เลเซอร์หลุมสิว คืออะไร มีกี่แบบ เหมาะกับใคร ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
เลเซอร์หลุมสิว
เลเซอร์หลุมสิวมีกี่แบบ เหมาะกับใครทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
เลเซอร์หลุมสิว ทางเลือกรักษาหลุมสิวที่ได้ผลทันใจมากกว่าการทาครีม หรือการรอให้หลุมสิวนั้นหายเอง แต่เลเซอร์หลุมสิวมีหลายแบบให้เราเลือก เรามาดูกันว่าเลเซอร์แต่ละแบบมีข้อดีและข้อจำกัดอะไรบ้างเพื่อที่จะให้เราเลือกใช้งานได้อย่างตรงจุด
รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับเลเซอร์หลุมสิว
- หลุมสิวมีกี่ประเภท อันไหนมีความรุนแรงสุด
- ทำไมการรักษาหลุมสิวด้วยการเลเซอร์หลุมสิวถึงเห็นผลเร็ว
- ข้อดีของเลเซอร์หลุมสิว
- ข้อควรระวังของเลเซอร์หลุมสิว
- เลเซอร์หลุมสิวเหมาะกับใครบ้าง
- ใครควรหลีกเลี่ยงเลเซอร์หลุมสิว
- เลเซอร์หลุมสิวด้วย IPL
- เลเซอร์หลุมสิวด้วย Q-Switched Laser
- เลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional CO2
- เลเซอร์หลุมสิวด้วย Pico Laser
- เลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional Radio Frequency
- เลเซอร์หลุมสิวด้วย E-Matrix
- ควรเลือกเลเซอร์หลุมสิวที่ไหนดี
- คำถามยอดฮิตของการเลเซอร์หลุมสิว
1.เลเซอร์หลุมสิวเจ็บไหม
2.ถ้าไม่เลเซอร์หลุมสิว แผลหลุมสิวจะหายเองไหม
3.เลเซอร์หลุมสิวกี่วันหาย
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการเลเซอร์หลุมสิว
หลุมสิวมีกี่ประเภท อันไหนมีความรุนแรงสุด
ก่อนที่เราจะเลือกเลเซอร์หลุมสิว เราต้องดูก่อนว่าหลุมสิวที่เราเป็นนั้นเป็นหลุมสิวประเภทไหนเพื่อที่จะได้เลือกเลซอร์หลุมสิวเพื่อรักษาได้อย่างตรงจุด
หลุมสิว (Acne Scars) คือร่องรอยลึกบนผิวหน้าที่เกิดหลังสิวหายแล้ว ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหนังถูกทำลายและซ่อมแซมได้ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดพังผืดและร่องลึกถาวร หลุมสิวจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
1.หลุมสิวแบบ Ice Pick Scar (หลุมสิวหลุมแหลมคล้ายรูเข็ม)
• ลักษณะ เป็นหลุมลึก แคบ ปลายแหลม ลักษณะเหมือนถูกจิ้มด้วยเข็มหรือวัสดุแหลม
• สาเหตุ มักเกิดจากการอักเสบรุนแรงของสิวที่ลึกถึงชั้นหนังแท้
• ความรุนแรง สูงที่สุด เพราะหลุมลึกถึงรากผิว ทำให้รักษาได้ยาก ต้องใช้หลายเทคนิคผสมกัน เช่น TCA CROSS, Laser, Microneedling RF
2.หลุมสิวแบบ Boxcar Scar (หลุมสิวลึก ขอบชัด)
• ลักษณะ เป็นหลุมที่มีขอบชัดเจน รูปร่างคล้ายกล่องหรือหลุมสี่เหลี่ยม ขนาดค่อนข้างกว้าง ความลึกระดับกลางถึงลึก
• สาเหตุ มักเกิดจากสิวอักเสบที่กินพื้นที่ผิวกว้าง ทำลายคอลลาเจนใต้ผิวอย่างเฉียบพลัน
• ความรุนแรง ปานกลางถึงสูง รักษาได้ด้วยเลเซอร์ชนิดเจาะจง เช่น Fractional CO2 Laser, Subcision หรือการเติมฟิลเลอร์ช่วยเสริมผิว
3.หลุมสิวแบบ Rolling Scar (หลุมสิวตื้น ผิวเป็นคลื่น)
• ลักษณะ เป็นหลุมตื้นๆ ขนาดใหญ่ ผิวดูไม่เรียบคล้ายคลื่นหรือร่องลอน มีลักษณะลามในแนวนอน
• สาเหตุ เกิดจากพังผืดใต้ผิวที่รั้งผิวไว้ไม่ให้ยืดหยุ่น
• ความรุนแรง น้อยถึงปานกลาง แต่ทำให้ผิวดูไม่เรียบสม่ำเสมอ ต้องใช้เทคนิคที่ตัดพังผืด เช่น Subcision ร่วมกับเลเซอร์ หรือ Radiofrequency
ทำไมการรักษาหลุมสิวด้วยการเลเซอร์หลุมสิวถึงเห็นผลเร็ว
การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์หลุมสิว เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ผิวหนังที่สามารถจัดการกับหลุมสิวได้อย่างตรงจุด หลายคนที่เคยผ่านการรักษาด้วยเลเซอร์หลุมสิวมักจะรู้สึกว่า การเลเซอร์หลุมสิวเห็นผลลัพธ์ได้อย่าง
ทำไมการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ถึงเห็นผลเร็ว?
