โปรแกรมฉีดแฟตเหนียง คืออะไร กี่ CC อยู่ได้กี่เดือน ข้อห้ามอย่างไร
ฉีดแฟตเหนียง , แฟตเหนียง
ฉีดแฟตเหนียง คืออะไร กี่ CC อยู่ได้กี่เดือน ข้อห้ามอะไรบ้าง
เหนียงหรือคางสองชั้น เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ เพราะทำให้รูปหน้าดูไม่ชัดและดูอ้วนขึ้น แม้บางคนจะมีรูปร่างผอมก็ยังมีเหนียงได้จากพันธุกรรม โครงหน้า หรือผิวหย่อนคล้อย การฉีดแฟตเหนียง จึงกลายเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมของคนที่อยากปรับกรอบหน้าให้เรียวชัด ลดไขมันใต้คางโดยไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน และเห็นผลชัดเจนภายในไม่กี่สัปดาห์
แต่ก่อนตัดสินใจฉีดแฟตเหนียง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยฉีดมาก่อน ควรรู้อะไรบ้าง ในบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า ฉีดแฟตเหนียงคืออะไร ช่วยอะไรบ้าง ควรฉีดกี่ซีซี กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานกี่เดือน รวมถึงหลังฉีดมีข้อห้ามทำอะไรบ้าง เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง
เหนียงคืออะไร เกิดจากอะไร
เหนียง คือ ไขมันที่สะสมอยู่บริเวณใต้คาง ทำให้เกิดลักษณะคางสองชั้น หรือดูเหมือนมีชั้นผิวหย่อนคล้อยใต้ใบหน้า ซึ่งทำให้รูปหน้าดูไม่ชัดและดูอ้วนขึ้น แม้ว่าบางคนจะมีรูปร่างผอมก็ยังสามารถมีเหนียงได้ โดยปัจจัยที่ทำให้มีเหนียง ได้แก่
• ไขมันสะสมใต้คาง
เกิดจากการที่ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารมากเกินไป ไขมันที่เหลือจะถูกเก็บไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงบริเวณใต้คาง อาจสัมพันธ์กับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
• พันธุกรรม
บางคนมีโครงหน้าและสภาพผิวที่เอื้อต่อการเกิดเหนียง เช่น คางสั้น คอหนา หรือมีแนวโน้มสะสมไขมันได้ง่ายบริเวณใบหน้าและคอ แม้จะไม่อ้วนก็ตาม
• ผิวหนังหย่อนคล้อยจากอายุที่มากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลง ทำให้ผิวขาดความกระชับและหย่อนลง รวมถึงบริเวณใต้คาง
• ท่าทางและพฤติกรรม
- การก้มหน้าดูโทรศัพท์หรือทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อคอและกรามอ่อนแรง เกิดการสะสมของผิวและไขมันจนเป็นเหนียง
- การนอนหนุนหมอนสูงเกินไปเป็นประจำก็มีส่วนทำให้เกิดเหนียงได้
• การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
น้ำหนักตัวที่ลดลงมากในระยะเวลาอันสั้นอาจทำให้ผิวหนังบริเวณคอและใบหน้าหย่อนคล้อย เกิดเป็นเหนียงแม้ไขมันจะน้อยลงแล้ว
ฉีดแฟตเหนียงคืออะไร
ฉีดแฟตเหนียง คือ การฉีดเมโสแฟตซึ่งเป็นตัวยาที่ช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณเหนียงใต้คาง หรือคางสองชั้นที่เกิดจากไขมันสะสม ช่วยให้ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบขับถ่ายตามธรรมชาติ ทำให้เหนียงลดลงและรูปหน้าดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
โดยกระบวนการฉีดเมโสแฟตเหนียง แพทย์จะฉีดตัวยาที่มีส่วนผสมหลัก เช่น สารสกัดจากอาร์ติโชค (Artichoke extract) และ L-Carnitine เข้าสู่บริเวณใต้คาง ตัวยาจะเข้าไปกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในชั้นไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและลดขนาด พร้อมช่วยยกกระชับผิวบริเวณนั้น
ข้อดีของการฉีดแฟตเหนียง คือ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องมีเวลาพักฟื้นมาก ราคาค่อนข้างไม่แพง และเห็นผลในเวลาไม่นาน คนไข้จะต้องดูแลด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหารควบคู่กันเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ส่วนผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพไขมันสะสมแต่ละคนและจำนวนครั้งที่ฉีด
ฉีดแฟตเหนียงเหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณใต้คาง ไม่ว่าจะน้ำหนักตัวปกติหรือคนที่ผอม แต่มีเหนียงจากไขมันส่วนเกิน รวมถึงคนที่มีเหนียงจากพฤติกรรม เช่น นอนเล่นโทรศัพท์โดยกดคอลงเป็นเวลานาน หรือผิวหย่อนคล้อย การฉีดเมโสแฟตเหนียงช่วยลดเหนียงและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวได้โดยไม่เจ็บตัวมาก
ฉีดแฟตเหนียงช่วยอะไรบ้าง
การฉีดแฟตเหนียงมีประโยชน์หลายด้าน โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
1.ฉีดแฟตเหนียงช่วยลดไขมันใต้คาง
• ฉีดแฟตเหนียงช่วยสลายไขมันที่สะสมเฉพาะจุดบริเวณเหนียง
• ฉีดแฟตเหนียงทำให้ปริมาณไขมันลดลง ส่งผลให้คางดูเรียวและเล็กลง
2.ฉีดแฟตเหนียงช่วยปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น
• เมื่อไขมันใต้คางลดลงจากการฉีดแฟตเหนียง กรอบหน้าจะดูคมชัด
• ฉีดแฟตเหนียงช่วยให้สัดส่วนของใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น
3.ฉีดแฟตเหนียงช่วยกระชับผิวใต้คาง
• บางตัวยาฉีดแฟตเหนียงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• ฉีดแฟตเหนียงช่วยให้ผิวบริเวณคางและลำคอดูกระชับ ไม่หย่อนคล้อย
4.ฉีดแฟตเหนียงช่วยเพิ่มความมั่นใจ
• ฉีดแฟตเหนียงช่วยให้เหนียงลดลงทำให้ดูหน้าเรียวขึ้น
• ฉีดแฟตเหนียงเพิ่มความมั่นใจ ลดความกังวลเวลาโพสท่าถ่ายรูปหรือมองด้านข้าง
5.ฉีดแฟตเหนียงช่วยเห็นผลโดยไม่ต้องผ่าตัด
• ฉีดแฟตเหนียงเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัดหรือต้องพักฟื้นนาน
• ฉีดแฟตเหนียงทำเสร็จแล้วสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ฉีดแฟตเหนียงต้องฉีดกี่ CC
การฉีดแฟตเหนียงโดยใช้เมโสแฟต ปริมาณที่แนะนำในการฉีดจะเริ่มต้นประมาณ 6 CC ต่อครั้ง แต่ถ้ามีไขมันสะสมมาก อาจต้องใช้ถึง 20 CC ต่อครั้งได้ โดยทั่วไปแพทย์จะประเมินปริมาณตามความเหมาะสมและปริมาณไขมันส่วนเกินของแต่ละบุคคล
โดยปริมาณ 6 CC เป็นปริมาณเริ่มต้นที่เหมาะสมสำหรับคนทั่วไป และถ้าฉีดน้อยกว่านี้อาจไม่เห็นผลชัดเจน ส่วนรายที่มีไขมันสะสมมากก็สามารถฉีดปริมาณมากขึ้นในแต่ละครั้งได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการฉีดมากครั้งเดียว เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวมหรือผิวหย่อนคล้อยได้
สรุปคือ ปริมาณการฉีดแฟตเหนียงอยู่ที่ประมาณ 6-20 CC ต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และระดับไขมันสะสมของแต่ละคน โดยมักเริ่มที่ 6 CC ก่อนแล้วปรับเพิ่มตามความเหมาะสม
ฉีดแฟตเหนียงกี่วันถึงเห็นผล
หลังฉีดแฟตเหนียง สามารถเห็นผลลัพธ์เริ่มต้นประมาณ 10-15% ได้ตั้งแต่ครั้งแรกในระยะเวลา 5-7 วัน หลังจากนั้นจะเห็นผลเต็มที่ชัดเจนในช่วง 2-3 สัปดาห์ (ประมาณ 14-21 วัน) ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมในแต่ละคนและการดูแลตัวเองหลังฉีด เช่น การดื่มน้ำมากๆ และควบคุมอาหารร่วมด้วย บางกรณีที่มีไขมันสะสมมาก อาจต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง (4-5 ครั้ง) เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยแต่ละครั้งจะห่างกันประมาณ 7-10 วัน
สรุปคือ หลังฉีดแฟตเหนียงจะเริ่มเห็นผลใน 5-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์
ฉีดแฟตเหนียงต้องฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล
การฉีดแฟตเหนียงต้องฉีดประมาณ 3-5 ครั้งเพื่อให้เห็นผลชัดเจน โดยแต่ละครั้งจะห่างกันประมาณ 1 สัปดาห์ แต่อาจต้องฉีดถึง 4-5 ครั้งสำหรับคนที่มีไขมันสะสมมาก เพื่อให้เหนียงยุบและผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้น หลังฉีดครั้งแรกจะเห็นผลประมาณ 10-15% ใน 5-7 วัน และผลเต็มที่จะชัดใน 2-3 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปริมาณไขมันเดิมของแต่ละคน สรุปได้ดังนี้
• ฉีดแฟตเหนียงเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก (10-15% ใน 5-7 วัน)
• ฉีดแฟตเหนียงต้องฉีดซ้ำ 3-5 ครั้ง (หรือ 4-5 ครั้งสำหรับไขมันมาก)
• ฉีดแฟตเหนียงแต่ละครั้งห่างกันประมาณ 1 สัปดาห์
• ฉีดแฟตเหนียงผลลัพธ์ชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์
• ฉีดแฟตเหนียงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง
แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปริมาณและจำนวนครั้งที่เหมาะสมกับสภาพไขมัน
ฉีดแฟตเหนียงอยู่ได้นานกี่เดือน
หลังฉีดแฟตเหนียง ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันเดิมของแต่ละคนและการดูแลตัวเองหลังฉีด เช่น การควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น แต่หากมีพฤติกรรมการกินหรือดูแลตัวเองที่ไม่เหมาะสม ไขมันอาจกลับมาสะสมได้เหมือนเดิม
สรุปว่า ฉีดแฟตเหนียงอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน โดยการดูแลหลังฉีดมีผลอย่างมากต่อความยาวนานของผลลัพธ์
ฉีดแฟตเหนียงเหมาะกับใครบ้าง
การฉีดแฟตเหนียงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดไขมันใต้คางแบบไม่ผ่าตัด และปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น โดยกลุ่มคนที่เหมาะมีดังนี้
1.ฉีดแฟตเหนียงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันใต้คางเล็กน้อยถึงปานกลาง
• ฉีดแฟตเหนียงเหมาะกับคนที่มีเหนียง แต่ไม่มากเกินไป
• ไขมันไม่ได้แข็งหรือหนามากจนต้องใช้วิธีดูดไขมัน
2.ฉีดแฟตเหนียงเหมาะกับผู้ที่ผิวใต้คางยังมีความกระชับพอสมควร
• ถ้าผิวหย่อนคล้อยมากเกินไป การฉีดแฟตเหนียงอาจทำให้ผิวย่น จึงควรพิจารณาวิธียกกระชับร่วมด้วย เช่น HIFU หรือ Thermage
3.ฉีดแฟตเหนียงเหมาะกับไม่ต้องการผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน
• ฉีดแฟตเหนียงเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากเห็นผลโดยไม่ต้องเจ็บตัวมาก
• ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำ
4.ฉีดแฟตเหนียงเหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติหรือเกินเล็กน้อย
• เหนียงไม่ได้เกิดจากน้ำหนักตัวมากเพียงอย่างเดียว
• แม้คนผอมก็มีเหนียงได้จากพันธุกรรมหรือโครงหน้า
5.ฉีดแฟตเหนียงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้คมชัด
• ฉีดแฟตเหนียงเหมาะกับคนที่อยากให้กรอบหน้าดูเรียวและมีมิติ
• เห็นผลชัดเจนเวลาถ่ายรูปหรือมองด้านข้าง
ฉีดแฟตเหนียงไม่เหมาะกับใครบ้าง
การฉีดแฟตเหนียง แม้จะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างไม่เป็นอันตราย แต่ก็มีบางกลุ่มที่ไม่ควรทำ หรือควรได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษจากแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและผลข้างเคียง
1.ฉีดแฟตเหนียงไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
ยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัยของตัวยาสลายไขมันต่อทารกและเด็กเล็ก เพื่อความปลอดภัย ควรเลื่อนการฉีดแฟตเหนียงออกไปหลังคลอดและหยุดให้นม
2.ฉีดแฟตเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของตัวยา
เช่น แพ้ Phosphatidylcholine (PPC) หรือ Deoxycholic Acid หากมีประวัติแพ้ยารุนแรง (Anaphylaxis) ควรหลีกเลี่ยงฉีดแฟตเหนียงโดยเด็ดขาด
3.ฉีดแฟตเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรงหรือควบคุมไม่ได้
เช่น โรคตับ ไต หัวใจ หรือระบบน้ำเหลืองผิดปกติ โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ (เสี่ยงต่อการฟื้นตัวช้าและติดเชื้อ)
4.ฉีดแฟตเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่มีการอักเสบหรือการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
เช่น สิวอักเสบ แผลเปิด หรือผื่น ควรรักษาให้หายก่อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
5.ฉีดแฟตเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่มีปริมาณไขมันใต้คางมากเกินไปหรือผิวหย่อนคล้อยมาก
การฉีดแฟตเหนียงอาจไม่เห็นผลชัดเจน และผิวอาจหย่อนคล้อยกว่าเดิม ควรใช้วิธีดูดไขมันหรือยกกระชับร่วมด้วย เช่น HIFU, Thermage หรือการผ่าตัด
6.ฉีดแฟตเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติเป็นคีลอยด์หรือแผลเป็นนูนง่าย
การฉีดแฟตเหนียงแม้รอยเข็มจะเล็กมาก แต่คนที่เป็นคีลอยด์ง่ายอาจมีความเสี่ยงเกิดรอยนูน
ฉีดแฟตเหนียงอันตรายไหม มีผลข้างเคียงไหม
การฉีดแฟตเหนียง (เมโสแฟต) ถือเป็นวิธีที่มีผลข้างเคียงน้อยมากเมื่อทำโดยแพทย์และในคลินิกที่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่ควรทราบ ดังนี้
ผลข้างเคียงฉีดแฟตเหนียงที่พบได้ทั่วไปและไม่รุนแรง ได้แก่
• รอยเข็ม รอยแดง และรอยฟกช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายได้เองใน 1-3 วัน
• อาการบวมบริเวณที่ฉีดที่มักจะยุบลงเองภายใน 4-6 ชั่วโมง หรือใน 1 วันถ้าบวมมาก
• อาจมีการเกิดก้อนเนื้อเล็กๆ ที่บริเวณฉีด ซึ่งสามารถนวดช่วยให้ก้อนยุบลงได้ใน 3-5 วัน
• สีผิวบริเวณที่ฉีดอาจเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยชั่วคราว
ผลข้างเคียงฉีดแฟตเหนียงที่อาจเกิดขึ้นแต่ไม่บ่อย เช่น
• อาการแพ้สารที่ฉีด
• การติดเชื้อที่ผิวหนังถ้าหากขั้นตอนการฉีดไม่มีความสะอาดและไม่ได้มาตรฐาน
• แผลหรือแผลเป็นบริเวณฉีด
• โรคชั้นไขมันอักเสบ (Panniculitis) ซึ่งเป็นภาวะอักเสบของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
การฉีดแฟตเหนียงที่ลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง ควรทำโดยแพทย์ในคลินิกที่มีมาตรฐาน พร้อมทั้งควรแจ้งประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัวก่อนทำ
ความเสี่ยงที่สำคัญและต้องระวังอย่างมากคือ การใช้แฟตปลอมหรือแฟตเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมแดง ผิวอักเสบ ผิวบุ๋ม แผลติดเชื้อ เป็นหนอง หรือผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ รวมทั้งการฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความชำนาญหรือคลินิกที่ไม่มีใบอนุญาต
ดังนั้นหากต้องการฉีดแฟตเหนียง ควรเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือ ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดอย่างละเอียด และปฏิบัติตามคำแนะนำหลังฉีดอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
ฉีดแฟตเหนียงบวมกี่วัน พักฟื้นนานไหม
หลังฉีดแฟตเหนียงจะมีอาการบวมเกิดขึ้นได้ตามปกติ โดยอาการบวมจะเริ่มทันทีหลังฉีดประมาณ 3-4 ชั่วโมง และจะค่อย ๆ ยุบลง ส่วนใหญ่จะเห็นว่าบวมอยู่เล็กน้อย และอาการบวมมักจะหายไปเองภายใน 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
สำหรับการพักฟื้น หลังฉีดแฟตเหนียงไม่ต้องใช้เวลานานมาก สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้นเฉพาะเจาะจง มีแค่บางคนที่อาจจะมีรอยช้ำหรือบวมมากกว่าปกติซึ่งจะดีขึ้นใน 1-3 วัน และสามารถใช้วิธีประคบเย็น ดื่มน้ำเยอะ ๆ และรับยาลดบวมได้ตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อช่วยบรรเทาอาการ
สรุป
• อาการบวมจะหนักสุดประมาณ 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด
• จะค่อย ๆ ยุบลงจนหายได้เองภายใน 1-3 วัน
• ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
• การดูแลหลังฉีด เช่น ดื่มน้ำมาก ๆ ประคบเย็น รับยาลดบวม ช่วยลดอาการบวมเร็วขึ้น
ถ้าอาการบวมมากผิดปกติหรือมีอาการเจ็บปวดรุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ฉีดแฟตเหนียง vs เลเซอร์ยกกระชับ
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ของ ฉีดแฟตเหนียง และ เลเซอร์ยกกระชับ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกวิธีไหน หรือทำร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
1.ฉีดแฟตเหนียง
ข้อดีของฉีดแฟตเหนียง
• ฉีดแฟตเหนียงลดไขมันใต้คางได้ตรงจุด เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเมื่อไขมันลดลง
• ฉีดแฟตเหนียงไม่ต้องผ่าตัด แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว
• ฉีดแฟตเหนียงเหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมแม้จะผอม
• ฉีดแฟตเหนียงราคาเริ่มต้นไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการดูดไขมัน
ข้อเสียของฉีดแฟตเหนียง
• ฉีดแฟตเหนียงไม่ช่วยยกกระชับผิว หากผิวหย่อนอาจเห็นความหย่อนมากขึ้นหลังไขมันหาย
• ฉีดแฟตเหนียงต้องรอ 2-4 สัปดาห์จึงเห็นผลชัด
• ฉีดแฟตเหนียงอาจต้องทำซ้ำหลายครั้งหากไขมันเยอะ
• ฉีดแฟตเหนียงอาจมีอาการบวม ช้ำ หรือตึง 3-7 วัน แล้วจะหายได้เอง
2.เลเซอร์ยกกระชับ (เช่น HIFU, Thermage, Ulthera)
ข้อดี
• กระชับผิวใต้คาง ลดความหย่อนคล้อย
• เห็นผลตั้งแต่หลังทำ และค่อย ๆ ดีขึ้นใน 1-3 เดือน
• ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จใช้ชีวิตได้ตามปกติ
• ช่วยให้กรอบหน้าชัดโดยไม่ต้องฉีดสารเข้าไปในร่างกาย
ข้อเสีย
• ไม่ลดไขมันโดยตรง ถ้าไขมันเยอะอาจไม่เห็นผลชัด
• ผลลัพธ์คงอยู่ประมาณ 6-12 เดือน ต้องทำซ้ำ
• อาจมีอาการระบมหรือผิวแดงเล็กน้อยหลังทำ
• ราคาสูงกว่าฉีดแฟตในบางกรณี
การเตรียมตัวก่อนฉีดแฟตเหนียง
การเตรียมตัวก่อนฉีดแฟตเหนียง เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ลดความเสี่ยงผลข้างเคียง และได้ผลลัพธ์ที่ดี
1.ก่อนฉีดแฟตเหนียงปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
• ให้แพทย์ประเมินปริมาณไขมันใต้คางและสภาพผิว
• แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ และประวัติการแพ้ยา
• สอบถามจำนวนครั้งที่ควรฉีดแฟตเหนียง ปริมาณยาที่ใช้ และค่าใช้จ่าย
2.ก่อนฉีดแฟตเหนียงงดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
• เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), วิตามินอี, โสม, น้ำมันปลา
• ควรงดอย่างน้อย 5-7 วัน ก่อนฉีดแฟตเหนียง เพื่อลดความเสี่ยงการช้ำหรือเลือดออกง่าย
3.ก่อนฉีดแฟตเหนียงงดแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
• ควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง ก่อนฉีดแฟตเหนียง
• เพื่อช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดี ลดบวมและช้ำหลังทำ
4.ก่อนฉีดแฟตเหนียงพักผ่อนให้เพียงพอ
• การนอนหลับเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว
• ลดโอกาสการบวมหลังฉีดแฟตเหนียง
5.ก่อนฉีดแฟตเหนียงหลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นบริเวณใต้คางก่อนฉีด
• เช่น การเลเซอร์ การร้อยไหม หรือ HIFU ควรเว้นระยะอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
6.ก่อนฉีดแฟตเหนียงทำความสะอาดผิวหน้าและลำคอในวันที่นัดทำ
• เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและลดความเสี่ยงติดเชื้อ
การดูแลตัวเองหลังฉีดแฟตเหนียง
การดูแลตัวเองหลังฉีดแฟตเหนียง เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยลดอาการบวม ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และทำให้การลดไขมันเห็นผลชัดขึ้น
1.หลังฉีดแฟตเหนียงประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก
• ช่วยลดบวม ลดรอยแดง และบรรเทาอาการระบม
• ควรประคบครั้งละ 10-15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง
2.หลังฉีดแฟตเหนียงหลีกเลี่ยงความร้อนสูง
• เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ แช่น้ำร้อน หรือออกแดดจัด ใน 3-5 วันแรก
• ความร้อนอาจทำให้บวมและอักเสบมากขึ้น
3.หลังฉีดแฟตเหนียงงดนวดหรือกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีด
• เพื่อป้องกันการกระจายของตัวยาไปตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
• เว้นอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำทรีตเมนต์นวดหน้า หรือเลเซอร์บริเวณใต้คาง
4.หลังฉีดแฟตเหนียงดื่มน้ำมาก ๆ
• อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้ร่างกายขับไขมันที่ถูกสลายออกทางระบบน้ำเหลืองได้เร็วขึ้น
5.หลังฉีดแฟตเหนียงรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
• เลี่ยงอาหารมันจัด เค็มจัด หวานจัด เพื่อลดการสะสมไขมันใหม่
• เน้นโปรตีน ผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
6.หลังฉีดแฟตเหนียงออกกำลังกายเบา ๆ หลัง 48 ชั่วโมง
• เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญและขับไขมัน
• เลี่ยงการออกกำลังหนักใน 1-2 วันแรกหลังฉีด
7.หลังฉีดแฟตเหนียงติดตามผลกับแพทย์ตามนัด
• เพื่อประเมินผลลัพธ์และวางแผนว่าควรฉีดแฟตเหนียงซ้ำหรือไม่
• แจ้งแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติหลังฉีดแฟตเหนียง เช่น บวมมาก ปวดรุนแรง หรือมีผื่นขึ้น
ฉีดแฟตเหนียงมีข้อห้ามอะไรบ้าง
หลังฉีดแฟตเหนียง มีบางสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้ตัวยาทำงานเต็มประสิทธิภาพ ลดการบวมช้ำ และป้องกันผลข้างเคียง สิ่งที่ห้ามทำหลังฉีดแฟตเหนียง ได้แก่
1.ฉีดแฟตเหนียงห้ามสัมผัส กด นวด หรือเกาบริเวณที่ฉีด
อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันตัวยากระจายไปตำแหน่งที่ไม่ต้องการ และลดการอักเสบ
2.ฉีดแฟตเหนียงห้ามโดนความร้อนสูง
เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ แช่น้ำร้อน หรือออกแดดจัด ควรเว้น 3-5 วัน หลังฉีดแฟตเหนียง เพื่อไม่ให้บวมและแดงมากขึ้น
3.ฉีดแฟตเหนียงห้ามออกกำลังกายหนักใน 24-48 ชั่วโมงแรก
เพื่อลดแรงกระแทกและการไหลเวียนเลือดที่อาจทำให้บวมช้ำมากขึ้น
4.ฉีดแฟตเหนียงห้ามดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีดแฟตเหนียง เพราะจะทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ปกติ ฟื้นตัวช้าลง และอาจบวมมากขึ้น
5.ฉีดแฟตเหนียงห้ามใช้ยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดโดยไม่ปรึกษาแพทย์
เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), วิตามินอี, โสม, น้ำมันปลา เพราะเพิ่มความเสี่ยงฟกช้ำ
6.ฉีดแฟตเหนียงห้ามทำหัตถการความงามอื่นในบริเวณเดียวกันทันที
เช่น ร้อยไหม , HIFU , เลเซอร์ ควรเว้นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ก่อนหรือหลังฉีดแฟตเหนียง
สรุปเกี่ยวกับการฉีดแฟตเหนียง
สรุปว่าการฉีดแฟตเหนียงเป็นวิธีลดไขมันใต้คางที่เห็นผลชัดเจนและอันตรายน้อย หากทำโดยแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้ตัวยาของแท้ นอกจากจะช่วยลดปริมาณไขมันและทำให้หน้าดูเรียวขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้รูปหน้าดูสมส่วนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนทำควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว ปริมาณไขมัน และเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดกับตนเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ และลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงในระยะยาว
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