Sculpsure คืออะไร เลเซอร์สลายไขมันช่วยกำจัดไขมันได้จริงหรือไม่

Sculpsure คืออะไร กำจัดไขมันได้จริงหรือไม่
ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการลดน้ำหนัก แต่ขี้เกียจออกกำลังกายบางทีหัตถการความงามอย่าง Sculpsure อาจเป็นไอเท็มลับช่วยลดไขมันแบบทันใจ

รวมหัวข้อ Sculpsure กำจัดไขมัน
• Sculpsure คืออะไรมีหลักการทำงานอย่างไร
• Sculpsure ปลอดภัยหรือไม่
• จุดเด่นของ SculpSure ในการลดไขมัน
• เทคโนโลยีของ SculpSure ต่างจากวิธีลดไขมันอื่นอย่างไร
• SculpSure สามารถใช้กับบริเวณไหนของร่างกายได้บ้าง
• SculpSure เหมาะกับใคร
• ใครควรหลีกเลี่ยงการทำ SculpSure
• ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจาก SculpSure
• SculpSure ส่งผลต่อสุขภาพหรือระบบเผาผลาญหรือไม่
• SculpSure ให้ผลลัพธ์ถาวรหรือไม่
• ต้องทำ SculpSure กี่ครั้งถึงจะได้ผล
• สรุปทุกเรื่องของ SculpSure
• คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับเทคโนโลยี SculpSure

Sculpsure คืออะไรมีหลักการทำงานอย่างไร
SculpSure เป็นเทคโนโลยีกำจัดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัดที่ใช้ เลเซอร์ไดโอดพลังงานสูง (High-Powered Diode Laser, 1060 nm) ในการทำลายเซลล์ไขมันอย่างถาวร กระบวนการนี้เรียกว่า "Non-Invasive Laser Lipolysis" ซึ่งหมายถึงการใช้พลังงานแสงเลเซอร์เพื่อละลายไขมันโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด

หลักการทำงานของ SculpSure ในการกำจัดไขมัน
1.การทำงานของ SculpSure คือการปล่อยพลังงานเลเซอร์เข้าสู่ชั้นไขมัน (Laser Energy Absorption)
SculpSure ใช้ เลเซอร์ความยาวคลื่น 1060 นาโนเมตร (nm) ที่สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังและถูกดูดซับโดยเซลล์ไขมันโดยเฉพาะ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อหรืออวัยวะข้างเคียง

2.การเพิ่มอุณหภูมิและทำลายเซลล์ไขมัน (Thermal Lipolysis)
เมื่อเลเซอร์ถูกดูดซับ ไขมันจะถูกให้ความร้อนจนมีอุณหภูมิอยู่ในช่วง 42-47°C ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้ เยื่อหุ้มเซลล์ไขมัน (Adipocyte Membrane) แตกตัว โดยไม่ส่งผลเสียต่อเซลล์ผิวหนังหรือเส้นประสาทรอบๆ

3.กระบวนการกำจัดไขมันตามธรรมชาติ (Apoptosis & Lymphatic Drainage)
หลังจากเซลล์ไขมันถูกทำลาย ร่างกายจะกำจัดซากเซลล์เหล่านี้ผ่าน ระบบน้ำเหลือง (Lymphatic System) ซึ่งเป็นกระบวนการทางชีวภาพที่เรียกว่า Apoptosis (การตายของเซลล์แบบโปรแกรม) โดยเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะถูกกำจัดออกจากร่างกายภายใน 8-12 สัปดาห์

4.ผลลัพธ์ที่ได้หลังจาก SculpSure
• ลดไขมันเฉพาะจุดได้ถึง 24% ต่อบริเวณที่ทำการรักษา
• ผลลัพธ์เป็นแบบ ถาวร เพราะเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะไม่สามารถกลับมาใหม่ได้
• ไม่มีแผล ไม่มีระยะพักฟื้น (No Downtime) สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
• สามารถใช้ได้กับบริเวณ หน้าท้อง เอว ต้นขา ใต้คาง และแผ่นหลัง

