Q Switch Laser คืออะไร ทำกี่ครั้งเห็นผล รักษาปัญหาผิวอะไรได้บ้าง มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
Q Switch Laser
Q Switch Laser ดียังไง ช่วยแก้ปัญหาอะไร ต่างจาก Laser อื่นอย่างไร
Q Switch Laser หัตถการสำหรับรักษาปัญหาผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหา รอยดำ รอยแดง จุดด่างดำ กระ หรือการปรับผิวให้กระจ่างใสมีออร่า แน่นอนว่า หัตถการ Q Switch Laser ตอบโจทย์ปัญหาผิวต่างๆ เหล่านี้ ได้ดี
รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับ Q Switch Laser
- Q Switch Laser คืออะไร
- Q Switch Laser มีกระบวนการทำงานอย่างไร
- Q Switch Laser รักษาปัญหาผิวอะไรได้บ้าง
- Q Switch Laser ปลอดภัยหรือไม่
- Q Switch Laser เหมาะกับใคร
- ใครควรหลีกเลี่ยงการทำ Q Switch Laser
- Q Switch Laser ควรทำบริเวณไหน
- Q Switch Laser ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล
- ก่อนทำ Q Switch Laser ต้องเตรียมตัวอย่างไร
- ขั้นตอนการทำ Q Switch Laser
- การดูแลตัวเองหลังทำ Q Switch Laser
- ผลข้างเคียงของ Q Switch Laser
- Q Switch Laser กับการทำเลเซอร์อื่นๆ
- สรุปทุกเรื่องของ Q Switch Laser
- คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Q Switch Laser
Q Switch Laser คืออะไร
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีเลเซอร์ถูกนำมาใช้ในการดูแลผิวพรรณอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในด้านการลดเลือนเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมถึงการลบรอยสัก หนึ่งในเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงคือ Q Switch Laser ซึ่งหลายคนรู้จักในชื่อ “เลเซอร์หน้าใส” เพราะสามารถช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูเรียบเนียน กระจ่างใส และสุขภาพดีได้อย่างเห็นผล
Q Switch Laser คืออะไร ?
Q Switch Laser คือเครื่องเลเซอร์ชนิดหนึ่งที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสีในชั้นผิว เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยสัก เครื่องเลเซอร์ชนิดนี้ มีความสามารถในการปล่อยพลังงานแสง ความเข้มข้นสูงในระยะเวลาที่สั้นมาก ซึ่งช่วยให้สามารถทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ ในผิวหนังให้แตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำลายเซลล์ผิวดีรอบข้าง พลังงาน Q Switch Laser นี้จะถูกดูดซับโดยเม็ดสีเป้าหมาย และร่างกายจะกำจัดออกตามกระบวนการทางธรรมชาติ
คลื่นแสง 2 ช่วงความยาว จุดเด่นของ Q Switch Laser
หนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ Q Switch Laser เหนือกว่าเลเซอร์ทั่วไป คือ การใช้คลื่นแสงเลเซอร์ 2 ช่วงความยาว ซึ่งสามารถรักษาได้ทั้งในระดับผิวตื้นและลึก ได้แก่
• ความยาวคลื่น 532 นาโนเมตร (nm)
คลื่นแสงนี้เหมาะกับการทำลายเม็ดสีที่อยู่ในชั้นหนังกำพร้า หรือผิวตื้น เหมาะกับการรักษาปัญหาอย่าง กระแดด ฝ้าตื้น ปานแดง และรอยสักสีแดง
• ความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร (nm)
คลื่นนี้สามารถลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ได้ เหมาะสำหรับรักษาปัญหาผิวที่ฝังลึก เช่น กระลึก ปานดำ รอยดำจากสิว และลบรอยสักสีเข้มอย่างสีดำหรือน้ำเงิน
เมื่อ Q Switch Laser ใช้คลื่นทั้งสองร่วมกัน จะช่วยให้การรักษาผิวมีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถปรับสีผิวโดยรวมให้กระจ่างใส ผิวดูเรียบเนียน และสีผิวสม่ำเสมอได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ทำไม Q Switch Laser จึงถูกเรียกว่า "เลเซอร์หน้าใส"?
