romrawin

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จมูก คืออะไร เหมาะกับใคร ฉีดกี่ครั้งเห็นผล

ฉีดฟิลเลอร์จมูก

25

โปรแกรม ฉีดฟิลเลอร์จมูก คืออะไร อยู่ได้นานแค่ไหน อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสามารถช่วยปรับรูปทรงจมูกให้ดูโด่งขึ้น ได้สัดส่วน และรับกับใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงลุคอย่างดูเป็นธรรมชาติ หรือยังไม่พร้อมสำหรับการศัลยกรรมเสริมจมูก

อย่างไรก็ตาม ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูกควรทำความเข้าใจ ทั้งข้อดี ข้อจำกัด ข้อควรระวัง รวมถึงการดูแลตัวเองก่อนและหลังทำ บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก เพื่อช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์จมูก คืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์จมูก คือหัตถการความงามที่ใช้สารเติมเต็มฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารประเภท Hyaluronic Acid (HA) ฉีดเข้าไปบริเวณจมูก เพื่อช่วยปรับรูปทรงให้ดูโด่งขึ้น ได้สัดส่วน และสมดุลกับใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน และสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาไม่นานหลังทำ

ฟิลเลอร์ HA ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นสารที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย เมื่อฉีดเข้าไปจะช่วยเติมเต็ม ปรับสันจมูกให้เรียบสวย หรือแก้ไขจุดบกพร่องเล็ก ๆ ของจมูก เช่น จมูกแบน สันจมูกไม่ชัด หรือมีความไม่เรียบเล็กน้อย ทั้งนี้ฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์จมูก ช่วยอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปทรงจมูกให้ดูสวยได้สัดส่วนมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จมูกสามารถช่วยได้หลายด้าน ดังนี้

1.ฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยให้สันจมูกดูโด่งและชัดขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์จมูกจะช่วยเสริมสันจมูกให้ดูโด่งขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีสันจมูกแบนหรือไม่ชัด แต่ไม่ต้องการผ่าตัดเสริมจมูก

2.ฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยปรับรูปทรงจมูกให้เรียบสวย
การฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยแก้ไขปัญหาสันจมูกไม่เรียบ มีรอยบุ๋ม หรือมีฮัมพ์เล็กน้อย ทำให้แนวสันจมูกดูต่อเนื่อง เรียบเนียน และได้รูปมากขึ้น

3.ฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยให้จมูกดูได้สัดส่วนกับใบหน้า
แพทย์สามารถออกแบบการฉีดฟิลเลอร์จมูกให้รับกับโครงหน้าโดยรวม ทำให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้าดูละมุนและมีมิติ

4.ฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยแก้ปัญหาจมูกแบน จมูกไม่มีมิติ
สำหรับผู้ที่มีจมูกแบนหรือสันจมูกไม่เด่น การฉีดฟิลเลอร์จมูกจะช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้า ทำให้หน้าดูคมชัดขึ้นเมื่อมองด้านข้างหรือถ่ายรูป

5.ฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยยกปลายจมูก (ในบางกรณี)
ในบางเคส แพทย์อาจใช้ฟิลเลอร์ช่วยปรับปลายจมูกให้ดูเชิดขึ้นเล็กน้อย ทำให้จมูกดูเรียวยาวและดูมีมิติมากขึ้น ทั้งนี้ต้องประเมินตามโครงสร้างจมูกของแต่ละบุคคล

6.ฉีดฟิลเลอร์จมูกเห็นผลลัพธ์ในเวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้นนาน
หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาไม่นอน ใช้เวลาทำน้อย และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

7.ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมผ่าตัด
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากทดลองทรงจมูกก่อนตัดสินใจผ่าตัด หรือผู้ที่ไม่ต้องการทำศัลยกรรมถาวร

ฉีดฟิลเลอร์จมูก เหมาะกับใครบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยปรับรูปทรงจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน ซึ่งกลุ่มคนที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก มีดังนี้

1.ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับผู้ที่มีสันจมูกไม่โด่งหรือไม่ชัด
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับผู้ที่จมูกแบน สันจมูกไม่โด่ง แต่มีโครงสร้างจมูกพื้นฐานค่อนข้างดี ฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มสันจมูกให้ดูชัดและมีมิติมากขึ้น

2.ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกเพียงเล็กน้อย
เช่น สันจมูกไม่เรียบ มีรอยบุ๋ม หรือมีฮัมพ์เล็กน้อย การฉีดฟิลเลอร์จมูกสามารถช่วยปรับให้แนวสันจมูกดูเรียบและได้รูปมากขึ้น

3.ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดเสริมจมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะสำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากดมยาสลบ หรือไม่ต้องการพักฟื้นนานหลังทำศัลยกรรม

4.ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในเวลาสั้น
การฉีดฟิลเลอร์จมูกใช้เวลาทำไม่นาน และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาไม่นานหลังทำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมลุคให้ดูดีในโอกาสสำคัญ เช่น งานแต่ง งานอีเวนต์ หรือการถ่ายภาพ

5.ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับผู้ที่ต้องการทดลองทรงจมูกก่อนตัดสินใจผ่าตัด
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากเห็นภาพรวมของรูปทรงจมูกก่อนทำศัลยกรรมถาวร

6.ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับผู้ที่ต้องการการปรับแก้ที่ไม่ถาวร
เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงเหมาะกับผู้ที่ยังไม่ต้องการผลลัพธ์ถาวร หรืออยากปรับเปลี่ยนรูปทรงในอนาคต

7.ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน
หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เหมาะกับคนทำงานหรือผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น

ฉีดฟิลเลอร์จมูก ต้องฉีดบริเวณไหน
การฉีดฟิลเลอร์จมูกจะฉีดในตำแหน่งที่ช่วยปรับรูปทรงจมูกให้ดูสวย ได้สัดส่วน และรับกับใบหน้า โดยแพทย์จะประเมินตามโครงสร้างจมูกของแต่ละบุคคล ซึ่งบริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์จมูก มีดังนี้

1.สันจมูก
เป็นตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์มากที่สุด ช่วยให้สันจมูกดูโด่งขึ้น ทำให้แนวสันจมูกดูเรียบและชัด เพิ่มมิติให้ใบหน้าโดยรวม เหมาะกับผู้ที่จมูกแบนหรือสันจมูกไม่เด่น

2.บริเวณหว่างคิ้ว
เป็นจุดเริ่มต้นของสันจมูก ช่วยให้สันจมูกดูต่อเนื่องจากหน้าผาก ทำให้จมูกดูยาวและละมุนขึ้น รวมถึงช่วยให้มุมด้านข้างของใบหน้าดูคมชัดขึ้น

3.ปลายจมูก (เฉพาะบางเคส)
แพทย์อาจพิจารณาฉีดฟิลเลอร์บริเวณปลายจมูกในบางราย ช่วยปรับปลายจมูกให้ดูยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้จมูกดูเรียวและได้รูป ตำแหน่งนี้ต้องใช้เทคนิคเฉพาะและแพทย์ที่มีความรู้ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยง

4.สันจมูกด้านข้าง (บางกรณี)
ช่วยปรับความสมมาตรของจมูก และแก้ไขสันจมูกที่เอียงหรือไม่เท่ากันเล็กน้อย

ฉีดฟิลเลอร์จมูก ควรฉีดกี่ซีซี
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดจมูก ขึ้นอยู่กับโครงสร้างจมูกเดิมของแต่ละคน ระดับความโด่งที่ต้องการ และดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา อย่างไรก็ตาม สามารถประเมินปริมาณฟิลเลอร์โดยคร่าว ๆ ได้ดังนี้

ปริมาณฉีดฟิลเลอร์จมูกที่นิยมใช้โดยทั่วไป
• ประมาณ 0.5 - 1 ซีซี เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มสันจมูกเล็กน้อย จมูกเดิมมีทรงค่อนข้างดี แต่อยากให้สันชัดขึ้น ดูมีมิติมากขึ้น
• ประมาณ 1 ซีซี เป็นปริมาณที่พบได้บ่อยที่สุด ช่วยปรับสันจมูกให้โด่ง เรียบเนียน และรับกับใบหน้าอย่างดูเป็นธรรมชาติ
• มากกว่า 1 ซีซี (เฉพาะบางกรณี) ใช้ในกรณีที่ต้องการปรับรูปทรงหลายจุด เช่น สันจมูกและระหว่างคิ้ว ต้องอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์อย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยงเกิดอันตราย

ปัจจัยที่มีผลต่อจำนวนซีซีที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์จมูก
• โครงสร้างจมูกเดิม (สันสูง-ต่ำ เนื้อจมูกมาก-น้อย)
• จุดที่ต้องการฉีด (สันจมูก ระหว่างคิ้ว ปลายจมูก)
• ผลลัพธ์ที่ต้องการ (ธรรมชาติหรือชัดขึ้น)
• ชนิดและความแข็งของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้

ฉีดฟิลเลอร์จมูก กี่วันถึงเห็นผล
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นหัตถการที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในเวลาไม่นานหลังทำ โดยไม่ต้องรอหลายวันเหมือนการผ่าตัดศัลยกรรม แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามช่วงเวลา ดังนี้

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกทันที (วันแรก)
• เห็นสันจมูกโด่งขึ้นและรูปทรงเปลี่ยน
• อาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกตึงเล็กน้อย
• รูปทรงอาจยังไม่เข้าที่เต็มที่

ประมาณ 3-7 วันหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก
• อาการบวมเริ่มลดลง
• ฟิลเลอร์เริ่มเซ็ตตัว
• รูปทรงจมูกดูเป็นธรรมชาติและชัดเจนขึ้น

ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก
• ฟิลเลอร์เข้าที่สมบูรณ์
• จมูกได้รูปสวย ดูละมุนและกลมกลืนกับใบหน้า
• เห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดในช่วงนี้

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาเห็นผล
• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้
• ชนิดของฟิลเลอร์
• โครงสร้างจมูกเดิม
• การดูแลตัวเองหลังฉีด

ฉีดฟิลเลอร์จมูก อยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นการปรับรูปทรงจมูกไม่ถาวร ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์คงอยู่จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยทั่วไปสามารถสรุประยะเวลาได้ดังนี้

ระยะเวลาผลลัพธ์ฉีดฟิลเลอร์จมูก
โดยเฉลี่ย ฉีดฟิลเลอร์จมูกจะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลหลังฉีด
• ฟิลเลอร์เนื้อแน่น โมเลกุลใหญ่ จะอยู่ได้นานกว่า
• ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม จะสลายเร็วกว่าเล็กน้อย

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาของการฉีดฟิลเลอร์จมูก
1.ชนิดและยี่ห้อฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์แต่ละชนิดมีความคงตัวและระยะเวลาการสลายแตกต่างกัน
2.ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด ปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ฟิลเลอร์คงรูปได้นานขึ้น
3.ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์จมูก บริเวณสันจมูกมักมีการขยับน้อย ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานกว่าบางจุด
4.การเผาผลาญของร่างกายแต่ละคน คนที่เผาผลาญสูง ฟิลเลอร์อาจสลายเร็วกว่า
5.การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก การหลีกเลี่ยงความร้อน การกดหรือจับจมูกแรง ๆ จะช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ได้

ฉีดฟิลเลอร์จมูก เจ็บไหม ต้องพักฟื้นไหม
เป็นคำถามที่หลายคนกังวลก่อนตัดสินใจทำ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จมูกถือเป็นหัตถการที่เจ็บน้อยและไม่ต้องพักฟื้นนาน โดยสามารถอธิบายได้ดังนี้

ความรู้สึกเจ็บในการฉีดฟิลเลอร์จมูก
• ระหว่างทำจะมีความรู้สึก ตึง ๆ หรือเจ็บเล็กน้อย ขณะฉีด
• ก่อนฉีดแพทย์จะทา ยาชา หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ผสมยาชาอยู่แล้ว ช่วยลดความเจ็บ
• ความรู้สึกเจ็บจะแตกต่างกันในแต่ละคน แต่โดยรวมอยู่ในระดับที่ทนได้

หลังฉีดอาจมีอาการระบมเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน

การพักฟื้นหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก
• ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
• สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันหรือทำงานได้ตามปกติทันที
• อาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อยในช่วง 1-3 วันแรก (บางคนอาจไม่มีเลย)

อาการหลังฉีดฟิลเลอร์จมูกที่พบได้ปกติ
• บวมเล็กน้อย
• รู้สึกตึงบริเวณจมูก
• มีรอยเข็มหรือรอยช้ำจาง ๆ

อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเองภายในประมาณ 3-7 วัน

ฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์จมูก ไม่ถือว่าอันตราย หากทำอย่างถูกต้อง แต่เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความรู้ของแพทย์ เนื่องจากบริเวณจมูกมีเส้นเลือดสำคัญจำนวนมาก หากฉีดผิดตำแหน่งหรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้
โดยทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์จมูกจะลดความเสี่ยงเกิดอันตราย เมื่อใช้ฟิลเลอร์แท้ชนิด Hyaluronic Acid (HA)

ฉีดโดยแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีการประเมินโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียดก่อนทำ ใช้เทคนิคการฉีดที่เหมาะสม ทั้งนี้ฟิลเลอร์ HA เป็นสารที่สามารถสลายได้เอง และสามารถสลายออกได้หากเกิดปัญหา

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น (พบได้น้อย)
• บวม ช้ำ หรือแดงเล็กน้อย
• ฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือรูปทรงไม่เรียบ (มักเกิดจากเทคนิคหรือปริมาณไม่เหมาะสม)
• การอุดตันของเส้นเลือด (เป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรง แต่พบได้น้อยมาก)

อาการผิดปกติที่ควรรีบพบแพทย์
• ปวดรุนแรงผิดปกติ
• ผิวซีด คล้ำ หรือสีผิวเปลี่ยน
• มีอาการชา หรือปวดร้าว
• แผลไม่ดีขึ้นหรือมีอาการอักเสบ

หากมีอาการเหล่านี้หลังฉีด ควรรีบติดต่อแพทย์ทันที

ผลข้างเคียงที่ควรรู้ในการฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมและถือว่ามีความเสี่ยงน้อย หากทำโดยแพทย์ที่มีความรู้และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับบริการควรทราบผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเตรียมตัวและสังเกตอาการได้อย่างถูกต้อง

ผลข้างเคียงที่พบได้และถือว่าปกติ
อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นชั่วคราว และจะค่อย ๆ หายไปเองภายในไม่กี่วัน
• บวมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
• แดงหรือระคายเคือง
• รู้สึกตึง หรือเจ็บระบม
• มีรอยเข็มหรือรอยช้ำเล็กน้อย

โดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นภายใน 3-7 วัน โดยไม่ต้องรักษาเพิ่มเติม

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น (พบไม่บ่อย)
มักเกิดจากเทคนิคการฉีด ปริมาณฟิลเลอร์ หรือการดูแลหลังทำ
• ฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือผิวไม่เรียบ
• รูปทรงจมูกไม่สมดุล
• ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว (มักเกิดจากการกดหรือจับแรง ๆ หลังฉีด)

อาการเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยแพทย์ เช่น การปรับทรงหรือสลายฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงรุนแรง (พบได้น้อยมาก แต่ต้องระวัง)
เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ต้องได้รับการรักษาทันที
• ปวดรุนแรงผิดปกติ
• สีผิวเปลี่ยน ซีด คล้ำ หรือม่วง
• ผิวเย็น ชา หรือมีอาการปวดร้าว
• การอุดตันของเส้นเลือด

หากมีอาการเหล่านี้ ต้องรีบพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง

ฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่เหมาะกับใครบ้าง
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จมูกจะเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปทรงจมูกได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลได้ในระยะเวลาไม่นาน แต่การฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่ได้เหมาะกับทุกคน การประเมินความเหมาะสมก่อนทำจึงเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

1.ฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจมูกมาก
ผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกซับซ้อน เช่น จมูกเอียงมาก จมูกเบี้ยวชัดเจน สันจมูกคด หรือมีปัญหาโครงสร้างภายใน การฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเหมาะสม อาจต้องพิจารณาศัลยกรรมเสริมจมูกแทน

2.ฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยหรือผิวบางมาก
ผู้ที่มีผิวบริเวณจมูกบางหรือมีเนื้อรองรับน้อย อาจเสี่ยงต่อการเห็นขอบฟิลเลอร์หรือทำให้รูปทรงดูไม่เป็นธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียดจากแพทย์

3.ฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่เหมาะกับผู้ที่เคยฉีดสารเหลวหรือฟิลเลอร์ปลอมมาก่อน
ในกรณีที่เคยฉีดสารเติมเต็มปลอมหรือสารเหลวที่ไม่สามารถสลายได้ อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน หากต้องการฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม ควรได้รับการประเมินเป็นพิเศษ

4.ฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้สารฟิลเลอร์หรือส่วนประกอบ
ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ฟิลเลอร์หรือสารที่เกี่ยวข้อง ควรหลีกเลี่ยงการฉีด หรือแจ้งแพทย์อย่างละเอียดก่อนเข้ารับการรักษา

5.ฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด
เช่น โรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด โรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือโรคติดเชื้อบางชนิด อาจไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก ควรอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์

6.ฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
แม้จะยังไม่มีข้อมูลยืนยันอันตรายโดยตรง แต่เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้หลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์จมูกในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

7.ฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่เหมาะกับผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์ถาวร
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นการปรับรูปทรงจมูกชั่วคราว หากต้องการผลลัพธ์ระยะยาวหรือถาวร การศัลยกรรมเสริมจมูกอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ฉีดฟิลเลอร์จมูก vs ศัลยกรรมเสริมจมูก
การปรับรูปทรงจมูกเป็นหนึ่งในหัตถการด้านความงามที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากจมูกเป็นจุดศูนย์กลางของใบหน้า ส่งผลต่อภาพรวมและความสมดุลของโครงหน้าอย่างชัดเจน ปัจจุบันมี 2 วิธีหลักที่ได้รับความนิยม คือ การฉีดฟิลเลอร์จมูก และ การศัลยกรรมเสริมจมูก ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดี ข้อจำกัด และความเหมาะสมที่แตกต่างกัน สามารถเปรียบเทียบเพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล ดังนี้

1.การฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นการใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ฉีดเข้าไปบริเวณจมูก เพื่อปรับรูปทรง เพิ่มสันจมูก และแก้ไขจุดบกพร่องเล็กน้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในเวลาไม่นาน และไม่ต้องพักฟื้นนาน

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์จมูก
• เห็นผลลัพธ์ในเวลาไม่นานหลังทำ
• ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนาน
• ใช้เวลาทำไม่นาน
• สามารถปรับแก้หรือสลายฟิลเลอร์ได้ หากไม่พอใจผลลัพธ์
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกเล็กน้อย หรือทดลองทรงก่อนผ่าตัด

ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์จมูก
• ผลลัพธ์ไม่ถาวร ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายตามธรรมชาติ
• ไม่เหมาะกับการแก้ไขโครงสร้างจมูกขนาดใหญ่
• ต้องอาศัยแพทย์ที่มีความรู้ เนื่องจากบริเวณจมูกมีเส้นเลือดสำคัญ
• อาจต้องเติมซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ในระยะยาว

2.ศัลยกรรมเสริมจมูก
ศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นการผ่าตัดเพื่อใส่วัสดุ เช่น ซิลิโคน หรือกระดูกอ่อน เพื่อปรับโครงสร้างจมูกให้ได้รูปทรงตามต้องการ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ให้ผลลัพธ์ในระยะยาวหรือถาวร

ข้อดีของการศัลยกรรมเสริมจมูก
• ให้ผลลัพธ์ถาวรหรืออยู่ได้นานมาก
• สามารถแก้ไขโครงสร้างจมูกได้อย่างชัดเจน
• เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาจมูกซับซ้อน เช่น จมูกเอียง ปลายจมูกบาง หรือโครงสร้างผิดรูป
• สามารถออกแบบทรงจมูกได้หลากหลายตามความต้องการ

ข้อจำกัดของการศัลยกรรมเสริมจมูก
• ต้องผ่าตัดและมีระยะพักฟื้น
• มีอาการบวม ช้ำ และต้องดูแลแผลหลังผ่าตัด
• มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ หรือแผลหายช้า
• หากไม่พอใจผลลัพธ์ การแก้ไขต้องผ่าตัดซ้ำ

ฉีดฟิลเลอร์จมูก vs ศัลยกรรมเสริมจมูก เลือกวิธีไหนดี
การเลือกฉีดฟิลเลอร์จมูกหรือศัลยกรรมเสริมจมูก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น โครงสร้างจมูกเดิม ระดับการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการ ระยะเวลาที่ต้องการให้ผลลัพธ์คงอยู่ และความพร้อมด้านการพักฟื้น
• หากต้องการปรับรูปทรงเล็กน้อย เห็นผลเร็ว และไม่อยากผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
• หากต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจมูกอย่างชัดเจนและถาวร ศัลยกรรมเสริมจมูกจะตอบโจทย์มากกว่า

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปทรงจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด แม้จะเป็นหัตถการที่ใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่การเตรียมตัวให้ถูกต้องก่อนเข้ารับบริการ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง และช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น

