romrawin

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ทาลิปได้หรือไม่ ต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

12

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ทาลิปได้หรือไม่ ต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เราต้องดูแลตัวเองให้ถูกวิธี เพื่อลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ และทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปากได้ผลลัพธ์ตรงตามที่เราต้องการ

บทความนี้จะมาแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร เพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานมากขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงสุด

รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวมเกิดจากอะไร
- ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากทันที
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 3 - 48 ชั่วโมง
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 3 - 14 วัน
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 เดือน
- สิ่งที่ห้ามทำหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปากห้ามกินอะไรบ้าง
- ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปากทาลิปได้หรือไม่
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปากห้ามใช้หลอดจริงหรือไม่
- สักสีปาก หลังฉีดฟิลเลอร์ปากได้หรือไม่
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวมเกิดจากอะไร
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หลายคนมักกังวลเมื่อเห็นว่าปากบวม ตึง หรือดูใหญ่กว่าที่คิดไว้ แต่ในความเป็นจริง อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปากถือเป็นเรื่องปกติ ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เนื่องจากริมฝีปากเป็นบริเวณที่ผิวบาง มีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก และมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา

สาเหตุหลักของอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้แก่
• การตอบสนองของร่างกายต่อเข็มและตัวยาฟิลเลอร์
• ฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ทำให้เกิดอาการบวมช่วงแรก
• เส้นเลือดฝอยถูกกระทบ ทำให้เกิดอาการบวมช้ำเล็กน้อย

โดยทั่วไป อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 4-5 วัน และทรงปากจะเริ่มดูละมุนมากขึ้น หากดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเข้าที่เร็ว ลดโอกาสเกิดปัญหาตามมาได้

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน คืออะไร
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่ถือเป็นหนึ่งในอาการข้างเคียงที่สามารถพบได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีปัจจัยบางอย่างไม่เหมาะสมระหว่างการฉีด

ลักษณะอาการที่มักพบหลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน ได้แก่
• คลำแล้วรู้สึกมีก้อนนูนหรือไตบริเวณริมฝีปากหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• รูปทรงปากไม่เรียบเนียน ดูไม่สม่ำเสมอหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• ปากดูแข็ง หรือบวมผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• มีอาการเจ็บ ระคายเคือง หรือไม่สบายเมื่อสัมผัสหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• มองเห็นก้อนชัดเจน โดยเฉพาะเวลายิ้มหรือเม้มปาก หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หรือค่อย ๆ แสดงออกภายในไม่กี่วันหลังทำ ทั้งนี้ระดับความรุนแรงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

สาเหตุของหลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน
ตามหลักการแพทย์ หากหลังฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างถูกต้อง ช่วงแรกอาจมีอาการบวมเล็กน้อย และจะเข้าที่ชัดเจนในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ แต่หากผ่านช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว ยังพบว่าปากเป็นก้อน แข็ง หรือดูไม่เรียบเนียน อาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้

1.แพทย์ขาดประสบการณ์หรือความชำนาญ
ริมฝีปากเป็นบริเวณที่ต้องใช้ทักษะสูง แพทย์จำเป็นต้องเข้าใจโครงสร้างเส้นเลือด ชั้นผิว และการเคลื่อนไหวของปากอย่างละเอียด หากประเมินจุดฉีดหรือปริมาณผิดพลาด อาจทำให้ฟิลเลอร์กระจุกตัวเป็นก้อนได้

2.เลือกเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับริมฝีปาก
ปากเป็นจุดที่มีการขยับตลอดเวลา จึงควรใช้ฟิลเลอร์ที่ เนื้อนิ่ม เนื้อละเอียด และมีความยืดหยุ่นสูง หากใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งหรือแน่นเกินไป จะทำให้ฟิลเลอร์ไม่กลืนกับผิว เกิดเป็นก้อน และดูแข็งตึง

3.เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง
การฉีดตื้นหรือลึกเกินไป รวมถึงการฉีดในปริมาณมากเกินความจำเป็น อาจทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวไม่ดี และจับตัวเป็นก้อนนูนใต้ผิวได้

4.ใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน
ถือเป็นสาเหตุที่อันตรายที่สุด ฟิลเลอร์ปลอมหรือสารเติมเต็มที่ไม่สามารถสลายได้เอง อาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ ปากผิดรูป หรือเนื้อตายได้ในระยะยาว

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากส่วนใหญ่ จะมีอาการชั่วคราวที่พบได้เป็นปกติ เช่น บวม ตึง และมีรอยช้ำจากเข็ม โดยอาการเหล่านี้มักค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายในไม่กี่วันหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หากใช้ ฟิลเลอร์แท้ชนิดไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) และฉีดโดย แพทย์ โดยทั่วไปความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่รุนแรงจะต่ำมาก

