13 วิธีลดไขมันในร่างกาย ผู้ชาย ผู้หญิง หุ่นฟิตกระชับได้อย่างไร มีข้อดีข้อเสีย
วิธีลดไขมันในร่างกาย
13 วิธีลดไขมันในร่างกาย ผู้ชาย ผู้หญิง หุ่นฟิตกระชับ
การมีไขมันในร่างกายเป็นเรื่องปกติและจำเป็นต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย แต่หากมีไขมันสะสมมากเกินไป อาจส่งผลต่อสุขภาพและรูปร่าง โดยเฉพาะไขมันที่สะสมในช่องท้องและรอบอวัยวะภายใน ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง
วิธีลดไขมันในร่างกายสามารถทำได้หลากหลายแบบ เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการทำวิธีลดไขมันในร่างกายด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ ซึ่งวิธีลดไขมันในร่างกายที่เลือกควรขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย เป้าหมาย และความสะดวกของแต่ละบุคคล
บทความนี้จะกล่าวถึงวิธีลดไขมันในร่างกายสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยครอบคลุมทั้งวิธีลดไขมันในร่างกายแบบธรรมชาติ และวิธีลดไขมันในร่างกายด้วยหัตถการทางการแพทย์ ที่สามารถช่วยให้การลดไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไขมันในร่างกายคืออะไร
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักว่าไขมันในร่างกายคืออะไร เพื่อทำตามวิธีลดไขมันในร่างกายได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
ไขมันในร่างกาย (Body Fat) เป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกายที่มีบทบาททั้งในด้านการให้พลังงาน การปกป้องอวัยวะ และการรักษาสมดุลของร่างกาย ไขมันไม่ได้เป็นเพียงศัตรูต่อสุขภาพเสมอไป แต่จำเป็นต่อกระบวนการทำงานของร่างกายหลายอย่าง
ประเภทของไขมันในร่างกาย
ไขมันในร่างกายแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามหน้าที่ ได้แก่
1.ไขมันจำเป็น (Essential Fat)
• เป็นไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายในการรักษาการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เช่น สมอง ระบบฮอร์โมน และการควบคุมอุณหภูมิ
• ผู้ชายควรมีไขมันจำเป็นประมาณ 2-5% ของร่างกาย
• ผู้หญิงควรมีไขมันจำเป็นประมาณ 10-13% ของร่างกาย
2.ไขมันสะสม (Storage Fat)
• เป็นไขมันที่ร่างกายเก็บไว้เพื่อใช้เป็นพลังงานสำรอง
• แบ่งออกเป็น
- ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง สามารถจับและบีบได้ เช่น ไขมันที่หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา
- ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ไขมันที่สะสมรอบอวัยวะภายใน เช่น ตับ หัวใจ ลำไส้ ซึ่งไขมันชนิดนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าประเภทอื่น
ประโยชน์ของไขมันในร่างกาย
การทำตามวิธีลดไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรรู้ว่าไขมันในร่างกายไม่ได้มีแต่ข้อเสียเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีประโยชน์สำคัญหลายประการ ที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างสมดุลและมีสุขภาพดี ได้แก่
1.ไขมันในร่างกายเป็นแหล่งพลังงานสำรองของร่างกาย
• ไขมันเป็นแหล่งพลังงานที่มีความหนาแน่นสูง โดย 1 กรัมของไขมันให้พลังงาน 9 แคลอรี
• เมื่อร่างกายขาดพลังงานจากอาหาร เช่น ในช่วงอดอาหารหรือออกกำลังกายหนัก ร่างกายจะเผาผลาญไขมันเพื่อให้พลังงาน
2.ไขมันในร่างกายช่วยดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน
• วิตามินบางชนิดละลายในไขมันเท่านั้น ได้แก่
- วิตามิน A ช่วยในการมองเห็นและระบบภูมิคุ้มกัน
- วิตามิน D ช่วยให้กระดูกแข็งแรง
- วิตามิน E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์
- วิตามิน K ช่วยในกระบวนการแข็งตัวของเลือด
• ไขมันช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ไขมันในร่างกายปกป้องอวัยวะภายในจากแรงกระแทก
• ไขมันช่วยเป็นเกราะป้องกันทางกายภาพรอบอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ตับ ไต ปอด
• ลดแรงกระแทกจากอุบัติเหตุหรือแรงกดทับที่อาจเป็นอันตรายต่ออวัยวะภายใน
4.ไขมันในร่างกายช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
• ไขมันช่วยเป็นฉนวนกันความร้อน ป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียความร้อนเร็วเกินไป
• โดยเฉพาะในสภาพอากาศหนาวเย็น ไขมันใต้ผิวหนังช่วยให้ร่างกายรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับปกติ
5.ไขมันในร่างกายเป็นองค์ประกอบสำคัญของเซลล์และฮอร์โมน
• ไขมันเป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ในร่างกาย
• มีบทบาทในการผลิตฮอร์โมนสำคัญ เช่น
- เอสโตรเจน (Estrogen) และ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์
- คอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งช่วยควบคุมความเครียด
- ไทรอยด์ฮอร์โมน (Thyroid Hormones) ที่ช่วยควบคุมระบบเผาผลาญ
6.ไขมันในร่างกายช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้นและสุขภาพดี
• ไขมันช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเซลล์ผิวหนังและเส้นผม
• ป้องกันไม่ให้ผิวแห้งแตก และช่วยให้เส้นผมแข็งแรง
7.ไขมันในร่างกายช่วยพัฒนาสมองและระบบประสาท
• 60% ของสมองประกอบด้วยไขมัน โดยเฉพาะไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6
• ไขมันมีบทบาทสำคัญในการส่งสัญญาณประสาท และช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8.ไขมันในร่างกายช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
• ไขมันช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น เพราะ
- ใช้เวลาย่อยนานกว่าคาร์โบไฮเดรต
- ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนความหิว เช่น เกรลิน (Ghrelin) และ เลปติน (Leptin)
• ลดความอยากอาหารและช่วยควบคุมน้ำหนักในระยะยาว
9.ไขมันในร่างกายมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมร่างกาย
• ไขมันช่วยในการซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อที่เสียหาย
• โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายหรือบาดเจ็บ ไขมันช่วยลดการอักเสบและเร่งการฟื้นตัว
10.ไขมันในร่างกายช่วยลดความเสี่ยงของโรคบางชนิด
ไขมันดี เช่น โอเมก้า-3 ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะอักเสบเรื้อรัง ภาวะสมองเสื่อม
สาเหตุที่ทำให้มีไขมันมากเกินไป
แน่นอนว่าก่อนที่จะทำวิธีลดไขมันในร่างกาย ต้องรู้สาเหตุของไขมันส่วนเกิน โดยไขมันในร่างกายที่มากเกินไปเกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหาร และปัจจัยทางสุขภาพ หากปล่อยไว้โดยไม่ควบคุม อาจนำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกิน โรคอ้วน และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ต่อไปนี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายสะสมไขมันมากเกินไป
1.การรับประทานอาหารเกินความจำเป็น
• การกินอาหารที่ให้พลังงานสูงเกินไป โดยเฉพาะ อาหารแปรรูป ฟาสต์ฟู้ด ขนมหวาน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ทำให้ร่างกายได้รับแคลอรีมากกว่าที่เผาผลาญได้
• เมื่อพลังงานที่ได้รับมากกว่าพลังงานที่ใช้ไป ร่างกายจะเก็บพลังงานส่วนเกินในรูปของไขมัน
• อาหารที่ทำให้เกิดไขมันสะสมได้ง่าย ได้แก่
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ชาไข่มุก ขนมเค้ก
- อาหารไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวสูง เช่น อาหารทอด เบเกอรี่ เนื้อแปรรูป
- อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตขัดสีสูง เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว
2.ขาดการออกกำลังกาย
• การใช้ชีวิตแบบนั่งอยู่กับที่ เช่น นั่งทำงานทั้งวัน ดูทีวีเป็นเวลานาน หรือใช้รถแทนการเดิน ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานน้อยลง
• เมื่อไม่มีการออกกำลังกาย ไขมันจะสะสมมากขึ้น โดยเฉพาะ ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งเสี่ยงต่อโรคหัวใจและเบาหวาน
• การเผาผลาญพลังงานจากกิจกรรมประจำวัน เช่น เดินขึ้นบันได เดินไปทำงาน หรือทำงานบ้าน มีส่วนช่วยลดไขมันได้
3.การนอนหลับไม่เพียงพอ
• การนอนน้อยกว่า 6-7 ชั่วโมงต่อคืน อาจส่งผลต่อระบบเผาผลาญและทำให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น
• ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิวและความอิ่ม ได้แก่
- เกรลิน (Ghrelin) เพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกหิวบ่อย
- เลปติน (Leptin) ลดลง ทำให้ไม่รู้สึกอิ่ม
• การนอนไม่พอส่งผลให้มีความอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
4.ความเครียดสูงและฮอร์โมนผิดปกติ
• ความเครียดเรื้อรังทำให้ร่างกายหลั่ง ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายสะสมไขมัน โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าท้อง
• ฮอร์โมนบางชนิดที่ผิดปกติ เช่น ไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ (Hypothyroidism) หรือ ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง และส่งผลให้เกิดไขมันสะสม
5.พันธุกรรมและกรรมพันธุ์
• บางคนมีพันธุกรรมที่ทำให้เผาผลาญพลังงานได้น้อย หรือมีแนวโน้มสะสมไขมันได้ง่ายกว่าคนอื่น
• ลักษณะการกระจายของไขมัน เช่น ไขมันสะสมที่หน้าท้องหรือต้นขา อาจได้รับอิทธิพลจากพันธุกรรม
• อย่างไรก็ตาม พันธุกรรมเป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง หากควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ไขมันก็สามารถลดลงได้
6.การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือแอลกอฮอล์สูง
• เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก กาแฟเย็น มีแคลอรีสูงแต่ไม่ช่วยให้อิ่ม ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานส่วนเกิน
• แอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ เหล้า ไวน์ มีแคลอรีสูง และยังทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันช้าลง
7.การกินอาหารเร็วเกินไปและไม่มีการควบคุมมื้ออาหาร
• การกินเร็วเกินไปทำให้ร่างกายไม่มีเวลาส่งสัญญาณความอิ่ม ส่งผลให้กินมากกว่าที่จำเป็น
• การกินแบบไม่ใส่ใจ เช่น กินขณะดูทีวี ทำงาน หรือเล่นโทรศัพท์ ทำให้กินเพลินจนได้รับพลังงานเกินความจำเป็น
• การกินอาหารตอนดึก อาจทำให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น เนื่องจากระบบเผาผลาญช้าลงตอนกลางคืน
8.ระบบเผาผลาญทำงานช้าลงตามอายุ
• เมื่ออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญ (Metabolism) จะทำงานช้าลง ทำให้ร่างกายสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น
• มวลกล้ามเนื้อลดลงตามอายุ ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานน้อยลง
9.การรับประทานยาบางชนิด
• ยาบางประเภททำให้ร่างกายสะสมไขมันง่ายขึ้น เช่น ยาสเตียรอยด์ ยากล่อมประสาท ยารักษาโรคเบาหวานบางชนิด
• โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ต่ำ โรคเบาหวาน หรือ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ยากขึ้น
วิธีลดไขมันในร่างกาย ผู้ชาย ผู้หญิง มีอะไรบ้าง
วิธีลดไขมันในร่างกายเป็นเป้าหมายสำคัญของหลายคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เพราะการสะสมไขมันที่มากเกินไปไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรูปร่าง แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคไขมันพอกตับ การลดไขมันให้ได้ผลจำเป็นต้องใช้วิธีลดไขมันในร่างกาย ที่เหมาะสมกับโครงสร้างร่างกายและระบบเผาผลาญของแต่ละเพศ
โดยทั่วไป ผู้ชายมักสะสมไขมันบริเวณหน้าท้องและเอว เนื่องจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในการกำหนดการกระจายของไขมัน ส่วนผู้หญิงมักสะสมไขมันบริเวณสะโพก ต้นขา ต้นแขน และหน้าท้อง เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนมีบทบาทในการเก็บพลังงานเป็นไขมัน เพื่อรองรับกระบวนการสืบพันธุ์
ถึงแม้ว่ารูปแบบการสะสมไขมันจะต่างกัน แต่วิธีลดไขมันในร่างกายสามารถใช้หลักการเดียวกันได้ โดยเน้นที่การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อให้เกิดการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
1.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการควบคุมแคลอรีให้เหมาะสม
หลักการของการลดไขมันคือการสร้างภาวะขาดแคลอรี (Caloric Deficit) ซึ่งหมายถึงการที่ร่างกายใช้พลังงานมากกว่าที่ได้รับ เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะนี้ มันจะดึงพลังงานจากไขมันสะสมมาใช้ ส่งผลให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดลง
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการคำนวณ TDEE (Total Daily Energy Expenditure) เพื่อหาปริมาณแคลอรีที่ใช้ต่อวัน
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการลดแคลอรีลงประมาณ 300-500 แคลอรีต่อวัน เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันโดยไม่สูญเสียกล้ามเนื้อ
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการหลีกเลี่ยงการลดแคลอรีมากเกินไป เพราะอาจทำให้ระบบเผาผลาญช้าลงและส่งผลต่อมวลกล้ามเนื้อ
แคลอรีที่แนะนำสำหรับแต่ละเพศ
• ผู้ชาย ควรบริโภคประมาณ 1,800-2,500 แคลอรีต่อวัน ขึ้นอยู่กับกิจกรรมในแต่ละวัน
• ผู้หญิง ควรบริโภคประมาณ 1,500-2,000 แคลอรีต่อวัน
แนวทางการลดแคลอรี
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการลดปริมาณอาหารที่ให้พลังงานสูงแต่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น อาหารทอด ขนมหวาน และน้ำอัดลม
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินอาหารที่ให้พลังงานต่ำแต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ผัก ธัญพืช และโปรตีนคุณภาพดี
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการใช้จานขนาดเล็กขึ้นเพื่อลดปริมาณอาหารที่บริโภคแต่ละครั้ง
2.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการเพิ่มโปรตีนในอาหาร
โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับการลดไขมัน เพราะช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ เพิ่มอัตราการเผาผลาญ และช่วยให้อิ่มนานขึ้น
• ผู้ชาย ควรบริโภคโปรตีนประมาณ 1.5-2.0 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
• ผู้หญิง ควรบริโภคโปรตีนประมาณ 1.2-1.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น อกไก่ เนื้อปลา ไข่
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินผลิตภัณฑ์จากนม เช่น กรีกโยเกิร์ต ชีส
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินถั่วและธัญพืช เช่น อัลมอนด์ เมล็ดเจีย ถั่วเหลือง
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินโปรตีนจากพืช เช่น เต้าหู้ เทมเป้
การกินโปรตีนที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายไม่สูญเสียกล้ามเนื้อขณะลดไขมัน และช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการลดน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสี
น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายสะสมไขมัน โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง ควรทำตามวิธีลดไขมันในร่างกายดังนี้
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ขนมปังขาว
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนแทน เช่น ข้าวกล้อง มันหวาน ควินัว ขนมปังโฮลวีต
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการเพิ่มปริมาณใยอาหารจากผักและผลไม้ เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
4.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินไขมันดีเพื่อช่วยลดไขมันสะสม
วิธีลดไขมันในร่างกายไม่ได้หมายความว่าต้องหลีกเลี่ยงไขมันทั้งหมด เพราะไขมันดีมีบทบาทในการควบคุมระดับฮอร์โมน และช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินอะโวคาโด
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินน้ำมันมะกอก
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินน้ำมันมะพร้าว
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินถั่วและเมล็ดพืช เช่น อัลมอนด์ วอลนัท
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการกินปลาไขมันสูง เช่น แซลมอน ทูน่า
ไขมันดีช่วยลดความอยากอาหารและทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้มีประสิทธิภาพขึ้น
5.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอ
วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการเวทเทรนนิ่ง (Training)
• การสร้างกล้ามเนื้อช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญและทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันมากขึ้น
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการเน้นท่าออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อหลายส่วน เช่น Squats, Deadlifts, Push-ups, Rows
วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการคาร์ดิโอ (Cardio)
วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการคาร์ดิโอ ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน ควรทำคาร์ดิโออย่างน้อย 150-300 นาทีต่อสัปดาห์
6.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อคืน เพราะการนอนไม่พออาจทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการลดความเครียด โดยฝึกการทำสมาธิหรือโยคะ เพราะฮอร์โมนคอร์ติซอลที่สูงขึ้นทำให้ร่างกายสะสมไขมัน
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 2-3 ลิตร เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมัน
วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยหัตถการมีอะไรบ้าง
วิธีลดไขมันในร่างกายไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันมีหัตถการทางการแพทย์ ที่สามารถช่วยกำจัดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นเป็นเวลานาน เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมที่ลดได้ยาก แม้จะออกกำลังกายและควบคุมอาหารอย่างดีแล้ว
วิธีลดไขมันในร่างกายด้วยหัตถการที่ได้รับความนิยมหลายวิธี โดยแต่ละวิธีลดไขมันในร่างกายมีเทคโนโลยีและกระบวนการทำงานที่แตกต่างกัน บางวิธีช่วยลดไขมันโดยตรง ในขณะที่บางวิธีช่วยกระชับผิว ลดเซลลูไลท์ หรือเพิ่มกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกวิธีลดไขมันในร่างกายด้วยหัตถการ ที่เหมาะสมกับเป้าหมายของตัวเอง
1.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย CoolSculpting
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย CoolSculpting
Coolsculpting ใช้เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น Cryolipolysis หรือการแช่แข็งไขมันให้ตายแบบถาวรโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง หัวเครื่องจะปล่อยความเย็น อุณหภูมิ -9 ถึง -11 องศาเซลเซียส ไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัว (Apoptosis) และถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลืองตามธรรมชาติ
ผลลัพธ์ที่ได้ของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย CoolSculpting
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย CoolSculpting ลดไขมันสะสมได้ 20-25% ต่อบริเวณ ที่ทำ
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย CoolSculpting เหมาะกับไขมันเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขา สะโพก แผ่นหลัง
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย CoolSculpting เห็นผลลัพธ์ใน 4-6 สัปดาห์ และชัดเจนขึ้นใน 3 เดือน
ข้อดีของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย CoolSculpting
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย CoolSculpting ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย CoolSculpting สามารถทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย CoolSculpting ช่วยให้ไขมันที่ถูกทำลายแล้วจะไม่กลับมาอีก
2.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Morpheus Pro
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Morpheus Pro
Morpheus Pro ใช้เทคโนโลยี คลื่นวิทยุ (RF) ร่วมกับ Microneedling ส่งพลังงานลงไปที่ ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยกระตุ้นให้เซลล์ไขมันหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ไขมันลดลงและผิวเรียบเนียนขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้ของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Morpheus Pro
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Morpheus Pro ลดไขมันใต้ผิวหนัง และช่วยให้ผิวกระชับขึ้น
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Morpheus Pro ลดเซลลูไลท์ ปรับผิวให้เรียบเนียน
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Morpheus Pro ใช้ได้กับหลายบริเวณ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก
ข้อดีของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Morpheus Pro
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Morpheus Pro กระชับผิวและลดไขมันไปพร้อมกัน
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Morpheus Pro ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ลดริ้วรอย
3.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Emsculpt
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Emsculpt
Emsculpt ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า High-Intensity Focused Electromagnetic (HIFEM) กระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัวในระดับลึก ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ โดยเทียบเท่ากับการออกกำลังกาย 20,000 ครั้งภายใน 30 นาที
ผลลัพธ์ที่ได้ของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Emsculpt
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Emsculpt ลดไขมันได้ 19% และเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ 16% ภายใน 4 ครั้ง
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Emsculpt กระชับกล้ามเนื้อบริเวณ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และสะโพก
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Emsculpt เห็นผลลัพธ์ใน 2-4 สัปดาห์
ข้อดีของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Emsculpt
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Emsculpt ลดไขมันพร้อมเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Emsculpt ไม่ต้องออกกำลังกายหนักก็สามารถมีรูปร่างที่กระชับขึ้นได้
4.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body
Oligio Body ใช้เทคโนโลยี Monopolar Radio Frequency (RF) ซึ่งปล่อยพลังงานความร้อนผ่านหัวเครื่องลงไปถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ไขมันเกิดการเผาผลาญและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
ผลลัพธ์ที่ได้ของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body ลดไขมันใต้ผิวหนัง โดยช่วยเร่งการเผาผลาญของเซลล์ไขมัน
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body กระชับผิวและทำให้ดูเรียบเนียนขึ้น
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body ลดปัญหาเซลลูไลต์ และผิวเปลือกส้ม
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body เหมาะสำหรับ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และสะโพก
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body เห็นผลทันทีหลังทำครั้งแรก และดีขึ้นเรื่อย ๆ ใน 2-3 เดือน
ข้อดีของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body ลดไขมันและกระชับผิวในขั้นตอนเดียว
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Oligio Body เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยหลังลดน้ำหนัก
5.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body
หลักการทำงานวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body
Thermage Body ใช้คลื่นวิทยุ Monopolar RF (Radio Frequency) ที่มีความเข้มข้นสูง ปล่อยพลังงานความร้อนลงลึกไปยัง ชั้นไขมันและชั้นหนังแท้ ทำให้ไขมันเกิดการเผาผลาญ และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระดับลึก
ผลลัพธ์ที่ได้ของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body ลดไขมันใต้ผิวหนังโดยเฉพาะบริเวณ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และสะโพก
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body กระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body ลดริ้วรอย และช่วยให้ผิวดูเนียนขึ้น
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี หากดูแลร่างกายดี
ข้อดีของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body ทำเพียงครั้งเดียวก็เห็นผล ไม่ต้องทำซ้ำบ่อย
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body ช่วยลดเซลลูไลต์และริ้วรอย
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Thermage Body ไม่มีแผล ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง
6.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body
Indiba Body ใช้เทคโนโลยี Proionic Radio Frequency (RF) ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่ช่วย เพิ่มการไหลเวียนโลหิต กระตุ้นระบบน้ำเหลือง และช่วยเผาผลาญไขมันใต้ผิวหนัง โดยช่วยให้เซลล์ไขมันแตกตัวและขับออกจากร่างกาย
ผลลัพธ์ที่ได้ของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body กระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body ช่วยกระชับผิวและลดอาการบวมน้ำ
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body ลดเซลลูไลต์ และทำให้ผิวเรียบเนียน
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน
ข้อดีของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body ไม่มีผลข้างเคียง ไม่ต้องพักฟื้น
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body ลดไขมันและบวมน้ำไปพร้อมกัน
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Indiba Body ช่วยฟื้นฟูผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
7.วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite
หลักการทำงานของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite
Exilis Elite ใช้คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) และ Ultrasound ผสมผสานกันเพื่อช่วยเผาผลาญไขมันและกระชับผิวในขั้นตอนเดียว คลื่นพลังงานช่วยให้ไขมันแตกตัว และทำให้ร่างกายกำจัดออกได้ง่ายขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้ของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite ลดไขมันใต้ผิวหนัง และช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite กระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite ลดเซลลูไลท์ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite สามารถใช้ได้กับหลายส่วนของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก
ข้อดีของวิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite ใช้ได้กับหลายส่วนของร่างกาย
• วิธีลดไขมันในร่างกายด้วย Exilis Elite ช่วยลดไขมันและกระชับผิวในเวลาเดียวกัน
ข้อดีของการลดไขมันในร่างกาย
การลดไขมันในร่างกายไม่ได้มีแค่เรื่องของรูปร่างที่ดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม การมีระดับไขมันในร่างกายที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เพิ่มพลังงาน และทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้คือ ข้อดีของการลดไขมันในร่างกาย ที่เห็นได้ชัดเจนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
1.ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
• ไขมันที่มากเกินไป โดยเฉพาะ ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ทำให้เสี่ยงต่อ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดอุดตัน และความดันโลหิตสูง
• การลดไขมันช่วยลดระดับ คอเลสเตอรอล LDL (ไขมันไม่ดี) และเพิ่ม คอเลสเตอรอล HDL (ไขมันดี)
• ลดการสะสมของ ไขมันในเส้นเลือด ซึ่งช่วยป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว
2.ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2
• ไขมันสะสมที่มากเกินไปทำให้ร่างกายเกิด ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
• การลดไขมันช่วยให้ ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น ลดโอกาสเกิดโรคเบาหวาน
3.ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น
• ไขมันที่มากเกินไปทำให้ อัตราการเผาผลาญพลังงาน (Metabolism) ลดลง
• เมื่อไขมันลดลง ร่างกายจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น ทำให้ ควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
4.ลดอาการอักเสบในร่างกาย
• ไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะ ไขมันในช่องท้อง กระตุ้นให้ร่างกายเกิดการอักเสบเรื้อรัง
• การลดไขมันช่วยลดการอักเสบ ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
5.ช่วยให้การทำงานของสมองดีขึ้น
• ไขมันที่มากเกินไปมีผลต่อ ระบบไหลเวียนโลหิตและการทำงานของสมอง
• การลดไขมันช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ส่งผลให้ ความจำและการตัดสินใจดีขึ้น
6.เพิ่มพลังงาน และความแข็งแรงของร่างกาย
• ไขมันที่มากเกินไปทำให้ร่างกายรู้สึก อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
• เมื่อลดไขมัน ร่างกายจะสามารถ ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้มีความกระฉับกระเฉง
7.ทำให้รูปร่างสมส่วน และกระชับขึ้น
• การลดไขมันช่วยให้ สัดส่วนดูสมดุลขึ้น
• การลดไขมันพร้อมเสริมสร้างกล้ามเนื้อช่วยให้ร่างกายดู ฟิตและแข็งแรงขึ้น
8.ช่วยให้ผิวพรรณดูดีขึ้น
• ไขมันส่วนเกินอาจทำให้ ฮอร์โมนผิดปกติ ส่งผลต่อสุขภาพผิว
• การลดไขมันช่วยให้ เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง สุขภาพดี
9.ลดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และอาการนอนกรน
• ไขมันสะสมบริเวณลำคอและทางเดินหายใจทำให้เกิด ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)
• การลดไขมันช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้น ลดอาการนอนกรน
10.ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
• ไขมันส่วนเกินมีผลต่อ ฮอร์โมนเพศ และ ฮอร์โมนความหิว
• การลดไขมันช่วยให้ ระดับฮอร์โมนสมดุลขึ้น
สรุปเกี่ยวกับวิธีลดไขมันในร่างกาย
สรุปได้ว่า การลดไขมันในร่างกายมีประโยชน์มากกว่าการทำให้รูปร่างดูดีขึ้น เพราะยังช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ และช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการทำวิธีลดไขมันในร่างกายอย่างได้ผลและปลอดภัย ควรใช้แนวทางที่เหมาะสมกับร่างกายของตนเอง เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย แต่หากต้องการลดไขมันเฉพาะจุดและเห็นผลเร็วขึ้น การใช้หัตถการทางการแพทย์ เช่น CoolSculpting, Emsculpt, Thermage Body, Indiba Body หรือ Exilis Elite ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
สำหรับผู้ที่สนใจลดไขมันด้วยนวัตกรรมทันสมัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายปรึกษาแพทย์ ได้ที่ Romrawin Clinic
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด