ฝ้ากระ ต่างกันอย่างไร รักษาอย่างไร ให้หน้ากระจ่างใสเรียบเนียน
ฝ้ากระ
ฝ้ากระ ต่างกันอย่างไร รักษาอย่างไร ให้หน้ากระจ่างใส
ปัญหาผิวพรรณอย่าง “ฝ้า” และ “กระ” เป็นเรื่องที่หลายคน โดยเฉพาะผู้หญิงต้องเผชิญ และมักสร้างความกังวลใจไม่น้อย เนื่องจากรอยสีน้ำตาลที่ปรากฏบนใบหน้าอาจส่งผลต่อความมั่นใจ และบุคลิกภาพ อย่างไรก็ตาม แม้ฝ้ากระจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่แท้จริงแล้วทั้งสองมีความแตกต่างกันหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุการเกิดฝ้ากระ ลักษณะของฝ้ากระ และวิธีดูแลรักษาฝ้ากระ การทำความเข้าใจความแตกต่างของฝ้ากระ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถเลือกแนวทางป้องกัน และรักษาได้อย่างถูกวิธี เพื่อผลลัพธ์ผิวหน้ากระจ่างใสอีกครั้ง
ฝ้ากระคืออะไร
ฝ้ากระเป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อย โดยมีลักษณะเป็นจุดหรือรอยสีน้ำตาลบนผิวหนัง มักเกิดบริเวณใบหน้า ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือ
1.ฝ้า (Melasma)
• เป็นรอยสีน้ำตาลหรือเทาอมน้ำตาล มีขนาดใหญ่ มักเกิดเป็นแถบหรือปื้น
• พบบ่อยบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เหนือริมฝีปาก
• เกิดจากฮอร์โมน แสงแดด กรรมพันธุ์ หรือการใช้ยาบางชนิด
• มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์หรือกินยาคุมกำเนิด
2.กระ (Freckles)
• เป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วใบหน้า มักเกิดตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น
• กระเข้มขึ้นเมื่อโดนแดด และจางลงในฤดูหนาว
• เกิดจากกรรมพันธุ์เป็นหลัก และกระตุ้นโดยแสงแดด
ฝ้ากระมีประเภท อะไรบ้าง
ฝ้ากระมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะต่างกันในเรื่องของสี ขนาด ความลึก และสาเหตุการเกิด การแยกประเภทของฝ้ากระ จะช่วยให้เลือกวิธีการรักษาได้เหมาะสมมากขึ้น
ประเภทของฝ้า (Melasma)
ฝ้าแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักตามความลึกของเม็ดสีในผิว
1.ฝ้าตื้น (Epidermal Melasma)
• เม็ดสีอยู่ที่ชั้นบนของผิว (หนังกำพร้า)
• มีสีน้ำตาลเข้ม ขอบชัดเจน
• รักษาได้ง่ายและตอบสนองต่อครีม หรือเลเซอร์ได้ดี
2.ฝ้าลึก (Dermal Melasma)
• เม็ดสีอยู่ลึกถึงชั้นหนังแท้
• สีออกน้ำตาลเทาหรือเทาอมฟ้า ขอบไม่ชัด
• รักษายาก ต้องใช้เวลานาน และตอบสนองต่อเลเซอร์ได้บางส่วน
3.ฝ้าผสม (Mixed Type)
• มีทั้งส่วนตื้นและลึกในจุดเดียวกัน
• สีไม่สม่ำเสมอ อาจมีทั้งน้ำตาลเข้มและเทา
• การรักษาต้องใช้ทั้งครีมและเครื่องมือ เช่น เลเซอร์ผสมทรีตเมนต์
ประเภทของกระ (Freckles)
กระสามารถแบ่งได้หลายประเภทตามลักษณะของจุดและสาเหตุ
1.กระตื้น (Ephelides)
• จุดเล็ก สีน้ำตาลอ่อน
• มักพบในวัยเด็กหรือคนที่มีผิวขาว
• กระจะเข้มขึ้นเมื่อโดนแดด และจางลงในฤดูหนาว
• เกิดจากกรรมพันธุ์เป็นหลัก
2.กระลึก (Dermal Freckles หรือ Lentigines)
• จุดสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ขนาดใหญ่กว่ากระตื้น
