โปรแกรมฉีดแฟตแก้ม ปรับหน้าเรียว ก่อนฉีดแก้มต้องเตรียมตัวอย่างไร
ฉีดแฟตแก้ม
ฉีดแฟตแก้ม ปรับหน้าเรียว ก่อนฉีดต้องเตรียมตัวอย่างไรให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
ฉีดแฟตแก้ม ช่วยปรับหน้าเรียว สลายไขมันบนใบหน้า แต่ว่าต้องเตรียมตัวก่อนฉีดให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าหย่อน รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดแฟตแก้ม
รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับการฉีดแฟตแก้ม
- ฉีดแฟตแก้มคืออะไร
- ฉีดแฟตแก้มกี่วันเห็นผล
- ฉีดแฟตแก้มอันตรายไหม
- ฉีดแฟตแก้มเหมาะกับใครบ้าง
- ใครควรหลีกเลี่ยงฉีดแฟตแก้ม
- ข้อดีของการฉีดแฟตแก้ม
- ข้อควรระวังของการฉีดแฟตแก้ม
- ฉีดแฟตแก้มยี่ห้อไหนดี
- เตรียมตัวก่อนฉีดแฟตแก้ม
- การดูแลตัวเองหลังฉีดแฟตแก้ม
- ฉีดแฟตแก้มควรฉีดครั้งละกี่ CC
- ฉีดแฟตแก้มแล้วมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
- ฉีดแฟตแก้มแล้วเจ็บหรือไม่
- ฉีดแฟตแก้ม กี่วันเห็นผล
- ฉีดแฟตแก้มจะอยู่ได้นานแค่ไหน
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการฉีดแฟตแก้ม
- คำถามยอดฮิตของการฉีดแฟตแก้ม
ฉีดแฟตแก้มคืออะไร
การฉีดแฟตแก้ม (Fat Dissolving Injection) คือการใช้เทคนิคฉีดสารที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการย่อยสลายไขมัน เข้าไปในบริเวณแก้มที่มีไขมันสะสมมากกว่าปกติ เพื่อให้ไขมันสลายตัวและถูกขับออกจากร่างกายตามกระบวนการตามปกติของร่างกายเรา การฉีดแฟตแก้มเลยส่งผลให้ใบหน้าดูเล็กลงและมีความเรียวได้สัดส่วนมากขึ้น
วิธีการฉีดแฟตแก้มนี้จัดเป็นการปรับรูปหน้าด้วยเทคนิคที่ไม่ต้องผ่าตัด ฉีดแฟตแก้มจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดโดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ
ฉีดแฟตแก้มกี่วันเห็นผล
โดยทั่วไป หลังจากฉีดแฟตแก้ม ร่างกายจะเริ่มกระบวนการสลายและขับไขมันออกภายในไม่กี่วัน แต่ผลลัพธ์ที่มองเห็นได้ชัดเจนหลังฉีดแฟตแก้มมักใช้เวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ เนื่องจากต้องรอให้ไขมันที่ถูกสลายถูกขับออกผ่านระบบน้ำเหลืองและปัสสาวะตามกระบวนการทำงานของร่างกาย
ในการฉีดแฟตแก้มครั้งแรก ไขมันมักลดลงประมาณ 10-15% ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มสังเกตได้ แต่ปริมาณความเปลี่ยนแปลงจะมากหรือน้อยในการฉีดแฟตแก้มขึ้นอยู่กับ
• ปริมาณไขมันเดิมในบริเวณแก้ม
• การตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล
• การดูแลตนเองหลังฉีดแฟตแก้ม
ปัจจัยที่ช่วยให้เห็นผลชัดเจนหลังฉีดแฟตแก้ม
1.การดื่มน้ำมากพอ
แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดเพียงพอในแต่ละวันหลังฉีดแฟตแก้ม เพื่อช่วยให้ร่างกายขับไขมันที่แตกตัวออกได้รวดเร็วขึ้น
2.หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงและน้ำตาลสูง
หลังฉีดแฟตแก้มช่วยลดการสะสมไขมันใหม่และคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น
3.ออกกำลังกายเบา ๆ
หลังฉีดแฟตแก้มช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและน้ำเหลือง
4.ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
เช่น การประคบเย็นเพื่อลดบวมในช่วงแรก หรือการนัดทำซ้ำตามแผนการรักษา
การทำซ้ำของการฉีดแฟตแก้มเพื่อผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง
หากต้องการให้รูปหน้าดูเรียวชัดขึ้น หรือคงผลลัพธ์ให้นาน แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดแฟตแก้มซ้ำเป็นรอบ ๆ ตามความเหมาะสมของสภาพใบหน้าและเป้าหมายของแต่ละคน ซึ่งโดยปกติการฉีดแฟตแก้มจะค่อย ๆ เห็นผลมากขึ้นในแต่ละครั้ง