นอกจากความสามารถในการลบเลือนเม็ดสีผิดปกติ Q Switch Laser ยังมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ส่งผลให้ผิวดูแน่น กระชับ เรียบเนียน และรูขุมขนเล็กลง เมื่อทำต่อเนื่องจะเห็นได้ว่าผิวมีความกระจ่างใสขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้น และดูสุขภาพดีขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนเรียกเครื่องนี้ว่า “เลเซอร์หน้าใส”
จุดเด่นของ Q Switch Laser
• Q Switch Laser ทำงานด้วยความเร็วระดับพันล้านวินาที (นาโนวินาที) ทำให้สามารถทำลายเม็ดสีได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทำลายผิวรอบข้าง
• Q Switch Laser ใช้คลื่นเลเซอร์ 2 ช่วงความยาว ทำให้ครอบคลุมการรักษาทั้งผิวตื้นและลึก
• Q Switch Laser เหมาะกับทุกสภาพสีผิว โดยเฉพาะคนเอเชีย
• Q Switch Laser ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำ
• Q Switch Laser ให้ผลลัพธ์ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อทำอย่างต่อเนื่อง
Q Switch Laser มีกระบวนการทำงานอย่างไร
1.หลักการพื้นฐานของ Q Switch Laser
Q Switch Laser คือเลเซอร์ชนิดพิเศษที่ปล่อยพลังงานแสงออกมาในระยะเวลาสั้นมาก ระดับนาโนวินาที (1 ในพันล้านวินาที) ซึ่งทำให้พลังงานที่ส่งออกมามีความเข้มข้นสูงมากในช่วงเวลานั้น จุดประสงค์คือการทำลาย เม็ดสีผิดปกติ (เมลานิน) หรือ อนุภาคหมึกของรอยสัก ให้แตกตัวโดยไม่กระทบเนื้อเยื่อผิวรอบข้าง
กลไกสำคัญที่ทำให้ Q Switch Laser มีประสิทธิภาพคือ Photomechanical Effect คือการใช้พลังงานแสงเข้าไป “กระแทก” เม็ดสีให้แตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ คล้ายกับการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงระเบิดก้อนหินให้ละเอียด แต่ไม่ทำลายผิวที่อยู่รอบ ๆ
2.พลังงานจาก Q Switch Laser เข้าทำงานในผิวได้อย่างไร ?
การทำงานของ Q Switch Laser จะพุ่งเป้าไปที่ “เม็ดสี” ที่สะสมในผิวหนัง โดยแสงเลเซอร์จะ ถูกดูดซับโดยเฉพาะในบริเวณที่มีเมลานินหรือหมึกสีมาก ทำให้พลังงานถูกจำกัดเฉพาะจุด ไม่กระจายไปยังผิวบริเวณอื่น
คลื่นแสงแต่ละช่วงทำงานกับผิวต่างระดับกัน
ความยาวคลื่น 532 nm
• ทำงานที่ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
• เหมาะกับเม็ดสีที่อยู่ตื้น เช่น กระแดด ฝ้าตื้น รอยสักสีแดง หรือปานแดง
ความยาวคลื่น 1,064 nm
• ทำงานที่ ชั้นหนังแท้ (Dermis) ลึกกว่าชั้นหนังกำพร้า
• เหมาะกับเม็ดสีที่ฝังลึก เช่น กระลึก รอยสักสีเข้ม ปานดำ หรือรอยดำจากสิว
ข้อดีของการที่ Q Switch Laser มีการแยกการทำงานของคลื่น 2 ช่วงนี้ทำให้แพทย์สามารถ เลือกใช้พลังงาน ให้เหมาะกับระดับความลึก ของเม็ดสีบนผิว ของแต่ละคน ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
3.กระบวนการ “ทำลายเม็ดสี” ของ Q Switch Laser เกิดขึ้นอย่างไร
• เลเซอร์ส่งพลังงาน ไปยังชั้นผิวที่มีเม็ดสีผิดปกติ
• พลังงานถูกดูดซับโดยเมลานิน หรือหมึกสี
เกิดแรงกระแทก (Shockwave) ภายในเม็ดสี ทำให้เม็ดสีแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ
• ร่างกายกำจัดเศษเม็ดสีเหล่านี้ออก ผ่านระบบน้ำเหลืองในระยะเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์
• ผลลัพธ์คือรอยดำจะค่อย ๆ จางลง ผิวกลับมาสม่ำเสมอมากขึ้น
4.Q Switch Laser ทำงานกับผิวอย่างไร
• Q Switch Laser ส่งพลังงานเลเซอร์เฉพาะจุดด้วยความเร็วสูงมาก
• Q Switch Laser ทำลายเฉพาะเม็ดสีผิดปกติ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อปกติ
