romrawin

โปรแกรมฉีด Fat แก้ม คืออะไร อยู่ได้กี่เดือน ฉีดกี่ CC ถึงเห็นผล

ฉีด Fat แก้ม

ฉีด Fat แก้ม คืออะไร อยู่ได้กี่เดือน ฉีดกี่ CC ถึงเห็นผล
การมีใบหน้าที่เรียวเล็ก กรอบหน้าชัด เป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ แต่ปัญหาไขมันสะสมบริเวณแก้มอาจเป็นอุปสรรคที่ทำให้หน้าดูกลม ป่อง หรือดูอวบอิ่มเกินไป การฉีด Fat แก้ม หรือที่เรียกกันว่าเมโสแฟตแก้ม จึงกลายเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมในยุคนี้ เพราะช่วยลดไขมันส่วนเกินได้อย่างเฉพาะจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ที่ดี

บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจทุกแง่มุมของการฉีด Fat แก้ม ตั้งแต่หลักการทำงาน ใครบ้างที่เหมาะหรือไม่เหมาะ ข้อดี ข้อควรระวัง วิธีเตรียมตัว วิธีดูแลตัวเองหลังทำ เห็นผลอยู่ได้นานแค่ไหน ควรฉีด Fat แก้ม กี่ CC ไปจนถึงการเปรียบเทียบกับหัตถการอื่น ๆ อย่างดูดไขมันหรือ HIFU เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากที่สุด

ฉีด Fat แก้ม คืออะไร ช่วยลดแก้มอย่างไร
การฉีด Fat แก้ม หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า การฉีดลดไขมันบริเวณแก้ม คือ หัตถการเสริมความงามที่ใช้เทคนิคการฉีดตัวยาลดไขมันเข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยลดไขมันสะสมบริเวณแก้มที่ทำให้หน้าดูกลม ป่อง หรือไม่เรียวสวย

การฉีด Fat แก้มจึงเป็นหนึ่งในวิธีปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับความนิยมมาก ในกลุ่มคนที่ต้องการหน้าเรียวขึ้นอย่างแลดูเป็นธรรมชาติ ลดแก้มโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ และไม่ต้องพักฟื้นนาน

กลไกการทำงานของการฉีด Fat แก้ม คือ หลังจากฉีดตัวยาลดไขมันเข้าไปบริเวณแก้ม สารเหล่านี้จะไปทำลายผนังของเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวออก และเข้าสู่กระบวนการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งร่างกายจะขับไขมันที่แตกตัวออกทางระบบน้ำเหลือง ปัสสาวะ หรือเหงื่อภายในระยะเวลาไม่นานหลังฉีด

ข้อดีของการฉีด Fat แก้ม ช่วยอะไรบ้าง
การฉีด Fat แก้ม เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมาก เพราะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งประโยชน์ของการฉีด Fat แก้มมีหลายด้าน โดยสามารถสรุปได้ดังนี้

1.ฉีด Fat แก้ม ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม
การฉีด Fat แก้ม ช่วยลดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดในบริเวณแก้ม ที่มักลดได้ยากแม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

2.ฉีด Fat แก้ม ช่วยปรับรูปหน้าให้สมส่วน
เมื่อไขมันแก้มลดลง โครงหน้าส่วนล่างจะชัดเจนขึ้น ส่งผลให้รูปหน้าโดยรวมดูได้สัดส่วนมากขึ้น และสามารถช่วยให้กรอบหน้าคมชัดขึ้นด้วย

3.ฉีด Fat แก้ม ช่วยลดปัญหาแก้มป่อง แก้มบาน แก้มตุ่ย
เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้ากลมจากไขมันสะสม ไม่ใช่กระดูกโครงหน้าใหญ่ การฉีด Fat แก้ม จะช่วยลดขนาดแก้มให้เล็กลงโดยไม่ต้องผ่าตัด

4.ฉีด Fat แก้ม เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัดดูดไขมัน
ฉีด Fat แก้มเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เจ็บเหมือนการดูดไขมัน และใช้เวลาในการทำไม่นาน จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวก และลดความเสี่ยงจากการดูดไขมัน

5.ฉีด Fat แก้ม เห็นผลลัพธ์ในเวลาไม่นาน
หลังฉีด Fat แก้ม ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ภายใน 3-7 วันหลังทำ โดยใบหน้าจะเริ่มเรียวลง และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ภายใน 2-4 สัปดาห์

6.ฉีด Fat แก้ม กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลือง
ตัวยาบางชนิดที่ใช้ในการฉีด Fat แก้ม มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและช่วยขับของเสีย ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดดูสดใสขึ้นด้วย

7.ฉีด Fat แก้ม ช่วยลดอาการบวมน้ำบนใบหน้า
ผู้ที่มีปัญหาบวมน้ำบริเวณแก้มบางรายอาจได้ผลดีจากการฉีด Fat แก้ม เพราะช่วยขับของเหลวส่วนเกินและปรับสมดุลของของเหลวในชั้นใต้ผิวหนัง

8.ฉีด Fat แก้ม ไม่มีแผลเป็นหรือรอยแผล
การฉีด Fat แก้ม เพื่อลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม ใช้เพียงเข็มขนาดเล็กหรือเข็มปลายทู่ ไม่มีการกรีดผิว ไม่มีรอยแผลเป็นให้กังวล

ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีด Fat แก้ม
ผู้ที่เหมาะกับการฉีด Fat แก้ม คือกลุ่มคนที่ต้องการลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มเป้าหมายได้ดังนี้

1.ฉีด Fat แก้ม เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มมาก
• ผู้ที่มีแก้มตุ่ย แก้มป่อง แก้มบาน ทำให้ใบหน้าดูกลม
• ผู้ที่ลดน้ำหนักแล้วแต่ไขมันที่แก้มไม่ลด
• ผู้ที่มีไขมันเฉพาะจุดที่ลดได้ยากหรือดื้อยา

2.ฉีด Fat แก้ม เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว V-Shape
• ผู้ที่ต้องการให้โหนกแก้มเด่นขึ้น กรอบหน้าคมชัด
• ผู้ที่อยากได้ใบหน้าที่ดูเรียวสวยอย่างแลดูเป็นธรรมชาติ
• ผู้ที่มีใบหน้าแบบกลมหรือทรงลูกแพร์

3.ฉีด Fat แก้ม เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือดูดไขมัน
• ผู้ที่ต้องการลดแก้มและไม่ต้องการพักฟื้นนาน
• ผู้ที่กลัวเจ็บจากการผ่าตัดหรือดูดไขมัน
• ผู้ที่อยากเห็นผลโดยไม่รบกวนชีวิตประจำวัน

4.ฉีด Fat แก้ม เหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหรือกระดูกใบหน้า
• หากหน้ากลมหรือแก้มใหญ่เพราะไขมัน ไม่ใช่เพราะโครงสร้างกระดูกหรือกล้ามเนื้อ การฉีด Fat แก้ม จะเห็นผลชัดเจนกว่าคนที่มีกระดูกหน้ากว้าง

5.ฉีด Fat แก้ม เหมาะกับคนที่เคยฉีดโบท็อกซ์ลดกรามแล้วแต่ยังหน้ากลม
• บางคนฉีดโบท็อกซ์กรามเพื่อลดกล้ามเนื้อกรามแล้ว แต่ใบหน้ายังดูใหญ่ อาจเกิดจากไขมันแก้ม ซึ่งสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ด้วยการฉีด Fat แก้ม