• พบในวัยผู้ใหญ่หรือผู้ที่โดนแดดเป็นเวลานาน
• ไม่จางลงเอง และรักษายากกว่ากระตื้น
3.กระแดด (Solar Lentigines)
• เกิดจากการสะสมแสงแดดเป็นเวลานาน
• พบในบริเวณที่โดนแดดบ่อย เช่น ใบหน้า แขน มือ
• จุดมีขนาดใหญ่ ขอบชัด และมักเพิ่มขึ้นตามอายุ
ฝ้ากระเกิดจากอะไร
ฝ้ากระเกิดจากเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ในผิวหนังที่ผลิตมากผิดปกติ ซึ่งมีหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีมากขึ้น โดยแยกตามประเภทได้ดังนี้
สาเหตุของฝ้า (Melasma)
• แสงแดด (รังสี UV) กระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซต์สร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของฝ้า
• ฮอร์โมน ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น เช่น ช่วงตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด การรักษาด้วยฮอร์โมน
• กรรมพันธุ์ เมื่อคนในครอบครัวมีฝ้า ก็มีแนวโน้มจะเกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น
• การระคายเคืองผิว จากการใช้ครีมแรง ๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวบาง
สาเหตุของกระ (Freckles)
• กรรมพันธุ์ พบมากในคนผิวขาว หรือคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นกระ
• แสงแดด กระชัดขึ้นเมื่อโดนแดด เพราะแสง UV กระตุ้นเม็ดสี ในฤดูหนาวหรือเมื่อไม่โดนแดด กระจะจางลงบ้าง
• อายุ บางประเภทของกระ เช่น กระแดด หรือกระผู้สูงอายุ จะเริ่มเห็นชัดเมื่ออายุมากขึ้น
ฝ้ากระมักพบบริเวณไหน
ฝ้ากระมักพบบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสแสง UV มากที่สุด ซึ่งแยกได้ตามลักษณะดังนี้
บริเวณที่มักพบฝ้า
• ฝ้าที่โหนกแก้ม (พบบ่อยที่สุด)
• ฝ้าที่หน้าผาก
• ฝ้าที่สันจมูก
• ฝ้าที่เหนือริมฝีปาก
• ฝ้าที่คาง
• บางรายอาจมีฝ้าที่คอ หรือแขน (ในคนที่โดนแดดบ่อย)
ฝ้ามักมีลักษณะเป็น ปื้นสีน้ำตาลหรือเทาอมน้ำตาล มีขอบไม่ชัดเจน
บริเวณที่มักพบกระ
• กระที่โหนกแก้ม
• กระที่จมูก
• กระที่ใต้ตา
• กระที่หน้าผาก
• กระที่ลำคอและแขน (ในบางกรณี โดยเฉพาะกระแดด)
กระจะมีลักษณะเป็น จุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม และมักกระจายตัว
ฝ้ากระส่งผลเสียอะไรบ้าง
ฝ้ากระแม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรงหรืออันตรายต่อสุขภาพโดยตรง แต่ฝ้ากรพก็สามารถส่งผลเสียต่อหลายด้านของชีวิตได้ โดยเฉพาะในเรื่องความมั่นใจ บุคลิกภาพ และคุณภาพชีวิต รวมถึงอาจสะท้อนถึงปัญหาสุขภาพบางอย่างได้ด้วย ผลเสียที่อาจเกิดจากฝ้ากระ มีดังนี้
1.ฝ้ากระส่งผลต่อความมั่นใจและภาพลักษณ์
• ใบหน้าที่มีฝ้าหรือกระจำนวนมากอาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่กล้าเปิดหน้า หรือรู้สึกว่าผิวหน้าดูโทรม ดูแก่ก่อนวัย
• ฝ้ากระทำให้บางคนหลีกเลี่ยงการถ่ายรูป พบปะผู้คน หรือรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องแต่งหน้าน้อยลง
2.ฝ้ากระทำให้เพิ่มความยุ่งยากในการแต่งหน้า
• เมื่อเป็นฝ้ากระต้องใช้รองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ปกปิดมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตัน เป็นสิว หรือผิวระคายเคือง
