สิวหัวช้าง คืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรให้สิวยุบ
สิวหัวช้าง
สิวหัวช้าง เกิดจากอะไร รักษาอย่างไรให้สิวยุบ
สิวหัวช้างเป็นปัญหาผิวที่สร้างความเครียดวิตกกังวลให้กับผู้ที่ประสบปัญหา เพราะลักษณะของสิวหัวช้างเป็นตุ่มนูนขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง มีอาการอักเสบรุนแรง และไม่มีหัวให้บีบออกได้ง่ายต่างจากสิวทั่วไป และหากสิวหัวช้างไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทิ้งรอยแผลเป็นหรือหลุมสิวไว้อีกด้วย ปัญหาสิวหัวช้างจึงเป็นปัญหาผิวอันดับต้น ๆ ที่หลายคนอยากรักษาให้หาย ซึ่งสิวหัวช้างสามารถรักษาและป้องกันได้ หากเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม ดังนั้นบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจถึง สิวหัวช้างคืออะไร สาเหตุของการเกิดสิวหัวช้าง วิธีการรักษาสิวหัวช้างที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงแนะนำวิธีการดูแลผิว เพื่อป้องกันการเกิดสิวหัวช้างในอนาคต
สิวหัวช้างคืออะไร
สิวหัวช้าง เป็นสิวประเภทหนึ่งที่มีการอักเสบรุนแรงและลึกถึงชั้นใต้ผิวหนัง มักมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงขนาดใหญ่ เจ็บ และไม่มีหัวที่สามารถบีบออกได้ง่าย ซึ่งเกิดจากการอุดตันในรูขุมขนที่ลึกมากและมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย
ลักษณะของสิวหัวช้าง
• สิวหัวช้างเป็นตุ่มบวมแดง ขนาดใหญ่และเจ็บมาก
• สิวหัวช้างไม่มีหัวหนองที่ชัดเจน แตกต่างจากสิวทั่วไป
• สิวหัวช้างมักเกิดเป็นกลุ่ม โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า คาง หลัง หรือหน้าอก
• สิวหัวช้างหายช้า และอาจทิ้งรอยแผลเป็นหรือหลุมสิว
สิวหัวช้างเกิดจากอะไร
สิวหัวช้างเกิดจากการอักเสบรุนแรงของรูขุมขนใต้ผิวหนัง ซึ่งเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยร่วมกัน ดังนี้
1.สิวหัวช้างเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน
• เกิดจากน้ำมันส่วนเกิน (Sebum) ที่ผลิตจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง
• เซลล์ผิวที่ตายแล้ว สะสมและอุดตันรูขุมขน
• รูขุมขนที่อุดตันเป็นสภาวะที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
2.สิวหัวช้างเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
• แบคทีเรียเหล่านี้อาศัยอยู่ในรูขุมขน เมื่อรูขุมขนอุดตัน จะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว
• ทำให้เกิดการอักเสบและหนอง ส่งผลให้เกิดเป็นตุ่มใหญ่และเจ็บมาก
3.สิวหัวช้างเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
• โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgens) ซึ่งกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น
• มักเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่น ช่วงมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ และภาวะถุงน้ำในรังไข่ (PCOS)
4.สิวหัวช้างเกิดจากความเครียด
• ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
• ส่งผลให้เกิดสิวอักเสบ รวมถึงสิวหัวช้างมากขึ้น
5.สิวหัวช้างเกิดจากการกินอาหารที่กระตุ้นสิว
• อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม ทำให้ระดับอินซูลินเพิ่มขึ้น กระตุ้นการผลิตน้ำมัน
• ผลิตภัณฑ์นม โดยเฉพาะนมวัวที่มีฮอร์โมนธรรมชาติ
• ของทอด ของมัน เพิ่มการอักเสบในร่างกาย
6.สิวหัวช้างเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับผิว
• เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่อุดตันรูขุมขน
• การล้างหน้าบ่อยเกินไป ทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นการผลิตน้ำมันมากขึ้น
7.สิวหัวช้างเกิดจากพันธุกรรม
หากพ่อแม่หรือสมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นสิวหัวช้างหรือสิวเรื้อรัง ก็มีโอกาสสูงที่คุณจะเป็นเช่นกัน
8.สิวหัวช้างเกิดจากพฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น
• การสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ด้วยมือที่สกปรก
• การบีบ แกะ หรือกดสิว ที่ไม่ถูกวิธี ทำให้การอักเสบลุกลาม
• การนอนบนหมอนที่สกปรก หรือไม่ซักปลอกหมอนบ่อย ๆ
ผลเสียของสิวหัวช้างมีอะไรบ้าง
1.สิวหัวช้างส่งผลเสียทางกายภาพ
• สิวหัวช้างทำให้เกิดหลุมสิว เนื่องจากสิวหัวช้างอักเสบรุนแรง ทำให้ผิวหนังถูกทำลายลึกถึงชั้นหนังแท้และทิ้งรอยหลุมสิวได้
• สิวหัวช้างทำให้เกิดรอยดำ รอยแดง เกิดจากการอักเสบและการแตกของสิว ทำให้ผิวผลิตเม็ดสีมากขึ้น
• สิวหัวช้างทำให้เกิดรอยแผลเป็น หากสิวหัวช้างฝังลึกและไม่ได้รับการรักษา อาจเกิดรอยแผลเป็นที่รักษายาก
• สิวหัวช้างทำให้เกิดการติดเชื้อลุกลาม โดยเฉพาะเมื่อบีบสิวผิดวิธี ทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายไปบริเวณอื่น
• สิวหัวช้างทำให้ผิวขรุขระ จากการเกิดซ้ำของสิวหัวช้างในบริเวณเดิม ส่งผลให้ผิวไม่เรียบเนียน
2.สิวหัวช้างส่งผลเสียทางจิตใจและอารมณ์
• สิวหัวช้างทำให้สูญเสียความมั่นใจ โดยเฉพาะในวัยรุ่นหรือวัยทำงาน
• สิวหัวช้างทำให้เกิดความเครียด มีความกังวลกับภาพลักษณ์ของตนเอง
• สิวหัวช้างทำให้เสี่ยงซึมเศร้า ในกรณีที่เป็นสิวเรื้อรังและรุนแรง
• สิวหัวช้างทำให้เลี่ยงการเข้าสังคม เพราะอายหรือกังวลเกี่ยวกับผิวหน้า
3.สิวหัวช้างส่งผลเสียจากการรักษาที่ไม่ถูกต้อง
• สิวหัวช้างทำให้ผิวบางและแพ้ง่าย จากการใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือกรดผลัดเซลล์ผิวมากเกินไป
• สิวหัวช้างทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะ หากใช้ยาฆ่าเชื้อเป็นเวลานานโดยไม่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
• สิวหัวช้างทำให้เกิดสิวซ้ำซาก จากการบีบหรือกดสิวผิดวิธี ทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจาย
4.สิวหัวช้างส่งผลเสียต่อปัญหาผิวในระยะยาว
• สิวหัวช้างทำให้ผิวไม่เรียบเนียน จากรอยหลุมสิวและรอยแผลเป็นที่ฝังลึก
• สิวหัวช้างอาจกลายเป็นสิวเรื้อรัง โดยเฉพาะถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องแต่แรก
• สิวหัวช้างทำให้ผิวไวต่อแสง หากใช้ยารักษาสิวบางประเภท เช่น Retinoids แล้วไม่ป้องกันแสงแดด
สิวหัวช้างหายเองได้ไหม
สิวหัวช้างสามารถหายเองได้ แต่ใช้เวลานาน เนื่องจากเป็นสิวอักเสบลึกใต้ผิวหนัง และหากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอย่างถูกต้อง อาจมีโอกาสเกิดแผลเป็น หลุมสิว หรือรอยดำได้สูง ดังนั้นการดูแลรักษาสิวหัวช้างด้วยวิธีที่ถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นและลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็น
ระยะเวลาที่สิวหัวช้างจะหายเองได้
• หากเป็นสิวหัวช้างขนาดเล็กที่เริ่มอักเสบใหม่ ๆ อาจค่อย ๆ ยุบและหายเองใน 2-4 สัปดาห์
• แต่ถ้าเป็นสิวหัวช้างขนาดใหญ่หรือมีหนอง มักใช้เวลานานกว่า 4-8 สัปดาห์ หรืออาจนานกว่านั้น
สิวหัวช้างบีบได้ไหม
ไม่ควรบีบสิวหัวช้าง เพราะสิวหัวช้างเป็นสิวอักเสบลึกใต้ผิวหนัง หากบีบเองโดยไม่ถูกวิธี อาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดี โดยผลเสียจากการบีบสิวหัวช้างมีดังนี้
• การบีบสิวหัวช้างเองทำให้การอักเสบรุนแรงขึ้น เพราะแรงกดทำให้เชื้อแบคทีเรียกระจายลึกเข้าไปในผิวหนัง
• การบีบสิวหัวช้างเองทำให้เกิดหนองเพิ่ม ทำให้สิวใหญ่ขึ้น แดงมากขึ้น และเจ็บกว่าเดิม
• การบีบสิวหัวช้างเองทำให้เกิดหลุมสิว หากสิวแตกใต้ผิว จะทำลายคอลลาเจนและทิ้งหลุมสิวลึกที่รักษายาก
• การบีบสิวหัวช้างเองทำให้เกิดรอยดำรอยแดง การบีบสิวทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบมากขึ้นและทิ้งรอยนาน
• การบีบสิวหัวช้างเองทำให้เกิดการติดเชื้อ มือหรือเครื่องมือที่ไม่สะอาดทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจาย
• การบีบสิวหัวช้างเองทำให้เกิดสิวซ้ำซาก เพราะการบีบทำให้ผิวเสียหายและเกิดสิวใหม่ในบริเวณเดิม
สิวหัวช้างไม่มีหัว กี่วันหาย
สิวหัวช้างที่ไม่มีหัว เป็นสิวอักเสบลึกใต้ผิวหนังที่ไม่มีหัวหนองให้เห็นชัดเจน ซึ่งมักใช้เวลา 2-8 สัปดาห์ หรืออาจนานกว่านั้นกว่าจะหาย ขึ้นอยู่กับขนาดของสิว ความรุนแรงของสิว และการดูแลรักษา หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจกลายเป็นสิวเรื้อรัง หลุมสิว หรือรอยแผลเป็น ได้
ระยะเวลาการหายของสิวหัวช้างไม่มีหัว
• สิวหัวช้างขนาดเล็ก อาจหายเองภายใน 2-3 สัปดาห์
• สิวหัวช้างขนาดใหญ่หรือฝังลึก อาจใช้เวลานาน 4-8 สัปดาห์ หรือมากกว่า
• หากสิวหัวช้างไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจกลายเป็นสิวเรื้อรังที่เกิดซ้ำในจุดเดิม
ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาการหายของสิวหัวช้าง
• ฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงมีประจำเดือนหรือตั้งครรภ์
• การดูแลผิว หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้หายเร็วขึ้น
• การรักษาที่ถูกวิธี เช่น การใช้ยาแต้มสิวที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ
• การบีบหรือกดสิว หากบีบผิดวิธีจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้นและหายนานกว่าเดิม
สิวหัวช้างพบบริเวณไหนบ่อย
สิวหัวช้างเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ ที่เกิดจากการอุดตันและการติดเชื้อในรูขุมขน มักเกิดในบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่นและผลิตน้ำมันมากเป็นพิเศษ ดังนั้นบริเวณที่สิวหัวช้างมักขึ้นบ่อยที่สุด ได้แก่
1.สิวหัวช้างพบบ่อยที่บริเวณใบหน้า
• สิวหัวช้างที่คางและกราม มักเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน โดยเฉพาะช่วงมีประจำเดือน
• สิวหัวช้างที่หน้าผาก เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนและความมันส่วนเกิน
• สิวหัวช้างที่แก้ม มักเกิดจากการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ หรือปลอกหมอนที่ไม่สะอาด
2.สิวหัวช้างพบบ่อยที่บริเวณแผ่นหลัง
• บริเวณหลังเป็นจุดที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่และรูขุมขนหนาแน่น
• มักเกิดจากเหงื่อ ความชื้น หรือเสื้อผ้าที่ระบายอากาศไม่ดี
3.สิวหัวช้างพบบ่อยที่บริเวณหน้าอก
• มักเกิดจากฮอร์โมน ความร้อน หรือเสื้อผ้าที่รัดแน่น
• อาจเกิดจากการใช้ครีมบำรุงผิวหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอุดตันรูขุมขน
4.สิวหัวช้างพบบ่อยที่บริเวณคอ
• สิวหัวช้างบริเวณคอ มักเกี่ยวข้องกับความเครียดและฮอร์โมน
• อาจเกิดจากการเสียดสีกับปกเสื้อหรือเครื่องประดับ
5.สิวหัวช้างพบบ่อยที่บริเวณไรผมและหนังศีรษะ
เกิดจากการสะสมของน้ำมัน เหงื่อ และการใช้ผลิตภัณฑ์ผมที่อุดตันรูขุมขน
6.สิวหัวช้างพบบ่อยที่บริเวณไหล่
มักเกิดจากเหงื่อ เสื้อผ้าที่รัดแน่น หรือการเสียดสีจากกระเป๋าสะพาย
7.สิวหัวช้างพบบ่อยที่บริเวณก้น
• แม้จะดูเหมือนสิว แต่บางครั้งเป็น Folliculitis (การอักเสบของรูขุมขน)
• เกิดจากความอับชื้นหรือการนั่งนาน ๆ
วิธีรักษาสิวหัวช้าง มีอะไรบ้าง
สิวหัวช้างเป็นสิวอักเสบรุนแรงที่เกิดลึกใต้ผิวหนัง หากไม่รักษาอย่างถูกต้อง อาจทิ้งรอยแผลเป็น หลุมสิว หรือรอยดำ ได้ การรักษาสิวหัวช้างควรทำอย่างถูกวิธี มีคำแนะนำดังนี้
1.การรักษาสิวหัวช้างด้วยตัวเอง
ประคบร้อน
• วิธีทำใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น (ไม่ร้อนเกินไป) แล้วประคบบริเวณสิว วันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 10-15 นาที
• ช่วยกระตุ้นการไหลเวียน ลดอาการบวม และช่วยให้หนองระบายออกเองตามธรรมชาติ
ยาแต้มสิว
• Benzoyl Peroxide ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ
• Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของรูขุมขน
• Retinoid ช่วยลดการอุดตันและป้องกันการเกิดสิวใหม่
• แผ่นแปะสิว ช่วยดูดซับหนองและลดการอักเสบของสิวหัวช้าง
การดูแลผิวอย่างเหมาะสม
• ล้างหน้า วันละ 2 ครั้ง ด้วยโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
• งดบีบสิว เพราะจะทำให้เชื้อแพร่กระจายและเสี่ยงเกิดหลุมสิว
• ทาครีมกันแดด ใช้ครีมกันแดดที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic)
2.การรักษาสิวหัวช้างด้วยวิธีทางการแพทย์
การฉีดสเตียรอยด์เฉพาะจุด
• ทำให้สิวยุบภายใน 24-48 ชั่วโมง โดยเฉพาะสิวหัวช้างที่ใหญ่และเจ็บมาก
• ทำโดยแพทย์ผิวหนังเท่านั้น
ยาปฏิชีวนะ
• ใช้ยารักษาสิวแบบรับประทาน (Doxycycline, Minocycline) หรือแบบทา (Clindamycin)
• ช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวหัวช้าง
ยา Isotretinoin
• เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวหัวช้างเรื้อรังและรุนแรง
• ลดการผลิตน้ำมันในผิว ป้องกันการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวหัวช้าง
• ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะมีผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง และต้องงดการตั้งครรภ์ระหว่างใช้ยา
แนะนำนวัตกรรมรักษาสิวที่ Romrawin Clinic
1.เลเซอร์รักษาสิว AviClear
AviClear เป็นนวัตกรรมการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการรักษาสิวระดับเล็กน้อยถึงรุนแรง โดยใช้เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1726 นาโนเมตร เพื่อกำหนดเป้าหมายและยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งความมันส่วนเกินเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว
หลักการทำงานของ AviClear
• กำหนดเป้าหมายที่ต่อมไขมัน เลเซอร์จะเจาะลึกถึงต่อมไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อยับยั้งการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
• ลดการอุดตันของรูขุมขน เมื่อการผลิตน้ำมันลดลง ความเสี่ยงในการอุดตันของรูขุมขนและการเกิดสิวใหม่จะลดลงด้วย
ข้อดีของการรักษาด้วย AviClear
• ไม่ต้องใช้ยา เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้ยารักษาสิว หรือมีผลข้างเคียงจากการใช้ยา
• ระยะเวลาการรักษาสั้น การรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 30 นาที และมักต้องการการรักษาเพียง 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4-6 สัปดาห์
• ผลข้างเคียงน้อย ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีหลังการรักษา โดยไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
หลังจากการรักษาครบ 3 ครั้ง ผู้ป่วยมักจะเห็นการลดลงของสิวอย่างชัดเจน และผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายเดือนหลังการรักษา
2.เลเซอร์รักษา Accure Laser
Accure Laser เป็นนวัตกรรมการรักษาสิวที่ใช้เลเซอร์ความยาวคลื่น 1726 นาโนเมตร เพื่อกำหนดเป้าหมายและลดการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว ระบบนี้ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการรักษาสิวอักเสบตั้งแต่ระดับเล็กน้อยถึงรุนแรง
หลักการทำงานของ Accure Laser
• ความยาวคลื่นเฉพาะ เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1726 นาโนเมตร ถูกเลือกใช้เนื่องจากมีความสามารถในการเจาะลึกถึงต่อมไขมันใต้ผิวหนัง
• เทคโนโลยี Treat-to-Temperature ระบบจะควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำเพื่อให้เกิดความร้อนที่เหมาะสมในการลดการทำงานของต่อมไขมัน โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
ข้อดีของการรักษาสิวด้วย Accure Laser
• ลดการผลิตน้ำมัน ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการอุดตันรูขุมขน
• ผลข้างเคียงน้อย ไม่มีผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับยารักษาสิว เช่น ผิวแห้งหรือระคายเคือง
• ไม่ต้องพักฟื้น ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีหลังการรักษา
กระบวนการรักษา
• จำนวนครั้ง แนะนำให้ทำการรักษา 4 ครั้ง ห่างกันครั้งละประมาณ 1 เดือน
• ระยะเวลา แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่รักษา
• ความรู้สึกระหว่างการรักษา ผู้ป่วยอาจรู้สึกอุ่นหรือรู้สึกเหมือนถูกดีดเบา ๆ แต่ระบบระบายความร้อนของเครื่องจะช่วยลดความไม่สบายนี้
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
หลังจากการรักษาครบ 4 ครั้ง ผู้ป่วยมักจะเห็นการลดลงของสิวอย่างชัดเจน โดยมีการลดจำนวนสิวอักเสบเฉลี่ยประมาณ 70% ภายใน 6 เดือนหลังการรักษา
3.เลเซอร์รักษาสิว Fractional Laser
Fractional Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาปัญหาผิวได้หลากหลาย เช่น ปัญหาสิว รอยแผลเป็นจากสิว และหลุมสิว โดยการปล่อยลำแสงเลเซอร์ขนาดเล็กลงสู่ผิวหนังเป็นจุดเล็ก ๆ นับพันจุดต่อตารางเซนติเมตร เพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และคอลลาเจน
หลักการทำงานของ Fractional Laser
• การปล่อยลำแสงเลเซอร์ ลำแสงเลเซอร์จะถูกปล่อยลงสู่ผิวหนังเป็นจุดเล็ก ๆ ทำให้เกิดการทำลายเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
• การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ความร้อนจากเลเซอร์จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนและลดรอยแผลเป็น
ประโยชน์ของการรักษาสิวด้วย Fractional Laser
• ลดรอยแผลเป็นจากสิว ช่วยให้รอยแผลเป็นและหลุมสิวตื้นขึ้น
• ปรับปรุงพื้นผิวผิวหนัง ทำให้ผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น
• กระชับรูขุมขน ช่วยลดขนาดรูขุมขนและปรับสภาพผิว
ข้อควรพิจารณา
• ระยะเวลาพักฟื้น หลังการรักษา ผิวอาจมีรอยแดงและสะเก็ดเล็ก ๆ ซึ่งจะหายไปใน 5-7 วัน
• จำนวนครั้งในการรักษา มักต้องทำการรักษา 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 4-6 สัปดาห์ระหว่างแต่ละครั้ง
• การดูแลหลังการรักษา ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
4.โปรแกรมรักษาสิว AC Clear
โปรแกรมรักษาสิว AC Clear ที่ รมย์รวินท์คลินิก เป็นโปรแกรมการรักษาสิวที่ออกแบบมา เพื่อจัดการกับปัญหาสิวอย่างครอบคลุม โดยมีขั้นตอนการรักษาที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาสิวของแต่ละบุคคล
ขั้นตอนการรักษาในโปรแกรม AC Clear
1.การกดสิว แพทย์จะทำการกดสิวด้วยเทคนิคเฉพาะ เพื่อลดปริมาณการอักเสบและอุดตันของสิว
2.การฉีดสิว สำหรับสิวที่เริ่มอักเสบ แพทย์จะฉีดยาเพื่อลดการอักเสบและอาการบวมแดงของสิว
3.การทำทรีตเมนต์ ใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะในการลดเชื้อสิวและฆ่าเชื้อสิวที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้า เพื่อลดโอกาสการเกิดสิวใหม่
4.การมาส์กหน้า ขั้นตอนการปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน เพื่อฟื้นฟูผิวที่บอบบางจากการเกิดสิวให้กลับมาแข็งแรง
โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ และสิวหัวช้างไม่มีหัว หลังการรักษา ผู้เข้ารับบริการมักรู้สึกว่าผิวหน้าดีขึ้น สิวลดลง และผิวแข็งแรงขึ้น
หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก เพื่อรับคำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ
*ผลลัพธ์การรักษาอาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
วิธีป้องกันสิวหัวช้าง ไม่ให้เกิดซ้ำซาก
สิวหัวช้างเป็นสิวอักเสบรุนแรงที่เกิดใต้ผิวหนัง หากป้องกันอย่างถูกวิธี จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวและหลีกเลี่ยงรอยแผลเป็นหรือหลุมสิวได้ ขอแนะนำวิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวช้างอีก ดังนี้
1.ป้องกันสิวหัวช้างด้วยการดูแลผิวอย่างถูกวิธี
• ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิว
• เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) ทั้งโฟมล้างหน้า ครีมบำรุง และครีมกันแดด
• ใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid เพื่อช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวหัวช้าง
• บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรบางเบา เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งจนกระตุ้นการผลิตน้ำมันมากเกินไป
• ทาครีมกันแดดทุกวัน เลือกสูตรที่ไม่อุดตันรูขุมขนและเหมาะสำหรับผิวเป็นสิวง่าย
2.ป้องกันสิวหัวช้างด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กระตุ้นการเกิดสิว
• ห้ามบีบ แกะ หรือกดสิว เพราะจะทำให้สิวหัวช้างอักเสบรุนแรงขึ้นและเสี่ยงเป็นหลุมสิว
• หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งและผลิตน้ำมันมากขึ้น
• งดใช้เครื่องสำอางที่มีน้ำมัน โดยเฉพาะรองพื้นหรือครีมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
• ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือปลอกหมอนซ้ำ ๆ ควรซักปลอกหมอนและผ้าขนหนูเป็นประจำ
3.ป้องกันสิวหัวช้างด้วยการดูแลสุขภาพจากภายใน
• กินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ และอาหารที่มีโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ถั่ว และอะโวคาโด
• หลีกเลี่ยงของทอด น้ำตาลสูง และผลิตภัณฑ์นม เพราะกระตุ้นการอักเสบและเกิดสิวหัวช้างได้
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ลดโอกาสเสี่ยงเกิดสิวหัวช้าง
• พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด เพราะความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุลและเกิดสิวหัวช้าง
4.ป้องกันสิวหัวช้างด้วยการใช้ยาป้องกันสิวเฉพาะจุด (ถ้าจำเป็น)
• ทายาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide หรือ Salicylic Acid เพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่
• ใช้เรตินอยด์ (Retinoid) เช่น Adapalene ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน
• หากเป็นสิวที่เกิดจากฮอร์โมน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ เกี่ยวกับยาคุมกำเนิดชนิดที่ช่วยลดสิวอักเสบ สิวหัวช้าง
5.ป้องกันสิวหัวช้างด้วยการพบแพทย์ผิวหนัง
• หากลองวิธีป้องกันทั้งหมดแล้ว ยังมีสิวหัวช้างขึ้นซ้ำซากหรือรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการรักษาที่เหมาะสม เช่น
- เลเซอร์รักษาสิว ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบของสิวหัวช้าง
- การฉีดสเตียรอยด์เฉพาะจุด ทำให้สิวหัวช้างยุบเร็วขึ้น
- การรับประทานยา Isotretinoin สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวหัวช้างเรื้อรังและรุนแรง
สรุปเกี่ยวกับสิวหัวช้าง
สรุปว่า สิวหัวช้างเป็นปัญหาผิวที่อักเสบรุนแรง หากไม่ดูแลอย่างถูกต้อง อาจทิ้งรอยแผลเป็นและหลุมสิว การเกิดสิวมาจากหลายปัจจัย เช่น การอุดตันของรูขุมขน การติดเชื้อแบคทีเรีย และความไม่สมดุลของฮอร์โมน
การรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้ยา การทำเลเซอร์ และการดูแลผิวที่ถูกวิธี จะช่วยให้สิวหัวช้างหรือสิวอักเสบยุบเร็วขึ้นและลดโอกาสเกิดซ้ำ นอกจากนี้ การดูแลสุขภาพผิวอย่างสม่ำเสมอและการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต จะช่วยป้องกันสิวหัวช้างในระยะยาว หากปัญหาสิวหัวช้างรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่ตรงจุดและปลอดภัย
สำหรับผู้ที่สนใจรักษาสิวหัวช้าง สิวอักเสบ ปัญหาสิวและผิวหน้า สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ นัดหมายปรึกษาแพทย์ ได้ที่ Romrawin Clinic
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด