โปรแกรมโบท็อกซ์ Hugel คืออะไร กี่วันถึงเห็นผล มีข้อดีอย่างไร
โบท็อกซ์ Hugel , Hugel
โบท็อกซ์ Hugel คืออะไร กี่วันถึงเห็นผล มีข้อดีอย่างไร
โบท็อกซ์ Hugel คืออะไร ดีไหม ช่วยอะไร ฉีดจุดไหนได้บ้าง
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นหรือแสดงสีหน้าบ่อย ๆ ริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้ามักเริ่มชัดขึ้น หลายคนจึงมองหาวิธีคืนความอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด และหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมคือ “การฉีดโบท็อกซ์” โดยโบท็อกซ์ Hugel จากเกาหลี เป็นหนึ่งในยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ได้รับความสนใจจากหลายคน เพราะขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และราคาเข้าถึงง่าย ช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และยกกระชับผิวได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ จึงไม่แปลกที่โบท็อกซ์ Hugel จะกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคนที่อยากดูดีขึ้นอย่างมั่นใจ
แต่ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรรู้อะไรบ้าง เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง และได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ ในบทความนี้รวบรวมข้อมูลมาให้ทราบกัน
โบท็อกซ์ Hugel คืออะไร
โบท็อกซ์ Hugel คือสารโบทูลินัมท็อกซินชนิดเอ (Botulinum Toxin Type A) ที่ใช้ในวงการความงามเพื่อช่วยลดริ้วรอยและลดขนาดกล้ามเนื้อ ยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวสวยอย่างดูเป็นธรรมชาติ ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc.จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์ความงามและเวชภัณฑ์
สารโบทูลินัมท็อกซินชนิดเอในโบท็อกซ์ Hugel มีคุณสมบัติในการยับยั้งการส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อชั่วคราว ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยต่าง ๆ เช่น รอยขมวดคิ้ว รอยตีนกา หรือริ้วรอยหน้าผากจางลง รวมถึงสามารถนำมาใช้ลดขนาดกล้ามเนื้อกรามหรือน่อง เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้นได้

โปรแกรมโบท็อกซ์ Hugel คืออะไร กี่วันถึงเห็นผล มีข้อดีอย่างไร
โบท็อกซ์ Hugel ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลโบท็อกซ์ Hugel มีจุดเด่นอะไรบ้าง
โบท็อกซ์ Hugel ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์โบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคลินิกเสริมความงามทั่วเอเชีย รวมถึงในประเทศไทย เพราะมีคุณภาพดี ราคาคุ้มค่า และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยมีจุดเด่นดังนี้
1.โบท็อกซ์ Hugel ผ่านมาตรฐานระดับสากล
โบท็อกซ์ Hugel ผลิตโดย Hugel Inc.ซึ่งเป็นบริษัทด้านเวชภัณฑ์ความงามของเกาหลีใต้ ผ่านการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิตและได้รับรองมาตรฐาน
2.โบท็อกซ์ Hugel มีโมเลกุลบริสุทธิ์สูงและความคงตัวดี
โบท็อกซ์ Hugel ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ช่วยคงสภาพโมเลกุลของ Botulinum Toxin Type A ให้มีความบริสุทธิ์สูงและเสถียร ทำให้สารออกฤทธิ์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ผลลัพธ์หลังฉีดดูเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึงจนเกินไป
3.โบท็อกซ์ Hugel เห็นผลในเวลาไม่นานและอยู่ได้นาน
หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel จะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ในช่วงประมาณ 14 วัน ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานเฉลี่ย 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ปริมาณยูนิต และพฤติกรรมการดูแลของแต่ละคน
4.โบท็อกซ์ Hugel กระจายตัวดี เหมาะกับหลายบริเวณของใบหน้า
โบท็อกซ์ Hugel มีการกระจายตัวของตัวยาที่ดี ทำให้แพทย์สามารถควบคุมปริมาณและตำแหน่งการฉีดได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น หน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว ปรับรูปหน้าเรียวด้วยการฉีดลดกล้ามเนื้อกราม ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง ยกกระชับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
5.โบท็อกซ์ Hugel ราคาเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นฉีดโบท็อกซ์
เมื่อเทียบกับโบท็อกซ์นำเข้าจากยุโรปหรืออเมริกา โบท็อกซ์ Hugel ถือว่ามีราคาย่อมเยากว่าแต่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นปรับรูปหน้า หรือลดริ้วรอยโดยไม่ต้องใช้งบประมาณสูงมาก
6.โบท็อกซ์ Hugel ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
เนื่องจากโบท็อกซ์ Hugel มีการกระจายตัวยาในระดับพอดี ไม่กระจายกว้างจนเกินไป และไม่แข็งจนดูไม่เป็นธรรมชาติ จึงทำให้หลังฉีด ใบหน้ายังคงแสดงสีหน้าได้ตามปกติ เพียงแต่ริ้วรอยลดลง และโครงหน้าดูละมุนขึ้น
7.โบท็อกซ์ Hugel นิยมใช้ในคลินิกความงามทั่วเอเชีย
ด้วยคุณภาพและราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้โบท็อกซ์ Hugel ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ได้รับความไว้วางใจว่าเป็นแบรนด์โบท็อกซ์เกาหลีที่มีประสิทธิภาพดี
โบท็อกซ์ Hugel ช่วยอะไรบ้าง
โบท็อกซ์ Hugel เป็นสารโบทูลินัมท็อกซินชนิดเอ (Botulinum Toxin Type A) ที่มีคุณสมบัติหลักในการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัว ทำให้มีประโยชน์ในด้านความงาม ดังนี้
1.โบท็อกซ์ Hugel ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า
โบท็อกซ์ Hugel ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว ริ้วรอย 11 ระหว่างคิ้ว ริ้วรอยหางตา รอยตีนกา และรอยย่นรอบปาก หรือมุมปากตก หลังฉีดจะช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2.โบท็อกซ์ Hugel ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
หนึ่งในจุดเด่นของโบท็อกซ์ Hugel คือ ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม โดยตัวยาจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ Masseter (กล้ามเนื้อขากรรไกร) ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้ค่อย ๆ เล็กลง ผลลัพธ์คือใบหน้าดูเรียวเล็กและมีมิติขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ ไม่ใช่กระดูก
3.โบท็อกซ์ Hugel ช่วยลดน่อง ลดกล้ามเนื้อขา
โบท็อกซ์ Hugel ยังสามารถนำมาใช้ในบริเวณน่องได้ เพื่อช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง ทำให้ขาดูเรียวขึ้นและได้รูปมากขึ้น เป็นตัวเลือกยอดนิยมของผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างขาให้ดูเพรียว โดยไม่ต้องผ่าตัด
4.โบท็อกซ์ Hugel ช่วยลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว
โบท็อกซ์ Hugel สามารถฉีดเพื่อลดเหงื่อในบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้าได้ โดยตัวยาจะยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อลดลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ หรือมีกลิ่นตัวจากการขับเหงื่อ
5.โบท็อกซ์ Hugel ช่วยยกกระชับผิวหน้า
การฉีดโบท็อกซ์ Hugel ปริมาณน้อย ๆ ในชั้นตื้นของผิว จะช่วยให้ผิวดูกระชับ รูขุมขนเล็กลง และผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น เป็นเทคนิคที่นิยมใช้ในกลุ่มคนที่ต้องการให้ผิวหน้าแน่นขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม
6.โบท็อกซ์ Hugel ช่วยปรับสมดุลกล้ามเนื้อใบหน้า
สำหรับบางคนที่มีปัญหากล้ามเนื้อข้างหนึ่งทำงานมากเกินไป เช่น ยิ้มไม่เท่ากัน หรือคิ้วสองข้างยกไม่เท่ากัน สามารถใช้โบท็อกซ์ Hugel ฉีดในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยปรับสมดุลกล้ามเนื้อให้ใบหน้าดูสมส่วนขึ้น
โบท็อกซ์ Hugel ฉีดตรงไหนได้บ้าง
โบท็อกซ์ Hugel มีคุณสมบัติในการคลายกล้ามเนื้อและยับยั้งการทำงานของเส้นประสาทชั่วคราว ทำให้ช่วยลดริ้วรอย ยกกระชับผิว และปรับโครงหน้าให้ดูสมส่วนขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยสามารถฉีดได้หลายบริเวณทั่วใบหน้าและร่างกาย ดังนี้
1.ฉีดโบท็อกซ์ Hugel บริเวณใบหน้า (ลดริ้วรอย)
โบท็อกซ์ Hugel นิยมใช้เพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าในหลายตำแหน่ง เช่น
• หน้าผาก - ลดรอยย่นแนวนอนเมื่อยกคิ้ว
• หว่างคิ้ว (รอย 11) - ลดรอยขมวดคิ้วให้หน้าดูอ่อนโยนขึ้น
• หางตา (ตีนกา) - ลดริ้วรอยเวลายิ้ม ทำให้ดวงตาดูสดใส
• สันจมูก - ลดรอยย่นระหว่างจมูกเมื่อแสดงสีหน้า
• รอบริมฝีปาก - ลดรอยย่นรอบปาก หรือแก้มย่น
• คาง (รอยส้ม) - ลดผิวคางที่เป็นลอน ๆ ให้เรียบเนียนขึ้น
2.ฉีดโบท็อกซ์ Hugel บริเวณกราม (ลดกราม ปรับหน้าเรียว)
โบท็อกซ์ Hugel ใช้ฉีดบริเวณกล้ามเนื้อ Masseter เพื่อช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ ไม่ใช่จากกระดูก ผลลัพธ์จะค่อย ๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน 1 เดือนหลังฉีด
3.ฉีดโบท็อกซ์ Hugel กรอบหน้าและลำคอ (ยกกระชับ)
การฉีดโบท็อกซ์ Hugel ปริมาณน้อย ๆ รอบกรอบหน้าและลำคอจะช่วยยกกระชับผิวหน้าให้ดูเฟิร์มขึ้น ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแนวกราม ทำให้กรอบหน้าชัด ดูมีมิติ เทคนิคนี้นิยมเรียกว่า โบท็อกซ์ยกกรอบหน้า
4.ฉีดโบท็อกซ์ Hugel น่อง (ลดขนาดน่อง)
สำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อน่องใหญ่ โบท็อกซ์ Hugel สามารถฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อน่องได้ โดยตัวยาจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและเล็กลง ทำให้ขาดูเรียวยาวขึ้น เหมาะสำหรับคนที่อยากใส่กระโปรงหรือรองเท้าส้นสูงแล้วขาดูเพรียว
5.ฉีดโบท็อกซ์ Hugel รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า (ลดเหงื่อ)
โบท็อกซ์ Hugel ยังสามารถใช้ลดเหงื่อและกลิ่นตัวได้ โดยฉีดในบริเวณที่มีต่อมเหงื่อทำงานมากเกินไป เช่น รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ผลลัพธ์คือเหงื่อออกน้อยลงและช่วยลดกลิ่นตัวได้ตามไปด้วย เหมาะกับผู้ที่มีภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ
โบท็อกซ์ Hugel กี่วันถึงเห็นผล
โบท็อกซ์ Hugel จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ 3-7 วันหลังฉีด ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด เช่น
• ฉีดโบท็อกซ์ Hugel ลดริ้วรอยกล้ามเนื้อเล็ก เช่น หางตา หน้าผาก ขมวดคิ้ว จะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 2 สัปดาห์
• ฉีดโบท็อกซ์ Hugel ลดกราม กล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลงในช่วง 14 วันหลังฉีด และจะเห็นหน้าตัวเรียวชัดเจนประมาณ 1 เดือน
• ฉีดโบท็อกซ์ Hugel ลดแขนใหญ่ ลดน่อง สำหรับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ต้นแขน หรือน่อง จะเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
โดยสรุปผลลัพธ์โบท็อกซ์ Hugel จะอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือนสำหรับบริเวณริ้วรอยเล็ก และ 5-6 เดือนสำหรับโบท็อกซ์ลดกรามและหน้าผาก โดยอายุผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับการดูแลหลังฉีดและปริมาณที่ใช้ด้วย
โบท็อกซ์ Hugel กี่ครั้งถึงเห็นผล
โบท็อกซ์ Hugel จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ไม่จำเป็นต้องฉีดหลายครั้งเพื่อเห็นผล แต่การฉีดซ้ำในระยะเวลาที่เหมาะสมจะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้นานและคงที่ โดยทั่วไปควรฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือนตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและคงรูปหน้าเรียว หรือการลดริ้วรอยอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ผลการฉีดโบท็อกซ์ Hugel จะเห็นได้ชัดหลังฉีดครั้งแรก ภายใน 3-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2-4 สัปดาห์ แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและต่อเนื่อง ควรฉีดซ้ำตามรอบที่แพทย์แนะนำ
โบท็อกซ์ Hugel อยู่ได้นานแค่ไหน
โบท็อกซ์ Hugel อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือนสำหรับบริเวณที่ฉีดลดริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น หางตา ขมวดคิ้ว และลิฟท์กรอบหน้า รวมถึงการรัดแกนจมูกและลดปีกจมูกด้วย ส่วนโบท็อกซ์บริเวณหน้าผากและกรามจะอยู่ได้นานกว่า คือประมาณ 5-6 เดือน หากดูแลตัวเองตามคำแนะนำหลังฉีด จะช่วยยืดระยะเวลาให้โบท็อกซ์ Hugel อยู่ได้นานขึ้นได้ ระยะเวลาผลลัพธ์ที่ได้นี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณยา และการดูแลหลังฉีด รวมถึงปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อัตราการเผาผลาญของร่างกายด้วย
โบท็อกซ์ Hugel เหมาะกับใครบ้าง
โบท็อกซ์ Hugel เป็นหัตถการยอดนิยมที่เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย หรือแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อใบหน้าทำงานมากเกินไป โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เห็นผลในเวลาไม่นาน และอันตรายน้อยเมื่อฉีดโดยแพทย์ สำหรับกลุ่มคนที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ Hugel มีดังนี้
1.โบท็อกซ์ Hugel เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า
เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว รอยตีนกา หรือริ้วรอยรอบปาก โบท็อกซ์ Hugel จะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง ทำให้ริ้วรอยดูเรียบเนียนขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม
2.โบท็อกซ์ Hugel เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก
สำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ทำให้ใบหน้าดูเหลี่ยมหรือบาน โบท็อกซ์ Hugel สามารถฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อกรามได้ ทำให้ใบหน้าดูเรียวลงอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการหน้าเรียวแต่ไม่อยากผ่าตัดกราม
3.โบท็อกซ์ Hugel เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้า
ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือกรอบหน้าไม่ชัด สามารถฉีดโบท็อกซ์ Hugel รอบกรอบหน้าและลำคอ เพื่อช่วยยกผิวให้ตึงขึ้น ทำให้รูปหน้าดูได้สัดส่วนและอ่อนกว่าวัย
4.โบท็อกซ์ Hugel เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมากหรือมีกลิ่นตัว
โบท็อกซ์ Hugel สามารถฉีดเพื่อลดเหงื่อในบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า ช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลงและลดกลิ่นตัวได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวัน
5.โบท็อกซ์ Hugel เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดขนาดน่องให้ขาเรียว
สำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อน่องใหญ่จากการเดินหรือออกกำลังกาย โบท็อกซ์ Hugel สามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อน่องให้เล็กลง ทำให้ขาดูเรียวยาวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการปรับรูปร่าง
6.โบท็อกซ์ Hugel เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระชับ รูขุมขนเล็กลง
เทคนิคการฉีดโบท็อกซ์หน้าใส จะช่วยกระชับรูขุมขน ควบคุมความมัน และทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวดูละเอียดและสุขภาพดี
7.โบท็อกซ์ Hugel เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ธรรมชาติ ไม่แข็งตึง
โบท็อกซ์ Hugel มีการกระจายตัวของตัวยาที่พอดี ไม่แข็งจนขยับหน้าไม่ได้ เหมาะกับคนที่ต้องการให้หน้าดูอ่อนเยาว์แต่ยังคงแสดงสีหน้าได้เป็นธรรมชาติ
โบท็อกซ์ Hugel ไม่เหมาะกับใครบ้าง
แม้ว่าโบท็อกซ์ Hugel จะเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูง เพราะให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็มีบางกลุ่มคนที่ไม่เหมาะหรือควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์ เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียง หรือทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ กลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์ Hugel มีดังนี้
1.โบท็อกซ์ Hugel ไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร แพทย์จะ ไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ทุกชนิด รวมถึงโบท็อกซ์ Hugel ด้วย เพราะยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่ยืนยันความปลอดภัยอย่างแน่ชัดต่อทารกในครรภ์หรือทารกที่ดื่มนมแม่
2.โบท็อกซ์ Hugel ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้สารโบทูลินัมท็อกซิน
หากเคยมีอาการแพ้โบท็อกซ์มาก่อน เช่น บวมแดงมาก มีผื่น ลมหายใจติดขัด หรือหน้าบวม ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจเกิดอาการแพ้ซ้ำได้เมื่อได้รับการฉีดอีกครั้ง
3.โบท็อกซ์ Hugel ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อ
เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เนื่องจากโบท็อกซ์มีผลต่อการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ การฉีดอาจทำให้อาการของโรคแย่ลง
4.โบท็อกซ์ Hugel ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิด
ยาบางประเภทอาจมีปฏิกิริยากับสารโบทูลินัมท็อกซิน เช่น ยาปฏิชีวนะในกลุ่ม Aminoglycosides ยาคลายกล้ามเนื้อ ยากันชัก หรือยาที่มีผลต่อการส่งสัญญาณประสาท หากมีการใช้ยาเหล่านี้ ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดเสมอ เพื่อประเมินความเหมาะสมและปรับแผนการรักษา
5.โบท็อกซ์ Hugel ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลติดเชื้อหรือผิวหนังอักเสบในบริเวณที่จะฉีด
หากมีสิวอักเสบ แผลเปิด หรือการติดเชื้อในบริเวณที่ต้องการฉีด ควรรอให้แผลหายก่อน เพราะการฉีดอาจทำให้เชื้อลุกลามและเกิดการอักเสบมากขึ้น
6.โบท็อกซ์ Hugel ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด
เช่น แอสไพริน (Aspirin), วาร์ฟาริน (Warfarin) หรือวิตามินอีในปริมาณสูง เพราะอาจทำให้เกิดรอยช้ำหรือเลือดออกมากผิดปกติหลังฉีด
7.โบท็อกซ์ Hugel ไม่เหมาะกับผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์ผิดจากความเป็นจริง
โบท็อกซ์ Hugel ช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดริ้วรอยได้ดี แต่ไม่สามารถแทนการศัลยกรรมยกกระชับผิว ผู้ที่คาดหวังว่าจะเห็นผลลัพธ์ถาวรหรือเหมือนผ่าตัดยกหน้าอาจไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์
โบท็อกซ์ Hugel อันตรายไหม
โบท็อกซ์ Hugel โดยทั่วไปถือว่าอันตรายน้อย เนื่องจากผ่านการรับรองมาตรฐาน แต่หลังฉีดอาจมีอาการเมื่อย ตึง หรือรอยเข็มเล็ก ๆ ซึ่งเป็นอาการปกติและไม่อันตราย อาการบวมแดง รอยช้ำเล็กน้อยก็สามารถเกิดขึ้นได้และจะหายเองภายใน 2-3 วัน
ส่วนผลข้างเคียงรุนแรง เช่น หนังตาตก มุมปากเบี้ยว หน้าแข็ง มักเกิดจากการฉีดผิดตำแหน่ง หรือฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงควรฉีดกับแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์แท้เท่านั้น
หากใช้โบท็อกซ์หิ้วหรือปลอมซึ่งไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงรุนแรง เช่น การอักเสบติดเชื้อ อาการดื้อยา ไม่เห็นผล หรือผลลัพธ์สั้น และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
สรุปได้ว่า โบท็อกซ์ Hugel ไม่มีอันตรายมากหากใช้ผลิตภัณฑ์แท้และฉีดโดยแพทย์ แต่ต้องระวังหลีกเลี่ยงโบท็อกซ์ปลอมและคลินิกไม่มีมาตรฐาน
โบท็อกซ์ Hugel มีผลข้างเคียงไหม
โดยทั่วไปแล้ว โบท็อกซ์ Hugel ถือว่าเป็นหัตถการที่มีผลข้างเคียงน้อยมาก เมื่อฉีดโดยแพทย์ในคลินิกที่มีมาตรฐาน และใช้ผลิตภัณฑ์แท้ที่ผ่านการรับรอง อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับหัตถการทางความงามอื่น ๆ โบท็อกซ์ก็อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างเกิดขึ้นได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการชั่วคราวและสามารถหายได้เอง
1.ผลข้างเคียงทั่วไป (พบได้บ่อยแต่ไม่รุนแรง)
ผลข้างเคียงเหล่านี้มักเกิดขึ้นภายใน 1-3 วันหลังฉีด และจะค่อย ๆ หายไปภายในไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์
• รอยแดง บวม หรือช้ำบริเวณที่ฉีด เกิดจากการที่เข็มสัมผัสเส้นเลือดใต้ผิวหนัง แต่เป็นอาการชั่วคราว สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการได้
• อาการตึง ๆ หรือหนักบริเวณที่ฉีด มักพบในช่วง 1-3 วันแรก หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะเริ่มปรับตัวและรู้สึกสบายขึ้น
• ปวดศีรษะเล็กน้อย พบได้ในบางราย โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดบริเวณหน้าผากหรือระหว่างคิ้ว อาการจะหายไปเองโดยไม่ต้องใช้ยา
• รอยเข็มเล็ก ๆ เป็นรอยชั่วคราวที่ผิวหนังซึ่งมักจางหายภายใน 1-2 วัน
2.ผลข้างเคียงเฉพาะจุด (พบได้ไม่บ่อย)
เกิดจากการที่ตัวยาออกฤทธิ์บริเวณใกล้เคียงมากเกินไป หรือฉีดในตำแหน่งที่ไม่แม่นยำ
• คิ้วหรือหนังตาตก เกิดจากตัวยาแพร่กระจายไปยังกระเปาะกล้ามเนื้อที่ควบคุมการยกคิ้ว
• ยิ้มไม่เท่ากัน หรือมุมปากตก เกิดจากการฉีดโบท็อกซ์บริเวณกรามหรือปากโดยไม่สมดุล
• กล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว เป็นอาการที่ตัวยาออกฤทธิ์มากกว่าที่ต้องการในบางจุด ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวเกินไป แต่จะค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติภายใน 3-4 เดือน
3.ผลข้างเคียงรุนแรง (พบได้น้อยมาก)
อาการเหล่านี้พบได้น้อยมากในกรณีที่ใช้โบท็อกซ์ปลอม ( โบท็อกซ์ปลอม คืออะไร มีวิธีสังเกตอย่างไร อันตรายถึงชีวิต ) หรือฉีดโดยผู้ไม่มีใบอนุญาตทางการแพทย์ เช่น การแพ้รุนแรง (หน้าและลำคอบวม หายใจลำบาก) การติดเชื้อบริเวณที่ฉีด ตัวยาไหลไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ กรณีนี้ควรรีบพบแพทย์ทันที
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ Hugel
ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรมีการเตรียมตัวอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงให้น้อยที่สุด แม้โบท็อกซ์จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดและใช้เวลาไม่นาน แต่การเตรียมความพร้อมที่ถูกต้องมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพของผลลัพธ์หลังทำ
1.ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรปรึกษาแพทย์
ก่อนตัดสินใจฉีด ควรเข้าพบแพทย์เพื่อจุดประสงค์ดังนี้
• ประเมินปัญหาบนใบหน้า เช่น ริ้วรอย จุดหย่อนคล้อย หรือกรามใหญ่
• วางแผนปริมาณและตำแหน่งในการฉีดให้เหมาะสมกับโครงหน้า
• ตรวจสอบประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว และยาที่ใช้อยู่ เพื่อป้องกันปฏิกิริยากับตัวยา
ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข และใช้โบท็อกซ์ Hugel ของแท้เท่านั้น โดยสามารถขอดูขวดหรือกล่องยาเพื่อยืนยันได้
2.ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Hugel หลีกเลี่ยงยาหรืออาหารเสริมบางชนิดก่อนฉีด 3-7 วัน
เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำหรือเลือดออกง่าย ควรงดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) , วิตามินอี, น้ำมันปลา (Fish Oil), โสม, กระเทียมสกัด เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
3.ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Hugel งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
การดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำและบวมหลังฉีด ดังนั้นควรงดทั้งก่อนและหลังฉีดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
4.ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Hugel หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์หรือเลเซอร์
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้า การสครับผิว การทำเลเซอร์ หรือหัตถการอื่น ๆ ที่ทำให้ผิวระคายเคือง เพราะอาจทำให้ผิวบอบบางเกินไปและเสี่ยงต่อการอักเสบหลังฉีด
5.ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดี ลดอาการฟกช้ำและบวมหลังฉีดได้เร็วขึ้น
6.ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดในวันฉีด
ก่อนเข้ารับการฉีดควรล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกให้หมด เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะฉีด
7.ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรแจ้งข้อมูลสำคัญกับแพทย์
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรแจ้งข้อมูลสำคัญกับแพทย์ เช่น
• เคยฉีดโบท็อกซ์มาก่อนหรือไม่
• เคยมีอาการแพ้ยา หรือแพ้โบท็อกซ์หรือไม่
• มีโรคประจำตัว เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือโรคเกี่ยวกับระบบประสาทหรือไม่
• กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ข้อมูลเหล่านี้สำคัญมาก เพราะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาให้ลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel
หลังจากฉีดโบท็อกซ์ Hugel แล้ว การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพ ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น การดูแลหลังฉีดไม่ซับซ้อน แต่อาศัยความใส่ใจในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกเป็นพิเศษ
1.หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel ห้ามนอนราบภายใน 4 ชั่วโมงแรก
หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรนั่งหรือลุกเดินตามปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาไหลไปบริเวณอื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น หนังตาตก หรือคิ้วไม่เท่ากัน
2.หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel ห้ามนวดหน้า หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด
ควรหลีกเลี่ยงการนวด กด หรือสัมผัสใบหน้าแรง ๆ ภายใน 24 ชั่วโมงแรก เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนจากจุดที่แพทย์ต้องการให้ทำงาน และกระจายไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการได้
3.หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
ภายใน 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือยกน้ำหนัก เพราะอุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้นอาจมีผลต่อการกระจายตัวของโบท็อกซ์
4.หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel งดทำทรีตเมนต์หรือนวดหน้า
หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรงดการนวดหน้า การทำเลเซอร์ RF หรือ HIFU อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้ตัวยาเซ็ตตัวและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel หลีกเลี่ยงความร้อนจัด
ในช่วง 1-2 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัด การเข้าซาวน่า หรืออบไอน้ำ การใช้ไดร์เป่าผมร้อนใกล้ใบหน้า เพราะความร้อนอาจทำให้ตัวยาเสื่อมสภาพหรือออกฤทธิ์สั้นลง
6.หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel สามารถแต่งหน้าได้หลังฉีด 24 ชั่วโมง
หากต้องแต่งหน้า ควรรออย่างน้อย 1 วันหลังฉีด เพื่อให้รูเข็มปิดและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และควรใช้แปรงหรือฟองน้ำแต่งหน้าเบา ๆ ไม่ถูหรือกดแรงบริเวณที่ฉีด
7.หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่
ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังฉีด ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้นและเกิดรอยช้ำได้ง่าย
8.หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและกระบวนการทำงานของตัวยาเกิดได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยลดอาการบวมหลังฉีด
9.หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรติดตามผลกับแพทย์ตามนัด
ควรกลับไปพบแพทย์ตามกำหนด (โดยทั่วไปประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด) เพื่อประเมินผลลัพธ์ และในกรณีที่ตัวยาออกฤทธิ์ไม่สมดุล แพทย์สามารถปรับแก้ให้ได้อย่างเหมาะสม
10.หลังฉีดโบท็อกซ์ Hugel ควรสังเกตอาการผิดปกติ
หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงมากผิดปกติ หนังตาตก หรือยิ้มไม่เท่ากัน ปวดศีรษะรุนแรง หรือหายใจติดขัด ควรรีบติดต่อแพทย์ทันที เพื่อรับการประเมินและดูแลอย่างถูกต้อง
สรุปเกี่ยวกับโบท็อกซ์ Hugel
สรุปว่า โบท็อกซ์ Hugel ถือเป็นอีกหนึ่งโบท็อกซ์เกาหลีคุณภาพสูง ที่มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และยกกระชับผิวได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ภายในเวลาไม่นานหลังฉีด และอยู่ได้นานเฉลี่ย 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและการดูแลตัวเองหลังทำ
อย่างไรก็ตามควรเลือกฉีดโบท็อกซ์ Hugel กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ผลิตภัณฑ์แท้ และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ ลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง ช่วยเพิ่มความมั่นใจในด้านความงามมากขึ้น
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