โปรแกรม IPL คืออะไร แตกต่างจากเครื่องเลเซอร์อื่นอย่างไร เหมาะกับใคร
IPL
IPL คืออะไร แตกต่างจากเครื่องเลเซอร์อื่นอย่างไร เหมาะกับใคร
IPL คืออะไร ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ต่างจากเลเซอร์อื่นอย่างไร
IPL เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้พลังงานแสง ที่มีความเข้มข้นสูง ที่รักษาปัญหาผิวโดยตรงเกี่ยวกับ เม็ดสีเมลานินในผิวหนัง จะช่วยลดเลือนรอยดำ รอยแเดง และสามารถปรับคลื่นความยาวแสง เพื่อใช้ในการกำจัดขนได้อีกด้วย
IPL คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร แล้วต่างจากเลเซอร์อื่น ๆ อย่างไรบ้าง ก่อนไปทำเลเซอร์ IPL ต้องอ่านบทความนี้ เพื่อให้เราเตรียมตัว และดูแลตัวเองหลังทำได้อย่างถูกต้อง
รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับ IPL
- IPL คืออะไร มีหลักการอย่างไร
- IPL ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
- IPL เลเซอร์เหมาะกับใครบ้าง
- ใครควรหลีกเลี่ยงการทำ IPL เลเซอร์
- ข้อดีของ IPL เลเซอร์
- ข้อควรระวังของการทำ IPL เลเซอร์
- การเตรียมตัวก่อนทำ IPL เลเซอร์
- ขั้นตอนการทำ IPL เลเซอร์
- วิธีดูแลตัวเองหลังทำ IPL เลเซอร์
- ผลข้างเคียงหลังทำ IPL เลเซอร์
- IPL เลเซอร์ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
- ข้อแตกต่างระหว่าง IPL กับเลเซอร์อื่น ๆ
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับ IPL เลเซอร์
- คำถามยอดฮิตของ IPL เลเซอร์
IPL คืออะไร มีหลักการอย่างไร
IPL (Intense Pulsed Light) คือเทคโนโลยีแสงความเข้มข้นสูงที่ถูกพัฒนาเพื่อนำมาใช้ดูแลและฟื้นฟูสภาพผิว โดยไม่ใช่เลเซอร์ในรูปแบบลำแสงเดียว แต่ IPL เลเซอร์ เป็นแสงหลายช่วงคลื่น ที่สามารถปรับให้เหมาะกับแต่ละปัญหาผิวได้อย่างเฉพาะเจาะจง ครอบคลุมตั้งแต่ช่วงคลื่นประมาณ 420-1200 นาโนเมตร
เทคโนโลยีของ IPL นี้ทำงานด้วยหลักการที่เรียกว่า Selective Photothermolysis ซึ่งหมายถึงการเลือกทำลายบริเวณที่เกิดปัญหาผิว เช่น เม็ดสีเมลานิน เส้นเลือดฝอย หรือรากขน โดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง การทำ IPL เลเซอร์จึงเป็นวิธีที่ไม่อันตรายและได้รับความนิยมในวงการแพทย์ผิวหนัง
หลักการทำงานของ IPL เลเซอร์
เมื่อเครื่อง IPL ปล่อยพลังงานแสงออกมา แสงจะถูกดูดซับโดยจุดเป้าหมายที่แตกต่างกันตามชนิดของปัญหาผิว ซึ่งแต่ละเป้าหมายจะตอบสนองต่อความยาวคลื่นที่ต่างกัน เช่น เม็ดสีดูดซับแสงได้ดีที่ช่วงคลื่นสั้น ในขณะที่เส้นเลือดฝอยตอบสนองต่อช่วงคลื่นที่ยาวกว่า
1.IPL เลเซอร์ลดเลือนรอยดำและรอยหมองคล้ำ
พลังงานแสง IPL จะจับกับเม็ดสีเมลานินที่สะสมอยู่ใต้ผิว เมื่อได้รับความร้อน เม็ดสีเหล่านี้จะค่อย ๆ แตกตัวและถูกระบบร่างกายกำจัดออกตามกระบวนการของร่างกาย ส่งผลให้รอยดำและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอดูจางลง
2.IPL เลเซอร์ลดรอยแดงและเส้นเลือดฝอย
ในกรณีที่ผิวมีรอยแดงจากเส้นเลือดฝอยที่ขยายตัว แสง IPL จะถูกดูดซับโดยฮีโมโกลบินในเลือด ทำให้เส้นเลือดฝอยเกิดการหดตัวและจางลง ผิวจึงดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอมากขึ้น
3.IPL เลเซอร์กำจัดขนที่ไม่ต้องการ
พลังงานแสงของ IPL เลเซอร์ จะจับกับเม็ดสีเมลานินในรากขน ความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำลายรากขนจนขนหลุดร่วง และลดการงอกใหม่ในอนาคต โดยไม่ทำลายผิวบริเวณรอบข้าง
4.IPL เลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูสภาพผิว
แสง IPL เลเซอร์ยังสามารถส่งพลังงานลึกลงไปในชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวมีความแน่น ยืดหยุ่นดีขึ้น รูขุมขนดูกระชับ และพื้นผิวผิวดูเรียบเนียนขึ้น
IPL ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
เทคโนโลยี IPL (Intense Pulsed Light) เป็นนวัตกรรมแสงความเข้มข้นสูงที่สามารถดูแลผิวได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ปัญหาสิว รอยดำ ไปจนถึงการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น IPL เลเซอร์จะอาศัยหลักการเลือกทำลายเฉพาะเป้าหมายในผิว เช่น เม็ดสีเมลานิน เส้นเลือดฝอย หรือรากขน ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวแบบชัดเจน
1.IPL ช่วยลดการอักเสบของสิว และควบคุมแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว
พลังงานแสงจาก IPL สามารถช่วยลดปริมาณเชื้อ P.acnes ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่กระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบ พร้อมลดการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิว ส่งผลให้สิวลดลง ผิวสะอาดขึ้น และลดโอกาสเกิดสิวซ้ำในอนาคต
2.IPL ช่วยให้รอยดำ รอยแดง และรอยสิวจางลง
แสง IPL จะจับกับเม็ดสีเมลานินและฮีโมโกลบินในเส้นเลือดฝอย ทำให้รอยดำจากสิวและรอยแดงค่อย ๆ จางลงตามกระบวนการของร่างกาย สีผิวจึงดูสม่ำเสมอขึ้นโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน
3.IPL ลดการเกิดขนและกำจัดขนที่ไม่ต้องการ
IPL สามารถส่งพลังงานลงไปถึงรากขน โดยเม็ดสีเมลานินในรากขนจะดูดซับพลังงานแสง ทำให้รากขนถูกทำลายและหยุดการเจริญเติบโต ขนที่ขึ้นใหม่จะบางลงและขึ้นช้าลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวเรียบเนียนโดยไม่ต้องถอนหรือโกนบ่อย
4.IPL ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ลดเลือนฝ้าและกระ
IPL สามารถช่วยลดเม็ดสีส่วนเกินในชั้นผิวที่เป็นต้นเหตุของฝ้าและกระ เมื่อเม็ดสีเหล่านี้สลายตัวตามกระบวนการของร่างกาย สีผิวจะดูสว่างกระจ่างขึ้น ไม่ต้องพักฟื้น
5.IPL ช่วยให้รูขุมขนดูกระชับ และพื้นผิวผิวเรียบเนียนขึ้น
พลังงานแสง IPL สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นหนังแท้ ทำให้โครงสร้างผิวแน่นขึ้น รูขุมขนดูกระชับ และผิวเรียบเนียนขึ้นโดยรวม IPL เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างหรือพื้นผิวผิวไม่เรียบ
6.IPL ช่วยดูแลปัญหาผิวบางชนิด
ในทางการแพทย์ แสง IPL ยังถูกนำมาใช้ร่วมในการดูแลภาวะผิวหนังบางประเภท เช่น โรคผิวหนังอักเสบโรซาเซีย (Rosacea) ที่มีอาการหน้าแดง หรือปัญหาเส้นเลือดฝอยที่ขยายผิดปกติใต้ผิว ซึ่ง IPL สามารถช่วยลดสีเส้นเลือดเหล่านี้ได้
IPL เลเซอร์เหมาะกับใครบ้าง
เทคโนโลยี IPL (Intense Pulsed Light) เป็นหนึ่งในวิธีดูแลผิวที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถปรับใช้ได้กับหลากหลายปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นสิว รอยดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือขน
โดยหลักการทำงานของ IPL คือการปล่อยแสงความเข้มข้นสูงลงไปยังชั้นผิว เพื่อจัดการเฉพาะจุดเป้าหมาย เช่น เม็ดสีเมลานิน เส้นเลือดฝอย หรือรากขน โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
1.IPL เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิวและรอยสิว
IPL เหมาะกับผู้ที่มีสิวอักเสบ หรือมีรอยแดง รอยดำหลังสิว เพราะแสง IPL สามารถช่วยลดการอักเสบ ลดจำนวนเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสิว พร้อมกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิวให้รอยสิวค่อย ๆ จางลง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสะอาดขึ้น
2.IPL เหมาะกับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าผิวดูหมอง มีจุดด่างดำ หรือไม่สม่ำเสมอ IPL สามารถช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวผลัดตัวเร็วขึ้น พร้อมสลายเม็ดสีส่วนเกินที่สะสมใต้ผิว เมื่อทำอย่างต่อเนื่อง ผิวจะดูสว่างและใสขึ้น โดยไม่ทำให้ผิวบางหรือไวต่อแสง
3.IPL เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำ
IPL ช่วยลดเม็ดสีที่ผิดปกติในชั้นผิว ซึ่งเป็นต้นเหตุของฝ้าและกระได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำร้ายผิวรอบข้าง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้สีสม่ำเสมอขึ้น และลดการเกิดเม็ดสีใหม่เมื่อต่อเนื่องร่วมกับการป้องกันแสงแดด ทาครีมกันแดด SPF 50 เป็นต้นไป
4.IPL เหมาะกับผู้ที่มีรอยแดงหรือการระคายเคืองจากแสงแดด