• Q Switch Laser ใช้ความยาวคลื่นที่เจาะจงเพื่อเข้าถึงชั้นผิวที่ลึกหรือตื้น
• ร่างกายจะขจัดเม็ดสีที่ถูกทำลายออกเอง
• ทำให้ผิวค่อย ๆ ใสขึ้น เรียบเนียนขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้นในระยะยาว
Q Switch Laser รักษาปัญหาผิวอะไรได้บ้าง
เรามาดูกันว่า Q Switch Laser รักษาปัญหาผิวอะไรได้บ้าง
1.ฝ้า (Melasma)
Q Switch Laser ช่วยลดฝ้าได้โดยการทำลายเม็ดสีเมลานินที่สะสมอยู่ใต้ผิว โดยเฉพาะฝ้าตื้นและฝ้าผสม แม้จะไม่ใช่การรักษาที่หายขาดทันที แต่เมื่อทำต่อเนื่องร่วมกับการทาครีมและหลีกเลี่ยงแดด จะช่วยให้ฝ้าจางลงอย่างมีประสิทธิภาพ
2.กระ (Freckles, Lentigines)
กระที่เกิดจากแดดหรือพันธุกรรมสามารถจางลงได้ด้วยพลังงาน Q Switch Laser ที่เข้าไปทำลายเม็ดสีเฉพาะจุด ทั้งกระตื้นและกระลึก โดยมักเริ่มเห็นผลหลังทำไม่กี่ครั้ง
3.จุดด่างดำ และรอยดำจากสิว
Q Switch Laser จะทำลายเม็ดสีจุดด่างดำที่ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ช่วยให้รอยดำจากสิวจางลงอย่างปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการเกิดแผลหรือรอยไหม้
4.รอยสัก (Tattoo Removal)
สามารถลบรอยสักได้อย่างปลอดภัย โดยเลเซอร์จะทำลายหมึกสักให้แตกตัวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ขับออก สีดำ น้ำเงิน แดง และบางเฉดสามารถลบได้ด้วย Q Switch Laser (อาจต้องทำหลายครั้ง) และยังไม่สามารถลบรอยสักที่เป็นสีเดียวกับผิวได้
5.ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
เมื่อใช้ Q Switch Laser ทั่วใบหน้าแบบ “toning” จะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใส สดชื่น และลดความหมองคล้ำโดยรวมได้อย่างเป็นธรรมชาติ
6.รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
Q Switch Laser ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าแน่น กระชับ และดูเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนจะค่อย ๆ ดูเล็กลงเมื่อทำต่อเนื่อง
7.รอยแผลเป็นสิวบางประเภท
แม้ Q Switch Laser จะไม่ใช่เลเซอร์หลักสำหรับหลุมสิว แต่สามารถใช้ร่วมกับเลเซอร์อื่น เพื่อช่วยให้รอยดำ รอยแผลเป็น และผิวดูเรียบขึ้นเล็กน้อยในกรณีที่เป็นรอยสิวตื้น ๆ ได้
Q Switch Laser ปลอดภัยหรือไม่
Q Switch Laser คือเลเซอร์ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาปัญหาเม็ดสีผิว เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสัก และผิวหมองคล้ำ ด้วยเทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานแสงเข้มข้นในช่วงเวลาสั้นมาก เพื่อเข้าไปทำลายเม็ดสีใต้ผิวโดยตรง ไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง
ความปลอดภัยของ Q Switch Laser
1.ใช้หลักการพลังงานเฉพาะจุด ไม่ทำร้ายผิวรอบข้าง
Q Switch Laser ทำงานด้วยหลักการที่เรียกว่า “Photomechanical Effect” หรือ “แรงกระแทกแสง” ซึ่งต่างจากเลเซอร์ที่ใช้ความร้อน โดยพลังงานจะถูกส่งไปยังเม็ดสีหรือหมึกสักในผิวหนังเท่านั้น ทำให้เม็ดสีแตกตัวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ แต่ไม่เกิดการไหม้หรือทำร้ายผิวชั้นบน เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาแบบไม่เสี่ยงผิวลอกหรือเกิดแผล
2.อาการข้างเคียงน้อย และฟื้นตัวไว
หลังทำ Q Switch Laser อาจเกิดอาการบางอย่างชั่วคราว เช่น
• ผิวแดงเล็กน้อยในบริเวณที่ยิงเลเซอร์
• ผิวแห้งหรือลอกเล็กน้อยในบางจุด
• อาจเกิดสะเก็ดบางจุดเล็ก ๆ หากเป็นบริเวณที่มีเม็ดสีลึก