ฉีดแฟตแก้มอันตรายไหม
การฉีดแฟตแก้มเป็นหนึ่งในเทคนิคการลดไขมันเฉพาะจุดที่ถือว่าไม่อันตราย หากทำโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ และใช้สารสลายไขมันที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
• ไม่ต้องผ่าตัด ลดความเสี่ยงจากการเปิดแผล
• ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• เห็นผลในระยะเวลาไม่นาน เมื่อเทียบกับวิธีบางประเภท
• เจ็บน้อย และอาการบวมชั่วคราวหลังฉีดแฟตแก้มมักหายเองในไม่กี่วัน
แม้การฉีดแฟตแก้มจะไม่อันตราย แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าตัวยาที่ใช้มีคุณภาพและเหมาะกับร่างกายของผู้รับบริการ
ความเสี่ยงและสิ่งที่ควรระวังหลังฉีดแฟตแก้ม
ความอันตรายส่วนใหญ่ของการฉีดแฟตแก้มไม่ได้มาจากเทคนิคเอง แต่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น
• ฉีดแฟตแก้มปลอม / แฟตเถื่อน - ตัวยาที่ไม่ได้ผ่านการรับรอง อาจมีสารต้องห้ามหรือปนเปื้อน
• แฟตหิ้วหรือแฟตนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย - ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาและคุณภาพได้
• ฉีดแฟตแก้มกับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ เช่น หมอกระเป๋า หรือผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ
• ซื้อสารมาฉีดแฟตแก้มเอง ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเกิดอาการแพ้รุนแรง
ในบางกรณี สารที่นำมาใช้แทนแฟตจริงอาจเป็นสเตียรอยด์หรือตัวยาสำหรับสลายฟิลเลอร์ ซึ่งไม่เหมาะกับการฉีดเพื่อลดไขมันและอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง
วิธีหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการฉีดแฟตแก้ม
1.เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้อง และมีชื่อแพทย์ชัดเจน
2.สอบถามและตรวจสอบตัวยา ว่ามีการขึ้นทะเบียนและผ่าน อย.
3.รับบริการจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในการฉีดแฟตแก้มและประเมินรูปหน้า
4.หลีกเลี่ยงการฉีดแฟตแก้มราคาถูกผิดปกติ เพราะอาจใช้ตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน
ฉีดแฟตแก้มเหมาะกับใครบ้าง
การฉีดแฟตแก้มเป็นทางเลือกที่ช่วยลดไขมันเฉพาะจุดและปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมในบางตำแหน่งและต้องการวิธีที่ไม่ซับซ้อน โดยกลุ่มคนที่มักเหมาะกับการฉีดแฟตแก้ม ได้แก่
1.ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มหรือเหนียงใต้คาง
ฉีดแฟตแก้มเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอูมของแก้ม หรือทำให้คางและลำคอดูเรียวขึ้น
2.ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนชัดเจน
ฉีดแฟตแก้มเหมาะกับคนที่อยากให้ใบหน้าเป็นทรงวีเชฟ หรือมีกรอบหน้าที่ชัดมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
3.ผู้ที่ต้องการเห็นผลในระยะเวลาไม่นาน
การฉีดแฟตแก้มสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ เหมาะกับคนที่อยากเห็นผลเร็วกว่าเพียงแค่การออกกำลังกายหรือคุมอาหาร
4.ผู้ที่ไม่สะดวกผ่าตัดหรือต้องการหลีกเลี่ยงการพักฟื้นนาน
ฉีดแฟตแก้มเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำแล้วสามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที ไม่กระทบงานหรือกิจวัตร
5.ผู้ที่ออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว แต่ยังมีไขมันบางส่วนไม่ลด
ฉีดแฟตแก้มในบางกรณี ไขมันเฉพาะจุดจะดื้อต่อการลดน้ำหนักทั่วไป การฉีดแฟตจึงช่วยจัดการจุดเหล่านี้ได้ตรงเป้าหมาย
แม้วิธีนี้จะเหมาะกับหลายคน แต่ก็ควรให้แพทย์ประเมินสภาพใบหน้าและสุขภาพโดยรวมก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าการฉีดแฟตแก้มเหมาะสมกับสภาพผิวและเป้าหมายของแต่ละบุคคล รวมถึงเลือกคลินิกและตัวยาที่ได้มาตรฐาน เพื่อไม่ให้เป็นอันตราย
ใครควรหลีกเลี่ยงฉีดแฟตแก้ม
แม้ว่าการฉีดแฟตแก้มจะเป็นวิธีลดไขมันเฉพาะจุดที่ไม่อันตราย เมื่อทำโดยแพทย์และใช้สารที่ได้มาตรฐาน แต่ก็มีบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงหรือเลื่อนการทำหัตถการฉีดแฟตแก้มออกไป เพื่อไม่เป็นอันตรายและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง ได้แก่
1.ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบในตัวยา
หากเคยมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนผสมในสารสลายไขมัน ควรแจ้งแพทย์และงดการทำทันที
2.สตรีมีครรภ์และอยู่ในช่วงให้นมบุตร
แม้จะยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่ามีผลต่อทารกโดยตรง แต่เพื่อความปลอดภัย ควรเลี่ยงจนกว่าจะพ้นช่วงตั้งครรภ์และให้นม
3.ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด
เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจรุนแรง หรือโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อน
4.ผู้ที่มีการติดเชื้อหรือผิวหนังอักเสบในบริเวณที่จะฉีดแฟตแก้ม
ควรรักษาให้หายก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อหรือการอักเสบรุนแรงขึ้น
5.ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด
เสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำและเลือดออกมากกว่าปกติหลังฉีดแฟตแก้ม
ข้อดีของการฉีดแฟตแก้ม
การฉีดแฟตแก้มเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมเพราะช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยข้อดีที่มักทำให้หลายคนเลือกหัตถการฉีดแฟตแก้ม ได้แก่
1.ลดไขมันสะสม
สามารถสลายไขมันในบริเวณที่ต้องการ เช่น แก้ม เหนียง หรือส่วนอื่น ๆ ที่ดื้อต่อการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร
2.ทำได้หลายตำแหน่ง
ไม่จำกัดเฉพาะบริเวณใบหน้า แต่สามารถทำได้ที่ต้นแขน ต้นขา รอบเอว หรือหน้าท้อง
3.เห็นผลในระยะเวลาไม่นานหลังฉีดแฟตแก้ม
รูปหน้าหรือสัดส่วนอาจเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ภายในไม่กี่สัปดาห์
4.ฉีดแฟตแก้มไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีรอยแผล
เป็นวิธีที่ไม่ต้องเปิดแผล จึงไม่มีรอยผ่าตัดและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
5.การฉีดแฟตแก้มอาการบวมหรือช้ำมักน้อยและหายเร็ว
อาการบวมหลังฉีดแฟตแก้มเป็นเพียงชั่วคราว และส่วนใหญ่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
6.การฉีดแฟตแก้มไม่เป็นอันตรายเมื่อใช้สารที่ผ่านการรับรอง
ตัวยาที่ใช้จะถูกสลายและขับออกจากร่างกายตามปกติ ไม่ตกค้าง และสามารถฉีดแฟตแก้มซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์
7.ยิ่งทำต่อเนื่อง ยิ่งเห็นผลชัด
เมื่อฉีดแฟตแก้มเป็นรอบตามแผนการรักษา ผลลัพธ์จะคงอยู่และเห็นความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น
ข้อควรระวังของการฉีดแฟตแก้ม
แม้ว่าการฉีดแฟตแก้มจะเป็นวิธีลดไขมันเฉพาะจุดที่ไม่เป็นอันตรายและไม่ต้องผ่าตัด แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและคงอยู่ยาวนาน ควรคำนึงถึงข้อควรระวังต่อไปนี้
1.ไม่เห็นผลทันทีหลังทำ
หลังฉีดแฟตแก้ม ไขมันจะไม่หายไปในทันที เนื่องจากต้องรอให้ตัวยาออกฤทธิ์สลายไขมันและร่างกายขับออกตามกระบวนการปกติของร่างกาย โดยปกติจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังฉีดแฟตแก้ม
2.อาจต้องทำมากกว่าหนึ่งครั้งในบางกรณี
สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมมาก อาจต้องฉีดแฟตแก้มหลายครั้งตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสวยงาม
3.ปริมาณตัวยามีผลต่อผลลัพธ์ในการฉีดแฟตแก้ม
การใช้ตัวยาน้อยเกินไปอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จึงควรให้แพทย์ประเมินปริมาณที่เหมาะสมกับใบหน้าและผลลัพธ์ของผู้รับบริการ
4.การทำต่อเนื่องในการฉีดแฟตแก้มช่วยให้เห็นผลดีที่สุด
ในช่วงแรกของการฉีดแฟตแก้ม ควรทำอย่างสม่ำเสมอตามจำนวนครั้งและปริมาณที่แพทย์แนะนำ เพื่อกระตุ้นการสลายไขมันอย่างต่อเนื่อง
ฉีดแฟตแก้มยี่ห้อไหนดี
ตัวยาเมโสแฟตที่ใช้สำหรับฉีดแฟตแก้มมีหลายยี่ห้อ โดยแต่ละสูตรมีคุณสมบัติและจุดเด่นต่างกัน แพทย์จึงมักเลือกใช้ตามสภาพใบหน้าและความต้องการของผู้รับบริการ ซึ่งสูตรที่ได้รับความนิยมและใช้บ่อยในคลินิก ได้แก่
1.Phytobella
เมโสแฟตจากประเทศเกาหลี จุดเด่นคือช่วยสลายไขมันได้ดีโดยไม่ทำให้เกิดอาการบวมแดงมาก หลังฉีดอาจรู้สึกแสบเล็กน้อยขณะตัวยาออกฤทธิ์
2.BABI-Neo One
ผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลีเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสลายไขมันพร้อมกระชับผิว หลังฉีดแฟตแก้มมักไม่มีอาการบวมแดง ทำให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
3.FNC
เหมาะกับผู้ที่มีปริมาณไขมันแก้มค่อนข้างมาก ใช้สารสกัด Special Peptides ช่วยเร่งการสลายไขมัน ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน
เตรียมตัวก่อนฉีดแฟตแก้ม
เพื่อให้การฉีดแฟตแก้มไม่เป็นอันตรายและได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ควรเตรียมตัวล่วงหน้าและศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ทั้งขั้นตอนการทำ ความแตกต่างระหว่างการฉีดแฟตแก้มแท้-ปลอม การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการทำ
ข้อปฏิบัติ 48 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการในการฉีดแฟตแก้ม
1.งดยาและอาหารเสริมบางชนิด
หลีกเลี่ยงยากลุ่มที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (Aspirin) และยาในกลุ่ม NSAIDs รวมถึงวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ
2.งดทำทรีตเมนต์บางประเภท
หากมีการนัดทำเลเซอร์ นวดหน้า หรือหัตถการที่กระทบผิวหน้า ควรงดอย่างน้อย 3 วันก่อนการฉีดแฟตแก้ม เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองหรือบวมเพิ่ม
3.แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์อย่างครบถ้วน
หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาบางชนิด ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาและเลือกตัวยาได้อย่างเหมาะสม
เหตุผลที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีดแฟตแก้ม
การเตรียมตัวล่วงหน้าช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น รอยช้ำ บวม หรือการระคายเคือง และยังช่วยให้การออกฤทธิ์ของตัวยามีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและไม่เป็นอันตรายในระยะยาว
การดูแลตัวเองหลังฉีดแฟตแก้ม
การดูแลตนเองอย่างถูกวิธีหลังการฉีดแฟตแก้ม เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น และคงอยู่ได้นานขึ้น พร้อมทั้งลดโอกาสที่ไขมันจะกลับมาสะสมซ้ำ โดยควรปฏิบัติดังนี้หลังฉีดแฟตแก้ม
1.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย วันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้ร่างกายขับไขมันที่ถูกสลายแล้วออกทางระบบขับของเสียได้เร็วขึ้น การดื่มน้ำเพียงพอยังช่วยให้แก้มยุบไวและผิวดูชุ่มชื้นขึ้น
2.ควบคุมอาหาร
ปรับพฤติกรรมการรับประทานเพื่อป้องกันไขมันสะสมใหม่ โดยควร
• หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ของทอด และของมัน
• ลดอาหารรสเค็มจัดเพื่อลดการบวมน้ำ
• ลดแป้งและน้ำตาลเพื่อลดการสะสมไขมันส่วนเกิน
3.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ออกกำลังกายอย่างน้อย 30-45 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยเผาผลาญพลังงาน กระตุ้นระบบไหลเวียน และลดโอกาสการกลับมาสะสมของไขมัน
ฉีดแฟตแก้มควรฉีดครั้งละกี่ CC
การฉีดแฟตแก้มมักเริ่มต้นที่ประมาณ 6 ซีซี (cc) ต่อครั้ง ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอสำหรับการสลายไขมันในบริเวณแก้มระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ปริมาณที่ใช้จริงอาจมากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่สะสมและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล
โดยทั่วไป เมโสแฟต 1 ขวด จะมี 10 ซีซี แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและออกแบบปริมาณการฉีดแฟตแก้มให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและไม่เป็นอันตราย
ทำซ้ำในการฉีดแฟตแก้มเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
• สามารถฉีดแฟตแก้มหลายครั้งต่อเนื่อง หรือทำเป็นคอร์ส เพื่อเร่งการสลายไขมันและทำให้รูปหน้าเข้ารูปมากขึ้น
• ระยะห่างระหว่างครั้งขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาขับไขมันออกและลดการบวม
เหตุผลที่ต้องให้แพทย์ประเมินปริมาณ
แต่ละคนมีสภาพผิว ปริมาณไขมัน และโครงหน้าแตกต่างกัน การใช้ปริมาณยามากเกินไปหรือน้อยเกินไป อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามคาด ดังนั้น การให้แพทย์เป็นผู้วางแผนและกำหนดปริมาณจึงสำคัญมาก
ฉีดแฟตแก้มแล้วมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
การฉีดแฟตแก้มโดยใช้ตัวยาเมโสแฟตที่ได้มาตรฐานและทำโดยแพทย์ในคลินิกที่มีคุณภาพ มักไม่อันตราย ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปหลังการฉีดแฟตแก้มคือ อาการบวมและรอยช้ำเล็กน้อย หลังทำ ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายในไม่กี่วัน
อย่างไรก็ตาม หากใช้ ตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดแฟตแก้มในสถานพยาบาลที่ไม่ได้คุณภาพ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ เช่น การติดเชื้อหรือการอักเสบ
ตัวอย่างสารที่ไม่ควรนำมาใช้แทนในการฉีดแฟตแก้ม
1.ยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase)
• นำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์เพื่อให้เห็นผลแก้มยุบเร็ว
• ทำงานโดยสลายคอลลาเจนและกรดไฮยาลูโรนิกในชั้นผิว ทำให้แก้มหดตัวแต่ไม่ใช่การสลายไขมันจริง
• ผลเสียในระยะยาวคือผิวหย่อนคล้อย แก้มตอบ และเกิดริ้วรอยก่อนวัย
2.ยาสเตียรอยด์
• ต้นทุนต่ำและทำให้แก้มยุบเร็ว จึงมักถูกใช้ในบริการราคาถูก
• ต้องใช้ปริมาณสูงเพื่อให้เห็นผล ทำให้เสี่ยงติดเชื้อ บวมอักเสบรุนแรง และเกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพหลายประการ
ฉีดแฟตแก้มแล้วเจ็บหรือไม่
การฉีดแฟตแก้มเป็นการฉีดสารสลายไขมันเข้าสู่ชั้นไขมันบริเวณกรอบหน้าและใต้คาง ซึ่งเป็นจุดที่ผิวค่อนข้างหนา ผู้รับบริการส่วนใหญ่ในการฉีดแฟตแก้มจะรู้สึกเพียงเล็กน้อย คล้ายถูกมดกัดหรือจี๊ดเล็กน้อยขณะเข็มเข้าสู่ผิว แต่ไม่ถึงขั้นเจ็บรุนแรงและสามารถทนได้
โดยทั่วไป ไม่จำเป็นต้องแปะยาชาก่อนฉีดแฟตแก้ม แต่เพื่อให้รู้สึกสบายและลดความกังวล พยาบาลหรือแพทย์จะใช้การ ประคบน้ำแข็ง ก่อนเริ่มทำ เพื่อให้ผิวบริเวณนั้นมีความชา ลดความรู้สึกเจ็บ และช่วยให้ขั้นตอนดำเนินไปอย่างราบรื่น
ระยะเวลาและความรู้สึกหลังฉีดแฟตแก้ม
• ขั้นตอนการฉีดแฟตแก้มใช้เวลาสั้น ประมาณ 5-10 นาที
• หลังทำอาจมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง
• ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล
ฉีดแฟตแก้ม กี่วันเห็นผล
หลังฉีดแฟตแก้ม ร่างกายต้องใช้เวลาสักระยะในการสลายไขมันและขับออกทางระบบน้ำเหลืองและปัสสาวะ จึงจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ จึงเห็นผลชัดเจนมากขึ้น
ในบางคนอาจเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าเบาลงหรือแก้มยุบลงเล็กน้อยตั้งแต่สัปดาห์แรก แต่ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนหลังฉีดแฟตแก้ม จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
• ปริมาณไขมันสะสมเดิม
• ปริมาณและชนิดของตัวยาที่ใช้
• การตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล
• การดูแลตัวเองหลังทำ เช่น ดื่มน้ำเพียงพอ ควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย
ฉีดแฟตแก้มจะอยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์จากการฉีดแฟตแก้มสามารถอยู่ได้นาน หลายเดือนถึงมากกว่า 1 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล โดยตัวยาเมโสแฟตจะช่วยสลายไขมันในบริเวณที่ฉีด และไขมันที่สลายแล้วจะไม่กลับมาในทันที แต่ร่างกายสามารถสร้างไขมันใหม่ได้หากมีการสะสมพลังงานส่วนเกิน
ปัจจัยที่มีผลต่อความยาวนานของผลลัพธ์หลังการฉีดแฟตแก้ม
1.พฤติกรรมการรับประทานอาหาร
หากรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง หรือแคลอรีเกินความต้องการ ไขมันใหม่อาจกลับมาสะสมได้เร็ว
2.การออกกำลังกาย
การเคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอจะช่วยเผาผลาญพลังงาน ลดโอกาสการเกิดไขมันใหม่
3.การทำซ้ำตามคำแนะนำแพทย์
ในบางเคส แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดเป็นรอบ ๆ เพื่อเสริมให้ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนานขึ้น
4.การตอบสนองของร่างกาย
แต่ละคนมีระบบเผาผลาญและการเก็บสะสมไขมันต่างกัน จึงทำให้ระยะเวลาของผลลัพธ์ไม่เท่ากัน
สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการฉีดแฟตแก้ม
การฉีดแฟตแก้ม เป็นการปรับรูปหน้าที่ต้องเตรียมตัว และต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย ผลลัพธ์ข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
เพื่อให้ผลลัพธ์ยาวนานให้เรามั่นใจในบุคลิกภาพ เมื่อรับบริการฉีดแฟตแก้มแล้ว ต้องทำควบคู่กับการดูแลตัวเองจากภายในไปสู่ภายนอกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การทานอาหารที่เป็นประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
คำถามยอดฮิตของการฉีดแฟตแก้ม
1.ฉีดแฟตแก้มเสร็จแล้วไปเที่ยวต่อได้ไหม ?
ได้เลย เพราะไม่ต้องพักฟื้น หลังทำอาจมีบวมเล็กน้อย แต่ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แค่เลี่ยงกิจกรรมที่กระแทกหรือกดทับบริเวณที่ฉีดในช่วง 1-2 วันแรก
2.ฉีดแฟตแก้ม แล้วแก้มจะยุบเร็วขนาดไหน ?
ไม่ใช่ทำปุ๊บยุบปั๊บ ต้องรอร่างกายสลายไขมันและขับออกก่อน ปกติจะเริ่มเห็นผลชัดในช่วง 1-3 สัปดาห์ แล้วแต่สภาพร่างกายแต่ละคน
3.ฉีดแฟตแก้มแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน ?
ถ้าดูแลตัวเองดี เช่น คุมอาหาร ออกกำลังกาย ผลลัพธ์อยู่ได้หลายเดือนถึงมากกว่า 1 ปี แต่ถ้ากลับมากินหนัก ไขมันใหม่ก็อาจกลับมาได้
4.ถ้ากลัวฉีดแฟตแก้มแล้วหน้าเบี้ยว ต้องระวังอะไร?
เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาต และแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะเขาจะประเมินปริมาณและตำแหน่งการฉีดให้เหมาะสม ป้องกันปัญหาหน้าไม่สมดุลหรือยุบไม่เท่ากัน
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