หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ควรดูแลตัวเองอย่างไร
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม มีมิติ และได้รูปทรงสวยอย่างดูเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดเพียงอย่างเดียว แต่การดูแลตัวเองหลังทำก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการรู้ว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง และควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมแบบไหนในช่วงพักฟื้น
หากดูแลไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ เช่น ปากบวมมาก ฟิลเลอร์เป็นก้อน รูปทรงผิดเพี้ยน หรือเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อ บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อห้าม ข้อควรระวัง วิธีดูแลตัวเอง อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง รวมถึงอาการปกติและอาการผิดปกติที่ควรพบแพทย์ เพื่อช่วยให้ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถฟื้นตัวได้ดี และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ข้อควรรู้
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง เป็นสิ่งที่ควรรู้เพื่อป้องกันอาการบวม ช้ำ ฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือรูปทรงปากผิดรูป โดยสามารถสรุปข้อห้ามสำคัญได้ดังนี้
1.ห้ามจับ บีบ นวด หรือขยี้ปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 5-7 วันแรก แนะนำงดจับ บีบ นวด หรือขยี้ปาก เพราะฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ การกดหรือขยับแรง ๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว เป็นก้อน หรือปากผิดทรงได้
2.ห้ามทาลิปสติกหรือแต่งหน้าบริเวณปากทันที
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก แนะนำทาลิปสติกหรือแต่งหน้าบริเวณปากทันที เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากเครื่องสำอางที่สัมผัสรอยเข็ม
3.ห้ามสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการดูดหลอด
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 3-7 วันแรก แนะนำงดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการดูดหลอด เพราะการสูบหรือดูดหลอดทำให้กล้ามเนื้อปากขยับมาก เสี่ยงต่อฟิลเลอร์เคลื่อน และยังเพิ่มโอกาสอักเสบ
4.ห้ามดื่มแอลกอฮอล์
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24-48 ชั่วโมง แนะนำงดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยาย ส่งผลให้บวมและช้ำมากขึ้น
5.ห้ามรับประทานอาหารรสจัดหรือร้อนจัด
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 2-3 วันแรก แนะนำงดอาหารเผ็ด เค็มจัด หรือร้อนจัด เพราะอาจกระตุ้นอาการบวมและระคายเคือง ควรเลือกอาหารอ่อน ๆ
6.ห้ามออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24-48 ชั่วโมง แนะนำงดเล่นฟิตเนส วิ่งหนัก หรือกิจกรรมที่ใช้แรงมาก เพราะอาจทำให้ปากบวมและช้ำมากขึ้น
7.ห้ามเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรืออยู่ในที่ร้อนจัด
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ แนะนำงดเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรืออยู่ในที่ร้อนจัด เพราะความร้อนสูงส่งผลต่อการคงตัวของฟิลเลอร์
8.ห้ามนอนคว่ำหรือกดทับริมฝีปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 3-5 วันแรก แนะนำงดนอนคว่ำที่กดทับริมฝีปาก ควรนอนหงายและหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณปาก
9.ห้ามจูบหรือใช้ริมฝีปากหนัก ๆ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 3-5 วัน แนะนำงดจูบหรือกิจกรรมที่ใช้ปากมาก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูป
10.ห้ามใช้ยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 1 สัปดาห์ แนะนำงดใช้ยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา หรือสมุนไพรบางชนิด (หากไม่จำเป็น) เพราะอาจทำให้ช้ำมากขึ้น
