สิวอุดตัน คืออะไร สาเหตุและวิธีรักษาการอุดตันของรูขุมขนอย่างไร
สิวอุดตัน
สิวอุดตัน เกิดจากอะไร หายเองได้ไหม รักษาวิธีไหนดี
สิวอุดตันเป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่พบได้บ่อยและสร้างความกังวลใจให้กับหลายคน ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ สิวอุดตันมักขึ้นเป็นตุ่มเล็ก ๆ บนผิวหนัง ทั้งสิวอุดตันหัวดำและสิวอุดตันหัวขาว ซึ่งอาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าสิวอักเสบ แต่หากปล่อยสิวอุดตันไว้อาจทำให้กลายเป็นสิวอักเสบที่รักษาได้ยากกว่า
หลายคนอาจสงสัยว่า สิวอุดตันเกิดจากอะไร ทำไมบางคนถึงเป็นสิวได้ง่าย ในขณะที่บางคนกลับมีผิวเนียนใสไร้ปัญหาสิว บทความนี้จะพาคุณไปรู้ถึงสาเหตุหลักของการเกิดสิวอุดตัน ทั้งจากปัจจัยภายใน อย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมไปถึงปัจจัยภายนอกอย่างมลภาวะ การดูแลผิวที่ไม่ถูกวิธี และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและหาวิธีป้องกันสิวอุดตัน หรือจัดการกับสิวอุดตันได้อย่างถูกต้อง เพื่อเผยผิวเนียนใสไร้สิวได้อย่างมั่นใจ ก่อนที่จะเป็นสิวอักเสบที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าอื่น ๆ ตามมา เช่น หลุมสิว รอยดำ รอยแดงสิว ที่ทำให้วิตกกังวลมากกว่าเดิม
สิวอุดตันคืออะไร
สิวอุดตัน (Comedones) คือ รูปแบบหนึ่งของสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน โดยเกิดจากการสะสมของ น้ำมันส่วนเกิน (Sebum), เซลล์ผิวที่ตายแล้ว, และสิ่งสกปรกภายในรูขุมขน เมื่อสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถถูกขจัดออกได้ตามปกติ จึงทำให้เกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวอุดตันตามมา
สิวอุดตันเกิดจากอะไร
สิวอุดตันเกิดจากการ อุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่กระทบต่อผิวหนัง โดยเฉพาะการสะสมของน้ำมัน (Sebum), เซลล์ผิวที่ตายแล้ว, และ สิ่งสกปรก ที่ไม่สามารถขจัดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนจนพัฒนาเป็นสิว โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสิวอุดตันมีดังนี้
1.สิวอุดตันเกิดจากการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้เกิดการอุดตันง่ายขึ้น สิวอุดตันพบได้บ่อยในวัยรุ่น เพราะฮอร์โมนแอนโดรเจนกระตุ้นการผลิตน้ำมัน
2.สิวอุดตันเกิดจากการผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติ
เซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่หลุดลอกตามธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดการสะสมและอุดตันในรูขุมขนจนกลายเป็นสิวอุดตัน
3.สิวอุดตันเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน
เมื่อรูขุมขนเต็มไปด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้รูขุมขนแคบลงจนเกิดสิวอุดตัน
4.สิวอุดตันเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
แบคทีเรียที่อาศัยในรูขุมขนสามารถกระตุ้นการอักเสบ ทำให้สิวอุดตันบางครั้งพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้
5.สิวอุดตันเกิดจากฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงวัยรุ่น, รอบเดือน, ตั้งครรภ์, หรือการใช้ยาคุมกำเนิด ทำให้การผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของสิวอุดตัน
สิวอุดตันแบ่งเป็นกี่ประเภท
สิวอุดตันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะของการอุดตันในรูขุมขน ดังนี้
1.สิวอุดตันหัวเปิด หรือ สิวหัวดำ
• ลักษณะของสิวอุดตันหัวดำ เห็นเป็นจุดสีดำเล็ก ๆ บนผิวหนัง ผิวสัมผัสจะรู้สึกสาก ๆ หรือขรุขระ
• สาเหตุของสิวอุดตันหัวดำ เกิดจากการที่น้ำมัน (Sebum) และเซลล์ผิวที่อุดตันในรูขุมขน สัมผัสกับอากาศ แล้วเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) ทำให้เปลี่ยนเป็นสีดำ
• สิวอุดตันหัวดำพบบ่อยบริเวณ จมูก หน้าผาก คาง (บริเวณ T-zone) ซึ่งเป็นจุดที่มีการผลิตน้ำมันมาก
2.สิวอุดตันหัวปิด หรือ สิวหัวขาว
• ลักษณะของสิวอุดตันหัวขาว เป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวหรือสีเดียวกับผิวหนัง มักไม่มีอาการบวมแดงหรืออักเสบในระยะแรก
• สาเหตุของสิวอุดตันหัวขาว เกิดจากการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วใต้ผิวหนัง โดยที่รูขุมขนไม่เปิดออกสู่ผิวภายนอก ทำให้ไม่เกิดการออกซิเดชัน จึงยังคงเป็นสีขาวหรือสีผิว
• สิวอุดตันหัวขาวพบบ่อยบริเวณ หน้าผาก แก้ม คาง และบางครั้งพบที่หน้าอกหรือหลัง
สิวอุดตันต่างจากสิวอักเสบอย่างไร
แม้ว่าสิวอุดตันและสิวอักเสบจะเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย แต่ทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของลักษณะ สาเหตุ และวิธีการรักษา ดังนี้
1.สิวอุดตัน
• ลักษณะของสิวอุดตัน เป็นตุ่มเล็ก ๆ บนผิวหนัง อาจเป็นสีขาว (สิวหัวขาว) หรือจุดดำ (สิวหัวดำ) ไม่มีอาการบวม แดง หรือเจ็บ ผิวดูขรุขระเล็กน้อย แต่ไม่เจ็บเมื่อสัมผัส
• สาเหตุของสิวอุดตัน เกิดจาก การอุดตันของรูขุมขน ด้วยน้ำมันส่วนเกิน (Sebum) เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรก ไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย
• ประเภทของสิวอุดตัน
- สิวอุดตันหัวดำ (Blackheads) สิวอุดตันหัวดำหรือสิวหัวดำเป็นสิวหัวเปิดที่สัมผัสอากาศจนเปลี่ยนเป็นสีดำ
- สิวอุดตันหัวขาว (Whiteheads) สิวอุดตันหัวขาวหรือสิวหัวขาวเป็นสิวหัวปิดที่ไม่สัมผัสอากาศจึงยังเป็นสีขาว
• ความรุนแรงของปัญหาสิวอุดตัน มักไม่รุนแรง แต่ถ้าไม่รักษา อาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้
2.สิวอักเสบ
• ลักษณะของสิวอักเสบ มีอาการ บวม แดง เจ็บปวด อาจมีหนอง หรือเป็นก้อนลึกใต้ผิว และรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส
• สาเหตุของสิวอักเสบ เริ่มจากสิวอุดตันที่ติดเชื้อแบคทีเรีย (Cutibacterium acnes) ทำให้เกิดการอักเสบของรูขุมขน และเนื้อเยื่อรอบ ๆ
• ประเภทของสิวอักเสบ
- สิวตุ่มแดง ตุ่มแดง บวม ไม่มีหัวหนอง
- สิวหัวหนอง ตุ่มหนองสีขาว หัวเหลืองหรือขุ่น
- สิวหัวช้าง สิวซีสต์ ก้อนใหญ่ ลึก เจ็บมาก อาจทิ้งรอยแผลเป็น
• ความรุนแรงของปัญหาสิวอักเสบ รุนแรงกว่าสิวอุดตัน อาจทิ้งรอยแผลเป็นหรือหลุมสิว ถ้าไม่รักษาอย่างเหมาะสม
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่าง สิวอุดตัน กับ สิวอักเสบ
คุณสมบัติ |
สิวอุดตัน |
สิวอักเสบ |
---|---|---|
ลักษณะ |
เป็นสิวอุดตันหัวดำ หรือ สิวอุดตันหัวขาว ตุ่มเล็ก ไม่แดง ไม่เจ็บ |
มีอาการแดง บวม เจ็บ อาจมีหนองหรือเป็นก้อนลึก |
การติดเชื้อแบคทีเรีย |
ไม่มี |
มี (แบคทีเรีย Cutibacterium acnes) |
การอักเสบ |
ไม่มี |
มีอาการอักเสบ |
ระดับความรุนแรง |
เบาถึงปานกลาง |
ปานกลางถึงรุนแรง |
ความเสี่ยงในการเป็นหลุมสิว |
ต่ำ |
สูง (โดยเฉพาะสิวอักเสบรุนแรง) |
วิธีรักษา |
ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น BHA, AHA, เรตินอยด์ |
ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่, ยากิน, หรือการฉีดยาสเตียรอยด์ในบางกรณี |
สิวอุดตันขึ้นบริเวณไหนบ่อย ๆ
สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่จะพบได้บ่อยในบริเวณที่มีต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ทำงานอย่างเข้มข้น ซึ่งจะผลิตน้ำมันออกมามาก ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ง่าย โดยบริเวณที่สิวอุดตันมักขึ้นบ่อยมีดังนี้
1.สิวอุดตันพบบ่อยที่บริเวณใบหน้า
• บริเวณ T-Zone (หน้าผาก จมูก คาง)
• เป็นจุดที่พบสิวอุดตันบ่อยที่สุด เพราะเป็นบริเวณที่มีการผลิตน้ำมันมาก
• มักเกิดสิวอุดตันหัวดำที่จมูก และ สิวอุดตันหัวขาวบริเวณคางและหน้าผาก
2.สิวอุดตันพบบ่อยที่บริเวณแก้ม
• บริเวณนี้สิวอุดตันอาจเกิดจากการสัมผัสกับสิ่งสกปรก เช่น มือ โทรศัพท์ หรือปลอกหมอนที่ไม่สะอาด
• มักพบในคนที่มีผิวมันหรือใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน
3.สิวอุดตันพบบ่อยที่บริเวณกรามและคาง
• สิวอุดตันบริเวณนี้มักเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน โดยเฉพาะในผู้หญิง เช่น ช่วงก่อนมีประจำเดือน
• สิวอุดตันที่คางหรือกรามอาจกลายเป็นสิวอักเสบได้ง่ายหากไม่รักษาอย่างถูกวิธี
4.สิวอุดตันพบบ่อยที่บริเวณหลัง
• สิวอุดตันที่หลังพบบ่อยเนื่องจากเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันจำนวนมาก
• สิวอุดตันที่หลังมักเกิดจากเหงื่อสะสม การเสียดสีจากเสื้อผ้า หรือการล้างทำความสะอาดไม่ทั่วถึง
5.สิวอุดตันพบบ่อยที่บริเวณหน้าอก
• สิวอุดตันที่หน้าอกเกิดจากสาเหตุเหมือนกับที่หลัง เพราะหน้าอกมีต่อมไขมันจำนวนมาก
• สิวอุดตันบริเวณนี้มักเกิดจากเหงื่อ ความชื้น และการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
6.สิวอุดตันพบบ่อยที่บริเวณไหล่
• สิวอุดตันที่ไหล่มักเกิดจากการเสียดสีจากสายกระเป๋า เสื้อผ้ารัดแน่น หรืออุปกรณ์ออกกำลังกาย
• บริเวณไหล่มักมีเหงื่อและสิ่งสกปรก สามารถทำให้รูขุมขนอุดตันและเป็นสิวอุดตันได้ง่ายขึ้น
7.สิวอุดตันพบบ่อยที่บริเวณแนวไรผมและหนังศีรษะ
• สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้บริเวณแนวไรผมและหนังศีรษะ
• สาเหตุอาจมาจากผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่มีน้ำมันสูง หรือการล้างแชมพูไม่สะอาด
สิวอุดตันหายเองได้ไหม
สิวอุดตันสามารถหายเองได้ในบางกรณี แต่ส่วนใหญ่ต้องการการดูแลผิวหรือรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามหรือพัฒนาเป็นสิวอักเสบ
ทำไมไม่ควรปล่อยสิวอุดตันให้หายเอง
• สิวอุดตันเสี่ยงพัฒนาเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตันที่ไม่ถูกขจัดอาจติดเชื้อแบคทีเรีย และกลายเป็นสิวอักเสบ บวมแดง หรือเป็นหนอง
• สิวอุดตันเกิดรอยดำหรือแผลเป็นได้ การปล่อยให้สิวอยู่บนผิวเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดรอยดำหรือรอยแผลเป็นถาวร
• สิวอุดตันทำให้รูขุมขนกว้างถาวร สิวหัวดำที่อุดตันรูขุมขนเป็นเวลานานจะทำให้รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้นถาวร
กดสิวอุดตันเองทำได้ไหม
ไม่แนะนำให้กดสิวอุดตันเอง เพราะการกดสิวโดยไม่มีความรู้หรือเทคนิคที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และเสี่ยงทิ้งรอยดำหรือหลุมสิวถาวร
ความเสี่ยงจากการกดสิวอุดตันเอง
• กดสิวอุดตันเองทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบ การกดสิวอาจทำให้รูขุมขนบาดเจ็บ เพิ่มโอกาสในการเกิด สิวอักเสบ บวมแดง หรือเป็นหนองได้
• กดสิวอุดตันเองทำให้เกิดการติดเชื้อ มือหรืออุปกรณ์ที่ไม่สะอาดอาจนำแบคทีเรียเข้าสู่ผิว ทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง หรือแม้กระทั่ง ฝีลึกใต้ผิวหนัง
• กดสิวอุดตันเองทำให้เสี่ยงทิ้งรอยแผลเป็น การกดสิวแรงเกินไปทำให้เกิดการบาดเจ็บลึก ส่งผลให้เกิด รอยดำ หรือ แผลเป็นหลุมสิว
• กดสิวอุดตันเองทำให้สิวลุกลาม แบคทีเรียและน้ำมันจากสิวที่ถูกกดอาจแพร่กระจายไปบริเวณข้างเคียง ทำให้สิวใหม่เกิดขึ้นมากกว่าเดิม
รักษาสิวอุดตัน วิธีไหนดีให้หาย ผิวเนียนใส
การรักษาสิวอุดตันให้หายอย่างมีประสิทธิภาพ ควรเน้นไปที่การลดการอุดตันของรูขุมขน ควบคุมการผลิตน้ำมัน และป้องกันการเกิดสิวใหม่ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งวิธีการดูแลผิวด้วยตนเอง และการรักษาทางการแพทย์
การรักษาสิวอุดตันด้วยตัวเอง
1.การทำความสะอาดผิวลดสิวอุดตัน
• ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น)
- ใช้เจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากน้ำมัน (Oil-free) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic)
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจัด เพราะจะทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นการผลิตน้ำมันมากขึ้น
• หลังออกกำลังกาย ล้างหน้าเพื่อลดการสะสมของเหงื่อและสิ่งสกปรก
2.การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวลดสิวอุดตัน
• BHA (Salicylic Acid) 1-2%
- ละลายไขมันในรูขุมขน ช่วยลดการอุดตัน
- ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือทุกวันหากผิวทนได้
• AHA (Glycolic Acid, Lactic Acid)
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ลดการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
- ใช้ร่วมกับ BHA เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
• ข้อควรระวัง
- เริ่มใช้จากความเข้มข้นต่ำก่อน เพื่อป้องกันการระคายเคือง
- ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ เนื่องจากผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น
3.การใช้ยาทาสิวช่วยลดสิวอุดตัน
• Retinoids (Adapalene 0.1% หรือ Tretinoin)
- ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันของรูขุมขน
- ทาก่อนนอน และใช้ในปริมาณเล็กน้อย (pea-sized)
• Benzoyl Peroxide (2.5-5%)
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจทำให้สิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบ
- ทาบาง ๆ เฉพาะบริเวณที่มีสิว ไม่จำเป็นต้องทาทั่วหน้า
• Niacinamide
ลดการอักเสบ ควบคุมการผลิตน้ำมัน และช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียนขึ้น
4.การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ลดสิวอุดตัน
• เลือกสูตรปราศจากน้ำมัน (Oil-free) และ ไม่ก่อให้เกิดสิว (Non-comedogenic)
• มอยส์เจอร์ไรเซอร์ช่วยให้ผิวไม่แห้งเกินไป ซึ่งจะช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
5.การใช้ครีมกันแดดลดสิวอุดตัน
• ใช้ครีมกันแดดสูตรสำหรับผิวเป็นสิวง่าย
• เลือกแบบเจลหรือสูตรน้ำ (Gel-based/Water-based) เพื่อลดความมัน
• ใช้ทุกวัน แม้ในวันที่ไม่ได้ออกแดดแรง เพราะแสงยูวีทำให้สิวและรอยดำแย่ลงได้
6.พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดสิวอุดตัน
• ห้ามบีบหรือแกะสิว การบีบสิวอาจทำให้เกิดการอักเสบและทิ้งรอยแผลเป็น
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน เช่น เครื่องสำอางที่มีน้ำมันหนัก ๆ หรือซิลิโคน
• ไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป การล้างหน้าบ่อยอาจทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นการผลิตน้ำมันมากขึ้น
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ มือที่ไม่สะอาดอาจนำเชื้อแบคทีเรียมาสู่ผิวได้
การรักษาสิวอุดตันทางการแพทย์
1.ยาทารักษาสิวอุดตัน
กลุ่มยาเรตินอยด์
• เช่น Tretinoin, Adapalene, Tazarotene
• การทำงาน
- ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว (Cell Turnover)
- ลดการอุดตันของรูขุมขน และช่วยให้หัวสิวเปิดออกง่ายขึ้น
• วิธีใช้
- ทาบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิวก่อนนอน
- อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองในช่วงแรก (แนะนำใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ร่วมด้วย)
ยาทาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
• เช่น Clindamycin, Erythromycin
• การทำงาน
- ลดจำนวนแบคทีเรีย (Cutibacterium acnes) ที่ทำให้สิวอักเสบ
- มักใช้ร่วมกับ Benzoyl Peroxide เพื่อลดการดื้อยา
• ข้อจำกัด ไม่แนะนำให้ใช้เดี่ยว ๆ เพราะอาจทำให้เกิดการดื้อยาปฏิชีวนะได้
ยาทาลดการอักเสบและควบคุมความมัน
• Benzoyl Peroxide (2.5–5%)
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ผิว ลดการอักเสบ
- ใช้เฉพาะจุดเพื่อลดการระคายเคือง
• Azelaic Acid
- ลดการอักเสบและผลัดเซลล์ผิว
- ช่วยปรับสีผิวและลดรอยดำจากสิว
2.ยารับประทานลดสิวอุดตัน
ยาปฏิชีวนะแบบรับประทาน
• เช่น Doxycycline, Minocycline, Tetracycline
• การทำงาน
ลดการอักเสบและควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
• วิธีใช้
- ใช้ในกรณีสิวอุดตันที่พัฒนาเป็นสิวอักเสบหรือสิวเรื้อรัง
- ไม่ควรใช้เกิน 3-6 เดือนเพื่อลดความเสี่ยงของการดื้อยา
ยาควบคุมฮอร์โมน
• สำหรับผู้หญิงที่มีสิวฮอร์โมน
- ยาคุมกำเนิด (Oral Contraceptives) ช่วยควบคุมฮอร์โมนที่กระตุ้นการผลิตน้ำมัน
- Spironolactone ช่วยลดฮอร์โมนแอนโดรเจน ลดความมันของผิว
ยา Isotretinoin
• การทำงาน
- ลดการผลิตน้ำมันที่ต่อมไขมัน
- ลดการอักเสบและควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
• ใช้ในกรณี
- สิวอุดตันเรื้อรังที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น ๆ
- สิวอุดตันที่มีความรุนแรงสูงและมีความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็น
• ข้อจำกัด
ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีผลข้างเคียงที่อาจรุนแรง เช่น ผิวแห้ง, ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์, และผลกระทบต่อการทำงานของตับ
โปรแกรมรักษาสิวถึงต้นตอ ที่ รมย์รวินท์คลินิก
เลเซอร์รักษาสิว AviClear
AviClear เป็นนวัตกรรมเลเซอร์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการรักษาสิวตั้งแต่สิวอุดตันระดับเล็กน้อยถึงสิวอักเสบรุนแรง โดยใช้ความยาวคลื่น 1,726 นาโนเมตร เพื่อเน้นไปที่ต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ให้ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว
หลักการทำงานของ AviClear
1.การปล่อยพลังงานเลเซอร์ AviClear ปล่อยพลังงานเลเซอร์ที่ความยาวคลื่น 1,726 นาโนเมตร ซึ่งถูกดูดซับโดยน้ำมันในต่อมไขมัน
2.การทำลายต่อมไขมัน พลังงานเลเซอร์จะเปลี่ยนเป็นความร้อน ทำให้ต่อมไขมันฝ่อลง ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
3.ระบบทำความเย็น AviCool™ เพื่อความสบายของผู้รับการรักษา AviClear มีระบบทำความเย็นที่ช่วยป้องกันผิวหนังชั้นนอกจากความร้อน
ข้อดีของการรักษาด้วย AviClear
• รักษาสิวที่ต้นเหตุ ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว ทั้งสิวอุดตันและสิวอักเสบ
• ไม่ต้องใช้ยา เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้ยาทาหรือยารับประทานเพื่อรักษาสิว
• ผลลัพธ์ยาวนาน การศึกษาพบว่าการรักษาด้วย AviClear เพียง 3 ครั้ง สามารถลดสิวอักเสบได้ถึง 71% และผลลัพธ์นี้คงอยู่ได้นานถึง 2 ปี
ความปลอดภัยและผลข้างเคียงของ AviClear
AviClear ได้รับการรับรองจาก FDA ว่าปลอดภัยสำหรับการรักษาสิว ผลข้างเคียงที่พบได้บ้าง ได้แก่ รอยแดงหรือบวมเล็กน้อยหลังการรักษา ซึ่งมักหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง ระบบทำความเย็น AviCool™ ช่วยลดความไม่สบายระหว่างการรักษา ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา
AviClear เหมาะสำหรับใคร
AviClear เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวตั้งแต่สิวอุดตันเล็กน้อยถึงสิวอักเสบรุนแรง ทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
เลเซอร์รักษาสิว Accure Laser
Accure Laser เป็นนวัตกรรมเลเซอร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรักษาสิวโดยเฉพาะ โดยมุ่งเน้นที่การลดการทำงานของต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว
หลักการทำงานของ Accure Laser
1.ความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง ใช้พลังงานเลเซอร์ที่ความยาวคลื่น 1,726 นาโนเมตร ซึ่งถูกดูดซับโดยต่อมไขมันอย่างเฉพาะเจาะจง
2.การทำลายต่อมไขมัน พลังงานเลเซอร์จะเปลี่ยนเป็นความร้อน ทำให้ต่อมไขมันฝ่อลง ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
3.ระบบควบคุมอุณหภูมิ มีระบบตรวจจับอุณหภูมิแบบเรียลไทม์ ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการทำลายผิวหนังชั้นบน
ข้อดีของการรักษาด้วย Accure Laser
• รักษาที่ต้นเหตุ ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว
• ไม่ต้องใช้ยา เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้ยาทาหรือยารับประทาน
• ผลลัพธ์ยาวนาน การศึกษาพบว่าหลังการรักษา 4 ครั้ง สิวลดลงมากกว่า 70% และผลลัพธ์นี้คงอยู่ได้นานถึง 3 ปี
ความปลอดภัยและผลข้างเคียงของ Accure Laser
Accure Laser ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ว่าปลอดภัยสำหรับการรักษาสิว ผลข้างเคียงที่พบได้บ้าง ได้แก่ รอยแดงหรือบวมเล็กน้อยหลังการรักษา ซึ่งมักหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง ระบบทำความเย็นช่วยลดความไม่สบายระหว่างการรักษา ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา
Accure Laser เหมาะสำหรับใคร
Accure Laser เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวตั้งแต่ระดับเล็กน้อยถึงรุนแรง ทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
เลเซอร์รักษาสิว Fractional Laser
Fractional Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่นิยมใช้ในการรักษาสิวและรอยแผลเป็นจากสิว โดยเน้นการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และ ซ่อมแซมผิวที่เสียหาย ช่วยลดรอยแผลเป็น รอยดำ รวมถึงกระชับรูขุมขน ซึ่งช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงเกิดรูขุมขนอุดตัน จึงช่วยลดการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบตามไปด้วย
Fractional Laser ช่วยรักษาสิวได้อย่างไร
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยปรับปรุงเนื้อเยื่อผิว ลดรอยหลุมสิว และความไม่สม่ำเสมอของผิว
• ลดรอยดำและรอยแดง เลเซอร์ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รอยสิวจางลงเร็วขึ้น
• ลดการอุดตันของรูขุมขน การผลัดเซลล์ผิวใหม่ช่วยลดการอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสิวอุดตัน
• กระชับรูขุมขน ช่วยทำให้รูขุมขนเล็กลง ลดความมันบนใบหน้า ซึ่งช่วยลดการเกิดสิวใหม่
ข้อดีของการรักษาด้วย Fractional Laser
• เห็นผลในการลดรอยแผลเป็นจากสิว และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
• กระชับรูขุมขน และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
• เหมาะสำหรับทุกสีผิวและสภาพผิว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
• รอยแดงและบวม มักจะหายไปภายใน 3-7 วัน
• ผิวแห้งหรือเป็นขุย เนื่องจากผิวกำลังผลัดเซลล์ใหม่
• ความรู้สึกแสบหรือระคายเคือง สามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็น
• รอยดำชั่วคราว โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวคล้ำ ควรใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
Fractional Laser เหมาะสำหรับใคร
• ผู้ที่มีรอยแผลเป็นจากสิว รอยหลุมสิว
• ผู้ที่มีรอยดำ รอยแดง หลังจากสิวหาย
• ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระชับรูขุมขน
• ผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาสิวอุดตันและสิวอักเสบด้วยวิธีอื่น ๆ
โปรแกรมรักษาสิว AC Clear
โปรแกรมรักษาสิว AC Clear ที่รมย์รวินท์คลินิก เป็นโปรแกรมการรักษาสิวที่ออกแบบมาเพื่อจัดการปัญหาสิว ทั้งสิวอุดตันและสิวอักเสบ โดยมีขั้นตอนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาสิวของแต่ละบุคคล
4 ขั้นตอนการรักษาในโปรแกรม AC Clear
1.การกดสิว แพทย์จะทำการกดสิวอุดตันอย่างถูกวิธี เพื่อลดการอักเสบและป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น
2.การฉีดสิว สำหรับสิวที่มีการอักเสบ แพทย์จะฉีดยาเฉพาะจุดเพื่อลดการอักเสบและบวมแดงของสิว
3.ทรีตเมนต์ลดเชื้อสิว ใช้ทรีตเมนต์ที่ช่วยลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และป้องกันการเกิดสิวใหม่
4.มาส์กบำรุงผิว มาส์กเพื่อปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง และฟื้นฟูสภาพผิวหลังการรักษา
โปรแกรมรักษาสิว AC Clear นี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือผู้ที่ต้องการป้องกันการเกิดสิวใหม่ ช่วยให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนและลดโอกาสการเกิดสิวในอนาคต
สรุปเกี่ยวกับสิวอุดตัน
สรุปว่า สาเหตุของสิวอุดตันเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ด้วยน้ำมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรก โดยมีปัจจัยกระตุ้นสำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การผลิตน้ำมันมากเกินไป และการดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม แม้สิวอุดตันบางกรณีอาจหายได้เอง แต่การรักษาอย่างถูกวิธี เช่น การใช้ยาทาสิวอุดตัน การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว หรือการรักษาทางการแพทย์อย่าง เลเซอร์รักษาสิวอย่าง AviClear Laser และ Accure Laser รวมถึงโปรแกรมรักษาสิว AC Clear ของรมย์รวินท์คลินิก จะช่วยให้สิวอุดตันหายเร็วขึ้น และลดโอกาสเกิดสิวอุดตันใหม่ ส่งผลให้ลดการเกิดสิวอักเสบตามไปด้วย อย่างไรก็ตามการดูแลผิวให้สะอาดด้วยวิธีที่ถูกต้องและต่อเนื่อง คือหัวใจสำคัญในการป้องกันและควบคุมการเกิดสิวอุดตันในระยะยาว
ซึ่งรมย์รวินท์คลินิกก็มีโปรแกรมดูแลทำความสะอาดผิวหน้าได้ล้ำลึกอย่าง โปรแกรม Turbo Bright ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ นัดหมายปรึกษาแพทย์ ได้ที่ Romrawin Clinic
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด