เลเซอร์ขน คืออะไร เลเซอร์ขนมีกี่แบบ เลเซอร์ขนอันตรายไหม ทำเลเซอร์ขนกี่ครั้งขนหายถาวร

เลเซอร์ขนคืออะไร มีกี่แบบ อันตรายไหม ทำกี่ครั้งขนหายถาวร
เลเซอร์ขนอีกหนึ่งหัตถการมาแรงที่ใครหลายๆ คนกำลังสนใจ เพราะการทำเลเซอร์ขนต่างจากการโกนขนแบบธรรมดาแน่นอน เพราะนอกจากจะช่วยให้เราไม่ต้องเป็นขนคุดจากการโกนซ้ำๆ หรือการแว็กซ์ขนแล้ว ยังช่วยเผยผิวกระจ่างใสจะเล่นซนยังไงก็มั่นใจ เพราะเลเซอร์ขนสามารถทำได้ทุกบริเวณที่มีขน ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า หนวด แขน ขา รักแร้ หรือจิมิ เจ้าเครื่องเลเซอร์ขนก็สามารถทำได้แบบไม่ปลอดภัยไม่ต้องเป็นกังวลใจเลย

รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับเลเซอร์ขน
• เลเซอร์ขนคืออะไร
• วิธีการทำงานของเลเซอร์ขน
- กระบวนการยิงแสงเลเซอร์เข้าสู่รากขน
- การป้องกันผิวหนังระหว่างการปล่อยพลังงาน
- การหยุดวงจรการเติบโตของเส้นขน
• ข้อดีของการทำเลเซอร์ขน
• ข้อควรรู้ในการทำเลเซอร์ขน
• บริเวณไหนที่ควรทำเลเซอร์ขน
• การทำเลเซอร์ขนเหมาะกับใคร
• ใครควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ขน
• 5 ขั้นตอนในการเตรียมตัวเลเซอร์ขน
• 5 ทริคดูแลตัวเองหลังเลเซอร์ขน
• เครื่องเลเซอร์ขนแต่ละตัวต่างกันอย่างไร
- เครื่องเลเซอร์ขน Diode Laser
- เครื่องเลเซอร์ขน IPL
- เครื่องเลเซอร์ขน ND YAG Laser
- เปรียบเทียบเครื่องเลเซอร์ขนแต่ละแบบ
• เลือกคลินิกเลเซอร์ขนยังไงดี
• คำถามยอดฮิตของการเลเซอร์ขน
• สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับเลเซอร์ขน

เลเซอร์ขนคืออะไร
เลเซอร์ขน (Laser Hair Removal) เป็นการกำจัดขนแบบถาวร ที่อาศัยพลังงานความร้อนจากเครื่องเลเซอร์ เข้าไปทำลายถึงรากขนแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งบริเวณที่รากขนจะมีเซลล์เม็ดสีที่เราเรียกว่า เมลานิน ซึ่งตัวของเมลานินจะทำหน้าที่ในการดูดพลังงานจากแสงเลเซอร์ขน ให้มารวมกันอยู่ในบริเวณที่รากขน จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ส่งผลให้เส้นขน รากขน และเนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อบริเวณรากขน รวมไปถึงเส้นเลือดที่เข้ามาหล่อเลี้ยงจะถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถผลิต Stem Cells ที่ทำให้ขนงอกอีกได้

วิธีการทำงานของเลเซอร์ขน
การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ขน เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยความสามารถในการกำจัดขนอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ทำให้เกิดขนคุดในบริเวณที่ทำ

