เลเซอร์บราซิลเลี่ยน คืออะไร กำจัดขนน้องสาวมีกี่แบบทำแล้วดียังไง
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน , บราซิลเลี่ยน
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน คืออะไร กำจัดขนน้องสาวมีกี่แบบทำแล้วดียังไง
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน เป็นการกำจัดขนในจุดซ่อนเร้น เพื่อที่จะเพิ่มความมั่นใจ และเพื่อสุขอนามัยที่ดีด้วย เพราะถ้าเราไม่มีขนที่น้องสาว จะทำให้เราสามารถทำความสะอาดง่ายขึ้น ไม่มีกลิ่นอับ บทความนี้จะมาอธิบายเกี่ยวกับเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ให้ทุกคนเข้าใจในทุกแง่มุม
เลเซอร์บราซิลเลี่ยนคืออะไร
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน เป็นการกำจัดขนในบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างล้ำลึกและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศหญิง (VIO) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่บริเวณด้านหน้า ริมขอบปากช่องคลอด ไปจนถึงแนวขนรอบทวารหนัก จุดเด่นของเทคนิคนี้อยู่ที่การใช้ลำแสงเลเซอร์พลังงานสูงยิงลงลึกถึงรากขน ช่วยลดการเจริญเติบโตของขนในอนาคตอย่างถาวร หรือให้ผลลัพธ์ในระยะยาว
สำหรับการทำ เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ผู้เชี่ยวชาญอาจเลือกเว้นขนบางส่วนไว้เล็กน้อยเพื่อช่วยลดการเสียดสี ลดโอกาสการสะสมของสิ่งสกปรก และยังให้ความรู้สึกปลอดภัยในด้านสุขอนามัย โดยทั่วไป วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความสะอาดหมดจด ดูแลตัวเองอย่างใกล้ชิด และเสริมความมั่นใจในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะใส่ชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นใน หรือขณะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน จึงไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขอนามัยและความสะดวกสบายระยะยาวอีกด้วย เหมาะกับผู้หญิงยุคใหม่ที่ใส่ใจรายละเอียดทุกมิติของการดูแลตัวเอง
คำว่า เลเซอร์บราซิลเลี่ยน มาจากไหน
คำว่า เลเซอร์บราซิลเลี่ยน จริง ๆ แล้วคำนี้มีที่มาที่ใครหลายคนอาจจะไม่รู้ ชื่อนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการแว็กซ์สไตล์บราซิลเลี่ยน หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “บราซิลเลี่ยนแว็กซ์” ซึ่งเป็นการกำจัดขนแบบจัดเต็ม เกลี้ยงเกลา ไม่เหลือแม้แต่เส้นเดียว ทั้งบริเวณน้องสาวและรอบรูทวาร เน้นความสะอาดและเสริมสร้างความมั่นใจ
พอมีเทคโนโลยีเลเซอร์บราซิลเลี่ยนเข้ามา เลยมีการนำแนวคิดแบบบราซิลเลี่ยนแว็กซ์มาพัฒนาให้ดีกว่าเดิม ด้วยการใช้ลำแสงเลเซอร์เข้าไปจัดการที่รากขนโดยตรง กลายเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์มากกว่า เพราะเจ็บน้อยกว่า ไม่เป็นอันตราย และให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า
จึงเกิดเป็นคำว่า เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ที่หมายถึงการกำจัดขนแบบบราซิลเลี่ยนสไตล์ แต่ใช้วิธีเลเซอร์แทนแว็กซ์นั่นเอง
Fun Fact สำหรับ เลเซอร์บราซิลเลี่ยน
คำว่า “Brazilian” มาจากประเทศบราซิล ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของแฟชั่นบิกินีตัวจิ๋วสุดฮิต เมื่อสาวๆ เริ่มใส่บิกินีกันเยอะ การกำจัดขนจุดซ่อนเร้นให้หมดจดก็กลายเป็นสิ่งจำเป็นตามมา จุดเริ่มต้นของการแว็กซ์สไตล์นี้เริ่มต้นจากร้านเล็ก ๆ ของชาวบราซิลในนิวยอร์กช่วงปลายยุค 80 และก็ได้รับความนิยมอย่างมาก และเมื่อเทคโนโลยีทันสมัยขึ้นจากการแว็กซ์มาสู่เลเซอร์ เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ก็เลยกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่เป็นที่นิยมอย่างมากจนถึงปัจจุบัน
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน มีกี่แบบอะไรบ้าง