• เมื่อต้องแต่งหน้าจัดทุกวัน หากมีฝ้ากระอาจยิ่งทำให้ผิวบางลงและฝ้ากำเริบ
3.ฝ้ากระทำให้ดูแก่ก่อนวัย
• ฝ้ากระโดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก หรือใต้ตา จะทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ
• ฝ้ากระส่งผลให้ดูแก่กว่าวัย หรือดูเหนื่อยล้า แม้จะนอนพักผ่อนเพียงพอ
4.ฝ้ากระบ่งบอกถึงฮอร์โมนหรือสุขภาพ
• ในบางกรณี ฝ้าอาจเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น ระหว่างตั้งครรภ์ ใช้ยาคุม หรือในวัยหมดประจำเดือน
• ฝ้ากระอาจเป็นสัญญาณของการที่ผิวได้รับแสงแดดมากเกินไป หรือบ่งบอกว่าร่างกายขาดสารอาหารบางชนิด
5.ฝ้ากระก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง
• การรักษาฝ้ากระมักต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุง ทรีตเมนต์ หรือเลเซอร์
• หากไม่ป้องกันและดูแลผิวอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดฝ้ากระซ้ำ และต้องรักษาซ้ำ ซึ่งใช้ทั้งเวลาและเงิน
ฝ้ากระแตกต่างกันอย่างไร
ฝ้ากระเป็นภาวะของผิวหนังที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่สัมผัสแสงแดดเป็นประจำ ถึงแม้จะมีลักษณะคล้ายกัน คือมีรอยหรือจุดสีน้ำตาลบนผิวหน้า แต่ทั้งสองมีความแตกต่างกันในหลายด้าน
ฝ้าเป็นปื้นสีน้ำตาลหรือเทาอมน้ำตาล ขนาดค่อนข้างใหญ่และมักมีขอบไม่ชัด พบได้บ่อยบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก และเหนือริมฝีปาก สาเหตุหลักของฝ้ามักเกี่ยวข้องกับ ฮอร์โมน แสงแดด และ กรรมพันธุ์ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือใช้ยาคุมกำเนิด
ในทางตรงกันข้าม กระมีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม ขอบชัดเจน และกระจายตัวบนใบหน้า เช่น บริเวณจมูกและโหนกแก้ม กระมักเกิดจาก กรรมพันธุ์ และจะเห็นชัดขึ้นเมื่อโดนแสงแดด โดยมักเริ่มปรากฏตั้งแต่วัยเด็ก
ฝ้ากระถึงแม้จะดูคล้ายกัน เพราะมีลักษณะเป็นรอยหรือจุดสีน้ำตาลบนใบหน้า แต่จริง ๆ แล้ว ฝ้ากระมีความแตกต่างกันหลายด้าน ทั้งในเรื่องของสาเหตุ ลักษณะ รูปร่าง และการรักษา
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างฝ้ากระ
|
ฝ้า (Melasma) |
กระ (Freckles) |
ลักษณะของฝ้ากระ |
ปื้นหรือแผ่นสีน้ำตาลอมน้ำตาล-เทา ขอบไม่ชัด |
จุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม ขอบชัดเจน |
ขนาดของฝ้ากระ |
ใหญ่ เป็นแผ่น |
เล็กเป็นจุด ๆ |
ตำแหน่งที่พบฝ้ากระ |
โหนกแก้ม หน้าผาก เหนือปาก จมูก คาง |
โหนกแก้ม จมูก ใต้ตา หน้าผาก |
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝ้ากระ |
ฮอร์โมน แสงแดด กรรมพันธุ์ ยา |
กรรมพันธุ์ แสงแดด |
กลุ่มเสี่ยงเกิดฝ้ากระ |
ผู้หญิง (โดยเฉพาะวัย 30+ หรือตั้งครรภ์) |
พบได้ตั้งแต่วัยเด็ก มักพบในคนผิวขาว |
ความเข้มของฝ้ากระ |
เมื่อเจอแดดสีเข้มขึ้น |
เมื่อเจอแดดสีเข้มขึ้น |
การจางลงของฝ้ากระ |
เมื่อไม่มีแดด จางได้บ้าง แต่ไม่หมดเอง |
อาจจางลงเองได้เมื่อไม่ได้โดนแดด |
การรักษาฝ้ากระ |
ยาทาฝ้า เลเซอร์ หลีกเลี่ยงแสงแดด |
ครีมลดจุดด่างดำ เลเซอร์ ครีมกันแดด |
แม้ฝ้ากระจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็ส่งผลต่อความมั่นใจในรูปลักษณ์ การดูแลผิวด้วยครีมกันแดด การหลีกเลี่ยงแสงแดด และการใช้ผลิตภัณฑ์หรือรักษาอย่างเหมาะสม สามารถช่วยลดเลือนรอยฝ้ากระได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฝ้ากระรักษาอย่างไรให้จางลง
ฝ้ากระไม่ได้เป็นอันตราย แต่ก็สร้างความกังวลใจให้กับหลายคน โดยเฉพาะเมื่อฝ้ากระเกิดขึ้นบนใบหน้า ซึ่งเป็นส่วนที่มองเห็นได้ชัด การรักษาฝ้ากระให้จางลงจึงต้องอาศัยความเข้าใจและการดูแลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการป้องกัน การฟื้นฟู และการรักษาอย่างเหมาะสม
1.การป้องกันแสงแดดที่เป็นสาเหตุของฝ้ากระ
แสงแดด โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB เป็นปัจจัยกระตุ้นหลักที่ทำให้ฝ้ากระเข้มขึ้น แม้จะทำการรักษาด้วยเลเซอร์หรือใช้ครีมต่าง ๆ หากไม่ป้องกันแสงแดด ฝ้ากระก็มีโอกาสกลับมาได้อีก
วิธีป้องกันฝ้ากระจากแสงแดดที่ควรทำทุกวัน
• รักษาฝ้ากระโดยทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30-50 ขึ้นไป และ PA+++ เป็นประจำ แม้ไม่ได้ออกจากบ้าน
• รักษาฝ้ากระโดยทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง โดยเฉพาะหากออกกลางแจ้งหรือมีเหงื่อ
• รักษาฝ้ากระโดยสวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด และใช้ร่มกัน UV เมื่ออยู่กลางแจ้ง
• รักษาฝ้ากระโดยหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในช่วง 10.00–16.00 น.ซึ่งเป็นช่วงที่แดดแรงที่สุด
2.การใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางรักษาฝ้ากระ
ผลิตภัณฑ์เวชสำอางรักษาฝ้ากระ เป็นทางเลือกพื้นฐานที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากสามารถใช้เองที่บ้านได้และปลอดภัยหากเลือกผลิตภัณฑ์รักษาฝ้ากระอย่างถูกต้อง โดยส่วนใหญ่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารออกฤทธิ์ช่วยลดฝ้ากระ ดังนี้
• ลดฝ้ากระด้วยวิตามินซี (Vitamin C) ลดการสร้างเม็ดสี ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
• ลดฝ้ากระด้วยอาร์บูติน (Arbutin) ยับยั้งเอนไซม์ที่สร้างเม็ดสีเมลานิน
• ลดฝ้ากระด้วยกรดโคจิก (Kojic Acid) ช่วยผลัดเซลล์และลดรอยดำ
• ลดฝ้ากระด้วยกรดทรานซามิก (Tranexamic Acid) ป้องกันการกระตุ้นเม็ดสีจากการอักเสบหรือฮอร์โมน
• ลดฝ้ากระด้วยเรตินอล/เรตินอยด์ (Retinol) กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนฝ้า
คำแนะนำ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ลดฝ้ากระที่ผ่านการรับรองจาก อย.และใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 2-3 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผล
3.การทำทรีตเมนต์และเลเซอร์รักษาฝ้ากระ
กรณีที่ฝ้ากระมีความชัดเจน หรือรักษาฝ้ากระด้วยครีมแล้วยังไม่เห็นผล อาจพิจารณาเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผิวหนัง ซึ่งมีหลายวิธีรักษาฝ้ากระทางการแพทย์ให้เลือก
ประเภทของการรักษาทางการแพทย์ เช่น
• รักษาฝ้ากระด้วยเลเซอร์ (Laser Therapy) เช่น Q-switched, Pico Laser, Fractional Laser ช่วยทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ เห็นผลไว แต่ต้องทำหลายครั้งและหลีกเลี่ยงแดดอย่างเคร่งครัด
• รักษาฝ้ากระด้วย Chemical Peeling การใช้กรดอ่อน ๆ ช่วยผลัดเซลล์ผิวด้านบน ลดรอยคล้ำและกระตุ้นผิวใหม่
• รักษาฝ้ากระด้วย Microneedling + Meso ใช้เข็มเล็ก ๆ เจาะผิวพร้อมส่งวิตามินเข้าสู่ผิวโดยตรง เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูและลดเม็ดสี
• รักษาฝ้ากระด้วยการฉีดกลูต้า/วิตามิน ช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้นในภาพรวม แต่ผลอาจไม่ถาวร และควรทำโดยแพทย์
4.การดูแลสุขภาพจากภายในเพื่อลดฝ้ากระ
นอกจากการดูแลผิวภายนอกเพื่อลดฝ้ากระแล้ว สุขภาพภายในก็ส่งผลต่อสภาพผิวเช่นกัน โดยเฉพาะฮอร์โมนและระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้นขอแนะนำเคล็ดลับดูแลผิวจากภายในเพื่อช่วยลดฝ้ากระ เช่น
• ลดฝ้ากระด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 1.5–2 ลิตร
• ลดฝ้ากระด้วยการนอนหลับให้เพียงพอ ไม่เครียด
• ลดฝ้ากระด้วยการทานอาหารที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น สตรอว์เบอร์รี่ ฝรั่ง บร็อกโคลี มะเขือเทศ
• ลดฝ้ากระด้วยการหลีกเลี่ยงบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารมัน/ของทอด
• สำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือผู้ใช้ยาคุมกำเนิดที่มีปัญหาฝ้ากระควรปรึกษาแพทย์ เพราะฮอร์โมนอาจกระตุ้นฝ้าได้
โปรแกรมรักษาฝ้ากระที่รมย์รวินท์คลินิก
นอกจากวิธีรักษาฝ้ากระให้จางลงข้างต้นแล้ว ขอแนะนำ 5 โปรแกรมรักษาฝ้ากระ ที่ รมย์รวินท์คลินิก ซึ่งออกแบบเพื่อดูแลผิวเฉพาะบุคคล โดยแต่ละโปรแกรมมีเทคโนโลยีและจุดเด่นในการรักษาฝ้ากระที่แตกต่างกัน ดังนี้
1.โปรแกรมรักษาฝ้ากระ NU Pico Laser
โปรแกรมรักษาฝ้ากระ NU Pico Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์พลังงานสูงระดับพิโควินาที (Picosecond Laser) ซึ่งปล่อยพลังงานในช่วงเวลาสั้นมาก ทำให้สามารถทำลายเม็ดสีเมลานินได้อย่างแม่นยำ โดยไม่กระทบกับเนื้อเยื่อรอบข้าง
จุดเด่นโปรแกรมรักษาฝ้ากระ NU Pico Laser
• จัดการฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างล้ำลึก
• เห็นผลไว ปลอดภัย ผิวฟื้นตัวเร็ว
• ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น
โปรแกรมรักษาฝ้ากระ NU Pico Laser เหมาะสำหรับผู้ที่มีฝ้าลึก กระแดด กระกรรมพันธุ์ รอยดำจากสิว และต้องการผิวหน้าใสแบบเร่งด่วน
2.โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Sylfirm X Plus
โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Sylfirm X Plus เป็นเทคโนโลยีที่รวม Microneedling RF (คลื่นวิทยุผสานการกระตุ้นใต้ผิว) ซึ่งช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน และช่วยลดปัญหาความผิดปกติของเส้นเลือดใต้ผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของฝ้าบางชนิด
จุดเด่นโปรแกรมรักษาฝ้ากระ Sylfirm X Plus
• รักษาฝ้าแบบ vascular (ฝ้าที่มีเส้นเลือดร่วม)
• ลดจุดด่างดำ รอยแดง รูขุมขนกว้าง
• กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่นและแข็งแรง
โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Sylfirm X Plus เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นฝ้าดื้อ ฝ้าลึก หรือมีปัญหาร่วม เช่น เส้นเลือดฝอยแตก ผิวแพ้ง่าย ผิวบาง
3.โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Code of White
โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Code of White เป็นโปรแกรมพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวหน้าหมองคล้ำ และลดการสร้างเม็ดสีเมลานินโดยเฉพาะ ผ่านการผสมผสานของทรีตเมนต์บำรุงผิวเข้มข้นและเทคโนโลยีเลเซอร์
จุดเด่นโปรแกรมรักษาฝ้ากระ Code of White
• ปรับผิวให้กระจ่างใสแบบองค์รวม
• ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ พร้อมเติมความชุ่มชื้น
• ใช้ได้แม้ผิวบอบบางหรือมีปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ
โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Code of White เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผิวขาวใสมีออร่า พร้อมลดเลือนเม็ดสีแบบอ่อนโยน
4.โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Dual Yellow Laser
โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Dual Yellow Laser เป็นเลเซอร์ผสมผสานระหว่างแสงสีเหลืองและสีเขียว เพื่อจัดการทั้งปัญหาเม็ดสีและเส้นเลือดผิดปกติใต้ผิวได้ในคราวเดียว
จุดเด่นโปรแกรมรักษาฝ้ากระ Dual Yellow Laser
• แสงสีเหลืองลดรอยแดง เส้นเลือดฝอย
• แสงสีเขียวจัดการเม็ดสีที่ก่อให้เกิดฝ้า กระ
• ผิวสว่างขึ้นทันทีหลังทำ อ่อนโยนต่อผิว
โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Dual Yellow Laser เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย มีทั้งฝ้า กระ รอยแดง เส้นเลือดฝอย และต้องการฟื้นฟูผิวอย่างนุ่มนวล
5.โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Melasma Fade
โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Melasma Fade เป็นโปรแกรมสำหรับผู้ที่เป็นฝ้าโดยเฉพาะ เน้นการปรับสมดุลเม็ดสีผิวและลดการกระตุ้นการผลิตเมลานินใหม่ พร้อมช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
จุดเด่นโปรแกรมรักษาฝ้ากระ Melasma Fade
• เหมาะกับฝ้าทั้งตื้นและลึก
• ฟื้นฟูผิวจากภายใน ลดโอกาสเกิดฝ้าใหม่
• เห็นผลชัดเจนหากทำต่อเนื่องตามแพทย์แนะนำ
โปรแกรมรักษาฝ้ากระ Melasma Fade เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นฝ้ามานาน ฝ้าดื้อ ฝ้าฮอร์โมน และต้องการทางเลือกที่ไม่ใช้เลเซอร์แรง ๆ
สรุปแต่ละโปรแกรมรักษาฝ้ากระของรมย์รวินท์คลินิก มีจุดเด่นที่ตอบโจทย์ปัญหาฝ้ากระแตกต่างกัน หากคุณไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับแบบไหน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ นัดหมายปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิวก่อนตัดสินใจ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดฝ้ากระซ้ำซาก
หลังจากรักษาฝ้ากระจนจางลงแล้ว สิ่งสำคัญคือการดูแลผิวให้สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้ากระกลับมาอีกครั้ง เพราะฝ้ากระมักเกิดซ้ำได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวไวต่อแสง หรือเคยมีฝ้ากระจากฮอร์โมนมาก่อน
1.ป้องกันฝ้ากระด้วยการหลีกเลี่ยงแสง UV ให้ได้มากที่สุด
แม้ฝ้ากระอาจดูเหมือนหายแล้ว แต่หากผิวได้รับแสงแดดโดยไม่มีการป้องกัน เม็ดสีเมลานินจะกลับมาทำงานอีกครั้ง
• ใช้ครีมกันแดดสูตรปกป้องทั้ง UVA และ UVB เป็นประจำ
• ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า PA++++ และกันน้ำได้
• หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดโดยไม่จำเป็น
• เลือกกิจกรรมกลางแจ้งช่วงเช้า/เย็นแทนกลางวัน
2.ป้องกันฝ้ากระด้วยการเสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรง
ผิวที่อ่อนแอจะไวต่อแสงและระคายเคืองง่าย ส่งผลให้เม็ดสีผลิตออกมามากเกินจำเป็น ดังนั้นควรเน้นการบำรุงให้ผิวแข็งแรง
• ใช้สกินแคร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C, E, Niacinamide
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวบาง เช่น การสครับแรง ๆ หรือกรดเข้มข้น
• ทาครีมบำรุงให้ความชุ่มชื้นทุกวัน เพื่อฟื้นฟูปราการผิว
3.ป้องกันฝ้ากระด้วยการปรับพฤติกรรมที่อาจกระตุ้นฝ้ากระ
ปัจจัยบางอย่างในชีวิตประจำวันอาจส่งผลทางอ้อมให้ฝ้ากระกลับมาได้ เช่น
• การนอนดึก เครียดสะสม หรือขาดสารอาหารบางชนิด
• ใช้ฮอร์โมนหรือยาคุมกำเนิดโดยไม่ปรึกษาแพทย์
• ไม่ล้างหน้าก่อนนอน ทำให้ผิวอักเสบเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว
ควรดูแลสุขภาพโดยรวมให้ดี เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน และดื่มน้ำให้เพียงพอ
4.ป้องกันฝ้ากระด้วยการตรวจเช็กสภาพผิวอย่างสม่ำเสมอ
การหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้า เช่น เริ่มเห็นจุดหมองคล้ำเล็ก ๆ บริเวณโหนกแก้ม หรือมีอาการผิวไวต่อแดดง่ายขึ้น เป็นสัญญาณเตือนของการเกิดฝ้ากระที่ไม่ควรมองข้าม
• ควรเข้าพบแพทย์ผิวหนังหากมีฝ้ากระกลับมาแม้เพียงเล็กน้อย
• อาจพิจารณาทำทรีตเมนต์เบา ๆ ทุกเดือน เพื่อควบคุมเม็ดสีไม่ให้เพิ่มขึ้นอีก
สรุปเกี่ยวกับความแตกต่างของฝ้ากระ
สรุปได้ว่า แม้ฝ้าและกระจะมีจุดร่วมที่คล้ายกัน เช่น การเกิดขึ้นจากแสงแดด หรือการมีเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ แต่ทั้งสองก็มีความแตกต่างกันชัดเจน ทั้งในด้านลักษณะภายนอก สาเหตุการเกิด และแนวทางการรักษา โดยฝ้ามักเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนและปรากฏเป็นปื้นใหญ่ ส่วนกระมักเป็นจุดเล็ก ๆ จากกรรมพันธุ์ การแยกแยะประเภทของรอยฝ้ากระเหล่านี้ให้ชัดเจน จึงช่วยให้สามารถดูแลผิวได้อย่างเหมาะสม และลดโอกาสการเกิดฝ้ากระซ้ำในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด