AviClear Laser คืออะไร รักษาสิวประเภทไหนได้บ้าง ข้อดีข้อเสียอย่างไร ราคาแพงไหม
AviClear Laser , AviClear
AviClear Laser นวัตกรรมใหม่ ตัดวงจรสิวเผยผิวกระจ่างใส
เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ AviClear Laser เลเซอร์ตัดทุกวงจรของสิว พร้อมงานวิจัยรองรับมั่นใจได้ว่าจะไม่เป็นสิวอีกใน 2 ปี ถือเป็นเทคโนโลยีแห่งปีที่สามารถรักษาสิวได้ครบวงจรและคลอบคลุมทุกประเภท
รวมทุกหัวข้อของนวัตกรรม AviClear Laser
• AviClear Laser คืออะไร
• หลักการทำงานของ AviClear Laser
• กระบวนการทำงานของ AviClear Laser ต่อสิว
• AviClear Laser รักษาสิวประเภทไหนได้บ้าง
• AviClear Laser ปลอดภัยหรือไม่ มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
• ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ AviClear Laser
• ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงทำ AviClear Laser
• วิธีเช็คว่าเราเหมาะกับการทำ AviClear หรือไม่
• ความรู้สึกขณะทำ AviClear Laser เจ็บหรือไม่
• หลังทำ AviClear Laser ต้องดูแลผิวอย่างไร
• AviClear Laser ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน
• AviClear Laser Vs เลเซอร์รักษาสิวอื่น ๆ ต่างกันยังไง
• AviClear Laser ทำควบคู่กับการรักษาสิววิธีอื่นได้หรือไม่
• สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับ AviClear Laser ตัดวงจรสิว
สิว เป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยมากที่สุดและปัญหาผิวที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนรู้สึกไม่มั่นใจ ซึ่งจะพบปัญหานี้ได้มากที่สุดในวัยรุ่น ช่วงอายุอยู่ที่ 12 - 24 ปี ซึ่งจะเกิดจากฮอร์โมนเพศที่เพิ่มขึ้นและกระตุ้นการผลิตน้ำมันของต่อมไขมัน
แต่ สิว ยังสามารถพบได้ในวัยผู้ใหญ่ด้วย โดยเฉพาะในผู้หญิงอายุ 25 - 45 ปี เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง เช่น ภาวะก่อนมีประจำเดือน หรือภาวะ เครียด
AviClear Laser คืออะไร
AviClear เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ได้รับการรับรองจาก U.S.FDA (องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ) สำหรับ การรักษาสิวโดยตรงที่ต้นเหตุ โดยเป็นเลเซอร์เครื่องแรกที่สามารถควบคุม ต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการเกิดสิวได้
AviClear จัดอยู่ในกลุ่มของ Selective Photothermolysis ซึ่งเป็นการรักษาสิวแบบทำลายเป้าหมายโดยเฉพาะเจาะจง (ในที่นี้คือ ต่อมไขมัน) โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้างให้เสียหายไปด้วย

AviClear Laser คืออะไร รักษาสิวประเภทไหนได้บ้าง ข้อดีข้อเสียอย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลหลักการทำงานของ AviClear Laser
AviClear Laser ทำงานโดยอาศัยหลักการ "Selective Photothermolysis" ซึ่งเป็นการใช้พลังงานเลเซอร์เพื่อทำลายโครงสร้างเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง โดยในกรณีของ AviClear Laser เป้าหมายคือ ต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิว
จุดเปลี่ยนของวงการรักษาสิวด้วยความยาวคลื่น 1726 นาโนเมตร
ความยาวคลื่นของ AviClear (1726 nm) เป็น ความยาวคลื่นที่ได้รับการวิจัยแล้วว่าสามารถดูดซับโดยต่อมไขมันได้ดีที่สุดในตอนนี้
ก่อนหน้านี้ เลเซอร์ที่ใช้รักษาสิว เช่น IPL, Nd YAG หรือ CO2 Laser ไม่ได้มีความจำเพาะต่อการทำลายต่อมไขมันโดยตรง แต่ AviClear ถูกออกแบบมาให้ยิงพลังงานไปที่ Sebaceous Glands โดยเฉพาะ
กระบวนการทำงานของ AviClear Laser ต่อสิว
1.ลดการผลิตน้ำมัน (Sebum Suppression)
ต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ทำหน้าที่ผลิต Sebum หรือน้ำมันตามธรรมชาติของผิวหนัง เมื่อผลิตมากเกินไป จะทำให้รูขุมขนอุดตัน เกิดการอักเสบ และนำไปสู่การเกิดสิว (Acne Vulgaris)
• AviClear ใช้เลเซอร์ 1726 nm ยิงเข้าไปที่ต่อมไขมัน