อาการที่มักพบได้และไม่อันตรายหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• บวม ตึง ช่วง 1-5 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• รอยเขียวช้ำ รอยแดง บริเวณรอยเข็ม มักจางในประมาณ 5-7 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• คลำเจอไตเล็ก ๆ หรือผิวดูไม่เรียบชั่วคราวในช่วงแรก ซึ่งมักนิ่มลงและเข้าที่เมื่อเวลาผ่านไป

อาการที่ไม่พึงประสงค์ และควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หากหลังฉีดฟิลเลอร์ปากมีอาการเหล่านี้ ควรติดต่อคลินิกหรือแพทย์เพื่อประเมินทันที เพราะอาจไม่ใช่แค่บวมปกติ
• หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว ฟิลเลอร์ไหล/ทรงปากผิดรูปชัดเจน (ดูไม่เข้าที่หรือผิดทรงมาก)
• หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว เกิดการอักเสบ เช่น แดงร้อน ปวดมาก บวมมากขึ้นเรื่อย ๆ
• หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วแพ้ เช่น คัน ผื่น บวมผิดปกติ หรือบวมอยู่นานเกินควร
• หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน แข็ง เจ็บ หรือมีความผิดปกติที่ไม่ดีขึ้นหลังผ่านช่วง 1-2 สัปดาห์

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่
• เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ช่วยเพิ่มวอลลุ่มและปรับทรงปาก ทำให้รูปปากดูอิ่มขึ้นตั้งแต่วันแรก
• ช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปากอาจมีอาการ “บวม” หรือ “ตึง” ร่วมด้วย ทำให้บางคนรู้สึกว่าปากดูใหญ่กว่าที่คิดไว้ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันเข้าที่
• โดยทั่วไป อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงในช่วง 2 - 3 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก และรูปปากจะเริ่มดูเป็นทรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
• ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปากมักเห็นชัดและเข้าที่มากขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะเป็นช่วงที่อาการบวมยุบลง และฟิลเลอร์ค่อย ๆ เซตตัวเข้ากับเนื้อเยื่อ (ระยะเวลาจริงอาจต่างกันตามสภาพร่างกาย เทคนิคที่ใช้ ปริมาณฟิลเลอร์ และการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก)

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากทันที
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จใหม่ ๆ ร่างกายอาจมีการตอบสนองตามปกติ เช่น บวม แดง ช้ำเล็กน้อย รู้สึกตึง หรือคัน บางรายอาจมีความไวต่อการสัมผัสบริเวณปากมากขึ้น อาการเหล่านี้มักค่อย ๆ ดีขึ้นได้เองในช่วงแรก ทั้งนี้ระยะเวลาฟื้นตัวอาจแตกต่างกันในแต่ละคน

ช่วง 24 ชั่วโมงแรก ควรทำอะไร และหลีกเลี่ยงอะไรหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• หลีกเลี่ยงการจับ ลูบ คลึง กดนวด หรือขยี้ปากแรง ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะอาจทำให้บวมช้ำ และรบกวนการเซตตัวของฟิลเลอร์
• งดพฤติกรรมที่ทำให้ปากระคายเคืองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เช่น กัดริมฝีปาก ดูดหลอดแรง ๆ หรือทาลิปด้วยการถูไปมาแรง ๆ
• หากมีอาการบวมมากหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถ ประคบเย็นแบบอ่อน ๆ (ห่อผ้าก่อน ไม่วางน้ำแข็งสัมผัสผิวโดยตรง) ครั้งละสั้น ๆ เพื่อช่วยลดอาการบวมได้

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 48 ชั่วโมง
ช่วง 1-2 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังตอบสนองต่อเข็มและกระบวนการทำงานของร่างกาย หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจึงควรเน้น ลดการระคายเคือง และ หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นบวม เพื่อให้ทรงปากค่อย ๆ เข้าที่ (ทั้งนี้อาการและระยะเวลาฟื้นตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจแตกต่างกันในแต่ละคน)

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 - 3 ชั่วโมง
• หลีกเลี่ยงการประคบเย็นด้วยตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หากไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เพราะการกดหรือวางเจลเย็นผิดตำแหน่งหรือแรงเกินไป อาจทำให้เกิดการระคายเคือง และรบกวนบริเวณที่เพิ่งทำหัตถการได้
• ถ้าจำเป็นต้องทำความสะอาดหน้าหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้ทำแบบเบามือ ใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน และ หลีกเลี่ยงการถูหรือกดบริเวณปาก หรือรูเข็ม
• งดให้บริเวณรูเข็มโดนน้ำนาน ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ปากหากเลี่ยงได้ให้เลี่ยงไปก่อนในช่วงแรก เพื่อช่วยลดโอกาสการระคายเคืองและการปนเปื้อน