แสง IPL สามารถช่วยให้เส้นเลือดฝอยที่ขยายตัวใต้ผิวกลับเข้าสู่สภาพสมดุล ลดอาการแดงและการระคายเคืองหลังถูกแสงแดด ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นและลดความรู้สึกแสบร้อนหรือไวต่อแสง
5.IPL เหมาะกับผู้ที่มีรอยแตกลาย โดยเฉพาะรอยแตกลายสีแดง
ในกรณีที่รอยแตกลายยังมีสีแดงหรือสีชมพู แสง IPL จะช่วยลดการมองเห็นของเส้นเลือดที่อยู่ใต้ผิว พร้อมกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้รอยแตกลายค่อย ๆ จางลงเมื่อทำต่อเนื่อง
6.IPL เหมาะกับผู้ที่ต้องอยากกำจัดขน
IPL สามารถใช้ได้กับหลากหลายบริเวณ เช่น ใบหน้า รักแร้ แขน ขา หรือบริเวณลำตัว โดยพลังงานแสงของ IPL จะลงไปทำลายรากขน ทำให้ขนขึ้นใหม่ช้าลงและเส้นบางลง โดยไม่ทำให้เกิดรอยดำหรือการระคายเคือง
ใครควรหลีกเลี่ยงการทำ IPL เลเซอร์
แม้ว่า IPL (Intense Pulsed Light) จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับว่า ไม่เป็นอันตรายและเห็นผลในการดูแลปัญหาผิว รอดำรอยแดง แต่ก็มีบางกลุ่มบุคคลที่จะต้องหลีกเลี่ยงการทำ IPL หรือควร เลื่อนการทำออกไปก่อน เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ การประเมินโดยแพทย์ก่อนเข้ารับบริการจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากที่สุด
1.หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการทำ IPL
ในระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อความไวของผิว การทำ IPL ในช่วงนี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองง่าย หรือมีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีได้มากกว่าปกติ และยังไม่มีข้อมูลยืนยันด้านความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์อย่างชัดเจน จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือรอหลังคลอดและหยุดให้นมบุตรก่อน
2.ผู้ที่ใช้ยาหรือครีมที่ทำให้ผิวไวต่อแสง
โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ครีมกลุ่ม วิตามินเอ (Retinoids) เช่น Retin-A, Tretinoin หรือยารับประทานบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะบางประเภท และ ยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งอาจเพิ่มความไวต่อแสงของผิว ทำให้เกิดการไหม้ แดง หรือระคายเคืองได้ง่าย หากอยู่ในกลุ่มนี้ ควรหยุดใช้ยาและปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการทำ IPL อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
3.ผู้ที่มีโรคมะเร็งผิวหนังหรือเคยมีประวัติมาก่อน
การใช้พลังงานแสงในผู้ที่มีมะเร็งผิวหนัง หรือมีรอยโรคผิวหนังที่ยังไม่สามารถวินิจฉัยแน่ชัด อาจกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ แพทย์จึงมักแนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำ IPL ในกลุ่มนี้โดยเด็ดขาด
4.ผู้ที่มีผิวสีเข้มหรือผิวไวต่อแสงเป็นพิเศษ
เนื่องจากพลังงานแสง IPL จะจับกับเม็ดสีเมลานินในผิว ผู้ที่มีผิวสีเข้มจึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ “ผิวไหม้” หรือ “สีผิวไม่สม่ำเสมอ” ได้มากกว่าผิวทั่วไป แต่ถ้าเกิดจำเป็นต้องทำ IPL เลเซอร์จริง ๆ ควรให้แพทย์ประเมินและเลือกค่าพลังงานที่เหมาะสม รวมถึงทดสอบบริเวณเล็ก ๆ ก่อนทำจริง
5.ผู้ที่มีแนวโน้มเกิดแผลเป็นคีลอยด์
สำหรับผู้ที่มีประวัติแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ แสงความร้อนจาก IPL อาจกระตุ้นให้เกิดการสร้างพังผืดเพิ่มขึ้นในบริเวณนั้นได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทำ และอาจเลือกใช้วิธีการดูแลผิวรูปแบบอื่นที่เหมาะสมกว่า
6.ผู้ที่มีโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคแพ้แสง
ผู้ที่มีภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรัง หรือมีอาการแพ้แสง ควรหลีกเลี่ยงการทำ IPL เพราะอาจกระตุ้นให้โรคกำเริบหรือทำให้ผิวไวต่อการอักเสบมากขึ้น การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนเข้ารับบริการจะช่วยให้ประเมินได้ว่าเป็นอันตรายหรือไม่
7.ผู้ที่มีบาดแผลเปิด หรือผิวอยู่ในภาวะอักเสบ
หากผิวมีแผลสด แผลถลอก หรือกำลังอักเสบจากสิวรุนแรง ควรรอให้ผิวฟื้นตัวก่อนทำ IPL เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น
ข้อดีของ IPL เลเซอร์
เทคโนโลยี IPL (Intense Pulsed Light) สามารถปรับช่วงคลื่นแสงให้เหมาะกับปัญหาผิวแต่ละประเภทได้แบบอ่อนโยน เมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียน สม่ำเสมอ และแลดูสุขภาพดีขึ้น โดยไม่ต้องพักฟื้น
1.IPL เลเซอร์ไม่ทำลายผิวชั้นบน
ต่างจากเลเซอร์บางชนิดที่ใช้พลังงานสูงและมีผลต่อผิวหนังชั้นนอก พลังงานแสงของ IPL จะกระจายลงไปเฉพาะบริเวณเป้าหมายในชั้นผิวด้านล่าง เช่น เม็ดสีหรือเส้นเลือดฝอย โดยไม่ทำร้ายผิวด้านบน จึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดบาดแผล รอยแดง หรือรอยไหม้หลังทำได้ดี
2.IPL ใช้เวลาในการทำไม่นาน และไม่ต้องหยุดพักฟื้น
การทำ IPL หนึ่งครั้งใช้เวลาเพียงประมาณ 20-30 นาที เท่านั้น หลังทำสามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติทันที ไม่มีอาการลอกหรือบวมชัดเจน ผู้ที่มีเวลาจำกัดจึงสามารถเข้ารับบริการได้สะดวก
3.IPL สามารถแก้ปัญหาผิวได้หลากหลายด้วยเทคโนโลยีเดียว
จุดเด่นของ IPL คือความหลากหลายในการใช้งาน สามารถใช้ดูแลผิวได้หลายด้าน เช่น
- ลดรอยดำ รอยแดง และรอยสิว
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- ลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวแน่นขึ้น
- ช่วยให้รูขุมขนดูกระชับ
- ลดการเกิดขนใหม่หรือใช้กำจัดขนได้
ด้วยคุณสมบัติแบบนี้ IPL จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของความสวยงามและสุขภาพผิวในระยะยาว
4.ไม่อันตรายเพราะทำโดยแพทย์
แม้ IPL จะเป็นเทคโนโลยีที่อ่อนโยน แต่ก็ต้องอาศัยความชำนาญในการปรับค่าพลังงานให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล หากทำในคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือผ่านการรับรองและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการไหม้ ผิวคล้ำ หรือระคายเคือง และทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นอันตราย มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ข้อควรระวังของการทำ IPL เลเซอร์
แม้ว่า IPL (Intense Pulsed Light) จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการดูแลและฟื้นฟูผิว เพราะให้ผลลัพธ์ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็มีข้อควรระวังในการทำ IPL เลเซอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นอันตรายและคุ้มค่ามากที่สุด
1.การทำ IPL เลเซอร์ต้องทำอย่างต่อเนื่องจึงเห็นผลชัดเจน
IPL เลเซอร์ไม่ได้ให้ผลแบบถาวรตั้งแต่ครั้งแรก เพราะเป็นการฟื้นฟูผิวด้วยแสงที่ค่อย ๆ กระตุ้นกระบวนการภายในผิวตามกระบวนการของร่างกาย ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อทำต่อเนื่อง โดยทั่วไปมักแนะนำให้ทำประมาณ 4-6 ครั้ง ห่างกันทุก 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
2.ผู้ที่มีผิวเข้มหรือขนสีเข้มควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
เนื่องจากพลังงานแสงของ IPL จะจับกับเม็ดสีเมลานิน หากผิวมีสีเข้มหรือมีเม็ดสีมาก อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมใต้ผิวมากเกินไป เสี่ยงต่อการเกิดรอยแดง ผิวคล้ำ หรือรอยไหม้หลังทำได้ ดังนั้น ผู้ที่มีผิวเข้มควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกค่าพลังงานและช่วงคลื่นที่เหมาะสมก่อนทำ IPL
3.ผิวจะไวต่อแสงมากขึ้นหลังทำ IPL
หลังจากทำ IPL ผิวจะมีความไวต่อแสงเพิ่มขึ้นชั่วคราว เพราะเซลล์ผิวกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟู แพทย์จึงมักแนะนำให้ หลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรง 3-7 วัน และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เป็นประจำ เพื่อป้องกันการเกิดรอยแดงหรือรอยคล้ำหลังการรักษา
4.ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องดูแลต่อเนื่องหลังทำ IPL
แม้ IPL จะช่วยลดรอยดำ รอยแดง และขนไม่พึงประสงค์ได้ดี แต่ผลลัพธ์ไม่ถาวร โดยเฉพาะในกรณีของการกำจัดขน เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีขนบางส่วนงอกใหม่ได้ ซึ่งมักมีลักษณะเส้นบางและขึ้นช้ากว่าเดิม การทำ IPL ซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้น
