โปรแกรมฉีดลดเหนียง คืออะไร กี่วันหายบวม มีข้อห้ามหลังทำอย่างไรบ้าง
ฉีดลดเหนียง
ฉีดลดเหนียง กี่วันหายบวม มีข้อห้ามอะไรบ้างหลังทำ
การมีเหนียงหรือไขมันใต้คางเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะส่งผลต่อความชัดของกรอบหน้าและบุคลิกภาพโดยรวม ปัจจุบัน “การฉีดลดเหนียง” ถือเป็นหนึ่งในหัตถการความงามที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ฟื้นตัวในเวลาไม่นาน และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
ก่อนตัดสินใจฉีดลดเหนียงควรรู้อะไรบ้าง เพื่อได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ และลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง ในบทความนี้รวมข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับการฉีดลดเหนียงคืออะไร ช่วยลดเหนียงได้อย่างไร เหมาะกับใคร อันตรายไหม รวมถึงวิธีเตรียมตัวก่อนทำและวิธีดูแลตัวเองหลังทำ
ฉีดลดเหนียงคืออะไร
ฉีดลดเหนียง คือ หัตถการเสริมความงามที่ใช้ตัวยาฉีดเข้าไปในบริเวณใต้คางหรือส่วนที่มีเหนียง เพื่อทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว และกระตุ้นให้ร่างกายขับออกทางระบบน้ำเหลืองตามธรรมชาติ ส่งผลให้ไขมันใต้คางลดลงและผิวบริเวณนั้นกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
ตัวยาที่ใช้มักเป็นสาร Deoxycholic Acid หรือสูตรผสมในกลุ่ม Meso Fat ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำให้ผนังเซลล์ไขมันแตกตัว ไขมันที่สลายจะถูกกำจัดออกจากร่างกายทีละน้อย ทำให้เหนียงค่อย ๆ ยุบและกรอบหน้าดูชัดขึ้น
6 สาเหตุที่ทำให้เกิดเหนียง
ก่อนฉีดลดเหนียง ควรรู้ว่าเหนียงเกิดจากอะไร โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดเหนียงสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากโครงสร้างใบหน้า พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการเปลี่ยนแปลงตามวัย โดยสาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
1.ไขมันสะสมใต้คาง
เมื่อร่างกายได้รับพลังงานเกินความต้องการ ไขมันส่วนเกินจะถูกสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงบริเวณใต้คาง ทำให้เกิดก้อนนูนหรือเหนียงขึ้นมา
2.ผิวหนังและกล้ามเนื้อหย่อนคล้อย
เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลง ส่งผลให้ผิวไม่กระชับ กล้ามเนื้อใต้คางอ่อนแรง ทำให้เกิดผิวส่วนเกินหรือหนังหย่อนยานคล้ายเหนียง
3.พันธุกรรม
บางคนแม้น้ำหนักตัวไม่มากก็มีโครงสร้างคางสั้นหรือคางถอย ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคางกับลำคอมากขึ้น และมีโอกาสเกิดเหนียงได้ง่าย
4.น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
การรับประทานอาหารมากเกินความจำเป็นและขาดการออกกำลังกาย ทำให้ไขมันสะสมในหลายจุดรวมถึงใต้คาง
5.ท่าทางการใช้ชีวิต
การนั่งก้มหน้าดูโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์นาน ๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคางและลำคออ่อนแรง เมื่อทำต่อเนื่องเป็นเวลานานผิวจะหย่อนและเกิดเหนียงได้ง่าย
6.การเสื่อมของผิวตามวัย
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น กระบวนการสร้างคอลลาเจนและการเผาผลาญไขมันช้าลง ทำให้ทั้งผิวหย่อนและไขมันสะสมได้มากขึ้น
ข้อดีของการฉีดลดเหนียง
ข้อดีของการฉีดลดเหนียงมีหลายด้านที่ทำให้เป็นทางเลือกยอดนิยม สำหรับคนที่อยากกำจัดไขมันใต้คางและปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น โดยข้อดีหลัก ๆ ได้แก่
1.ฉีดลดเหนียงช่วยลดไขมันใต้คางหรือลดเหนียง
ฉีดลดเหนียงช่วยลดไขมันที่สะสมอยู่บริเวณใต้คาง ทำให้เหนียงยุบลงและคางดูเรียวขึ้น
2.ฉีดลดเหนียงช่วยยกกระชับปรับกรอบหน้าให้ชัด
เมื่อไขมันใต้คางลดลงจากการฉีดลดเหนียง เส้นกรอบหน้าจะดูคมชัด ทำให้ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น
3.ฉีดลดเหนียงช่วยให้ใบหน้าดูเรียว
การลดปริมาณไขมันใต้คางด้วยการฉีดลดเหนียงทำให้คางยาวขึ้น และลดความรู้สึกว่าหน้าสั้นหรือกลมเกินไป
4.ฉีดลดเหนียงช่วยกระชับผิวใต้คาง
ตัวยาบางสูตรช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวบริเวณใต้คางกระชับ ไม่หย่อนคล้อยหลังไขมันลดลง
5.ฉีดลดเหนียงช่วยเสริมความมั่นใจ
เมื่อรูปหน้าดูดีขึ้น เหนียงลดลง จากการฉีดลดเหนียง ก็ทำให้มั่นใจเวลาถ่ายรูปหรือเข้าสังคมมากขึ้น
6.ฉีดลดเหนียงเป็นทางเลือกแทนการผ่าตัด
ฉีดลดเหนียงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการดูดไขมันหรือศัลยกรรมใหญ่ เพราะเป็นวิธีลดเหนียงที่พักฟื้นน้อยและความเสี่ยงน้อยกว่า
ใครบ้างที่เหมาะฉีดลดเหนียง
ผู้ที่เหมาะกับการฉีดลดเหนียง คือคนที่มีปัญหาไขมันใต้คางหรือเหนียงในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง และต้องการปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้นโดยไม่ผ่าตัด สามารถแบ่งได้ดังนี้
1.ฉีดลดเหนียงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันใต้คางสะสม
การฉีดลดเหนียงเหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมจนทำให้คางและลำคอดูกลืนกัน หรือทำให้รูปหน้าดูกลมไม่ชัด
2.ฉีดลดเหนียงเหมาะกับผู้ที่ผิวยังมีความยืดหยุ่น
หลังไขมันลดลงจากการฉีดลดเหนียง ผิวสามารถกระชับตัวได้เอง ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
3.ฉีดลดเหนียงเหมาะกับผู้ที่ไม่อยากผ่าตัดหรือดูดไขมัน
การฉีดลดเหนียงเหมาะกับคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงการผ่าตัดใหญ่ ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน และอยากได้วิธีที่เจ็บน้อยกว่า
4.ฉีดลดเหนียงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับกรอบหน้า
การฉีดลดเหนียงช่วยให้คางดูยาวขึ้น กรอบหน้าคมชัดขึ้น และรูปหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น
5.ฉีดลดเหนียงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจ
คนที่รู้สึกไม่มั่นใจเวลาถ่ายรูปมุมเสย หรือเห็นเหนียงชัดเวลาหันข้าง การฉีดลดเหนียงช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูเรียว ทำให้เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น
ใครที่ควรหลีกเลี่ยงฉีดลดเหนียง
ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงการฉีดลดเหนียง คือกลุ่มคนที่อาจมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง หรือไม่ได้รับผลลัพธ์ที่เหมาะสมจากหัตถการนี้ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ โดยกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงฉีดลดเหนียง ได้แก่
1.ฉีดลดเหนียงไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
เพื่อความปลอดภัยของทารกและคุณแม่ ควรงดการฉีดสารทุกชนิดในช่วงนี้
2.ฉีดลดเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง
เช่น โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคเลือด หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้าหรือมีภาวะแทรกซ้อน
3.ฉีดลดเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่มีการติดเชื้อหรืออักเสบบริเวณที่จะฉีด
ควรรักษาให้หายดีก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อและการอักเสบเพิ่มขึ้น
4.ฉีดลดเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้ส่วนผสมในตัวยาสลายไขมัน
โดยเฉพาะสารในกลุ่ม Deoxycholic Acid หรือส่วนผสมของ Meso Fat
5.ฉีดลดเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมาก
ในกรณีที่ผิวใต้คางหย่อนมากเกินไป การฉีดลดไขมันอาจทำให้ผิวยิ่งหย่อนลง ควรทำร่วมกับหัตถการยกกระชับ เช่น HIFU, Ulthera หรือ Thermag
6.ฉีดลดเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่เพิ่งทำศัลยกรรมหรือหัตถการบริเวณคางและคอ
ควรเว้นช่วงให้แผลหรือเนื้อเยื่อฟื้นตัวสมบูรณ์ก่อนจึงทำการฉีดลดเหนียง
7.ฉีดลดเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมากหรือมีไขมันสะสมทั่วใบหน้า
การฉีดลดเหนียงอาจไม่เพียงพอ ควรลดน้ำหนักโดยรวมก่อนเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจน
ฉีดลดเหนียงมีผลข้างเคียงไหม
การฉีดลดเหนียง แม้จะเป็นหัตถการที่ถือว่าไม่เป็นอันตราย เมื่อทำโดยแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้ตัวยาของแท้ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการชั่วคราวหลังฉีดลดเหนียง และหายเองภายในไม่กี่วันถึงสัปดาห์
ผลข้างเคียงฉีดลดเหนียงที่พบได้บ่อย
1.บวมแดงบริเวณที่ฉีด - เกิดจากการอักเสบเล็กน้อยหลังฉีด มักยุบภายใน 2-5 วัน
2.ช้ำหรือมีรอยเข็ม - เกิดจากเส้นเลือดฝอยแตกเล็กน้อย หายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
3.เจ็บหรือปวดตึงใต้คาง - มักเป็นเพียงชั่วคราว และสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก
4.รู้สึกชาเล็กน้อย - อาจเกิดจากการที่เส้นประสาทเล็ก ๆ ถูกกดหรือระคายเคือง อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น
5.คันหรือระคายเคืองผิว - เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อสารที่ฉีด
ผลข้างเคียงฉีดลดเหนียงที่พบได้น้อยแต่ควรระวัง
• อาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) - แม้พบได้น้อยมาก แต่ควรทำในสถานพยาบาลที่พร้อมดูแล
• การติดเชื้อ - ป้องกันได้ด้วยการทำในคลินิกที่สะอาดและแพทย์ใช้เทคนิคปลอดเชื้อ
• เส้นประสาทถูกทำลาย - พบได้ยากมาก หากแพทย์ไม่แม่นยำในตำแหน่งฉีด
ฉีดลดเหนียงกี่วันหายบวม
โดยทั่วไปหลังฉีดลดเหนียงจะมีอาการบวมเกิดขึ้น จากการอักเสบเล็กน้อยของเนื้อเยื่อและกระบวนการลดไขมัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติและเป็นสัญญาณว่าตัวยากำลังทำงาน
ระยะเวลาบวมโดยประมาณหลังฉีดลดเหนียง
• 1-3 วันแรก บวมชัดที่สุด อาจรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อย
• วันที่ 4-7 อาการบวมจะเริ่มยุบลงอย่างเห็นได้ชัด
• ประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาการบวมและรอยช้ำจะหายไปเกือบทั้งหมด
• บางคนอาจมีอาการบวมเล็กน้อยคงอยู่ได้นานถึง 3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปริมาณตัวยาที่ใช้และการตอบสนองของร่างกาย
ปัจจัยที่ทำให้หายบวมเร็วหรือช้าหลังฉีดลดเหนียง
• ปริมาณตัวยาและจำนวนจุดที่ฉีด
• การดูแลหลังทำ เช่น ประคบเย็น พักผ่อนเพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ
• ระบบการไหลเวียนของร่างกายแต่ละคน
• การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระตุ้นการอักเสบ เช่น ออกกำลังกายหนัก ดื่มแอลกอฮอล์ หรือทานอาหารรสเค็มจัดในช่วงแรก
ฉีดลดเหนียงกี่วันถึงเห็นผล
การฉีดลดเหนียงจะไม่เห็นผลทันทีหลังทำ เพราะต้องใช้เวลาให้ตัวยาทำงานและให้ร่างกายกำจัดไขมันออกตามกระบวนการธรรมชาติ
ระยะเวลาการเห็นผลฉีดลดเหนียงโดยทั่วไป
• สัปดาห์แรก จะมีอาการบวมตึง เนื่องจากตัวยาเริ่มทำลายเซลล์ไขมัน
• ประมาณ 2-3 สัปดาห์ อาการบวมเริ่มยุบ เห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ไขมันเริ่มลดลง
• ประมาณ 4-6 สัปดาห์ ผลลัพธ์ชัดขึ้น เหนียงยุบลง กรอบหน้าดูคมขึ้น
• กรณีต้องทำหลายครั้ง ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำฉีดลดเหนียง 2-4 ครั้ง เว้นระยะ 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและคงอยู่ได้นาน
ปัจจัยที่ทำให้ฉีดลดเหนียงเห็นผลเร็วหรือช้า
• ปริมาณไขมันใต้คาง
• สูตรตัวยาและเทคนิคการฉีด
• การตอบสนองของร่างกายแต่ละคน
• การควบคุมน้ำหนักและการดูแลตัวเองหลังทำ
ฉีดลดเหนียงอยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์ของการฉีดลดเหนียงสามารถอยู่ได้นานหลายปี หากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ถูกแตกตัวจะไม่ฟื้นตัวขึ้นมาอีก แต่ไขมันใหม่สามารถสะสมได้ถ้าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
ระยะเวลาผลลัพธ์ฉีดลดเหนียงโดยทั่วไป
• หลังทำครบคอร์ส ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 1-3 ปี หรือมากกว่านั้น
• หากควบคุมน้ำหนักได้ดี อาจคงอยู่ได้นานหลายปีโดยไม่ต้องฉีดซ้ำ
• หากน้ำหนักเพิ่มมาก ไขมันสามารถกลับมาสะสมใหม่และทำให้เหนียงเกิดซ้ำได้
ปัจจัยที่มีผลต่อความคงทนของผลลัพธ์ฉีดลดเหนียง
• การควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันกลับมา
• อายุและความยืดหยุ่นของผิว โดยผิวที่ยืดหยุ่นดีจะกระชับได้นานกว่า
• พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ท่านั่งทำงาน ท่านอน และการดูแลสุขภาพผิว
• การดูแลหลังทำ ควรทำตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อลดโอกาสไขมันกลับมาเร็ว
ฉีดลดเหนียง มีข้อห้ามอะไรบ้าง
หลังฉีดลดเหนียงมีข้อห้ามและข้อควรหลีกเลี่ยงบางอย่าง เพื่อป้องกันการอักเสบ ลดอาการบวมช้ำ และช่วยให้ตัวยาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยมีข้อห้ามและสิ่งที่ควรเลี่ยงหลังฉีดลดเหนียงดังนี้
1.ฉีดลดเหนียงห้ามการนวดหรือกดแรงบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ตัวยากระจายผิดตำแหน่งและเพิ่มรอยช้ำ
2.ฉีดลดเหนียงห้ามออกกำลังกายหนัก 48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการบวมและการไหลเวียนเลือดที่มากเกินไปในบริเวณฉีด
3.ฉีดลดเหนียงห้ามดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน 24-48 ชั่วโมงแรก เพราะอาจทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้นและเพิ่มการบวมช้ำ
4.ฉีดลดเหนียงห้ามทานอาหารรสเค็มจัดหรือโซเดียมสูง เพื่อป้องกันการคั่งของน้ำและอาการบวมมากขึ้น
5.ฉีดลดเหนียงห้ามแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีดใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
6.ฉีดลดเหนียงห้ามซาวน่า อบไอน้ำ หรืออาบน้ำร้อนจัด เพราะความร้อนสูงจะกระตุ้นการอักเสบและทำให้บวมมากขึ้น
7.ฉีดลดเหนียงห้ามหัตถการอื่นบริเวณคางและลำคอทันทีหลังทำ เช่น HIFU, เลเซอร์ หรือการร้อยไหม ควรเว้นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
ข้อแนะนำเตรียมตัวก่อนฉีดลดเหนียง
การเตรียมตัวก่อนฉีดลดเหนียงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การทำหัตถการลดความเสี่ยงผลข้างเคียง และทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งควรปฏิบัติดังนี้
1.ก่อนฉีดลดเหนียงปรึกษาแพทย์และประเมินปัญหา
• ให้แพทย์ตรวจประเมินปริมาณไขมันใต้คางและสภาพผิว
• แจ้งประวัติการเจ็บป่วย ยาที่ใช้เป็นประจำ อาการแพ้ยา หรือการทำหัตถการในช่วงที่ผ่านมา
2.ก่อนฉีดลดเหนียงงดใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด
• หยุดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน อย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ (ทำตามคำแนะนำแพทย์)
• งดอาหารเสริมบางชนิด เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี โสม หรือแปะก๊วย ที่อาจทำให้เลือดออกง่าย
3.ก่อนฉีดลดเหนียงงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
• อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนทำ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการบวมช้ำและช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็ว
4.ก่อนฉีดลดเหนียงควรพักผ่อนให้เพียงพอ
• นอนหลับให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับการรักษา
5.ก่อนฉีดลดเหนียงควรเตรียมผิวบริเวณที่ทำให้สะอาด
• ล้างทำความสะอาดใบหน้าและลำคอให้หมดจด
• งดแต่งหน้าและทาครีมบำรุงในวันที่ทำหัตถการ
6.ก่อนฉีดลดเหนียงควรวางแผนการใช้ชีวิตหลังทำ
• เลือกช่วงเวลาที่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างเต็มที่หลังทำ เช่น ไม่มีงานสำคัญใน 2-3 วันถัดมา
• เตรียมหมอนหนุนสูงเล็กน้อยเพื่อลดบวมช่วงนอน
ข้อแนะนำดูแลตัวเองหลังฉีดลดเหนียง
การดูแลตัวเองหลังฉีดลดเหนียงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดอาการบวมช้ำ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และทำให้ตัวยาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ผลลัพธ์จึงออกมาชัดเจนและอยู่ได้นาน
1.หลังฉีดลดเหนียงแนะนำประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก ช่วยลดอาการบวม แดง และปวดตึง ควรประคบครั้งละ 10-15 นาที เว้นช่วงให้ผิวได้พัก
2.หลังฉีดลดเหนียงเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการกระจายของตัวยาผิดตำแหน่งและลดโอกาสเกิดรอยช้ำเพิ่ม
3.หลังฉีดลดเหนียงงดออกกำลังกายหนัก 48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดการไหลเวียนเลือดที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้บวมช้ำนานขึ้น
4.หลังฉีดลดเหนียงงดดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงหลังทำ เพราะอาจกระตุ้นการบวมและทำให้ฟื้นตัวช้าลง
5.หลังฉีดลดเหนียงเลี่ยงอาหารรสเค็มจัดและโซเดียมสูง เพื่อป้องกันการคั่งของน้ำในร่างกาย ซึ่งจะทำให้บวมมากขึ้น
6.หลังฉีดลดเหนียงควรดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยกระตุ้นการขับของเสียและไขมันที่ถูกสลายออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลือง
7.หลังฉีดลดเหนียงงดซาวน่า อบไอน้ำ หรืออาบน้ำร้อนจัด อย่างน้อย 3-5 วันหลังทำ เพราะความร้อนสูงจะกระตุ้นการอักเสบและเพิ่มการบวม
8.หลังฉีดลดเหนียงงดหัตถการอื่นในบริเวณเดียวกัน เช่น HIFU, Ulthera, เลเซอร์ หรือร้อยไหม ควรเว้นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
9.หลังฉีดลดเหนียงนอนหนุนหมอนสูงเล็กน้อย เพื่อลดการคั่งของน้ำเหลืองและช่วยให้อาการบวมยุบเร็วขึ้น
10.หลังฉีดลดเหนียงปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงการรับประทานยาลดบวม แก้ปวด หรือยาปฏิชีวนะหากแพทย์สั่ง
ฉีดลดเหนียงทำซ้ำได้บ่อยแค่ไหน
การฉีดลดเหนียงสามารถทำซ้ำได้ แต่ต้องเว้นระยะให้ร่างกายมีเวลาสลายและขับไขมันออกก่อน เพื่อให้เห็นผลชัดขึ้นและลดความเสี่ยงผลข้างเคียง
ระยะเวลาที่ควรเว้นระหว่างฉีดลดเหนียงแต่ละครั้ง
• โดยทั่วไป ควรเว้นประมาณ 3-4 สัปดาห์ ระหว่างการฉีดลดเหนียงแต่ละครั้ง
• ช่วงเวลานี้ช่วยให้ร่างกายกำจัดไขมันที่ถูกสลายออกทางระบบน้ำเหลือง และให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวเต็มที่ก่อนฉีดซ้ำ
จำนวนครั้งที่แนะนำในการฉีดลดเหนียง
• ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำ 2-4 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและสภาพผิว
• ในบางรายที่มีไขมันน้อย อาจทำเพียง 1-2 ครั้งก็เพียงพอ
• สำหรับผู้ที่มีไขมันมาก อาจต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งตามแผนการรักษาของแพทย์
ปัจจัยที่กำหนดความถี่ในการฉีดลดเหนียงซ้ำ
1.ปริมาณไขมันใต้คาง ผู้ที่มีไขมันมากต้องทำหลายครั้ง
2.การตอบสนองของร่างกาย บางคนสลายไขมันได้เร็วกว่า
3.สูตรและความเข้มข้นของตัวยา สูตรบางชนิดอาจต้องเว้นระยะนานขึ้น
4.การดูแลหลังทำ หากดูแลดีอาจลดจำนวนครั้งที่ต้องทำ
ฉีดลดเหนียงทำให้หน้าเบี้ยวไหม
โดยทั่วไปการฉีดลดเหนียงไม่ทำให้หน้าเบี้ยว หากทำโดยแพทย์ที่เข้าใจโครงสร้างใบหน้า และฉีดลดเหนียงในตำแหน่งที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องหน้าเบี้ยวหลังฉีดลดเหนียงมักเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือ
1.การฉีดลดเหนียงโดนเส้นประสาทบางตำแหน่ง
• หากตัวยาส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ อาจทำให้กล้ามเนื้อทำงานช้าลงชั่วคราว
• อาการนี้พบได้น้อยมาก และมักหายเองภายใน 2-4 สัปดาห์
2.อาการบวมไม่เท่ากันหลังฉีดลดเหนียง
• หลังฉีดลดเหนียง ไขมันและเนื้อเยื่ออาจมีการบวมไม่เท่ากัน ทำให้ดูคล้ายหน้าเบี้ยวชั่วคราว
• เมื่อบวมยุบลง รูปหน้าจะกลับมาเท่ากันตามปกติ
ฉีดลดเหนียงทำกับหัตถการอื่นได้ไหม
การฉีดลดเหนียงสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ แต่ต้องพิจารณาประเภทของหัตถการและเว้นระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง
หัตถการที่สามารถฉีดลดเหนียงร่วมได้และมักแนะนำ เช่น
1.HIFU / Ulthera / Thermage
การทำเลเซอร์ยกกระชับผิว เช่น HIFU, Ulthera และ Thermage ร่วมกับการฉีดลดเหนียง ช่วยยกกระชับผิวใต้คางและกรอบหน้า หลังไขมันลดลง ควรเว้นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ หลังฉีดเพื่อลดการระคายเคืองผิว
2.ร้อยไหมยกกระชับ
ร้อยไหมยกกระชับร่วมกับการฉีดลดเหนียง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนร่วมกับไขมันใต้คาง ควรทำหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อให้บวมยุบก่อน
3.ฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์คางร่วมกับการฉีดลดเหนียง ใช้ปรับรูปคางให้ได้สัดส่วนหลังไขมันใต้คางลดลง ควรทำเมื่ออาการบวมจากการฉีดลดเหนียงหายดีแล้ว ประมาณ 2-4 สัปดาห์
4.การฉีดลดไขมันแก้ม
การฉีดลดไขมันแก้มและฉีดลดเหนียงทำร่วมกันได้ เพื่อปรับรูปหน้าโดยรวมให้ดูเรียวสมส่วนขึ้น อาจทำในครั้งเดียวกันหรือเว้น 1-2 สัปดาห์ตามดุลยพินิจแพทย์
หัตถการที่ควรหลีกเลี่ยงทำร่วมกับฉีดลดเหนียงในช่วงใกล้เคียง
• เลเซอร์ที่มีความร้อนสูง ในบริเวณเดียวกันทันทีหลังฉีด เพราะอาจกระตุ้นการอักเสบเพิ่ม
• ซาวน่า อบไอน้ำ หรือ RF ความร้อนสูง ในช่วง 3-5 วันแรก หลังฉีดลดเหนียง
สรุปเกี่ยวกับการฉีดลดเหนียง
สรุปว่าการฉีดลดเหนียงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันใต้คาง และยกกระชับปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์หลังฉีดลดเหนียงสามารถอยู่ได้นานหลายปี หากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ทั้งนี้การฉีดลดเหนียง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง ควรทำกับแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาของแท้ที่ได้รับรอง และปฏิบัติตามคำแนะนำก่อน-หลังฉีดลดเหนียงอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้การวางแผนฉีดลดเหนียงร่วมกับหัตถการอื่น เช่น HIFU หรือร้อยไหม อาจช่วยเสริมให้ผิวกระชับและรูปหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าใบหน้าจะดูสวยคมชัดและรู้สึกมั่นใจได้ในทุกมุมมอง
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