1.ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูกศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์มีความรู้ด้านการฉีดฟิลเลอร์จมูก ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรอง และมีการให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนทำ

2.ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูกเข้ารับการประเมินจากแพทย์ก่อนฉีด
แพทย์จะประเมินโครงสร้างจมูก ความหนาของผิว ตำแหน่งเส้นเลือด และความเหมาะสมในการฉีดฟิลเลอร์จมูก รวมถึงออกแบบรูปทรงจมูกให้สอดคล้องกับใบหน้า

3.ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูกแจ้งประวัติสุขภาพและประวัติการรักษา
ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา การตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ประวัติการฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มชนิดอื่นมาก่อน ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้แพทย์พิจารณาความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม

4.ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูกงดยาและอาหารเสริมบางชนิด
ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูกประมาณ 3-7 วัน ควรหลีกเลี่ยง
• ยากลุ่มแอสไพริน
• ยาต้านการอักเสบที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
• วิตามินอี น้ำมันปลา หรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย

ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น

5.ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูกงดแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูกอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เนื่องจากอาจทำให้เลือดออกง่ายและเพิ่มอาการบวมช้ำหลังฉีด

6.ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูกควรพักผ่อนให้เพียงพอ
ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนวันฉีดฟิลเลอร์จมูก เพื่อให้ร่างกายพร้อมและลดโอกาสเกิดอาการบวมช้ำ

7.ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูกหลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นบริเวณจมูกก่อนฉีด
ควรเว้นระยะการทำเลเซอร์ นวดหน้า หรือหัตถการอื่นบริเวณจมูก อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก เพื่อป้องกันการระคายเคืองของผิว

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นหัตถการที่แม้จะไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังทำมีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ดี ลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง และช่วยคงผลลัพธ์ให้ดูสวยเป็นธรรมชาติ

1.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกหลีกเลี่ยงการจับ กด หรือบีบจมูก
หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกควรงดการสัมผัสจมูกแรง ๆ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือเสียรูปทรง

2.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกงดนอนคว่ำและหลีกเลี่ยงแรงกดทับ
ในช่วง 7-14 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก ควรนอนหงายและใช้หมอนหนุนศีรษะให้สูงเล็กน้อย เพื่อช่วยลดอาการบวมและป้องกันแรงกดที่จมูก

3.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกหลีกเลี่ยงความร้อน
ควรงดกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายได้รับความร้อนสูง เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ ออกกำลังกายหนัก อยู่กลางแดดจัดเป็นเวลานาน อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก

4.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกงดแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกควรงดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ประมาณ 24-48 ชั่วโมง หรือ ตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากอาจเพิ่มอาการบวมและช้ำ

5.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกหลีกเลี่ยงการใส่แว่นที่กดทับจมูก
หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกควรงดการใส่แว่นสายตาหรือแว่นกันแดดที่มีน้ำหนักกดบนสันจมูกในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก

6.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกงดทำหัตถการอื่นบริเวณจมูก
หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกควรเว้นการทำเลเซอร์ นวดหน้า หรือทรีตเมนต์อื่น ๆ บริเวณจมูก อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองและการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์

7.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกดื่มน้ำให้เพียงพอ
ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ฟิลเลอร์คงรูปได้ดีและดูเป็นธรรมชาติ

สรุปเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปทรงจมูกให้ดูได้สัดส่วนมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มสันจมูกหรือแก้ไขจุดบกพร่องเล็กน้อย และต้องการเห็นผลลัพธ์ในระยะเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นการปรับรูปทรงจมูกชั่วคราว จึงจำเป็นต้องเข้าใจถึงระยะเวลาการคงอยู่ของฟิลเลอร์ รวมถึงข้อจำกัดและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ความเสี่ยงของการฉีดฟิลเลอร์จมูกขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน การประเมินโครงสร้างจมูกอย่างละเอียด และเทคนิคของแพทย์ผู้ทำการรักษา การเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างถูกต้อง จะช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงและช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้ดีมากขึ้น ดังนั้น ผู้ที่สนใจควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและเลือกแนวทางการรักษา ที่ตอบโจทย์กับโครงสร้างจมูกและความต้องการของตนเองมากที่สุด

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
โปรโมชั่นต่างๆ
เรื่อง โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่คุณอาจสนใจ