สิวอุดตันเกิดจากอะไร รักษาอย่างไรดี หยุดสิวขึ้นซ้ำซากได้จริงไหม

สิวอุดตันเกิดจากอะไร รักษาอย่างไรดี หยุดสิวขึ้นซ้ำซาก
สิวอุดตันเป็นปัญหาผิวที่สร้างความกังวลให้กับหลายคน เพราะนอกจากจะทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียนแล้ว ยังส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย ถึงแม้สิวอุดตันจะไม่แสดงอาการอักเสบในทันที แต่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบและสร้างหลุมสิวบนผิวหน้าได้ การเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงว่า สิวอุดตันเกิดจากอะไร และรักษาอย่างถูกวิธี จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผิวกลับมาเนียนใสไร้สิวและสุขภาพดี บทความนี้จึงขอพาไปรู้สาเหตุสิวอุดตันเกิดจากอะไร มีกี่ชนิด มักพบบริเวณไหนของร่างกาย พร้อมแนะนำวิธีรักษาสิวอุดตัน และวิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวอุดตันซ้ำซากอีก

สิวอุดตันคืออะไร มีลักษณะอย่างไร
สิวอุดตัน (Comedones) เป็นปัญหาผิวหน้าที่พบได้บ่อยในทุกช่วงวัย สิวอุดตันเกิดจากการสะสมของน้ำมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ภายในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดเป็นตุ่มแข็งใต้ผิวหนัง แม้จะไม่มีอาการอักเสบในช่วงแรก แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง สิวอุดตันสามารถพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบและทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้

สิวอุดตันมีกี่ชนิด อะไรบ้าง
สิวอุดตันเกิดจากสาเหตุการอุดตันของรูขุมขน แต่สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ได้แก่ สิวหัวขาว (Whiteheads) และ สิวหัวดำ (Blackheads) ดังนี้

1.สิวหัวขาว (Whiteheads - Closed Comedones)
ลักษณะ
สิวหัวขาวเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาว หรือสีเดียวกับผิวหนัง สิวอุดตันเกิดจากรูขุมขนปิดสนิท ทำให้ไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่ภายใน ไม่สามารถบีบออกได้ง่าย มักพบที่บริเวณ หน้าผาก คาง และแก้ม หากปล่อยไว้อาจพัฒนาไปเป็น สิวอักเสบ ได้

สาเหตุ
• สิวอุดตันเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนจากน้ำมันส่วนเกินและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
• สิวอุดตันเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
• สิวอุดตันเกิดจากล้างหน้าไม่สะอาด ทำให้มีสิ่งสกปรกสะสมในรูขุมขน

2.สิวหัวดำ (Blackheads - Open Comedones)
ลักษณะ
สิวหัวดำเป็นจุดสีดำเล็ก ๆ บนผิวหนัง สิวอุดตันเกิดจากรูขุมขนเปิดออก ทำให้ไขมันสัมผัสอากาศและเกิด ปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) จนกลายเป็นสีดำ สามารถกดออกได้ง่ายกว่าสิวหัวขาว มักพบที่ จมูก หน้าผาก และคาง

สาเหตุ
• สิวอุดตันเกิดจากการสะสมของน้ำมัน สิ่งสกปรก และเซลล์ผิวที่ตายแล้วในรูขุมขน
• สิวอุดตันเกิดจากรูขุมขนเปิดทำให้ไขมันสัมผัสอากาศและเปลี่ยนเป็นสีดำ
• สิวอุดตันเกิดจากการใช้เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการอุดตัน

เปรียบเทียบสิวหัวขาวและสิวหัวดำ

ประเภทสิวอุดตัน	ลักษณะ	รูขุมขน	สี	บีบออกได้ง่ายหรือไม่
สิวหัวขาว	ตุ่มเล็ก ๆ ใต้ผิว	ปิด	ขาว/สีเดียวกับผิว	ยาก
สิวหัวดำ	จุดดำเล็ก ๆ บนผิว	เปิด	ดำ	ง่ายกว่า

สิวอุดตันมักพบบริเวณไหน
สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่มักพบบ่อยในบริเวณที่มีการผลิตน้ำมันมาก โดยเฉพาะบริเวณที่มี ต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) เยอะ ได้แก่

1.ใบหน้า
• หน้าผาก - สิวอุดตันเกิดจากความมันสะสมและเส้นผมที่ตกลงมาโดนผิว
• จมูก - สิวอุดตันเกิดจากเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันเยอะ ทำให้เกิดสิวหัวดำได้ง่าย
• คาง - สิวอุดตันเกิดจากฮอร์โมน หรือการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ
• แก้ม - สิวอุดตันเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือหรือปลอกหมอนที่สกปรก

2.ลำคอและแนวกราม
สิวอุดตันเกิดจากฮอร์โมน และการใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน

3.แผ่นหลังและหน้าอก
สิวอุดตันเกิดจากเหงื่อ น้ำมัน และเสื้อผ้าที่รัดแน่น ทำให้รูขุมขนอุดตัน

4.ไหล่และต้นแขน
สิวอุดตันเกิดจากเหงื่อ มลภาวะ และการเสียดสีของเสื้อผ้า

สิวอุดตันเกิดจากอะไร รู้ถึงสาเหตุ
1.สิวอุดตันเกิดจากการผลิตน้ำมันมากเกินไป
• สิวอุดตันเกิดจากผิวหน้ามัน โดยคนที่มีผิวมัน มักเกิดสิวอุดตันได้ง่าย เพราะรูขุมขนเต็มไปด้วยน้ำมันส่วนเกิน
• สิวอุดตันเกิดจากฮอร์โมนแปรปรวน เช่น วัยรุ่น, ช่วงมีประจำเดือน, ตั้งครรภ์, ความเครียด ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น

2.สิวอุดตันเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน
• สิวอุดตันเกิดจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสม ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน
• สิวอุดตันเกิดจากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม Comedogenic เช่น ครีมที่มีเนื้อหนักหรือรองพื้นหนา ๆ
• สิวอุดตันเกิดจากไม่ล้างเครื่องสำอางออกให้สะอาด

3.สิวอุดตันเกิดจากการทำความสะอาดผิวไม่เพียงพอ
• สิวอุดตันเกิดจากล้างหน้าไม่สะอาด ทำให้สิ่งสกปรกและน้ำมันสะสมในรูขุมขน
• สิวอุดตันเกิดจากใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว เช่น สบู่ที่แรงเกินไป ทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น

4.สิวอุดตันเกิดจากอาหารและพฤติกรรมการกิน
• สิวอุดตันเกิดจากอาหารที่มีน้ำตาลสูง, ของทอด, นมวัว, ช็อกโกแลต อาจกระตุ้นการผลิตน้ำมัน
• สิวอุดตันเกิดจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ผิวขาดสมดุล

5.สิวอุดตันเกิดจากมลภาวะและฝุ่นละออง
• สิวอุดตันเกิดจากฝุ่นและควันจากสิ่งแวดล้อมอาจทำให้รูขุมขนอุดตัน
• สิวอุดตันเกิดจากการสัมผัสใบหน้าด้วยมือที่ไม่สะอาดอาจนำเชื้อโรคและสิ่งสกปรกเข้าสู่ผิว

6.สิวอุดตันเกิดจากการใช้เครื่องสำอางและสกินแคร์ไม่เหมาะสม
• สิวอุดตันเกิดจากผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันหนัก ๆ หรืออุดตันง่าย
• สิวอุดตันเกิดจากการใช้ครีมกันแดดที่อุดตันรูขุมขน
• สิวอุดตันเกิดจากไม่ล้างแปรงแต่งหน้า หรือฟองน้ำแต่งหน้าเป็นประจำ

7.สิวอุดตันเกิดจากพันธุกรรม
สิวอุดตันเกิดจากกรรมพันธุ์ ทำให้บางคนมีแนวโน้มเป็นสิวอุดตันได้ง่ายกว่าคนอื่น

8.สิวอุดตันเกิดจากความเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ
• สิวอุดตันเกิดจากความเครียดกระตุ้น ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น
• สิวอุดตันเกิดจากการนอนหลับไม่เพียงพอทำให้ร่างกายฟื้นฟูผิวได้ไม่ดี

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้สิวอุดตันแย่ลง
สิวอุดตันอาจไม่ก่อให้เกิดการอักเสบหากดูแลอย่างถูกต้อง แต่หากมีพฤติกรรมที่กระตุ้นหรือทำให้รูขุมขนอักเสบ อาจทำให้สิวอุดตันแย่ลง และพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้

1.การบีบ แกะ เกาสิว
• สิวอุดตันเกิดจากการกดสิวผิดวิธี สิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียอาจเข้าสู่รูขุมขนลึกขึ้น ทำให้เกิดการอักเสบ
• สิวอุดตันเกิดจากการที่ถูกบีบออกมาไม่หมด อาจติดเชื้อและกลายเป็นสิวหนองหรือสิวอักเสบ
• สิวอุดตันเกิดจากการกดหรือแกะสิวแรง ๆ ทำให้เกิดรอยดำจากสิว
• สิวอุดตันเกิดจากรูขุมขนเสียหาย หากบีบสิวแรงเกินไป รูขุมขนอาจเสียหายและเกิดสิวอุดตันซ้ำ ๆ

2.การสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ
• สิวอุดตันเกิดจากแบคทีเรียและสิ่งสกปรกจากมือ มือสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา เช่น มือถือ คีย์บอร์ด โต๊ะ ซึ่งมีเชื้อโรคสะสม
• สิวอุดตันเกิดจากฝุ่น สิ่งสกปรก และน้ำมันจากมือสามารถถ่ายเทไปสู่ใบหน้า ทำให้รูขุมขนอุดตันมากขึ้น
• สิวอุดตันเกิดจากการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ อาจทำให้สิวกลายเป็นสิวอักเสบมากขึ้น

3.การใช้โทรศัพท์มือถือที่ไม่สะอาด
• สิวอุดตันเกิดจากโทรศัพท์มือถือที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย
• สิวอุดตันเกิดจากเมื่อนำโทรศัพท์แนบหน้า เชื้อโรคและน้ำมันจากผิวหนังจะไปอุดตันรูขุมขน
• สิวอุดตันเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่ไม่สะอาด อาจทำให้เกิดสิวที่แก้มและกรามได้

4.การใช้ปลอกหมอน ผ้าเช็ดหน้า หรือแปรงแต่งหน้าที่สกปรก
• สิวอุดตันเกิดจากปลอกหมอนที่ไม่ได้เปลี่ยนบ่อย ๆ มีน้ำมันจากเส้นผมและใบหน้าสะสม
• สิวอุดตันเกิดจากผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าขนหนูที่ไม่ได้ซักเป็นประจำ สามารถสะสมแบคทีเรียและทำให้เกิดสิว
• สิวอุดตันเกิดจากแปรงแต่งหน้าสกปรก สามารถนำสิ่งสกปรกและแบคทีเรียกลับเข้าสู่ผิว

5.การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน
• สิวอุดตันเกิดจากรองพื้น ครีมบำรุง หรือครีมกันแดดที่มีส่วนผสมอุดตันรูขุมขน
• สิวอุดตันเกิดจากการแต่งหน้าหนาเกินไป โดยไม่ล้างออกให้สะอาด
• สิวอุดตันเกิดจากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันหนัก ๆ บนผิวมัน

6.ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ
• สิวอุดตันเกิดจากความเครียดกระตุ้น ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น
• สิวอุดตันเกิดจากการนอนดึกทำให้ ร่างกายซ่อมแซมผิวได้ไม่ดี และกระตุ้นการเกิดสิว

7.การรับประทานอาหารที่กระตุ้นสิว
• สิวอุดตันเกิดจากอาหารที่มีน้ำตาลสูง (เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม) ทำให้ระดับอินซูลินเพิ่มขึ้น กระตุ้นการผลิตน้ำมัน
• สิวอุดตันเกิดจากอาหารที่มี นมวัว และผลิตภัณฑ์จากนมอาจทำให้เกิดสิว
• สิวอุดตันเกิดจากอาหารมัน ของทอด และฟาสต์ฟู้ดสามารถเพิ่มการอักเสบของผิว

สิวอุดตันรักษาอย่างไรให้ถูกวิธี
สิวอุดตันเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน โดยไม่มีการอักเสบ ซึ่งสามารถรักษาได้ทั้งวิธีรักษาสิวด้วยตัวเอง และการรักษาทางการแพทย์ ดังนี้