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากประมาณ 3-6 ชั่วโมง
• เมื่อความรู้สึกชาหรืออาการตึงเริ่มลดลงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก บางคนจะเริ่มรับรู้ “บวม” ได้ชัดขึ้นเล็กน้อย
• หากแพทย์อนุญาตให้ประคบเย็น สามารถทำได้แบบ แตะเบา ๆ หรือประคบสั้น ๆ โดยห่อผ้าก่อนทุกครั้ง และ ห้ามกดแรงหรือคลึงนวด

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 24 ชั่วโมง
• หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 24 ชั่วโมงเป็นช่วงที่อาการบวมและรอยช้ำจากเข็มอาจ เด่นขึ้น ได้ ซึ่งพบได้ในหลายเคส ไม่ได้หมายความว่าผิดปกติเสมอไป
• สิ่งสำคัญคือหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อย่าจับ บีบ นวดทรงปากเอง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก เพราะอาจทำให้บวมเพิ่ม
• อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลง

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 48 ชั่วโมง
• หลังฉีดฟิลเลอร์ปากครบ 48 ชั่วโมง ควรเลี่ยงความร้อนและสิ่งกระตุ้นการบวม เช่น ออกกำลังกายหนัก ซาวน่า อาบน้ำร้อนจัด ตากแดดนาน ๆ หรือดื่มแอลกอฮอล์
• หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแนะนำให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สบาย ไม่ร้อนอบอ้าว เพื่อช่วยให้อาการบวม ยุบเร็วขึ้น

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 3 - 14 วัน
ช่วง 3-14 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก คือช่วงที่รูปปากจะค่อย ๆ “นิ่ง” มากขึ้น เพราะอาการบวมจากเข็มลดลง และเนื้อฟิลเลอร์เริ่มเข้ากับเนื้อเยื่อเดิมของเราได้ดีขึ้น แต่การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปากยังสำคัญมาก เพื่อให้ทรงปากออกมาดูละมุนและลดการระคายเคือง

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากประมาณ วันที่ 3
ภาพรวมที่มักพบได้
• บวม ช้ำ แดง เริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ เมื่อเทียบกับ 1-2 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• รูปทรงปากจะเริ่มดูเข้ารูป มากขึ้น แต่ยังไม่ใช่ผลลัพธ์สุดท้าย

สิ่งที่ควรทำหลังฉีดฟิลเลอร์ปากได้ 3 วัน
• ใช้ชีวิตได้ค่อนข้างปกติ เช่น พูด ยิ้ม ทานอาหารนิ่ม ๆ ได้ดีขึ้น
• ดูแลความสะอาดตามปกติแบบ เบามือ

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากประมาณ วันที่ 7
ภาพรวมที่มักพบได้
• รอยเขียวช้ำมัก ค่อย ๆ จาง และปากเริ่มดูเป็นทรงมากขึ้น
• บางคนอาจรู้สึกเหมือนมี จุดนูนเป็นไตเล็ก ๆ หรือสัมผัสไม่เนียน 100% ได้ในบางตำแหน่ง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับอาการบวมเฉพาะจุดหรือการยุบตัวของเนื้อเยื่อหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

สิ่งที่ควรทำหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• ยังเน้นการใช้ชีวิตแบบถนอมริมฝีปาก : ทาลิป บำรุงปาก ไม่ถูแรง ๆ
• หากกังวลเรื่องความนูนหรือคลำได้เป็นก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ควรจัดทรงเอง ให้แจ้งแพทย์เพื่อประเมินว่าเป็นภาวะที่พบได้จากการบวม หรือควรดูแลเพิ่มเติมอย่างไร

ข้อควรรู้หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• ลักษณะที่คลำได้เป็นไตเล็ก ๆ ในบางราย อาจค่อย ๆ ดีขึ้นได้เอง เมื่อบวมลดลงและเนื้อฟิลเลอร์เข้าที่ แต่ก็มีบางกรณีที่ต้องให้แพทย์ช่วยประเมินเพื่อความชัดเจน

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากประมาณ วันที่ 14
ภาพรวมที่มักพบได้
• อาการบวมโดยมากจะ ลดลงมาก และรูปปากจะ “นิ่ง” ขึ้น ทำให้เห็นทรงใกล้เคียงผลลัพธ์จริงมากขึ้น
• สัมผัสบริเวณปากจะนุ่มและกลืนกับผิวมากขึ้น เมื่อเทียบกับสัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 เดือน
เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยทั่วไปอาการบวมจากเข็มจะลดลงเกือบหมด และรูปทรงปากจะค่อนข้างคงที่มากขึ้น ทำให้สามารถเห็นลักษณะของทรงปากได้ชัดเจนกว่าในช่วงสัปดาห์แรก ๆ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นกับสภาพผิว การดูแลตัวเอง และการใช้ชีวิตประจำวัน

ใช้ชีวิตได้ตามปกติแค่ไหนหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
• สามารถทำกิจกรรมประจำวัน ออกกำลังกาย และทานอาหารได้ใกล้เคียงปกติ
• ความรู้สึกตึงหรือระคายเคืองบริเวณริมฝีปากมักลดลงมาก หากยังมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินเพิ่มเติมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

การดูแลระยะยาวที่ช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปากดูดีขึ้น
• ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณวันละ 1.5-2 ลิตร (หรือให้เหมาะสมกับร่างกายแต่ละคน)
• เนื่องจากฟิลเลอร์ที่ใช้กันทั่วไปเป็นสารกลุ่มไฮยาลูรอนิก ซึ่งมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ การได้รับน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์คงสภาพความอิ่มฟู
• ดูแลริมฝีปากให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ เช่น ทาลิปบำรุง และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ปากแห้งหรือระคายเคืองเป็นประจำ

สิ่งที่ห้ามทำหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วง 1-2 วันแรกถือว่าสำคัญมาก เพราะเนื้อเยื่อยังมีรอยเข็มและอาจมีบวม ช้ำ
การเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างหลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยให้ปากเข้าที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และลดโอกาสเกิดการระคายเคืองหรือภาวะแทรกซ้อน (ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละคน)

1) หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการ “จับ บีบ นวด ปั้นทรง” ปากด้วยตัวเอง
- ช่วงแรกฟิลเลอร์กำลังเซตตัว การกด คลึงแรง ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ปากอาจทำให้ เกิดการระคายเคือง บวมเพิ่ม หรือทรงไม่เรียบเนียนตามต้องการ
- มือและการสัมผัสซ้ำ ๆ เพิ่มความเสี่ยงเรื่อง การปนเปื้อนเชื้อบริเวณรูเข็มหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งแม้จะไม่พบบ่อย แต่เป็นสิ่งที่ควรป้องกันไว้ก่อน

2) หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่ม “ร้อนจัด” ในช่วงแรก
- ความร้อนสามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณริมฝีปากมากขึ้น ทำให้บางคน บวมมากขึ้นหรือบวมนานขึ้น
- อีกมุมหนึ่งคือความร้อนอาจทำให้บริเวณที่เพิ่งทำหัตถการ ระคายเคืองง่ายขึ้น ส่งผลต่อความสบายและการฟื้นตัวในช่วงวันแรก ๆ

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากห้ามกินอะไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เนื้อเยื่อบริเวณริมฝีปากยังมีรอยเข็มและอาจเกิดอาการบวม

การเลือกอาหารในช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จึงมีผลต่อการฟื้นตัว ความสบาย และการเข้าที่ของทรงปาก โดยข้อแนะนำต่อไปนี้เป็นแนวทางทั่วไป ในการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

1) หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนจัด
2) หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3) หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด
4) หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เหนียว หรือเคี้ยวยาก
5) หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยง อาหารหรือเครื่องดื่มที่อาจก่อการระคายเคืองเฉพาะบุคคล เช่นอาหารหมัก ดอง

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน
โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ปากไม่ได้อยู่ถาวร ระยะเวลาที่เห็นผลจะค่อย ๆ ลดลงตามการสลายตัวของสารฟิลเลอร์ในร่างกาย ซึ่งมักอยู่ในช่วงประมาณ 6-18 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาการคงอยู่หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ไม่สามารถกำหนดตายตัวได้

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาการคงอยู่ของฟิลเลอร์ปาก
1.ชนิดและเทคโนโลยีของฟิลเลอร์ที่ใช้
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมีโครงสร้างและความหนาแน่นต่างกัน ส่งผลต่อความคงตัวและอายุการใช้งานโดยรวม

2.ลักษณะการใช้ชีวิตประจำวัน
ริมฝีปากเป็นบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น การพูด การยิ้ม การเคี้ยว หรือการดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ เป็นประจำ การขยับซ้ำ ๆ เหล่านี้อาจทำให้ฟิลเลอร์ สลายเร็วขึ้นกว่าบริเวณอื่นของใบหน้า

3.การตอบสนองของร่างกายแต่ละคน
อัตราการเผาผลาญ ระบบไหลเวียนเลือด และสภาพผิวของแต่ละคน มีผลต่อการสลายตัวของฟิลเลอร์แตกต่างกัน

4.การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
พฤติกรรมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เช่น การหลีกเลี่ยงความร้อนจัด การดื่มน้ำให้เพียงพอ และการถนอมริมฝีปากในช่วงแรก มีส่วนช่วยให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้เหมาะสมมากขึ้น

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากทาลิปได้หรือไม่
โดยทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถทาลิปได้ เมื่อบริเวณริมฝีปาก ไม่มีเลือดซึม แผลเปิด หรือการระคายเคืองจากรูเข็มแล้ว

ในช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้ หลีกเลี่ยงการทาลิปที่ต้องถูหรือกดแรง ๆ และควรเลือกเป็น ลิปบำรุงหรือเครื่องสำอางที่อ่อนโยน พร้อมหลีกเลี่ยงการลงทับตรงจุดรูเข็มโดยตรง

เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผิวและลดการระคายเคือง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นหลัก เนื่องจากการฟื้นตัวอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากห้ามใช้หลอดจริงหรือไม่
ในช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้หลอดชั่วคราว เพราะการดูดหลอดต้องออกแรงเม้มและขยับริมฝีปากมาก อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือบวมเพิ่มได้

โดยทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการใช้หลอดหลังฉีดฟิลเลอร์ปากในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก จากนั้นสามารถกลับมาใช้ได้ตามปกติ หากไม่มีอาการเจ็บ ตึง หรือบวมผิดปกติ

ทั้งนี้ระยะเวลาที่เหมาะสมอาจแตกต่างกัน ควรยึดคำแนะนำของแพทย์ผู้ทำหัตถการเป็นหลัก

สักสีปาก หลังฉีดฟิลเลอร์ปากได้หรือไม่
การ สักสีปาก และ การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่กระทบกับเนื้อเยื่อบริเวณเดียวกัน จึงควรวางแผนลำดับเวลาให้เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง บวมมากผิดปกติ หรือการประเมินทรงปากที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้แนวทางโดยทั่วไปสามารถสรุปได้ดังนี้

กรณีที่เคยสักสีปากมาก่อน
หากมีประวัติสักสีปากมาแล้ว แนะนำให้ เว้นช่วงประมาณ 1-2 เดือน ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ปาก เหตุผลคือเพื่อให้
• แผลและการระคายเคืองจากการสัก หายสนิท
• อาการบวมจากการสักลดลง ทำให้แพทย์ ประเมินรูปทรงริมฝีปากเดิมได้ชัดเจน
• สามารถออกแบบทรงปากให้เหมาะกับโครงสร้างจริงของแต่ละคนได้

กรณีที่ต้องการ สักสีปากหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
โดยทั่วไปแนะนำให้ เว้นระยะประมาณ 2-3 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หรืออย่างน้อยควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ

เนื่องจากช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยังอยู่ในระยะเข้าที่ หากไปสักสีปากเร็วเกินไป อาจ
• กระตุ้นให้เกิด อาการบวมมากกว่าปกติ
• ทำให้ทรงปากที่เพิ่งฉีด เปลี่ยนหรือดูไม่เรียบเนียน
• เพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรือการติดเชื้อบริเวณริมฝีปาก

สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ในช่วงแรกอาจมีอาการบวม แดง ตึง หรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่พบได้ตามปกติ อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยรูปทรงปากจะเริ่มเข้าที่มากขึ้นในช่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์ และเห็นลักษณะค่อนข้างชัดเจนหลังครบประมาณ 1 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์และระยะเวลาการฟื้นตัวอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นสิ่งสำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการจับ นวด หรือกดปากแรง ๆ งดอาหารและเครื่องดื่มร้อนจัด แอลกอฮอล์ รวมถึงกิจกรรมที่กระตุ้นความร้อนในช่วงแรก เลือกรับประทานอาหารอ่อน ดื่มน้ำให้เพียงพอ และถนอมริมฝีปากอย่างเหมาะสม ฟิลเลอร์ปากโดยทั่วไปสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นกับชนิดฟิลเลอร์ การใช้ชีวิต และการดูแลหลังทำ หากมีอาการผิดปกติ ควรติดต่อแพทย์ผู้ทำหัตถการเพื่อประเมินอย่างเหมาะสม

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
โปรโมชั่นต่างๆ
เรื่อง โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่คุณอาจสนใจ