6.ฉีด Fat แก้ม เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูดีขึ้นก่อนออกงานหรือถ่ายภาพ
• ฉีด Fat แก้มช่วยให้ใบหน้าดูเล็กลงในเวลาไม่นาน เหมาะสำหรับคนที่มีงานสำคัญใกล้เข้ามา เช่น ถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง รับปริญญา งานแต่ง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในการฉีด Fat แก้ม
การฉีด Fat แก้ม เป็นหัตถการที่ถือว่าค่อนข้างไม่เป็นอันตราย หากทำโดยแพทย์ คลินิกได้มาตรฐาน และใช้ตัวยาของแท้ อย่างไรก็ตาม การฉีด Fat แก้ม ยังมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งแบบเล็กน้อยชั่วคราว และในบางกรณีอาจมีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งผู้เข้ารับการฉีด Fat แก้ม ควรทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมตัวและสังเกตอาการหลังทำ ดังนี้

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (อาการชั่วคราว)
1.บวมแดงบริเวณที่ฉีด Fat แก้ม
• พบได้ทั่วไปหลังการฉีด Fat แก้ม ใน 1-3 วันแรก
• เกิดจากการอักเสบเล็กน้อยของเนื้อเยื่อหลังฉีดสารสลายไขมัน
• อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองโดยไม่ต้องรักษา

2.ช้ำหรือเขียวเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด Fat แก้ม
• เกิดจากเข็มเจาะโดนเส้นเลือดฝอย
• จะจางลงภายใน 3-7 วัน หลังฉีด Fat แก้ม
• สามารถประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการช้ำได้

3.รู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด Fat แก้ม
• อาการนี้มักอยู่เพียง 1-3 วัน และดีขึ้นเอง
• หากเจ็บมากหรือไม่ดีขึ้น ควรแจ้งแพทย์ทันที

4.ใบหน้าบวมน้ำเล็กน้อยหลังฉีด Fat แก้ม
• เพราะเซลล์ไขมันที่ถูกสลายจะปล่อยของเหลวออกมา
• อาการนี้มักหายภายในไม่กี่วัน และจะเห็นผลหน้าตอบชัดขึ้นหลังบวมหาย

ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย (ภาวะแทรกซ้อน)
5.หลังฉีด Fat แก้ม อาจมีอาการแพ้ตัวยา
• พบได้น้อยมาก เช่น ผื่น คัน ลมพิษ หรือแน่นหน้าอก
• ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

6.หลังฉีด Fat แก้ม อาจอักเสบหรือติดเชื้อ
• หากสถานที่ไม่สะอาด หรือดูแลหลังฉีดไม่ดี
• อาจมีอาการบวมแดงรุนแรง เจ็บร้อน มีไข้ร่วมด้วย
• ควรรีบพบแพทย์ทันทีหากสงสัยว่าติดเชื้อ

7.หลังฉีด Fat แก้ม ไขมันลดไม่เท่ากัน
• หากฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ อาจเกิดปัญหาแก้มสองข้างไม่เท่ากัน หรือหน้าตอบเกินไป
• แนะนำให้ทำกับแพทย์ที่เคยฉีด Fat แก้ม และประจำอยู่ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน

8.หลังฉีด Fat แก้ม อาจเกิดก้อนแข็งหรือพังผืดใต้ผิวหนัง
• อาจเกิดจากการฉีดผิดชั้นผิว หรือร่างกายตอบสนองต่อสารที่ฉีด
• มักหายไปเอง แต่ในบางรายอาจต้องใช้เลเซอร์ช่วยแก้ไขปัญหา

ฉีด Fat แก้ม ไม่เหมาะกับใครบ้าง
แม้ว่าการฉีด Fat แก้ม จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะในบางกรณีที่อาจมีข้อห้ามหรือความเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนั้นก่อนเข้ารับการฉีด Fat แก้ม ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด หรือปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ โดยกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับการฉีด Fat แก้ม มีดังนี้

1.ฉีด Fat แก้ม ไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณแก้มน้อยเกินไป
หากแก้มไม่ได้มีไขมันสะสมมาก การฉีด Fat แก้ม อาจทำให้หน้าตอบหรือหน้าโทรมดูมีอายุ จึงเหมาะกับการยกกระชับด้วย HIFU หรือ Thermage มากกว่า