1.การดูแลผิวอย่างถูกต้อง
1.1 ล้างหน้าให้สะอาด แต่ไม่บ่อยเกินไป
• ล้างหน้า วันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น) และหลังจากออกกำลังกายหรือเหงื่อออกมาก
• ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนและไม่มีสารระคายเคือง เช่น SLS, Alcohol, Fragrance
• เลือกคลีนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น
- ผิวมัน - ใช้เจลล้างหน้าที่มี Salicylic Acid (BHA)
- ผิวแห้ง - ใช้คลีนเซอร์ที่มีมอยส์เจอไรเซอร์
- ผิวแพ้ง่าย - ใช้สูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์

1.2 ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
• ใช้สารผลัดเซลล์ผิว (Chemical Exfoliants) เช่น
- BHA (Salicylic Acid) 0.5%-2% ช่วยละลายไขมันที่อุดตันรูขุมขน
- AHA (Glycolic Acid, Lactic Acid) 5%-10% ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ลดการอุดตัน
- Retinoids (Retinol, Adapalene, Tretinoin) ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ลดการเกิดสิว

• ใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อป้องกันการระคายเคือง

1.3 หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
• หลีกเลี่ยง รองพื้น ครีมบำรุง และกันแดดที่มีส่วนผสมอุดตันรูขุมขน
• เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า "Non-Comedogenic" หรือ "Oil-Free"

1.4 ใช้ครีมกันแดดที่ไม่อุดตันรูขุมขน
• ปกป้องผิวจาก รังสี UV ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตัน
• เลือก กันแดดสูตรเจลหรือสูตรน้ำ เพื่อไม่ให้รูขุมขนอุดตัน

2.การใช้ยาและเวชสำอางเพื่อรักษาสิวอุดตัน
2.1 ยาทาภายนอกที่ช่วยลดสิวอุดตัน
• Benzoyl Peroxide (BP) 2.5%-5%
- ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันการอักเสบของสิว
- ไม่ช่วยลดสิวอุดตันโดยตรง แต่ช่วยลดโอกาสเกิดสิวอักเสบ

• Salicylic Acid (BHA) 0.5%-2%
ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน

• Retinoids (Retinol, Adapalene, Tretinoin)
- เร่งการผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน
- ควรใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ในช่วงแรก เพราะอาจทำให้ผิวแห้งหรือลอก

2.2 ยารับประทาน (กรณีสิวอุดตันรุนแรง)
• ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics - Doxycycline, Clindamycin)
ใช้ในกรณีที่มีสิวอักเสบร่วมกับสิวอุดตัน

• Isotretinoin (กรดวิตามินเอในรูปแบบกิน)
- เหมาะสำหรับสิวอุดตันที่รุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป
- ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากมีผลข้างเคียง เช่น ผิวแห้ง ปากแห้ง ตาแห้ง

3.การรักษาสิวอุดตันด้วยหัตถการทางการแพทย์
• การกดสิวโดยแพทย์ผิวหนัง
- ใช้เครื่องมือกดสิวช่วยเปิดหัวสิวโดยไม่ทำให้เกิดแผลเป็น
- ควรทำโดยแพทย์เพื่อป้องกันการอักเสบ

• เลเซอร์ (Laser Treatment) ช่วยลดความมันบนผิวหน้า

4.ปรับพฤติกรรมเพื่อลดสิวอุดตัน
• เปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าเช็ดหน้า และแปรงแต่งหน้าบ่อย ๆ เพราะสิวอุดตันเกิดจากสิ่งสกปรก
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าและการบีบสิว เพราะสิวอุดตันเกิดจากการรูขุมขนอุดตัน
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และหลีกเลี่ยงของทอด ของหวาน

5.อาหารและไลฟ์สไตล์ที่ช่วยลดสิวอุดตัน
• อาหารที่ดีต่อผิว
- อาหารที่มีโอเมก้า-3 เช่น ปลาแซลมอน
- ผักและผลไม้ที่มีวิตามิน A, C และ E
- ดื่มน้ำให้มากขึ้นลดน้ำตาลและของทอด

• หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นสิว
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม
- นมวัว และผลิตภัณฑ์จากนม
- อาหารทอดและฟาสต์ฟู้ด

• นอนหลับให้เพียงพอและลดความเครียด
- นอนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย

6.เลเซอร์รักษาสิว AviClear
AviClear เป็นเลเซอร์รักษาสิวที่ได้รับการรับรองจาก FDA (องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นเลเซอร์ตัวแรกที่ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาสิวโดยเฉพาะ โดย AviClear Laser ไม่ต้องใช้ยา เช่น Isotretinoin หรือยาปฏิชีวนะ

เลเซอร์รักษาสิว AviClear ทำงานอย่างไร
• ใช้พลังงานเลเซอร์ความยาวคลื่น 1726 นาโนเมตร
• เจาะลึกเข้าไปในต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) เพื่อช่วยลดการผลิตน้ำมัน (Sebum) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสิวอุดตัน
• ไม่เพียงแค่ช่วยลดสิวอุดตัน แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่

เลเซอร์รักษาสิว AviClear มีข้อดีอะไรบ้าง
• ลดสิวอุดตัน, สิวหัวดำ, สิวหัวขาว และสิวอักเสบ
• ปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิว และทุกสีผิว
• ลดความจำเป็นในการใช้ยารักษาสิว
• ไม่ต้องพักฟื้น
• ผลลัพธ์ถาวรในระยะยาว
• ไม่ต้องทานยา หรือกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา

AviClear เหมาะกับใคร
• ผู้ที่มีสิวอุดตันเรื้อรัง หรือสิวฮอร์โมน
• ผู้ที่ไม่ต้องการใช้ยา หรือแพ้ยารักษาสิว
• ผู้ที่รักษาสิวแบบเดิมแล้วไม่ได้ผล
• เหมาะกับทุกสีผิว และทุกสภาพผิว

ผลลัพธ์ของ AviClear เป็นอย่างไร
• ส่วนใหญ่เห็นผลหลังจาก 3 ครั้งของการรักษา (ทำห่างกัน 1 เดือน)
• ลดการเกิดสิวลงได้ 80-90% ภายใน 6 เดือนหลังการรักษาครบคอร์ส
• ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ผิวลอก แสบร้อน หรือแพ้ยา

AviClear ปลอดภัยหรือไม่
• ได้รับการรับรองจาก FDA ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ไม่มีสารเคมี ไม่มีรังสีอันตราย
• ผลข้างเคียงน้อยมาก อาจมี อาการแดงเล็กน้อยหลังทำ แต่จะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง

7.เลเซอร์รักษาสิว Accure Laser
Accure Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาสิวโดยเฉพาะ โดยใช้ความยาวคลื่น 1,726 นาโนเมตร เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมไขมันที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว

หลักการทำงานของ Accure Laser
เลเซอร์จะส่งพลังงานเข้าสู่ชั้นผิวในระดับความลึกที่เหมาะสม เพื่อทำลายต่อมไขมันในรูขุมขนให้ฝ่อตัวลง ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว 

ข้อดีของการรักษาด้วย Accure Laser
• ลดการผลิตไขมันในรูขุมขนที่เป็นต้นเหตุของสิว
• กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
• ลดปัญหาสิวซ้ำซากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ไม่ต้องใช้ยาทาหรือยารับประทานที่อาจมีผลข้างเคียง
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
• หลังการรักษาด้วย Accure Laser เพียง 1 ครั้ง สิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
• หลังการรักษา 2 ครั้ง สิวลดลงกว่า 40%
• หลังการรักษา 4 ครั้ง สิวลดลงกว่า 70%
• ในระยะเวลา 6 เดือนหลังการรักษา สิวลดลงมากกว่า 70%

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวอุดตัน
1.ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ซับหน้าระหว่างวัน
• ระหว่างวัน ผิวหน้าจะผลิตน้ำมัน ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวอุดตันได้
• ใช้กระดาษซับมันแบบไม่มีแอลกอฮอล์ หรือ ทิชชู่สะอาด แทนการใช้มือเช็ด
• หลีกเลี่ยง การใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชู่ซ้ำ เพราะอาจสะสมเชื้อโรค

2.ใช้น้ำแร่ฉีดหน้าระหว่างวันเพื่อลดความมัน
• สเปรย์น้ำแร่ช่วยลดความมัน และทำให้ผิวสดชื่น
• เลือกน้ำแร่ที่มี ซิงค์ (Zinc) ช่วยควบคุมความมัน
• หลีกเลี่ยงสเปรย์น้ำแร่ที่มีแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ผิวแห้ง