24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง
24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะฟิลเลอร์ยังไม่คงตัวเต็มที่และยังมีรอยเข็มอยู่ หากเผลอทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ปากบวมมาก ฟิลเลอร์ผิดรูป หรือเกิดการอักเสบได้
1.งดสัมผัสริมฝีปากโดยไม่จำเป็น
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ไม่ควรจับ คลึง บีบ หรือกดริมฝีปากแรง ๆ เพราะแรงกดอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนหรือจับตัวไม่สม่ำเสมอ
2.หลีกเลี่ยงการทาผลิตภัณฑ์บนริมฝีปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ไม่ควรทาลิป ลิปมัน หรือเครื่องสำอางบริเวณปากทันทีหลังฉีด เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากรอยเข็ม
3.งดสูบบุหรี่และการใช้หลอดดูด
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก งดสูบบุหรี่และการใช้หลอดดูด การขยับริมฝีปากซ้ำ ๆ จากการสูบหรือดูด อาจรบกวนตำแหน่งของฟิลเลอร์และทำให้บวมมากขึ้น
4.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เกิดอาการบวมและรอยช้ำชัดขึ้น
5.งดอาหารรสจัดและอาหารที่มีความร้อนสูง
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก งดอาหารเผ็ด เค็ม หรือร้อนจัด อาจทำให้ริมฝีปากระคายเคืองและบวมมากกว่าปกติ
6.งดกิจกรรมที่ใช้แรงหรือออกกำลังกายหนัก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก งดกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นแรงและเลือดสูบฉีด อาจเพิ่มอาการบวมและช้ำบริเวณปาก
7.เลี่ยงความร้อนทุกชนิด
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ไม่ควรเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรืออยู่กลางแดดจัด เพราะความร้อนอาจส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์
8.ไม่นอนในท่าที่กดทับริมฝีปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงที่ปากโดนกดทับ เพื่อไม่ให้รูปทรงฟิลเลอร์เสีย
9.งดจูบหรือใช้ริมฝีปากอย่างรุนแรง
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก งดจูบหรือใช้ริมฝีปากอย่างรุนแรง การใช้ปากมากเกินไปในช่วงแรก อาจทำให้ฟิลเลอร์ไม่เรียบหรือเคลื่อนตำแหน่ง
10.ระวังการใช้ยาและอาหารเสริมบางชนิด
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด หากไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง สัมผัสปากได้ไหม
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง โดยเฉพาะในช่วงแรกหลังฉีด สามารถจับ บีบ นวด ขยี้ปากได้ไหม คำตอบคือ ที่ไม่ควรจับ บีบ นวด หรือขยี้ปาก เพราะฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่และเนื้อเยื่อบริเวณริมฝีปากยังบอบบางจากรอยเข็ม เหตุผลที่ไม่ควรทำมีดังนี้
• ฟิลเลอร์อาจเคลื่อนตำแหน่ง ทำให้รูปทรงปากผิดจากที่ออกแบบไว้
• เสี่ยงเกิดก้อนหรือไม่เรียบ จากการที่ฟิลเลอร์ถูกกดหรือดันไปกระจุกตัว
• เพิ่มการบวมและช้ำ เพราะการกดแรงกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
• เสี่ยงการติดเชื้อ หากมือไม่สะอาดและสัมผัสรอยเข็มโดยตรง
ระยะเวลาที่แนะนำให้หลีกเลี่ยง
• หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างในช่วง 5-7 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการจับ บีบ นวด หรือขยี้ปากทุกกรณี
• หากแพทย์เห็นว่าจำเป็นต้องปรับทรง จะเป็นผู้ประเมินและทำให้เองเท่านั้น ไม่ควรทำด้วยตัวเอง
สรุปหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดการจับ บีบ นวด หรือขยี้ปากจริง เพื่อให้ฟิลเลอร์เซตตัวได้ดี ลดความเสี่ยงการเป็นก้อน ปากผิดรูป และช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยดูเป็นธรรมชาติ หากรู้สึกไม่สบายหรือคลำเจอก้อนผิดปกติ ควรกลับไปให้แพทย์ประเมินแทนการแก้ไขเอง
อาหารหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง
อาหารหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มีผลต่ออาการบวม ช้ำ และการเข้าที่ของฟิลเลอร์ หากเลือกรับประทานอาหารไม่เหมาะสม อาจทำให้ปากบวมมากขึ้นหรือระคายเคืองได้ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้แก่
1.อาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เค็มจัด หรือเปรี้ยวจัด เพราะกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและทำให้ริมฝีปากระคายเคือง ส่งผลให้บวมมากขึ้น
2.อาหารร้อนจัด เช่น ซุปเดือด เครื่องดื่มร้อนจัด หรืออาหารเพิ่งออกจากเตา ความร้อนอาจกระตุ้นอาการบวมและทำให้ปากไม่สบาย
3.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยาย เพิ่มโอกาสบวม ช้ำ และอักเสบ ควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
4.อาหารหมักดองและอาหารเค็มจัด เช่น ของดอง ปลาร้า กิมจิ เพราะโซเดียมสูง ทำให้เกิดการบวมน้ำ และอาจกระตุ้นการอักเสบ
5.อาหารแข็งหรือเคี้ยวยาก เช่น เนื้อเหนียว ขนมแข็ง เพราะต้องออกแรงใช้ริมฝีปากมาก เสี่ยงต่อการรบกวนตำแหน่งฟิลเลอร์
6.อาหารหรือเครื่องดื่มที่ต้องดูด เช่น ชานมไข่มุก น้ำอัดลมใส่หลอด การดูดทำให้กล้ามเนื้อปากขยับบ่อย อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อน
7.อาหารที่อาจก่อการแพ้หรือระคายเคือง เช่น อาหารทะเลในบางราย หากเคยมีประวัติแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงในช่วงแรกเพื่อลดความเสี่ยงอาการบวมผิดปกติ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง แต่งหน้า ทาลิปได้ในกี่วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ห้ามแต่งหน้า ทาลิปสติกกี่วันหลังทำ เป็นคำถามที่พบบ่อย เพราะบริเวณริมฝีปากมีรอยเข็มและเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย คำตอบคือ ควรงดแต่งหน้าและทาลิปสติกอย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรก หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
เหตุผลที่ต้องงดแต่งหน้าหรือทาลิปสติก
• บริเวณปากยังมี รอยเข็มขนาดเล็ก เครื่องสำอางอาจนำเชื้อโรคเข้าสู่ผิว
• การทาลิปต้องมีการถูหรือกดริมฝีปาก ซึ่งอาจ รบกวนตำแหน่งฟิลเลอร์
• ลดความเสี่ยงอาการ อักเสบ บวม แดง หรือเป็นตุ่ม
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้างหลัง 24 ชั่วโมง สามารถทาลิปได้ไหม
• สามารถทาลิปได้ หากไม่มีอาการบวม แดง เจ็บ หรือแผลเปิด
• ควรเลือก ลิปที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง และเป็นของใหม่หรือสะอาด
• หลีกเลี่ยงลิปเนื้อแมตต์ ลิปติดทน หรือการสครับปากไปก่อนประมาณ 3-5 วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง แต่งหน้าบริเวณอื่นได้หรือไม่
• บริเวณใบหน้าอื่นสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
• แต่ควรหลีกเลี่ยงการให้เครื่องสำอางสัมผัสริมฝีปากโดยตรงในวันแรก
สรุปหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดแต่งหน้าและทาลิปอย่างน้อย 1 วัน และค่อยเริ่มใช้เมื่อริมฝีปากไม่มีอาการผิดปกติ เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่สวยและลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง สูบบุหรี่หรือดูดหลอดได้ไหม
คำตอบคือ ควรงดทั้งการสูบบุหรี่และการดูดหลอดในช่วงแรกหลังฉีด เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่สวยและลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน
ทำไมถึงไม่ควรสูบบุหรี่
• การสูบทำให้ริมฝีปาก ขยับซ้ำ ๆ และหดเกร็ง เสี่ยงต่อการที่ฟิลเลอร์เคลื่อนตำแหน่ง
• นิโคตินทำให้ หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้แผลหายช้า เพิ่มความเสี่ยงอักเสบ
• ควันบุหรี่เพิ่มโอกาส ติดเชื้อบริเวณรอยเข็ม
ทำไมถึงไม่ควรดูดหลอด
• การดูดต้องใช้แรงของกล้ามเนื้อปากสูง ทำให้ฟิลเลอร์ เสียทรงหรือไม่เรียบ
• เพิ่มโอกาสบวมและช้ำ โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
สรุปหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดสูบบุหรี่และดูดหลอดจริง เพราะทั้งสองพฤติกรรมส่งผลต่อการเข้าที่ของฟิลเลอร์ เพิ่มความเสี่ยงบวม ช้ำ และทำให้รูปทรงปากไม่สวย หากงดได้ครบตามระยะที่แนะนำอย่างน้อย 3-7 วัน จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและอยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ออกกำลังกายได้ในกี่วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง สามารถออกกำลังกายหรือเข้าซาวน่าได้ในกี่วัน เป็นคำถามสำคัญ เพราะความร้อนและการไหลเวียนเลือดมีผลโดยตรงต่ออาการบวมและการเข้าที่ของฟิลเลอร์
การออกกำลังกาย
• งดออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงแรก เช่น วิ่ง ฟิตเนส เวทเทรนนิ่ง คาร์ดิโอหนัก
• หากเป็นกิจกรรมเบา ๆ เช่น เดินช้า ๆ ทำได้หลัง 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการบวม เจ็บ หรือช้ำมาก
• เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้งดการออกกำลังกายหนัก ประมาณ 3-5 วัน
การเข้าซาวน่า / อบไอน้ำ / แช่น้ำร้อน
• ควรงดอย่างน้อย 5-7 วัน
• ความร้อนสูงทำให้หลอดเลือดขยาย เพิ่มอาการบวม ช้ำ
• อาจส่งผลต่อการคงตัวของฟิลเลอร์ในช่วงที่ยังไม่เข้าที่เต็มที่
สรุปหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ออกกำลังกายหนักควรงด 3-5 วัน ซาวน่า อบไอน้ำ แช่น้ำร้อน ควรงด 5-7 วัน หากมีอาการบวม เจ็บ หรือรู้สึกตึงมาก ควรรอให้อาการดีขึ้นก่อน และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นหลัก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ห้ามนอนท่าไหน
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ห้ามนอนท่าไหน เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม แต่มีผลต่อรูปทรงและการเข้าที่ของฟิลเลอร์โดยตรง โดยท่านอนที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก มีดังนี้
1.ห้ามนอนคว่ำ การนอนคว่ำทำให้ริมฝีปากถูกกดทับโดยตรง เสี่ยงต่อการที่ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว ปากเสียรูป หรือเกิดเป็นก้อนได้
2.หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงที่ปากโดนหมอน แรงกดจากหมอนอาจทำให้ฟิลเลอร์กระจายไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรกที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี
3.ห้ามนอนในท่าที่ปากถูกกดหรือพับ เช่น นอนเอามือ หนุนหมอน หรือผ้าห่มมากดบริเวณปากโดยไม่รู้ตัว เพราะอาจทำให้ทรงปากเปลี่ยน
ท่านอนที่แนะนำ
• นอนหงาย เป็นท่าที่ปลอดภัยที่สุด
• ใช้หมอนรองศีรษะให้สูงเล็กน้อย เพื่อช่วยลดอาการบวม
• พยายามจัดท่านอนให้ศีรษะและใบหน้าไม่ถูกกดทับ
สรุปหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้นอนหงายอย่างน้อย 3-5 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำและนอนตะแคงที่ปากโดนกดทับ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนและปากเสียทรง การนอนหงายพร้อมยกศีรษะเล็กน้อย จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่สวยและลดอาการบวมได้ดี
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ห้ามจูบกี่วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามจูบหรือใช้ริมฝีปากหนัก ๆ กี่วัน เป็นข้อควรระวังที่สำคัญ เพราะริมฝีปากเป็นบริเวณที่ขยับตลอดเวลาและฟิลเลอร์ยังต้องใช้เวลาเข้าที่
• ควรงดการจูบและกิจกรรมที่ต้องใช้ริมฝีปากแรง ๆ อย่างน้อย 3-5 วันแรก
• หากฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มวอลลุ่มมาก หรือเน้นปั้นทรงชัด แนะนำให้งดประมาณ 7 วัน เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง
สรุปหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดจูบและการใช้ริมฝีปากหนัก ๆ อย่างน้อย 3-5 วัน และหากต้องการผลลัพธ์ที่สวยและทรงชัด แนะนำให้งดถึง 7 วัน เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ดีและลดความเสี่ยงปากเสียทรง
ยาหรืออาหารเสริมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ห้ามใช้ยาหรืออาหารเสริมอะไร เป็นสิ่งที่ควรระวัง เพราะยาบางชนิดและอาหารเสริมบางประเภทมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้บวม ช้ำ หรือเลือดออกใต้ผิวมากขึ้น ยาและอาหารเสริมที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้แก่
1.ยาแก้ปวดกลุ่มที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
เช่น แอสไพริน (Aspirin) ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) และไดโคลฟีแนค (Diclofenac) ยากลุ่มนี้เพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำและเลือดออกใต้ผิว ควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง หากไม่จำเป็น
2.ยาละลายลิ่มเลือด (หากแพทย์ไม่ได้สั่ง)
เช่น วาร์ฟาริน หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดทุกครั้ง และไม่ควรหยุดยาเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำ
3.วิตามินและอาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย
เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา กระเทียมสกัด แปะก๊วย โสม ควรงดอย่างน้อย 3-7 วัน หลังฉีด เพื่อลดอาการบวมและช้ำ
4.สมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทราบส่วนผสมชัดเจน
อาหารเสริมบางชนิดอาจมีฤทธิ์คล้ายยาละลายลิ่มเลือด ควรหลีกเลี่ยงในช่วงแรกหลังฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง ถ้าฝ่าฝืนจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าฝ่าฝืนข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะเกิดอะไรขึ้น อาจส่งผลต่อทั้งความสวยงามและความเสี่ยงเกิดอันตราย เพราะช่วงหลังฉีดเป็นระยะที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่เต็มที่ ผลที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไม่ปฏิบัติตามข้อห้าม มีดังนี้
1.ปากบวมและช้ำมากกว่าปกติ
การดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายหนัก หรือโดนความร้อน อาจทำให้หลอดเลือดขยาย ส่งผลให้บวมและช้ำชัดขึ้น หายช้ากว่าปกติ
2.ฟิลเลอร์เคลื่อนหรือปากผิดรูป
การจับ บีบ นวด จูบแรง ๆ หรือใช้ริมฝีปากหนัก อาจทำให้ฟิลเลอร์ไหลหรือกระจายไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้ทรงปากเบี้ยว ไม่เท่ากัน หรือเป็นก้อน
3.ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน แข็ง หรือไม่เรียบ
การกดหรือคลึงปากเองในช่วงแรก อาจทำให้ฟิลเลอร์รวมตัวผิดตำแหน่ง คลำแล้วรู้สึกเป็นไตหรือก้อนแข็ง
4.เสี่ยงการติดเชื้อ
การแต่งหน้า ทาลิป หรือจับปากด้วยมือไม่สะอาด อาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่รอยเข็ม เกิดอาการแดง ร้อน เจ็บ หรือมีหนอง
5.อาการปวด เจ็บ ตึง นานกว่าปกติ
การรบกวนบริเวณที่ฉีดมากเกินไป ทำให้เนื้อเยื่ออักเสบ ส่งผลให้อาการไม่สบายยืดเยื้อ
6.ฟิลเลอร์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร
ความร้อนสูง การสูบบุหรี่ หรือการขยับปากบ่อย อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากอาการแบบไหนปกติ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาการแบบไหนถือว่า “ปกติ” เป็นสิ่งที่ควรรู้ เพื่อไม่ให้กังวลเกินไปในช่วงพักฟื้น โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นได้และจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง โดยอาการปกติที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้แก่
1.ปากบวม ตึง หรือรู้สึกแน่น มักเกิดขึ้นทันทีหลังฉีด ชัดเจนในช่วง 1-3 วันแรก จะค่อย ๆ ยุบลงและเข้าที่ภายในประมาณ 5-7 วัน
2.มีรอยช้ำหรือจ้ำเขียวเล็กน้อย เกิดจากเข็มโดนเส้นเลือดฝอย สีจะเปลี่ยนจากม่วง เขียว เหลือง และจางหายไปเอง ใช้เวลาประมาณ 5-10 วัน
3.เจ็บหรือระบมเล็กน้อยเมื่อสัมผัส เป็นอาการจากรอยเข็มและการขยายตัวของเนื้อเยื่อ มักดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
4.รู้สึกปากไม่เท่ากันในช่วงแรก เกิดจากอาการบวมที่ยังไม่เท่ากันทั้งสองข้าง เมื่อบวมยุบแล้ว ทรงปากจะดูสมดุลมากขึ้น
5.คลำเจอฟิลเลอร์นิ่ม ๆ ใต้ผิว ในช่วงแรกอาจรู้สึกเป็นไตเล็ก ๆ หรือผิวไม่เรียบ มักจะนิ่มและกลืนกับผิวภายใน 1-2 สัปดาห์
6.ริมฝีปากแห้งหรือรู้สึกตึง เป็นผลจากการฉีดและการบวมของผิว สามารถดื่มน้ำมาก ๆ และดูแลตามคำแนะนำแพทย์ได้
สรุปหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาการอย่างบวม ตึง ช้ำเล็กน้อย เจ็บนิดหน่อย หรือรู้สึกปากยังไม่เข้าที่ในช่วงแรก ถือเป็นอาการปกติ และมักหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ หากอาการดีขึ้นตามลำดับก็ไม่ต้องกังวล แต่ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดในช่วงแรก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากอาการแบบไหนควรพบแพทย์ทันที
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาการแบบไหนควรพบแพทย์ทันที เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ เพราะบางอาการอาจบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนที่ไม่ควรรอให้หายเอง โดยอาการอันตรายที่ควรรีบพบแพทย์ทันที ได้แก่
1.ปวดรุนแรงมาก หรือปวดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอาการปวดแบบ ตุบ ๆ แน่น ๆ หรือปวดผิดปกติ ไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง หรือปวดมากจนทนไม่ได้
2.ปากซีด ขาว คล้ำ ม่วง หรือสีผิวเปลี่ยนผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการอุดตันของเส้นเลือด (Vascular Occlusion) เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรักษาโดยเร็ว
3.มีอาการชา หรือสูญเสียความรู้สึกบริเวณริมฝีปาก โดยเฉพาะอาการชาที่ไม่หายหรือแย่ลง อาจเกี่ยวข้องกับการไหลเวียนเลือดหรือเส้นประสาท
4.ปากบวมมาก แข็ง แดง ร้อน และไม่ยุบ อาการบวมควรลดลงตามเวลา หากบวมมากขึ้น ร่วมกับผิวร้อนหรือปวด อาจเป็นสัญญาณการอักเสบหรือติดเชื้อ
5.มีหนอง น้ำเหลือง หรือกลิ่นผิดปกติ บ่งบอกถึง การติดเชื้อ บริเวณที่ฉีด ไม่ควรปล่อยไว้หรือดูแลเอง
6.มีไข้ หนาวสั่น หรืออ่อนเพลียร่วมด้วย เป็นสัญญาณว่าร่างกายอาจมีการติดเชื้อระบบ
7.ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง เจ็บ และขยายขนาด โดยเฉพาะก้อนที่ เจ็บ แดง หรือโตขึ้น อาจต้องให้แพทย์ประเมินและรักษาเพิ่มเติม
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากที่ถูกต้อง จะช่วยลดอาการบวมช้ำ ทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่สวย และลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน โดยสามารถดูแลได้ตามแนวทางต่อไปนี้
1.หลังฉีดฟิลเลอร์ปากประคบเย็นอย่างถูกวิธี
ใช้เจลเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็ง ประคบเบา ๆ รอบริมฝีปาก ครั้งละ 5-10 นาที วันละ 2-3 ครั้ง ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก และหลีกเลี่ยงการกดแรงโดยตรงบนปาก
2.หลังฉีดฟิลเลอร์ปากหลีกเลี่ยงการสัมผัสริมฝีปากโดยไม่จำเป็น
งดจับ บีบ นวด หรือคลึงปากในช่วง 5-7 วันแรก หากต้องทำความสะอาด ควรทำอย่างเบามือและตามคำแนะนำแพทย์
3.หลังฉีดฟิลเลอร์ปากดื่มน้ำให้เพียงพอ
ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นกรดไฮยาลูโรนิกอุ้มน้ำได้ดี ช่วยให้ปากดูอิ่มฟูและฟื้นตัวเร็วขึ้น
4.หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม
เลือกอาหารอ่อน เคี้ยวง่าย อุณหภูมิไม่ร้อนจัด หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด เค็มจัด ของหมักดอง และแอลกอฮอล์ในช่วง 1-3 วันแรก
5.หลังฉีดฟิลเลอร์ปากงดสูบบุหรี่และการดูดหลอด
ควรงดอย่างน้อย 3-7 วัน เพื่อลดการขยับกล้ามเนื้อปากและลดความเสี่ยงการอักเสบ
6.หลังฉีดฟิลเลอร์ปากพักผ่อนให้เพียงพอและจัดท่านอนให้เหมาะสม
ควรนอนหงายและยกศีรษะสูงเล็กน้อย หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงที่ปากโดนกดทับ