• ความร้อนจากเลเซอร์จะถูกดูดซับโดยเซลล์ไขมัน และทำให้ เซลล์ภายในต่อมไขมันเสื่อมสภาพ
• เมื่อได้รับพลังงานจาก AviClear หลายครั้ง ต่อมไขมันจะค่อย ๆ หดตัวและลดการผลิตน้ำมัน ซึ่งช่วยลดสิวเรื้อรังได้อย่างถาวร
2.ลดการอักเสบของสิว
• AviClear ไม่เพียงแต่ลดการผลิตน้ำมัน แต่ยังมีผลช่วย ลดการอักเสบของสิวที่เกิดขึ้นแล้ว
• พลังงานเลเซอร์ช่วยลดจำนวนเชื้อ Cutibacterium acnes (C.acnes) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้สิวอักเสบ
• ลดการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันที่ทำให้เกิดรอยแดง บวม และอักเสบของสิว
3.ป้องกันการเกิดสิวในอนาคต
• เมื่อทำหลายครั้ง ต่อมไขมันที่ถูกทำลายจะค่อย ๆ หดตัวและลดการทำงาน ทำให้โอกาสเกิดสิวใหม่ลดลง
• AviClear ไม่ได้ทำลายต่อมไขมันจนหมด แต่จะช่วย ควบคุมให้ผลิต Sebum ในระดับปกติ ซึ่งช่วยป้องกันสิวในระยะยาว

AviClear Laser คืออะไร รักษาสิวประเภทไหนได้บ้าง ข้อดีข้อเสียอย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลAviClear Laser รักษาสิวประเภทไหนได้บ้าง
AviClear Laser สามารถรักษาสิวได้หลายประเภท โดยเฉพาะสิวที่เกี่ยวข้องกับ การผลิตน้ำมันส่วนเกิน และ การอักเสบของต่อมไขมัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการเกิดสิว
1.AviClear Laser สามารถรักษาสิวอักเสบได้ (Inflammatory Acne)
ลักษณะ เป็นตุ่มแดง บวม และเจ็บ อาจมีหนองอยู่ภายใน
สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes ในรูขุมขนที่อุดตันและการอักเสบของต่อมไขมัน
AviClear มีประสิทธิภาพต่อสิวอักเสบอย่างไร ?
พลังงานเลเซอร์ 1726 นาโนเมตร ลดการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย
- ลดการอักเสบของสิว และช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
- ลดการอุดตันของรูขุมขนและป้องกันการเกิดสิวซ้ำ
2.AviClear Laser สามารถรักษาสิวอุดตันได้ (Comedonal Acne)
ลักษณะ จุดดำ (Blackheads) หรือ จุดขาว (Whiteheads) ที่เกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวในรูขุมขน
สาเหตุ เกิดจากการผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้รูขุมขนอุดตัน
AviClear สามารถช่วยรักษาสิวอุดตันได้อย่างไร ?
- AviClear ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ทำให้รูขุมขนไม่อุดตันง่า
- ลดการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการเกิดสิวหัวดำและหัวขาว
-
ป้องกันการพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบ
3.AviClear Laser สามารถรักษาสิวหัวหนองได้ (Pustular Acne)
ลักษณะ ตุ่มนูนแดงที่มีหัวหนองสีขาวหรือเหลือง
สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย C.acnes และการอักเสบของต่อมไขมัน
AviClear มีผลต่อสิวหัวหนองอย่างไร ?
- AviClear ลดจำนวนแบคทีเรีย C.acnes ที่เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบ
- ลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวหายเร็วขึ้น
- ป้องกันไม่ให้สิวหัวหนองลุกลาม
4.AviClear Laser สามารถรักษาสิวฮอร์โมนได้ (Hormonal Acne)
ลักษณะ สิวอักเสบหรือสิวอุดตันบริเวณ คาง กราม และแนวกรอบหน้า มักเกิดในผู้หญิงวัย 20-40 ปี
สาเหตุ เกิดจาก ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) กระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากเกินไป
AviClear ช่วยรักษาสิวฮอร์โมนได้อย่างไร?
- ควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ลดการผลิตน้ำมันที่มากเกินไปจากฮอร์โมน
- ช่วยลดการเกิดสิวซ้ำในระยะยาว โดยไม่ต้องใช้ยา เช่น ยาคุมกำเนิด หรือยา Isotretinoin
5.AviClear Laser สามารถรักษาสิวเรื้อรังได้ (Persistent Acne)
ลักษณะ สิวที่เป็นต่อเนื่องเป็นเวลานาน ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
สาเหตุ เกี่ยวข้องกับ การทำงานของต่อมไขมันที่มากเกินไป และการตอบสนองของร่างกายต่อการอักเสบ
AviClear มีผลต่อสิวเรื้อรังอย่างไร ?
- ช่วย ลดขนาดและจำนวนของต่อมไขมัน ทำให้ปัญหาสิวลดลงในระยะยาว
- ไม่ต้องพึ่งพายา เช่น Isotretinoin ซึ่งมีผลข้างเคียงสูง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ รักษาสิวแบบยั่งยืนโดยไม่ต้องใช้ยา
6.AviClear Laser สามารถรักษาสิวในวัยผู้ใหญ่ (Adult Acne)
ลักษณะ สิวที่ยังคงเกิดขึ้นแม้พ้นวัยรุ่นแล้ว มักเกิดบริเวณ คาง กราม ลำคอ และหลัง
สาเหตุ เกี่ยวข้องกับ ฮอร์โมน ความเครียด และพฤติกรรมการใช้ชีวิต
AviClear ช่วยลดสิวในวัยผู้ใหญ่ได้อย่างไร ?
- ลดการผลิตน้ำมันที่มากเกินไปในช่วงวัยผู้ใหญ่
- ช่วยรักษาสิวแบบไม่ต้องพึ่งยา เช่น ยาปฏิชีวนะ หรือยาคุมกำเนิด
- ให้ผลลัพธ์ระยะยาว ทำให้ สิวไม่กลับมาเป็นซ้ำ
AviClear Laser ปลอดภัยหรือไม่ มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ความปลอดภัยของ AviClear Laser
การรับรองจาก FDA และมาตรฐานทางการแพทย์
• AviClear เป็นเลเซอร์เครื่องแรกและเครื่องเดียวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (U.S.FDA) สำหรับการรักษาสิว
• ผ่านการศึกษาทางคลินิกที่พิสูจน์แล้วว่า ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
• ไม่ใช่การรักษาสิวแบบใช้ยา (Non-Drug Therapy) จึงไม่มีผลข้างเคียงของยา เช่น ความเสี่ยงต่อระบบตับ ไต หรือฮอร์โมน
หลักการทำงานที่ปลอดภัย
• AviClear ใช้ เลเซอร์ความยาวคลื่น 1726 นาโนเมตร ซึ่ง มีความจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์ของต่อมไขมัน (Sebaceous Glands)
• พลังงานเลเซอร์นี้ ไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง และ ไม่ส่งผลกระทบต่อคอลลาเจนหรือเม็ดสีผิว
• สามารถใช้ได้ กับทุกสีผิว (Fitzpatrick Skin Type I-VI) โดยไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำ (Post-inflammatory Hyperpigmentation หรือ PIH)
ผลข้างเคียงของ AviClear Laser
โดยรวมแล้ว AviClear มีผลข้างเคียง น้อยกว่าการรักษาสิวด้วยยาและเลเซอร์ชนิดอื่น ๆ ที่ใช้ในการรักษาสิว อย่างไรก็ตาม อาจมีอาการข้างเคียงบางอย่างที่พบได้ชั่วคราว
อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อย (เล็กน้อยและชั่วคราว) ในการใช้ AviClear Laser
• อาการแดง (Erythema) ผิวบริเวณที่ทำอาจมีสีแดงขึ้นหลังการรักษา แต่จะหายภายใน 24-48 ชั่วโมง
• อาการบวมเล็กน้อย (Mild Swelling) อาจมีอาการบวมในบางราย ซึ่งจะลดลงภายใน 1-2 วัน
• รู้สึกอุ่นหรือแสบร้อนชั่วคราว ขณะทำเลเซอร์ อาจรู้สึกอุ่น ๆ บนผิวหนัง แต่ไม่มีการไหม้ และสามารถทายาแก้ระคายเคืองเพื่อบรรเทาอาการได้
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อยในการใช้ AviClear Laser
สิวเห่อชั่วคราว (Purging Effect)
• ในบางกรณี ผู้ป่วยอาจมี สิวเห่อขึ้นชั่วคราว (Purging) หลังจากทำเลเซอร์ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก
• เกิดจาก การกำจัดไขมันและสิ่งอุดตันออกจากรูขุมขน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผิวกำลังปรับตัว
• โดยทั่วไป สิวจะลดลงและดีขึ้นภายใน 3 เดือน
แสบผิวหรือไวต่อแสง
ผิวอาจไวต่อแสงแดดเล็กน้อยหลังทำเลเซอร์ แนะนำให้ใช้ครีมกันแดด SPF 30+
ผลข้างเคียงที่รุนแรง (พบได้น้อยมาก) ในการใช้ AviClear Laser
แม้ว่าผลข้างเคียงที่รุนแรงจะพบได้น้อยมาก แต่ควรทราบถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้น
แผลพุพอง (Blistering) หรือ ผิวไหม้ (Burns)
• ไม่ค่อยพบใน AviClear เนื่องจากความยาวคลื่น 1726 nm ไม่ได้ดูดซับเม็ดสีผิว (Melanin) มากนัก
• แต่หากพลังงานถูกตั้งค่าสูงเกินไป อาจทำให้เกิดรอยแผลพุพองได้
รอยดำหลังอักเสบ (Post-inflammatory Hyperpigmentation, PIH)
• AviClear มีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิด PIH เมื่อเทียบกับเลเซอร์ชนิดอื่น แต่ในบางกรณีอาจเกิดรอยดำชั่วคราว
• มักพบในผู้ที่มีผิวเข้มมาก (Fitzpatrick IV-VI) หรือผู้ที่ไม่ปกป้องผิวจากแสงแดดหลังทำเลเซอร์

AviClear Laser คืออะไร รักษาสิวประเภทไหนได้บ้าง ข้อดีข้อเสียอย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลใครบ้างที่เหมาะกับการทำ AviClear Laser
1.ผู้ที่มีสิวเรื้อรัง รักษายาก และไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบเดิม
• เคยใช้ยาแต้มสิวหรือยาปฏิชีวนะแล้วไม่ได้ผล
• ลองใช้ Isotretinoin (Accutane) แล้วมีผลข้างเคียงหรือไม่สามารถใช้ได้
• เป็นสิวเรื้อรังที่กลับมาเป็นซ้ำแม้จะรักษาด้วยวิธีอื่น
เหตุผล AviClear ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของสิว ทำให้โอกาสเกิดสิวซ้ำลดลง
2.ผู้ที่มีสิวอักเสบ (Inflammatory Acne)
• เป็นสิวอักเสบแดง สิวหนอง และสิวที่เกิดจากแบคทีเรีย C.acnes
• มีสิวเม็ดใหญ่และเจ็บ (Nodular Acne) แต่ยังไม่รุนแรงถึงขั้นเป็นซีสต์
• ต้องการลดการอักเสบของสิวโดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
เหตุผล AviClear มีพลังงานที่ช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย และลดการอักเสบของสิวได้โดยตรง
3.ผู้ที่มีสิวอุดตัน (Comedonal Acne)
• เป็นสิวหัวดำ (Blackheads) หรือสิวหัวขาว (Whiteheads) ที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน
• รูขุมขนกว้าง และมีปัญหาการผลิตน้ำมันมากเกินไป
เหตุผล AviClear ช่วยลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน ทำให้รูขุมขนไม่อุดตันง่าย
4.ผู้ที่มีสิวฮอร์โมน (Hormonal Acne)
• เป็นสิวขึ้นเฉพาะช่วงมีประจำเดือน หรือเกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุล
• เป็นสิวบริเวณ คาง กราม ลำคอ และแนวกรอบหน้า
• ไม่ต้องการใช้ ยาคุมกำเนิด หรือยาแก้สิวที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน
เหตุผล AviClear ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้สิวฮอร์โมนเกิดขึ้นซ้ำๆ
5.ผู้ที่ต้องการรักษาสิวโดยไม่ใช้ยา
• ไม่ต้องการใช้ยาเช่น Isotretinoin (Accutane) หรือยาปฏิชีวนะ
• กังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา เช่น ผิวแห้ง ตาแห้ง ปวดข้อ หรือภาวะซึมเศร้า
• ต้องการการรักษาที่ยั่งยืนโดยไม่มีผลกระทบต่อร่างกาย
เหตุผล AviClear เป็นเลเซอร์ที่ ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียงของยา
6.ผู้ที่เป็นสิวจากการใส่แมสก์
• มีสิวอุดตันและสิวอักเสบจากการใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน
• ต้องการลดการผลิตน้ำมันที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
เหตุผล AviClear ช่วยลดความมันและการอุดตันของรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุหลักของ Maskne
7.ผู้ที่ต้องการลดการเกิดสิวในระยะยาว
• เคยรักษาสิวมาแล้วหลายวิธี แต่สิวยังคงกลับมาเป็นซ้ำ
• ต้องการวิธีที่ช่วยลดการเกิดสิวใหม่โดยไม่ต้องพึ่งพาการรักษาตลอดเวลา
เหตุผล AviClear ช่วยลดขนาดของต่อมไขมันในระยะยาว ทำให้ความมันบนใบหน้าลดลง โอกาสเกิดสิวใหม่ลดลง
ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงทำ AviClear Laser
ผู้ที่มีสิวซีสต์รุนแรง (Cystic Acne) ที่ต้องใช้ยา Isotretinoin
สิวประเภทนี้เกิดจากการอักเสบรุนแรงลึกในชั้นหนังแท้ ซึ่ง AviClear อาจไม่สามารถรักษาได้เต็มที่
ผู้ที่เป็นสิวจากการแพ้สารเคมีหรือเครื่องสำอาง (Cosmetic Acne)
หากสิวเกิดจากการใช้เครื่องสำอางหรือสารเคมีที่อุดตันรูขุมขน การรักษาด้วย AviClear อาจไม่ได้ผลดีเท่ากับการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้
ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์ทันที
AviClear ต้องใช้เวลา 3-6 เดือน เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
แม้ว่า AviClear จะไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง แต่ยังไม่มีการศึกษาที่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์

AviClear Laser คืออะไร รักษาสิวประเภทไหนได้บ้าง ข้อดีข้อเสียอย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลวิธีเช็คว่า AviClear เหมาะกับเราหรือไม่