การเตรียมตัวก่อนทำ IPL เลเซอร์
การเตรียมผิวก่อนเข้ารับการทำ IPL (Intense Pulsed Light) เป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษา เพราะแม้เทคโนโลยี IPL จะอ่อนโยนและไม่ต้องพักฟื้น แต่หากผิวอยู่ในสภาพไม่พร้อม อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ดังต่อไปนี้
1.เตรียมบริเวณขนให้เหมาะสมก่อนทำ IPL เลเซอร์
สำหรับผู้ที่ต้องการ กำจัดขนด้วย IPL ควรหลีกเลี่ยงการถอน แวกซ์ หรือใช้ครีมกำจัดขนก่อนทำอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เพราะการถอนหรือแวกซ์จะดึงรากขนออก ทำให้แสง IPL ไม่สามารถจับกับเม็ดสีเมลานินในรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากต้องการโกนขน สามารถโกนได้ก่อนเข้ารับบริการ 1 วัน เพื่อให้แสงลงถึงรากขนได้โดยตรงและลดโอกาสการไหม้จากขนที่ยาวเกินไป
2.งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดหรือวิตามินเอก่อนทำ IPL เลเซอร์
ก่อนทำ IPL ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร AHA, BHA, Retinol, Retin-A หรือวิตามินเออนุพันธ์อื่น ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะสารเหล่านี้จะทำให้ผิวบอบบางและไวต่อแสงมากขึ้น หากทำ IPL ในขณะที่ผิวยังอยู่ในภาวะนี้ อาจเสี่ยงต่อการเกิดรอยแดงหรือผิวไหม้ได้ง่าย
3.หลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรงและปกป้องผิวจากแสง UV
แสงแดดมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของ IPL หากผิวถูกแดดจัดก่อนทำ อาจเกิดรอยไหม้หรือรอยดำได้ง่าย ควร หลีกเลี่ยงการตากแดดจัดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับบริการ IPL เลเซอร์ และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV
4.เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอก่อนทำ IPL เลเซอร์
ผิวที่ชุ่มชื้นจะช่วยให้พลังงานแสงจาก IPL กระจายได้อย่างสม่ำเสมอ ลดโอกาสเกิดรอยแดงหรือความร้อนสะสมหลังทำ ควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์หรือโลชั่นเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้ผิวแข็งแรงและลดโอกาสการระคายเคือง
5.หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น เช่น บุหรี่และแอลกอฮอล์
งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 วันก่อนเข้ารับการทำ IPL เพราะสารเหล่านี้จะส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด และอาจทำให้ผิวเกิดรอยฟกช้ำหรือการฟื้นตัวหลังทำช้าลง นอกจากนี้ยังอาจลดประสิทธิภาพของการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวได้
6.แจ้งแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาและประวัติผิว
หากกำลังใช้ยา เช่น ยาปฏิชีวนะ, ยาละลายลิ่มเลือด, ยารักษาสิว (Isotretinoin) หรือมียาประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ IPL เพื่อให้ประเมินความเหมาะสมและปรับช่วงเวลาในการทำ
ขั้นตอนการทำ IPL เลเซอร์
การทำ IPL (Intense Pulsed Light) เป็นหัตถการที่ใช้เวลาไม่นานและให้ผลลัพธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหรือแก้ไขปัญหาผิวอย่างอ่อนโยนโดยไม่ต้องพักฟื้น กระบวนการทั้งหมดดำเนินภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งขั้นตอนโดยทั่วในการทำ IPL ไปมีดังนี้
1.ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำการรักษา
ก่อนเริ่มทำ IPL แพทย์จะทำความสะอาดผิวอย่างละเอียด เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอาง ความมัน และสิ่งสกปรกออกจากผิว เพื่อให้พลังงานแสงสามารถส่งผ่านเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอ
2.โกนขน (ในกรณีทำ IPL เพื่อกำจัดขน)
หากเป็นการทำ IPL เพื่อกำจัดขน จะโกนขนในบริเวณที่ต้องการรักษาออกให้เรียบ เพื่อให้แสงสามารถเข้าถึงรากขนโดยตรง ไม่ถูกบังด้วยเส้นขนที่อยู่บนผิว ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานและลดความร้อนสะสมที่อาจเกิดขึ้น
3.ทาเจลเย็นเพื่อปกป้องผิว
ก่อนเริ่มยิงแสง จะมีการทาเจลเย็นลงบนผิว เจลนี้มีหน้าที่ช่วยลดความร้อนที่เกิดจากพลังงานแสง IPL ป้องกันการระคายเคือง และช่วยให้แสงส่งผ่านเข้าสู่ผิวได้อย่างราบรื่น ทั้งยังช่วยให้รู้สึกสบายผิวขณะทำ
4.ปรับค่าพลังงานและเลือกฟิลเตอร์ให้เหมาะกับปัญหาผิว
แพทย์จะเลือกใช้ฟิลเตอร์ (Filter) ที่มีความยาวคลื่นของแสงเหมาะสมกับปัญหาผิว เช่น
• ความยาวคลื่นช่วงสั้น ใช้รักษารอยแดงหรือสิว
• ความยาวคลื่นช่วงกลาง ใช้ลดรอยดำหรือฝ้า กระ
• ความยาวคลื่นช่วงยาว ใช้ในการกำจัดขนหรือกระตุ้นคอลลาเจนในผิว
• การปรับค่าพลังงานจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและสีผิวของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
5.ยิงแสง IPL ลงบนผิวบริเวณที่ต้องการรักษา
ขณะทำการรักษา เครื่อง IPL จะปล่อยพลังงานแสงเป็นจังหวะ ๆ ลงบนผิว โดยแพทย์จะค่อย ๆ เลื่อนหัวเครื่องไปตามพื้นที่ที่ต้องการ ผู้รับการรักษาอาจรู้สึกเหมือนถูกดีดเบา ๆ ด้วยหนังยาง หรือรู้สึกอุ่นเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาการปกติที่เกิดจากพลังงานของแสง IPL สัมผัสกับผิว
6.ทำความสะอาดและบำรุงผิวหลังการรักษา
หลังจากยิงแสง IPL ครบทุกบริเวณ แพทย์จะเช็ดเจลออก ทำความสะอาดผิว และทาครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยลดความร้อนและบรรเทาอาการระคายเคือง พร้อมแนะนำการดูแลผิวภายหลังการทำ เช่น การหลีกเลี่ยงแดดและการใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ IPL เลเซอร์
หลังการทำ IPL (Intense Pulsed Light) ผิวจะอยู่ในภาวะที่ไวต่อแสงและมีการเปลี่ยนแปลงระดับเซลล์จากการได้รับพลังงานแสง จึงจำเป็นต้องดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงของการระคายเคือง และคงผลลัพธ์ให้ยาวนานมากที่สุด การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ โดยแนวทางการดูแลที่ควรทำมีดังนี้
1.ปกป้องผิวจากแสงแดด
หลังทำ IPL ผิวจะไวต่อรังสี UV มากกว่าปกติ ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรงอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ และหากจำเป็นต้องออกกลางแจ้ง ควรสวมหมวกปีกกว้าง กางร่ม และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ทุกวัน รวมถึงควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันผิวไหม้หรือเกิดรอยดำหลังทำ
2.เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างต่อเนื่อง
ภายหลังทำ IPL ผิวอาจรู้สึกแห้งหรือระคายเคืองเล็กน้อย การบำรุงด้วยครีมหรือโลชั่นสูตรอ่อนโยนที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นจะช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น พร้อมลดความรู้สึกตึงหรือแสบหลังทำ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพื่อรักษาความสมดุลของผิวจากภายใน
3.หลีกเลี่ยงการกระตุ้นหรือขัดถูผิวก่อนทำ IPL
ในช่วง 7 วันแรก หลังทำ IPL ไม่ควรขัดผิว สครับ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA, Retinol, Retin-A เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการลอก แสบ หรือไวต่อแสงมากขึ้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวของเราเท่านั้น
4.ประคบเย็นเพื่อลดอาการร้อนผิว
หากรู้สึกแสบร้อนหรือมีรอยแดงหลังทำ IPL สามารถใช้ผ้าชุบน้ำเย็นสะอาดประคบบริเวณนั้นเบา ๆ ครั้งละ 10-15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยลดอาการบวมและอักเสบได้โดยไม่ต้องใช้ยา
5.หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด
ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังทำ IPL ควรงดการอาบน้ำอุ่น แช่น้ำร้อน ซาวน่า อบไอน้ำ หรือทำทรีตเมนต์ที่มีความร้อน เพราะจะทำให้หลอดเลือดขยายตัวและเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบของผิว ควรใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องแทน
6.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
ทั้งแอลกอฮอล์และนิโคตินมีผลต่อการไหลเวียนของเลือดและลดประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว ควรงดอย่างน้อย 2-3 วันหลังทำ IPL เพื่อให้กระบวนการฟื้นตัวของผิวเป็นไปตามกระบวนการของร่างกายและลดโอกาสเกิดรอยแดงหรือการระคายเคือง
7.หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ หรือเกาผิวบริเวณที่ทำ IPL
ในบางรายอาจมีอาการแห้งหรือลอกเล็กน้อย ซึ่งเป็นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามปกติ ไม่ควรแกะหรือเกา เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ ควรรอให้ผิวหลุดลอกเอง
ผลข้างเคียงหลังทำ IPL เลเซอร์
แม้ว่า IPL (Intense Pulsed Light) จะเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เป็นอันตรายและได้รับการยอมรับในทางการแพทย์ แต่เนื่องจาก IPL เป็นการส่งพลังงานแสงเข้าสู่ชั้นผิว จึงอาจมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นได้บ้างหลังการรักษา ซึ่งโดยทั่วไปมักเป็นอาการชั่วคราวและสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน ทั้งนี้ ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของแต่ละบุคคล รวมถึงการดูแลตัวก่อนและหลังทำ IPL
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (ไม่รุนแรงและหายได้เอง)
1.ผิวแดงหรือระคายเคืองเล็กน้อย
เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดหลังทำ IPL โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ชั่วโมงแรก ผิวอาจดูแดงขึ้นคล้ายหลังออกแดด แต่จะค่อย ๆ จางลงภายใน 1-2 วัน สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการร้อนผิวได้
2.รู้สึกแสบร้อนหรืออุ่นผิว
ขณะหรือหลังทำอาจรู้สึกอุ่น ๆ หรือแสบเล็กน้อยในบริเวณที่ได้รับพลังงานแสง อาการนี้เป็นปฏิกิริยาปกติของผิวต่อความร้อน และมักหายไปเองในไม่กี่ชั่วโมง
3.ผิวคล้ำหรือเข้มขึ้นชั่วคราว
ในบางคนผิวอาจดูคล้ำลงหลังทำเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณที่มีเม็ดสีสะสม เช่น ฝ้า กระ หรือรอยดำ ซึ่งเกิดจากเม็ดสีที่ถูกกระตุ้นให้ลอยขึ้นมา หลังจากนั้นจะค่อย ๆ จางลงเมื่อเซลล์ผิวผลัดตัวตามกระบวนการทำงานของร่างกาย
4.ผิวลอกหรือแห้งเล็กน้อย
หลังการทำ IPL ผิวบางส่วนอาจลอกเล็กน้อยในช่วง 3-5 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณของการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ไม่ควรแกะหรือขัดผิวบริเวณนั้น ควรปล่อยให้หลุดออกเองและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย (ควรสังเกตอาการ)
1.มีตุ่มน้ำใสเล็กน้อย
ในบางกรณีที่ผิวไวต่อแสงหรือได้รับพลังงานมากเกินไป อาจเกิดตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ ขึ้นบริเวณที่ทำ ซึ่งมักหายได้เองเมื่อดูแลความสะอาดและหลีกเลี่ยงการเกา หากตุ่มน้ำลามกว้างควรพบแพทย์ทันที
2.รอยช้ำหรือจ้ำเลือดใต้ผิว
อาจเกิดในผู้ที่มีเส้นเลือดฝอยเปราะหรือผิวบอบบาง โดยมักหายภายใน 5-7 วันโดยไม่ทิ้งรอยถาวร
3.การติดเชื้อ (พบได้น้อยมาก)
มักเกิดจากการดูแลหลังทำไม่ถูกวิธี หรือสถานที่ทำไม่สะอาด หากมีอาการแดง บวม เจ็บ หรือมีหนอง ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยทันที
IPL เลเซอร์ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
จำนวนครั้งในการทำ IPL (Intense Pulsed Light) จะแตกต่างกันไปตามปัญหาผิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปต้องทำอย่างต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลชัดเจน เพราะ IPL ทำงานแบบค่อยเป็นค่อยไปในการฟื้นฟูผิวและปรับสมดุลจากภายใน
IPL รักษาสิว
มักต้องทำประมาณ 6 ครั้งขึ้นไป จึงจะเห็นการลดการอักเสบของสิวได้ชัดเจน สิวใหม่เกิดน้อยลง รอยแดงและรอยดำจากสิวค่อย ๆ จางลง พร้อมช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลงและผิวเรียบเนียนขึ้น
IPL หน้าใส
โดยทั่วไปเห็นความเปลี่ยนแปลงได้หลังทำต่อเนื่อง 5-6 ครั้ง ผิวจะดูสว่างใสขึ้น สีผิวสม่ำเสมอ รอยดำ รอยแดง ฝ้า และกระค่อย ๆ ลดลง ควรเว้นระยะระหว่างครั้งประมาณ 2-4 สัปดาห์ ตามคำแนะนำของแพทย์
IPL กำจัดขน
เพื่อให้รากขนถูกทำลายครบในแต่ละรอบการงอก มักต้องทำประมาณ 5-6 ครั้งขึ้นไป ห่างกันทุก 3-4 สัปดาห์ ขนที่ขึ้นใหม่จะบางลงและขึ้นช้าลง ผิวบริเวณนั้นดูเรียบและสว่างขึ้น
9 วิธีกำจัดขน แบบไหนดี ไม่เสี่ยงเกิดขนคุด ผิวเรียบเนียนไร้ขนกวนใจ
ข้อแตกต่างระหว่าง IPL กับเลเซอร์อื่น ๆ
IPL (Intense Pulsed Light) และ เลเซอร์ จะใช้พลังงานแสงในการดูแลผิวเหมือนกัน แต่มีหลักการทำงานและคุณสมบัติที่ต่างกันชัดเจน ดังนี้
ลักษณะของแสง IPL ใช้ “แสงหลายช่วงคลื่น” ในการรักษา จึงสามารถปรับให้เหมาะกับหลายปัญหาผิว เช่น รอยแดง รอยดำ หรือกำจัดขน ส่วนเลเซอร์ทั่วไปเป็น “แสงช่วงคลื่นเดียว” ที่เจาะจงกับปัญหาเฉพาะ เช่น ฝ้า กระ เส้นเลือด หรือหลุมสิว
ความแรงของพลังงาน เลเซอร์มีพลังงานแสงที่เข้มข้นกว่า จึงให้ผลเร็วกว่า แต่ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่า ส่วน IPL มีพลังงานอ่อนโยนกว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวแบบไม่ต้องพักฟื้น
จำนวนครั้งในการทำ IPL มักต้องทำหลายครั้งจึงเห็นผลชัด ส่วนเลเซอร์บางชนิดอาจเห็นผลได้หลังทำเพียงไม่กี่ครั้ง
ความเหมาะสมของผิว IPL เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาวถึงผิวสองสี และต้องการปรับสภาพผิวโดยรวม ส่วนเลเซอร์สามารถเลือกชนิดให้เหมาะกับทุกสีผิวและปัญหาเฉพาะจุดได้มากกว่า
คำถามยอดฮิตของ IPL เลเซอร์
IPL Laser เจ็บไหม
การทำ IPL มักให้ความรู้สึกเพียงเล็กน้อยระหว่างยิงแสง เช่น ความอุ่นหรือเหมือนถูกดีดเบา ๆ ด้วยหนังยาง ซึ่งเป็นอาการปกติและทนได้ แพทย์จะทาเจลเย็นก่อนทำเพื่อลดความร้อนและช่วยให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้น
IPL หน้าใส ควรทำบ่อยแค่ไหน
โดยทั่วไปแนะนำให้ทำทุก 2-4 สัปดาห์ต่อครั้ง และทำต่อเนื่องประมาณ 5-6 ครั้ง เพื่อให้ผิวค่อย ๆ ฟื้นฟู เห็นผลชัดเจนในเรื่องรอยดำ รอยแดง และความเรียบเนียนของผิว หลังจากนั้นสามารถทำเป็นประจำทุก 2-3 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์เอาไว้
IPL Laser ได้ผลถาวรไหม
ผลลัพธ์ของ IPL ไม่ถาวร เพราะผิวสามารถกลับมามีปัญหาเดิมได้จากแสงแดด ฮอร์โมน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม การดูแลผิวอย่างต่อเนื่องและป้องกันแสงแดดอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากขึ้น
สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับ IPL เลเซอร์
IPL (Intense Pulsed Light) เป็นเทคโนโลยีดูแลผิวที่ใช้พลังงานแสงความเข้มข้นหลายช่วงคลื่นในการแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นรอยดำ รอยแดง สิว ฝ้า กระ สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือขนที่ไม่ต้องการ หลักการทำงานของ IPL คือการปล่อยพลังงานแสงลงไปยังผิวในระดับลึก เพื่อจับกับเป้าหมายเฉพาะ เช่น เม็ดสีเมลานิน เส้นเลือดฝอย หรือรากขน แล้วเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นความร้อน เพื่อสลายเม็ดสีส่วนเกิน ลดการอักเสบ และกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่
ด้วยความอ่อนโยนของแสง IPL ทำให้สามารถดูแลผิวได้โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน จึงไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูเรียบเนียนและกระจ่างขึ้น แต่ผลลัพธ์ของการทำ IPL ไม่ได้เกิดขึ้นทันที ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ซึ่งจำนวนครั้งที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาที่เรากังวลใจ
IPL เลเซอร์เป็นเทคโนโลยีที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีและไม่เป็นอันตราย เมื่อทำโดยแพทย์ สามารถตอบโจทย์การดูแลผิวได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งรักษา ฟื้นฟู และปรับสมดุลผิวให้ดูสุขภาพดี
แต่ก่อนเข้ารับบริการ ควรได้รับการประเมินจากแพทย์ เพื่อกำหนดแนวทางการรักษาและจำนวนครั้งที่เหมาะสมกับผิวของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่อันตรายและมีประสิทธิภาพสูงสุด
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