15 วิธีลดไขมันต้นขา ภายใน 1 เดือน บอกลาต้นขาใหญ่จริงไหม
ลดไขมันต้นขา
15 วิธีลดไขมันต้นขา ภายใน 1 เดือน บอกลาต้นขาใหญ่
ต้นขาเป็นหนึ่งในจุดที่หลายคนกังวล เนื่องจากเป็นบริเวณที่ไขมันสะสมได้ง่าย และลดลงได้ยากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นไขมันต้นขาด้านใน ด้านนอก หรือเซลลูไลท์ ที่ทำให้ขาดูไม่เรียบเนียน หลายคนจึงอาจลองออกกำลังกายและควบคุมอาหาร แต่ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพราะการลดไขมันต้นขาให้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยทั้งการออกกำลังกายที่เหมาะสม การปรับโภชนาการ และการดูแลสุขภาพโดยรวม อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีนวัตกรรมทางการแพทย์ ที่ช่วยลดไขมันเฉพาะจุดและกระชับต้นขาได้อย่างรวดเร็ว
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังมองหาวิธีทำให้ขาเรียวขึ้นอย่างปลอดภัยและยั่งยืน บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของไขมันต้นขา และวิธีลดไขมันต้นขาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ไขมันต้นขาลดลง หมดกังวลกับปัญหาต้นขาใหญ่ และขาดูเรียวสวยขึ้นตามความต้องการ
ไขมันต้นขา คืออะไร
ไขมันต้นขา คือ ไขมันที่สะสมอยู่บริเวณต้นขา ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยเฉพาะในผู้หญิง เนื่องจากร่างกายมีแนวโน้มสะสมไขมันบริเวณสะโพกและต้นขามากกว่าส่วนอื่น ๆ ไขมันบริเวณนี้อาจทำให้รูปร่างดูใหญ่ขึ้น ใส่เสื้อผ้าไม่สวย หรือทำให้ขาดูไม่กระชับ นอกจากนี้ยังอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น เซลลูไลท์ ไขมันสะสม และภาวะบวมน้ำ
ประเภทของไขมันต้นขา
สำหรับประเภทของไขมันที่สะสมบริเวณต้นขา ต้องรู้จักประเภทของไขมันก่อน ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ
1.ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat)
• เป็นไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง สามารถบีบจับได้
• พบได้ทั่วไปในบริเวณสะโพก ต้นขา และก้น
• มักเป็นไขมันที่ลดได้ยาก ต้องใช้เวลาและการออกกำลังกายที่เหมาะสม
2.ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)
• ไขมันที่สะสมอยู่รอบอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ลำไส้ ตับ และอวัยวะในช่องท้อง
• ไขมันประเภทนี้มีผลต่อสุขภาพมากกว่า เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ เบาหวาน และภาวะอ้วน
ดังนั้นไขมันต้นขามักเป็นไขมันใต้ผิวหนัง ที่สะสมมานาน และอาจทำให้เกิดเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม
ไขมันต้นขา เกิดจากอะไร
1.พฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม
การบริโภคอาหารที่มีแคลอรีสูงโดยไม่ได้เผาผลาญออก จะทำให้ร่างกายสะสมไขมันส่วนเกินไว้ โดยเฉพาะที่ต้นขาและสะโพก ตัวอย่างของพฤติกรรมที่ส่งผลให้ไขมันสะสมคือ
• รับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เช่น อาหารทอด อาหารจานด่วน ขนมหวาน
• การบริโภคคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวมากเกินไป เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว น้ำอัดลม
• ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เพราะแอลกอฮอล์มีแคลอรีสูงและทำให้การเผาผลาญไขมันลดลง
2.ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง
การเผาผลาญพลังงาน (Metabolism) เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการสะสมไขมัน หากระบบเผาผลาญทำงานช้าลง ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง ส่งผลให้ไขมันสะสมง่ายขึ้น สาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง ได้แก่
• อายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง
• การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและการเผาผลาญทำงานผิดปกติ
• การอดอาหารเป็นเวลานาน หรือ รับประทานอาหารน้อยเกินไป ทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน และเผาผลาญไขมันได้น้อยลง
3.การใช้ชีวิตและกิจวัตรประจำวัน
พฤติกรรมการใช้ชีวิตมีผลโดยตรงต่อการสะสมไขมันที่ต้นขา เช่น
• นั่งนาน ๆ การใช้ชีวิตแบบนั่งทำงานนานๆ หรือขาดการเคลื่อนไหวร่างกายทำให้ไขมันสะสมง่ายขึ้น
• การไม่ออกกำลังกาย คนที่ไม่ออกกำลังกายจะไม่มีการเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน ทำให้ร่างกายเก็บสะสมเป็นไขมัน
• เดินหรือเคลื่อนไหวน้อย การขยับร่างกายน้อยลง เช่น ใช้รถยนต์แทนการเดิน หรือใช้ลิฟต์แทนบันได ทำให้ขาไม่ได้ใช้งาน และไขมันสะสมง่ายขึ้น
4.ฮอร์โมนและพันธุกรรม
ฮอร์โมนและพันธุกรรมมีบทบาทสำคัญต่อการสะสมไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง มีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันบริเวณต้นขาและสะโพกมากกว่าผู้ชาย
• พันธุกรรมที่มีแนวโน้มสะสมไขมันที่ต้นขา จะทำให้ลดไขมันบริเวณนี้ได้ยากขึ้น
• ฮอร์โมนบางชนิด เช่น ฮอร์โมนอินซูลินและคอร์ติซอล อาจมีผลต่อการสะสมไขมันในบางจุดของร่างกาย
5.ภาวะบวมน้ำและระบบไหลเวียนโลหิตไม่ดี
ในบางกรณีไขมันต้นขาอาจไม่ใช่ไขมันเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากภาวะบวมน้ำ หรือการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองที่ไม่ดี ซึ่งทำให้ขาดูใหญ่และอืดขึ้น
• การรับประทานโซเดียมมากเกินไป ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำและบวม
• ขาดการเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย ทำให้ระบบไหลเวียนไม่ดี ทำให้ขาบวมง่าย
• ดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้ร่างกายสะสมของเหลวไว้มากขึ้น
ไขมันต้นขา ส่งผลกระทบอะไรบ้าง
การมีไขมันสะสมบริเวณต้นขามากเกินไป ไม่เพียงแต่มีผลต่อรูปร่างและความมั่นใจ แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านรูปร่าง และด้านจิตใจ
1.ผลกระทบด้านสุขภาพ
ไขมันต้นขาอาจส่งผลต่อสุขภาพในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะเมื่อสะสมในปริมาณมากหรือเกิดร่วมกับภาวะไขมันส่วนเกินในร่างกาย
1.1 เสี่ยงต่อโรคอ้วนและโรคที่เกี่ยวข้อง
• การมีไขมันสะสมในต้นขามากอาจเป็นสัญญาณของภาวะไขมันส่วนเกิน ซึ่งอาจนำไปสู่โรคอ้วน (Obesity) และโรคเรื้อรัง เช่น
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2
- ไขมันในเลือดสูง
- ความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
• ไขมันสะสมมากเกินไปอาจลดความไวของอินซูลิน ทำให้เสี่ยงต่อภาวะดื้อต่ออินซูลิน
1.2 ปัญหาการไหลเวียนโลหิตและเส้นเลือดขอด
• การสะสมของไขมันบริเวณต้นขา อาจส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดหรืออาการขาบวม
• การนั่งหรือยืนนาน ๆ โดยไม่เคลื่อนไหว อาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี และเกิดภาวะบวมน้ำที่ต้นขาและน่อง
1.3 อาการปวดข้อและปัญหากระดูกสันหลัง
• การมีน้ำหนักตัวมากหรือไขมันสะสมที่ต้นขาเยอะ อาจเพิ่มแรงกดทับที่ข้อเข่าและข้อสะโพก ทำให้เกิดอาการปวดข้อ และเพิ่มความเสี่ยงของโรคข้อเข่าเสื่อม
• ไขมันต้นขาที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อสมดุลของร่างกาย ทำให้เดินหรือวิ่งได้ลำบาก และอาจเพิ่มแรงกดดันที่หลังและกระดูกสันหลัง
1.4 ภาวะเซลลูไลท์และผิวเปลือกส้ม
• ไขมันต้นขามักทำให้เกิด เซลลูไลท์ (Cellulite) หรือผิวเปลือกส้ม ซึ่งเกิดจากการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังและการไหลเวียนของน้ำเหลืองที่ไม่ดี
• เซลลูไลท์มักทำให้ผิวดูเป็นลอนคลื่นและไม่เรียบเนียน แม้ในคนที่น้ำหนักไม่มากก็ตาม
2.ผลกระทบต่อรูปร่างและบุคลิกภาพ
2.1 รูปร่างดูใหญ่ขึ้น ใส่เสื้อผ้ายาก
• ไขมันต้นขาส่งผลต่อสัดส่วนร่างกาย ทำให้ขาดูใหญ่ ใส่เสื้อผ้าฟิตหรือติดขัด โดยเฉพาะกางเกงขาเดฟ กางเกงยีนส์ หรือกระโปรงทรงรัดรูป
• หลายคนอาจต้องเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมเพื่อลดความเด่นของต้นขา เช่น ใส่กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงที่ช่วยพรางต้นขา
2.2 เคลื่อนไหวได้ช้าลง และออกกำลังกายยากขึ้น
• การมีไขมันสะสมที่ต้นขามาก อาจทำให้เคลื่อนไหวช้าลง เช่น วิ่งได้ไม่เร็ว เดินขึ้นบันไดลำบาก
• ทำให้การออกกำลังกายบางประเภท เช่น วิ่ง กระโดด หรือเล่นกีฬาที่ต้องใช้ขา มีประสิทธิภาพลดลง
3.ผลกระทบต่อจิตใจและความมั่นใจในตัวเอง
3.1 ขาดความมั่นใจในรูปร่างของตัวเอง
• หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องใส่กางเกงขาสั้น หรือชุดที่เผยให้เห็นต้นขา
• อาจรู้สึกเขินอายเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ หรือเลี่ยงการถ่ายรูปเต็มตัว
3.2 ความเครียดและความกดดันทางสังคม
• สื่อและมาตรฐานความงามในสังคมมักส่งผลต่อความรู้สึกของคนที่มีไขมันต้นขา ทำให้รู้สึกว่ารูปร่างตัวเองไม่ตรงตามมาตรฐาน
• การถูกเปรียบเทียบหรือโดนวิจารณ์อาจทำให้เกิดความเครียดและกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง ส่งผลให้รู้สึกไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
15 วิธีลดไขมันต้นขา ให้ได้ผลดี ขาเรียวสวย
หากต้องการลดไขมันต้นขาและทำให้ขาดูเรียวขึ้น ควรทำวิธีลดไขมันต้นขาที่ถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งวิธีลดไขมันต้นขามีหลากหลายวิธี ในบทความนี้ขอแนะนำวิธีลดไขมันต้นขา 10 วิธีต่อไปนี้ ทั้งนวัตกรรมยกกระชับสลายไขมันและแบบธรรมชาติ เพื่อช่วยให้ลดไขมันต้นขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1.วิธีลดไขมันต้นขาด้วย CoolSculpting
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Coolsculpting
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย CoolSculpting ใช้เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น Cryolipolysis ส่งความเย็น -11°C ไปยังเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันแข็งตัวและตายไป จากนั้นร่างกายจะกำจัดออกตามธรรมชาติ
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย CoolSculpting ลดไขมันเฉพาะจุดได้ เช่น ต้นขาด้านใน-นอก สะโพก หน้าท้อง ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
ผลลัพธ์ของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย CoolSculpting
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย CoolSculpting เห็นผลใน 6-12 สัปดาห์
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย CoolSculpting ลดไขมันได้ประมาณ 20-25% ในจุดที่ทำ
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย CoolSculpting เหมาะกับใคร
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย CoolSculpting เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมที่ต้นขา แต่ไม่ต้องการผ่าตัด
2.วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Morpheus Pro
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Morpheus Pro
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Morpheus Pro เป็นเทคโนโลยี Microneedling + Radiofrequency (RF)
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Morpheus Pro ใช้เข็มเล็กๆ ฝังลงใต้ผิว แล้วปล่อยคลื่นวิทยุเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและสลายไขมัน
ผลลัพธ์ของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Morpheus Pro
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Morpheus Pro ลดเซลลูไลท์ กระชับผิว และช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Morpheus Pro ลดไขมันต้นขาและทำให้ขาดูเรียวขึ้น
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Morpheus Pro เห็นผลชัดเจนใน 2-3 เดือน
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Morpheus Pro เหมาะกับใคร
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Morpheus Pro เหมาะกับคนที่มีปัญหาไขมันสะสม + ผิวหย่อนคล้อย
3.วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Emsculpt
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Emsculpt
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Emsculpt ใช้พลังงาน HIFEM (High-Intensity Focused Electromagnetic Energy) กระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัว 20,000 ครั้งใน 30 นาที
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Emsculpt เผาผลาญไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้ขากระชับขึ้น
ผลลัพธ์ของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Emsculpt
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Emsculpt ลดไขมันต้นขาได้ 16%
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Emsculpt เพิ่มกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น 18%
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Emsculpt เห็นผลหลังทำ 2-4 สัปดาห์
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Emsculpt เหมาะกับใคร
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Emsculpt เหมาะกับคนที่อยากลดไขมันต้นขาและสร้างกล้ามเนื้อกระชับ
4.วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba ใช้คลื่นวิทยุ (RF) กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและระบบน้ำเหลือง ช่วยลดไขมันและเซลลูไลท์
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba เร่งกระบวนการเผาผลาญไขมัน และช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย
ผลลัพธ์ของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba ลดไขมันต้นขา + ลดอาการบวมน้ำ
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba ทำให้ขาเรียวขึ้นและผิวเนียนขึ้น
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba เห็นผลใน 3-5 ครั้ง
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba เหมาะกับใคร
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมและเซลลูไลท์
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Indiba เหมาะกับคนที่ขาบวมจากระบบไหลเวียนไม่ดี
5.วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Exilis Elite
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Exilis Elite
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Exilis Elite ใช้คลื่นวิทยุ RF + Ultrasound กระตุ้นการสลายไขมันและกระชับผิว
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Exilis Elite ช่วยให้ขาดูเฟิร์มขึ้น และลดไขมันสะสมที่ต้นขา
ผลลัพธ์ของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Exilis Elite
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Exilis Elite ลดไขมันต้นขา 5-10%
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Exilis Elite ลดเซลลูไลท์และกระชับผิว
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Exilis Elite เห็นผลใน 4-6 สัปดาห์
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Exilis Elite เหมาะกับใคร
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Exilis Elite เหมาะกับคนที่ต้องการกระชับผิวและลดไขมันต้นขา
6.วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Oligio Body
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Oligio Body
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Oligio Body ใช้คลื่นวิทยุ RF ปล่อยพลังงานความร้อนเข้าไปลึกถึงชั้นไขมันและคอลลาเจน
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Oligio Body กระตุ้นการเผาผลาญไขมันและทำให้ผิวกระชับขึ้น
ผลลัพธ์ของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Oligio Body
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Oligio Body ลดไขมันต้นขา และทำให้ขากระชับขึ้น
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Oligio Body ลดเซลลูไลท์และทำให้ผิวเรียบเนียน
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Oligio Body เห็นผลหลังทำ 1-2 เดือน
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Oligio Body เหมาะกับใคร
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Oligio Body เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมัน + กระชับต้นขาไปพร้อมกัน
7.วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Thermage Body
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Thermage Body
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Thermage Body ใช้ Monopolar RF ส่งคลื่นความร้อนลึกถึงชั้นไขมัน กระตุ้นคอลลาเจนและสลายไขมัน
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Thermage Body ไม่ต้องผ่าตัด แต่ช่วยให้ขากระชับขึ้นได้
ผลลัพธ์ของวิธีลดไขมันต้นขาด้วย Thermage Body
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Thermage Body ลดไขมันต้นขา + ลดความหย่อนคล้อย
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Thermage Body ผิวเฟิร์มขึ้นใน 2-3 เดือน
• วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Thermage Body ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Thermage Body เหมาะกับใคร
วิธีลดไขมันต้นขาด้วย Thermage Body เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันต้นขาแบบไม่ต้องผ่าตัด
8.วิธีลดไขมันต้นขาด้วยการทำคาร์ดิโอ
วิธีลดไขมันต้นขาด้วยการทำคาร์ดิโอช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันโดยรวม ซึ่งช่วยลดไขมันต้นขาไปด้วย
แนะนำการคาร์ดิโอที่เหมาะกับการลดไขมันต้นขา
• เดินเร็ว (Brisk Walking) 30-45 นาที/วัน เผาผลาญไขมันแต่ไม่ทำให้ขากล้ามเนื้อใหญ่
• วิ่งจ๊อกกิ้ง (Jogging) 20-30 นาที ช่วยลดไขมันต้นขาและกระชับกล้ามเนื้อ
• ปั่นจักรยานเบาๆ 30 นาทีขึ้นไป ใช้แรงต้านน้อยเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อขาโต
• ว่ายน้ำ การออกกำลังกายในน้ำช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี และช่วยลดแรงกดที่ขา
หลีกเลี่ยงการวิ่งสปรินท์ (Sprint) หรือปั่นจักรยานหนัก ๆ เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อขาใหญ่ขึ้นแทนการลดไขมันต้นขา
9.วิธีลดไขมันต้นขาด้วยการทำ HIIT
วิธีลดไขมันต้นขาด้วยการทำ HIIT (High-Intensity Interval Training) เป็นการออกกำลังกายแบบ หนักสลับเบา ซึ่งช่วยเผาผลาญไขมันได้เร็วขึ้น และช่วยลดไขมันต้นขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างท่าออกกำลังกายแบบ HIIT ที่ช่วยลดไขมันต้นขา
• Squat Jump 30 วินาที กระชับต้นขา
• Lunges 30 วินาที ลดไขมันและสร้างกล้ามเนื้อให้กระชับ
• Mountain Climbers 30 วินาที เผาผลาญไขมันทั้งตัว
• พัก 15 วินาที
• ทำวน 3-5 รอบ
ข้อดีของการออกกำลังกายแบบ HIIT ที่ช่วยลดไขมันต้นขา
• เผาผลาญไขมันแม้หลังออกกำลังกายเสร็จ
• ใช้เวลาเพียง 15-30 นาที แต่ได้ผลดี
10.ลดการกินแป้งและน้ำตาล
วิธีลดไขมันต้นขาด้วยการลดการกินแป้งและน้ำตาล เป็นการลดไขมันที่ต้องควบคุมอาหาร โดยเฉพาะแป้งขัดสีและน้ำตาล ที่เป็นตัวการทำให้ไขมันสะสมที่ต้นขา ควรเลือกกินแป้งเชิงซ้อนแทนแป้งขัดสี เพื่อช่วยลดไขมันต้นขา เช่น
• ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต
• มันเทศ ควินัว
• ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี
11.การกินโปรตีนให้เพียงพอ
วิธีลดไขมันต้นขาด้วยการกินโปรตีนให้เพียงพอ โปรตีนช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น แหล่งโปรตีนที่ดีต่อร่างกายที่ช่วยลดไขมันต้นขา อย่างเช่น
• อกไก่ ปลา แซลมอน
• ไข่ต้ม ไข่ลวก
• ถั่ว ธัญพืช เช่น อัลมอนด์ วอลนัท
• โปรตีนจากพืช เช่น เต้าหู้
12.หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้บวมน้ำ
วิธีลดไขมันต้นขาด้วยการเลี่ยงอาหารที่ทำให้บวมน้ำ บางครั้งขาใหญ่ไม่ได้เกิดจากไขมันเสมอไป แต่เกิดจากภาวะบวมน้ำ
อาหารที่ทำให้บวมน้ำและควรหลีกเลี่ยง เช่น
• อาหารเค็ม เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแปรรูป
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• กินโซเดียมมากเกินไป
อาหารที่ช่วยลดบวมน้ำ เช่น
• กล้วย อะโวคาโด (โพแทสเซียมช่วยขับน้ำ)
• แตงกวา แตงโม (ช่วยขับปัสสาวะ)
• ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย
13.การยืดกล้ามเนื้อและทำพิลาทิส
วิธีลดไขมันต้นขาด้วยการยืดกล้ามเนื้อและทำพิลาทิส ช่วยให้ขาดูเรียวและกระชับขึ้น แนะนำท่าโยคะและพิลาทิสช่วยลดไขมันต้นขาดังนี้
• Butterfly Stretch ยืดต้นขาด้านใน
• Leg Raises กระชับต้นขา
• Side Leg Lift ลดไขมันสะโพกและต้นขา
14.หลีกเลี่ยงออกกำลังกายที่ทำให้ขากล้ามโต
วิธีลดไขมันต้นขาด้วยการหลีกเลี่ยงออกกำลังกายที่ทำให้ขากล้ามโต บางคนพยายามออกกำลังกายเพื่อลดขา แต่กลับทำให้ขาดูกล้ามเนื้อใหญ่ขึ้นแทน
• ควรหลีกเลี่ยง วิ่งขึ้นบันได สควอทหนัก ๆ และการยกเวทหนัก ๆ ที่ขา
• แนะนำให้เลือก เดินเร็ว วิ่งเบา ๆ ว่ายน้ำ หรือพิลาทิส
15.การนวดขาและยกขาสูงเพื่อช่วยลดบวมน้ำ
วิธีลดไขมันต้นขาด้วยการนวดขาและยกขาสูง ช่วยให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนดีขึ้น ลดการบวมน้ำ และทำให้ขาดูเรียวขึ้น
วิธีนวดลดไขมันต้นขา
• ใช้ครีมนวดหรือน้ำมันมะพร้าว
• นวดจากข้อเท้าขึ้นไปถึงต้นขา
• ทำวันละ 10-15 นาที
ยกขาสูงก่อนนอนลดไขมันต้นขา
• นอนหงาย แล้วยกขาพิงกำแพง 15-20 นาที
• ช่วยลดอาการขาบวมและไหลเวียนเลือดดีขึ้น
สรุปนวัตกรรมลดไขมันต้นขา แบบไหนดี
นวัตกรรมลดไขมันต้นขา |
เทคโนโลยีลดไขมันต้นขา |
ผลลัพธ์ลดไขมันต้นขาที่เห็นได้ |
ข้อดีในการช่วยลดไขมันต้นขา |
---|---|---|---|
CoolSculpting |
ความเย็น (-11°C) สลายไขมัน |
6-12 สัปดาห์ |
ลดไขมันเฉพาะจุด |
Morpheus Pro |
คลื่น RF + Microneedling |
2-3 เดือน |
ลดเซลลูไลท์ + กระชับผิว |
Emsculpt |
คลื่นแม่เหล็ก กระตุ้นกล้ามเนื้อ |
2-4 สัปดาห์ |
สร้างกล้ามเนื้อ + กระชับต้นขา |
Indiba |
คลื่น RF กระตุ้นไหลเวียน |
3-5 ครั้ง |
ลดบวมน้ำ + เซลลูไลท์ |
Exilis Elite |
คลื่น RF + Ultrasound |
4-6 สัปดาห์ |
ลดไขมัน + กระชับผิว |
Oligio Body |
คลื่น RF |
1-2 เดือน |
กระชับต้นขา + ลดเซลลูไลท์ |
Thermage Body |
Monopolar RF |
2-3 เดือน |
ลดไขมัน + กระชับผิว |
คำแนะนำสำหรับการลดไขมันต้นขาด้วยนวัตกรรมยกกระชับสลายไขมัน
• ถ้าเน้นลดไขมัน แนะนำทำ CoolSculpting, Exilis Elite
• ถ้าเน้นกระชับต้นขา แนะนำทำ Morpheus Pro, Thermage Body
• ถ้าขาใหญ่มีกล้ามเนื้อ แนะนำทำ Emsculpt
• ถ้าขาบวมและเซลลูไลท์เยอะ แนะนำทำ Indiba, Oligio Body
เลือกให้เหมาะกับปัญหาของคุณ แล้วทำควบคู่กับการออกกำลังกายและคุมอาหาร จะได้ผลดีที่สุด
ใครที่เสี่ยงมีไขมันต้นขาได้ง่ายบ้าง
• ผู้หญิง โดยเฉพาะช่วงวัยเจริญพันธุ์ เนื่องจากร่างกายมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง
• ผู้ที่นั่งทำงานนาน ๆ มีพฤติกรรมเนือยนิ่ง โดยไม่ได้เคลื่อนไหว
• คนที่รับประทานอาหารแคลอรีสูง แต่ไม่ได้ออกกำลังกาย
• ผู้ที่มีพันธุกรรมไขมันสะสมบริเวณต้นขาและสะโพก
ผอมแต่ขาใหญ่เกิดจากอะไร
หลายคนที่มีรูปร่างผอมแต่กลับมีต้นขาใหญ่หรือขาไม่เรียวสมส่วน อาจสงสัยว่าเกิดจากอะไร ทำไมถึงมีไขมันสะสมที่ขาทั้งที่ไม่ได้อ้วน ? ความจริงแล้วปัญหานี้เกิดจากหลายปัจจัยทั้ง พันธุกรรม ไขมันสะสมเฉพาะส่วน กล้ามเนื้อขาที่ใหญ่ และภาวะบวมน้ำ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเดี่ยว ๆ หรือเกิดร่วมกันก็ได้
1.พันธุกรรมและโครงสร้างร่างกาย
• บางคนมีพันธุกรรมที่ทำให้ ไขมันสะสมที่ต้นขาและสะโพกได้ง่าย แม้ว่ารูปร่างโดยรวมจะผอม
• โครงสร้างของร่างกาย เช่น กระดูกเชิงกรานกว้างหรือต้นขากระดูกใหญ่ อาจทำให้ขาดูใหญ่ขึ้น แม้ว่าจะไม่มีไขมันมากนัก
• พันธุกรรมมีผลต่อสัดส่วนของไขมันในร่างกาย เช่น บางคนสะสมไขมันที่ขาและสะโพกมากกว่าส่วนอื่น ๆ
2.ไขมันสะสมเฉพาะจุด
• คนที่รูปร่างผอมแต่ขาใหญ่ อาจมีไขมันสะสมเฉพาะส่วน โดยเฉพาะ ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ซึ่งลดได้ยากกว่าที่อื่น
• แม้จะไม่มีไขมันมากบริเวณหน้าท้องหรือแขน แต่หากมีเปอร์เซ็นต์ไขมันร่างกาย (Body Fat Percentage) สูงกว่าปกติ ไขมันอาจไปสะสมที่ขาแทน
• การลดไขมันเฉพาะจุดทำได้ยาก ต้องใช้วิธีการลดไขมันทั้งร่างกายร่วมกับการออกกำลังกายเฉพาะส่วน
3.กล้ามเนื้อขาใหญ่
• คนที่เคยออกกำลังกายหนักโดยใช้ขามาก เช่น วิ่ง กระโดดเชือก ปั่นจักรยาน หรือเวทเทรนนิ่งที่เน้นขา อาจทำให้กล้ามเนื้อขาใหญ่ขึ้น
• กล้ามเนื้อบริเวณต้นขาด้านหน้าและน่องอาจขยายตัว ทำให้ขาดูใหญ่ขึ้นแม้ว่าจะไม่มีไขมัน
• บางคนมีโครงสร้างกล้ามเนื้อขาใหญ่อยู่แล้ว ทำให้ขาดูตันแม้ว่าจะผอม
4.ภาวะบวมน้ำ
• บางคนขาดูใหญ่เพราะร่างกายกักเก็บน้ำไว้มากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการบวมโดยเฉพาะที่ขา
• การยืนหรือนั่งนานเกินไป ทำให้ของเหลวสะสมบริเวณขาลดลงยาก
• การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองที่ไม่ดี อาจทำให้เกิดภาวะขาบวมเรื้อรัง
• การบริโภคโซเดียมสูง (กินเค็ม) ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ทำให้ขาดูอวบขึ้น
5.การใช้ชีวิตและพฤติกรรมที่ทำให้ขาใหญ่
พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่างอาจทำให้ขาดูใหญ่ขึ้นโดยไม่รู้ตัว เช่น
5.1 นั่งนานเกินไป
• การนั่งทำงานเป็นเวลานานโดยไม่ขยับตัว อาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีและเกิดการสะสมของไขมันที่ต้นขา
• นั่งไขว่ห้างบ่อย ๆ อาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีและส่งผลให้ขาดูใหญ่ขึ้น
5.2 การออกกำลังกายผิดวิธี
• การออกกำลังกายที่ใช้แรงกดดันที่ขามาก เช่น วิ่งหนักๆ หรือเวทเทรนนิ่งที่เน้นขา อาจทำให้กล้ามเนื้อขาใหญ่ขึ้น
• ควรเลือกออกกำลังกายที่ช่วยให้ขาดูเรียวขึ้น เช่น พิลาทิส ว่ายน้ำ หรือโยคะ
5.3 ท่าทางการเดินและยืน
• การเดินลงน้ำหนักผิดจุด หรือยืนผิดท่า เช่น ยืนถ่ายน้ำหนักไปที่ขาข้างใดข้างหนึ่ง อาจทำให้กล้ามเนื้อขาโตขึ้นไม่เท่ากัน
• ควรฝึกยืนและเดินให้ถูกต้อง เพื่อกระจายน้ำหนักให้สมดุล
ทำไมไขมันต้นขาถึงลดได้ยาก
ไขมันต้นขาเป็นหนึ่งในจุดที่ลดได้ยากที่สุดของร่างกาย โดยเฉพาะการลดไขมันต้นขาในผู้หญิง เนื่องจากร่างกายมีแนวโน้มสะสมไขมันที่บริเวณนี้มากกว่าส่วนอื่น ๆ หลายคนออกกำลังกายและควบคุมอาหารอย่างดี แต่ไขมันที่ต้นขายังคงอยู่ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ลดไขมันต้นขาได้ยาก มีดังนี้
1.ไขมันต้นขาเป็นไขมันที่สะสมเฉพาะจุด
• ร่างกายมีแนวโน้มสะสมไขมันในบางจุดมากกว่าส่วนอื่นๆ เช่น สะโพก ต้นขา และหน้าท้อง
• ไขมันต้นขาส่วนใหญ่เป็น ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ซึ่งลดได้ยากกว่าพวกไขมันในช่องท้อง
• แม้จะออกกำลังกายและลดน้ำหนัก ไขมันบริเวณนี้ก็อาจจะเป็นส่วนสุดท้ายที่ลดลง
• ไขมันต้นขาเป็น ไขมันดื้อ ที่ร่างกายเก็บไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน จึงลดได้ช้ากว่าส่วนอื่น ๆ
2.ฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้ไขมันสะสมที่ต้นขา
• ผู้หญิงมีแนวโน้มสะสมไขมันที่สะโพกและต้นขา มากกว่าผู้ชาย เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)
• เอสโตรเจนส่งเสริมให้ไขมันสะสมในบริเวณสะโพก ต้นขา และก้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์
• แม้ว่าผู้หญิงจะลดน้ำหนัก แต่ร่างกายของผู้หญิงก็ยังพยายามรักษาไขมันบริเวณนี้ไว้
• หลังหมดประจำเดือน เอสโตรเจนลดลง ไขมันอาจเคลื่อนจากสะโพกและต้นขาไปสะสมที่หน้าท้องแทน
3.ระบบเผาผลาญไขมันทำงานช้าลง
• คนที่มีระบบเผาผลาญต่ำ (Slow Metabolism) อาจเผาผลาญไขมันได้ช้ากว่าปกติ
• อายุที่มากขึ้นทำให้ระบบเผาผลาญลดลง ส่งผลให้ไขมันที่สะสมอยู่ลดลงยากขึ้น
• การกินอาหารน้อยเกินไป หรืออดอาหารบ่อย ๆ อาจทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน และลดไขมันได้น้อยลง
4.ไขมันต้นขาลดไม่ได้ด้วยการออกกำลังกายเฉพาะส่วน
• หลายคนเข้าใจผิดว่า การทำสควอทหรือออกกำลังกายเฉพาะต้นขาจะช่วยลดไขมันต้นขา
• แต่ความจริงคือ ร่างกายลดไขมันจากทั่วร่างกาย ไม่สามารถเลือกลดเฉพาะจุดได้
• การออกกำลังกายเฉพาะจุดอาจช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อขา แต่ไม่สามารถเผาผลาญไขมันเฉพาะบริเวณนั้นได้
5.การบวมน้ำและการไหลเวียนโลหิตไม่ดี
• บางครั้งขาใหญ่อาจไม่ได้เกิดจากไขมันเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากภาวะบวมน้ำ (Water Retention)
• การนั่งนานๆ หรือขาดการเคลื่อนไหว อาจทำให้ของเหลวสะสมที่ขา ทำให้ขาดูบวมและใหญ่ขึ้น
• การไหลเวียนของน้ำเหลืองที่ไม่ดี อาจทำให้เกิดเซลลูไลท์และทำให้ขาดูไม่เรียบเนียน
6.การออกกำลังกายผิดวิธี ทำให้กล้ามเนื้อขาใหญ่ขึ้น
• บางคนพยายามลดไขมันต้นขาแต่กลับรู้สึกว่าขาใหญ่ขึ้น
• สาเหตุอาจเป็นเพราะการออกกำลังกายที่ทำให้กล้ามเนื้อขาโตขึ้น เช่น
- การวิ่งระยะสั้น หรือวิ่งขึ้นลงบันไดมากๆ
- การทำสควอทหนักๆ หรือยกเวทขาหนักเกินไป
- ปั่นจักรยานด้วยแรงต้านมากเกินไป
7.การลดไขมันต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ
• ไขมันต้นขาเป็นจุดที่ร่างกายมักเก็บไว้ใช้เป็นพลังงานสำรองสุดท้าย
• แม้ว่าจะออกกำลังกายและควบคุมอาหารดีแล้ว แต่การลดไขมันต้องใช้เวลา
• หากน้ำหนักลดเร็วเกินไป อาจทำให้ร่างกายเผาผลาญกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน
สรุปเกี่ยวกับการลดไขมันต้นขา
สรุปว่าการลดไขมันต้นขาอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากเป็นบริเวณที่ร่างกายมักสะสมไขมันและลดได้ยากกว่าส่วนอื่น ๆ อย่างไรก็ตามมีหลายวิธีที่ช่วยลดไขมันต้นขา เช่น การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร และการดูแลสุขภาพโดยรวม จะช่วยให้ขาดูเรียวกระชับขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากต้องการผลลัพธ์ลดไขมันต้นขาที่รวดเร็วและเห็นผลชัดเจน นวัตกรรมด้านความงาม เช่น CoolSculpting, Morpheus Pro, Emsculpt, Thermage Body และ Exilis Elite ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยสลายไขมัน กระชับต้นขา และลดเซลลูไลท์ ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังช่วยปรับรูปร่างให้สมส่วนยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจลดไขมันต้นขา ด้วยนวัตกรรมยกกระชับสลายไขมัน ที่ทันสมัยและปลอดภัย สามารถนัดหมายปรึกษาแพทย์ได้ที่ Romrawin Clinic ยินดีให้บริการ