1.เลเซอร์หลุมสิวจะกระตุ้นการซ่อมแซมผิวได้แบบเร่งด่วน
เลเซอร์หลุมสิว เช่น Fractional CO2 Laser หรือ Erbium Laser จะทำงานโดยส่งพลังงานแสงลงไปในชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการ "สร้างใหม่" ของคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่ทำให้ผิวเรียบเนียน
เมื่อผิวหนังได้รับพลังงานจากเลเซอร์หลุมสิว ร่างกายจะเข้าใจว่ามีการ "บาดเจ็บเล็กๆ" เกิดขึ้น จึงเร่งฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่อย่างรวดเร็วในจุดที่มีปัญหา
2.เลเซอร์หลุมสิวสามารถทำลายพังผืดที่ดึงรั้งผิวหลุมสิว
หลุมสิวส่วนใหญ่มักเกิดจาก "พังผืด" ที่ยึดผิวชั้นบนลงไปด้านล่าง การใช้เลเซอร์หลุมสิวจะช่วย "ทำลาย" พังผืดเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทำลายผิวรอบข้าง
นี่คือสาเหตุที่หลังทำเลเซอร์หลุมสิว ตัวของหลุมสิวจะดูตื้นขึ้นทันทีในบางเคส เพราะโครงสร้างที่ยึดไว้ถูกคลายออก
3.เลเซอร์หลุมสิวเข้าถึงระดับลึกของผิวได้มากกว่าครีมหรือทรีตเมนต์ทั่วไป
ผลิตภัณฑ์ทาภายนอกไม่สามารถลงลึกถึงชั้นหนังแท้ได้เท่ากับพลังงานของเลเซอร์ ซึ่งสามารถเลือกความลึกในการยิงได้ ทำให้เข้าถึงต้นตอของปัญหาได้โดยตรง
ตัวอย่างเช่น เลเซอร์สามารถกระตุ้น Fibroblast (เซลล์สร้างคอลลาเจน) ได้โดยตรง ซึ่งครีมทั่วไปไม่สามารถทำได้ในระดับนั้น
4.ผลลัพธ์หลังทำเลเซอร์หลุมสิวเริ่มเห็นได้หลังครั้งแรก และดีขึ้นเรื่อยๆ
หลังทำเลเซอร์หลุมสิวเพียง 1-2 สัปดาห์ ผิวจะเริ่มดูเรียบขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไป 1-3 เดือน ผลลัพธ์จะดีขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากร่างกายยังคงสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง
นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนรู้สึกว่า "เห็นผลเร็ว" และ "ดีขึ้นเรื่อยๆ" แม้จะทำเลเซอร์หลุมสิวเพียงไม่กี่ครั้ง
5.เลเซอร์หลุมสิวจะมีการปรับพลังงานให้เหมาะกับระดับความลึกของหลุม
แพทย์สามารถวิเคราะห์และเลือกใช้พลังงานในการเลเซอร์หลุมสิวที่เหมาะกับความลึกของหลุมสิวแต่ละประเภท เช่น หลุมแบบ Ice pick, Boxcar, หรือ Rolling scar ได้อย่างแม่นยำ
ความยืดหยุ่นของเทคโนโลยีเลเซอร์หลุมสิวทำให้การรักษามีประสิทธิภาพและแม่นยำกว่าเทคนิคทั่วไป
ข้อดีของเลเซอร์หลุมสิว
1.การเลเซอร์หลุมสิวเห็นผลชัดเจนในระยะเวลาอันสั้น
เลเซอร์หลุมสิวสามารถช่วยให้ผิวที่เป็นหลุมดูเรียบเนียนขึ้นได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ เนื่องจากกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ทันทีหลังการรักษา
2.เลเซอร์หลุมสิวสามารถรักษาได้ตรงจุด เข้าถึงชั้นผิวลึก
เทคโนโลยีเลเซอร์หลุมสิวสามารถยิงพลังงานลงไปยังชั้นหนังแท้ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาหลุมสิวได้โดยตรง ทำให้เกิดการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวในระดับลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.เลเซอร์หลุมสิวสามารถปรับพลังงานให้เหมาะกับหลุมแต่ละประเภท
หลุมสิวมีหลายประเภท เช่น หลุมลึกเป็นรู (ice pick scar) หรือหลุมแอ่งกว้าง (boxcar, rolling scar) ซึ่งแพทย์สามารถปรับค่าพลังงานของเลเซอร์หลุมสิวให้เหมาะกับลักษณะหลุมสิวแต่ละแบบได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
หนึ่งในกลไกหลักของเลเซอร์หลุมสิวคือการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวแน่น ยืดหยุ่น และดูเรียบเนียน การสร้างคอลลาเจนใหม่นี้จะช่วยเติมเต็มหลุมสิวอย่างเป็นธรรมชาติ
5.สามารถควบคุมขอบเขตการรักษาได้ดี
ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์หลุมสิวแบบ fractional แพทย์สามารถเลือกยิงเลเซอร์หลุมสิวเฉพาะจุดที่ต้องการรักษาโดยไม่กระทบกับผิวรอบข้างมากเกินไป ส่งผลให้ระยะเวลาฟื้นตัวเร็วขึ้น และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
6.เสริมผลลัพธ์ของการรักษาร่วมกับวิธีอื่นได้ดี
เลเซอร์หลุมสิวสามารถใช้ร่วมกับวิธีอื่น เช่น PRP, Microneedling, Subcision หรือการทายา เพื่อเสริมประสิทธิภาพและเร่งการฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้นในระยะยาว
ข้อควรระวังของเลเซอร์หลุมสิว
• มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
การใช้เลเซอร์หลุมสิวที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าและปลอดภัยต้องอาศัยเครื่องมือที่มีต้นทุนสูง ทำให้ค่ารักษาในแต่ละครั้งอยู่ในระดับที่ต้องวางแผนล่วงหน้า
• ต้องมีเวลาพักผิวหลังทำ
เลเซอร์หลุมสิวบางชนิด เช่น Fractional CO2 ทำให้ผิวบอบบางลงชั่วคราว จึงควรหลีกเลี่ยงแดด และต้องดูแลผิวอย่างใกล้ชิดในช่วงแรกหลังการรักษา
• อาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์บางประการ
เช่น ผิวแดง แสบ คัน มีจุดคล้ำ หรือในบางกรณีหากไม่ดูแลอย่างเหมาะสมอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
• รู้สึกไม่สบายขณะทำเลเซอร์หลุมสิวในบางราย
ขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์หลุมสิวและระดับความไวของผิว บางคนอาจรู้สึกเจ็บหรือแสบแม้จะใช้ยาชาก่อนเริ่มการรักษา
เลเซอร์หลุมสิวเหมาะกับใครบ้าง
• ผู้ที่มีหลุมสิวระดับตื้นถึงปานกลาง
เลเซอร์หลุมสิวเหมาะกับคนที่มีหลุมสิวไม่ลึกมาก เพราะตอบสนองต่อเลเซอร์ได้ดี เห็นผลชัดเจนเมื่อทำต่อเนื่อง
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว
เลเซอร์หลุมสิวช่วยให้ผิวดูเรียบขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ เหมาะกับคนที่อยากฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน
• ผู้ที่ไม่มีประวัติผิวแพ้ง่ายหรือแผลเป็นนูน
คนที่ไม่มีปัญหาแพ้แสงหรือเป็นคีลอยด์จะมีความเสี่ยงน้อยในการทำเลเซอร์หลุมสิว
• ผู้ที่สามารถดูแลผิวหลังทำได้ดี
ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมบำรุงตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้เร็ว
ใครควรหลีกเลี่ยงเลเซอร์หลุมสิว
• ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือไวต่อแสงมาก
ผิวประเภทนี้อาจเกิดการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงได้ง่ายหลังทำเลเซอร์หลุมสิว เช่น แดง บวม หรือแสบผิวนานกว่าปกติ
• ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นนูน (คีลอยด์)
หากเคยเกิดคีลอยด์หลังบาดแผลหรือศัลยกรรมมาก่อน มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดแผลเป็นหลังเลเซอร์หลุมสิว
• ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัยอย่างชัดเจน แนะนำให้เลื่อนการรักษาเลเซอร์หลุมสิวไปจนกว่าจะพ้นช่วงนี้
• ผู้ที่มีปัญหาผิวอักเสบหรือมีสิวอักเสบอยู่ในขณะนั้น
ควรรักษาสิวให้สงบก่อน เพราะการทำเลเซอร์หลุมสิวขณะผิวยังอักเสบอาจทำให้ระคายเคืองและลุกลามมากขึ้น
• ผู้ที่ใช้ยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มกรดวิตามินเอ (Isotretinoin)
หากเพิ่งใช้ยากลุ่มนี้ ควรรอให้หยุดยาอย่างน้อย 6 เดือนก่อนเลเซอร์หลุมสิว เพื่อป้องกันแผลหายช้าและผลข้างเคียง
เลเซอร์หลุมสิวด้วย IPL
การใช้เลเซอร์หลุมสิว IPL (Intense Pulsed Light) ในการรักษาหลุมสิว เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ปลอดภัยและไม่รุกรานผิวมาก ซึ่งแตกต่างจากเลเซอร์หลุมสิวแบบลอกผิวหรือเลเซอร์หลุมสิวพลังงานสูง
หลักการทำงานของเลเซอร์หลุมสิวด้วย IPL ในการรักษาหลุมสิว
1.ส่งพลังงานแสงเข้าสู่ชั้นผิว
เลเซอร์หลุมสิว IPL ปล่อยแสงในช่วงคลื่นหลายความยาว (broad-spectrum light) ซึ่งต่างจากเลเซอร์หลุมสิวที่เป็นคลื่นเดียว จุดเด่นคือสามารถเลือกพลังงานให้เหมาะกับปัญหาผิวหลายแบบได้ในคราวเดียว เช่น รอยแดง รอยดำ และพื้นผิวไม่เรียบ
2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
พลังงานแสงจากเลเซอร์หลุมสิว IPL จะถูกดูดซึมโดยเม็ดสีในผิวและเส้นเลือดฝอยใต้ผิว ส่งผลให้เกิดความร้อนเล็กน้อยในบริเวณเป้าหมาย ซึ่งช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวให้เริ่มสร้างคอลลาเจนใหม่ คอลลาเจนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเติมเต็มและทำให้หลุมสิวดูตื้นลงอย่างเป็นธรรมชาติ
3.ลดรอยแดงและรอยสิวควบคู่กัน
สำหรับผู้ที่มีหลุมสิวร่วมกับรอยแดงหรือรอยดำจากสิว เลเซอร์หลุมสิว IPL สามารถช่วยลดเม็ดสีส่วนเกินและเส้นเลือดฝอยผิดปกติ ทำให้ผิวโดยรวมดูเรียบเนียนขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้นควบคู่กับการฟื้นฟูผิว
4.ไม่ทำลายผิวชั้นบน
เนื่องจาก เลเซอร์หลุมสิว IPL ไม่ใช่การลอกผิวหรือทำให้เกิดแผล พื้นผิวของผิวหนังจึงไม่ถูกทำลาย ผู้รับการรักษาจึงสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติแทบจะทันทีหลังทำ
การใช้ เลเซอร์หลุมสิว IPL ในการรักษาหลุมสิว เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวไม่ลึกมาก หรือมีรอยแดงร่วมด้วย เพราะสามารถกระตุ้นคอลลาเจนและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้โดยไม่ต้องพักฟื้น ผิวดูเรียบขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เหมาะกับผู้ที่ต้องการทางเลือกที่อ่อนโยนและปลอดภัย
เลเซอร์หลุมสิวด้วย Q-Switched Laser
เลเซอร์หลุมสิว Q-Switched LaserQ-Switched Laser เป็นเลเซอร์หลุมสิวชนิดหนึ่งที่พัฒนาเพื่อใช้รักษาปัญหาผิวที่เกี่ยวกับเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำหลังสิว รวมถึง หลุมสิวในระดับตื้นหรือมีรอยคล้ำร่วมด้วย โดยเลเซอร์หลุมสิว Q-Switched จะปล่อยพลังงานแสงในรูปแบบของคลื่นแสงสั้นและเข้มข้นในระยะเวลาไม่นาน (นาโนวินาที) ซึ่งช่วยทำลายเม็ดสีผิดปกติในผิวหนังอย่างแม่นยำโดยไม่ทำร้ายผิวชั้นบน
หลักการทำงานของเลเซอร์หลุมสิว Q-Switched Laser ในการรักษาหลุมสิว
1.ปล่อยพลังงานแสงความถี่สูงแบบเฉียบพลัน
เลเซอร์หลุมสิวชนิดนี้ใช้เทคนิค “Q-switching” ซึ่งเป็นการปล่อยพลังงานสูงในช่วงเวลาสั้นมากๆ ไปยังชั้นผิวเฉพาะจุด ทำให้สามารถทำลายเม็ดสี (Melanin) ที่ตกค้างจากสิวเก่าได้ โดยไม่กระทบผิวรอบข้าง
2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
แม้เลเซอร์หลุมสิว Q-Switched จะเน้นที่การรักษารอยดำหรือเม็ดสี แต่พลังงานแสงที่ลงไปยังชั้นหนังแท้สามารถกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลิตคอลลาเจนใหม่ได้ ซึ่งช่วยให้พื้นผิวดูเรียบขึ้น หลุมสิวดูตื้นลงในระยะยาว
3.ลดรอยคล้ำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
สำหรับผู้ที่มีหลุมสิวร่วมกับรอยดำ รอยคล้ำ หรือผิวไม่สม่ำเสมอ เลเซอร์หลุมสิว Q-Switched Laser จะช่วยจัดการเม็ดสีที่ผิดปกติและทำให้ผิวโดยรวมดูสว่างใสขึ้น ลดความหมองคล้ำบริเวณที่เป็นหลุม
4.อ่อนโยนและไม่ต้องพักฟื้นผิว
เพราะพลังงานที่ปล่อยออกมาสั้นและแม่นยำมาก ผิวจะไม่เกิดแผลหรือเปลือกตก จึงไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมในชีวิตประจำวัน สามารถแต่งหน้าหรือออกไปข้างนอกได้ตามปกติหลังทำ
เลเซอร์หลุมสิว Q-Switched Laser เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวร่วมกับรอยดำหรือผิวหมองคล้ำ และต้องการรักษาด้วย เลเซอร์หลุมสิว Q-Switched Laser เป็นวิธีที่ไม่รุกรานผิวมาก ช่วยให้ผิวดูเนียนและกระจ่างใสขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย ไม่สะดวกพักฟื้นผิวหลังทำ
เลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional CO2
เลเซอร์หลุมสิว Fractional CO2 Laser เป็นหนึ่งในวิธีรักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมสูงมากเพราะสามารถ “ฟื้นฟูผิวใหม่” ได้จากภายใน เหมาะกับหลุมสิวลึกหรือหลุมสิวที่เป็นมานาน โดยเลเซอร์หลุมสิวชนิดนี้ใช้พลังงานจาก แสงเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งมีความยาวคลื่นสูงมากพอที่จะลงไปถึงชั้นหนังแท้และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ
หลักการทำงานของเลเซอร์หลุมสิว Fractional CO2 Laser
1.ยิงลำแสงเลเซอร์แบบจุดเล็ก (Fractional)
เลเซอร์หลุมสิว Fractional CO2 จะยิงลำแสงเลเซอร์เป็นจุดเล็ก ๆ หลายจุดลงบนผิวหนังคล้าย "ตาข่ายจิ๋ว" โดยเว้นพื้นที่ผิวที่ไม่ถูกยิงไว้เป็นบริเวณพักฟื้น จุดเล็ก ๆ เหล่านี้คือพื้นที่ที่ผิวจะได้รับการ “ผลัดออก” และกระตุ้นการสร้างผิวใหม่
2.ขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ไม่เรียบ และกระตุ้นให้สร้างผิวใหม่
พลังงานจากเลเซอร์หลุมสิวจะทำให้ชั้นผิวบนสุด (epidermis) หลุดลอกออก และทำให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่เรียบเนียนกว่าเดิม ขณะเดียวกันยังลงลึกถึงชั้นหนังแท้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
3.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างเข้มข้น
เมื่อพลังงาน เลเซอร์หลุมสิวลงไปถึงชั้นหนังแท้ (dermis) จะกระตุ้นให้ Fibroblast หรือเซลล์สร้างคอลลาเจนเริ่มทำงาน ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น และหลุมสิวดูตื้นขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
4.ผลัดเซลล์และซ่อมแซมผิวในวงกว้าง
แม้จะเป็นเลเซอร์หลุมสิวแบบจุด แต่สามารถรักษาหลุมสิวได้ทั่วบริเวณโดยไม่ทำลายผิวทั้งหมดในคราวเดียว ลดระยะเวลาพักฟื้นเมื่อเทียบกับเลเซอร์หลุมสิวแบบเดิมที่ลอกผิวทั่วหน้า
เลเซอร์หลุมสิว Fractional CO2 เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวลึกหรือเป็นมานาน เพราะสามารถลอกผิวเก่า กระตุ้นคอลลาเจน และเร่งการซ่อมแซมผิวได้ลึกถึงต้นเหตุของปัญหา ช่วยให้ผิวเรียบขึ้นอย่างชัดเจน แต่ต้องมีการพักฟื้น 5-7 วัน และดูแลผิวตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด
เลเซอร์หลุมสิวด้วย Pico Laser
เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser หรือ Picosecond Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาให้ปล่อยพลังงานด้วยความเร็วระดับ ล้านล้านวินาที (1 picosecond = 0.000000000001 วินาที) ทำให้เกิดแรงกระแทก (Photoacoustic effect) แทนที่จะเป็นความร้อนเหมือนเลเซอร์หลุมสิวรุ่นเก่า ผลที่ได้คือ อ่อนโยนต่อผิวมากขึ้น แต่ยังคง ประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในการรักษารอยดำ รอยแดง และผิวไม่เรียบจากหลุมสิว
หลักการทำงานของ เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser ในการรักษาหลุมสิว
1.ปล่อยพลังงานแสงความเร็วสูงระดับ Picosecond
เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser ทำงานโดยการปล่อยพลังงานแสงในช่วงเวลาที่สั้นมาก ซึ่งพลังงานนี้จะเข้าไปทำลายเม็ดสี หรือกระตุ้นเซลล์ผิวโดย ไม่เกิดความร้อนสะสม ต่างจากเลเซอร์ทั่วไป จึงช่วยลดความเสี่ยงของการระคายเคืองหรือผลข้างเคียง
2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วยแรงกระแทกระดับนาโน
แรงกระแทกจากเลเซอร์หลุมสิวจะกระตุ้นเซลล์ผิวให้เริ่มการฟื้นฟูตัวเองทันที โดยเฉพาะในชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดการ สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ที่ช่วยเติมเต็มรอยหลุมให้ดูตื้นและผิวเนียนเรียบขึ้นอย่างต่อเนื่อง
3.ช่วยลดรอยแดงและรอยดำจากสิว
เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser มีความสามารถในการจัดการเม็ดสีผิดปกติที่อยู่ในผิวได้แม่นยำ ทำให้รอยสิว รอยคล้ำต่างๆ จางลงไปพร้อมกับการรักษาหลุมสิวในคราวเดียว
4.ลดการทำร้ายผิวชั้นบน
เนื่องจากพลังงานของ เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser ไม่เน้นความร้อน จึงไม่ทำลายผิวชั้นนอก ผิวจึง ไม่ลอก ไม่ตกสะเก็ด ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำทันที
เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวระดับตื้นถึงปานกลาง และต้องการการรักษาที่อ่อนโยน ฟื้นตัวไว และได้ผลลัพธ์หลากหลายในการยิงครั้งเดียว ทั้งลดรอยดำ กระตุ้นคอลลาเจน และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนโดยไม่ต้องหยุดพักผิว
เลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional Radio Frequency
เลเซอร์หลุมสิว Fractional Radio Frequency (Fractional RF) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency หรือ RF) ในการรักษาหลุมสิวและฟื้นฟูสภาพผิว แตกต่างจากเลเซอร์หลุมสิวทั่วไปที่ใช้พลังงานแสง RF ใช้พลังงานคลื่นไฟฟ้าแบบความถี่สูงลงสู่ผิวในรูปแบบ “จุดเล็กๆ” (Fractional) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึกของผิวโดย ไม่ทำลายผิวชั้นนอกมากนัก
หลักการทำงานของเลเซอร์หลุมสิว Fractional RF ในการรักษาหลุมสิว
1.ปล่อยพลังงาน RF ลงสู่ชั้นผิวในรูปแบบ "จุดเล็ก"
เครื่อง Fractional RF จะปล่อยพลังงานในลักษณะตาข่ายหรือจุดเล็ก ๆ คล้ายกับการยิงเลเซอร์หลุมสิวแบบ Fractional โดยพลังงานจะลงไปยังชั้นหนังแท้ (Dermis) โดยตรงเพื่อกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิว
2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
พลังงานจาก RF จะสร้างความร้อนเฉพาะจุดภายในผิวหนัง ส่งผลให้เซลล์ผิวเริ่มซ่อมแซมตัวเองโดยอัตโนมัติ พร้อมกระตุ้นการผลิต คอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแน่นขึ้น เรียบเนียนขึ้น และหลุมสิวค่อย ๆ ตื้นขึ้น