2.ฉีด Fat แก้ม ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาโครงหน้ากว้างจากกระดูกหรือกล้ามเนื้อ
หากหน้าดูกลมเพราะกรามใหญ่หรือกระดูกโหนกแก้ม ไม่ใช่ไขมัน การฉีด Fat แก้ม จะไม่ช่วยให้หน้าเรียวขึ้น แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม เช่น โบท็อกซ์ลดกราม หรือปรับรูปหน้าด้วยวิธีอื่น

3.ฉีด Fat แก้ม ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
แม้ว่าตัวยาที่ใช้ในการฉีด Fat แก้ม จะไม่ได้เป็นอันตรายโดยตรง แต่เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง ควรหลีกเลี่ยงการฉีดสารทุกชนิดในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมลูก

4.ฉีด Fat แก้ม ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้สารในตัวยาฉีด
หากมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้าก่อนเข้ารับการฉีด Fat แก้ม เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ผื่น ลมพิษ บวม หรือช็อก

5.ฉีด Fat แก้ม ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด
เช่น โรคเกี่ยวกับตับ ไต ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคระบบน้ำเหลือง หรือผู้ที่รับยาละลายลิ่มเลือด อาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน หรือร่างกายไม่สามารถขับไขมันออกได้ตามปกติ

6.ฉีด Fat แก้ม ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ หรือมีแผลบริเวณที่จะฉีด
เช่น สิวอักเสบ แผลเปิด หรือผื่นแพ้ การฉีด Fat ในจุดที่ผิวไม่แข็งแรง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง

ข้อควรรู้การเตรียมตัวก่อนฉีด Fat แก้ม
การเตรียมตัวก่อนฉีด Fat แก้ม อย่างถูกต้องมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้การฉีด Fat แก้ม เป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง และได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ โดยผู้ที่สนใจฉีด Fat แก้ม ควรทราบข้อควรรู้ก่อนเข้ารับบริการ ดังต่อไปนี้

1.ก่อนฉีด Fat แก้ม ควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหัตถการ
• ทำความเข้าใจว่า การฉีด Fat แก้ม คือการฉีดตัวยาลดไขมันเพื่อกำจัดไขมันสะสมเฉพาะจุด
• รู้จักผลลัพธ์ ข้อจำกัด และจำนวนครั้งที่อาจต้องทำเพื่อให้เห็นผลชัดเจน
• เข้าใจว่าการฉีด Fat แก้ม ไม่ใช่การผ่าตัด จึงให้ผลแบบค่อยเป็นค่อยไป

2.ก่อนฉีด Fat แก้ม ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
• ตรวจสอบว่าได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
• ใช้ตัวยาของแท้ที่สามารถตรวจสอบได้
• แพทย์มีใบประกอบวิชาชีพและตรวจสอบได้
• มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงที่น่าเชื่อถือ

3.ก่อนฉีด Fat แก้ม งดทานยาบางชนิดล่วงหน้า 3-7 วัน
• ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), วิตามินอี, น้ำมันปลา
• หากมีโรคประจำตัวและจำเป็นต้องใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการฉีด Fat แก้ม

4.ก่อนฉีด Fat แก้ม งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ล่วงหน้าอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
• เพื่อป้องกันปัญหาเลือดไหลง่าย ฟกช้ำง่าย และลดการอักเสบ
• ช่วยให้ร่างกายพร้อมรับการรักษาและฟื้นตัวได้ดีขึ้น

5.ก่อนฉีด Fat แก้ม แจ้งแพทย์หากมีประวัติแพ้ยา หรือโรคประจำตัว
• โดยเฉพาะโรคแพ้สารเคมี ภูมิแพ้ การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ โรคตับ โรคไต
• เพื่อให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงก่อนทำหัตถการ

6.ก่อนฉีด Fat แก้ม พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนเข้ารับบริการ
• ร่างกายที่พร้อมจะช่วยลดอาการบวม ฟกช้ำ หรืออักเสบ
• เสริมภูมิคุ้มกันให้ฟื้นตัวได้ไวหลังฉีด Fat แก้ม

7.ก่อนฉีด Fat แก้ม งดแต่งหน้าหรือทาครีมก่อนเข้ารับบริการ
• เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังฉีด Fat แก้ม
• ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินสภาพผิวและวางแผนการฉีดได้อย่างแม่นยำ

8.ก่อนฉีด Fat แก้ม เตรียมใจให้พร้อม และตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผล
• เข้าใจว่าใบหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน การเห็นผลอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
• ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งในบางกรณี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน

หลังฉีด Fat แก้ม ต้องดูแลตัวเองอย่างไร
การดูแลตัวเองหลังฉีด Fat แก้ม เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ป้องกันผลข้างเคียง และฟื้นตัวเร็ว การปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องจะช่วยให้ไขมันที่ถูกขับออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น และลดอาการบวมช้ำหลังทำ โดยมีแนวทางการดูแลหลังฉีด Fat แก้ม ดังนี้

1.หลังฉีด Fat แก้ม หลีกเลี่ยงการจับ กด หรือนวดบริเวณที่ฉีด
• 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ไม่ควรนวดหน้าแรง ๆ หรือกดคลึงบริเวณที่ฉีด
• เพื่อป้องกันตัวยากระจายผิดตำแหน่ง และลดการอักเสบ

2.หลังฉีด Fat แก้ม ประคบเย็นทันทีหลังฉีดใน 24 ชั่วโมงแรก
• ช่วยลดอาการบวม ช้ำ และอักเสบ
• ใช้เจลเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็งประคบวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 10-15 นาที

3.หลังฉีด Fat แก้ม หลังจาก 48 ชั่วโมงสามารถประคบอุ่นเบา ๆ ได้ (หากยังบวม)
• ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และขับของเสียได้ไวขึ้น
• แต่หากไม่มีอาการบวมมาก ไม่จำเป็นต้องประคบอุ่น

4.หลังฉีด Fat แก้ม ดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 1.5-2 ลิตร
• ช่วยขับไขมันออกทางระบบน้ำเหลือง ปัสสาวะ และเหงื่อ
• ยิ่งดื่มน้ำเพียงพอ ร่างกายจะยิ่งขจัดของเสียได้ดี

5.หลังฉีด Fat แก้ม งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 3-5 วัน
• เพื่อลดความเสี่ยงต่อการอักเสบ ช้ำ และการฟื้นตัวช้า
• ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารที่ทำให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ

6.หลังฉีด Fat แก้ม งดอาหารหมักดอง เค็มจัด หรือเผ็ดจัด
• อาหารเหล่านี้อาจกระตุ้นให้ใบหน้าบวมน้ำหรือระคายเคืองหลังฉีด
• แนะนำทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบน้ำเหลือง เช่น ผักผลไม้สด

7.หลังฉีด Fat แก้ม งดออกกำลังกายหนัก 2-3 วันแรก
• การเคลื่อนไหวมากอาจทำให้เกิดการไหลเวียนเลือดมากผิดปกติในบริเวณที่ฉีด ทำให้บวมช้ำเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นสามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้

8.หลังฉีด Fat แก้ม หลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น ซาวน่า แช่น้ำร้อน เลเซอร์ ร้อยไหม
• ควรงดอย่างน้อย 7-14 วันหลังฉีด Fat แก้ม เพื่อไม่ให้กระตุ้นการอักเสบหรือรบกวนตัวยา

9.หลังฉีด Fat แก้ม เข้าพบแพทย์ตามนัดหมายติดตามผล
• เพื่อติดตามผลการฉีด Fat แก้ม และพิจารณาว่าจำเป็นต้องฉีดซ้ำหรือไม่
• หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงรุนแรง เจ็บมาก หรือเป็นก้อนแข็ง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ฉีด Fat แก้มกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
การฉีด Fat แก้ม หรือ เมโสแฟต (Meso Fat) ที่แก้ม โดยทั่วไปจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยไขมันจะลดลงประมาณ 10-15% หลังฉีดจะเริ่มเห็นว่าแก้มและเหนียงยุบลงใน 5-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ แต่จำนวนครั้งที่ต้องฉีดเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน จะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมของแต่ละคนและการประเมินของแพทย์ โดยคนที่มีไขมันเยอะมาก อาจต้องฉีดประมาณ 3-5 ครั้ง หรือบางรายอาจฉีดได้ตั้งแต่ 2-10 ครั้งห่างกันประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลดีและคงอยู่ได้นาน

สรุปก็คือ หากต้องการเห็นผลชัดเจน ควรฉีด Fat แก้ม ซ้ำประมาณ 3-5 ครั้ง ตามคำแนะนำของแพทย์ แต่สามารถเห็นผลเริ่มต้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดอย่างน้อย 10-15% และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์หลังฉีด

ฉีด Fat แก้ม ควรฉีดกี่ CC
โดยทั่วไปการฉีด Fat แก้ม หรือเมโสแฟตแก้ม จะใช้ปริมาณเริ่มต้นประมาณ 6 CC ต่อครั้ง (ข้างละ 3 CC ขึ้นไป) ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีแก้มป่องเล็กน้อยและไขมันไม่มาก
ในกรณีที่ไขมันสะสมเยอะ อาจต้องใช้ปริมาณมากขึ้นได้ถึง 12-18 CC หรือตั้งแต่ 6 CC ไปจนถึง 24 CC ต่อครั้งตามคำแนะนำของแพทย์และความเหมาะสมกับแต่ละบุคคล
แพทย์จะประเมินปริมาณยาที่เหมาะสมตามระดับไขมันสะสมบริเวณแก้มและความต้องการของคนไข้ โดยปริมาณที่เพียงพอจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์การลดไขมันชัดเจนประมาณ 10-15% หลังฉีด 5-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์

ดังนั้นการฉีด Fat แก้ม เริ่มต้นที่ประมาณ 6 CC ต่อครั้ง แต่สามารถปรับปริมาณให้มากหรือน้อยตามคำแนะนำของแพทย์ได้

ฉีด Fat แก้ม กี่วันถึงเห็นผล
หลังฉีด Fat แก้ม จะเริ่มเห็นผลการลดไขมันประมาณ 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกประมาณ 5-7 วันหลังฉีด และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังทำ ทั้งนี้ระยะเวลาเห็นผลขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมที่แก้มของแต่ละคน การดูแลตัวเอง เช่น การหลีกเลี่ยงของมัน ของทอด ดื่มน้ำให้เพียงพอ และการฉีด Fat แก้มซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อความชัดเจนของผลลัพธ์และให้ผลอยู่ได้นานขึ้น

สรุปคือจะเห็นผลเริ่มต้นใน 5-7 วัน แต่ผลลัพธ์เต็มที่จะชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์หลังฉีดแล้ว

ฉีด Fat แก้ม อยู่ได้นานแค่ไหน
หลังฉีด Fat แก้ม ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน โดยระยะเวลานี้ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันเดิมของแต่ละคนและการดูแลตัวเอง เช่น การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ไขมันสะสมใหม่เพิ่มขึ้น

ไขมันจะเริ่มลดลงและเห็นผลเบื้องต้นใน 5-7 วันหลังฉีด และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์หลังฉีด สามารถฉีดซ้ำได้ทุก 1-2 เดือนตามคำแนะนำแพทย์ เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น