กระบวนการยิงแสงเลเซอร์เข้าสู่รากขน
หลักการทำงานของเลเซอร์ขน คือการปล่อยพลังงานแสงเลเซอร์ในช่วงความยาวคลื่นที่เหมาะสมให้ลงไปยังบริเวณรูขุมขน โดยเฉพาะบริเวณที่มีเม็ดสีเมลานินซึ่งอยู่ในรากขน พลังงานแสงจะถูกดูดซับโดยเมลานินในรากขน แล้วแปลงเป็นความร้อน ซึ่งความร้อนนี้จะทำลายรากขนหรือเซลล์ที่ควบคุมการเจริญเติบโตของเส้นขนในบริเวณนั้น ยิ่งเส้นขนมีสีเข้ม ก็ยิ่งดูดซับพลังงานแสงได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ขนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การป้องกันผิวหนังระหว่างการปล่อยพลังงาน
แม้ว่าพลังงานเลเซอร์ขนจะต้องลงไปถึงรากขน แต่การรักษาความปลอดภัยของผิวหนังก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน โดยทั่วไปเครื่องเลเซอร์ขนจะมีที่มีระบบปกป้องผิวอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น

• เครื่องเลเซอร์ขนจะมีระบบความเย็น (Cooling System) เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังบริเวณรอบข้างร้อนหรือไหม้จากความร้อนที่เกิดจากการเลเซอร์ขน
• เครื่องเลเซอร์ขนจะมีหัวเลเซอร์ที่ออกแบบพิเศษ ช่วยกระจายพลังงานเลเซอร์ขนอย่างสม่ำเสมอ และลดการระคายเคืองของผิว
• เจลนำแสง บางกรณีจะใช้เจลช่วยในการนำแสงเลเซอร์ขนให้ลงสู่ผิวได้ดีขึ้น และยังช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายผิวได้ด้วย

เลเซอร์ขนคืออะไร เลเซอร์ขนมีกี่แบบ เลเซอร์ขนอันตรายไหม ทำเลเซอร์ขนกี่ครั้งขนหายถาวร

เลเซอร์ขน ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

การหยุดวงจรการเติบโตของเส้นขน
เส้นขนของมนุษย์มีวงจรชีวิตอยู่ 3 ระยะหลักๆ ได้แก่

• Anagen (ระยะเจริญเติบโต) - เส้นขนกำลังเติบโต และมีเมลานินอยู่มาก
• Catagen (ระยะพักตัว) - เส้นขนหยุดการเจริญเติบโต
• Telogen (ระยะหลุดร่วง) - เส้นขนจะหลุดออกในที่สุด

การทำเลเซอร์ขนจะได้ผลดีที่สุดในช่วง Anagen เพราะรากขนมีเมลานิน ที่สามารถดูดซับพลังงานแสงได้ดี และยังเชื่อมต่อกับเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงเซลล์ ทำให้การทำลายรากขนมีประสิทธิภาพสูงสุด นี่คือเหตุผลที่ต้องทำเลเซอร์ขนหลายครั้ง เพื่อให้ครอบคลุมเส้นขนที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตในแต่ละรอบ

ข้อดีของการทำเลเซอร์ขน
การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ขนไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความงาม แต่ยังเป็นการดูแลตัวเองในระยะยาวที่สะดวก ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน หากใครกำลังลังเลว่าเราควรเลเซอร์ขนไหม ลองมาดูข้อดีหลักๆ ที่ทำให้การเลเซอร์ขนกลายเป็นหนึ่งในหัตถการที่จะต้องทำกัน

1.เลเซอร์ขนสามารถกำจัดขนอย่างล้ำลึกถึงราก ให้ผลลัพธ์ระยะยาว
เลเซอร์ขนจะส่งพลังงานแสงเข้าไปทำลาย รากขนโดยตรง ทำให้เส้นขนที่ขึ้นใหม่มีลักษณะบางลง หรือในบางรายอาจไม่ขึ้นอีกเลย เมื่อทำเลเซอร์ขนอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำ ขนจะขึ้นช้าลงและลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด ต่างจากการโกน ถอน หรือแว็กซ์ ที่ขนมักกลับมางอกใหม่เร็วและแข็งกว่าเดิม

2.เลเซอร์ขนทำให้ผิวเนียนเรียบ ไม่เป็นตอ ไม่ระคายเคือง
หลังการเลเซอร์ขนผิวจะดูเรียบเนียน ไร้ตอขนและจุดด่างดำ ที่มักเกิดจากการโกนหรือถอน นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหา ขนคุด ผิวหนังอักเสบ หรือตุ่มแดง ที่พบบ่อยจากการกำจัดขนด้วยวิธีทั่วไป ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและน่าสัมผัสอยู่เสมอ

