โปรแกรม Meso Fat คืออะไร ฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล อยู่ได้นานกี่เดือน
Meso Fat
Meso Fat คืออะไร ฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล อยู่ได้นานกี่เดือน
การมีไขมันส่วนเกินสะสมเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง หรือต้นแขน กลายเป็นปัญหากวนใจของใครหลายคน โดยเฉพาะคนที่แม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายแล้ว ก็ยังไม่สามารถลดไขมันบางส่วนได้ “Meso Fat” หรือ “เมโสแฟต” จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยม เพราะเป็นวิธีลดไขมันเฉพาะจุดที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น
บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ Meso Fat ตั้งแต่หลักการทำงาน จุดที่นิยมฉีด วิธีเตรียมตัวก่อนและหลังฉีด ผลข้างเคียง ข้อควรระวัง ไปจนถึงการเปรียบเทียบกับหัตถการลดไขมันรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมกับตัวเองที่สุด
Meso Fat คืออะไร
เมโสแฟต (Meso Fat) คือ การฉีดตัวยาที่ช่วยลดไขมันส่วนเกินในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือดูดไขมัน ซึ่งตัวยาจะไปกระตุ้นให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายผ่านทางระบบขับถ่ายและการหายใจ ทำให้บริเวณที่ฉีดมีไขมันลดลงและผิวกระชับขึ้น เหมาะกับการลดไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง และสะโพก
ตัวยาสำคัญในเมโสแฟต อาทิ
• Artichoke Extract ช่วยลดการสร้างกรดไขมันและกระตุ้นกระบวนการลดไขมัน
• Mesostabyl ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ Lipase ลดการสร้าง Triglyceride และยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอล
• L-Carnitine ช่วยดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน เพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
เมโสแฟตช่วยลดไขมันสะสมเฉพาะจุด กระชับผิว ปรับรูปหน้าให้เรียว ลดแก้ม เหนียง และลดไขมันตามสัดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยไม่ต้องผ่าตัดและใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า
สรุปคือเมโสแฟตเป็นการฉีดลดไขมันเฉพาะจุด ด้วยตัวยาที่กระตุ้นไขมันให้แตกตัวและขับออกจากร่างกาย เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดและปรับสัดส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด
Meso Fat ช่วยอะไรบ้าง
การฉีด Meso Fat ไม่ใช่แค่การลดไขมันเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ส่งผลดีต่อรูปหน้าและผิวพรรณในบริเวณที่ทำหัตถการอีกด้วย โดยสามารถสรุปข้อดีของ Meso Fat ได้ดังนี้
1.Meso Fat ช่วยลดไขมันเฉพาะจุด
Meso Fat มีคุณสมบัติหลักในการทำให้ไขมันสะสมในบริเวณต่าง ๆ แตกตัวและถูกขับออกผ่านระบบน้ำเหลือง เช่น แก้มที่บานทำให้หน้าดูใหญ่ เหนียงหรือคางสองชั้น หน้าท้องหรือต้นแขนที่มีไขมันสะสม ทำให้บริเวณเหล่านี้เรียวเล็กลงโดยไม่ต้องผ่าตัด
2.Meso Fat ช่วยกระชับรูปหน้า
เมื่อ Meso Fat ทำให้ไขมันลดลง ผิวบริเวณนั้นจะดูกระชับมากขึ้น ใบหน้าเรียว V-shape เห็นกรอบหน้าชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่มีแก้มใหญ่หรือเหนียง ทำให้ใบหน้าดูเล็กลงและมีมิติมากขึ้น
3.Meso Fat ช่วยลดอาการบวมน้ำ
สูตร Meso Fat บางชนิดมีสารที่ช่วยลดการกักเก็บน้ำในเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหรือร่างกายบางส่วนดูบวม เมื่อฉีดแล้วจึงทำให้ดูผอมลงแม้ยังไม่เกิดการลดไขมันเต็มที่
4.Meso Fat ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน
สารที่ฉีดเข้าไปบางสูตรของ Meso Fat จะมีส่วนประกอบที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย เช่น L-Carnitine ช่วยเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นพลังงาน ซึ่งส่งผลดีต่อกระบวนการลดไขมันโดยรวม
5.Meso Fat ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น
นอกจากการลดไขมันแล้ว บางสูตร Meso Fat ยังมีวิตามินหรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงผิวบริเวณที่ฉีดให้เรียบเนียนและชุ่มชื้นมากขึ้น ทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อยตามหลังการสลายไขมัน