ฉีด Fat แก้ม vs ดูดไขมัน vs HIFU เลือกแบบไหนดี
การเลือกวิธีลดแก้มเพื่อให้หน้าเรียวขึ้นมีหลายเทคนิค แต่ละวิธีมีข้อดี ข้อจำกัด และความเหมาะสมแตกต่างกัน ซึ่ง 3 วิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้แก่ การฉีด Fat แก้ม, การดูดไขมันหน้า และเลเซอร์ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) โดยขอนำทั้งสามหัตถการมาเปรียบเทียบ เพื่อให้เลือกวิธีที่เหมาะในการลดแก้มและหน้าเรียวขึ้น

1.การฉีด Fat แก้ม
การฉีด Fat แก้มเหมาะกับ
• คนที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มเล็กน้อยถึงปานกลาง
• ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นโดยไม่ผ่าตัด
• ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นผลในเวลาไม่นาน

จุดเด่นของการฉีด Fat แก้ม
• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บมาก
• ฟื้นตัวไว ไม่ต้องพักหน้า
• เห็นผลใน 3-7 วัน
• สามารถทำซ้ำได้หลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ต่อเนื่อง

ข้อจำกัดของการฉีด Fat แก้ม
• เหมาะกับการลดไขมันเฉพาะจุด ไม่ช่วยยกกระชับ
• ต้องฉีดซ้ำ 2-4 ครั้ง ขึ้นอยู่กับแต่ละคน
• ผลลัพธ์อยู่ได้นานแต่ไม่ถาวร ไขมันอาจกลับมาได้หากไม่ดูแลตัวเอง

2.การดูดไขมันหน้า
การดูดไขมันหน้าเหมาะกับ
• ผู้ที่มีไขมันแก้มจำนวนมาก และต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน
• ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนรูปหน้าที่คงอยู่ได้นานหลายเดือน
• ยอมรับการผ่าตัดและพักฟื้นได้

จุดเด่นของการดูดไขมันหน้า
• ช่วยลดไขมันออกโดยตรง เห็นผลหลังเข้าที่
• ผลลัพธ์ชัดเจน เหมาะกับผู้ที่มีไขมันเยอะ
• ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำบ่อย ๆ

ข้อจำกัดของการดูดไขมันหน้า
• เป็นหัตถการที่ต้องผ่าตัด มีความเสี่ยงเรื่องบวม ช้ำ ติดเชื้อ
• ต้องพักฟื้น 5-14 วัน
• ค่าใช้จ่ายสูงกว่า และต้องทำโดยแพทย์ที่มีความรู้

3.เลเซอร์ HIFU
เลเซอร์ HIFU เหมาะกับ
• ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ลดหย่อนคล้อย มากกว่าแค่ลดไขมัน
• คนที่มีผิวเริ่มหย่อนแต่ไขมันไม่มาก
• ต้องการกระตุ้นคอลลาเจน ไม่ต้องผ่าตัด

จุดเด่นของเลเซอร์ HIFU
• ยกกระชับผิวได้ลึกถึงชั้น SMAS
• ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
• ช่วยให้หน้าเรียว ผิวกระชับขึ้นในเวลาเดียวกัน

ข้อจำกัดของเลเซอร์ HIFU
• ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันแก้มเยอะมาก
• ผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไป เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 เดือน
• ต้องทำซ้ำทุก 6-12 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์

เลือกคลินิกฉีด Fat แก้มอย่างไรให้ปลอดภัย
การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อฉีด Fat แก้ม เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแม้การฉีด Fat แก้ม จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ซับซ้อน แต่หากเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น บวมผิดปกติ อักเสบ ติดเชื้อ หรือเกิดก้อนแข็งใต้ผิวได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจควรพิจารณาตามเกณฑ์ดังนี้

1.ก่อนฉีด Fat แก้ม ตรวจสอบว่าเป็นคลินิกที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง
• ควรเป็นคลินิกที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายกับกระทรวงสาธารณสุข
• มีเลขใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลแสดงอย่างชัดเจน
• มีที่ตั้งแน่นอน ตรวจสอบได้ ไม่ใช่คลินิกเถื่อนหรือแอบแฝงในบ้านพักอาศัย