3.การเลเซอร์ขนช่วยลดปริมาณและความถี่ในการดูแลผิวในระยะยาว
แม้การเลเซอร์ขนอาจต้องทำหลายครั้งในช่วงแรก แต่เมื่อครบคอร์สแล้วจะไม่จำเป็นต้องกำจัดขนบ่อยๆ อีกเลย นี่คือการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในเรื่อง เวลา ค่าใช้จ่าย และความสะดวกสบาย

4.การเลเซอร์ขนปลอดภัยและแม่นยำต่อทุกบริเวณของร่างกาย
เทคโนโลยีเลเซอร์ขนในปัจจุบันสามารถปรับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบริเวณ เช่น ใต้วงแขน ขา หน้าแข้ง บิกินี่ หรือแม้แต่บริเวณใบหน้า เลเซอร์สามารถทำลายเฉพาะรากขนโดยไม่กระทบต่อผิวรอบข้าง ปลอดภัยและมีระบบปกป้องผิวด้วยระบบความเย็นหรือเจลระบายความร้อน

5.การเลเซอร์ขนเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัวและเข้าสังคม
เมื่อผิวเรียบเนียน ไร้ขนส่วนเกิน จะช่วยให้คุณสามารถแต่งตัวได้อย่างมั่นใจขึ้น ไม่ว่าจะใส่แขนกุด ขาสั้น หรือชุดว่ายน้ำก็ไม่ต้องกังวลเรื่องขน ทำให้รู้สึกดีและมั่นใจทั้งในชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ

เลเซอร์ขนคืออะไร เลเซอร์ขนมีกี่แบบ เลเซอร์ขนอันตรายไหม ทำเลเซอร์ขนกี่ครั้งขนหายถาวร

เลเซอร์ขน ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ข้อควรรู้ในการทำเลเซอร์ขน
• การทำเลเซอร์ขนต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
การเลเซอร์ขนไม่ได้ให้ผลลัพธ์ถาวรตั้งแต่ครั้งแรก เนื่องจากเส้นขนแต่ละเส้นอยู่ในช่วงวงจรการเจริญเติบโตที่ต่างกัน จึงควรเข้ารับบริการเลเซอร์ขนตามรอบที่แพทย์แนะนำ เช่น ทุก 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ครอบคลุมเส้นขนในทุกระยะ เมื่อทำเลเซอร์ขนอย่างสม่ำเสมอ ขนจะค่อยๆ บางลง ช้าลง และลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด

• การทำเลเซอร์ขนอาจรู้สึกอุ่นหรือเจ็บเล็กน้อยขณะทำ
ระหว่างที่ยิงเลเซอร์ขน อาจมีความรู้สึกเหมือนถูกดีดเบาๆ หรือรู้สึกอุ่นบนผิวหนัง แต่โดยทั่วไปไม่รุนแรงและสามารถทนได้

เครื่องเลเซอร์ขนรุ่นใหม่มีระบบทำความเย็นที่ช่วยลดอุณหภูมิผิว ทำให้รู้สึกสบายและลดความระคายเคืองระหว่างทำเลเซอร์ขน

• ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดก่อนและหลังทำเลเซอร์ขน
ควรงดการโดนแดดโดยตรงอย่างน้อย 3-7 วันทั้งก่อนและหลังการทำเลเซอร์ขน เนื่องจากแสงแดดอาจทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น เสี่ยงต่อการระคายเคือง รอยแดง หรือรอยคล้ำ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง และสวมเสื้อผ้าปกปิดผิวในบริเวณที่ทำเลเซอร์ขน

บริเวณไหนที่ควรทำเลเซอร์ขน
การทำเลเซอร์ขนสามารถทำได้ในหลายบริเวณของร่างกาย โดยแต่ละจุดมีความเหมาะสมแตกต่างกันตามลักษณะเส้นขน ความไวของผิว และความต้องการด้านความงามหรือสุขอนามัย โดยทั่วไปบริเวณที่นิยมทำเลเซอร์ขนมีดังนี้

1.ใต้วงแขน
• เป็นบริเวณเลเซอร์ขนที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด
• ขนบริเวณนี้มักหนาและขึ้นเร็ว การเลเซอร์ขนช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดกลิ่นอับและปัญหาขนคุด
• เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะอาดและมั่นใจในการใส่เสื้อแขนกุด

2.ขา
• ขาเป็นบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง เส้นขนส่วนมากเข้มและชัดเจน
• การเลเซอร์ขนบริเวณขาเหมาะกับผู้ที่ชอบใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้น ต้องการผิวเรียบสม่ำเสมอ
• ช่วยลดการระคายเคืองจากการโกนหรือแว็กซ์ซ้ำๆ

3.แขน
• แม้ขนแขนจะไม่หนาเท่าขา แต่ก็เป็นอีกจุดที่หลายคนอยากให้เรียบเนียน
• การเลเซอร์ขนแขนเหมาะสำหรับผู้ที่มีขนแขนดก หรือมีขนสีเข้มชัดเจน

4.บิกินี่ไลน์ (Bikini Line) หรือบริเวณจุดซ่อนเร้น
• เป็นบริเวณที่ผิวบอบบาง ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
• เลเซอร์ขนช่วยลดการระคายเคือง ขนคุด และรอยดำที่มักเกิดจากการโกนหรือถอน
• ให้ความรู้สึกสะอาดและมั่นใจมากขึ้นในชีวิตประจำวันหรือขณะใส่ชุดว่ายน้ำ

5.ใบหน้า (เช่น หนวด เครา หรือไรผม)
• สำหรับผู้หญิง นิยมทำเลเซอร์ขนบริเวณหนวดหรือไรผมเพื่อให้หน้าดูเรียบเนียน
• สำหรับผู้ชาย บางคนเลือกเลเซอร์ขนเคราเพื่อกำจัดขนถาวรหรือปรับรูปเคราให้ชัดขึ้น
• บริเวณนี้ต้องใช้เทคโนโลยีที่แม่นยำและปลอดภัยเป็นพิเศษ เนื่องจากใกล้จุดสำคัญ เช่น ดวงตา

6.หลัง อก หรือหน้าท้อง
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนตามลำตัวเยอะ และต้องการความเรียบเนียน
• โดยเฉพาะผู้ชายที่ต้องการลุคสะอาดหรือชอบแต่งตัวแบบเปิดเผยช่วงบน สามารถทำเลเซอร์ขนบริเวณ หลัง อก หรือหน้าท้องได้เลย

เลเซอร์ขนคืออะไร เลเซอร์ขนมีกี่แบบ เลเซอร์ขนอันตรายไหม ทำเลเซอร์ขนกี่ครั้งขนหายถาวร

เลเซอร์ขน ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

การทำเลเซอร์ขนเหมาะกับใคร
หลายคนอาจสงสัยว่าเลเซอร์ขนเหมาะกับตัวเองไหม หรือจำเป็นต้องทำหรือเปล่า จริงๆ แล้วการทำเลเซอร์ขนไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ปัญหากวนใจในชีวิตประจำวันได้มากมาย มาดูกันเลยว่าคนแบบไหนที่เหมาะกับการทำเลเซอร์ขน

1.คนที่เบื่อการกำจัดขนบ่อยๆ
ถ้าต้องโกน ถอน หรือแว็กซ์ขนอยู่บ่อยๆ จนรู้สึกเสียเวลา เจ็บ หรือเหนื่อยใจ การทำเลเซอร์ขนคือทางออกที่ช่วยให้ "จบปัญหานี้ในระยะยาว" ได้ เพราะเมื่อทำครบคอร์ส ขนจะขึ้นช้าลง บางลง หรือบางจุดอาจไม่ขึ้นอีกเลย

2.คนที่มีปัญหาขนคุด ผิวอักเสบ หรือเป็นตุ่มแดงหลังโกนขน
หลายคนโดยเฉพาะบริเวณรักแร้ หรือบิกินี่ไลน์ มักเจอปัญหาขนคุด ผิวเป็นตุ่มๆ หรือมีรอยดำสะสม เลเซอร์ขนจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะทำลายรากขนโดยตรง ไม่ต้องเสียดสีกับผิวบ่อยๆ จึงช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

3.คนที่อยากมีผิวเนียนใสอย่างมั่นใจ
ถ้าคุณอยากใส่แขนกุด ขาสั้น หรือชุดว่ายน้ำอย่างมั่นใจโดยไม่ต้องห่วงเรื่องขน การเลเซอร์ขนจะช่วยให้ผิวดูสะอาด เรียบเนียน และน่ามองยิ่งขึ้น ไม่ต้องคอยเช็กว่าขนขึ้นหรือยัง

4.คนที่มีขนดก หรือขนขึ้นผิดตำแหน่ง
บางคนมีขนหนา หรือขึ้นในจุดที่ไม่ต้องการ เช่น ใบหน้า หลัง หรือหน้าท้อง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ การทำเลเซอร์ขนช่วยจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้แบบตรงจุด ช่วยปรับลุคให้ดูสะอาดขึ้น

5.คนที่ต้องการดูแลผิวและใส่ใจตัวเองมากขึ้น
สำหรับใครที่ใส่ใจในการดูแลผิว เลเซอร์ขนก็ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนดูแลตัวเองที่ตอบโจทย์ เพราะนอกจากกำจัดขนแล้ว ยังช่วยลดปัญหาผิวสะสม เช่น รูขุมขนกว้าง รอยดำจากการโกน และการระคายเคืองจากการถอนขน

ใครควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ขน
แม้การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ขนจะปลอดภัยและเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ก็มีบางกรณีที่ไม่แนะนำให้ทำ เพราะอาจเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงได้ มาดูรายละเอียดกันเลยว่าใครบ้างที่ควรพิจารณาเลี่ยง หรือปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำเลเซอร์ขน

1.ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังบริเวณที่จะทำเลเซอร์ขน
หากบริเวณผิวที่ต้องการเลเซอร์ขนมีแผลสด ผิวไหม้จากแสงแดด การติดเชื้อ หรือเป็นผื่นแพ้อยู่ ควรรักษาอาการเหล่านั้นให้หายก่อน เพราะเลเซอร์ขนอาจทำให้ผิวระคายเคือง แสบ หรือหายช้าขึ้น

2.ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลยืนยันแน่ชัดว่าเลเซอร์ขนมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือผ่านทางน้ำนม แต่แพทย์มักแนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ขนในช่วงนี้เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูก

3.ผู้ที่มีผิวไวต่อแสงหรือใช้ยาบางชนิด
เช่น ยารักษาสิวกลุ่ม Retinoids หรือยาปฏิชีวนะบางชนิดที่ทำให้ผิวไวต่อแสง การทำเลเซอร์ขนในช่วงที่ใช้ยาเหล่านี้อาจทำให้ผิวไหม้หรือเกิดรอยดำถาวรได้ ควรหยุดใช้ยาหรือปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

4.ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังบางชนิด
เช่น โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis), ด่างขาว (Vitiligo), หรือโรค SLE ซึ่งผิวหนังอาจตอบสนองต่อแสงผิดปกติ และเสี่ยงต่อการอักเสบมากกว่าคนทั่วไป

5.ผู้ที่มีประวัติเป็นคีลอยด์ (Keloid)
หากเคยมีแผลที่นูนหรือเป็นคีลอยด์ง่าย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะแม้เลเซอร์ขนจะเป็นเทคโนโลยีไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็อาจกระตุ้นให้เกิดรอยแผลนูนในบางกรณีได้

5 ขั้นตอนในการเตรียมตัวเลเซอร์ขน
เพื่อผลลัพธ์ในการเลเซอร์ขนที่ดีที่สุด และลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองของผิว

1.งดการถอนหรือแว็กซ์ขนล่วงหน้า
หลีกเลี่ยงการ ถอน แว็กซ์ หรือใช้ครีมกำจัดขน อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ขน เพราะการกำจัดขนด้วยวิธีเหล่านี้จะดึงรากขนออก ซึ่งเป็นจุดที่เลเซอร์ต้องการทำลาย
หากไม่มีรากขนอยู่ เลเซอร์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหรือสารเคมีรุนแรง
หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่มี กรด AHA, BHA, เรตินอล หรือสารผลัดเซลล์ผิว อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ขน เพราะสารเหล่านี้อาจทำให้ผิวบางลง และเพิ่มความไวต่อแสง ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือผิวไหม้หลังเลเซอร์ขนได้

3.เลี่ยงการโดนแดดจัด
ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ
หากผิวถูกแสงแดดมากเกินไป อาจเกิดการระคายเคืองหรือรอยแดงได้ง่ายหลังทำเลเซอรขน แนะนำให้ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ และใส่เสื้อผ้าปกปิดผิวบริเวณที่จะทำเลเซอร์ขน

4.โกนขนบริเวณที่จะทำเลเซอร์ขน
ในวันก่อนหรือวันเดียวกับที่เข้ารับบริการ ให้ โกนขนให้เรียบและสั้นพอเหมาะ ด้วยมีดโกน ไม่ควรถอนหรือใช้แว็กซ์ เพราะเลเซอร์ขนต้องใช้รากขนในการทำลาย การโกนจะช่วยให้พลังงานเลเซอร์ขนลงลึกถึงรากขนได้โดยไม่ถูกขวางด้วยขนที่ยาว

5.แจ้งข้อมูลการใช้ยาและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
หากใช้ยาเฉพาะทาง เช่น ยารักษาสิว ยาปฏิชีวนะ หรือครีมที่ทำให้ผิวไวต่อแสง ควรแจ้งให้แพทย์ที่ดูแลทราบก่อนการทำเลเซอร์ขน เพื่อประเมินความปลอดภัย เพราะบางตัวยาอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรือเกิดรอยดำได้ง่าย

5 ทริคดูแลตัวเองหลังเลเซอร์ขน
หลังการทำเลเซอร์ขน ผิวจะอยู่ในภาวะที่บอบบางและต้องการการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการระคายเคืองและเสริมประสิทธิภาพของผลลัพธ์

1.หลีกเลี่ยงแสงแดด
หลังทำเลเซอร์ขน ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ หากจำเป็นต้องออกแดด ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง และเลือกแบบที่อ่อนโยนต่อผิว เพราะผิวที่เพิ่งทำเลเซอร์ขนจะไวต่อแสงมากกว่าปกติ และเสี่ยงต่อการเกิดรอยแดงหรือรอยดำได้ง่าย

2.ห้ามถอนหรือโกนขนที่กำลังจะหลุด
ขนที่ได้รับพลังงานเลเซอร์ขนจะค่อยๆ หลุดออกไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์หลังทำ ห้ามถอนหรือโกนขนซ้ำในช่วงนี้ เพราะการรบกวนรากขนอาจทำให้เกิดการอักเสบ หรือกระทบต่อกระบวนการผลัดขนตามธรรมชาติ
ปล่อยให้ขนหลุดออกอย่างเป็นธรรมชาติจะดีที่สุด

3.ใช้ครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยน
เลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารเคมีรุนแรง เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็ว ลดอาการแสบ แดง หรือคัน เน้นครีมที่ให้ความชุ่มชื้นและลดการอักเสบ เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้หรือสารสกัดธรรมชาติ

4.งดกิจกรรมที่ทำให้ผิวร้อนในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ผิวสัมผัสความร้อน เช่น

• การอบซาวน่า
• การแช่น้ำร้อน
• การออกกำลังกายหนัก

เพราะอุณหภูมิที่สูงจะทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดอาการอักเสบได้ง่าย ควรพักผิวให้เย็นและสงบก่อน

5.สังเกตอาการผิดปกติ
โดยทั่วไปอาจมีอาการร้อนหรือแดงเล็กน้อยหลังทำเลเซอร์ขน ซึ่งจะหายไปใน 1-2 วัน แต่หากมี อาการคัน รอยแดง ผิวไหม้ หรืออักเสบที่ไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรรีบปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษาทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

เครื่องเลเซอร์ขนแต่ละตัวต่างกันอย่างไร
ปัจจุบันมีหลายเทคโนโลยีเลเซอร์ขนให้เลือก แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวแตกต่างกันทั้งในเรื่องของ ความลึกของการทำลายรากขน, ความเหมาะสมกับสีผิว, ประสิทธิภาพ และความรู้สึกขณะทำ
มาทำความรู้จักเครื่องเลเซอร์ขนกันทีละแบบ พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อจำกัดของแต่ละเทคโนโลยีด้วย

1.เครื่องเลเซอร์ขน Diode Laser
เครื่องเลเซอร์ขน Diode Laser เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเลเซอร์ขนที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในคลินิกความงาม

• ใช้ความยาวคลื่นประมาณ 800-810 nm
• เจาะจงเป้าหมายที่เมลานินในรากขนได้อย่างแม่นยำ
• มีระบบทำความเย็นในตัว ช่วยลดความรู้สึกเจ็บ
• เหมาะสำหรับผิวขาวถึงผิวสองสี (ผิวโทนเอเชีย)
• ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและค่อนข้างถาวรเมื่อทำต่อเนื่อง

ข้อดีเครื่องเลเซอร์ขน Diode Laser ยิงลึกถึงรากขน มีประสิทธิภาพสูง ลดขนได้จริง
ข้อจำกัด เครื่องเลเซอร์ขน Diode Laser คนที่มีผิวเข้มมากอาจรู้สึกแสบผิว ต้องปรับค่าพลังงานอย่างระมัดระวัง

2.เครื่องเลเซอร์ขน IPL (Intense Pulsed Light)
แม้จะเรียกว่า "เลเซอร์ขน" แต่จริงๆ แล้ว IPL ไม่ใช่เลเซอร์แบบตรงตัว แต่เป็นแสงความเข้มสูงกระจายกว้าง

• ใช้คลื่นแสงหลายช่วง (ไม่เฉพาะเจาะจง)
• ดูดซับเมลานินได้ แต่ไม่ลึกเท่า Diode หรือ ND:YAG
• ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส รอยแดง และจุดด่างดำควบคู่ไปด้วย
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวขาวและขนไม่หนามาก

ข้อดี เจ็บน้อย ค่าใช้จ่ายต่อครั้งต่ำ และดูแลปัญหาผิวควบคู่ได้
ข้อจำกัด ต้องทำหลายครั้งกว่าจะเห็นผล และไม่เหมาะกับขนหนาหรือผิวเข้มมาก

3.เครื่องเลเซอร์ขน ND:YAG Laser
เครื่องเลเซอร์ขน ND:YAG (Neodymium-doped Yttrium Aluminum Garnet) คือเลเซอร์ความยาวคลื่นยาวที่สุดในบรรดาทั้งหมด

• ใช้ความยาวคลื่นประมาณ 1064 nm
• เจาะลึกได้ถึงชั้นรากขนใต้ผิวหนัง
• ปลอดภัยสำหรับ ผิวเข้มถึงผิวคล้ำ
• ลดการเกิดขนคุดและปัญหาผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ดี

ข้อดี เหมาะกับทุกสีผิว โดยเฉพาะผิวคล้ำ ผิวแพ้ง่าย และพื้นที่บอบบาง
ข้อจำกัด อาจรู้สึกเจ็บมากกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น และราคาสูงกว่าบางเทคโนโลยี

เปรียบเทียบเครื่องเลเซอร์ขนแต่ละแบบ

เลือกคลินิกเลเซอร์ขนยังไงดี
การเลือกคลินิกในการเลเซอร์ขน เป็นสิ่งสำคัญในอันดับต้นๆ การที่รมย์รวินท์คลินิก เป็นที่ไว้วางใจและลูกค้าที่มาใช่บริการต่างบอกต่อเพราะคุณสมบัติต่อไปนี้

- เทคโนโลยีมีความทันสมัย มีประสิทธิภาพสูงและอ่อนโยนต่อผิว
- มีโปรแกรมเลเซอร์ขนให้เลือกมากมายตอบโจทย์ทุกความต้องการของผิว
- ได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ผิวเรียบเนียน
- ราคาคุ้มค่า มีโปรโมชั่นและแพ็คเกจที่หลากหลาย
- บรรยากาศที่ผ่อนคลาย คลินิกสะอาด พนักงานพร้อมให้บริการด้วยความใส่ใจ

คำถามยอดฮิตของการเลเซอร์ขน
1.เลเซอร์ขนเจ็บไหม ?
เลเซอร์ขนไม่ได้เจ็บมาก แค่รู้สึกอุ่นๆ หรือดีดเบาๆ สามารถปรับระดับได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล

2.เลเซอร์ขนแล้วขนจะหายถาวรไหม ?
เลเซอร์ขน ช่วยลดปริมาณขนได้ในระยะยาว แต่ไม่สามารถรับรองว่าหายถาวร 100% สำหรับทุกคน

เมื่อทำครบคอร์ส ขนจะ
• ขึ้นช้าลง
• เส้นเล็กและบางลง
• บางบริเวณอาจไม่มีขนขึ้นอีกเลย

แต่ในระยะยาวอาจต้องมีการ ทำซ้ำปีละ 1-2 ครั้ง (maintenance) เพื่อควบคุมไม่ให้ขนกลับมาใหม่ โดยเฉพาะในบริเวณที่ฮอร์โมนส่งผล เช่น ใบหน้า หรือบิกินี่ไลน์

3.ต้องโกนขนก่อนเลเซอร์ขนไหม?
ควรโกนขนก่อนเข้ารับการทำเลเซอร์ขน โดยควรโกนใน วันก่อน หรือเช้าวันที่ทำเลเซอร์ เพื่อให้

• พลังงานเลเซอร์สามารถส่งตรงถึงรากขนได้ดี
• ลดความเสี่ยงในการไหม้ผิวจากขนที่ยาวเกินไป
• ช่วยให้การยิงเลเซอร์มีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น

ห้ามถอนหรือแว็กซ์ก่อนทำเลเซอร์ขนเด็ดขาด เพราะจะทำให้รากขนหายไป ซึ่งเป็นจุดที่เลเซอร์ต้องการทำลาย

4.เลเซอร์ขนกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
การทำเลเซอร์ขน ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง เพราะเส้นขนของเราไม่ได้ขึ้นพร้อมกันทั้งหมด แต่จะอยู่ในวงจรชีวิต 3 ระยะ

• Anagen (ระยะเจริญเติบโต) - ช่วงที่เลเซอร์ขนทำงานได้ดีที่สุด
• Catagen (ระยะพักตัว)
• Telogen (ระยะหลุดร่วง)

โดยทั่วไปแนะนำให้ทำเลเซอร์ขนประมาณ 6-10 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4-6 สัปดาห์ หลังจากนั้นสามารถทำซ้ำเป็นครั้งคราวเพื่อรักษาผลลัพธ์ เช่น ปีละ 1-2 ครั้ง ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนตั้งแต่ครั้งที่ 3-4 เป็นต้นไป ขนจะบางลงและขึ้นช้าลงอย่างสังเกตได้

สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับเลเซอร์ขน
การทำเลเซอร์ขนไม่เพียงแต่ช่วยกำจัดขนได้อย่างล้ำลึกและยาวนาน แต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพผิวที่ครอบคลุมทั้งความงามและความมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องขนคุด หรือมีดโกนบาดผิว ใครที่เคยลองวิธีอื่นมาแล้วไม่ได้ผล หรืออยากลดภาระการกำจัดขนซ้ำๆ ในชีวิตประจำวัน เลเซอร์ขนคือคำตอบที่คุ้มค่าที่สุดในระยะยาวแน่นอน