อาการเหล่านี้มักหายไปภายใน 2-3 วัน และสามารถแต่งหน้า/ล้างหน้าได้ตามปกติ ไม่มีแผลเปิดหรือความจำเป็นต้องพักฟื้น
3.ปลอดภัยเมื่ออยู่ในมือแพทย์
การทำ Q Switch Laser ให้ปลอดภัย ขึ้นอยู่กับ
• การประเมินผิวของคนไข้แต่ละรายก่อนทำ
• การเลือกช่วงคลื่นและค่าพลังงานที่เหมาะสมกับปัญหา
• ความเชี่ยวชาญในการยิงเลเซอร์ไม่ให้พลังงานกระทบผิวดี
หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือผู้มีประสบการณ์โดยตรง จะสามารถทำได้อย่างปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีโดยไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
Q Switch Laser เหมาะกับใคร
Q Switch Laser เป็นเลเซอร์ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใส ลดเลือนเม็ดสี และปรับผิวให้เรียบเนียน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับ "เม็ดสีผิดปกติ" หรือ "สีผิวไม่สม่ำเสมอ" ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส
มาดูกันชัด ๆ ว่าใครบ้างที่ควรเลือกทำ Q Switch Laser บ้าง
1.Q Switch Laser เหมาะกับคนที่มีปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ
หากคุณมีฝ้าตื้น กระแดด หรือรอยดำที่เกิดจากแสงแดดหรืออายุที่มากขึ้น Q Switch Laser จะช่วยจัดการเม็ดสีที่ทำให้ผิวดูคล้ำ จุดด่างลดลง ผิวสว่างขึ้นอย่างเห็นผล
2.Q Switch Laser เหมาะกับ ผู้ที่มี รอยดำจากสิว
หลังสิวหายแล้ว หลายคนยังคงมีรอยดำทิ้งไว้ Q Switch Laser ช่วยเร่งให้เม็ดสีเหล่านั้นจางลงเร็วขึ้น ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ไม่ต้องรอให้รอยดำหายเองซึ่งอาจใช้เวลานานหลายเดือน
3.Q Switch Laser เหมาะกับผู้ที่มี ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
ใครที่รู้สึกว่าผิวหน้าดูโทรม ไม่สดใส สีผิวไม่เท่ากันทั่วใบหน้า การทำเลเซอร์แบบ “toning” ด้วย Q Switch Laser จะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น สีผิวสม่ำเสมอ และดูสุขภาพดีขึ้นแบบไม่ต้องพักฟื้น
4.Q Switch Laser เหมาะกับคนที่ต้องการ ลบรอยสัก หรือปานดำ
Q Switch Laser ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการลบรอยสักหรือปานดำ เช่น ปานโอตะ เพราะสามารถยิงลึกลงไปในชั้นผิวได้อย่างแม่นยำ และค่อย ๆ ทำให้สีจางลงในแต่ละครั้ง
5.Q Switch Laser เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวแบบ ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น
Q Switch Laser เป็นเลเซอร์ชนิดที่อ่อนโยน ไม่ทำให้เกิดแผล ไม่มีการลอกของผิว และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำ เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลผิวโดยไม่รบกวนกิจวัตรประจำวัน
6.Q Switch Laser เหมาะกับผู้ที่เริ่มดูแลผิว หรือไม่เคยทำเลเซอร์มาก่อน
สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยทำเลเซอร์มาก่อน และต้องการเริ่มดูแลผิวอย่างปลอดภัย Q Switch Laser เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะเป็นเลเซอร์ที่อ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผู้ที่มีสีผิวเข้มแบบคนเอเชีย
ใครควรหลีกเลี่ยงการทำ Q Switch Laser
แม้ว่า Q Switch Laser จะเป็นเลเซอร์ที่อ่อนโยนและปลอดภัย แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่ ควรหลีกเลี่ยงชั่วคราวหรือได้รับการประเมินจากแพทย์ก่อนทำ ดังนี้
• ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ทุกชนิดในช่วงนี้ แม้ไม่มีอันตรายโดยตรง แต่ฮอร์โมนอาจทำให้ผิวไวต่อแสงและเกิดเม็ดสีผิดปกติได้ง่าย
• ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ หรือมีแผลเปิดในบริเวณที่จะทำเลเซอร์
การทำเลเซอร์ในช่วงที่ผิวยังไม่สมบูรณ์ อาจทำให้แผลแย่ลง ติดเชื้อ หรือเกิดรอยแผลเป็น
• ผู้ที่แพ้แสงหรือมีประวัติไวต่อแสง (Photosensitivity)
อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง รอยไหม้ หรือผิวลอกได้มากกว่าปกติ
• ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มกรดวิตามิน A, ยาปฏิชีวนะบางชนิด หรือยารักษาสิวที่ไวต่อแสง
ยาบางกลุ่มทำให้ผิวไวต่อแสงมาก จึงควรหยุดยาก่อนทำเลเซอร์ตามคำแนะนำแพทย์
• ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นนูน (Keloid) ง่าย
แม้โอกาสเกิดแผลเป็นจาก Q Switch Laser จะน้อยมาก แต่ผู้ที่มีแนวโน้มเกิดแผลเป็นง่ายควรแจ้งแพทย์ก่อน
• ผู้ที่เพิ่งไปทำผิวด้วยสารเคมีแรง ๆ เช่น กรดผลไม้, TCA, เรตินอยด์ หรือเลเซอร์ชนิดอื่นในช่วงใกล้เคียงกัน
การทำเลเซอร์ต่อเนื่องโดยไม่เว้นระยะ อาจทำให้ผิวอักเสบหรือไวต่อแสงมากเกินไป
• ผู้ที่มีโรคผิวหนังบางประเภท เช่น โรคลูปัส, โรคสะเก็ดเงิน หรือผื่นภูมิแพ้ผิวหนังรุนแรง
ควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังก่อนตัดสินใจ
Q Switch Laser ควรทำบริเวณไหน
Q Switch Laser เป็นเลเซอร์ที่ปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว จึงสามารถใช้รักษาได้ในหลายตำแหน่งบนร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาเม็ดสีสะสม เช่น จุดด่างดำ รอยฝ้า กระ หรือรอยสัก โดยแต่ละจุดมีจุดประสงค์และผลลัพธ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้
1.ใบหน้า (Face)
เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการทำ Q Switch Laser เนื่องจากปัญหาเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยสิว มักเกิดบนใบหน้าเป็นหลัก
Q Switch Laser สามารถรักษาได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า เช่น
• หน้าผาก
• โหนกแก้ม
• จมูก
• คาง
• ขมับ
• แก้มล่าง
ผลลัพธ์หลังทำ Q Switch Laser คือช่วยให้ผิวหน้าโดยรวมกระจ่างใส สีผิวดูสม่ำเสมอ ลดจุดด่างดำและรอยสิว
2.ลำคอ (Neck)
ผิวบริเวณลำคอมักถูกมองข้าม แต่เป็นตำแหน่งที่เกิดรอยดำหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่ดูแลผิวหน้าแต่ลืมดูแลลำคอร่วมด้วย
การทำเลเซอร์บริเวณนี้จะช่วยให้ผิวคอดูขาวเรียบเนียน ไม่ต่างจากใบหน้า
3.หลังมือ (Back of Hands)
หลังมือเป็นตำแหน่งที่บ่งบอกอายุและมักมีจุดด่างดำหรือกระแดด การทำ Q Switch Laser ที่หลังมือสามารถช่วยลดจุดสีน้ำตาลและทำให้ผิวดูเนียนขึ้น เหมาะกับผู้ที่ใส่ใจภาพลักษณ์โดยรวม
4.แผ่นหลังและหน้าอก (Back & Chest)
บริเวณหลังและหน้าอกเป็นบริเวณที่อาจมีรอยสิวเก่า จุดด่างดำ หรือสีผิวไม่เรียบเนียน โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวมันหรือเหงื่อออกง่าย การทำ Q Switch Laser ช่วยลดรอยและปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น
5.รักแร้ (Underarms)
สำหรับผู้ที่มีปัญหารักแร้ดำจากการเสียดสีหรือการโกนซ้ำ ๆ Q Switch Laser สามารถช่วยลดเม็ดสีสะสมในบริเวณนี้ ทำให้สีผิวรักแร้ดูเรียบเนียนและสว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
6.ขาหนีบและข้อพับ (Inner Thighs, Elbows, Knees)
บริเวณที่มักมีการเสียดสี เช่น ขาหนีบ ข้อพับ ข้อศอก หรือหัวเข่า ก็สามารถทำ Q Switch Laser ได้เช่นกัน เพื่อช่วยลดความหมองคล้ำจากเม็ดสีสะสม
7.บริเวณที่มีรอยสัก (Tattoo Area)
ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา หน้าอก หลัง หรือส่วนใดของร่างกาย หากต้องการลบรอยสัก Q Switch Laser ก็สามารถทำได้ โดยเลือกใช้ช่วงคลื่นที่เหมาะกับสีของหมึกสัก เช่น 1,064 nm สำหรับหมึกสีดำหรือน้ำเงิน และ 532 nm สำหรับสีแดง
Q Switch Laser ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล
หลายคนที่สนใจทำ Q Switch Laser อาจสงสัยว่า ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผลจริ ง? คำตอบคือขึ้นอยู่กับประเภทของปัญหาผิว ความลึกของเม็ดสี และการตอบสนองของผิวแต่ละคน โดยทั่วไปสามารถเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ไม่กี่ครั้งแรก และหากทำต่อเนื่องก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เรามาดูระยะเวลาการเห็นผลของ Q Switch Laser โดยทั่วไปกัน
• เริ่มเห็นผลเบื้องต้นได้ตั้งแต่ ครั้งที่ 1-3 เช่น ผิวกระจ่างใสขึ้น จุดด่างดำเริ่มจางลง
• หากต้องการผลชัดเจน เช่น ลดฝ้า กระ รอยดำ หรือรอยสัก
แนะนำให้ทำ ต่อเนื่องประมาณ 4-8 ครั้งขึ้นไป
• จำนวนครั้งที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ
- ประเภทของปัญหาผิว (ตื้นหรือลึก)
- ความเข้มของเม็ดสี
- การตอบสนองของผิวแต่ละคน
• ควรเว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ต่อครั้ง
เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวและเม็ดสีที่ถูกทำลายสลายออกตามธรรมชาติ
• ทำต่อเนื่องจะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน และผิวแข็งแรงขึ้น
ก่อนทำ Q Switch Laser ต้องเตรียมตัวอย่างไร
• หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ Q Switch Laser
เพื่อป้องกันผิวไหม้หรือระคายเคืองหลังทำ
• งดการสครับผิว ผลัดเซลล์ หรือใช้กรดผลไม้ (AHA/BHA/Retinol)
ประมาณ 3-5 วันก่อนทำ เพื่อไม่ให้ผิวบางเกินไป
• งดการแวกซ์ โกน หรือถอนขน บริเวณที่จะทำ Q Switch Laser
เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบหรือระคายเคืองได้
• หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในวันทำ Q Switch Laser
โดยเฉพาะรองพื้นหรือครีมกันแดดที่มีสี เพื่อให้ผิวสะอาดพร้อมรับพลังงานเลเซอร์
• แจ้งแพทย์หากใช้ยา หรือมียาประจำตัว
เช่น ยารักษาสิว ยาต้านไวรัส ยากลุ่มไวต่อแสง เพื่อความปลอดภัย
• ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมาก ๆ
เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ฟื้นตัวไว และลดโอกาสระคายเคืองก่อนทำ Q Switch Laser
ขั้นตอนการทำ Q Switch Laser
• ทำความสะอาดผิวหน้า
เพื่อขจัดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และครีมกันแดดก่อนเริ่มเลเซอร์
• แพทย์ประเมินสภาพผิวและเลือกความยาวคลื่นที่เหมาะสมในการทำ Q Switch Laser
เช่น 532 nm สำหรับเม็ดสีตื้น หรือ 1,064 nm สำหรับเม็ดสีลึก
• ทายาชา ( บริเวณที่จะทำ Q Switch Laser )
บางคลินิกอาจใช้ยาชาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที โดยเฉพาะในผู้ที่กลัวเจ็บ
• ยิงเลเซอร์ Q Switch Laser ตามตำแหน่งที่ต้องการรักษา
ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับพื้นที่และปัญหาผิว
• ประคบเย็นหลังทำ Q Switch Laser
เพื่อช่วยลดรอยแดงและปลอบประโลมผิวทันทีหลังเลเซอร์
• ทาครีมบำรุงผิวหรือครีมลดการอักเสบ
เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวและลดการระคายเคือง
• ให้คำแนะนำในการดูแลผิวหลังทำ Q Switch Laser
เช่น การหลีกเลี่ยงแดด ทาครีมกันแดด และงดสครับผิวในช่วงแรก