3.หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีซิลิโคนมากเกินไป
• ซิลิโคนในเครื่องสำอาง เช่น ไพรเมอร์ รองพื้น หรือกันแดด อาจอุดตันรูขุมขน
• ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี "Water-Based" หรือ "Silicone-Free"
• หากจำเป็นต้องใช้ ล้างออกให้สะอาดด้วยคลีนซิ่ง

4.หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีลาโนลินและน้ำมันแร่
• ส่วนผสมเหล่านี้ทำให้ผิวมันขึ้น และอาจอุดตันรูขุมขน
• เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย

5.ใช้สำลีแทนฟองน้ำหรือแปรงแต่งหน้า
• แปรงแต่งหน้าหรือฟองน้ำอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและสิ่งสกปรก
• ใช้สำลีแทนเมื่อลงสกินแคร์หรือรองพื้น
• หากใช้แปรงแต่งหน้า ควรล้างทุกสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

6.ใช้กรดแลคติก (Lactic Acid) หรือเอนไซม์ผลไม้ผลัดเซลล์ผิว
• AHA/BHA อาจแรงเกินไปสำหรับบางคน ลองใช้ Lactic Acid หรือเอนไซม์ผลไม้
• กรดแลคติกช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และลดการอุดตัน
• ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อลดโอกาสเกิดสิว

7.ใช้เจลว่านหางจระเข้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์
• ว่านหางจระเข้ช่วยลดการอักเสบ และให้ความชุ่มชื้นโดยไม่อุดตัน
• ใช้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตอนกลางคืน เพราะสิวอุดตันเกิดจากครีมหนัก ๆ
• เลือกเจลว่านหางจระเข้ 99% ที่ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์

8.ออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
• สิวอุดตันเกิดจากฮอร์โมนความเครียด การออกกำลังกายช่วยลดฮอร์โมนความเครียดที่เป็นตัวกระตุ้นสิว
• เหงื่อที่ออกมาช่วย ขจัดสิ่งสกปรกและสารพิษออกจากรูขุมขน
• ล้างหน้าทันทีหลังออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้สิวอุดตันเกิดจากเหงื่อสะสม

9.ใช้แผ่นซับสิวอุดตันหากเริ่มมีสิวอุดตัน
• หากมีสิวอุดตันเกิดจากความมันส่วนเกินที่เริ่มเป็นตุ่มเล็ก ๆ สามารถใช้แผ่นซับสิวช่วยดูดซับน้ำมัน
• ลดโอกาสการเกิดสิวอักเสบ และช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น
• ควรเปลี่ยนแผ่นทุก 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

10.ใช้เซรั่มที่มีไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) และซิงค์ (Zinc)
• Niacinamide 5%-10% ช่วยลดสิวอุดตันเกิดจากความมันและกระชับรูขุมขน
• Zinc 1%-2% ช่วยลดสิวอุดตันเกิดจากความมันส่วนเกิน
• ใช้เป็นเซรั่มก่อนแต่งหน้า หรือเป็นส่วนหนึ่งของสกินแคร์ประจำวัน

สรุปเกี่ยวกับสิวอุดตันเกิดจากอะไร
สรุปได้ว่า สิวอุดตันเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การผลิตน้ำมันส่วนเกินของผิว การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน หรือพฤติกรรมบางอย่างที่กระตุ้นให้เกิดสิว หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม สิวอุดตันอาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบและส่งผลต่อสุขภาพผิวในระยะยาว

โดยวิธีการรักษาสิวอุดตันเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ มีหลายแนวทาง ตั้งแต่การดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การใช้ยาและเวชสำอาง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ เช่น การทำความสะอาดผิวหน้าให้ถูกต้อง หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นสิว และลดความเครียด รวมถึงการรักษาสิวอุดตันด้วยวิธีทางการแพทย์ เช่น เลเซอร์รักษาสิว AviClear และ Accure Laser ที่ช่วยรักษาสิวอุดตันเกิดจากความมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาสิว

สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตันเกิดจากความมันส่วนเกิน และสนใจทำเลเซอร์รักษาสิว AviClear หรือ Accure Laser สามารถนัดหมายปรึกษาแพทย์ได้ที่ รมย์รวินท์ คลินิก