6.Meso Fat ช่วยเพิ่มความมั่นใจ
Meso Fat มีข้อดีหลายอย่างในด้านความงาม เช่น ใบหน้าเรียวลง เหนียงหาย หรือหน้าท้องกระชับขึ้น ส่งผลให้หลายคนรู้สึกมั่นใจในการแต่งหน้า การถ่ายรูป และการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น
Meso Fat เหมาะกับใครบ้าง
การฉีด Meso Fat เป็นทางเลือกยอดนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น โดยสามารถสรุปกลุ่มคนที่เหมาะกับการฉีด Meso Fat ได้ดังนี้
1.Meso Fat เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด
Meso Fat เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด เช่น
• ฉีด Meso Fat ลดแก้มใหญ่ที่ทำให้หน้าไม่เรียว
• ฉีด Meso Fat ลดเหนียง หรือคางสองชั้น
• ฉีด Meso Fat ลดหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ที่ลดยาก
2.Meso Fat เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
คนที่มีปัญหาใบหน้าดูกลม บาน ไม่มีกรอบหน้า แต่อยากได้ใบหน้า V-shape แบบไม่ผ่าตัด Meso Fat ช่วยลดไขมันแก้มและเหนียงได้ดี ทำให้ใบหน้าเล็กลง เห็นกรอบหน้าชัด
3.Meso Fat เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือดูดไขมัน
Meso Fat เหมาะกับคนที่กลัวมีดผ่าตัด หรือไม่ต้องการพักฟื้นเป็นเวลานาน Meso Fat เป็นหัตถการที่ใช้เวลาทำไม่นาน และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
4.Meso Fat เหมาะกับผู้ที่เคยลดน้ำหนักแล้ว แต่ยังมีไขมันบางส่วนไม่ลดลง
บางคนลดน้ำหนักสำเร็จแล้ว แต่ยังมีไขมันเฉพาะจุด เช่น เหนียงหรือแก้มที่ยังคงอยู่ การฉีด Meso Fat จะช่วยกำจัดไขมันในบริเวณเหล่านี้ให้หมดไปอย่างเห็นผล
5.Meso Fat เหมาะกับผู้ที่มีเวลาจำกัดหรือไม่มีเวลาพักฟื้น
Meso Fat เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หรือไม่สะดวกเข้าคลินิกบ่อย เพราะการฉีดแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที และไม่ต้องหยุดงาน
จุดที่นิยมฉีด Meso Fat มีบริเวณไหนบ้าง
การฉีด Meso Fat เป็นวิธีลดไขมันเฉพาะจุดที่ได้รับความนิยม เพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถยกกระชับปรับรูปหน้าหรือสัดส่วนได้ โดยบริเวณที่นิยมฉีด Meso Fat มีดังนี้
1.ฉีด Meso Fat แก้ม
การฉีด Meso Fat ที่แก้ม เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะไขมันที่สะสมบริเวณแก้มทำให้หน้าดูกลม บาน หรือไม่มีกรอบหน้า Meso Fat ช่วยให้ใบหน้าเรียวเล็กลง กรอบหน้าชัดขึ้น เหมาะกับผู้ที่อยากลดแก้มโดยไม่ต้องผ่าตัด
2.ฉีด Meso Fat เหนียง
เหนียงหรือคางสองชั้นเป็นจุดที่หลายคนกังวล เพราะทำให้ใบหน้าดูอวบ และไม่มั่นใจเวลาถ่ายรูป Meso Fat ช่วยลดเหนียง ลดไขมันใต้คาง ทำให้คอและกรอบหน้าชัดขึ้น เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมใต้คาง แม้น้ำหนักตัวปกติ
3.ฉีด Meso Fat ต้นแขน
หลายคนมีปัญหาแขนใหญ่ ใส่เสื้อไม่มีแขนแล้วไม่มั่นใจ การฉีด Meso Fat ช่วยลดไขมันเฉพาะจุดบริเวณต้นแขน เหมาะกับคนที่ไขมันไม่หนามาก ไม่ต้องการผ่าตัดดูดไขมัน อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ชัดเจน
4.ฉีด Meso Fat หน้าท้อง
บริเวณหน้าท้องเป็นจุดที่สะสมไขมันได้ง่ายและลดยาก Meso Fat เหมาะสำหรับคนที่มีพุงเล็กน้อย หรือ พุงล่าง แต่ไม่แนะนำในกรณีที่ไขมันหนามาก เพราะผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าการดูดไขมัน
5.ฉีด Meso Fat ต้นขา
ต้นขาเป็นอีกบริเวณที่หลายคนเลือกฉีด โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องการขาเรียวเล็ก Meso Fat ช่วยลดไขมันสะสมและบวมน้ำในขาได้ เห็นผลชัดขึ้นเมื่อทำร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
6.ฉีด Meso Fat หลัง ปีกหลัง เอว
จุดเล็ก ๆ เช่น บริเวณปีกหลังหรือขอบเสื้อในที่มีไขมันสะสม ทำให้ใส่เสื้อผ้าแล้วไม่เรียบ การฉีด Meso Fat ช่วยให้ส่วนนี้ดูเนียนและเข้ารูปมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการดูดไขมันทั่วแผ่นหลัง
ข้อแนะนำการเตรียมตัวก่อนฉีด Meso Fat