การดูแลตัวเองหลังทำ Q Switch Laser
• หลังทำ Q Switch Laser หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง อย่างน้อย 5-7 วัน เพราะผิวจะไวต่อแสงหลังเลเซอร์ และอาจทำให้เกิดรอยคล้ำซ้ำได้
• ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน และควรทาซ้ำระหว่างวัน โดยเฉพาะเมื่อออกแดด
• หลีกเลี่ยงการสครับหรือขัดผิว อย่างน้อย 3-5 วันหลังทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือแผล
• งดแต่งหน้าหนักหรือใช้เครื่องสำอางที่มีน้ำหอม/แอลกอฮอล์
ช่วง 1-2 วันแรกหลังทำ เพื่อป้องกันการแพ้หรืออักเสบ
• หมั่นทามอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือครีมบำรุงผิว
เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ลดการลอกหรือแห้งหลังทำ Q Switch Laser
• อย่าแกะหรือเกาผิวในบริเวณที่เกิดสะเก็ด
หากมีสะเก็ดบางจุด ควรปล่อยให้หลุดเองตามธรรมชาติ
• ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวไวและสุขภาพผิวดีจากภายใน
• ทำ Q Switch Laser ต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและยั่งยืนมากขึ้น
ผลข้างเคียงของ Q Switch Laser
แม้ว่า Q Switch Laser จะเป็นเลเซอร์ที่ปลอดภัยและอ่อนโยน แต่หลังการทำ Q Switch Laser อาจมี ผลข้างเคียงเล็กน้อยชั่วคราว ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในบางคน ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติของการตอบสนองของผิว และมักหายไปเองภายในไม่กี่วัน
ผลข้างเคียงหลังทำ Q Switch Laser ที่อาจพบได้ ได้แก่
• ผิวแดงหรือรู้สึกอุ่น ๆ
มักเกิดขึ้นทันทีหลังทำ และหายได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง
คล้ายเวลาผิวโดนแดดนาน ๆ
• ผิวแห้งหรือลอกเล็กน้อย
โดยเฉพาะบริเวณที่ยิงเลเซอร์เข้มข้นหรือมีเม็ดสีเยอะ
แนะนำให้ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อบำรุง
• สะเก็ดบางจุด
อาจเกิดในบริเวณที่เม็ดสีฝังลึก เช่น กระลึก หรือปานดำ
ไม่ควรแกะ ให้รอหลุดเองตามธรรมชาติภายใน 5-7 วัน
• รอยคล้ำชั่วคราว (Post-inflammatory hyperpigmentation)
พบได้ในบางรายที่ผิวไวหรือโดนแดดจัดหลังทำ
มักจางลงได้เองภายใน 1-3 เดือน พร้อมการดูแลผิวอย่างเหมาะสม
• ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น
หลังทำเลเซอร์ Q Switch Laser ผิวจะบอบบางชั่วคราว ควรหลีกเลี่ยงแดดและทาครีมกันแดดเป็นประจำ
Q Switch Laser กับการทำเลเซอร์อื่นๆ
ปัจจุบันมีเลเซอร์หลายชนิดที่ใช้ในการดูแลผิวหน้า เช่น ลดฝ้า กระ ริ้วรอย หลุมสิว หรือผิวไม่เรียบเนียน ซึ่งแต่ละชนิดมีจุดเด่นและวัตถุประสงค์ต่างกัน มาดูว่า Q Switch Laser แตกต่างจากเลเซอร์ชนิดอื่นอย่างไร และเหมาะกับใครมากที่สุด
Q Switch Laser
• ใช้เพื่อรักษาปัญหาเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสัก และผิวหมองคล้ำ
• ทำงานโดยการ ทำลายเม็ดสี ในผิวด้วยพลังงานสูงในช่วงเวลาสั้นมาก (นาโนวินาที)
• ไม่ทำให้ผิวลอก ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวกระจ่างใสแบบอ่อนโยน และลดเม็ดสีเฉพาะจุด
เลเซอร์ชนิดอื่นที่นิยม และแตกต่างอย่างไร
1.Fractional CO2 Laser / Erbium Laser
• ใช้เพื่อรักษาหลุมสิว รอยแผลเป็น ริ้วรอยลึก และผิวไม่เรียบ
• ทำงานโดยการ กรอผิวหรือเจาะรูเล็ก ๆ บนผิวหนังเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซม
• ทำให้ผิวลอกและมีสะเก็ด ต้องมีเวลาพักฟื้น
• เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวลึก เช่น หลุมสิวหรือริ้วรอยเด่นชัด
2.IPL (Intense Pulsed Light)
• เป็นแสงความเข้มสูง ไม่ใช่เลเซอร์แท้ แต่ใช้ผลคล้ายกัน
• ช่วยเรื่องรอยแดง เส้นเลือดฝอย รูขุมขนกว้าง และผิวกระจ่างใสเล็กน้อย
• อ่อนโยนกว่าเลเซอร์ทั่วไป แต่ผลลัพธ์อาจต้องทำหลายครั้ง
• เหมาะกับผิวที่ไม่มีปัญหาเฉพาะจุดมากนัก
3.Pico Laser
• เทคโนโลยีใหม่ คล้าย Q Switch Laser แต่มีความเร็วสูงกว่า (ระดับพิโควินาที)
• ใช้รักษาเม็ดสีที่ลึกและละเอียดมาก เช่น ฝ้า กระลึก หรือรอยสักสีเข้ม
• ทำลายเม็ดสีได้ละเอียดกว่า q switch และระคายเคืองน้อยกว่า
• ราคาสูงกว่า แต่ให้ผลเร็วกว่าในบางเคส
สรุปเปรียบเทียบ Q Switch Laser กับเลเซอร์อื่น ๆ แบบตาราง
เลเซอร์ |
เหมาะกับปัญหา |
จุดเด่น |
พักฟื้น |
Q Switch Laser |
ฝ้า กระ รอยดำ ผิวหมอง รอยสัก |
อ่อนโยน เห็นผลไว ไม่ลอกผิว |
ไม่ต้องพักฟื้น |
CO2 / Erbium |
หลุมสิว ริ้วรอย แผลเป็น |
ผลัดผิว กระตุ้นสร้างผิวใหม่ |
ต้องพักฟื้นหลายวัน |
IPL |
รอยแดง เส้นเลือดฝอย ผิวหมองน้อย |
เบา ๆ ไม่เจ็บ เหมาะกับผิวทั่วไป |
ไม่ต้องพักฟื้น |
Pico Laser |
เม็ดสีลึก รอยสัก ฝ้าเรื้อรัง |
ความเร็วสูง ผลไว ระคายเคืองน้อย |
พักฟื้นน้อยมาก |
สรุปทุกเรื่องของ Q Switch Laser
Q Switch Laser คือหนึ่งในเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงมากในวงการดูแลผิวพรรณ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือปรับผิวให้ดูสว่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เลเซอร์ชนิดนี้มีความโดดเด่นตรงที่สามารถปล่อยพลังงานแสงออกมาในช่วงเวลาสั้นมาก ทำให้พลังงานนั้นมีความเข้มข้นสูงและสามารถเจาะจงทำลายเม็ดสีผิดปกติในผิวได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อปกติรอบข้าง
อย่างไรก็ตาม แม้ Q Switch Laser จะเป็นเลเซอร์ที่ใช้ได้กับหลายปัญหาผิว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเหมาะกับทุกปัญหา เพราะหากเป็นหลุมสิว ริ้วรอยลึก หรือผิวที่มีแผลเป็นรุนแรง อาจต้องใช้เลเซอร์ประเภทอื่นที่เจาะลึกกว่าหรือมีพลังงานแตกต่างกัน เช่น CO2 Laser หรือ Pico Laser ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำเลเซอร์ทุกชนิด ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินสภาพผิวของคุณอย่างละเอียด เพื่อเลือกใช้เลเซอร์ให้ตรงกับปัญหามากที่สุด จะได้เห็นผลจริง และปลอดภัยต่อผิวในระยะยาว
นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกเลเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว คือ การดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำเลเซอร์ เพราะแม้เลเซอร์ Q Switch Laser หรือตัวเลเซอร์อื่นๆ จะมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน หากละเลยการดูแลผิว เช่น ไม่หลบแดด ไม่ทาครีมกันแดด ใช้ครีมที่ทำให้ผิวบาง หรือปล่อยให้ผิวแห้งเสีย ก็อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เต็มที่ หรือเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำหลังเลเซอร์ได้
สรุปแล้ว Q Switch Laser เป็นเลเซอร์ที่ทั้ง ปลอดภัย เห็นผลจริง อ่อนโยน และไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวกระจ่างใส และลดเลือนเม็ดสีผิดปกติอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องเลือกให้เหมาะกับปัญหาผิวของตัวเอง และอย่าลืมใส่ใจดูแลผิวอย่างถูกวิธีควบคู่กันไปด้วย จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยั่งยืนในระยะยาว
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