7.หลังฉีดฟิลเลอร์ปากงดออกกำลังกายหนักและความร้อน
งดออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง และงดซาวน่า อบไอน้ำ หรือแช่น้ำร้อนประมาณ 5-7 วัน
8.หลังฉีดฟิลเลอร์ปากใช้ยาและอาหารเสริมอย่างระมัดระวัง
หากมีอาการปวดสามารถใช้พาราเซตามอลได้ แต่หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา (หากไม่จำเป็น)
9.หลังฉีดฟิลเลอร์ปากสังเกตอาการผิดปกติ
อาการบวม ตึง หรือช้ำเล็กน้อยถือว่าปกติ หากมีอาการปวดรุนแรง สีปากเปลี่ยน ชา บวมแดงร้อน หรือมีหนอง ควรรีบพบแพทย์ทันที
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฉีดฟิลเลอร์ปาก (FAQ)
Q1 หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ปากจะบวมที่สุดวันไหน
A โดยทั่วไปจะบวมชัดในช่วง 1-2 วันแรก และค่อย ๆ ยุบลงภายใน 5-7 วัน
Q2 หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ปากจะดูแข็งหรือเป็นไตไหม
A ในช่วงแรกอาจคลำเจอเป็นไตนิ่ม ๆ ได้ ซึ่งมักจะค่อย ๆ กลืนกับผิวและนิ่มลงภายใน 1-2 สัปดาห์
Q3 หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก รูปทรงจะเข้าที่จริง ๆ เมื่อไหร่
A รูปทรงปากจะเริ่มเข้าที่ประมาณ 7 วัน และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ในช่วง 2 สัปดาห์
Q4 หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องนัดติดตามผลหรือไม่
A แนะนำให้ติดตามผลตามแพทย์นัด เพื่อประเมินทรงปากและปรับแก้หากจำเป็น
Q5 หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน
A โดยทั่วไปฟิลเลอร์ปากอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์และพฤติกรรมการใช้ริมฝีปาก
Q6 หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถแก้ไขทรงเพิ่มได้ไหม
A สามารถแก้ไขหรือเติมเพิ่มได้หลังฟิลเลอร์เข้าที่แล้ว โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินความเหมาะสม
Q7 หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จะดูไม่ธรรมชาติไหม
A หากใช้ฟิลเลอร์แท้และฉีดโดยแพทย์ ทรงปากจะดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือเป็นก้อน
Q8 หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องหยุดงานหรือพักฟื้นกี่วัน
A ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องหยุดงาน อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วง 1-3 วันแรก
Q9 หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถฉีดซ้ำได้บ่อยแค่ไหน
A ควรรอให้ฟิลเลอร์เดิมเริ่มสลายหรือเข้าที่ก่อน โดยทั่วไปเว้นระยะอย่างน้อย 6 เดือน
Q10 หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก มีโอกาสแพ้หรือไม่
A โอกาสแพ้มีน้อยมาก หากใช้ฟิลเลอร์แท้และได้มาตรฐาน แต่ควรแจ้งประวัติแพ้ยาให้แพทย์ทราบก่อนฉีด
สรุป หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วงหลังฉีดถือเป็นระยะสำคัญที่ฟิลเลอร์กำลังเข้าที่ ข้อห้ามหลัก ๆ ได้แก่ การจับ บีบ นวด หรือขยี้ปาก การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การดูดหลอด การออกกำลังกายหนัก การอยู่ในที่ร้อนจัด รวมถึงการแต่งหน้าหรือทาลิปทันทีหลังฉีด หากฝ่าฝืนอาจทำให้ปากบวม ช้ำ ฟิลเลอร์เคลื่อน เป็นก้อน หรือทรงปากไม่สวยได้
การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เช่น ประคบเย็นอย่างเหมาะสม เลือกรับประทานอาหารอ่อน งดพฤติกรรมเสี่ยง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และพักผ่อนอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน และทำให้ริมฝีปากดูอิ่มสวยดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ หากพบอาการผิดปกติ เช่น ปวดรุนแรง สีปากเปลี่ยน บวมแดงร้อน หรือมีหนอง ควรรีบพบแพทย์ทันที
สรุปแล้ว การรู้และปฏิบัติตามข้อแนะนำว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามอะไรบ้าง อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เห็นผลอยู่ได้นาน และลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