2.ก่อนฉีด Fat แก้ม ตรวจสอบว่ามีแพทย์ประจำคลินิกที่มีใบประกอบวิชาชีพจริง
• แพทย์ควรมีใบประกอบโรคศิลป์ ตรวจสอบชื่อ-นามสกุลผ่านเว็บไซต์แพทยสภาได้
• สามารถให้คำปรึกษา วิเคราะห์รูปหน้า และแนะนำแนวทางการรักษาอย่างตรงไปตรงมา

3.ก่อนฉีด Fat แก้ม ตรวจสอบว่าคลินิกใช้เมโสของแท้และมีมาตรฐานเท่านั้น
• ตัวยาที่ใช้ต้องเป็นของแท้และได้รับรองมาตรฐาน
• คลินิกควรแสดงขวดตัวยาให้ดูต่อหน้า หรือมี Serial Number ให้ตรวจสอบได้
• หลีกเลี่ยงคลินิกที่ใช้ “ยาแชร์ ยาแบ่ง” หรือราคาถูกผิดปกติ

4.ก่อนฉีด Fat แก้ม ตรวจสอบว่าคลินิกสะอาด ได้มาตรฐาน ปลอดเชื้อ
• ห้องฉีดควรแยกเป็นสัดส่วน มีการฆ่าเชื้อเครื่องมืออย่างถูกวิธี
• มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลและฉุกเฉินครบถ้วน
• พนักงานและแพทย์สวมถุงมือ หน้ากาก และใช้อุปกรณ์ปลอดเชื้อ

5.ก่อนฉีด Fat แก้ม ตรวจสอบว่ามีรีวิวผู้ใช้จริงหรือผู้มีชื่อเสียงรับรอง
• ดูรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง ทั้งในเว็บไซต์ Facebook, Instagram หรือ Google Maps
• พิจารณาทั้งรีวิวเชิงบวกและข้อร้องเรียน เพื่อตัดสินใจอย่างรอบคอบ

6.ก่อนฉีด Fat แก้ม ตรวจสอบว่ามีการติดตามผลหลังทำ
• คลินิกที่ดีควรมีระบบติดตามผลหลังฉีด เช่น นัดประเมินผล นัดดูอาการหลัง 3-7 วัน
• มีช่องทางให้ปรึกษาแพทย์ได้หากมีอาการผิดปกติหลังทำ

7.ก่อนฉีด Fat แก้ม ตรวจสอบว่าราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกเกินไป
• ราคาที่ถูกผิดปกติอาจหมายถึงการใช้ยาไม่ได้มาตรฐาน หรือปริมาณยาไม่เพียงพอ
• ควรสอบถามให้ชัดเจนว่าราคาเหมารวมอะไรบ้าง เช่น ปริมาณกี่ cc, ฉีดโดยแพทย์จริงหรือไม่

8.ก่อนฉีด Fat แก้ม ตรวจสอบว่าคลินิกให้ข้อมูลชัดเจนก่อนทำหัตถการ
• คลินิกควรให้ข้อมูลครบถ้วน เช่น ขั้นตอนการฉีด ข้อห้าม วิธีดูแลตัวเองหลังทำ ความเสี่ยง
• มีใบยินยอมให้ลงชื่อก่อนรับบริการ

สรุปเกี่ยวกับการฉีด Fat แก้ม
สรุปว่า การฉีด Fat แก้ม ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันสะสมบริเวณใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่มีแก้มป่อง หน้าบาน จากไขมันส่วนเกิน และต้องการเปลี่ยนรูปหน้าให้ดูเรียวอย่างดูเป็นธรรมชาติ โดยทั่วไปการฉีด Fat แก้ม เริ่มต้นที่ 6 CC สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ และอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน ทั้งนี้การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาแท้ และฉีดโดยแพทย์ มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงและเห็นผลตามต้องการ

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
โปรโมชั่นต่างๆ
เรื่อง บทความน่ารู้ ที่คุณอาจสนใจ