ข้อได้เปรียบของ SculpSure เมื่อเทียบกับวิธีอื่น
• เทคโนโลยีของ SculpSure ไม่ต้องผ่าตัด - ต่างจากการดูดไขมันที่ต้องใช้มีดและพักฟื้น
• การทำเทคโนโลยีของ SculpSureไม่มีอาการเจ็บปวดรุนแรง - แค่รู้สึกอุ่นๆ และอาจมีการรัดตัวเล็กน้อย
• เทคโนโลยีของ SculpSure ช่วยกระชับผิวไปพร้อมกัน - พลังงานเลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อย
• เทคโนโลยีของ SculpSure เหมาะกับทุกสีผิว - ต่างจากเลเซอร์บางชนิดที่อาจใช้ได้เฉพาะกับบางโทนสีผิว

SculpSure จึงเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดไขมันแบบไม่รุกล้ำ และเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการลดสัดส่วนโดยไม่ต้องศัลยกรรม

แหล่งอ้างอิง
Atlanta Liposuction Specialty Clinic.(2024, September 1). SculpSure: Mechanism, Benefits, and Effectiveness Explained.Atlanta Liposuction Specialty Clinic.Retrieved from https://www.atlantaliposuction.com/blog/sculpsure-mechanism-explained/

Sculpsure ปลอดภัยหรือไม่
SculpSure เป็นเทคโนโลยี เลเซอร์ไดโอด 1060 นาโนเมตร (nm) ที่ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (U.S.FDA) สำหรับการกำจัดไขมันเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด

ความปลอดภัยของ SculpSure ได้รับการประเมินผ่านงานวิจัยทางคลินิกหลายฉบับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระบวนการของ SculpSure นี้มีความเสี่ยงต่ำและไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย

ความปลอดภัยของ SculpSure ตามมาตรฐานทางการแพทย์
SculpSure ผ่านการทดสอบทางคลินิกและได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการแพทย์หลายแห่ง ได้แก่

• U.S.FDA (Food and Drug Administration) - รับรองว่า SculpSure มีประสิทธิภาพในการลดไขมันและปลอดภัยต่อร่างกาย
• Health Canada & European CE Mark - SculpSure ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลสำหรับการรักษาทางการแพทย์
• Clinical Trials & Peer-Reviewed Studies - มีการศึกษาหลายฉบับที่ยืนยันว่า SculpSure ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงและสามารถใช้ได้กับทุกสีผิว

การศึกษาทางคลินิกของ Brightman et al.(2016) ตีพิมพ์ใน Lasers in Surgery and Medicine ระบุว่า SculpSure สามารถลดไขมันได้ถึง 24% ต่อบริเวณที่ทำการรักษา โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง

จุดเด่นของ SculpSure ในการลดไขมัน
SculpSure เป็นนวัตกรรมการกำจัดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัดที่ใช้ เลเซอร์ไดโอดความยาวคลื่น 1060 นาโนเมตร (nm) เพื่อทำลายเซลล์ไขมันโดยเฉพาะ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง เทคโนโลยีของ SculpSure ได้รับการยอมรับในแวดวงการแพทย์และความงาม เนื่องจากสามารถลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่มีระยะพักฟื้น จุดเด่นของ SculpSure มีดังนี้

จุดเด่นของ SculpSure ในการลดไขมัน
1.SculpSure มีเทคโนโลยีเลเซอร์ 1060 นาโนเมตรที่มีประสิทธิภาพสูง
• ใช้พลังงาน เลเซอร์ไดโอด (1060 nm) ที่สามารถเจาะเข้าสู่ชั้นไขมันโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง
• ทำให้เซลล์ไขมันเข้าสู่กระบวนการ Apoptosis (การตายของเซลล์แบบโปรแกรม) ซึ่งถูกกำจัดออกทางระบบน้ำเหลือง
• กระบวนการทำลายไขมันมีความ แม่นยำและถาวร