ลองเช็คลิสต์ตัวเองด้วยคำถามสั้น ๆ เหล่านี้
• เป็นสิวเรื้อรัง และรักษาด้วยยาไม่ดีขึ้น
• ต้องการลดสิวแบบระยะยาว โดยไม่มีผลข้างเคียงของยา
• เป็นสิวฮอร์โมน หรือสิววัยผู้ใหญ่ที่แก้ไม่หาย
• ต้องการลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันเพื่อป้องกันสิวเกิดซ้ำ
หากเข้าข่ายตามนี้ AviClear อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนรับการรักษา
ความรู้สึกขณะทำ AviClear Laser เจ็บหรือไม่
ระหว่างทำการรักษาด้วย AviClear Laser อาจจะมีความรู้สึกที่ไม่สบายผิวเล็กน้อยเท่านั้น โดยพลังงานที่ใช้ในตอนทำการรักษาจะถูกปล่อยลงไปในใต้ผิวหนังนั้นโดยตรง จะไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังชั้นบนหรือบริเวณโดยรอบเลย
ในระหว่างการทำ AviClear Laser ผู้เข้ารับการรักษามักส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ็บน้อยกว่าการทำเลเซอร์ชนิดอื่น ๆ โดยความรู้สึกที่พบได้บ่อย ได้แก่
• รู้สึกอุ่นหรือร้อนเล็กน้อย คล้ายกับการสัมผัสกับแสงแดดจัด
• มีความรู้สึกจิ๊ด ๆ หรือคล้ายดีดหนังยางเบา ๆ ในบางบริเวณ
• รู้สึกอุ่นขึ้นเมื่อยิงเลเซอร์หลายช็อตติดต่อกัน โดยเฉพาะบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่น เช่น หน้าผาก คาง และจมูก
โดยทั่วไป ความเจ็บปวดอยู่ในระดับปานกลางและสามารถทนได้

AviClear Laser คืออะไร รักษาสิวประเภทไหนได้บ้าง ข้อดีข้อเสียอย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลหลังทำ AviClear Laser ต้องดูแลผิวอย่างไร
การดูแลผิวหลังทำ AviClear Laser เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด ลดผลข้างเคียง และช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น แม้ว่า AviClear จะเป็นเลเซอร์ที่มีระบบทำความเย็นในตัว และไม่ทำลายชั้นผิวเหมือนกับเลเซอร์รุนแรงอื่น ๆ แต่ การดูแลผิวที่ถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและลดความเสี่ยงของการระคายเคืองหรือรอยดำหลังเลเซอร์
1.การดูแลผิวทันทีหลังทำ AviClear Laser (24 - 48 ชั่วโมงแรก)
ช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก หลังทำ AviClear เลเซอร์ ผิวอาจมี อาการแดง แสบร้อน หรือรู้สึกอุ่น ๆ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติที่เกิดจากพลังงานเลเซอร์ที่ไปกระตุ้นต่อมไขมัน
1.1 หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
• ทำไมต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำ AviClear
หลังเลเซอร์ AviClear ผิวอาจไวต่อแสงมากขึ้น และหากสัมผัสแดดจัด อาจเพิ่มโอกาสเกิด รอยดำ (Post-inflammatory Hyperpigmentation, PIH)
• ควรทำอย่างไร ?
- หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะ ช่วง 10.00-16.00 น.
- สวมหมวกหรือใช้ร่มเมื่อต้องออกแดด
1.2 ทาครีมกันแดด SPF 30+ ขึ้นไป ทุกวัน
• ทำไมต้องใช้ครีมกันแดดหลังทำ AviClear
ครีมกันแดดช่วยลดการเกิดรอยดำ และปกป้องผิวที่บอบบางหลังเลเซอร์
• ควรเลือกครีมกันแดดแบบไหนหลังทำเลเซอร์ AviClear
- ครีมกันแดดที่ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-free)
- เลือกสูตร Physical Sunscreen (เช่น Zinc Oxide, Titanium Dioxide) ซึ่งอ่อนโยนและลดการระคายเคือง
• ควรทาซ้ำหรือไม่
ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หากต้องออกแดดเป็นเวลานาน
1.3 หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นหลังทำ AviClear Laser
• ทำไมต้องใช้แค่น้ำอุณหภูมิห้องหลังทำ AviClear
น้ำอุ่นสามารถทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองมากขึ้น
• ควรล้างหน้าด้วยอะไร
- ใช้ น้ำอุณหภูมิห้อง หรือ น้ำเย็น
- เลือก ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน (Gentle Cleanser) ไม่มีสารระคายเคือง เช่น SLS, แอลกอฮอล์, น้ำหอม
1.4 หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าใน 24 ชั่วโมงแรก
