณี

การเตรียมตัวก่อนทำ Exosome
การเตรียมตัวที่ถูกต้องช่วยให้ผิวพร้อมต่อการฟื้นบำรุงและช่วยลดความเสี่ยงของการระคายเคืองต่าง ๆ เรามาดูกันว่าการเตรียมตัวก่อนทำ Exosome มีอะไรบ้าง

1.ศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคลินิก แพทย์ผู้ทำหัตถการ และแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ Exosome ว่าเป็นของแท้ มีเอกสารรับรอง และอยู่ภายใต้การควบคุมมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

2.หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมบางชนิด
ก่อนทำควรงดการใช้ยาและอาหารเสริมที่อาจทำให้ผิวช้ำง่าย เช่น
แอสไพริน กลุ่ม NSAIDs St.John’s Wort Ginkgo Biloba Primrose Oil Garlic Ginseng และ Vitamin E
ควรงดอย่างน้อย 3-7 วัน หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

3.งดเลเซอร์หรือการกำจัดขนบริเวณที่จะทำ Exosome
เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง ควรงดเลเซอร์ แวกซ์ โกน หรือดึงขน รวมถึงหัตถการที่ทำให้ผิวไวต่อการระคายเคืองก่อนทำ Exosome

4.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
ควรงดการใช้กรดผลัดเซลล์ผิว สครับ หรือการนวดหน้าที่รุนแรงอย่างน้อย 3 วัน เพื่อให้ผิวอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ระคายเคืองก่อนทำหัตถการ Exosome

5.แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์
หากมีโรคประจำตัว อยู่ระหว่างการรักษา หรือรับประทานยาบางชนิดเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อให้แพทย์พิจารณาความเหมาะสมและปรับแผนการดูแลให้ปลอดภัยที่สุด

การดูแลตัวเองหลังทำ Exosome
การดูแลผิวอย่างถูกวิธีหลังทำ Exosome จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงของการระคายเคือง โดยทั่วไปอาจมีอาการเล็กน้อยตามกลไกปกติหลังหัตถการ ซึ่งมักหายไปเองภายในไม่กี่วัน

1.อาการที่อาจพบได้หลังทำ Exosome
อาจมีรอยแดง บวม เขียวช้ำเล็กน้อย หรืออาการคันบริเวณที่ทำ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติจากรอยเข็ม ควรหลีกเลี่ยงการจับ แกะ เกา หรือกดนวดบริเวณนั้น เพื่อป้องกันการระคายเคืองเพิ่มเติม อาการเหล่านี้มีแนวโน้มดีขึ้นภายใน 2-3 วัน

2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับใบหน้า
ในบางรายอาจมีอาการปวดตึงบริเวณที่ทำในคืนแรก ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือคลึงผิว และหลีกเลี่ยงการกดทับใบหน้า โดยแนะนำให้ใช้หมอนข้างวางพยุงด้านซ้ายและขวา 2-3 คืนแรก เพื่อช่วยควบคุมไม่ให้พลิกตัวทับใบหน้าระหว่างนอนหลับ

3.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำ 1.5-2 ลิตรต่อวัน (ประมาณ 8-10 แก้ว) ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอและสนับสนุนการฟื้นฟูของผิวตามกระบวนการทำงานของร่างกาย

4.งดดื่มแอลกอฮอล์
ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 7-14 วัน เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบวมช้ำหรือทำให้การฟื้นตัวช้าลง

5.เลี่ยงการทำหัตถการที่ใช้ความร้อน
ควรงดเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ที่มีความร้อน เช่น RF เลเซอร์พลังงานสูง หรือทรีตเมนต์ร้อนจัด ประมาณ 7-14 วัน เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคืองเพิ่มเติม

6.หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความร้อนสูง
ควรงดการเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัด เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการบวมแดงมากขึ้น

7.งดออกกำลังกายหนัก
ควรงดการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกหรือทำให้หน้าแดงร้อน เช่น วิ่งเร็ว ยกน้ำหนักหนัก ๆ หรือออกกำลังกายคาร์ดิโอแบบเข้มข้น เนื่องจากอาจทำให้เกิดการบวมช้ำเพิ่มในช่วงแรกหลังทำ Exosome

ผลลัพธ์หลังทำ Exosome
Exosome เป็นการดูแลผิวที่ทำให้เซลล์ผิวฟื้นบำรุงตัวเองตามกลไกของร่างกาย เพราะฉะนั้นผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบทันที และอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิม อายุ การดูแลผิวหลังทำ รวมถึงแผนการรักษาที่แพทย์ออกแบบให้

ผลลัพธ์ที่มักพบได้หลังการทำ Exosome
1.หลังทำ Exosome ผิวชุ่มชื้นและอิ่มฟูมากขึ้น
หลังทำไม่นาน ผิวมักรู้สึกว่ามีความชุ่มชื้นดีขึ้น เนื่องจาก Exosome มีส่วนประกอบของกรดอะมิโน เปปไทด์ และสารที่ช่วยสนับสนุนการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและสดใสขึ้น

2.หลังทำ Exosome ผิวดูเรียบเนียนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อผิวเริ่มฟื้นตัวและมีความสมดุลดีขึ้น พื้นผิวจะดูเรียบเนียนกว่าเดิม บริเวณที่มีรอยสิว รอยแดง หรือความไม่เรียบของผิวอาจค่อย ๆ ดูจางลง โดยเป็นกระบวนการที่เกิดตามการทำงานของผิว

3.หลังทำ Exosome ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น
จากการที่ Exosome ส่งเสริมให้เซลล์ผิวทำงานด้านโครงสร้างได้ดีขึ้น เช่น การสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินตามปกติ ผิวจึงดูแน่นขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่เริ่มเห็นสัญญาณความหย่อนคล้อย

4.หลังทำ Exosome ผิวดูสุขภาพดีและสดใสกว่าเดิม
ผู้ที่ผิวหมองล้าหรือดูโทรมอาจรู้สึกว่าผิวมีความเปล่งปลั่งขึ้น เพราะผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้นและได้รับการฟื้นบำรุงเหมาะสมจากสารชีวโมเลกุลใน Exosome

5.หลังทำ Exosome รอยสิวและรอยแดงค่อย ๆ ดีขึ้น
ในบางราย การอักเสบที่ผิวลดลงทำให้รอยสิวหรือผิวที่เคยระคายเคืองดูดีขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ไม่ใช่การรักษาสิวโดยตรง แต่เป็นผลจากการที่ผิวกลับสู่สมดุลมากขึ้น

6.หลังทำ Exosome รูขุมขนอาจดูเล็กลงเมื่อผิวแน่นขึ้น
เมื่อผิวอิ่มฟูและโครงสร้างผิวดีขึ้น รูขุมขนอาจดูตื้นและเล็กลง ทำให้ผิวละเอียดขึ้น แต่ขึ้นกับสภาพผิวเดิมและการดูแลหลังทำร่วมด้วย

7.ผลลัพธ์หลังทำ Exosome จะค่อยเป็นค่อยไป
Exosome ทำงานแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยทั่วไป
• ผิวจะเริ่มดูดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์
• ผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นตามรอบการทำที่แพทย์แนะนำ
• การทำต่อเนื่องช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้อย่างเสถียรและเห็นการพัฒนาต่อเนื่อง

หัตถการ Exosome VS Rejuran ต่างกันอย่างไร

หัตถการ

Exosome

Rejuran

สารประกอบหลัก

โมเลกุลชีวภาพที่ได้จากกระบวนการของ Stem Cell เช่น growth factors, peptides, amino acids, coenzymes, hyaluronic acid

Polynucleotide (PN) บริสุทธิ์ สกัดจาก DNA ของปลาแซลมอน

บทบาทหลัก

ส่งเสริมการฟื้นบำรุงผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ

ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรง กระชับรูขุมขน และเสริมให้ผิวดูสดใส

เหมาะกับผู้ที่มีปัญหา

ริ้วรอย รอยสิว จุดด่างดำ ผิวแห้ง ผิวไม่เรียบเนียน ใต้ตาหมองคล้ำ ผิวโทรม

ผิวอ่อนล้า รูขุมขนกว้าง ริ้วรอยเล็ก ๆ หลุมสิวตื้น ผิวต้องการฟื้นฟูความแข็งแรง

ระยะเวลาเริ่มเห็นผล

ประมาณ 3 วัน ขึ้นกับสภาพผิวและจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำ

ประมาณ 3-5 วัน ขึ้นกับการตอบสนองของผิวแต่ละบุคคล

จำนวนครั้งที่แนะนำ

3-5 ครั้ง โดยช่วงแรกทำทุก 2 สัปดาห์ จากนั้นเว้น 1 เดือน หรือประเมินตามแพทย์

4 ครั้ง ห่างกัน 2-3 สัปดาห์ แล้วประเมินรายบุคคล

รวมทุกคำถามของหัตถการ Exosome
1.Exosome ต้องทำบ่อยแค่ไหน ?
ความถี่ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและแผนที่แพทย์ประเมิน สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง มักแนะนำให้ทำช่วงแรกประมาณ ทุก 2 สัปดาห์ 2-3 ครั้ง จากนั้นจึงค่อยเว้นช่วงตามสภาพผิว อาจเป็นทุก 1-3 เดือน หรือทำเมื่อผิวเริ่มล้า ทั้งนี้ผลลัพธ์แตกต่างในแต่ละบุคคล

2.Exosome เหมาะกับทุกสภาพผิวหรือไม่ ?
โดยทั่วไปสามารถใช้กับผิวได้หลายประเภท ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวหมองล้า เพราะ Exosome ทำงานผ่านการฟื้นบำรุงและส่งเสริมการทำงานของผิว แต่ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีประวัติแพ้สารสกัดจากพืช ควรให้แพทย์ประเมินก่อนทุกครั้ง

3.ทำไมฉีด Exosome แล้วสิวขึ้น ?
อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
• ผิวกำลังปรับตัวหลังหัตถการ
• แพ้ง่ายจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกัน
• ผิวอุดตันจากการใช้สกินแคร์บางชนิดหลังทำ หรือมีปัจจัยอื่น เช่น ฮอร์โมน ความเครียด การพักผ่อนน้อย

หากมีสิวขึ้นมากผิดปกติ ควรให้แพทย์ตรวจประเมินว่าเป็นการระคายเคืองชั่วคราวหรือปัจจัยอื่น เพื่อวางแผนดูแลที่เหมาะสมต่อไป

สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับ Exosome
Exosome คืออนุภาคขนาดเล็กที่ช่วยส่งสัญญาณให้เซลล์ผิวทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยทำหน้าที่ส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูผิวตามกระบวนการทำงานของร่างกาย ผิวจึงค่อย ๆ ดูชุ่มชื้น เรียบเนียน และสดใสขึ้นตามการตอบสนองของแต่ละบุคคล เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ไม่ว่าจะมีปัญหาผิวหมอง รูขุมขนกว้าง หรือรอยสิว แต่สิ่งสำคัญของการทำหัตถการ Exosome ต้องทำโดยแพทย์และทำที่คลินิกที่น่าเชื่อถือเท่านั้น

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
โปรโมชั่นต่างๆ
เรื่อง โปรแกรมดูแลผิวหน้า ที่คุณอาจสนใจ