2.SculpSure สามารถกำจัดไขมันได้อย่างถาวร
• เซลล์ไขมันที่ถูกกำจัด จะไม่กลับมาใหม่ เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างเซลล์ไขมันใหม่ขึ้นทดแทนได้
• ลดปริมาณไขมันเฉพาะจุดได้ถึง 24% ต่อการรักษา 1 ครั้ง ตามผลวิจัยทางคลินิก

3.SculpSure ไม่มีแผล ไม่มีระยะพักฟื้น
• เป็น Non-Invasive Fat Reduction หรือการกำจัดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด
• ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องใช้เข็มฉีดยาหรือยาชา
• สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันทีหลังทำ

4.SculpSure ใช้เวลาในการรักษาสั้นเพียง 25 นาทีต่อบริเวณ
• ใช้เวลาน้อยกว่าการดูดไขมันหรือวิธีอื่นที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง
• สามารถทำหลายบริเวณได้ในครั้งเดียว เช่น หน้าท้อง เอว ต้นขา ใต้คาง และแผ่นหลัง

5.SculpSure เหมาะกับทุกสีผิว
• เลเซอร์ 1060 nm สามารถทำงานได้กับทุกโทนสีผิว โดยไม่มีผลกระทบต่อ เม็ดสี (Melanin) ของผิว
• ต่างจากเทคโนโลยีบางประเภทที่อาจมีข้อจำกัดสำหรับคนที่มีผิวคล้ำ

6.SculpSure สามารถช่วยกระชับผิวไปพร้อมกันได้
• พลังงานเลเซอร์ไม่เพียงแต่กำจัดไขมัน แต่ยัง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
• ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น ป้องกันปัญหาผิวหย่อนคล้อยหลังการลดไขมัน

7.การทำ SculpSure ไม่มีผลกระทบต่อเส้นประสาทหรือหลอดเลือด
• อุณหภูมิของเลเซอร์ถูกควบคุมให้อยู่ในช่วงที่ทำลายเฉพาะเซลล์ไขมัน โดยไม่กระทบต่อเส้นประสาทหรือหลอดเลือด
• ลดความเสี่ยงของ อาการชา หรือแผลเป็น ที่มักเกิดจากการดูดไขมัน

8.SculpSure ได้รับการรับรองจาก U.S.FDA และผ่านการทดลองทางคลินิก
• ผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) และหน่วยงานมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป (CE Mark)
• มีผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ ยืนยันว่าเป็น วิธีลดไขมันที่ปลอดภัยและได้ผลจริง

เทคโนโลยีของ SculpSure ต่างจากวิธีลดไขมันอื่นอย่างไร
การกำจัดไขมันสามารถทำได้หลายวิธี โดยแต่ละเทคนิคมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันออกไป SculpSure เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจาก  SculpSure สามารถลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด (Non-Invasive Fat Reduction)

SculpSure ใช้ เลเซอร์ไดโอดความยาวคลื่น 1060 นาโนเมตร (nm) ในการทำลายเซลล์ไขมันผ่านกระบวนการ Thermal Lipolysis ซึ่ง SculpSure แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่น เช่น การดูดไขมัน (Liposuction), การสลายไขมันด้วยความเย็น (CoolSculpting), การฉีดสลายไขมัน (Mesotherapy) หรือเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อไฟฟ้า (EMSculpt)

เพื่อให้เข้าใจถึงความแตกต่างของ SculpSure เมื่อเทียบกับวิธีการ กำจัดไขมันอื่นๆ ขอเปรียบเทียบเป็นตารางเพื่อให้ภาพที่ชัดเจนดังนี้

เทคโนโลยี	หลักการทำงาน	ระยะเวลาพักฟื้น	ความเจ็บปวด	ผลลัพธ์
SculpSure (เลเซอร์ 1060 nm)	ใช้พลังงานความร้อนทำลายเซลล์ไขมัน	ไม่มีพักฟื้น	รู้สึกอุ่นและตึงเล็กน้อย	ลดไขมัน 24% ต่อบริเวณใน 6-12 สัปดาห์
CoolSculpting (Cryolipolysis)	ใช้ความเย็น -11°C แช่แข็งเซลล์ไขมันให้ตาย	ไม่มีพักฟื้น แต่บางคนอาจช้ำ	อาจรู้สึกชาหรือเสียวแปลบ	ลดไขมัน 20-25% ใน 8-12 สัปดาห์
Liposuction (การดูดไขมัน)	ดูดไขมันออกจากร่างกายโดยตรง	ต้องพักฟื้น 1-2 สัปดาห์	เจ็บปวดมาก ต้องใช้ยาชา	เห็นผลทันที แต่ต้องรอร่างกายฟื้นตัว
Mesotherapy (ฉีดสลายไขมัน)	ฉีดสารที่ช่วยละลายไขมัน	อาจมีรอยช้ำ	แสบหรือบวมบริเวณที่ฉีด	ต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผล
EMSculpt (คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อ)	กระตุ้นกล้ามเนื้อให้เผาผลาญไขมัน	ไม่มีพักฟื้น	รู้สึกเมื่อยคล้ายออกกำลังกาย	สร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมัน

SculpSure เป็นเทคโนโลยีกำจัดไขมันที่มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูง แตกต่างจากวิธีอื่นเนื่องจากใช้พลังงานเลเซอร์เพื่อทำลายเซลล์ไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด เมื่อเทียบ SculpSure กับเทคนิคอื่น เช่น การดูดไขมันหรือ CoolSculpting แล้ว SculpSure มีข้อได้เปรียบในเรื่องของ ความปลอดภัย ไม่มีระยะพักฟื้น และช่วยกระชับผิวได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดโดยไม่ต้องศัลยกรรม SculpSure เป็นทางเลือกที่เหมาะสม ให้ผลลัพธ์ถาวร เห็นผลใน 6-12 สัปดาห์ และสามารถใช้ได้กับทุกสีผิว

SculpSure สามารถใช้กับบริเวณไหนของร่างกายได้บ้าง
SculpSure เป็นเทคโนโลยีกำจัดไขมันแบบ ไม่ต้องผ่าตัด (Non-Invasive Fat Reduction) ที่ใช้ เลเซอร์ไดโอด 1060 นาโนเมตร (nm) ในการทำลายเซลล์ไขมันผ่านกระบวนการ Thermal Lipolysis โดยกระบวนการนี้สามารถใช้ได้กับหลายบริเวณของร่างกายที่มีไขมันสะสม

บริเวณที่สามารถใช้ SculpSure ในการกำจัดไขมัน
1.ใช้เทคโนโลยี SculpSure ในการกำจัดไขมันหน้าท้อง (Abdomen)
• เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการใช้ SculpSure
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณ หน้าท้องส่วนบนและล่าง
• ช่วยลดไขมันและทำให้บริเวณนี้กระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างให้ดูสมส่วนและลดพุง

2.ใช้เทคโนโลยี SculpSure ในการกำจัดไขมันเอวและปีกเอว (Flanks / Love Handles)
• ไขมันสะสมบริเวณด้านข้างของเอวหรือที่เรียกว่า "Love Handles" เป็นหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อย
• SculpSure สามารถช่วยลดไขมันในจุดนี้ ทำให้เอวดูเข้ารูปมากขึ้น
• ช่วยให้เห็นทรวดทรงชัดขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการมี เอว S-Curve

3.ใช้เทคโนโลยี SculpSure ในการกำจัดไขมันต้นขา (Thighs) - ทั้งด้านในและด้านนอก
• SculpSure สามารถใช้ได้กับ ต้นขาด้านใน (Inner Thighs) ซึ่งเป็นจุดที่ไขมันสะสมได้ง่ายและทำให้ขาดูหนาขึ้น
• ใช้กับ ต้นขาด้านนอก (Outer Thighs) หรือบริเวณที่เรียกว่า "Saddlebags" ที่มักเป็นปัญหาสำหรับผู้หญิง
• ช่วยให้ต้นขาดูกระชับขึ้น ลดการเสียดสีระหว่างขา

4.ใช้เทคโนโลยี SculpSure ในการกำจัดไขมันแผ่นหลัง (Back Fat) และปีกหลัง (Bra Fat)
• ไขมันสะสมบริเวณ หลังช่วงบนและล่าง รวมถึงไขมันส่วนเกินที่มักโผล่จากสายเสื้อชั้นใน (Bra Fat)
• SculpSure สามารถช่วยลดไขมันบริเวณนี้ ทำให้หลังดูเรียบขึ้น
• ลดความหย่อนคล้อยบริเวณข้างลำตัว

5.ใช้เทคโนโลยี SculpSure ในการกำจัดไขมันใต้คาง (Submental Area / Double Chin)
• SculpSure ได้รับการรับรองจาก FDA สำหรับใช้ลด ไขมันใต้คาง (Double Chin)
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้กรอบหน้าคมชัดขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม
• ช่วยลดไขมันและกระชับผิวบริเวณใต้คาง ทำให้ใบหน้าดูได้รูปขึ้น

SculpSure เหมาะกับใคร
เทคโนโลยี SculpSure กำจัดไขมันด้วยเลเซอร์ไดโอดพลังงานสูง เหมาะกับกลุ่มคนต่อไปนี้

1.เทคโนโลยี SculpSure เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด (Stubborn Fat Reduction)
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณ หน้าท้อง, เอว, ต้นขา, แผ่นหลัง, ใต้คาง และปีกเอว
• เหมาะกับไขมันที่กำจัดออกได้ยาก แม้ว่าจะออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว
• ช่วยลดไขมันได้อย่าง ถาวร โดยไม่ต้องผ่าตัด

2.เทคโนโลยี SculpSure เหมาะกับผู้ที่มี BMI ต่ำกว่า 30 (Non-Obese Individuals)
• SculpSure ได้ผลดีที่สุดในกลุ่มที่มี ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ต่ำกว่า 30
• ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็น โรคอ้วนขั้นรุนแรง หรือมีไขมันสะสมมากเกินไป
• เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างมากกว่าการลดน้ำหนัก

3.เทคโนโลยี SculpSure เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด (Non-Surgical Option)
• เหมาะสำหรับผู้ที่ ไม่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดดูดไขมัน (Liposuction)
• ไม่มีแผลเป็น ไม่มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากยาสลบ
• สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ทันทีหลังทำ ไม่มีระยะพักฟื้น

4.เทคโนโลยี SculpSure เหมาะกับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความสะดวก (Busy Professionals)
• เทคโนโลยี SculpSure ใช้เวลาในการรักษา เพียง 25 นาทีต่อบริเวณ
• ไม่มีผลกระทบต่อการทำงาน หรือกิจวัตรประจำวัน
• เทคโนโลยี SculpSure สามารถทำได้ระหว่างพักกลางวัน และกลับไปทำงานได้ทันที

5.เทคโนโลยี SculpSure เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับสัดส่วนพร้อมกับลดไขมัน (Fat Reduction & Skin Tightening)
• นอกจากกำจัดไขมันแล้ว SculpSure ยังช่วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
• ลดความเสี่ยงของ ผิวหย่อนคล้อย ที่อาจเกิดขึ้นหลังการลดไขมัน

ใครควรหลีกเลี่ยงการทำ SculpSure
แม้ว่า SculpSure จะเป็นเทคโนโลยีกำจัดไขมันที่ปลอดภัยและได้รับการรับรองจาก FDA แต่ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน มีบางกลุ่มบุคคลที่ควร หลีกเลี่ยงการทำ SculpSure หรือปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

1.ผู้ที่มี BMI สูงเกิน 30 หรือเป็นโรคอ้วนขั้นรุนแรง
• SculpSure ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อลดน้ำหนัก แต่ใช้สำหรับการลดไขมันเฉพาะจุด
• หากมีไขมันสะสมมากเกินไป (BMI เกิน 30) อาจไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
• ควรใช้วิธีอื่น เช่น การปรับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย หรือวิธีทางการแพทย์ที่เหมาะสม

2.สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการทำ SculpSure
• ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกเพียงพอเกี่ยวกับผลของ SculpSure ต่อสตรีมีครรภ์หรือทารก
• แม้ว่าจะไม่มีสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย แต่กระบวนการกำจัดเซลล์ไขมันอาจส่งผลต่อฮอร์โมนและระบบไหลเวียน
• ควรรอจนกว่าร่างกายกลับสู่ภาวะปกติหลังคลอดและให้นมเสร็จสิ้น

3.ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับตับ หรือระบบน้ำเหลืองผิดปกติ
• SculpSure ใช้ ระบบน้ำเหลืองในการกำจัดเซลล์ไขมัน ออกจากร่างกาย
• ผู้ที่มี โรคตับ, ไขมันพอกตับ หรือปัญหาด้านระบบน้ำเหลือง อาจมีปัญหาในการกำจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา

4.ผู้ที่มีแผลเปิด การติดเชื้อ หรือผิวหนังอักเสบบริเวณที่ต้องการทำ
• พลังงานเลเซอร์ของ SculpSure ไม่ควรใช้กับผิวหนังที่มีการอักเสบ แผลเปิด หรือการติดเชื้อ
• ควรรักษาภาวะเหล่านี้ให้หายก่อน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

5.ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
• ผู้ที่เป็น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune Diseases), เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้, หรือภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยง
• อาจส่งผลต่อ การฟื้นตัวของร่างกาย หรือทำให้กระบวนการกำจัดไขมันทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

6.ผู้ที่มีอุปกรณ์ฝังในร่างกายหรือใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ
• ผู้ที่มี เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรืออุปกรณ์ฝังในร่างกายควรหลีกเลี่ยงการใช้ SculpSure
• แม้ว่าพลังงานเลเซอร์จะไม่ได้สร้างสนามแม่เหล็ก แต่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ได้

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจาก SculpSure
แม้ว่า SculpSure จะปลอดภัยและมีผลข้างเคียงต่ำ แต่ก็อาจพบอาการข้างเคียงเล็กน้อย ได้แก่

• อาการแดงหรือบวมเล็กน้อย บริเวณที่ทำการรักษาด้วย SculpSure (หายไปใน 24 ชั่วโมง)
• รู้สึกอุ่นหรือเสียวแปลบ ระหว่างทำ SculpSure  แต่ไม่รุนแรงและไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา
• อาจมีอาการตึงหรือระบมเล็กน้อย ซึ่งมักหายไปเองภายใน 2-3 วัน

งานวิจัยของ Dierickx et al.(2018) พบว่าอาการข้างเคียงของ SculpSure อยู่ในระดับต่ำมาก และไม่พบกรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

SculpSure ส่งผลต่อสุขภาพหรือระบบเผาผลาญหรือไม่
• ไม่มีผลกระทบต่ออัตราการเผาผลาญพื้นฐาน (Basal Metabolic Rate - BMR)
SculpSure ไม่ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานเร็วขึ้นหรือลดลง เซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะไม่สามารถกลับมาใหม่ แต่ไม่ได้เปลี่ยนอัตราการใช้พลังงานของร่างกาย

• ไม่ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันโดยรวมเพิ่มขึ้น
SculpSure ไม่ได้เป็นกระบวนการลดน้ำหนักแบบระบบเผาผลาญไขมันทั้งร่างกาย (Whole-body Fat Burning) เหมาะกับการลดไขมันเฉพาะจุด ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นเหมือนการออกกำลังกาย

• ไม่ทำให้เกิดภาวะโยโย่ (Yo-Yo Effect)
การดูดไขมันบางกรณีอาจทำให้ร่างกายปรับตัวและสะสมไขมันใหม่ในบริเวณอื่นแทน แต่ SculpSure ไม่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ไขมันใหม่ จึงไม่มีผลกระทบต่อการกลับมาอ้วนซ้ำ หรือภาวะโยโย่
ร่างกายต้องการเวลาประมาณ 6-12 สัปดาห์เพื่อกำจัดเซลล์ไขมัน

SculpSure ไม่ได้เร่งการเผาผลาญ แต่เป็นการทำให้เซลล์ไขมันตายและถูกกำจัดออกทางระบบน้ำเหลือง ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติเพราะฉะนั้นม่ต้องกลัวเลยว่าเทคโนโลยี SculpSure จะส่งผลต่อสุขภาพ หรือระบบเผาผลาญโดยรวม

SculpSure ให้ผลลัพธ์ถาวรหรือไม่
• SculpSure ให้ผลลัพธ์ถาวร เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ถูกทำลาย จะไม่สามารถกลับมาใหม่ได้
• SculpSure ใช้กระบวนการ Apoptosis (การตายของเซลล์แบบโปรแกรม) ทำให้ไขมันถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลือง
• SculpSure เห็นผลลัพธ์ภายใน 6-12 สัปดาห์ หลังจากร่างกายขจัดเซลล์ไขมันที่ตายออกไป
• การทำ SculpSure ไม่เหมือนการลดน้ำหนักทั่วไป ที่เซลล์ไขมันเพียงหดตัว แต่ยังคงอยู่ในร่างกาย
• หากน้ำหนักเพิ่มขึ้น ไขมันอาจสะสมในบริเวณอื่นที่ยังมีเซลล์ไขมันเหลืออยู่
• ควรรักษาผลลัพธ์ด้วย การออกกำลังกายและควบคุมอาหาร เพื่อป้องกันการสะสมไขมันใหม่
• SculpSure เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่มีระยะพักฟื้น

ต้องทำ SculpSure กี่ครั้งถึงจะได้ผล
• SculpSure เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก โดยสามารถลดไขมันได้ประมาณ 24% ต่อบริเวณที่ทำ
• การทำ SculpSure จำนวนครั้งที่ต้องทำขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน และเป้าหมายของแต่ละบุคคล
• ผู้ที่มีไขมันสะสมปานกลาง อาจเห็นผลลัพธ์ที่ต้องการภายใน 1-2 ครั้ง
• ผู้ที่มีไขมันสะสมมากขึ้น อาจต้องทำ 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกาย
• ควรเว้นระยะ 6-12 สัปดาห์ ระหว่างการทำแต่ละครั้ง เพื่อให้ร่างกายกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายออกไปก่อน
• ผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นในช่วง 6-12 สัปดาห์ หลังทำ SculpSure
• การรักษา ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำตลอดไป หากควบคุมน้ำหนักและดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม

สรุปทุกเรื่องของ SculpSure
SculpSure เป็นเทคโนโลยีกำจัดไขมันที่เป็นที่นิยมมาก ในผู้ที่ต้องการจะปรับรูปร่างลดไขมัน แต่ใครที่สนใจเทคโนโลยี SculpSure นี้จะต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ และทำหัตถการโดยคุณหมอ specialist เพื่อให้เราได้ผลลัพธ์ ปรับรูปร่างได้ในแบบที่เราต้องการ

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับเทคโนโลยี SculpSure
1.SculpSure คืออะไร ?
เป็นเทคโนโลยี กำจัดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ใช้เลเซอร์ไดโอด 1060 นาโนเมตร (nm) เพื่อทำลายเซลล์ไขมัน

2.SculpSure ทำงานอย่างไร ?
ใช้พลังงานความร้อน 42-47°C เพื่อทำให้เซลล์ไขมันเกิด Apoptosis (การตายของเซลล์แบบโปรแกรม) และถูกกำจัดออกผ่านระบบน้ำเหลือง

3.SculpSure กำจัดไขมันได้จริงหรือไม่ ?
ได้รับการรับรองจาก U.S.FDA และมีผลวิจัยยืนยันว่าสามารถลดไขมันได้ สูงสุด 24% ต่อบริเวณที่รักษา

4.การทำ SculpSure เจ็บหรือไม่ ?
รู้สึก อุ่นๆ และตึงๆ แต่ไม่รุนแรง และไม่ต้องใช้ยาชา

5.ต้องทำ SculpSure กี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
ส่วนใหญ่เห็นผลภายใน 1-2 ครั้ง แต่หากมีไขมันสะสมมาก อาจต้องทำ 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

6.SculpSure เห็นผลภายในกี่วัน ?
ผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นใน 6-12 สัปดาห์ หลังจากร่างกายกำจัดเซลล์ไขมันออกไป

7.SculpSure ให้ผลลัพธ์ถาวรหรือไม่ ?
ถาวร เพราะเซลล์ไขมันที่ถูกทำลาย จะไม่สามารถกลับมาใหม่ได้

8.SculpSure ใช้กับบริเวณไหนได้บ้าง ?
สามารถใช้ได้กับ หน้าท้อง, เอว, ต้นขา, แผ่นหลัง และใต้คาง

9.SculpSure ปลอดภัยหรือไม่ ?
ปลอดภัย และไม่มีผลกระทบต่อ ผิวหนัง, หลอดเลือด หรืออวัยวะภายใน

10.ใครที่ควรหลีกเลี่ยงการทำ SculpSure ?
ผู้ที่มี BMI มากกว่า 30, สตรีมีครรภ์, ผู้ที่มีโรคตับ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบน้ำเหลือง

11.SculpSure มีผลต่อระบบเผาผลาญหรือไม่ ?
ไม่มีผลต่ออัตราการเผาผลาญ ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักโดยรวม แต่ช่วยลดไขมันเฉพาะจุด

12.SculpSure แตกต่างจากการดูดไขมันอย่างไร ?
ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่มีระยะพักฟื้น และร่างกายกำจัดไขมันออกตามธรรมชาติ

13.SculpSure แตกต่างจาก CoolSculpting อย่างไร ?
ใช้ ความร้อนในการทำลายไขมัน ต่างจาก CoolSculpting ที่ใช้ ความเย็น ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการชา

14.SculpSure ทำให้ผิวหย่อนคล้อยหรือไม่ ?
ไม่ เพราะเลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนและอีลาสติน

15.ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรหลังทำ SculpSure ?
ควรดื่มน้ำมากๆ และออกกำลังกายเบาๆ เพื่อช่วยให้ระบบน้ำเหลืองกำจัดไขมันได้เร็วขึ้น

16.มีผลข้างเคียงจาก SculpSure หรือไม่ ?
อาจมีอาการ แดง ตึง หรือรู้สึกอุ่นๆ ในบริเวณที่ทำ แต่จะหายไปเองในไม่กี่ชั่วโมง

17.ค่าใช้จ่ายในการทำ SculpSure เท่าไหร่ ?
ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและจำนวนครั้งที่ต้องทำ ราคาจะอยู่ในช่วง หลักหมื่นบาทขึ้นไป

18.สามารถทำ SculpSure ร่วมกับการออกกำลังกายได้หรือไม่ ?
ได้ และแนะนำให้ทำควบคู่กันเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

19.SculpSure ทำให้ไขมันกลับมาสะสมอีกหรือไม่ ?
ถ้าไม่ควบคุมน้ำหนัก ไขมันอาจไปสะสมที่บริเวณอื่นแทน

20.SculpSure เหมาะกับใครที่สุด ?
เหมาะกับผู้ที่มี ไขมันสะสมเฉพาะจุด และต้องการปรับรูปร่างโดยไม่ต้องผ่าตัด