แม้จะเรียกรวมกันว่า เลเซอร์บราซิลเลี่ยน แต่จริง ๆ แล้ว การกำจัดขนจุดซ่อนเร้นด้วยเลเซอร์บราซิลเลี่ยนนั้นสามารถทำได้หลายวิธี โดยใช้เครื่องมือเลเซอร์ที่แตกต่างกัน ซึ่งเลเซอร์บราซิลเลี่ยนแต่ละชนิดมีจุดเด่น ข้อจำกัด และความเหมาะสมต่อสภาพผิวหรือประเภทของเส้นขนไม่เหมือนกัน มาดูกันว่าเครื่องยอดนิยมในการเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ปัจจุบันมีอะไรบ้าง
1.เลเซอร์บราซิลเลี่ยนด้วย IPL (Intense Pulsed Light)
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ด้วย IPL เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นลองกำจัดขน
• IPL เป็นคลื่นแสงที่มีความยาวหลายช่วงในลำแสงเดียว (broad spectrum)
• เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ด้วย IPL ใช้หลักการลดปริมาณเม็ดสีเมลานินในขน เพื่อทำให้เส้นขนบางลงและขึ้นช้าลง
• ข้อดีคือ เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ด้วย IPL ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างในเวลาไม่นาน
• เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ด้วย IPL เหมาะกับคนผิวขาวมากกว่าผิวเข้ม เพราะคลื่นแสงอาจแยกไม่ชัดระหว่างเม็ดสีขนกับผิว จึงเสี่ยงต่อการระคายเคือง และผลลัพธ์จะช้ากว่าเลเซอร์ชนิดอื่น ต้องทำซ้ำบ่อยทุก 2 สัปดาห์
2.เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ด้วย Diode Laser
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ด้วย Diode Laser เป็นทางเลือกกลางๆ สำหรับคนต้องการผลลัพธ์ที่ดีและไม่เป็นอันตราย
• ความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจงประมาณ 810 นาโนเมตร เหมาะกับการกำจัดขนลึกถึงรูขุมขน
• ใช้ได้ทั้งคนผิวขาวและผิวสองสี โดยเฉพาะกับขนที่เส้นหนาและเข้ม
• เห็นผลชัดเจนกว่า IPL แต่ยังต้องทำซ้ำต่อเนื่องประมาณ 6-8 ครั้ง
• อาจรู้สึกเจ็บจี๊ดขณะทำ และบางรายอาจเกิดผิวตกสะเก็ดหลังการยิง
3.เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ด้วย Long Pulse ND:YAG Laser
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ด้วย Long Pulse ND:YAG Laser เทคโนโลยีเลเซอร์ระดับพรีเมียม เหมาะกับบริเวณจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ
• ใช้ความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร ซึ่งสามารถทะลุลึกถึงรากขนและทำลายเซลล์รากขนได้แม่นยำ
• เหมาะกับทุกสีผิวและทุกประเภทเส้นขน แม้เส้นบางหรือคนผิวคล้ำก็ทำได้
• มีระบบเป่าลมเย็น (Air Forced Cooling) ควบคู่ในขณะยิงเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ช่วยลดความรู้สึกเจ็บและป้องกันผิวไหม้
• เห็นผลเร็ว ขนขึ้นช้าและบางลงหลังทำไม่กี่ครั้ง โดยเว้นระยะห่างระหว่างครั้งได้ถึง 3-4 สัปดาห์ และหลังทำต่อเนื่องประมาณ 4-5 ครั้ง อาจเว้นได้ถึง 2-3 เดือน
• นอกจากกำจัดขนได้ดีแล้ว ยังมี โหมด Rejuvenation ที่ช่วยปรับสีผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นให้ดูเรียบเนียนและกระจ่างใสอีกด้วย
เลเซอร์บราซิลเลี่ยนต่างจากเลเซอร์บิกินี่อย่างไร
แม้เลเซอร์บราซิลเลี่ยนกับเลเซอร์บิกินี่จะดูคล้ายกัน เพราะเป็นการกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้นทั้งคู่ แต่จริง ๆ แล้ว เลเซอร์บราซิลเลี่ยน และ เลเซอร์บิกินี่ มีความแตกต่างกันชัดเจนในเรื่องของ ขอบเขตของการกำจัดขน และ ความต้องการของผู้ทำ ซึ่งเข้าใจจุดต่างได้ง่าย ๆ ดังนี้
เลเซอร์บิกินี่ (Bikini Line Laser)
จุดเด่นของเลเซอร์บิกินี่
• เน้นเฉพาะ ขอบกางเกงใน หรือบริเวณที่พ้นออกมาเมื่อใส่ชุดว่ายน้ำหรือกางเกงในทรงบิกินี่
• กำจัดขนเฉพาะด้านข้างและส่วนบน ไม่ยุ่งกับส่วนในลึกหรือบริเวณทวาร
• เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่คุ้นชินกับการเลเซอร์ในจุดซ่อนเร้น หรือกังวลเรื่องความเจ็บ
• ช่วยให้ผิวเรียบเนียนในจุดที่มองเห็น เพิ่มความมั่นใจขณะใส่ชุดว่ายน้ำหรือชุดรัดรูป
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลเซอร์ขนบิกินี่ เลเซอร์บิกินี่ คืออะไร เจ็บไหม มีกี่แบบ ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล
สรุปการเลเซอร์บิกินี่ เป็นตัวเลือกสำหรับมือใหม่ ที่ต้องการเริ่มต้นกำจัดขนอย่างเป็นธรรมชาติ
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน (Brazilian Laser)
จุดเด่นของเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
• ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของจุดซ่อนเร้น ทั้งด้านหน้า ด้านใน ริมขอบแคม และต่อเนื่องถึงขนบริเวณทวารหนัก
• สามารถเลือกได้ว่าจะ “เกลี้ยงเกลา 100%” หรือเว้นขนบางส่วนไว้ตามต้องการ (เช่น ทรงแถบเล็ก หรือรูปหัวใจ ฯลฯ)
• ช่วยลดความอับชื้น ป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย และเสียดสีจากเส้นขน
• เลเซอร์บราซิลเลี่ยน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะอาดล้ำลึก ดูแลสุขอนามัย และความมั่นใจแบบไร้กังวล
สรุปการเลเซอร์บราซิลเลี่ยนเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการ “ความเนียนระดับโปร” ทั้งด้านสวยงามและสุขภาพ
ใครเหมาะกับการกำจัดขนเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
• ผู้ที่ต้องการความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างหมดจด
เพราะเลเซอร์บราซิลเลี่ยนสามารถกำจัดขนได้ลึกและครอบคลุมทุกจุด ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค กลิ่นอับ และความอับชื้นได้ดี
• ผู้ที่มีปัญหาขนคุดหรือขนงอกย้อน
การโกนหรือแว็กซ์อาจทำให้เกิดขนคุดหรือขนฝังใต้ผิว แต่เลเซอร์บราซิลเลี่ยนจะช่วยลดปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ผู้ที่มีขนหนา ขนเข้ม หรือขนขึ้นเร็ว
การใช้เลเซอร์บราซิลเลี่ยนจะช่วยให้ขนบางลง ช้าลง และลดจำนวนลงในระยะยาว เหมาะกับคนที่ต้องดูแลตัวเองบ่อย
• ผู้ที่ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ
เช่น นักวิ่ง นักเต้น หรือผู้ที่มีเหงื่อออกง่าย การไม่มีขนจะช่วยลดการเสียดสี ลดการสะสมของเหงื่อและแบคทีเรีย
• ผู้ที่ใส่ชุดว่ายน้ำหรือชุดรัดรูปเป็นประจำ
เลเซอร์บราซิลเลี่ยนช่วยให้มั่นใจมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องเส้นขนโผล่ หรือรอยแดงจากการโกน
• ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ไม่ตอบสนองดีกับการโกนหรือแว็กซ์
เลเซอร์บราซิลเลี่ยนเป็นทางเลือกที่ไม่เป็นอันตรายในระยะยาว ไม่ทำให้เกิดบาดแผลหรือผิวลอกแบบวิธีอื่น
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาวและไม่อยากเสียเวลาทำบ่อย ๆ
เมื่อทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนอย่างต่อเนื่อง ขนจะขึ้นช้าลงมากหรือหายถาวรในบางราย จึงช่วยประหยัดเวลาในการดูแลตัวเอง
• ผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจและใส่ใจในสุขอนามัยส่วนตัว
การดูแลบริเวณจุดซ่อนเร้นให้สะอาดและเกลี้ยงเกลาช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจในทุกสถานการณ์
ใครที่ควรหลีกเลี่ยงการกำจัดขนเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
• ผู้ที่มีผิวไหม้แดดหรือผิวลอกเสียหายอยู่ในบริเวณที่จะทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
ผิวหนังที่อักเสบหรือระคายเคืองอยู่แล้วจะไวต่อพลังงานเลเซอร์บราซิลเลี่ยน อาจเกิดแผลหรือรอยไหม้เพิ่มขึ้นได้
• ผู้ที่มีแผลเปิด ติดเชื้อ หรือมีโรคผิวหนังเฉพาะจุด
การทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนบนผิวที่ไม่สมบูรณ์อาจทำให้อาการแย่ลง เสี่ยงต่อการอักเสบหรือติดเชื้อซ้ำ
• หญิงตั้งครรภ์
แม้ยังไม่มีข้อห้ามแน่ชัดทางการแพทย์ แต่เพื่อความปลอดภัย แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้เลื่อนการทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนหลังคลอด
• ผู้ที่มีประวัติแพ้แสงหรือโรคทางผิวหนังที่ไวต่อแสง (Photosensitivity)
เช่น โรคลูปัส (Lupus) หรือผู้ที่ใช้ยาบางชนิดที่ทำให้ผิวไวต่อแสง เช่น ยารักษาสิวบางกลุ่ม
• ผู้ที่ใช้ยากลุ่มเรตินอยด์หรือกรดวิตามินเอความเข้มข้นสูง
ยาเหล่านี้ทำให้ผิวบางลง ซึ่งอาจทำให้ผิวไหม้หรือระคายเคืองได้ง่ายหากทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนในช่วงนั้น
• ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลคีลอยด์ง่าย
แม้เลเซอร์บราซิลเลี่ยนจะไม่ใช่หัตถการที่ก่อแผลโดยตรง แต่ในบางรายที่ผิวไวมาก อาจกระตุ้นให้เกิดรอยดำหรือแผลเป็นได้
• ผู้ที่อยู่ระหว่างการติดเชื้อไวรัสบริเวณอวัยวะเพศ
เช่น เริม (Herpes Simplex) ควรรักษาให้หายก่อนทำเลเซอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นการกำเริบของโรค
• ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์แบบถาวรภายในครั้งเดียว
การทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ไม่ใช่การกำจัดขนแบบถาวรตั้งแต่ครั้งแรก
ข้อดีของการทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
• เลเซอร์บราซิลเลี่ยนช่วยให้ผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นเรียบเนียน
ขนที่ถูกกำจัดด้วยเลเซอร์จะไม่เหลือโคนหรือเส้นตอ ทำให้ผิวเรียบลื่น ดูสะอาดตา
• เลเซอร์บราซิลเลี่ยนลดกลิ่นอับและความอับชื้น
การไม่มีเส้นขนช่วยลดการสะสมของเหงื่อ แบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์
• เลเซอร์บราซิลเลี่ยนลดโอกาสเกิดขนคุดและการระคายเคืองจากการโกนหรือแว็กซ์
เลเซอร์บราซิลเลี่ยนไม่ทำให้ผิวถลอก ไม่กระตุ้นให้ขนงอกย้อน จึงช่วยป้องกันผิวหนังอักเสบหรือเป็นตุ่มแดงได้ดี
• เลเซอร์บราซิลเลี่ยนเพิ่มความมั่นใจเมื่อใส่ชุดว่ายน้ำหรือชุดชั้นในแบบแนบเนื้อ
ไม่ต้องกังวลเรื่องเส้นขนโผล่พ้นขอบชุดหรือรอยแดงจากการถอนขน
• ช่วยเรื่องสุขอนามัยโดยรวมในช่วงมีประจำเดือน
บริเวณที่ไร้ขนดูแลทำความสะอาดง่าย แห้งไว ลดการสะสมของเชื้อโรค
• ให้ผลลัพธ์ระยะยาวกว่าวิธีทั่วไป
เมื่อทำอย่างต่อเนื่อง ขนจะขึ้นน้อยลง บางลง หรือหายไปถาวรในบางราย ช่วยลดความถี่ในการดูแล
• เลเซอร์บราซิลเลี่ยนเหมาะกับทุกสีผิวและทุกประเภทเส้นขน (ในกรณีใช้เครื่องที่เหมาะ เช่น ND:YAG)
โดยเฉพาะเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่สามารถปรับพลังงานตามลักษณะผิว ทำให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
• เลเซอร์บราซิลเลี่ยนช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้นในบางเครื่องที่มีโหมด Rejuvenation
เช่น Long Pulse ND:YAG ที่สามารถยิงเลเซอร์เพื่อฟื้นฟูผิวไปพร้อมกับการกำจัดขนได้
ข้อควรระวังของการเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
• หลีกเลี่ยงการเลเซอร์บราซิลเลี่ยนขณะมีประจำเดือน
เพราะบริเวณจุดซ่อนเร้นจะมีความไวต่อความรู้สึกมากกว่าปกติ อาจรู้สึกเจ็บมากขึ้น และไม่สะดวกต่อการทำหัตถการ
• ไม่ควรโกนหรือถอนขนลึกเกินไปก่อนเข้ารับบริการ
การโกนให้ชิดผิวมากเกินไปอาจทำให้เกิดแผลหรือรอยขีดข่วน ซึ่งส่งผลให้ผิวบอบบางและเสี่ยงต่อการระคายเคืองจากเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
• งดการสครับหรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวก่อนทำ 48 ชั่วโมง
การสครับทำให้ผิวบางลง และหากเลเซอร์ลงบนผิวที่เพิ่งถูกขัดถู อาจทำให้ผิวเกิดรอยไหม้หรือแสบแดงได้ง่าย
• หลังเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนและความชื้นสูง
เช่น การเข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก หรือแช่น้ำร้อน เพราะผิวบริเวณนั้นจะไวต่อการอักเสบในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
• ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือระบายอากาศไม่ดีหลังทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
เพราะการเสียดสีอาจทำให้ผิวเกิดรอยแดงหรือผื่นได้ ควรใส่ชุดชั้นในแบบหลวมและผ้านุ่มเบา
• เลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำเลเซอร์ด้วยมือที่ไม่สะอาด
เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือการอักเสบโดยไม่จำเป็น
การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
การทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและไม่ซับซ้อน แต่การเตรียมตัวให้ถูกวิธีก่อนเข้ารับบริการเลเซอร์บราซิลเลี่ยนจะช่วยลดความเสี่ยงของอาการระคายเคือง และเพิ่มประสิทธิภาพของเลเซอร์บราซิลเลี่ยนให้เห็นผลชัดเจนขึ้น โดยควรเตรียมตัวตามคำแนะนำดังนี้
• หลีกเลี่ยงการถอนหรือแว็กซ์ขนก่อนทำเลเซอร์ประมาณ 2 สัปดาห์
เพราะการดึงรากขนออกจะทำให้เลเซอร์ไม่มีเป้าหมายในการทำลายรากขน ซึ่งส่งผลให้ผลลัพธ์ด้อยลง
• งดการสครับผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างน้อย 3-5 วันล่วงหน้า
เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวบางหรือไวต่อแสงเลเซอร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดการแสบร้อนหรือระคายเคืองระหว่างทำ
• โกนขนบริเวณที่จะทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนก่อนเข้ารับบริการ 24 ชั่วโมง
การโกนจะช่วยให้เลเซอร์ลงลึกถึงรากขนได้เต็มที่ ควรใช้มีดโกนที่สะอาด และหลีกเลี่ยงการกดแรงเพื่อลดความเสี่ยงของแผล
• หลีกเลี่ยงการใช้โลชั่น ครีม หรือผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมบริเวณจุดซ่อนเร้นในวันนัดทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
เพื่อไม่ให้สารเคมีในผลิตภัณฑ์รบกวนการทำงานของเลเซอร์หรือทำให้ผิวระคายเคือง
• หากอยู่ในช่วงมีประจำเดือน ควรเลื่อนการนัดหมายออกไปก่อน
เพราะฮอร์โมนในช่วงนี้อาจทำให้ผิวบอบบางกว่าปกติ และการทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนอาจรู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้น
• ควรใส่เสื้อผ้าที่หลวมและระบายอากาศได้ดีในวันทำเลเซอร์
เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดสีหลังทำ ช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีและไม่รู้สึกระคายเคือง
การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
- บำรุงผิวด้วยครีมหรือเจลที่มีฤทธิ์ปลอบประโลมผิว
เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ เช่น เจลว่านหางจระเข้ หรือมอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยน เพื่อช่วยลดความแห้งตึงและระคายเคืองหลังทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
งดอาบน้ำร้อน อบซาวน่า แช่น้ำอุ่น และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอักเสบหรือระคายเคืองเพิ่มขึ้น หลังทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
- ไม่ควรขัด ถู หรือสครับผิวบริเวณที่เลเซอร์อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
เพราะหลังทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ผิวยังบอบบางอยู่ หากถูแรงอาจทำให้ผิวถลอกหรือเกิดรอยแดงตามมาได้
- ห้ามถอน โกน หรือแว็กซ์ขนระหว่างรอบการทำเลเซอร์
การดึงรากขนออกจะรบกวนวงจรการรักษาและลดประสิทธิภาพของเลเซอร์บราซิลเลี่ยนในการทำลายรากขน
- สามารถเล็มเส้นขนที่งอกใหม่ได้ หากเริ่มรู้สึกไม่สบายตัว
ควรใช้กรรไกรปลายมนตัดเฉพาะปลายเส้นขน ไม่ควรให้สัมผัสผิวโดยตรง