• ทำไมต้องงดแต่งหน้าหลังทำ AviClear
เครื่องสำอางบางชนิดอาจทำให้รูขุมขนอุดตัน และอาจมีสารเคมีที่ระคายเคืองผิว
• ควรเริ่มแต่งหน้าได้เมื่อไหร่
ควรรอให้ผิวฟื้นตัวอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง ก่อนแต่งหน้า
2.การดูแลผิวในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังทำเลเซอร์ AviClear
2.1 ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ความชุ่มชื้นหลังทำเลเซอร์ AviClear
• ทำไมต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์หลังทำ AviClear
แม้ว่า AviClear จะไม่ทำให้ผิวแห้งลอกเหมือนเลเซอร์บางชนิด แต่ผิวอาจรู้สึกแห้งจากการที่ต่อมไขมันถูกควบคุม
• ควรเลือกแบบไหน
- ควรเลือก มอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตร Non-comedogenic (ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน)
- มีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว เช่น Ceramide, Hyaluronic Acid, Centella Asiatica (ใบบัวบก), ว่านหางจระเข้
2.2 หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมรุนแรง
• ผลิตภัณฑ์ที่ควรงดชั่วคราว (อย่างน้อย 5-7 วัน)
- สารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, PHA, Retinol, Vitamin C
- สครับหน้า หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดบีดส์
- โทนเนอร์ที่มีแอลกอฮอล์
2.3 หลีกเลี่ยงการจับหน้าและการกดสิว
• ทำไมต้องหลีกเลี่ยงหลังทำ AviClear
- หลังเลเซอร์ ผิวจะไวต่อการติดเชื้อและอักเสบง่ายขึ้น
- การกดสิวอาจทำให้เกิดรอยแดงและรอยดำถาวร
3.ผลข้างเคียงที่อาจพบหลังทำ AviClear และวิธีรับมือหลังทำ
AviClear ถือว่าเป็นเลเซอร์ที่มีผลข้างเคียงน้อยเมื่อเทียบกับเลเซอร์รักษาสิวประเภทอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม อาจพบอาการบางอย่าง ได้แก่
3.1 ผิวแดง หรือรู้สึกอุ่น ๆ
• เกิดจากอะไร ?
เป็นปฏิกิริยาปกติที่เกิดจากการที่พลังงานเลเซอร์ไปกระตุ้นต่อมไขมัน
• ควรรับมือย่างไรหลังทำ AviClear
- ใช้ เจลว่านหางจระเข้ หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูง
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์
3.2 สิวเห่อขึ้นชั่วคราว (Purging Effect)
• เกิดจากอะไร
AviClear ทำให้ต่อมไขมันขับน้ำมันที่อุดตันออกมา ซึ่งอาจทำให้สิวบางจุดเห่อขึ้น
• ควรทำอย่างไร
- ปล่อยให้สิวแห้งและหายเอง อย่ากดหรือบีบ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Niacinamide หรือ Zinc เพื่อช่วยลดการอักเสบ
4.คำแนะนำสำหรับการดูแลผิวในระยะยาวหลังทำเลเซอร์ AviClear
• ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน
• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน และไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
• ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อป้องกันรอยดำที่อาจเกิดขึ้น
• หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า เพื่อลดโอกาสเกิดสิวใหม่
• นัดติดตามผลกับแพทย์ผิวหนัง ตามกำหนด

AviClear Laser คืออะไร รักษาสิวประเภทไหนได้บ้าง ข้อดีข้อเสียอย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลAviClear Laser ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน
AviClear Laser เป็นเลเซอร์รักษาสิวที่ออกแบบมาให้ ลดการทำงานของต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) โดยตรง ซึ่งช่วยลดการเกิดสิวในระยะยาวโดยไม่ต้องใช้ยา โดยทั่วไป การรักษาด้วย AviClear ควรทำทั้งหมด 3 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
1.จำนวนครั้งที่แนะนำ
• การทำ AviClear Laser 3 ครั้ง ถือเป็นโปรโตคอลมาตรฐาน
• ควรทำห่างกันครั้งละ 1 เดือน เพื่อให้ต่อมไขมันค่อย ๆ ลดการทำงานอย่างเป็นธรรมชาติ
• บางกรณีที่สิวรุนแรงมาก อาจต้องทำมากกว่า 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิว
2.เหตุผลที่ต้องทำหลายครั้ง
• ต่อมไขมันไม่ได้หยุดทำงานทันทีหลังทำเลเซอร์ครั้งเดียว แต่จะค่อย ๆ ลดการผลิตน้ำมัน
• การรักษาหลายครั้งช่วยให้ต่อมไขมันหดตัวลงอย่างถาวร ลดการเกิดสิวในระยะยาว
• AviClear ทำงานกับต่อมไขมันที่กำลังทำงานอยู่ หากมีต่อมไขมันที่ยังไม่ได้ถูกกระตุ้นในรอบแรก เลเซอร์รอบถัดไปจะช่วยกำจัดต่อมไขมันเหล่านั้น
ผลลัพธ์ของ AviClear Laser อยู่ได้นานแค่ไหน
1.ผลลัพธ์ระยะสั้นหลังทำ AviClear Laser (3-6 เดือนแรก)
• หลังทำครบ 3 ครั้ง สิวลดลง 50-80%
• ผิวเริ่มมันน้อยลง และสิวใหม่เกิดน้อยลง
• ผิวอาจยังมีสิวเล็กน้อยแต่ไม่รุนแรง
2.ผลลัพธ์ระยะยาวหลังทำ AviClear Laser (12 เดือนขึ้นไป)
• สิวลดลงอย่างต่อเนื่อง 80-90% ของคนไข้พบว่าสิวหายได้นานถึง 2 ปีขึ้นไป
• ต่อมไขมันบางส่วนถูกทำลายถาวร ทำให้ความมันลดลงถาวร
• หากไม่มีปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ (เช่น ความเครียด ฮอร์โมน) สิวอาจหายไปถาวร
3.ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์หลังทำ AviClear Laser
แม้ว่า AviClear จะให้ผลระยะยาว แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในของร่างกายแต่ละคน
• ฮอร์โมน ผู้ที่มีสิวฮอร์โมนอาจต้องการทำซ้ำในอนาคต
• ความเครียดและการใช้ชีวิต ความเครียด อาหาร และสกินแคร์มีผลต่อการเกิดสิว
• การดูแลผิวหลังเลเซอร์ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและไม่อุดตันรูขุมขนช่วยให้ผลลัพธ์อยู่นานขึ้น
4.ต้องทำซ้ำอีกหรือไม่หลังทำ AviClear Laser ครบ 3 ครั้ง
• สำหรับผู้ที่เป็นสิวระดับปานกลาง อาจไม่ต้องทำซ้ำอีกเลย
• สำหรับผู้ที่เป็นสิวเรื้อรังหรือสิวฮอร์โมน อาจต้องทำซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อรักษาผลลัพธ์
• หากเริ่มเห็นว่าสิวกลับมาเล็กน้อย สามารถทำ 1 ครั้งเสริม เพื่อคงผลลัพธ์
AviClear Laser Vs เลเซอร์รักษาสิวอื่น ๆ ต่างกันยังไง
บทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบการรักษาสิวโดย AviClear Laser กับการรักษาสิวด้วยวิธีการอื่น ๆ ว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
1.เปรียบเทียบ AviClear กับการใช้ยา
การรักษา |
ผลข้างเคียงทั่วไป |
ความปลอดภัยระยะยาว |
AviClear Laser |
แดงเล็กน้อย บวมชั่วคราว อาจมีสิวเห่อเล็กน้อย |
ปลอดภัยสูง ไม่มีผลต่อระบบร่างกาย |
Isotretinoin (Accutane) |
ปากแห้ง ตาแห้ง ผมร่วง ภาวะซึมเศร้า เสี่ยงต่อตับและไต |
ต้องติดตามสุขภาพใกล้ชิด มีข้อห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ |
ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) |
เสี่ยงดื้อยา ทำลายจุลินทรีย์ดีในร่างกาย |
ใช้ระยะยาวไม่ได้ เสี่ยงดื้อยา |
ยาคุมกำเนิด (Oral Contraceptives) |
ฮอร์โมนแปรปรวน น้ำหนักเพิ่ม ความเสี่ยงลิ่มเลือด |
ไม่เหมาะกับบางคน ต้องปรึกษาแพทย์ |
AviClear ปลอดภัยกว่าเพราะไม่ต้องใช้ยา และไม่มีผลข้างเคียงต่อระบบร่างกาย
2.เปรียบเทียบ AviClear กับเลเซอร์ชนิดอื่น
เลเซอร์ |
กลไกการทำงาน |
ความปลอดภัย |
AviClear (1726 nm) |
ลดการทำงานของต่อมไขมัน โดยไม่ทำลายผิว |
ปลอดภัยสูง ไม่เสี่ยงต่อรอยดำหรือผิวไหม้ |
IPL (Intense Pulsed Light) |
ลดรอยแดง ฆ่าเชื้อสิว |
มีความเสี่ยงทำให้ผิวไหม้ถ้าตั้งค่าพลังงานสูง |
Nd YAG Laser |
กระตุ้นคอลลาเจน ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย |
อาจทำให้ผิวไวต่อแสง |
CO2 Laser (Fractional CO2) |
ลอกผิวชั้นนอก กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ |
เสี่ยงต่อรอยดำและผิวบาง |
AviClear ปลอดภัยกว่าการทำเลเซอร์อื่น เพราะไม่ทำลายชั้นผิว ไม่เสี่ยงต่อรอยดำ
AviClear Laser ทำควบคู่กับการรักษาสิววิธีอื่นได้หรือไม่
AviClear Laser เป็นเลเซอร์ที่ออกแบบมาเพื่อลดการทำงานของต่อมไขมันโดยตรงโดยไม่ต้องใช้ยา แต่ในการรักษาสิวที่มีความรุนแรงแตกต่างกัน สามารถใช้ควบคู่กับการรักษาวิธีอื่นได้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในการรักษาสิว
• สามารถทำควบคู่กับการรักษาสิวบางวิธีได้ เช่น การใช้ยาทาภายนอก หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดูแลผิว
• อาจต้องงดบางวิธีชั่วคราว เช่น การใช้สารผลัดเซลล์ผิวแรง ๆ หรือเลเซอร์ที่รุนแรง
วิธีรักษาสิวที่สามารถทำร่วมกับ AviClear Laser ได้
2.1 ยาทาภายนอก (Topical Treatments)
สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่อาจต้องเว้นช่วงก่อนและหลังทำเลเซอร์
ประเภท |
ตัวอย่างยา |
ใช้ร่วมกับ AviClear ได้หรือไม่ |
คำแนะนำ |
Benzoyl Peroxide (BP) |
Benzac, PanOxyl |
ใช้ได้ |
ควรเว้น 1-2 วันก่อนและหลังทำเลเซอร์ เพื่อลดการระคายเคือง |
Retinoids (Vitamin A) |
Differin (Adapalene), Tretinoin |
ควรเว้นช่วง |
หยุดใช้ 3-5 วันก่อนและหลังทำเลเซอร์ เพื่อลดการระคายเคือง |
Antibiotic Creams |
Clindamycin, Erythromycin |
ใช้ได้ |
ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ |
Niacinamide |
The Ordinary, La Roche-Posay |
ใช้ได้ |
ช่วยลดการอักเสบและเสริมประสิทธิภาพของ AviClear |
สามารถใช้ Benzoyl Peroxide และ Niacinamide ร่วมกับ AviClear ได้ ส่วน Retinoids และสารผลัดเซลล์ผิวควรเว้นช่วง
2.2 ยารับประทาน (Oral Medications)
ในบางกรณีสามารถใช้ร่วมกับ AviClear ได้ ขึ้นอยู่กับประเภทของยา
ประเภท |
ตัวอย่างยา |
ใช้ร่วมกับ AviClear ได้หรือไม่? |
คำแนะนำ |
ยาปฏิชีวนะ (Oral Antibiotics) |
Doxycycline, Minocycline |
ใช้ได้ |
อาจใช้ร่วมกันในช่วงแรกของการรักษา |
Isotretinoin (Accutane) |
Roaccutane, Acnotin |
ไม่แนะนำ |
ไม่ควรทำเลเซอร์ขณะใช้ยา เพราะอาจทำให้ผิวบางและไวต่อการระคายเคือง |
ยาคุมกำเนิด (Hormonal Therapy) |
Diane-35, Yaz |
ใช้ได้ |
สามารถใช้ร่วมกันได้หากสิวมีปัจจัยจากฮอร์โมน |
ยาปฏิชีวนะและยาคุมกำเนิดสามารถใช้ร่วมกับ AviClear ได้ แต่ห้ามใช้ Isotretinoin ควบคู่กับ AviClear เนื่องจากอาจทำให้ผิวบางและเกิดการระคายเคืองรุนแรง
2.3 เลเซอร์และหัตถการทางผิวหนัง (Laser & Procedures)
บางหัตถการสามารถทำร่วมกันได้ แต่บางประเภทควรหลีกเลี่ยง
วิธีรักษา |
ใช้ร่วมกับ AviClear ได้หรือไม่? |
คำแนะนำ |
IPL (Intense Pulsed Light) |
ควรเว้นช่วง |
ควรเว้นอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนและหลังทำ AviClear |
Fractional CO2 Laser |
ไม่แนะนำ |
อาจทำให้เกิดการระคายเคืองมากเกินไป |
Microneedling (Dermapen, RF Microneedling) |
ควรเว้นช่วง |
ควรเว้นอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ |
Chemical Peeling (AHA, BHA, TCA Peels) |
ไม่แนะนำ |
อาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น |
Hydrafacial หรือ Treatment เพิ่มความชุ่มชื้น |
ใช้ได้ |
สามารถทำร่วมกันได้เพื่อเสริมการบำรุงผิว |
ควรหลีกเลี่ยงเลเซอร์ที่รุนแรง เช่น Fractional CO2 และ Chemical Peeling แต่สามารถทำ Hydrafacial และการบำรุงผิวเสริมได้
สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับ AviClear Laser ตัดวงจรสิว
AviClear Laser เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐฯ เครื่องแรกของโลกที่สามารถลดการทำงานของต่อมไขมันโดยตรง ทำให้สิวลดลงอย่างถาวรโดยไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงจาก Accutane หรือยาปฏิชีวนะ ถือเป็นการ "เขย่าวงการรักษาสิว" อย่างแท้จริง สิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือสิวฮอร์โมนก็สามารถจัดการได้ด้วยเลเซอร์ AviClear เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวเรื้อรังและต้องการผลลัพธ์ระยะยาว
รมย์รวินท์ คลินิก พร้อมให้บริการ AviClear Laser แล้ววันนี้ ดูแลโดยแพทย์ Specialist มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย ได้ผลจริง ใครสนใจสามารถนัดปรึกษาได้เลย
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด