โปรแกรมเลเซอร์ขนจิมิ คืออะไร มีกี่แบบ เจ็บไหม กี่ครั้งเห็นผล
เลเซอร์ขนจิมิ
เลเซอร์ขนจิมิ คืออะไร เจ็บไหม กี่ครั้งเห็นผล เตรียมตัวอย่างไร
ผู้หญิงหลายคนอาจกำลังเผชิญกับปัญหาขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ไม่ว่าจะเป็น ขนขึ้นเร็ว ขนคุด กลิ่นอับ หรือผิวระคายเคืองหลังโกนหรือแวกซ์ ซึ่งไม่เพียงทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่ยังลดความมั่นใจเวลาสวมใส่ชุดว่ายน้ำหรือบิกินี่อีกด้วย การดูแลจุดซ่อนเร้นให้สะอาดและเรียบเนียนจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ใส่ใจสุขอนามัยและภาพลักษณ์ของตนเอง
หนึ่งในวิธีที่ช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเห็นผล คือ เลเซอร์ขนจิมิ หรือ เลเซอร์ขนน้องสาว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานแสงเลเซอร์ยิงลงไปทำลายรากขนโดยตรง ให้ผลลัพธ์ขนขึ้นน้อยลงที่ยาวนานกว่าการโกนหรือแวกซ์แบบเดิม
สำหรับผู้ที่สนใจทำเลเซอร์ขนจิมิควรรู้ข้อมูลก่อนตัดสินใจ เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงและได้ผลลัพธ์ที่ดี ขนขึ้นน้อยลง ผิวเรียบเนียน ลดกลิ่นอับ และหมดกังวลกับปัญหาผิวระคายเคืองอีกต่อไป
เลเซอร์ขนจิมิ คืออะไร
เลเซอร์ขนจิมิ คือ การกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ยิงพลังงานแสงเข้าไปทำลายรากขน ทำให้ขนงอกใหม่ช้าลง บางลง หรืออาจหยุดงอกอย่างถาวรเมื่อทำต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ วิธีนี้ช่วยแก้ปัญหาขนคุด ลดการอักเสบ และทำให้การดูแลความสะอาดบริเวณนั้นง่ายขึ้น
รวมถึงช่วยลดการเสียดสีและระคายเคืองผิว ซึ่งอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นดูสว่างขึ้นเล็กน้อย โดยไม่เจ็บมากและมีเครื่องมือเลเซอร์ที่นิยมใช้เช่น Yag Laser, Diode Laser และ IPL ที่ลงลึกถึงรากขนและเหมาะกับทุกสีผิวและสีขน ยกเว้นขนสีขาวหรือขนหงอก การทำเลเซอร์ขนจิมิเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการกำจัดขนที่จุดซ่อนเร้นมากขึ้นในปัจจุบัน
ทำเลเซอร์ขนจิมิช่วยอะไรบ้าง
การทำเลเซอร์ขนจิมิ ไม่ได้มีดีแค่เรื่องความเรียบเนียนเท่านั้น แต่ยังช่วยในด้านสุขอนามัย ความมั่นใจ และลดปัญหาผิวหนังบริเวณจุดซ่อนเร้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
1.เลเซอร์ขนจิมิช่วยให้ผิวบริเวณจิมิเรียบเนียน นุ่มน่าสัมผัส
หลังทำเลเซอร์ขนจิมิ ขนที่เคยแข็งและหนาจะค่อย ๆ หลุดออก และขนใหม่ที่ขึ้นมาจะบางลง ทำให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบ ละเอียด และสัมผัสนุ่มขึ้นกว่าเดิม ไม่มีตอแข็งหรือขนคุดให้รำคาญใจ
2.เลเซอร์ขนจิมิช่วยลดกลิ่นอับและความอับชื้น
ขนบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นแหล่งสะสมของเหงื่อและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นไม่พึงประสงค์ การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและความอับชื้น จึงช่วยให้จุดซ่อนเร้นสะอาดและมีกลิ่นสดชื่นยาวนานขึ้น
3.เลเซอร์ขนจิมิช่วยลดการระคายเคืองจากการโกนหรือแวกซ์
หลายคนมักประสบปัญหาแสบ คัน หรือผิวแดงหลังโกนขนหรือแวกซ์ขนบิกินี่ การทำเลเซอร์ขนจิมิช่วยลดปัญหานี้ได้ เพราะไม่ต้องสัมผัสผิวแรง ๆ หรือดึงรากขนออกเหมือนการแวกซ์ จึงไม่ก่อให้เกิดการอักเสบหรือแผลถลอก
4.เลเซอร์ขนจิมิช่วยป้องกันขนคุดและตุ่มหนังไก่
เมื่อรูขุมขนไม่ถูกอุดตันจากเส้นขนที่งอกผิดทิศทาง การทำเลเซอร์จึงช่วยลดการเกิดขนคุดและตุ่มหนังไก่ได้ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสุขภาพดีขึ้น
5.เลเซอร์ขนจิมิช่วยให้ใส่บิกินี่หรือชุดชั้นในได้มั่นใจมากขึ้น
ไม่ต้องกังวลเรื่องขนโผล่หรือความไม่เรียบร้อยเวลาใส่ชุดบิกินี่ บอดี้สูท หรือกางเกงในตัวเล็ก อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและขาวกระจ่างใสมากขึ้น
6.เลเซอร์ขนจิมิช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อบริเวณจุดซ่อนเร้น
เมื่อขนน้อยลง การทำความสะอาดก็ง่ายขึ้น และลดการสะสมของสิ่งสกปรก จึงช่วยลดโอกาสติดเชื้อรา หรือการอักเสบในบริเวณจิมิได้ดี
7.เลเซอร์ขนจิมิให้ผลลัพธ์ยาวนาน ไม่ต้องโกนขนบ่อย
หากทำเลเซอร์ขนจิมิอย่างต่อเนื่อง 6-8 ครั้ง ขนจะขึ้นช้าลง บางลง หรืออาจหยุดขึ้นถาวรบางส่วน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาคอยโกนหรือแวกซ์บ่อย ๆ อีกต่อไป
ข้อดีของการทำเลเซอร์ขนจิมิ
1.เลเซอร์ขนจิมิทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่มีตอขน
หลังทำเลเซอร์ ขนจะค่อย ๆ หลุดออกตามธรรมชาติ ทำให้ผิวบริเวณนั้นเรียบเนียน ไม่มีตอแข็งเหมือนหลังโกนหรือแวกซ์
2.เลเซอร์ขนจิมิทำให้กลิ่นอับและเหงื่อลดลง
เมื่อขนน้อยลง การสะสมของแบคทีเรียและเหงื่อก็ลดลงตามไปด้วย จึงช่วยลดกลิ่นอับบริเวณจุดซ่อนเร้น ทำให้รู้สึกสะอาดและมั่นใจตลอดวัน
3.เลเซอร์ขนจิมิทำให้การเกิดขนคุดและตุ่มหนังไก่น้อยลง
พลังงานเลเซอร์ช่วยทำลายรากขน ทำให้ขนใหม่ไม่งอกทิ่มผิว ลดปัญหาขนคุดและตุ่มเล็ก ๆ ที่ทำให้ผิวดูไม่เรียบ
4.เลเซอร์ขนจิมิทำให้ไม่ต้องเสี่ยงระคายเคืองจากการโกนหรือแวกซ์
ไม่ต้องเสี่ยงกับบาดแผล แสบ คัน หรือรอยแดงจากการโกนอีกต่อไป เพราะเลเซอร์ไม่ต้องสัมผัสผิวโดยตรง
5.เลเซอร์ขนจิมิทำให้ขนขึ้นน้อยและผลลัพธ์ยาวนาน
หากทำต่อเนื่อง 6-8 ครั้ง ขนจะขึ้นน้อยลงและบางลงมาก บางคนแทบไม่มีขนขึ้นอีกเลย ทำให้ไม่ต้องกำจัดขนบ่อย ๆ
6.เลเซอร์ขนจิมิทำให้ความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้น
เหมาะกับผู้หญิงที่ต้องการความมั่นใจเวลาใส่บิกินี่ หรืออยากให้จุดซ่อนเร้นดูสะอาด เรียบเนียน และสวยงามอยู่เสมอ
ข้อจำกัดของการเลเซอร์ขนจิมิ
1.เลเซอร์ขนจิมิต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจึงเห็นผล
เลเซอร์จะทำลายรากขนเฉพาะในระยะที่ขนกำลังเจริญเติบโต ดังนั้นต้องทำซ้ำทุก 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ครบทุกวงจรขน
2.เลเซอร์ขนจิมิอาจรู้สึกแสบหรือร้อนขณะทำ
แม้เครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่จะมีระบบความเย็นช่วยลดความรู้สึกเจ็บ แต่บางคนอาจรู้สึกแสบเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบอบบาง
3.เลเซอร์ขนจิมิราคาสูงกว่าการโกนหรือแวกซ์
การเลเซอร์มีค่าใช้จ่ายต่อครั้งมากกว่า แต่คุ้มค่าในระยะยาวเพราะให้ผลลัพธ์ถาวรกว่าวิธีกำจัดขนอื่น ๆ
4.เลเซอร์ขนจิมิอาจมีรอยแดงหรือระคายเคืองชั่วคราว
หลังทำเลเซอร์ขนจิมิ บางคนอาจมีอาการผิวแดง หรือรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณที่ทำ ซึ่งมักหายไปเองภายใน 1-2 วัน
5.เลเซอร์ขนจิมิต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างหลังทำ
เช่น การออกกำลังกายหนัก ซาวน่า หรือมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
ประเภทเลเซอร์ที่นิยมทำเลเซอร์ขนจิมิ
การทำเลเซอร์ขนจิมิสามารถใช้เครื่องเลเซอร์ได้หลายชนิด โดยแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติ ความยาวคลื่น และระดับความลึกของพลังงานที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำลายรากขนและความเหมาะสมกับสีผิวของแต่ละคน มาดูกันว่าเลเซอร์ที่นิยมใช้มีอะไรบ้าง
1.Nd:YAG Laser
จุดเด่น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวเข้ม หรือผิวแพ้ง่าย
ความยาวคลื่น ประมาณ 1064 nm (ยาวที่สุดในกลุ่มเลเซอร์กำจัดขน)
คุณสมบัติ
• พลังงานทะลุลึกถึงรากขนโดยไม่ทำลายเม็ดสีผิว
• เหมาะกับทุกโทนสีผิว โดยเฉพาะผิวแทนหรือผิวคล้ำ
• ลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยไหม้และรอยดำ
2.Diode Laser
จุดเด่น เป็นเลเซอร์ที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะให้ผลลัพธ์ดีและปลอดภัยกับทุกสีผิว
ความยาวคลื่น ประมาณ 800-810 nm
คุณสมบัติ
• ยิงพลังงานได้ลึกถึงรากขนโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน
• เหมาะกับทั้งผิวขาวและผิวเข้ม
• เจ็บน้อย มีระบบความเย็นช่วยลดอาการแสบ
• เห็นผลในเวลาไม่นาน ขนค่อย ๆ หลุดออกหลังทำไม่กี่วัน
• เหมาะกับคนเอเชียและคนที่ต้องการความปลอดภัยสูงบริเวณจุดซ่อนเร้น
3.Alexandrite Laser
จุดเด่น ให้ผลลัพธ์ชัดเจน เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาวและขนเส้นเล็ก
ความยาวคลื่น ประมาณ 755 nm
คุณสมบัติ
• ดูดซับเมลานินได้ดี เหมาะกับขนสีเข้ม
• ให้ผลลัพธ์เร็วหลังทำ 1-2 ครั้งแรก
• ผิวจะดูสว่างขึ้นเล็กน้อยหลังทำ
• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวคล้ำ เพราะอาจทำให้เกิดรอยไหม้หรือรอยแดงง่าย
4.IPL (Intense Pulsed Light)
จุดเด่น ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นกำจัดขนแบบไม่เจ็บ
ลักษณะ ไม่ใช่เลเซอร์แท้ แต่เป็นแสงความเข้มสูง
คุณสมบัติ
• กำจัดขนได้ระดับหนึ่งแต่ไม่ถาวรเท่าเลเซอร์
• ต้องทำบ่อยครั้งเพื่อคงผลลัพธ์
• เหมาะสำหรับขนบางและผิวขาว
ข้อจำกัด
• ประสิทธิภาพน้อยกว่าเลเซอร์แท้
• ไม่เหมาะกับบริเวณที่ผิวบอบบางมาก เช่น บริเวณจิมิ
เลเซอร์ขนจิมิ มีกี่แบบ อะไรบ้าง
การทำเลเซอร์ขนจิมิไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่สามารถเลือกได้หลายรูปแบบ ตามความต้องการและระดับการกำจัดขนของแต่ละคน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3-4 แบบหลัก ๆ โดยแต่ละแบบจะมีความแตกต่างในบริเวณที่กำจัดขนและลักษณะของทรงขนที่เหลือไว้ ดังนี้
1.เลเซอร์ขนบิกินี่ (Bikini Line)
เป็นการกำจัดขนเฉพาะบริเวณขอบชุดชั้นในหรือขอบบิกินี่เท่านั้น ช่วยให้ขนไม่โผล่พ้นกางเกงในหรือชุดว่ายน้ำ ยังคงเหลือขนบริเวณจิมิส่วนในไว้ตามธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ต้องการความเรียบร้อยและดูสะอาดโดยไม่ต้องกำจัดทั้งหมด และผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำเลเซอร์ขนจิมิ หรือยังไม่มั่นใจว่าจะเอาขนออกทั้งหมดดีหรือไม่
2.เลเซอร์ขนบราซิลเลียน (Brazilian)
เป็นเลเซอร์ขนจิมิที่กำจัดขนเกือบทั้งหมดหรือทั้งหมดบริเวณจุดซ่อนเร้น ทำความสะอาดได้ง่าย ลดกลิ่นอับได้มากที่สุด ผิวบริเวณนั้นเรียบเนียน ไม่มีขนเหลือ บางคนอาจเลือกเหลือขนไว้เล็กน้อย เพื่อความเป็นธรรมชาติ เช่น ทรงสามเหลี่ยมหรือเส้นตรงเล็ก ๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความมั่นใจสูงสุด ใส่บิกินี่หรือชุดชั้นในแบบสั้นได้โดยไม่ต้องกังวล และต้องการผิวที่เรียบเนียนทั่วบริเวณ
3.เลเซอร์ขนจิมิ Custom Shape
เป็นการออกแบบรูปทรงของขนจิมิให้สวยงามตามต้องการ เช่น ทรงสามเหลี่ยมเล็ก ทรงเส้นตรงแนวกลาง
ทรงสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แพทย์จะช่วยออกแบบให้เหมาะกับรูปร่างและความต้องการของแต่ละคน เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการคงความมีเสน่ห์ดูเป็นธรรมชาติ แต่ยังดูเรียบร้อยและสวยงาม
4.เลเซอร์ขนจิมิ Hollywood
เป็นเลเซอร์ขนจิมิที่กำจัดขนทุกเส้นบริเวณจิมิ รวมถึงระหว่างร่องก้น ให้ผิวสะอาดหมดจดที่สุด เป็นที่นิยมในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการผิวเนียนใสไร้ขน ช่วยลดกลิ่นและการสะสมของเหงื่อได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดสูงสุด หรือชอบความรู้สึกเรียบเนียนแบบไร้ขน
เลเซอร์ขนจิมิ ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล
เลเซอร์ขนจิมิจะเห็นผลชัดเจนในประมาณ 5-8 ครั้ง โดยแต่ละครั้งควรเว้นระยะห่างประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือประมาณเดือนละครั้ง เพราะขนบริเวณจุดซ่อนเร้นมีความหนาแน่นและเส้นขนที่ค่อนข้างหนา จึงจำเป็นต้องทำหลายครั้งและต่อเนื่อง เพื่อให้พลังงานเลเซอร์ทำลายรากขนได้เต็มที่
ขนจะไม่หลุดร่วงทันทีหลังทำเลเซอร์ขนจิมิแต่จะค่อย ๆ หลุดร่วงเองภายใน 2-3 สัปดาห์ และที่งอกขึ้นใหม่จะบางลงและมีปริมาณลดลงมาก หากทำตามจำนวนครั้งที่แนะนำ ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานเกือบปีหรือถาวรในบางราย ขึ้นอยู่กับลักษณะเส้นขนและปัจจัยส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่น ฮอร์โมนและพันธุกรรม
เลเซอร์ขนจิมิ อยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์จากการทำเลเซอร์ขนจิมิอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีขึ้นไป หรือบางรายอาจยาวนานมากกว่านั้น หากทำอย่างต่อเนื่องครบตามคอร์สที่แนะนำ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ จะทำลายรากขนจนขนงอกใหม่ช้าลงและบางลงมาก บางส่วนอาจไม่กลับมางอกเลย แต่ก็มีบางคนที่ขนอาจกลับมางอกบ้างในอนาคต ขึ้นกับลักษณะเส้นขนของแต่ละบุคคล ฮอร์โมน และปัจจัยทางร่างกายอื่น ๆ การทำเลเซอร์ซ้ำหรือบำรุงรักษาเป็นระยะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นและขนงอกใหม่น้อยลงอย่างชัดเจน
เลเซอร์ขนจิมิ เจ็บไหม อันตรายหรือไม่
การทำเลเซอร์ขนจิมิจะรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความคงทนและความไวของแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่มักรู้สึกเจ็บคล้ายกับการถูกหนังยางดีดผิว ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่รุนแรงมาก และในบางคลินิกจะมีการใช้ยาชาหรือเครื่องเป่าลมเย็นช่วยบรรเทาอาการเจ็บในระหว่างทำให้มากขึ้น
สำหรับความเสี่ยงในการทำเลเซอร์ขนจิมิ ถ้าเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ใช้เครื่องมือที่ได้รับการรับรอง และดูแลโดยแพทย์ การทำเลเซอร์ขนจิมิโดยทั่วไปถือว่าอันตรายน้อย แต่ถ้าทำกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือใช้เครื่องมือปลอม อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้ แสบร้อน อักเสบ หรือรอยแผลเป็นได้
ผลข้างเคียงที่อาจพบของเลเซอร์ขนจิมิ
แม้ว่าเลเซอร์ขนจิมิจะเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม เพราะช่วยให้บริเวณจุดซ่อนเร้นสะอาด เรียบเนียน และลดกลิ่นอับได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากเป็นบริเวณที่ผิวบอบบาง จึงอาจเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อยชั่วคราวได้ในบางราย ซึ่งควรรู้ไว้ก่อนตัดสินใจทำ เพื่อเตรียมตัวและดูแลหลังทำอย่างถูกวิธี
1.ผิวแดง หรือแสบร้อนเล็กน้อยหลังทำ
หลังเลเซอร์ขนจิมิเสร็จทันที ผิวบริเวณจิมิอาจมีรอยแดง หรือรู้สึกอุ่น ๆ เหมือนผิวโดนแดดประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นอาการปกติจากความร้อนของเลเซอร์ วิธีดูแลแนะนำประคบเย็นเพื่อลดอาการแสบร้อน หลีกเลี่ยงการถูหรือเกา ทาครีมลดการอักเสบหรือเจลว่านหางจระเข้
2.ผิวแห้งหรือลอกเล็กน้อย
บางคนอาจมีอาการผิวแห้งหรือลอกบาง ๆ หลังเลเซอร์ขนจิมิ เนื่องจากความร้อนจากแสงเลเซอร์กระตุ้นให้ผิวสูญเสียน้ำเล็กน้อย วิธีดูแลแนะนำทาครีมบำรุงเนื้อบาง ๆ หรือครีมสูตรอ่อนโยนที่ไม่มีแอลกอฮอล์ งดครีมไวท์เทนนิ่งหรือครีมผลัดเซลล์ผิว
3.ขนอาจขึ้นใหม่ในช่วงแรก
หลังจากทำเลเซอร์ขนจิมิ 1-2 สัปดาห์ ขนบางเส้นอาจดูเหมือนขึ้นใหม่ แต่จริง ๆ แล้วคือ ขนที่ถูกดันออกจากรูขุมขน ซึ่งจะหลุดร่วงไปเอง คำแนะนำอย่าดึงหรือโกนขนในช่วงนี้ ปล่อยให้ขนหลุดเองตามธรรมชาติ
4.การระคายเคืองหรือตุ่มเล็ก ๆ
บางคนที่มีผิวแพ้ง่ายอาจเกิดตุ่มแดงเล็ก ๆ หรือรู้สึกคันบริเวณที่ยิงเลเซอร์ ซึ่งมักหายได้เองภายใน 1-3 วัน วิธีดูแลควรประคบเย็น และหลีกเลี่ยงการเกา หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงรัดแน่นหรือผ้าไม่ระบายอากาศ
5.รอยคล้ำหรือรอยไหม้ (พบได้น้อยมาก)
ในกรณีที่ใช้พลังงานเลเซอร์สูงเกินไป หรือทำโดยผู้ไม่มีความชำนาญ อาจเกิดรอยคล้ำหรือรอยไหม้บริเวณผิวได้ วิธีป้องกันควรเลือกทำกับแพทย์ ใช้เครื่องเลเซอร์ที่ผ่านการรับรองและเหมาะกับสีผิว
6.การติดเชื้อ (พบได้น้อยมาก)
หากดูแลความสะอาดไม่ดีหลังทำ หรือมีแผลเล็ก ๆ อยู่ก่อนแล้ว อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ แนะนำงดมีเพศสัมพันธ์ 48 ชั่วโมงหลังทำ หลีกเลี่ยงการแช่น้ำในอ่างหรือสระว่ายน้ำ รักษาความสะอาดและซับเบา ๆ หลังเข้าห้องน้ำ
เลเซอร์ขนจิมิเหมาะกับใครบ้าง
การทำเลเซอร์ขนจิมิถือเป็นหนึ่งในวิธีดูแลความสะอาดและความมั่นใจของผู้หญิงยุคใหม่ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้ผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นเรียบเนียนแล้ว ยังช่วยลดปัญหากลิ่นอับ ความอับชื้น และการระคายเคืองจากการโกนหรือแวกซ์อีกด้วย โดยกลุ่มคนที่เหมาะกับการทำเลเซอร์ขนจิมิ ได้แก่
1.เลเซอร์ขนจิมิเหมาะกับผู้หญิงที่มีขนบริเวณจิมิหนา ดก หรือขึ้นเร็ว
คนที่มีขนหนาและขึ้นเร็ว มักต้องโกนหรือแวกซ์บ่อย ซึ่งเสี่ยงต่อการระคายเคืองและขนคุด การทำเลเซอร์ขนจิมิจึงช่วยลดปัญหานี้ได้อย่างถาวร เพราะพลังงานเลเซอร์จะเข้าไปทำลายรากขนโดยตรง ทำให้ขนขึ้นใหม่ช้าลงและบางลง
2.เลเซอร์ขนจิมิเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาขนคุดหรือผิวไม่เรียบเนียน
เลเซอร์ขนจิมิช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้ขนที่งอกผิดทิศทางลดลง ส่งผลให้ผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นเรียบเนียนขึ้น ไม่มีตุ่มหนังไก่หรือรอยดำจากขนคุด
3.เลเซอร์ขนจิมิเหมาะกับผู้ที่แพ้การโกนหรือแวกซ์
บางคนอาจมีผิวแพ้ง่าย เมื่อโกนหรือแวกซ์จะเกิดอาการแสบ คัน แดง หรืออักเสบ การทำเลเซอร์ขนจิมิจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะไม่ต้องสัมผัสผิวโดยตรง และลดการระคายเคืองหลังทำได้มาก
4.เลเซอร์ขนจิมิเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดกลิ่นอับและเหงื่อสะสม
ขนที่หนาและยาวบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นแหล่งสะสมของเหงื่อและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นไม่พึงประสงค์ การทำเลเซอร์ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ทำให้จุดซ่อนเร้นสะอาดและมีกลิ่นสดชื่นอยู่เสมอ
5.เลเซอร์ขนจิมิเหมาะกับผู้หญิงที่ต้องการใส่บิกินี่หรือชุดชั้นในแบบเปิด
ใครที่ชอบใส่บิกินี่หรือชุดว่ายน้ำ การเลเซอร์ขนจิมิช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องขนโผล่ หรือความไม่เรียบร้อยเวลาสวมชุดว่ายน้ำหรือชุดรัดรูป ทำให้มั่นใจมากขึ้นทุกมุมมอง
6.เลเซอร์ขนจิมิเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลความสะอาดในระยะยาว
เลเซอร์ขนจิมิช่วยให้บริเวณจิมิสะอาดขึ้น ทำความสะอาดได้ง่าย และลดโอกาสเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราในอนาคต เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ใส่ใจสุขอนามัยส่วนตัว
7.เลเซอร์ขนจิมิเหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวก ไม่อยากกำจัดขนบ่อย ๆ
การเลเซอร์ช่วยลดภาระในการโกนหรือแวกซ์ซ้ำ ๆ เมื่อทำเลเซอร์ขนจิมิครบคอร์ส ขนจะบางลงหรือแทบไม่ขึ้นอีกเลย เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการความสะดวกและผลลัพธ์ระยะยาว
เลเซอร์ขนจิมิไม่เหมาะกับใครบ้าง
แม้ว่าเลเซอร์ขนจิมิจะเป็นวิธีกำจัดขนที่ให้ผลลัพธ์ยาวนาน แต่ก็มีบางกลุ่มคนที่ไม่เหมาะสมหรือควรเลื่อนการทำออกไปก่อน เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นมีความบอบบางเป็นพิเศษ โดยมีกลุ่มคนที่ยังไม่ควรทำเลเซอร์ขนจิมิ ดังนี้
1.เลเซอร์ขนจิมิไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลหรือการติดเชื้อบริเวณจุดซ่อนเร้น
หากมีแผลเปิด แผลจากการเกา หรือการติดเชื้อรา-แบคทีเรียบริเวณจิมิ ควร หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ชั่วคราว เพราะพลังงานเลเซอร์อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำได้ ควรรักษาแผลหรือการติดเชื้อให้หายก่อน แล้วค่อยเข้ารับบริการเลเซอร์ขนจิมิ
2.เลเซอร์ขนจิมิไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
ในช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ฮอร์โมนในร่างกายจะเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวมีความไวต่อความร้อนและระคายเคืองง่ายกว่าปกติ การทำเลเซอร์อาจทำให้รู้สึกแสบมากขึ้น หรือเกิดรอยแดงได้ง่าย ควรเลื่อนการทำเลเซอร์ออกไปหลังคลอดหรือหลังหยุดให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และลูก
3.เลเซอร์ขนจิมิไม่เหมาะกับผู้ที่เพิ่งโกนหรือแวกซ์ขนมาใหม่ ๆ
หลังการโกนหรือแวกซ์ ผิวบริเวณนั้นจะมีการอักเสบเล็กน้อยและมีแผลจุดเล็ก ๆ ตามรูขุมขน การยิงเลเซอร์ในช่วงนี้อาจทำให้รู้สึกแสบมากขึ้น หรือเกิดรอยไหม้ได้ ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3-5 วันหลังโกน และ 2 สัปดาห์หลังแวกซ์ ก่อนเข้ารับเลเซอร์ขนจิมิ
4.เลเซอร์ขนจิมิไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวไวต่อแสง หรือใช้ยาที่ทำให้ผิวไวแสง
เช่น ยากลุ่ม Isotretinoin, ยาแต้มสิวที่มีกรดวิตามินเอ หรือยาบางชนิดที่มีผลต่อการไวต่อแสง หากทำเลเซอร์ในช่วงที่ใช้ยาเหล่านี้ อาจเกิดผิวไหม้หรือรอยแดงรุนแรงได้ ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำเลเซอร์ทุกครั้ง และหยุดใช้ยาที่ทำให้ผิวไวแสงอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
5.เลเซอร์ขนจิมิไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคผิวหนังในบริเวณจิมิ
เช่น ผื่นแพ้ สะเก็ดเงิน หรือผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส การยิงเลเซอร์อาจทำให้อาการแย่ลงหรือเกิดการลอกเป็นแผลได้ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนทุกครั้ง เพื่อประเมินความเหมาะสม
6.เลเซอร์ขนจิมิไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวคล้ำมาก หรือมีประวัติเป็นรอยดำง่าย
เลเซอร์บางชนิด เช่น Alexandrite อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวเข้มหรือมีแนวโน้มเกิดรอยดำหลังการอักเสบ เพราะอาจทำให้เกิดรอยคล้ำได้ แนะนำควรเลือกใช้ Nd:YAG หรือ Diode Laser ที่เหมาะสำหรับทุกสีผิวแทน
7.เลเซอร์ขนจิมิไม่เหมาะกับผู้ที่มีประจำเดือนในวันทำเลเซอร์
ช่วงมีประจำเดือนเป็นช่วงที่ผิวและร่างกายไวต่อความเจ็บปวดมากกว่าปกติ ทำให้รู้สึกแสบหรือระคายเคืองมากขึ้น ควรเลื่อนการทำออกไปประมาณ 3-5 วันหลังหมดประจำเดือน เพื่อให้ผิวบริเวณนั้นกลับมาสมดุลก่อน
เลเซอร์ขนจิมิ ทำครั้งแรก เตรียมตัวอย่างไร
สำหรับสาว ๆ ที่กำลังจะทำเลเซอร์ขนจิมิครั้งแรก อาจรู้สึกกังวล ไม่มั่นใจว่าจะต้องเตรียมตัวยังไงดี บอกเลยว่าไม่ยาก มีแนวทางมาแนะนำ ซึ่งการเตรียมตัวที่ถูกต้องจะช่วยให้การทำเลเซอร์เจ็บน้อย ลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง และได้ผลลัพธ์ที่ดี
1.ก่อนทำเลเซอร์ขนจิมิโกนขนก่อนเข้ารับบริการ 1 วัน
ก่อนเข้าทำเลเซอร์ขนจิมิ ควรโกนขนบริเวณจิมิออกให้เกลี้ยง โดยใช้มีดโกนสะอาดและโกนตามแนวขน เพื่อป้องกันการระคายเคือง เพราะการโกนช่วยให้พลังงานเลเซอร์ยิงลงถึงรากขนโดยตรง และห้ามแวกซ์ ถอน หรือใช้ครีมกำจัดขน เพราะจะทำให้รากขนหลุดและเลเซอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
2.ก่อนทำเลเซอร์ขนจิมิงดการขัดผิวหรือใช้ครีมไวท์เทนนิ่งก่อนทำ
หลีกเลี่ยงการขัดผิว ทาโลชั่นไวท์เทนนิ่ง หรือครีมที่มีกรดผลไม้ (AHA/BHA/Retinol) อย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำเพราะสารเหล่านี้อาจทำให้ผิวบางและไวต่อแสง เสี่ยงต่อการแสบร้อนหรือรอยไหม้จากพลังงานเลเซอร์
3.ก่อนทำเลเซอร์ขนจิมิทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้าคลินิก
ก่อนเข้ารับบริการ ควรอาบน้ำและทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นให้สะอาด เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์
4.ก่อนทำเลเซอร์ขนจิมิหลีกเลี่ยงการทาแป้งหรือโลชั่นในวันทำ
ไม่ควรทาโลชั่น แป้ง หรือครีมใด ๆ บริเวณที่จะทำเลเซอร์ขนจิมิ เพราะอาจทำให้แสงเลเซอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือทำให้ผิวไหม้ง่ายขึ้น
5.ก่อนทำเลเซอร์ขนจิมิสวมเสื้อผ้าที่สบาย ระบายอากาศได้ดี
ในวันที่เข้ารับบริการเลเซอร์ขนจิมิ แนะนำเลือกชุดที่หลวม ไม่รัดแน่น และทำจากผ้าฝ้าย เพื่อป้องกันการเสียดสีหลังทำเลเซอร์ขนจิมิ
6.ก่อนทำเลเซอร์ขนจิมิหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ช่วงมีประจำเดือน
ช่วงมีประจำเดือนผิวจะไวต่อความเจ็บและการระคายเคืองมากกว่าปกติ ควรรอให้หมดรอบเดือนก่อนแล้วค่อยเข้ารับบริการเลเซอร์ขนจิมิประมาณ 3-5 วัน
7.ก่อนทำเลเซอร์ขนจิมิแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือใช้ยาบางชนิด
หากกำลังใช้ยากลุ่มไวต่อแสง เช่น Isotretinoin หรือมียาเฉพาะทางที่อาจมีผลต่อผิว ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำเลเซอร์ขนจิมิ เพื่อปรับระดับพลังงานเลเซอร์ให้เหมาะสม
8.ก่อนทำเลเซอร์ขนจิมิ ทำใจให้สบาย ไม่ต้องกลัวหรือเกร็ง
การทำเลเซอร์ขนจิมิในปัจจุบันใช้เครื่องที่มีระบบ Cooling System หรือระบบความเย็นช่วยลดอาการแสบขณะยิง จึงแทบไม่เจ็บอย่างที่คิด
เลเซอร์ขนจิมิควรดูแลตัวเองหลังทำอย่างไร
หลังจากทำเลเซอร์ขนจิมิแล้ว ผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นจะมีความไวต่อความร้อนและการสัมผัสมากกว่าปกติ เพราะพลังงานเลเซอร์จะเข้าไปทำลายรากขนใต้ผิว จึงจำเป็นต้องดูแลผิวอย่างอ่อนโยนและถูกวิธี เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่ ผิวเรียบเนียน ไม่มีรอยแดงหรือระคายเคือง
1.หลังทำเลเซอร์ขนจิมิประคบเย็นลดอาการแสบร้อน
ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังทำเลเซอร์ขนจิมิ ผิวอาจรู้สึกอุ่น แดง หรือแสบเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ วิธีดูแลให้ใช้ผ้าขนหนูสะอาดห่อเจลเย็นหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบเบา ๆ ประคบครั้งละ 5-10 นาที วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยลดอาการแดงและอักเสบ
2.หลังทำเลเซอร์ขนจิมิหลีกเลี่ยงการเกา หรือสัมผัสแรง ๆ
หลังทำเลเซอร์ขนจิมิ ผิวจะบอบบางกว่าปกติ การเกา แกะ หรือถูแรง ๆ อาจทำให้เกิดแผลหรือรอยคล้ำได้ แนะนำซับเบา ๆ หลังอาบน้ำ ใช้กระดาษทิชชูเนื้อนุ่มหรือผ้าขนหนูสะอาดซับให้แห้งแทนการเช็ด
3.หลังทำเลเซอร์ขนจิมิงดอาบน้ำอุ่น แช่น้ำ หรือซาวน่า 48 ชั่วโมง
เพราะความร้อนจากน้ำอุ่นจะกระตุ้นให้ผิวระคายเคืองและอักเสบได้ง่าย ควรอาบน้ำอุณหภูมิปกติ งดซาวน่า ออนเซ็น หรือการแช่น้ำในอ่าง-สระว่ายน้ำช่วง 2 วันแรก
4.หลังทำเลเซอร์ขนจิมิหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
หลังเลเซอร์ขนจิมิ ผิวบริเวณนั้นจะบอบบางและมีโอกาสระคายเคืองได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการเสียดสีหรือแรงกด เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรืออักเสบ
5.หลังทำเลเซอร์ขนจิมิงดออกกำลังกายหนัก 1-2 วัน
การออกกำลังกายอาจทำให้เหงื่อออกมากและเกิดการเสียดสีระหว่างขา ซึ่งอาจกระตุ้นให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดผื่นได้
6.หลังทำเลเซอร์ขนจิมิสวมเสื้อผ้าที่หลวมและระบายอากาศได้ดี
ช่วงหลังทำเลเซอร์ขนจิมิควรใส่กางเกงในผ้าฝ้ายหรือผ้าบางเบาที่ไม่รัดแน่น เพื่อให้ผิวหายใจและลดการเสียดสี
7.หลังทำเลเซอร์ขนจิมิทาครีมหรือเจลบำรุงสูตรอ่อนโยน
หลังทำเลเซอร์ขนจิมิสามารถทาเจลว่านหางจระเข้ หรือครีมบำรุงสูตรอ่อนโยน (ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือกรดผลไม้) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการระคายเคืองได้
8.หลังทำเลเซอร์ขนจิมิหลีกเลี่ยงการโกนหรือถอนขนระหว่างคอร์ส
หลังทำเลเซอร์ขนจิมิ ผิวต้องใช้เวลาในการผลัดขนเก่าออกตามธรรมชาติ ไม่ควรถอนหรือโกน เพราะอาจทำให้รากขนที่ถูกทำลายหลุดไปก่อน และลดประสิทธิภาพของเลเซอร์ในครั้งต่อไป
9.หลังทำเลเซอร์ขนจิมิหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
หากจำเป็นต้องใส่ชุดว่ายน้ำหรืออยู่กลางแดด ควรปกป้องผิวด้วยผ้าคลุมหรือโลชั่นกันแดดสูตรอ่อนโยนที่ปลอดภัยต่อบริเวณจุดซ่อนเร้น
10.หลังทำเลเซอร์ขนจิมิเว้นระยะก่อนทำครั้งต่อไป
โดยปกติการทำเลเซอร์ขนจิมิควรเว้นช่วง 4-6 สัปดาห์ต่อครั้ง เพื่อให้วงจรเส้นขนครบสมบูรณ์และผลลัพธ์ดีที่สุด
สรุป เลเซอร์ขนจิมิ ดีไหม
สรุปได้ว่า เลเซอร์ขนจิมิ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลตัวเองที่ผู้หญิงยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยให้จุดซ่อนเร้นสะอาดขึ้น ดูสวยงามอย่างดูเป็นธรรมชาติ และลดปัญหาขนกวนใจได้ในระยะยาว แม้ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะเห็นผลเต็มที่ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่า ทั้งความเรียบเนียน ความมั่นใจ และสุขอนามัยที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง ควรเลือกทำเลเซอร์ขนจิมิกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ดูแล ใช้เครื่องเลเซอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน และปฏิบัติตามคำแนะนำก่อน-หลังทำอย่างถูกวิธี เพียงเท่านี้ก็สามารถมีผิวบริเวณบิกินี่ที่เรียบเนียน สะอาด และมั่นใจได้ทุกสถานการณ์
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