romrawin

โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี มีรุ่นไหนบ้าง อยู่ได้นานกี่เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี

17

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี มีรุ่นไหนบ้าง อยู่ได้นานกี่เดือน
ปัญหาใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นร่องลึก ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาตอบ หรือผิวดูโทรม เป็นสิ่งที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย หลายคนจึงมองหาวิธีแก้ไขที่เห็นผลในเวลาไม่นาน ไม่ต้องผ่าตัด และพักฟื้นน้อย ซึ่งหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมากก็คือ ฟิลเลอร์ใต้ตา อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจทำ หลายคนมักมีคำถามว่า ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกรุ่นไหน ใช้กี่ซีซี และอยู่ได้นานแค่ไหน

บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา ตั้งแต่ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ช่วยอะไรบ้าง เหมาะกับใคร วิธีเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี และรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม รวมถึงคำถามที่พบบ่อย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงและได้ผลลัพธ์ที่ดี

ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) เข้าไปบริเวณร่องลึกใต้ตา เพื่อเพิ่มความอิ่มฟู เติม Volume และปรับความเรียบเนียนให้ผิวใต้ตากลับมาดูสดใสขึ้น ฟิลเลอร์ชนิดนี้ถูกออกแบบให้มีเนื้อเจล เนียน ละเอียด อ่อนโยน เหมาะกับผิวบริเวณใต้ตา ทำให้หลังฉีดใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น ลดความโทรมและช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำที่เกิดจากโครงสร้างผิวบางหรือมีร่องลึกเด่นชัด

ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการยอดนิยม เพราะช่วยแก้ปัญหารอบดวงตาได้หลายอย่าง เห็นผลในเวลาไม่นาน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน โดยประโยชน์หลัก ๆ ของฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้

1.ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา
ฟิลเลอร์ช่วยเติมวอลุ่มในบริเวณที่ยุบตัวหรือเป็นร่องลึก ทำให้ใต้ตาดูเต็มขึ้น ลดความโทรม ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น

2.ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยลดความหมองคล้ำ ใต้ตาดำ
แม้ฟิลเลอร์จะไม่ได้ช่วยลดเม็ดสีเข้มโดยตรง แต่การเติมเต็มชั้นผิวช่วยลดเงาใต้ตา ทำให้ใต้ตาดูสว่างขึ้น ดำคล้ำน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

3.ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยให้ถุงใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น
ในกรณีถุงใต้ตาไม่ใหญ่มาก การฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องใต้ถุงตาจะช่วยปรับผิวให้เรียบขึ้น ลดความแตกต่างระดับผิว ทำให้ถุงใต้ตาดูไม่เด่น

4.ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยทำให้ใบหน้าดูสดใส ไม่เหนื่อยล้า
เมื่อใต้ตาดูเต็ม เรียบเนียน และสว่างขึ้น ภาพรวมของใบหน้าจะดูพักผ่อนเพียงพอ สดใส ไม่ดูอ่อนล้าเหมือนคนอดนอน

5.ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวใต้ตา
ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่เป็นสารไฮยาลูรอนิก (HA) ที่ช่วยกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวใต้ตาดูอิ่มฟู ชุ่มชื้น ลดความแห้งและริ้วรอยเล็ก ๆ

6.ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยให้การแต่งหน้าดูเรียบเนียนขึ้น
เมื่อไม่มีร่องลึกหรือผิวไม่เรียบเนียน คอนซีลเลอร์จะไม่ตกร่อง แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ใต้ตาดูเนียนสวยและดูเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่อยากแก้ปัญหาใต้ตาให้ดูสดใสขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด สำหรับใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้

1.ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีร่องลึกใต้ตา ใต้ตาตอบ
คนที่มีใต้ตายุบ ร่องลึกชัดจากโครงสร้างกระดูกหรืออายุที่เพิ่มขึ้น ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มให้ใต้ตาดูอิ่มขึ้น ใบหน้าดูไม่โทรม