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นหรือครีมที่มีสารเคมีรุนแรงบริเวณจุดซ่อนเร้น
อย่างน้อย 3-5 วัน หลังทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคืองหรืออักเสบ
- สวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบายและไม่รัดแน่นเกินไปหลังทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดสีบริเวณผิวหนังที่ไวต่อการอักเสบหลังเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
- สามารถทำนัดครั้งต่อไปได้ทันทีเมื่อเส้นขนเริ่มงอกขึ้นบางส่วน
โดยทั่วไปควรเว้นระยะ 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้เลเซอร์บราซิลเลี่ยนรอบถัดไปยิงได้ตรงกับช่วงที่เส้นขนกำลังงอกใหม่ ซึ่งให้ผลดีที่สุด
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน เจ็บไหม
ความรู้สึกเจ็บขณะทำ เลเซอร์บราซิลเลี่ยน เป็นสิ่งที่หลายคนกังวล แต่ในความเป็นจริง เทคโนโลยีเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ได้รับการพัฒนาให้ตอบโจทย์ด้าน ความสบาย ระหว่างทำได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเครื่องเลเซอร์รุ่น Long Pulse ND:YAG ในการเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
- การเลเซอร์บราซิลเลี่ยน มีระบบเป่าลมเย็น (Air Cooling System) ในขณะยิงเลเซอร์ ช่วยลดอุณหภูมิผิวทันทีหลังรับแสงเลเซอร์ ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลง และช่วยป้องกันผิวไหม้หรือแสบร้อน
- ความรู้สึกขณะทำ การเลเซอร์บราซิลเลี่ยน จะคล้ายกับ "หนังยางดีดเบา ๆ" ที่ผิว เป็นจังหวะสั้น ๆ ซึ่งโดยทั่วไปสามารถทนได้
- หากเคยมีประสบการณ์แว็กซ์ขนบริเวณจุดซ่อนเร้นมาก่อน จะรู้สึกได้ทันทีว่าเลเซอร์บราซิลเลี่ยนเจ็บน้อยกว่ามาก เพราะไม่มีการดึงหรือกระชากรากขน
- สำหรับผู้ที่ไม่เคยแว็กซ์หรือเลเซอร์บราซิลเลี่ยนมาก่อน และกังวลเรื่องความรู้สึกเจ็บ สามารถขอแปะยาชาก่อนทำได้ โดยใช้เวลารอประมาณ 30-45 นาที
- โดยทั่วไป เมื่อทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนไปแล้ว 1-2 ครั้ง ร่างกายจะเริ่มปรับตัวได้ และในครั้งถัดไปหลายคนสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาอีก
การทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ดีกว่าการโกนขนบราซิลเลี่ยนจริงไหม
คำตอบคือ การทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนดีกว่าวิธีอื่นในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพผิว ผลลัพธ์ระยะยาว และความสะดวกสบาย
• การโกนขนบราซิลเลี่ยน แม้จะสะดวกและทำเองได้ แต่มีข้อเสียหลายอย่าง เช่น ทำให้ขนขึ้นใหม่เร็ว ขนแข็งกว่าเดิม เสี่ยงเกิดขนคุด และอาจบาดผิวจนทำให้เกิดการระคายเคืองหรืออักเสบ
• ในขณะที่การทำ เลเซอร์บราซิลเลี่ยน เป็นการใช้ลำแสงเลเซอร์ลงไปทำลายรากขนโดยตรง ทำให้ขนขึ้นใหม่ช้าลง เส้นขนบางลง และลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวซ้ำซากในระยะยาว เช่น ขนคุดหรือการอักเสบจากการถอนผิดวิธี
ทางเลือกอื่นในการกำจัดขนบราซิลเลี่ยน
แม้ว่าเลเซอร์บราซิลเลี่ยน จะเป็นวิธีที่หลายคนแนะนำ แต่ก็ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ใช้กันในการกำจัดขน มาดูความแตกต่างของแต่ละวิธีกัน
1.การแว็กซ์บราซิลเลี่ยน (Brazilian Wax)
• วิธีทำ ใช้แว็กซ์ร้อน แว็กซ์เย็น หรือแผ่นแว็กซ์สำเร็จรูปแปะลงบนผิว แล้วดึงเส้นขนออก
• ข้อดี ดึงขนออกถึงราก ทำให้ผิวเรียบเนียนทันที และขนขึ้นช้ากว่าการโกน
• ข้อเสีย เจ็บค่อนข้างมาก โดยเฉพาะครั้งแรก และอาจเกิดการระคายเคือง ผิวลอกหรือเป็นตุ่มแดงได้ง่าย
2.การโกนขนบราซิลเลี่ยน
• วิธีทำ ใช้มีดโกนหรือเครื่องโกนกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้น
• ข้อดี ทำเองได้ที่บ้าน ไม่ต้องเข้าคลินิกหรือพบช่าง
• ข้อเสีย ขนขึ้นไวกว่าเดิม ขนแข็งและบาดผิวได้ง่าย อาจเกิดขนคุดหรือผิวอักเสบจากการเสียดสี
3.การใช้ครีมหรือเจลกำจัดขน
• วิธีทำ ทาครีม มูส หรือเจลกำจัดขนทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนด แล้วเช็ดออก
• ข้อดี ทำได้เอง ง่าย รวดเร็ว ไม่เจ็บ
• ข้อเสีย มีสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ แสบร้อน หรือระคายเคือง โดยเฉพาะจุดที่ผิวบอบบางมากอย่างรอบทวาร
4.การทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
• วิธีทำ ใช้แสงเลเซอร์พลังงานสูงยิงลงไปที่รากขนเพื่อทำลายการเจริญเติบโต
• ข้อดีของการทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ขนขึ้นช้าลงหรือหยุดขึ้นในบางราย ไม่เสี่ยงขนคุดหรือผิวอักเสบ ช่วยลดกลิ่นอับและดูแลสุขอนามัยได้ดี
สรุปแบบเห็นภาพชัดในการกำจัดขนด้วยวิธีต่างๆ
วิธี |
ความสะอาด |
ความเจ็บ |
ผลลัพธ์ระยะยาว |
เสี่ยงขนคุด |
ทำเองได้ |
โกน |
ต่ำ |
ไม่เจ็บ (แต่บาดง่าย) |
ขนขึ้นไว แข็งกว่าเดิม |
สูง |
ได้ |
แว็กซ์ |
สูง |
เจ็บมาก |
อยู่ได้ 2-3 สัปดาห์ |
ปานกลาง |
ไม่แนะนำให้ทำเอง |
ครีมกำจัดขน |
ปานกลาง |
ไม่เจ็บ |
ขึ้นเร็ว |
ปานกลาง |
ได้ |
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน |
สูงมาก |
เจ็บน้อย (มีตัวช่วยลดความเจ็บ) |
อยู่ได้นาน / บางรายถาวร |
ต่ำ |
ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ |
เลเซอร์บราซิลเลี่ยน กี่ครั้งถึงจะเห็นผล
การทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกทันที เพราะเส้นขนของคนเรามีวงจรการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน และเลเซอร์บราซิลเลี่ยนจะให้ผลดีที่สุดกับเส้นขนที่อยู่ใน “ระยะเติบโต” เท่านั้น
โดยทั่วไปแล้ว
• ในช่วง 1-2 ครั้งแรกในการทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
จะเริ่มสังเกตได้ว่าเส้นขนบางลง และขึ้นช้าลงกว่าปกติ แต่ยังไม่หายไปทั้งหมด
• หลังจากทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนต่อเนื่องประมาณ 4-5 ครั้ง
เส้นขนจะลดจำนวนลงอย่างชัดเจน ขนที่เหลืออยู่จะเส้นเล็กลง สีจางลง และบางรายอาจเริ่มเห็นบริเวณที่ขนไม่ขึ้นเลย
• รอบการทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนแต่ละครั้งควรเว้นห่างกันประมาณ 3-4 สัปดาห์
เพื่อให้สอดคล้องกับวงจรการงอกของเส้นขน และให้เลเซอร์ทำลายขนในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
• เมื่อทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนครบตามจำนวนครั้งที่แนะนำ
ผลลัพธ์หลังทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนที่ได้จะอยู่ในระดับ “ระยะยาว” ขนจะไม่ขึ้นในบางจุด หรือขึ้นน้อยมากจนไม่ต้องดูแลบ่อย และสามารถเว้นระยะการทำครั้งต่อไปได้นานถึง 2-3 เดือนในบางราย
• ผลลัพธ์ของเลเซอร์บราซิลเลี่ยนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
เช่น คนที่มีขนหนา ขนแข็ง หรือมีฮอร์โมนกระตุ้นการงอกของขนมาก อาจต้องทำมากกว่าคนที่มีขนบางแต่แรก แต่ทุกคนจะค่อยๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเมื่อทำต่อเนื่อง
ควรทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนที่ไหนดี
• เลือก คลินิกทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง จากกระทรวงสาธารณสุข
• มี ทีมแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังดูแล อย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอนในการทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
• ใช้ เครื่องเลเซอร์บราซิลเลี่ยนที่ผ่านมาตรฐานสากล เช่น US FDA และ อย.ไทย
• มีระบบ เป่าลมเย็นหรือ Cooling System เพื่อลดความร้อนและอาการเจ็บในการทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
• สถานที่ในการทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนต้อง สะอาด ปลอดเชื้อ และมีความเป็นส่วนตัว
• มี รีวิวจากผู้ใช้จริง และชื่อเสียงในด้านเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
• บริการดี มีการ ติดตามผลหลังทำ และให้คำแนะนำการดูแลตัวเองที่เหมาะสม หลังทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
แล้วจะเลือกทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนที่ไหนดี
“ ถ้าคุณคือคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจตัวเองในทุกรายละเอียด อยากได้ทั้งผลลัพธ์ที่ชัดเจน เทคโนโลยีทันสมัย และบริการที่เข้าใจคุณในแบบที่เป็น ลองมาเริ่มประสบการณ์ใหม่กับ รมย์รวินท์ New Gen ได้เลย ”
Romrawin New Gen พร้อมให้คุณมั่นใจตั้งแต่ครั้งแรก ด้วยเครื่องเลเซอร์บราซิลเลี่ยนคุณภาพสูง มีการดูแลแบบใกล้ชิด และบรรยากาศที่เป็นกันเอง มีโปรโมชั่นพิเศษ ใครที่สนใจสามารถทักสอบถามแอดมินได้เลย
เลเซอร์บราซิลเลี่ยนผู้ชายทำได้ไหม
ผู้ชายสามารถทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนได้ และกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้ชายยุคใหม่ เพราะการดูแลความสะอาดและความมั่นใจในบริเวณจุดซ่อนเร้น ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ “การดูแลตัวเอง” ที่ทุกเพศควรใส่ใจ
เลเซอร์บราซิลเลี่ยนในผู้ชายคืออะไร
• คือการใช้แสงเลเซอร์ในการกำจัดขนบริเวณอวัยวะเพศชาย ขาหนีบ รอบถุงอัณฑะ และบางรายอาจรวมถึงขนบริเวณร่องก้น
• จุดประสงค์คือเพื่อความสะอาด ลดความอับชื้น ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และเพิ่มความมั่นใจ ทั้งในชีวิตประจำวันและกิจกรรมใกล้ชิด
เลเซอร์บราซิลเลี่ยนเหมาะกับผู้ชายแบบไหน
• ผู้ชายที่มี ขนดก ขนหนา หรือขนขึ้นเร็ว จนก่อให้เกิดความรำคาญหรือปัญหาขนคุด
• คนที่ ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือมีเหงื่อออกง่าย เช่น นักฟิตเนส นักวิ่ง นักกีฬา
• ผู้ที่ให้ความสำคัญกับ สุขอนามัยส่วนตัว โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการเสียดสีหรือสะสมความชื้น
• ผู้ที่มี ผิวระคายเคืองง่ายหลังโกนหรือแว็กซ์ และต้องการวิธีที่ปลอดภัยกว่าในระยะยาว
สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับเลเซอร์บราซิลเลี่ยน
การดูแลจุดซ่อนเร้นไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามภายนอก แต่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขอนามัย ความมั่นใจ และคุณภาพชีวิตในแต่ละวัน หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคปัจจุบันก็คือ เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงเลเซอร์ลงลึกถึงรากขน เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากในแง่สุขอนามัยแล้ว หลายคนเลือกทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนเพื่อเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ ชุดออกกำลังกาย หรือแม้แต่ในโอกาสพิเศษที่ต้องการความมั่นใจแบบไร้กังวล การไม่มีขนที่เกินความจำเป็นทำให้หลายคนรู้สึกสะดวก คล่องตัว แม้กระทั่งในผู้ชาย การเลเซอร์บราซิลเลี่ยนก็เริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้น เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสะอาด ความคล่องตัว และสุขภาพผิวในจุดที่มักเกิดการเสียดสีหรืออับชื้นได้ง่าย
การเป็นคนรุ่นใหม่แบบ New Gen ไม่ได้แค่แต่งหน้าให้สวย หรือแต่งตัวให้เป๊ะ แต่ยังดูแลในจุดที่หลายคนมองข้าม เพื่อให้ตัวเองสะอาด ไม่เป็นอันตรายและใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจมากที่สุด เพราะการรักตัวเอง เริ่มต้นได้ตั้งแต่จุดที่ไม่มีใครมองเห็น
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