romrawin

โปรแกรมโบท็อกซ์ Nabota คืออะไร กี่วันถึงเห็นผล มีข้อดีอย่างไร

โบท็อกซ์ Nabota , Nabota

โบท็อกซ์ Nabota คืออะไร ดีหรือไม่ ต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไร
โบท็อกซ์ Nabota เป็นยี่ห้อโบท็อกซ์ที่หลายคนนิยมในเรื่องของราคาที่เข้าถึงได้ และในความบริสุทธิ์ของตัวยา ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว
โบท็อกซ์ Nabota ต่างจากโบท็อกซ์แบรนด์อื่นอย่างไร มีจุดเด่น ข้อควรระวังอะไรบ้าง บทความนี้เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ โบท็อกซ์ Nabota มาไว้ให้แล้วเพื่อให้เราทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจทำหัตถการนี้

รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับโบท็อกซ์ Nabota
- โบท็อกซ์ Nabota คืออะไรมีหลักการอย่างไร
- โบท็อกซ์ Nabota แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร
- ข้อดีของโบท็อกซ์ Nabota
- ข้อควรระวังของโบท็อกซ์ Nabota
- ใครเหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ Nabota
- ใครควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์ Nabota
- โบท็อกซ์ Nabota เหมาะกับการฉีดบริเวณไหนบ้าง
- บริเวณไหนควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์ Nabota
- โบท็อกซ์ Nabota ของแท้ของปลอมต่างกันอย่างไร
- การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ Nabota
- การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota
- ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota
- ฉีดโบท็อกซ์ Nabota เห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่
- โบท็อกซ์ Nabota อยู่ได้นานแค่ไหน
- โบท็อกซ์ Nabota ทำกับหัตถการอะไรเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับโบท็อกซ์ Nabota

โบท็อกซ์ Nabota คืออะไรมีหลักการอย่างไร
โบท็อกซ์ Nabota เป็นหนึ่งในแบรนด์ของสาร Botulinum toxin type A ซึ่งเป็นโปรตีนสกัดบริสุทธิ์จากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ที่ผ่านกระบวนการทำให้ม่เป็นอันตรายต่อการใช้ในทางการแพทย์ โดยใช้เพื่อ ลดการหดตัวของกล้ามเนื้อชั่วคราว ช่วยให้ริ้วรอยต่าง ๆ ดูเรียบเนียนขึ้น ใบหน้าดูอ่อนโยน และสามารถปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนอย่างเหมาะสม

โบท็อกซ์ Nabota

โปรแกรมโบท็อกซ์ Nabota คืออะไร กี่วันถึงเห็นผล มีข้อดีอย่างไร

โบท็อกซ์ Nabota ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

โบท็อกซ์ Nabota มีทั้งหมดกี่แบบ
โบท็อกซ์ Nabota ที่ได้รับการอนุมัติจากไทย มีให้เลือก 2 แบบ โดย โบท็อกซ์ Nabota ทั้ง 2 แบบแตกต่างกันที่ จำนวนยูนิต (Units) ดังนี้

ประเภท

จำนวนยูนิต

ลักษณะบรรจุภัณฑ์

การใช้งานที่เหมาะสม

โบท็อกซ์ Nabota  กล่องดำ

100 ยูนิต

กล่องสีดำ

เหมาะสำหรับการฉีดเฉพาะจุด เช่น ริ้วรอยหน้าผาก หางตา หรือกราม

โบท็อกซ์ Nabota กล่องแดง

200 ยูนิต

กล่องสีแดง

เหมาะกับผู้ที่ต้องการฉีดหลายบริเวณ หรือทำโปรแกรมปรับรูปหน้าทั่วใบหน้า

หลักการทำงานของโบท็อกซ์ Nabota
เมื่อฉีดโบท็อกซ์ Nabota เข้าสู่กล้ามเนื้อ สารโบทูลินัมท็อกซินจะ

1.โบท็อกซ์ Nabota ยับยั้งการส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อ
2.โบท็อกซ์ Nabota ทำให้กล้ามเนื้อ คลายตัวชั่วคราว ไม่สามารถหดตัวได้ตามปกติ
3.โบท็อกซ์ Nabota ส่งผลให้ ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าดูตื้นขึ้น และ
4.โบท็อกซ์ Nabota ทำให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น จากการลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกราม

โบท็อกซ์ Nabota แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร
โบท็อกซ์ Nabota แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งด้านความบริสุทธิ์ของสาร อนุภาคโมเลกุล การออกฤทธิ์ และระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่ ซึ่ง Nabota Botox (นาโบตะ โบท็อกซ์) เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงจากเกาหลีใต้ เพราะมีเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะตัวที่ให้ผลลัพธ์แบบเห็นได้ชัดและไม่แข็.ตึงจนเกินไป โบท็อกซ์ Nabota จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลที่ค่อนข้างไว เช่น งานสำคัญ หรืองานเร่งด่วน

เปรียบเทียบโบท็อกซ์ Nabota กับโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น

คุณสมบัติ

Nabota (เกาหลี)

Allergan (อเมริกา)

Xeomin (เยอรมนี)

ความบริสุทธิ์

98.7% (HI-PURE)

99.5%

ไม่มีโปรตีน Complex เลย

เห็นผลภายใน

3-5 วัน

5-7 วัน

4-6 วัน

ระยะเวลาคงอยู่

4-6 เดือน

6-8 เดือน

4-6 เดือน

ลักษณะผลลัพธ์

 ไม่แข็งตึง

ชัดเจน ตึงกระชับ

ละเอียดนุ่มนวล

ราคา

ย่อมเยา คุ้มค่า

สูงกว่า

ปานกลาง

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ต้องการเห็นผลไว งานเร่ง

ผู้ต้องการผลอยู่ทนนาน

ผู้มีประวัติดื้อโบท็อกซ์

ข้อดีของโบท็อกซ์ Nabota
โบท็อกซ์ Nabota เป็นโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมทั้งในเอเชียและต่างประเทศ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้มีความบริสุทธิ์สูง ไม่เป็นอันตราย เห็นผลรวดเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ไม่แข็งตึง

1.โบท็อกซ์ Nabota มีความบริสุทธิ์ของตัวยาสูง
โบท็อกซ์ Nabota ใช้เทคโนโลยีการผลิตเฉพาะที่เรียกว่า HI-PURE Technology ซึ่งช่วยกำจัดโปรตีนส่วนเกินและสิ่งเจือปนออกจากตัวยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สารโบทูลินัมท็อกซินบริสุทธิ์สูงถึง 98.7%

• ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการดื้อยา
• ทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้แบบคงที่
• มั่นใจว่าไม่เป็นอันตรายแม้ใช้ต่อเนื่องในระยะยาว

2.โบท็อกซ์ Nabota ค่อนข้างเห็นผลทันที
โบท็อกซ์ Nabota เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 3-5 วันหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota ซึ่งเร็วกว่ายี่ห้ออื่นบางชนิดที่อาจต้องรอ 5-7 วัน

• ริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด
• กล้ามเนื้อบริเวณกรามเริ่มคลายตัว ใบหน้าดูเรียวขึ้น

3.โบท็อกซ์ Nabota มีผลลัพธ์ไม่แข็งตึงดูละมุน
โบท็อกซ์ Nabota มีโมเลกุลขนาดสม่ำเสมอ ทำให้เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อแล้วเกิดการกระจายตัวที่พอดี ไม่แข็งตึงหรือดูฝืน

• กล้ามเนื้อคลายตัว
• สีหน้าแสดงออกได้ปกติ
• เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้ใบหน้าดูแข็งหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota

4.เทคโนโลยีการผลิตมาตรฐานระดับโลก
ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical ซึ่งมีประสบการณ์ด้านเวชภัณฑ์กว่า 30 ปี และผ่านมาตรฐานการผลิต GMP ระดับสากล นอกจากนี้ โบท็อกซ์ Nabota ยืนยันถึงคุณภาพและมั่นใจได้เลยว่าไม่เป็นอันตราย

5.ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพ
โบท็อกซ์ Nabota เป็นโบท็อกซ์นำเข้าที่มีราคาย่อมเยากว่ายี่ห้อจากยุโรปหรืออเมริกา แต่ให้คุณภาพและประสิทธิภาพใกล้เคียง

6.โบท็อกซ์ Nabota ดื้อยาน้อย ฉีดซ้ำได้ไม่อันตราย
ด้วยโครงสร้างของสารที่มีความบริสุทธิ์สูงและโปรตีนส่วนเกินต่ำมาก โบท็อกซ์ Nabota จึงมีโอกาสเกิดการดื้อยาน้อย

• สามารถฉีดโบท็อกซ์ Nabota ซ้ำในระยะยาวได้โดยไม่ลดประสิทธิภาพ

ข้อควรระวังของโบท็อกซ์ Nabota
แม้ว่า โบท็อกซ์ Nabota จะเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในเรื่องของคุณภาพและมั่นใจได้ว่าไม่อันตราย แต่ด้วยความนิยมมาก เลยส่งผลให้มีการลักลอบ โบท็อกซ์ Nabota นำเข้าผลิตภัณฑ์ปลอมและสินค้าหิ้วจำนวนมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้หากผู้ใช้ไม่ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนการฉีด

1.ระวังโบท็อกซ์ปลอมและของหิ้ว
เนื่องจากโบท็อกซ์ Nabota เป็นโบท็อกซ์จากเกาหลีที่มีราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น จึงมักถูกลอกเลียนแบบหรือนำเข้าแบบผิดกฎหมายอยู่บ่อย ๆ

• โบท็อกซ์ปลอมบางชนิดอาจให้ผลลัพธ์ดีในช่วงแรก แต่เมื่อฉีดซ้ำหลายครั้ง อาจเกิดอาการ ดื้อยา หรือ ไม่เห็นผลเท่าที่ควร
• ในกรณีร้ายแรง สารที่ใช้ในของปลอมอาจไม่บริสุทธิ์เพียงพอ ส่งผลให้เกิด การแพ้ การอักเสบ หรือผลข้างเคียงรุนแรงต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ได้

2.ตรวจสอบลักษณะบรรจุภัณฑ์ของแท้
ในประเทศไทย โบท็อกซ์ Nabota ที่ได้รับอนุญาตจาก อย.มีจำหน่ายเพียง 2 ขนาดเท่านั้น คือ

- กล่องสีดำ ขนาด 100 ยูนิต
- กล่องสีแดง ขนาด 200 ยูนิต

หากพบเห็นบรรจุภัณฑ์โบท็อกซ์ Nabota ที่เป็น สีอื่น เช่น สีเขียว หรือสีส้ม มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นสินค้าปลอมหรือสินค้าหิ้วที่ไม่ได้ผ่านการควบคุมคุณภาพ

3.ระวังโบท็อกซ์ Nabota ราคาถูกผิดปกติ
หากพบโปรโมชั่นที่ราคาถูกกว่ามาตรฐานมาก เช่น ฉีดทั้งหน้าในราคาหลักพันต้น ๆ หรือมีการโฆษณาว่าใช้ “ของแท้ราคาพิเศษเกินจริง” ควรตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Nabota

• คลินิกบางที่อาจ ผสมน้ำเกลือในอัตราส่วนที่มากเกินไป เพื่อประหยัดต้นทุน ทำให้ตัวยาเจือจางและออกฤทธิ์สั้น
• บางกรณีอาจใช้ ตัวยาไม่ได้มาตรฐานหรือยาหิ้ว ซึ่งไม่มีการควบคุมคุณภาพ
• ผลที่ตามมาคือ ประสิทธิภาพลดลง ริ้วรอยกลับมาไว หรืออาจเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota

4.ควรฉีดโดยแพทย์เท่านั้น
การฉีดโบท็อกซ์ Nabota ไม่ใช่เพียงการ “ฉีดยาให้เข้ากล้ามเนื้อ” แต่ต้องอาศัยความรู้ทางกายวิภาคและเทคนิคเฉพาะของแพทย์ ถ้าฉีดผิดชั้น หรือผิดตำแหน่ง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น

• หนังตาตก
• หน้าเบี้ยวไม่สมมาตร
• กล้ามเนื้ออ่อนแรงผิดบริเวณ

5.หลีกเลี่ยงการซื้อโบท็อกซ์ Nabota มาฉีดเอง
ปัจจุบันมีการจำหน่ายโบท็อกซ์ Nabota ออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและอันตรายอย่างยิ่ง เพราะผู้ใช้ไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์แท้หรือผ่านการเก็บรักษาอย่างถูกวิธีหรือไม่ การฉีดด้วยตนเองอาจทำให้

• ตัวยากระจายผิดตำแหน่ง
• เกิดการติดเชื้อ หรือส่งผลต่อระบบประสาทได้

ใครเหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ Nabota
โบท็อกซ์ Nabota (นาโบตะ) เป็นทางเลือก โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการปรับบุคลิกให้ดูอ่อนโยนขึ้นและมีความมั่นใจมากขึ้น การฉีดโบท็อกซ์ Nabota สามารถตอบโจทย์ได้หลายปัญหาบนใบหน้าและร่างกาย ดังนี้

1.ผู้ที่มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า
โบท็อกซ์ Nabota เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมี ริ้วรอยเล็ก ๆ หรือร่องลึกจากการขยับกล้ามเนื้อบ่อย เช่น

• ริ้วรอยบนหน้าผาก
• รอยขมวดคิ้ว
• รอยตีนกา หรือริ้วรอยรอบหางตา
• ริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณใต้ตา

เมื่อฉีดโบท็อกซ์ Nabota จะช่วยคลายการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคต

2.ผู้ที่มีกรามใหญ่ หรือรูปหน้าไม่สมดุล
โบท็อกซ์ Nabota เหมาะกับผู้ที่มี กล้ามเนื้อกรามเด่น หรือรูปหน้าเหลี่ยม ต้องการให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

• ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลง
• ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและอ่อนโยนขึ้น
• ช่วยยกกระชับกรอบหน้าให้ชัดเจนมากขึ้น

3.ผู้ที่มีจมูกบาน หรือปีกจมูกกว้าง
สำหรับผู้ที่มี ปีกจมูกกว้าง และต้องการให้ดูแคบลงโดยไม่ต้องผ่าตัด โบท็อกซ์ Nabota สามารถช่วยได้ โดยการฉีดในตำแหน่งเฉพาะบริเวณฐานจมูก จะช่วยคลายการขยายของกล้ามเนื้อ ทำให้

• ปีกจมูกดูแคบลง
• รูจมูกดูสมส่วนขึ้น

4.ผู้ที่ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณอื่นของร่างกาย
โบท็อกซ์ Nabota ไม่ได้ใช้เฉพาะบนใบหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้เพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เช่น

• กล้ามเนื้อต้นแขน ต้นขา หรือน่อง
• ลดความแข็งตึงของกล้ามเนื้อ

5.ผู้ที่มีเหงื่อออกมากหรือมีกลิ่นตัว
อีกหนึ่งข้อดีของโบท็อกซ์ Nabota คือสามารถช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ เหมาะสำหรับผู้ที่

• เหงื่อออกมากบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า
• มีปัญหากลิ่นตัวจากเหงื่อสะสม

6.ผู้ที่มีอาการเกร็งหรือปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
โบท็อกซ์ Nabota สามารถใช้ในทางการแพทย์เพื่อ บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อจากภาวะออฟฟิศซินโดรม ได้ด้วย

• ช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่
• ลดอาการปวดจากการเกร็งสะสม

7.ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือไม่มีเวลาพักฟื้น
โบท็อกซ์ Nabota เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ด้านความงามแบบ ไม่ต้องพักฟื้น

• ขั้นตอนการฉีดใช้เวลาไม่นาน (ประมาณ 10-20 นาที)
• ไม่ต้องใช้ยาสลบ
• หลังฉีดสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที

ใครควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์ Nabota
แม้ว่าโบท็อกซ์ Nabota (นาโบตะ) จะเป็นหัตถการที่ไม่เป็นอันตรายและได้รับการรับรอง แต่ก็มีบางกลุ่มบุคคลที่ ไม่ควรเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ Nabota หรือควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนเสมอ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคน

1.ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของโบท็อกซ์
ผู้ที่เคยมีประวัติ แพ้สาร Botulinum toxin type A หรือสารในกลุ่มเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงการฉีดโดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอาการแพ้รุนแรง เช่น

• ผื่นขึ้น
• หน้าบวม
• หายใจติดขัด หรือกลืนลำบาก

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Nabota ควรแจ้งแพทย์ถึงประวัติการแพ้ยา หรือหัตถการทางความงามที่เคยทำมาก่อน

2.หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบไหลเวียนเลือด การฉีดโบท็อกซ์ Nabotaในช่วงนี้ ยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันถึงความปลอดภัยหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
แม้โบท็อกซ์ Nabota จะออกฤทธิ์เฉพาะที่ แต่เพื่อไม่ให้อันตรายต่อทารกและผู้เป็นแม่ ควรเลื่อนการฉีดออกไปจนกว่าจะพ้นระยะให้นมบุตร

3.ผู้ที่มีโรคระบบประสาทหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
ผู้ป่วยโรคทางระบบประสาท เช่น

• โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis)
• โรค ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis)
• โรค Lambert-Eaton Syndrome

ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ Nabota เพราะตัวยาจะยับยั้งการส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจทำให้ อาการอ่อนแรงมากขึ้น หรือควบคุมกล้ามเนื้อบางส่วนไม่ได้ชั่วคราว

4.ผู้ที่มีแผลหรือการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
หากบริเวณที่จะฉีดโบท็อกซ์ Nabota มี แผลเปิด ตุ่มหนอง ผื่นแพ้ หรือการอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดจนกว่าแผลจะหายดี เพราะอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ผิวหนังลึกขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อหรืออักเสบหลังฉีดได้

5.ผู้ที่อยู่ระหว่างรับประทานยาบางชนิด
มียาบางประเภทที่อาจส่งผลต่อฤทธิ์ของโบท็อกซ์ เช่น

• ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Aminoglycosides
• ยาคลายกล้ามเนื้อ
• ยาแก้ซึมเศร้าบางชนิด

ยากลุ่มเหล่านี้อาจทำให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์แรงเกินไป หรือส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงมากกว่าปกติ ดังนั้นควรแจ้งแพทย์ทุกครั้งเกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ Nabota

6.ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง
ในกรณีที่มี ไข้สูง ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือร่างกายอยู่ในภาวะอ่อนเพลีย ไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ Nabota เพราะร่างกายอาจตอบสนองต่อยาได้ไม่ดี หรือฟื้นตัวช้ากว่าปกติ ควรรอให้สุขภาพแข็งแรงก่อนจึงจะเหมาะสมที่สุด

7.ผู้ที่เพิ่งเข้ารับหัตถการอื่นมาไม่นาน
หากเพิ่งทำหัตถการที่มีผลต่อผิวและกล้ามเนื้อ เช่น

• เลเซอร์ยกกระชับ
• HIFU ( HIFU คืออะไร ช่วยเรื่องอะไร ยกกระชับบริเวณไหนได้บ้าง อยู่ได้กี่เดือน )
• Thermage ( Thermage คืออะไร กี่วันถึงเห็นผล ยกกระชับได้จริงไหม )
• ฟิลเลอร์ ( ฟิลเลอร์ คืออะไร เจ็บไหม อันตรายหรือเปล่า รวมทุกเรื่องควรรู้ก่อนฉีด )

ควรรออย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Nabota เพื่อให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวเต็มที่ และป้องกันไม่ให้ผลลัพธ์ของหัตถการอื่นลดน้อยลง

โบท็อกซ์ Nabota เหมาะกับการฉีดบริเวณไหนบ้าง
โบท็อกซ์ Nabota เหมาะกับทั้งจุดเล็กที่ต้องการความละเอียด เช่น บริเวณริ้วรอยบนใบหน้า และจุดใหญ่ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจน เช่น กรามหรือน่อง

1.ฉีดลดริ้วรอยบนใบหน้า
เป็นตำแหน่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการฉีดโบท็อกซ์ Nabota เพราะช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนโยน

• หน้าผาก ลดรอยย่นแนวนอนจากการยกคิ้ว
• ระหว่างคิ้ว ลดรอยขมวดคิ้วที่มักทำให้หน้าดูดุ
• หางตาและตีนกา ลดรอยย่นจากการยิ้ม
• ใต้ตา ช่วยให้ผิวใต้ตาดูเรียบ ไม่เป็นรอยพับเวลายิ้ม

2.ฉีดลดกรามและปรับรูปหน้า
• โบท็อกซ์ Nabota จะช่วยให้กล้ามเนื้อกรามคลายตัวและเล็กลง
• ใบหน้าดูเรียวขึ้นเป็นรูป V-Shape
• สามารถใช้ร่วมกับเทคนิค “ลิฟต์กรอบหน้า” เพื่อให้กรอบหน้าคมชัดและผิวกระชับขึ้น

3.ฉีดโบท็อกซ์บริเวณจมูก
สำหรับผู้ที่มี ปีกจมูกกว้างหรือจมูกบานเวลายิ้ม สามารถใช้โบท็อกซ์ Nabota ช่วยได้

• ช่วยคลายการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงปีกจมูกออกด้านข้าง
• ทำให้ปีกจมูกดูแคบลง และรูจมูกได้รูปมากขึ้น
• เทคนิคโบท็อกซ์ Nabota นี้ได้รับความนิยมเพราะช่วยปรับทรงจมูกเล็กน้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด

4.ฉีดลดกล้ามเนื้อบริเวณอื่นของร่างกาย
นอกจากใบหน้า โบท็อกซ์ Nabota ยังใช้เพื่อ “ลดขนาดกล้ามเนื้อส่วนเกิน” ให้รูปร่างดูสมส่วนขึ้น เช่น

• ต้นแขน ลดกล้ามเนื้อให้เรียวขึ้น
• น่อง ลดความแข็งและความใหญ่ของกล้ามเนื้อน่อง
• ต้นขา ช่วยให้เรียวเล็กลง
• การฉีดโบท็อกซ์ Nabota ลักษณะนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือออกกำลังกายหนัก แต่ต้องการปรับสัดส่วนในจุดเฉพาะ

5.ฉีดลดเหงื่อและกลิ่นตัว
โบท็อกซ์ Nabota สามารถช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีเหงื่อออกมากหรือกลิ่นตัวแรง

• บริเวณที่นิยมฉีดโบท็อกซ์ Nabota ในการลดเหงื่อลดกลิ่นตัว ได้แก่ รักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
• ช่วยลดการขับเหงื่อและกลิ่นไม่พึงประสงค์

6.ฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดอาการออฟฟิศซินโดรม
ในผู้ที่มีอาการ ปวดคอ บ่า หรือไหล่ จากการนั่งทำงานนาน ๆ หรือยกของหนัก

• โบท็อกซ์ Nabota ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตัว
• ลดอาการตึงและปวดเรื้อรัง
• ช่วยให้เคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น

7.ฉีดยกหางตาและยกมุมคิ้ว
โบท็อกซ์ Nabota ยังสามารถใช้เพื่อ ยกหางตาและยกคิ้วเล็กน้อย ได้ในบางกรณี

• ช่วยให้หางตาดูยกขึ้นประมาณ 10-15%
• เหมาะกับผู้ที่มีหนังตาตกไม่มาก
• ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
• เป็นเทคนิคยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับลุคให้ดูอ่อนโยนและมีเสน่ห์มากขึ้น

บริเวณไหนควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์ Nabota
โบท็อกซ์ Nabota ออกฤทธิ์โดยตรงต่อ “ระบบประสาทกล้ามเนื้อ” หากฉีดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกชั้นผิว อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงผิดบริเวณ ใบหน้าดูไม่สมมาตร หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ดังนั้น การเลือกบริเวณที่ “ไม่ควรฉีด” จึงสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมในการฉีดโบท็อกซ์ Nabota

1.บริเวณใกล้ตาเกินไป
ถึงแม้โบท็อกซ์ Nabota จะนิยมฉีดรอบดวงตา เช่น หางตา หรือตีนกา แต่ถ้าฉีด ใกล้ขอบตาล่างหรือเปลือกตาเกินไป อาจทำให้

- กล้ามเนื้อที่ช่วยในการกะพริบตาอ่อนแรง
- ตาปิดไม่สนิท
- น้ำตาไหลได้ง่าย

ดังนั้น แพทย์ต้องเว้นระยะห่างที่เหมาะสมจากขอบตา และคำนวณปริมาณตัวยา เพื่อป้องกันผลข้างเคียงเหล่านี้

2.บริเวณรอบปาก
การฉีดโบท็อกซ์ Nabota บริเวณรอบริมฝีปาก เช่น มุมปาก หรือเหนือริมฝีปากบน ต้องทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะเป็นจุดที่มีกล้ามเนื้อเล็กและซับซ้อน หากฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้

- ยิ้มไม่สมมาตร
- ปากเบี้ยว
- พูดไม่ชัดชั่วคราว

3.บริเวณใกล้จมูกและปีกจมูกมากเกินไป
แม้โบท็อกซ์ Nabota จะสามารถใช้เพื่อลดปีกจมูกได้ แต่ถ้าฉีด ลึกหรือใกล้ฐานจมูกเกินไป อาจมีผลต่อกล้ามเนื้อที่ควบคุมการหายใจผ่านรูจมูก ทำให้รู้สึกแน่นหรือหายใจไม่สะดวกชั่วคราวได้
ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์ Nabota ในตำแหน่งนี้หากไม่จำเป็น และควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินเท่านั้น

4.บริเวณคอด้านหน้าและลำคอส่วนล่าง
โบท็อกซ์ Nabota สามารถใช้ในบางกรณีเพื่อยกกระชับแนวกราม แต่ไม่ควรฉีดใน คอด้านหน้า หรือลำคอส่วนล่างใกล้ลูกกระเดือก เพราะบริเวณนี้มีกล้ามเนื้อสำคัญต่อการกลืนและหายใจ หากฉีดผิดชั้น อาจทำให้เกิดอาการ

- กลืนลำบาก
- เสียงแหบ
- เจ็บคอเวลาพูด

5.บริเวณที่มีเส้นประสาทหรือหลอดเลือดมาก
ควรหลีกเลี่ยงฉีดโบท็อกซ์ Nabota ตำแหน่งที่มีเส้นเลือดหรือเส้นประสาทขนาดใหญ่ เช่น

- บริเวณขมับ
- บริเวณหลังใบหู
- โคนคอด้านหลัง

ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ Nabota ในจุดเหล่านี้โดยไม่มีการประเมินจากแพทย์ เพราะอาจกระทบต่อเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ มึน หรือชาในบางบริเวณได้

6.บริเวณที่มีแผล ผื่น หรือการอักเสบของผิวหนัง
หากบริเวณที่จะฉีดโบท็อกซ์ Nabota มีแผลเปิด ตุ่มหนอง หรือการติดเชื้อ ควรรอให้ผิวหนังหายสนิทก่อน เพราะการฉีดยาในจุดที่อักเสบอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายลึกลงไป และเกิดการติดเชื้อรุนแรงหลังฉีดได้

7.บริเวณที่มีฟิลเลอร์อยู่เดิม
ในกรณีที่เคยฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งเดียวกับที่ต้องการฉีดโบท็อกซ์ Nabota ควรให้แพทย์ประเมินระยะห่างของสารทั้งสองชนิดก่อน เพราะหากฉีดทับกันอาจทำให้

- ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว
- ผลของโบท็อกซ์กระจายผิดทิศทาง
- ทำให้ผลลัพธ์โดยรวมไม่เป็นธรรมชาติ

โบท็อกซ์ Nabota ของแท้ของปลอมต่างกันอย่างไร
การฉีดโบท็อกซ์ Nabota ปลอมไม่เพียงแต่ทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง แต่ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อผิวหนังและระบบประสาทได้ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการฉีดโบท็อกซ์ Nabota ควรมีความรู้ในการแยกแยะ “ของแท้” และ “ของปลอม” ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ

ลักษณะเฉพาะของโบท็อกซ์ Nabota ของแท้
1.มีเอกสารกำกับภาษาไทยครบถ้วน
กล่องของแท้จะมีฉลากภาษาไทยระบุชื่อผู้นำเข้า (“บริษัท มัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด”) และเลขทะเบียน อย.กำกับชัดเจน

2.ตรวจสอบเลข Lot.ได้ตรงกัน
หมายเลข Lot.ที่พิมพ์บนกล่องและบนขวดต้องเป็นเลขเดียวกัน หากไม่ตรงกันให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นของปลอม

3.สติกเกอร์โฮโลแกรม 2 จุด
จุดที่ 1 บนกล่องมีโฮโลแกรมคำว่า “Montana”
จุดที่ 2 ที่ข้างขวดมีโฮโลแกรมคำว่า “DW”

โฮโลแกรมของแท้จะมีแสงสะท้อนและลวดลายเปลี่ยนตามมุมมอง

4.สภาพยาเป็นผงแห้งเคลือบก้นขวด
โบท็อกซ์ Nabota ของแท้จะอยู่ในรูปผงแห้ง ไม่มีน้ำอยู่ในขวด เมื่อจะใช้ต้องเติมน้ำเกลือ (Normal Saline) ลงไป แล้วดูดยาออกมาฉีดให้คนไข้ทันที

5.ตรวจสอบได้กับบริษัทผู้นำเข้าโดยตรง
หากต้องการความมั่นใจ สามารถตรวจสอบเลข Lot.และคลินิกที่ได้รับการจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องได้ที่ บริษัท มัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
โทร.065-504-2983, 02-367-1374

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ Nabota
ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ Nabota ควรเตรียมตัวให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนี้

1.หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด
หยุดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา หรือสมุนไพรที่ทำให้เลือดไหลง่าย อย่างน้อย 3-5 วันก่อนฉีด เพื่อลดรอยช้ำหลังทำ

2.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
ควรงดอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด เพราะอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเกิดรอยช้ำได้ง่าย

3.พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับเพียงพอช่วยให้ร่างกายพร้อมต่อการฟื้นตัวหลังฉีดและลดความเสี่ยงของอาการบวม

4.หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นก่อนฉีด
ควรเว้นระยะห่างจากการทำเลเซอร์ ฟิลเลอร์ หรือทรีตเมนต์ผิวแรง ๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือผลของโบท็อกซ์ Nabota กระจายผิดตำแหน่ง

5.แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัวและยาที่ใช้อยู่
เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสม ปรับปริมาณหรือเทคนิคการฉีดได้อย่างเหมาะสม

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota
หลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota ควรปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องเพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota ที่ถูกวิธีจะช่วยให้เห็นผลเร็วขึ้นและอยู่ได้นานขึ้น

1.หลีกเลี่ยงการนอนราบภายใน 4 ชั่วโมงแรก
หลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota ไม่ควรนอนราบทันที เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนจากตำแหน่งที่ฉีดไปยังกล้ามเนื้อบริเวณอื่น ควรนั่งหรือลุกเดินตามปกติอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนเอนตัว

2.ห้ามนวด กด หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ Nabota
ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ไม่ควรจับหรือนวดบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ Nabota เพราะอาจทำให้โบท็อกซ์กระจายผิดตำแหน่ง จนเกิดผลลัพธ์ไม่สมดุล เช่น หนังตาตก หรือใบหน้าเบี้ยวได้

3.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่มีความร้อน
ควรงดการออกกำลังกายหนัก การเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรือโดนแดดจัด ๆ ประมาณ 24-48 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota เพราะความร้อนและเหงื่ออาจทำให้ตัวยาสลายเร็วขึ้น

4.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาที่ทำให้เลือดไหลง่าย
ควรงดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 วัน และหลีกเลี่ยงยากลุ่มแอสไพริน วิตามินอี หรือสมุนไพรบางชนิด เพื่อป้องกันรอยช้ำหรือบวมบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ Nabota

5.ขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเบา ๆ ภายใน 1-2 ชั่วโมงแรก
เช่น หากฉีดลดริ้วรอยหน้าผากหรือระหว่างคิ้ว สามารถขยับคิ้วหรือย่นหน้าผากเบา ๆ เพื่อช่วยให้ตัวยากระจายตัวสม่ำเสมอและออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น

6.หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นภายใน 1-2 สัปดาห์
เช่น เลเซอร์ ฟิลเลอร์ ทรีตเมนต์ หรือการนวดหน้าแรง ๆ เพราะอาจกระทบต่อการกระจายตัวของโบท็อกซ์และทำให้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ

7.สังเกตอาการหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota
อาการบวม แดง หรือเจ็บเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีดถือเป็นเรื่องปกติและจะหายไปภายใน 1-2 วัน แต่หากมีอาการผิดปกติ เช่น

• ปวดมาก บวมมากผิดปกติ
• หนังตาตก ยิ้มเบี้ยว หรือกลืนลำบาก

ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินอาการ

8.เว้นระยะการฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์
โดยทั่วไป โบท็อกซ์ Nabota จะออกฤทธิ์ประมาณ 4-6 เดือน เมื่อครบระยะจึงสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ แต่ไม่ควรฉีดถี่เกินไป เพราะอาจทำให้เกิดภาวะดื้อยาได้ในระยะยาว

ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota
อาจเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อยในช่วงแรกหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่อันตรายและหายได้เองภายในไม่กี่วัน

ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปหลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota
1.รอยแดงหรือบวมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ Nabota
มักเกิดจากการสอดเข็มเข้าไปในผิว อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน

2.รอยช้ำหรือเขียวเล็กน้อย
เกิดจากเส้นเลือดฝอยแตกในระหว่างฉีด สามารถหายได้เองภายใน 3-5 วัน

3.รู้สึกตึงหรือหนักบริเวณกล้ามเนื้อที่ฉีด
เป็นผลจากการเริ่มออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ อาการนี้จะหายไปเมื่อกล้ามเนื้อเริ่มปรับตัว

4.ปวดศีรษะเล็กน้อยในวันแรก
อาจเกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อก่อนที่ยาออกฤทธิ์เต็มที่ สามารถบรรเทาได้ด้วยการพักผ่อน

ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย (แต่ควรระวัง) หลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota
1.หนังตาตก หรือคิ้วตก - มักเกิดจากการฉีดในตำแหน่งที่ใกล้กล้ามเนื้อมากเกินไป
2.ยิ้มไม่สมมาตร / ปากเบี้ยว - พบได้หากตัวยากระจายผิดตำแหน่ง
3.กลืนลำบาก หรือรู้สึกอ่อนแรงในบางส่วนของใบหน้า - เกิดได้น้อยมาก และมักชั่วคราว

หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดมาก บวมแดงนานเกิน 3 วัน หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงผิดปกติ ควรรีบกลับไปพบแพทย์ทันที

ฉีดโบท็อกซ์ Nabota เห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่
หลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota จะเริ่มออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็ว โดยทั่วไปสามารถเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 3-5 วันแรก หลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดประมาณ 10-14 วัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและสภาพกล้ามเนื้อของแต่ละคน

• ริ้วรอยบนใบหน้า เช่น หน้าผาก หางตา หรือระหว่างคิ้ว จะค่อย ๆ ตื้นขึ้น ใบหน้าดูผ่อนคลายและละมุน
• กรามหรือกรอบหน้า จะเริ่มเห็นว่ากล้ามเนื้อค่อย ๆ เล็กลงภายใน 2-3 สัปดาห์
• การลดเหงื่อหรือกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ จะเห็นผลเต็มที่ภายในประมาณ 1 เดือน

ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์ Nabota โดยทั่วไปจะอยู่ได้นาน ประมาณ 4-6 เดือน ก่อนที่กล้ามเนื้อจะเริ่มกลับมาทำงานตามปกติ และสามารถฉีดซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อคงผลลัพธ์ให้ต่อเนื่อง

โบท็อกซ์ Nabota อยู่ได้นานแค่ไหน
โดยทั่วไป โบท็อกซ์ Nabota จะออกฤทธิ์อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน หลังฉีดโบท็อกซ์ Nabota ทั้งนี้ระยะเวลาจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น

- บริเวณที่ฉีดและขนาดของกล้ามเนื้อ
- การดูแลตนเองหลังฉีด เช่น การหลีกเลี่ยงความร้อนหรือการนวดหน้าแรง ๆ
- การเผาผลาญของร่างกายแต่ละคน

สำหรับบางคนที่มีการดูแลอย่างเหมาะสม ผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน ก่อนที่กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ กลับมาทำงานตามปกติ หากต้องการคงผลลัพธ์ให้ต่อเนื่อง สามารถฉีดซ้ำได้ทุก 4-6 เดือน ภายใต้การดูแลของแพทย์

โบท็อกซ์ Nabota ทำกับหัตถการอะไรเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
การฉีดโบท็อกซ์ Nabota (นาโบตะ) สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการยกกระชับและปรับรูปหน้าให้สมส่วน ได้แก่

• HIFU (ไฮฟู่) หรือ Ultherapy ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและยกผิวในชั้นลึก เมื่อทำร่วมกับโบท็อกซ์จะช่วยให้ใบหน้ากระชับและเรียวชัดขึ้น
• ฟิลเลอร์ (Filler) ช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มมิติใบหน้า ทำให้ผลของโบท็อกซ์ดูไม่ตึงและสมดุลมากขึ้น
• Oligio (โอลิจิโอ) เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ที่ช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นลึก เหมาะกับการทำควบคู่กับโบท็อกซ์ เพื่อให้ผิวแน่นเรียบและเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น (  Oligio คืออะไร ยกกระชับ ลดไขมันบนหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม )
• เลเซอร์บำรุงผิวหรือทรีตเมนต์ผิวหน้า ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส เสริมให้ผลรวมดูสุขภาพดีมากขึ้น

สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับโบท็อกซ์ Nabota
โบท็อกซ์ Nabota โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี HI-PURE Technology ที่ช่วยเพิ่มความบริสุทธิ์ของตัวยาได้สูงถึง 98.7% จึงมีความเสี่ยงในการดื้อยาน้อย ออกฤทธิ์ได้เร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ไม่ตึงแข็ง การันตีคุณภาพของตัวยา
การฉีดโบท็อกซ์ Nabota เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า กรามใหญ่ ใบหน้าไม่เรียว หรือผู้ที่ต้องการลดเหงื่อ ลดกล้ามเนื้อส่วนเกินโดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลได้ภายใน 3-5 วัน และผลลัพธ์จะชัดเจนเต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ โดยทั่วไปอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ก่อนจะค่อย ๆ สลายไปเอง

ทั้งนี้ ระยะเวลาการคงอยู่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการดูแลตัวเอง เช่น การหลีกเลี่ยงความร้อนและการนวดหน้าแรง ๆ โบท็อกซ์ Nabota จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับใครที่สนใจในการฉีดโบท็อกซ์

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
เรื่อง โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ที่คุณอาจสนใจ