การเตรียมตัวก่อนฉีด Meso Fat (เมโสแฟต) อย่างถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดี ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และช่วยให้ร่างกายขับไขมันออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเตรียมตัวได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
1.ก่อนฉีด Meso Fat งดรับประทานยาบางชนิดก่อนฉีด
ก่อนฉีด Meso Fat ควรงดยากลุ่มที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการช้ำหรือเลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน (Aspirin) ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) วิตามินอี หรืออาหารเสริมประเภทน้ำมันปลา (Omega-3) ควรงดยาเหล่านี้ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-5 วัน และควรแจ้งแพทย์หากมีการใช้ยาประจำตัวอยู่
2.ก่อนฉีด Meso Fat งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก่อนการฉีด
แอลกอฮอล์อาจทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เกิดรอยช้ำง่ายหลังฉีด บุหรี่ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้าลง ควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนฉีด Meso Fat
3.ก่อนฉีด Meso Fat พักผ่อนให้เพียงพอ
ควรนอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนวันฉีด Meso Fat ร่างกายที่พักผ่อนดีจะลดการอักเสบ บวมหรือช้ำได้ดีหลังทำหัตถการ
4.ก่อนฉีด Meso Fat ดื่มน้ำให้มากขึ้น
การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียและไขมันที่แตกตัวออกได้ดีขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดวันละ 1.5-2 ลิตร โดยเฉพาะใน 1-2 วันก่อนและหลังฉีด Meso Fat
5.ก่อนฉีด Meso Fat หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า หากฉีดบริเวณใบหน้า
หากจะฉีด Meso Fat ที่แก้มหรือเหนียง ควรมาคลินิกด้วยใบหน้าสะอาด เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเข้าสู่ผิวในระหว่างหัตถการ
6.ก่อนฉีด Meso Fat เตรียมตัวสอบถามแพทย์และแจ้งข้อมูลสุขภาพ
ก่อนฉีด Meso Fat ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน ตับ ไต ประวัติการแพ้ยา หรือแพ้สารฉีด การตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร และเคยทำหัตถการบริเวณที่ฉีดมาก่อนหรือไม่ เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์
ฉีด Meso Fat เจ็บไหม แสบมากไหม
หนึ่งในคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจฉีด Meso Fat (เมโสแฟต) ก็คือ ฉีด Meso Fat เจ็บไหม ? หรือ ฉีด Meso Fat แสบแค่ไหน ? ซึ่งคำตอบคือ การฉีด Meso Fat รู้สึกเจ็บและแสบบ้าง แต่ทนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ ความไวของผิวแต่ละคน และเทคนิคของแพทย์
ความรู้สึกขณะฉีด Meso Fat
1.รู้สึกแสบขณะฉีด Meso Fat
สารที่ใช้ในเมโสแฟตมีฤทธิ์สลายไขมันและเร่งระบบไหลเวียน ซึ่งอาจทำให้รู้สึกแสบจี๊ด ๆ ขณะฉีด โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบาง เช่น แก้ม เหนียง หรือใต้คาง จะรู้สึกชัดเจนกว่าบริเวนอื่น
2.ฉีด Meso Fat รู้สึกเจ็บเล็กน้อยจากเข็ม
การฉีด Meso Fat ใช้เข็มเล็กมาก (Micro Needle) แต่ก็ยังมีความรู้สึกเจ็บคล้ายการฉีดยา หากเป็นคนที่กลัวเข็มหรือผิวไว อาจรู้สึกมากกว่าคนอื่น
3.ฉีด Meso Fat มีอาการตึงหรือระบมหลังฉีดเล็กน้อย
บางคนอาจรู้สึกตึง ๆ แสบ ๆ หรือระบมบริเวณที่ฉีด 1-3 วัน เหมือนมีรอยฟกช้ำเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปอาการจะหายได้เอง ไม่ต้องพักฟื้น
หลังฉีด Meso Fat ต้องดูแลตัวเองอย่างไร
การดูแลตัวเองหลังฉีด Meso Fat (เมโสแฟต) มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าก่อนการฉีด Meso Fat เพราะจะช่วยให้ลดไขมันได้ดีขึ้น ลดอาการบวมช้ำ และเข้าที่เร็วขึ้น หากดูแลผิดวิธีอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจน หรือเกิดผลข้างเคียงได้ง่าย คำแนะนำที่ควรปฏิบัติหลังฉีด Meso Fat มีดังนี้
1.หลังฉีด Meso Fat ประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก
ประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก หลังฉีด Meso Fat ช่วยลดบวม แดง และความระคายเคืองบริเวณที่ฉีด ควรประคบเย็นเป็นระยะ ๆ ครั้งละ 10-15 นาที หลีกเลี่ยงการประคบนานเกินไป
2.หลังฉีด Meso Fat หลีกเลี่ยงการนวดแรง ๆ ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
หลีกเลี่ยงการนวดแรง ๆ ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด Meso Fat โดยเฉพาะบริเวณที่ฉีด เช่น แก้ม เหนียง หรือลำตัว การนวดแรงเกินไปอาจทำให้สารกระจายผิดจุด หรือผิวช้ำมากขึ้น
3.หลังฉีด Meso Fat งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 48-72 ชั่วโมง
งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 48-72 ชั่วโมง หลังฉีด Meso Fat เพราะแอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เกิดรอยช้ำหรือบวมมากขึ้น ส่วนบุหรี่ส่งผลต่อการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อและการไหลเวียนของเลือด อาจทำให้การขับไขมันช้าลง
4.หลังฉีด Meso Fat ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร
ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร หลังฉีด Meso Fat เพราะน้ำช่วยให้ระบบน้ำเหลืองทำงานดีขึ้น ช่วยขับไขมันที่แตกตัวออกจากร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ
5.หลังฉีด Meso Fat งดการแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
งดการแต่งหน้าหลังฉีด Meso Fat (หากฉีดบริเวณใบหน้า) อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากเครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรก หลังจากนั้นสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติเมื่อผิวกลับมาสงบดีแล้ว
6.หลังฉีด Meso Fat หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดและความร้อนในช่วง 2-3 วันแรก
หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดและความร้อนในช่วง 2-3 วันแรกหลังฉีด Meso Fat เช่น การซาวน่า อบไอน้ำ หรือออกแดดจัด ความร้อนอาจกระตุ้นให้ผิวบวมแดงมากขึ้น และอาจระคายเคือง
7.หลังฉีด Meso Fat งดการออกกำลังกายหนักช่วง 1-2 วันแรก
งดการออกกำลังกายหนักช่วง 1-2 วันแรกหลังฉีด Meso Fat การเคลื่อนไหวรุนแรงอาจเพิ่มอาการบวมช้ำ หากจะออกกำลังกายควรเลือกแบบเบา ๆ เช่น เดินช้า ๆ หรือโยคะ
8.หลังฉีด Meso Fat รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
หลังฉีด Meso Fat รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และหลีกเลี่ยงของมัน ของทอด น้ำตาลสูง เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมใหม่ ส่งเสริมผลลัพธ์ของ Meso Fat ให้อยู่นานขึ้น
9.หลังฉีด Meso Fat มาติดตามผลตามนัดกับแพทย์
ติดตามผลตามนัดกับแพทย์หลังฉีด Meso Fat เพื่อประเมินผลลัพธ์ และวางแผนการฉีดครั้งต่อไป (หากจำเป็น) รวมถึงหากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมไม่ลด แดงมาก หรือปวดรุนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที
ฉีด Meso Fat กี่ครั้งถึงจะเห็นผล
การฉีด Meso Fat จะเห็นผลเริ่มต้นตั้งแต่ครั้งแรก โดยไขมันจะลดลงประมาณ 10-30% หลังฉีด 5-7 วัน และผลลัพธ์จะชัดเจนอย่างเต็มที่ภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่โดยทั่วไปเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานมากขึ้น มักแนะนำให้ฉีดต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างระหว่างการฉีดแต่ละครั้งประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมและคำแนะนำของแพทย์แต่ละราย
สรุปคือการฉีด Meso Fat ส่วนใหญ่ควรทำอย่างน้อย 3-5 ครั้งตามคำแนะนำแพทย์ เพื่อให้ไขมันลดอย่างมีประสิทธิภาพและผลลัพธ์อยู่ได้นาน
ฉีด Meso Fat กี่วันถึงเห็นผล
โดยทั่วไป หลังฉีด Meso Fat จะเริ่มเห็นผลว่าไขมันบริเวณที่ฉีดลดลงประมาณ 10-15% และบริเวณนั้นยุบลงได้ใน 5-7 วัน หลังฉีด 2-3 สัปดาห์จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเต็มที่ โดยระยะเวลาเห็นผลขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันเดิม ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีด เช่น การควบคุมอาหารและออกกำลังกายจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
ฉีด Meso Fat อยู่ได้นานแค่ไหน
โดยทั่วไปผลลัพธ์การฉีด Meso Fat จะอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคน เช่น การออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร หลังฉีดครั้งแรกไขมันจะเริ่มลดลงประมาณ 10-15% ภายใน 5-7 วันและจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์ แต่หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ควรฉีด Meso Fat ต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์และดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม
ฉีด Meso Fat ควรฉีดกี่ CC
ปริมาณฉีด Meso Fat ต่อครั้งขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณไขมันสะสมของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปมีคำแนะนำดังนี้
• แฟตแก้ม เริ่มต้นประมาณ 3 CC ต่อข้าง รวม 6 CC ต่อครั้ง
• แฟตเหนียง เริ่มต้นที่ 6 CC ต่อครั้ง แต่ถ้ามีไขมันมากอาจถึง 20 CC
• แฟตแขน ข้างละ 10-20 CC รวม 20-40 CC
• แฟตขา ข้างละ 20 CC ขึ้นไป
• แฟตหน้าท้องและสะโพก 20-40 CC ต่อครั้ง
โดยปริมาณฉีด Meso Fat แต่ละครั้งจะต้องประเมินโดยแพทย์ตามขนาดพื้นที่และไขมันสะสม อย่างไรก็ดี ปริมาณ Meso Fat ที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการบวมมากหลังฉีด จึงมักแนะนำให้ทยอยฉีดและทำเป็นคอร์สหลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง
ฉีด Meso Fat มีผลข้างเคียงไหม
แม้ว่า Meso Fat (เมโสแฟต) จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้เช่นกัน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น Meso Fat ที่ใช้, ความชำนาญของแพทย์, การดูแลหลังฉีด และสภาพผิวของแต่ละคน โดยสามารถสรุปผลข้างเคียงของการฉีด Meso Fat ที่ควรรู้ได้ดังนี้
ผลข้างเคียงทั่วไปในการฉีด Meso Fat (พบได้บ่อย แต่ไม่อันตราย)
1.อาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด Meso Fat
• พบได้ภายใน 1-3 วันหลังฉีด Meso Fat
• เกิดจากปฏิกิริยาของผิวหนังต่อสารที่ฉีด Meso Fat
• หลังฉีด Meso Fat มักหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา
2.รอยช้ำหรือรอยเข็มหลังฉีด Meso Fat
• อาจเกิดจากการที่เข็มไปโดนเส้นเลือดเล็กใต้ผิว
• มักพบในผู้ที่ผิวบาง หรือรับประทานยาเสริมบางชนิด
• หลังฉีด Meso Fat รอยช้ำจะค่อย ๆ จางลงภายใน 5-7 วัน
3.อาการแสบตึงหรือระบมหลังฉีด Meso Fat
• รู้สึกตึง บวม หรือแสบเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด Meso Fat
• อาจเกิดจากแรงดันของสารและปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อไขมัน
• หลังฉีด Meso Fat หากไม่รุนแรงสามารถประคบเย็นและพักผ่อนได้
ผลข้างเคียงที่พบได้แต่ไม่บ่อย ในการฉีด Meso Fat
4.อาการแพ้สารที่ฉีด Meso Fat
• บางคนอาจมีอาการแพ้ เช่น คัน แดง ผื่น หรือมีไข้ต่ำ ๆ
• ก่อนฉีด Meso Fat ควรแจ้งแพทย์หากเคยแพ้สารใด ๆ มาก่อน
• ในบางกรณีแพทย์อาจทดสอบการแพ้ก่อนฉีด Meso Fat
5.ผิวไม่เรียบ หรือไขมันลดไม่สม่ำเสมอ หลังฉีด Meso Fat
• เกิดจากการฉีดกระจุกเกินไปในบางจุด หรือฉีดลึกตื้นไม่เท่ากัน
• พบบ่อยหากฉีด Meso Fat กับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์
• สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดซ้ำหรือดูแลเพิ่มเติมในครั้งถัดไป
ผลข้างเคียงรุนแรง (พบได้น้อยมาก) ในการฉีด Meso Fat
6.ติดเชื้อบริเวณที่ฉีด Meso Fat
• อาจเกิดจากการใช้เครื่องมือไม่สะอาด หรือคลินิกไม่ได้มาตรฐาน
• อาการเช่น ปวดมาก มีหนอง แดงร้อน หรือมีไข้สูง
• หลังฉีด Meso Fat ควรพบแพทย์ทันทีหากสงสัยว่ามีการติดเชื้อ
7.อาการแพ้รุนแรงหลังฉีด Meso Fat
• พบได้ยากมาก แต่เป็นภาวะฉุกเฉิน เช่น หายใจติดขัด หน้าบวม ความดันต่ำ
• หากเคยมีประวัติแพ้ยาอย่างรุนแรง ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีด Meso Fat ทันที
Meso Fat ไม่เหมาะกับใครบ้าง
แม้ว่า Meso Fat จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็มีกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยง หรือ ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด ก่อนเข้ารับการฉีด Meso Fat เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ได้ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
1.Meso Fat ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
เนื่องจากสารบางชนิดที่ใช้ในเมโสแฟตอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือผ่านทางน้ำนมแม่ได้ ยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันความปลอดภัยในกลุ่มนี้อย่างชัดเจน ควรรอจนพ้นช่วงตั้งครรภ์และให้นมก่อนจึงเข้ารับบริการ
2.Meso Fat ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคตับ หรือโรคไตเรื้อรัง
การขับไขมันออกจากร่างกายต้องอาศัยระบบการทำงานของตับและไตเป็นหลัก หากอวัยวะเหล่านี้ทำงานผิดปกติ อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถขจัดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
3.Meso Fat ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือแพ้ง่าย
เช่น ผู้ป่วยโรค SLE, โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคแพ้โปรตีนบางชนิด การฉีดสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายอาจกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยารุนแรง เช่น บวมแดง คันลาม หรือช็อกจากการแพ้
4.Meso Fat ไม่เหมาะกับผู้ที่มีการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเป็นสิวในบริเวณที่จะฉีด
หากมีแผลเปิด สิวอักเสบ หรือผิวหนังติดเชื้ออยู่ การฉีดเมโสแฟตอาจทำให้การติดเชื้อลุกลามมากขึ้น ควรรักษาอาการเหล่านั้นให้หายก่อนจึงจะฉีดได้
5.Meso Fat ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคเรื้อรังควบคุมไม่ได้
เช่น เบาหวานความดันสูงที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคหัวใจรุนแรง ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบประวัติสุขภาพทั้งหมดก่อนพิจารณาทำหัตถการ
6.Meso Fat ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้สารใน Meso Fat
หากเคยฉีดเมโสแฟตแล้วเกิดอาการแพ้ เช่น บวมแดง คัน ผื่นขึ้น หรือมีภาวะช็อก ควรงดการฉีดในอนาคตแนะนำให้ทำการทดสอบการแพ้ (Skin test) ก่อนในกรณีไม่แน่ใจ
Meso Fat vs หัตถการช่วยลดไขมันอื่น ๆ
สำหรับผู้ที่ไม่เคยฉีด Meso Fat มาก่อน และลังเลว่าควรเลือกอะไรดี ขอมาเปรียบเทียบ Meso Fat, CoolSculpting และ การดูดไขมัน เพื่อให้เข้าใจถึงข้อดีข้อเสีย หรือข้อจำกัดของแต่ละหัตถการ และเหมาะกับใคร เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
1.Meso Fat
ข้อดีของ Meso Fat
• Meso Fat เป็นหัตถการแบบไม่ผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
• Meso Fat เหมาะกับการลดไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน
• Meso Fat ราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับหัตถการอื่น ทำซ้ำได้บ่อยตามต้องการ
• Meso Fat ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน เพียง 15-30 นาทีต่อครั้ง
• Meso Fat อาจบวมแดงเพียงเล็กน้อย และหายได้เองในไม่กี่วัน
ข้อจำกัดของ Meso Fat
• Meso Fat ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะเห็นผลชัดเจน
• Meso Fat ผลลัพธ์ไม่ถาวร หากไม่ควบคุมน้ำหนัก ไขมันอาจกลับมาได้
• Meso Fat ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันในปริมาณมาก
• Meso Fat หากแพ้สารบางชนิดอาจเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้
Meso Fat เหมาะกับใคร
• Meso Fat เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมเล็กน้อย เฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง
• Meso Fat เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น
• Meso Fat เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นดูแลรูปร่าง และอยากเห็นผลในระดับเบื้องต้น
• Meso Fat เหมาะกับคนงบน้อยที่อยากลดไขมันแบบค่อยเป็นค่อยไป
2.CoolSculpting
ข้อดีของ CoolSculpting
• เป็นเทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็นที่ได้รับการรับรองจาก US FDA
• ไม่มีแผล ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
• ลดไขมันได้แบบถาวรในบริเวณที่ทำ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา
• ทำเพียง 1-2 ครั้งต่อจุด ก็เห็นผลในระยะยาว
• ความเสี่ยงต่ำ ไม่ต้องใช้สารฉีดเข้าร่างกาย
ข้อจำกัดของ CoolSculpting
• ราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะหากทำหลายจุด
• ผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไป เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
• บางรายอาจเกิดรอยช้ำ ผิวแข็ง หรือตึงในจุดที่ทำชั่วคราว
• ไม่สามารถควบคุมรูปทรงได้แม่นยำเหมือนการดูดไขมัน
CoolSculpting เหมาะกับใคร
• คนที่มีไขมันสะสมระดับปานกลางในหลายจุดของร่างกาย
• ผู้ที่กลัวการผ่าตัดหรือไม่ต้องการฉีดสารเข้าไปในร่างกาย
• คนที่ยินดีรอผลลัพธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป
• ผู้ที่ต้องการลดไขมันถาวรโดยไม่ต้องพักฟื้น
3.การดูดไขมัน
ข้อดีของการดูดไขมัน
• เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ สามารถเอาไขมันออกได้มากในครั้งเดียว
• ปรับสัดส่วนได้ตรงจุด เช่น เอว S หน้าท้องแบนเรียบ
• ผลลัพธ์ถาวรหากควบคุมน้ำหนักดี
• เหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนรูปร่างชัดเจนในเวลาอันรวดเร็ว
ข้อจำกัดของการดูดไขมัน
• เป็นหัตถการที่ต้องผ่าตัด มีแผล และต้องพักฟื้นหลายวัน
• มีความเสี่ยงเรื่องการติดเชื้อ แผลเป็น หรือผิวไม่เรียบ
• ราคาสูงกว่าวิธีอื่น
• ต้องดูแลหลังทำอย่างเข้มงวด เช่น ใส่ชุดกระชับ ทายา และมาตรวจตามนัด
การดูดไขมันเหมาะกับใคร
• คนที่มีไขมันส่วนเกินจำนวนมาก และต้องการกำจัดในระยะสั้น
• ผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างอย่างจริงจัง เช่น เอวชัด ต้นขาเล็ก
• คนที่ไม่มีปัญหากับการพักฟื้น และสามารถดูแลตัวเองหลังทำได้
• ผู้ที่มีงบประมาณเพียงพอ และยอมรับความเสี่ยงได้
สรุป หากคุณต้องการลดไขมันเฉพาะจุดแบบเบา ๆ เห็นผลแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยไม่ต้องพักฟื้น Meso Fat คือตัวเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่มีไขมันปานกลางแต่ไม่อยากผ่าตัดและต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป CoolSculpting คือคำตอบ แต่ถ้าคุณต้องการเห็นผลที่อยู่ได้ยาวนาน และยอมรับความเสี่ยงได้ การดูดไขมัน คือทางเลือกที่ตอบโจทย์
ฉีด Meso Fat กับคลินิกที่มีมาตรฐานควรดูอะไร
การฉีด Meso Fat ถือเป็นหัตถการที่ลดความเสี่ยง หากทำโดยแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แต่หากเลือกคลินิกผิด อาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น บวมผิดปกติ อักเสบ ติดเชื้อ หรือหน้าเบี้ยวได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีด Meso Fat ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้อย่างรอบคอบ
1.ก่อนฉีด Meso Fat ควรตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข
• คลินิกที่ดีควรมี ใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ติดอยู่บริเวณหน้าร้านให้ตรวจสอบได้
• หมายเลขใบอนุญาตควรสามารถตรวจสอบกับเว็บไซต์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สธ.) ได้จริง
2.ก่อนฉีด Meso Fat ควรตรวจสอบว่าแพทย์มีใบประกอบวิชาชีพ
• ควรเป็น แพทย์จริง ไม่ใช่หมอกระเป๋า หรือพนักงานที่ไม่ได้รับอนุญาต
• มีใบประกอบโรคศิลปะจากแพทยสภา
• หากเป็นคลินิกความงามโดยเฉพาะ ควรมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือเวชกรรมความงาม
3.ก่อนฉีด Meso Fat ควรตรวจสอบว่าคลินิกใช้ผลิตภัณฑ์เมโสแฟตของแท้
• Meso Fat ที่นำมาฉีดต้องเป็นผลิตภัณฑ์ของแท้ ไม่ใช่ของปลอมหรือแอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย
• ขอให้คลินิกแสดงเลขทะเบียนหรือฉลากผลิตภัณฑ์ให้ดูก่อนได้ เพื่อความมั่นใจ
4.ก่อนฉีด Meso Fat ควรตรวจสอบบรรยากาศและความสะอาดของคลินิก
• คลินิกที่ดีควรสะอาด ปลอดเชื้อ เครื่องมือแพทย์ควรผ่านการฆ่าเชื้อและจัดเก็บเป็นระเบียบ
• ห้องหัตถการควรแยกจากบริเวณอื่น มีความเป็นส่วนตัว และอากาศถ่ายเทดี
5.ก่อนฉีด Meso Fat ควรตรวจสอบว่ามีการประเมินโดยแพทย์ก่อนทำ
• ก่อนฉีด Meso Fat ควรได้รับการซักประวัติสุขภาพและประเมินสภาพผิวจากแพทย์
• ไม่ควรรีบขายคอร์สโดยไม่ดูสภาพผิว หรือไม่อธิบายผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
6.ก่อนฉีด Meso Fat ควรตรวจสอบว่ามีระบบติดตามผลหลังทำ
• คลินิกควรมีบริการติดตามผลหลังฉีด Meso Fat เช่น นัดประเมิน หรือให้คำแนะนำในการดูแลตนเอง
• หากมีปัญหาหลังฉีด Meso Fat เช่น บวมมาก ผิวไม่เท่ากัน ควรสามารถกลับมาปรึกษาแพทย์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
7.ก่อนฉีด Meso Fat ควรตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริงและความน่าเชื่อถือ
• ดูรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริงในการฉีด Meso Fat ทั้งในเว็บไซต์ Google, Facebook หรือเพจคลินิก
• พิจารณาความน่าเชื่อถือของคลินิก เช่น จำนวนผู้ติดตาม ระยะเวลาที่เปิดดำเนินการ และภาพก่อน-หลังของลูกค้า
8.ก่อนฉีด Meso Fat ควรตรวจสอบราคาฉีด Meso Fat ที่สมเหตุสมผล
• หากราคาถูกผิดปกติ ควรตั้งข้อสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ Meso Fat นั้นอาจไม่ได้มาตรฐานหรือมีการหัตถการโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์
• คลินิกที่ดีมักแจ้งรายละเอียดของ Meso Fat ที่ใช้ และราคาต่อ cc อย่างชัดเจน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Meso Fat
1.ฉีด Meso Fat แล้วกลับมามีไขมันสะสมอีกได้ไหม
คำตอบ หลังฉีด Meso Fat ยังสามารถกลับมามีไขมันสะสมได้ หากไม่มีการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เนื่องจากการฉีด Meso Fat จะช่วยลดไขมันในบริเวณที่ฉีดให้แตกตัวและขับออกทางระบบน้ำเหลือง ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะหนึ่ง แต่หากหลังฉีดมีพฤติกรรมรับประทานอาหารมัน หวาน หรือไม่ออกกำลังกายเลย ไขมันใหม่ก็สามารถกลับมาสะสมได้อีก
2.อายุเท่าไหร่ถึงฉีด Meso Fat ได้
คำตอบ โดยทั่วไป สามารถเริ่มฉีด Meso Fat ได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป หรือเมื่อร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว แม้จะไม่มีข้อห้ามชัดเจนสำหรับวัยรุ่น แต่แพทย์มักแนะนำให้รอจนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ก่อน เพราะในวัยรุ่นระบบเผาผลาญยังดี และรูปร่างอาจเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติได้อยู่ จึงควรเน้นการควบคุมอาหารและออกกำลังกายก่อน
3.คนท้องสามารถฉีด Meso Fat ได้ไหม
คำตอบ ไม่ควรฉีด Meso Fat ในขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากสารที่ใช้ในการฉีดอาจเข้าสู่กระแสเลือด และมีโอกาสส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือผ่านทางน้ำนมได้ แม้ปริมาณสารที่ใช้จะมีไม่มาก แต่ยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันความปลอดภัยในหญิงตั้งครรภ์ จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการฉีด Meso Fat และควรรอจนคลอดหรือหยุดให้นมบุตรแล้วค่อยทำหัตถการ
สรุปเกี่ยวกับ Meso Fat
สรุปว่า Meso Fat คือทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือดูดไขมัน ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดไขมัน กระชับผิว และยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น การฉีด Meso Fat จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรทำกับคลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ประจำคลินิก และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ของแท้เท่านั้น
นอกจากนี้ การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีด Meso Fat อย่างถูกวิธี รวมถึงการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ หากคุณกำลังมองหาวิธีลดไขมันเฉพาะจุดที่ไม่เจ็บตัวมาก Meso Fat คือคำตอบที่น่าสนใจ
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