2.ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ใต้ตาคล้ำจากเงา ไม่ใช่เม็ดสีล้วน
ใต้ตาดำที่เกิดจากเงาของร่องลึกหรือผิวบาง เมื่อเติมฟิลเลอร์แล้วจะช่วยลดเงา ทำให้ใต้ตาดูสว่างขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ

3.ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีถุงใต้ตาเล็กน้อย
ในกรณีถุงใต้ตาไม่ใหญ่มาก ฟิลเลอร์สามารถฉีดบริเวณร่องใต้ถุงตาเพื่อปรับผิวให้เรียบเนียน ลดความเด่นของถุงใต้ตา

4.ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีผิวใต้ตาแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
ฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิก (HA) ช่วยกักเก็บน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวใต้ตาดูอิ่มฟูและเรียบเนียนขึ้น

5.ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่อยากเห็นผลในเวลาไม่นาน
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน และต้องการเห็นผลลัพธ์ในเวลาไม่นาน

6.ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น
เมื่อใต้ตาดูเต็มและเรียบเนียนขึ้น ภาพรวมของใบหน้าจะดูอ่อนวัย สดใส และไม่ดูเหนื่อยล้า

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เลือกอย่างไร
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหนึ่งในหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้ ไม่ว่าจะเป็นร่องลึก ใต้ตาคล้ำ หรือผิวใต้ตาดูโทรม แต่สิ่งที่หลายคนสงสัยคือ ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกอย่างไร เพราะบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่ผิวบางและบอบบางมาก หากเลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน บวม หรือดูไม่เป็นธรรมชาติได้ ดังนั้นวิธีเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง ควรเลือกจากปัจจัยต่อไปนี้

1.ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เลือกฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA)
ฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะสมควรเป็น HA (Hyaluronic Acid) เท่านั้น เพราะสลายได้เองตามธรรมชาติ มีความเสี่ยงน้อย หากเกิดปัญหาสามารถฉีดสลายได้ ฟิลเลอร์ชนิดอื่นหรือสารเหลวถาวรไม่เหมาะกับการฉีดใต้ตา

2.ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เลือกเนื้อฟิลเลอร์ละเอียด นิ่ม และกระจายตัวดี
ผิวใต้ตามีความบางมาก ฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ควรมีเนื้อละเอียด นิ่ม ไม่แข็ง ไม่จับตัวเป็นก้อน กลืนกับผิวได้ดี ฟิลเลอร์เนื้อแข็งหรืออุ้มน้ำมากเกินไป อาจทำให้ใต้ตาบวมและเป็นคลื่นได้

3.ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เลือกยี่ห้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน
ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ดีควรเป็นยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย มีมาตรฐานการผลิตระดับสากล มีเลข Lot ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ โดยยี่ห้อที่นิยมในปัจจุบัน เช่น Restylane, Juvederm, Neuramis, Belotero

4.ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เลือกรุ่นให้เหมาะกับปัญหาใต้ตา
แม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกัน แต่แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน

• ร่องตาตื้น ผิวบาง ใต้ตาคล้ำจากเงา ควรเลือกฟิลเลอร์เนื้อนิ่มมาก เช่น Volbella, Belotero Soft
• ร่องใต้ตาปานกลาง เลือกรุ่นที่ยืดหยุ่น คุมทรงดี เช่น Restylane Refyne
• ใต้ตาแห้ง ต้องการความชุ่มชื้น เลือกรุ่นเน้นบำรุงผิว เช่น Juvederm Volite, Restylane Vital

การเลือกรุ่นที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่สวยแม้ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อดัง

5.ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ไม่ควรเลือกจากราคาเพียงอย่างเดียว
ราคาฟิลเลอร์ใต้ตาที่ถูกมากเกินไป อาจมีความเสี่ยง เช่น ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ปลอม ใช้รุ่นที่ไม่เหมาะกับใต้ตา การเลือกฟิลเลอร์ควรดูที่คุณภาพ ความเหมาะสม และความเสี่ยงน้อยเป็นหลัก

6.ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เลือกแพทย์และคลินิกได้มาตรฐาน
แม้จะเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อดี แต่หากฉีดกับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์จะเสี่ยงเกิดอันตรายมาก เพราะแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานจะประเมินปัญหาใต้ตาได้ตรงจุด เลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ได้เหมาะสม ใช้เทคนิคการฉีดที่ลดความเสี่ยง

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี มีรุ่นอะไรบ้าง
ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ดีควรเลือกยี่ห้อที่เนื้อเจลนิ่ม ละเอียด กระจายตัวดี เพื่อลดความเสี่ยงบวมหรือก้อนในบริเวณผิวบางอย่างใต้ตา สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตายอดนิยมในไทย มีดังนี้

1.Restylane (สวีเดน)
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดนที่ได้รับความนิยมทั่วโลก จุดเด่นคือ โครงสร้างฟิลเลอร์แข็งแรง ควบคุมรูปทรงได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ดูเรียบเนียน ไม่ไหล ไม่ย้อยง่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ดูเรียบเนียน ใต้ตาไม่เป็นคลื่น และคงรูปได้ดี

รุ่น Restylane ที่นิยมใช้ฉีดใต้ตา
• Restylane Vital / Vital Light เป็นรุ่นที่เน้นการฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่มีผิวใต้ตาแห้ง ใต้ตาคล้ำ ผิวบาง และมีริ้วรอยเล็ก ๆ
• Restylane Refyne มีความยืดหยุ่นสูง เคลื่อนไหวตามใบหน้าได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีร่องใต้ตาไม่ลึกมาก ต้องการผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
• Restylane Defyne ใช้ในกรณีที่ร่องลึกค่อนข้างชัด ต้องอาศัยเทคนิคของแพทย์ในการฉีด

2.Juvederm (อเมริกา)
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา มีจุดเด่นเรื่องเนื้อฟิลเลอร์เนียนละเอียดและอุ้มน้ำดี ทำให้ใต้ตาดูชุ่มชื้น สุขภาพดี และดูอ่อนเยาว์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ใต้ตาดูสดใส ฉ่ำวาว ผิวดูอิ่มน้ำ

รุ่น Juvederm ที่นิยมใช้ฉีดใต้ตา
• Juvederm Volbella เป็นรุ่นยอดนิยมสำหรับใต้ตาโดยเฉพาะ เนื้อนิ่มมาก เหมาะกับผิวบาง ร่องตื้น ใต้ตาคล้ำจากเงา ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติสูง
• Juvederm Volite เน้นการบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยให้ใต้ตาดูใส ลดริ้วรอยเล็ก ๆ

3.Neuramis (เกาหลี)
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Neuramis เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการ ฟิลเลอร์คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย ผลิตด้วยเทคโนโลยี SHAPE™ Technology ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียน เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟิลเลอร์ใต้ตาที่มีมาตรฐานในงบประมาณที่คุ้มค่า

รุ่น Neuramis ที่นิยมใช้ฉีดใต้ตา
• Neuramis Deep (กล่องดำ) เป็นฟิลเลอร์เนื้อปานกลาง เติมร่องลึกใต้ตา อยู่ 6-8 เดือน ไม่มียาชา
• Neuramis Deep Lidocaine เป็นฟิลเลอร์ที่เพิ่มยาชา ลดเจ็บ เหมาะแก้มตอบ-ใต้ตา อยู่ 6-8 เดือน
• Neuramis Volume Lidocaine เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น คงรูป รองรับวอลลุ่มใหญ่ใต้ตา อยู่ 6-9 เดือน

4.Belotero (สวิตเซอร์แลนด์)
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Belotero เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ที่โดดเด่นเรื่อง การกลืนกับผิวได้ดีมาก ลดโอกาสเกิดฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือเป็นคลื่น จึงเหมาะกับบริเวณใต้ตาอย่างมาก และเหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องฟิลเลอร์เป็นก้อน ใต้ตาเป็นคลื่น หรือเคยมีปัญหาจากการฉีดมาก่อน

รุ่น Belotero ที่นิยมใช้ฉีดใต้ตา
• Belotero Balance เนื้อละเอียดสูง กระจายตัวสม่ำเสมอ เหมาะกับงานใต้ตาโดยเฉพาะ
• Belotero Soft สำหรับผู้ที่มีผิวบางมาก ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด

ฟิลเลอร์ใต้ตา ควรฉีดกี่ซีซี
คำถามเรื่อง “ฟิลเลอร์ใต้ตาควรฉีดกี่ซีซี” เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยก่อนตัดสินใจทำ เพราะบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่ผิวบางและบอบบางมาก การฉีดมากหรือน้อยเกินไป ล้วนส่งผลต่อความสวยงามและผลข้างเคียง

โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ประมาณ 0.5 - 1 ซีซี ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการเติมร่องใต้ตาให้ดูเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ
• ข้างละประมาณ 0.25 - 0.5 ซีซี
• รวมสองข้างไม่เกิน 1 ซีซีในเคสส่วนใหญ่

แพทย์มักเน้นฉีดทีละน้อยและประเมินผลขณะทำ เพื่อป้องกันการฉีดเกินความจำเป็น

ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันถึงเห็นผล
คำถามนี้เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะหลายคนอยากรู้ว่า ทำแล้วเห็นผลเมื่อไหร่ และต้องรอกี่วันถึงเข้าที่ โดยระยะเวลาเห็นผลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้

• เห็นผลในเวลาไม่นานหลังฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาไม่นาน ร่องใต้ตาดูตื้นขึ้น ใต้ตาดูเต็มขึ้น ไม่โทรมใบหน้าดูสดใสขึ้นหลังทำ อย่างไรก็ตาม ช่วงแรกอาจยังมีอาการบวมเล็กน้อย ทำให้ผลลัพธ์ยังไม่เข้าที่สมบูรณ์

• ระยะเวลาเข้าที่ประมาณ 7-14 วัน
ฟิลเลอร์ใต้ตาจะค่อย ๆ เซ็ตตัวและเข้าที่เต็มที่ในช่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาการบวมจะค่อย ๆ ยุบ ฟิลเลอร์จะกระจายตัวกลืนกับผิว ใต้ตาจะดูเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน
โดยเฉลี่ย ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานประมาณ 9-18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดฟิลเลอร์ รุ่นที่ใช้ ปริมาณที่ฉีด และการดูแลหลังทำ
• ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
• ฟิลเลอร์เนื้อแน่นขึ้นเล็กน้อย อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาของฟิลเลอร์ใต้ตา
1.ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นมีโครงสร้างโมเลกุลต่างกัน ทำให้ระยะเวลาการสลายไม่เท่ากัน

2.ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด
การฉีดในปริมาณที่พอดีจะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ หากฉีดน้อยเกินไป อาจสลายเร็วกว่าปกติ หากฉีดมากเกินไป เสี่ยงบวมและเป็นก้อน

3.สภาพผิวและการเผาผลาญของแต่ละคน
คนที่มีระบบเผาผลาญสูง ออกกำลังกายหนักบ่อย ฟิลเลอร์อาจสลายเร็ว ส่วนผู้ที่ผิวแห้งหรือผิวบางมาก อาจต้องเติมเร็วกว่าปกติ

4.เทคนิคการฉีดของแพทย์
แพทย์ที่ฉีดในชั้นผิวที่เหมาะสม จะช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวดี อยู่ได้นาน และลดการสลายเร็วผิดปกติ

5.การดูแลตัวเองหลังฉีด
พฤติกรรมหลังฉีดมีผลอย่างมากต่ออายุของฟิลเลอร์ เช่น หลีกเลี่ยงความร้อนจัด (ซาวน่า เลเซอร์) งดนวดหรือกดใต้ตาแรง ๆ ดื่มน้ำเพียงพอ พักผ่อนให้เหมาะสม

ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ช่วยให้ใต้ตาดูสดใส ลดร่องลึกและความหมองคล้ำได้ แต่เนื่องจากบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่ผิวบอบบางมาก ก่อนตัดสินใจทำ จึงควรรู้ข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง

1.ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะแก้ได้ทุกปัญหา
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับร่องลึก ใต้ตาตอบ ใต้ตาคล้ำจากเงา ผิวใต้ตาแห้ง ขาดความชุ่มชื้น แต่ไม่เหมาะกับถุงไขมันใต้ตาขนาดใหญ่มาก ใต้ตาดำจากเม็ดสีเข้มล้วน ผิวใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ในบางกรณีอาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น เลเซอร์ หรือการผ่าตัดถุงใต้ตา

2.ใช้ฟิลเลอร์แท้ ประเภท Hyaluronic Acid (HA)
ฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะกับการฉีดใต้ตาควรเป็นฟิลเลอร์ HA ที่สลายได้ ผ่านการรับรองมาตรฐาน ก่อนฉีดควรเปิดกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า ไม่ควรฉีดสารเติมเต็มถาวรหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะหากเกิดปัญหาจะไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย

3.ยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับใต้ตา
ใต้ตาควรใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ละเอียด ไม่อุ้มน้ำมากเกินไป กระจายตัวดี ไม่เป็นก้อน แม้จะเป็นยี่ห้อดัง แต่หากเลือกรุ่นไม่เหมาะ ก็อาจทำให้ใต้ตาบวม หรือเป็นคลื่นได้

4.ปริมาณฟิลเลอร์ต้องพอดีกับบริเวณใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ปริมาณน้อยมาก โดยเฉลี่ย 0.5 - 1 ซีซี ข้างละประมาณ 0.25 - 0.5 ซีซี การฉีดมากเกินไปเสี่ยงใต้ตาบวม ฟิลเลอร์เป็นก้อน ดูไม่เป็นธรรมชาติ

5.เทคนิคการฉีดของแพทย์มีผลต่อผลลัพธ์
บริเวณใต้ตามีเส้นเลือดสำคัญจำนวนมาก แพทย์ในคลินิกได้มาตรฐานจะประเมินปัญหาได้ตรงจุด เลือกชั้นผิวและเทคนิคที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง จึงไม่ควรเลือกฉีดจากราคาถูกเพียงอย่างเดียว

6.ต้องเข้าใจผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
หลังฉีดอาจมีผลข้างเคียงที่พบได้ เช่น บวมเล็กน้อย 2-5 วัน ช้ำเล็กน้อย ตึงใต้ตาในช่วงแรก อาการเหล่านี้มักหายได้เอง หากมีอาการปวดมาก ผิวซีดหรือคล้ำผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที

7.ต้องดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างเคร่งครัด
เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เช่น งดนวด กด หรือคลึงใต้ตา
หลีกเลี่ยงความร้อนและเลเซอร์ งดแอลกอฮอล์ 24-48 ชม.ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ

8.ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ถาวร ต้องมีการเติมซ้ำ
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ประมาณ 9-18 เดือน เมื่อเริ่มสลาย ใต้ตาอาจกลับมาเป็นร่องอีก สามารถเติมซ้ำได้ตามคำแนะนำแพทย์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี
Q1 ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เหมาะกับผิวบาง
A ใต้ตาเป็นบริเวณที่ผิวบางมาก ควรเลือกฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและละเอียด เช่น
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Juvederm Volbella
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Belotero Soft / Belotero Balance

ฟิลเลอร์กลุ่มนี้กระจายตัวดี ลดโอกาสเป็นก้อนหรือเป็นคลื่น และให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

Q2 ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยลดใต้ตาคล้ำได้
A หากใต้ตาคล้ำเกิดจากเงาของร่องลึก ไม่ใช่เม็ดสีเข้ม ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มผิว ลดเงา และทำให้ใต้ตาดูสว่างขึ้นช่วยได้ดี โดยรุ่นที่นิยม ได้แก่
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Juvederm Volbella
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Juvederm Volite
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Restylane Vital / Vital Light

Q3 ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ที่เสี่ยงเป็นก้อนน้อย
A ฟิลเลอร์ที่กลืนกับผิวดี ลดโอกาสเป็นก้อน เช่น
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Belotero Balance
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Restylane Refyne
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Juvederm Volbella

ทั้งนี้ ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับเทคนิคแพทย์ร่วมด้วย

Q4 ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เหมาะสำหรับร่องลึกมาก
A ร่องใต้ตาลึก ควรใช้ฟิลเลอร์ที่คุมรูปทรงได้ดี เช่น
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Restylane Refyne
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Restylane Defyne (เฉพาะบางเคส)

และมักแนะนำให้แบ่งฉีดเป็นหลายครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง

Q5 ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ราคาคุ้มค่า
A หากมองหาฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ที่คุณภาพดีและราคาจับต้องได้ แนะนำอย่างเช่นยี่ห้อ Neuramis เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม สำหรับผู้ที่เริ่มต้นฉีดฟิลเลอร์

Q6 ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี อยู่ได้นานที่สุด
A โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานประมาณ 9-18 เดือน ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แนะนำรุ่นที่เนื้อแน่นขึ้นเล็กน้อย เช่น Restylane Refyne มักอยู่ได้นานกว่ารุ่นเนื้อนิ่มมาก แต่การอยู่ได้นานขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย

Q7 ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแพง กับ ราคาถูก ต่างกันมากไหม
A หากมองหาฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี โดยเปรียบเทียบระหว่างราคาแพงกับถูก ยี่ห้อที่ราคาสูงกว่ามักมีงานวิจัยรองรับและคุณภาพสูง ส่วนยี่ห้อที่ราคาย่อมเยากว่าก็สามารถใช้ได้ หากเป็นของแท้ เลือกรุ่นเหมาะกับใต้ตา และฉีดโดยแพทย์ในคลินิกได้มาตรฐาน

Q8 ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เลือกเองได้ไหม
A การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ไม่แนะนำให้เลือกเองทั้งหมด ควรให้แพทย์ประเมินปัญหาใต้ตา สภาพผิว และโครงหน้า เพื่อเลือกยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะสมที่สุด

Q9 ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อควรฉีดกี่ซีซี
A ไม่ว่าจะเลือก ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี โดยทั่วไปใช้ประมาณ 0.5 - 1 ซีซี ข้างละประมาณ 0.25 - 0.5 ซีซี ปริมาณขึ้นอยู่กับความลึกของร่องและสภาพผิว

Q10 ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี มีความเสี่ยงน้อย
A ก่อนเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ต้องคำนึงถึงฟิลเลอร์ที่มีความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงน้อย โดยควรเป็นฟิลเลอร์ HA แท้ ผ่านมาตรฐาน เปิดกล่องใหม่ให้ดู ฉีดโดยแพทย์ ซึ่งยี่ห้อที่นิยมและมีมาตรฐาน เช่น Restylane, Juvederm, Neuramis, Belotero

สรุปเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี
ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้ เห็นผลในเวลาไม่นาน และไม่ต้องผ่าตัด แต่หัวใจสำคัญของผลลัพธ์ที่ดีและความเสี่ยงน้อย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำว่า ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาร่วมกันหลายปัจจัย ทั้งสภาพผิวใต้ตา ความลึกของร่อง ปริมาณที่ใช้ รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม การประเมินและเทคนิคของแพทย์ผู้ฉีด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาบวม ฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือดูไม่เป็นธรรมชาติ

หากคุณกำลังตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แนะนำให้เข้ารับการปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อเลือกวิธีการและฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวย ดูเป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงในระยะยาว

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
โปรโมชั่นต่างๆ
เรื่อง โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่คุณอาจสนใจ