3.ปลอดภัยกับผิวทุกสี และลดโอกาสเกิดรอยดำหลังทำ
เนื่องจาก RF ไม่อาศัยเม็ดสีผิวในการทำงาน จึงสามารถใช้ได้กับทุกสีผิว รวมถึงผิวคล้ำ โดยไม่เสี่ยงต่อการเกิดรอยดำหรือ Post-Inflammatory Hyperpigmentation (PIH) ซึ่งมักพบหลังเลเซอร์บางชนิด
4.ฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นผิวนาน
แม้จะมีความร้อนลงไปลึก แต่ผิวชั้นบนแทบไม่ถูกทำลาย ทำให้หลังการรักษาเกิดเพียงรอยแดงเล็กน้อยซึ่งหายได้ภายใน 1-3 วัน ผู้รับการรักษาสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว
เลเซอร์หลุมสิว Fractional RF เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวระดับปานกลางถึงลึก ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกโดยไม่เสี่ยงกับปัญหารอยดำหลังทำ และไม่ต้องการหยุดพักฟื้นนาน เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย ใช้ได้กับทุกสีผิว และช่วยให้ผิวแน่น เรียบเนียนขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อทำสม่ำเสมอ
เลเซอร์หลุมสิวด้วย E-Matrix
เลเซอร์หลุมสิว E-Matrix เป็นเทคโนโลยีการฟื้นฟูผิวและรักษาหลุมสิวที่ผสานการทำงานระหว่าง คลื่นพลังงาน Radio Frequency (RF) กับการยิงแบบ Fractional (จุดเล็ก ๆ) ซึ่งเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Sublative RF
จุดเด่นของ เลเซอร์หลุมสิว E-Matrix คือสามารถปล่อยพลังงานลงลึกไปในผิวหนังชั้นกลางได้โดย ไม่ทำลายผิวชั้นบนมาก และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลักการทำงานของเลเซอร์หลุมสิว E-Matrix ในการรักษาหลุมสิว
1.ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) แบบจุดเล็ก
เลเซอร์หลุมสิว E-Matrix จะปล่อยพลังงานในลักษณะ “Fractional RF” โดยส่งผ่านคลื่นความถี่วิทยุลงไปเฉพาะจุด ทำให้เกิด “ช่องเล็ก ๆ” ใต้ผิวหนังที่ร่างกายเข้าใจว่าเป็นบาดแผลขนาดเล็ก ส่งผลให้ผิวเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเอง
2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวจากภายใน
เมื่อผิวเกิดการกระตุ้นจาก RF ระบบร่างกายจะเริ่มผลิต คอลลาเจนใหม่ เพื่อซ่อมแซมผิวบริเวณที่ถูกกระตุ้น ส่งผลให้ผิวแน่นขึ้น หลุมสิวค่อย ๆ ตื้นขึ้น ผิวหน้าโดยรวมเรียบเนียนและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
3.ปลอดภัยกับทุกสีผิว ลดความเสี่ยงเรื่องรอยดำ
เพราะ เลเซอร์หลุมสิว E-Matrix ไม่ใช้พลังงานแสงเหมือนเลเซอร์ทั่วไป จึง ไม่มีผลต่อเม็ดสีผิว สามารถใช้กับผู้ที่มีผิวคล้ำหรือผิวสองสีได้โดยไม่เสี่ยงต่อการเกิดรอยดำหลังทำ (Post-inflammatory hyperpigmentation)
4.ไม่ลอกผิว ไม่ต้องพักฟื้นนาน
หลังการทำเลเซอร์หลุมสิว E-Matrix ผิวอาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยเพียง 1-3 วัน และสามารถแต่งหน้าหรือใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องหยุดงานหรือพักฟื้นนานเหมือนการทำเลเซอร์ลอกผิว
เลเซอร์หลุมสิว E-Matrix เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวระดับปานกลางถึงลึก และต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่ทำร้ายผิวชั้นบนมาก เหมาะสำหรับทุกสีผิว ให้ผลลัพธ์เรื่องความเรียบเนียน กระชับ และเติมเต็มผิวอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
ควรเลือกเลเซอร์หลุมสิวที่ไหนดี
• ควรทำเลเซอร์หลุมสิวกับสถานบริการที่ได้รับการรับรอง
เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตและผ่านการรับรองจากหน่วยงานด้านสุขภาพ
• มีแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางดูแลโดยตรง
แพทย์สามารถวินิจฉัยปัญหาได้อย่างแม่นยำ และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน
• ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
เทคโนโลยีใหม่ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟื้นฟูผิวได้ลึกและเห็นผลเร็วโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
• วิเคราะห์และรักษาได้ตรงจุด
การประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนรักษาช่วยให้วางแผนการดูแลได้ตรงจุดและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
คำถามยอดฮิตของการเลเซอร์หลุมสิว
1.เลเซอร์หลุมสิวเจ็บไหม
คำตอบ
ความรู้สึกเจ็บขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์หลุมสิวที่ใช้และความไวของผิวแต่ละคน
• เลเซอร์บางชนิด เช่น Fractional CO2 อาจรู้สึกแสบหรือร้อนผิวในระหว่างทำ แต่แพทย์จะทายาชาก่อนเริ่ม จึงช่วยลดความเจ็บได้มาก
• เลเซอร์รุ่นใหม่อย่าง Pico Laser หรือ Fractional RF มักเจ็บน้อยกว่า เพราะใช้พลังงานแบบกระแทกหรือคลื่นความถี่ ไม่เน้นความร้อน
2.ถ้าไม่เลเซอร์หลุมสิว แผลหลุมสิวจะหายเองไหม?
คำตอบ
หลุมสิวส่วนใหญ่ ไม่สามารถหายเองได้ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะหลุมลึกที่เกิดจากพังผืดยึดผิวลงไปชั้นล่างของผิวหนัง
• คอลลาเจนในร่างกายอาจสร้างขึ้นได้เล็กน้อย แต่อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้หลุมดูตื้นขึ้นอย่างชัดเจน
• การใช้ครีมหรือทรีตเมนต์บางชนิดช่วยให้ผิวเรียบขึ้นเล็กน้อยในกรณีที่หลุมไม่ลึก แต่ใช้เวลานานมาก และผลลัพธ์ไม่เทียบเท่าการเลเซอร์
3.เลเซอร์หลุมสิวกี่วันหาย ?
คำตอบ
ระยะเวลาฟื้นตัวขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์หลุมสิวที่ใช้
• เลเซอร์หลุมสิว Fractional CO2 ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 5-7 วัน ผิวอาจลอก แดง และมีสะเก็ด
• เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser / Q-Switched / RF ฟื้นตัวเร็วกว่า บางคนเพียง 1-3 วันก็สามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ผลลัพธ์ในการรักษาหลุมสิว จะค่อยๆ เห็นชัดขึ้นหลัง 2-4 สัปดาห์ และอาจต้องทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้งขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความลึกของหลุมสิว
สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการเลเซอร์หลุมสิว
การเป็นหลุมสิวอาจทำให้ใครหลาย ๆ คนไม่มั่นใจ การรักษาด้วยการเลเซอร์หลุมสิว เป็นวิธีการที่รักษาหลุมสิวที่เห็นผลเร็วและชัดเจนกว่าวิธีอื่นๆ แต่สิ่งสำคัญกว่าการใช้เลเซอร์หลุมสิวในการรักษา เราต้องรู้ด้วยว่าหลุมสิวที่เราเป็นนั้นเป็นประเภทไหน เพื่อที่เราจะได้เลือกวิธีการรักษาหลุมสิวได้ตรงกับปัญหาของเรามากที่สุด
วิธีป้องกันหลุมสิวที่ดีที่สุดคือ เวลาเป็นสิว ห้ามบีบ แกะ หรือแคะ สิวเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิด เป็นรอยในอนาคตนะ แต่ถ้าใครเป็นแล้วยังไม่รู้ว่าควรจะใช้เลเซอร์แบบไหนในการรักษาหลุมสิว สามารถทักมาปรึกษาคุณหมอก่อนได้เลย
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