romrawin

Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ต่างกันอย่างไร เลือกยกกระชับแบบไหนดี

Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX , Ultraformer MPT vs Thermage FLX

Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX แตกต่างกันจุดไหนบ้าง
หากคุณกำลังมองหาวิธียกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อย และฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด คงเคยได้ยินชื่อ Ultraformer MPT 4D LIFT และ Thermage FLX ซึ่งเป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคลินิกความงามระดับพรีเมียม

ทั้งสองเครื่องต่างก็มีจุดเด่นเฉพาะตัว แต่หลายคนอาจยังสับสนว่าควรเลือกแบบไหนจึงจะเหมาะกับปัญหาผิวของตนเอง บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ทั้งข้อดี จุดแตกต่าง กลไกการทำงาน ระยะเวลาเห็นผล ความเจ็บ ผลข้างเคียง ไปจนถึงข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังทำอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายและมั่นใจมากยิ่งขึ้น

เจาะลึก Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX คืออะไร
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่ต้องการชะลอวัย ยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย โดยไม่ต้องพักฟื้น แต่ทั้งสองเครื่องยกกระชับคืออะไร มีรายละเอียดดังนี้

Ultraformer MPT 4D LIFT คืออะไร
Ultraformer MPT (Micro Pulsed Technology) เป็นเครื่อง HIFU รุ่นใหม่ที่พัฒนาจาก Ultraformer III โดยเน้นความแม่นยำ ปลอดภัย และลดความรู้สึกเจ็บขณะทำมากขึ้น พลังงานจะถูกส่งลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ผ่าตัดยกกระชับ ทำให้เห็นผลชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด

Thermage FLX คืออะไร
Thermage FLX คือเทคโนโลยียกกระชับด้วยคลื่นวิทยุ (Radio Frequency - RF) แบบความถี่เดียว (Mono-polar RF) ที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นคอลลาเจนในหนังแท้และชั้นไขมันบางส่วนได้ โดยมีระบบควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำและระบบสั่นเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ

คุณสมบัติเด่นของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
สรุป คุณสมบัติเด่น ของทั้ง Ultraformer MPT 4D LIFT และ Thermage FLX เพื่อให้คุณสามารถเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน

คุณสมบัติเด่นของ Ultraformer MPT 4D LIFT
1.เทคโนโลยี Micro-Focused Ultrasound (HIFU) แบบใหม่
ปล่อยพลังงานความถี่สูงแบบจุดเล็กและถี่ ช่วยให้ลงลึกอย่างแม่นยำและสม่ำเสมอมากขึ้น ช่วยลดความเจ็บจากการรักษาได้ดีกว่า HIFU รุ่นเก่า

2.ยิงพลังงานได้หลายระดับความลึก
Ultraformer MPT 4D LIFT มีหัวยิงตั้งแต่ 1.5 mm - 6.0 mm เข้าถึงชั้น SMAS ที่เทียบเท่าชั้นที่ผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า

3.ยกกระชับและฟื้นฟูผิวแบบ 4 มิติ
สามารถครอบคลุมทั้งโครงหน้า และเน้นเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ ปรับแนวการยิงได้หลากหลาย เช่น แนวเฉียง แนวขวาง เพื่อการยกกระชับที่ครอบคลุม

4.กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน
Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ผิวดูแน่นและยืดหยุ่นขึ้น

5.ไม่ต้องพักฟื้น
หลังทำยกกระชับด้วย Ultraformer MPT 4D LIFT สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที

คุณสมบัติเด่นของ Thermage FLX
1.เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (Monopolar RF)
ส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นคอลลาเจนและไขมันบางส่วนใต้ผิวหนัง กระตุ้นให้คอลลาเจนหดตัวทันที และสร้างใหม่ต่อเนื่องในระยะยาว

2.หัวทิปรุ่นใหม่ (Total Tip 4.0)
พัฒนาประสิทธิภาพให้ยิงได้เร็วขึ้น และครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น ควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติทุกช็อต เพิ่มความปลอดภัยและความสม่ำเสมอ

3.ระบบสั่น (Vibration Mode)
ลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ โดยส่งคลื่นสั่นพร้อมพลังงานเพื่อให้สบายผิวมากขึ้น

4.ผลลัพธ์ระยะยาว
ผิวจะค่อย ๆ กระชับขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำ เห็นผลต่อเนื่องนาน 12-18 เดือน

5.เหมาะกับทุกสีผิว
Thermage FLX ไม่ทำลายผิวชั้นบน และไม่เกิดรอยไหม้หรือรอยแดงหลังทำ

หลักการทำงานของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
เปรียบเทียบหลักการทำงานของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ซึ่งเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด มีความแตกต่างกันดังนี้

หลักการทำงานของ Ultraformer MPT 4D LIFT
Ultraformer MPT ใช้หลักการของ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) หรือ คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงที่โฟกัสพลังงานลงจุดเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะที่ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อส่วนลึกที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า

จุดเด่นของการทำงาน
• พลังงานแบบ Micro Pulsed Technology ส่งพลังงานอย่างแม่นยำในรูปแบบจุดเล็ก ๆ และถี่ ทำให้ลดความเจ็บปวดแต่ยังให้ประสิทธิภาพสูง
• ลงลึกได้หลายระดับ ยิงพลังงานได้ตั้งแต่ชั้นผิวตื้น (1.5 mm) ไปจนถึงชั้น SMAS (4.5 - 6.0 mm)
• กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง และลดริ้วรอย
• เกิดการหดตัวของชั้น SMAS ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่เห็นได้ชัดใกล้เคียงการผ่าตัด

สรุป Ultraformer MPT ทำงานโดยการ “โฟกัสคลื่นเสียงลึกลงในผิว” โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่แบบลึกและแม่นยำ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย

หลักการทำงานของ Thermage FLX
Thermage FLX ใช้หลักการของ คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) โดยพลังงานจะถูกส่งลึกลงไปยังชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันบางส่วน เพื่อกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนเดิม และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว

จุดเด่นของการทำงาน
• ส่งพลังงาน RF แบบสม่ำเสมอ ด้วยหัวทิปรุ่นใหม่ (Total Tip 4.0) พร้อมระบบตรวจจับอุณหภูมิ ทำให้พลังงานลงลึกแต่ปลอดภัย
• คอลลาเจนหดตัวทันที ทำให้ผิวรู้สึกตึงขึ้นหลังทำเสร็จ และดีขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 3-6 เดือน
• ไม่มีการทำลายผิวชั้นบน ไม่เกิดแผลหรือรอยแดงหลังทำ
• ระบบสั่นขณะยิง ช่วยลดความรู้สึกเจ็บ และเพิ่มความสบายขณะทำหัตถการ

สรุป Thermage FLX ทำงานโดยการ “ปล่อยคลื่นความร้อนผ่านผิวชั้นบนลงลึก” ไปยังคอลลาเจนชั้นล่าง ทำให้เกิดการฟื้นฟูและยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานและไม่ต้องทำบ่อย

Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ช่วยอะไรบ้าง
หากเปรียบเทียบข้อดีของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ว่าช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรบ้าง ทั้งสองเทคโนโลยีมีจุดที่เหมือนกันและแตกต่างกันดังนี้

1.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
• ข้อดีที่เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- ทั้ง Ultraformer MPT และ Thermage FLX สามารถช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณใบหน้า เช่น แก้มที่ตก กรอบหน้าหลวม และคางสองชั้น
• ข้อแตกต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT เน้นยกกระชับแบบเจาะจงในจุดลึก โดยเฉพาะชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อพังผืดใต้ผิวหนัง ช่วยให้กรอบหน้าคมชัดและดูเรียวขึ้น
- Thermage FLX เน้นตึงผิวทั่วใบหน้าแบบเรียบเนียน ฟื้นฟูผิวในชั้นหนังแท้และไขมันบางส่วน ให้ผิวแน่นและยืดหยุ่นมากขึ้น

2.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• ข้อดีที่เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- ทั้งสองเทคโนโลยีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ส่งผลให้ผิวแน่น ฟู ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
• ข้อแตกต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบเฉพาะจุดและลึกหลายระดับความลึก ตั้งแต่ผิวชั้นตื้นถึง SMAS
- Thermage FLX กระตุ้นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้และไขมันบางส่วน ทำให้ผิวแน่นขึ้นทั่วบริเวณแบบครอบคลุม

3.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ
• ข้อดีที่เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- ทั้งสองสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ได้รูปมากขึ้น โดยลดความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณกรอบหน้าและคาง
• ข้อแตกต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT ให้ผลชัดในเรื่องการยกผิวขึ้นโดยตรง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น โดยไม่ต้องใช้เข็มหรือผ่าตัด
- Thermage FLX แม้จะไม่เน้นลดขนาดใบหน้า แต่ช่วยให้รูปหน้าดูแน่น กระชับ ไม่หย่อนคล้อย โดยรวมดูอ่อนวัยขึ้น

4.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ช่วยลดเลือนริ้วรอย
• ข้อดีที่เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น รอยย่นใต้ตา มุมปาก หน้าผาก และร่องแก้มได้
• ข้อแตกต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT เหมาะสำหรับริ้วรอยที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ และช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น
- Thermage FLX มีประสิทธิภาพสูงในการลดริ้วรอยลึกจากการสูญเสียคอลลาเจน โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป

Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ทำจุดไหนได้บ้าง
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX สามารถทำได้ในหลายบริเวณ โดยแบ่งเป็น จุดที่ทำได้เหมือนกัน และ จุดที่แตกต่างกัน ในแต่ละบริเวณ ดังนี้

1.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ทำบริเวณกรอบหน้าและแนวกราม
• บริเวณที่ทำได้เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- ทั้ง Ultraformer MPT และ Thermage FLX สามารถทำที่แนวกรามและกรอบหน้าได้ ช่วยให้กรอบหน้าชัด ลดความหย่อนคล้อยและคางสองชั้น
• บริเวณที่ทำได้ต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นอย่างชัดเจน โดยพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS
- Thermage FLX ช่วยให้ผิวตึงกระชับในแนวกว้าง ไม่เน้นการปรับรูปหน้าแบบเฉพาะจุดเท่า HIFU แต่ให้ความตึงเนียนทั่วทั้งบริเวณ

2.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ทำบริเวณแก้มและร่องแก้ม
• บริเวณที่ทำได้เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
สามารถทำได้ทั้งสองเทคโนโลยี เพื่อยกแก้มให้กระชับขึ้น ลดร่องแก้มลึก และปรับผิวให้แน่นขึ้น
• บริเวณที่ทำได้ต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT เน้นยิงเฉพาะจุดบริเวณร่องแก้มให้โครงสร้างด้านล่างยกตัวขึ้น
- Thermage FLX เหมาะกับการทำให้ผิวแก้มโดยรวมดูแน่นขึ้น ฟื้นฟูคอลลาเจนทั่วบริเวณ

3.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ทำบริเวณใต้คางและเหนียง
• บริเวณที่ทำได้เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- ทั้งสองสามารถใช้ลดความหย่อนคล้อยบริเวณใต้คาง คางสองชั้น และเหนียงได้
• บริเวณที่ทำได้ต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างชัดเจนเรื่องการสลายไขมันใต้คางร่วมกับยกกระชับ
- Thermage FLX ช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวใต้คาง ทำให้ผิวกระชับ แต่ไม่เน้นลดขนาดไขมัน

4.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ทำบริเวณหน้าผากและหว่างคิ้ว
• บริเวณที่ทำได้เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- ทำได้ทั้งคู่เพื่อช่วยลดริ้วรอยและยกคิ้วขึ้น
• บริเวณที่ทำได้ต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT ให้ผลในการยกคิ้วแบบเห็นผลชัด โดยโฟกัสลึกถึงกล้ามเนื้อใต้คิ้ว
- Thermage FLX เน้นการตึงของผิวหน้าผากโดยรวม ช่วยลดความหย่อนของหนังตาได้ในระยะหนึ่ง

5.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ทำบริเวณรอบดวงตา
• บริเวณที่ทำได้เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- สามารถทำรอบดวงตาได้ เช่น ใต้ตา หางตา หัวตา และหนังตาบน
• บริเวณที่ทำได้ต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT ช่วยยกหนังตาและลดริ้วรอยรอบดวงตาแบบแม่นยำในจุดเล็ก ๆ
- Thermage FLX มีหัวทิปเฉพาะสำหรับรอบดวงตา (Eye tip) ให้ผลลัพธ์แบบเนียนทั่วบริเวณ เหมาะกับหนังตาหย่อน

6.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ทำบริเวณลำคอและเนินอก
• บริเวณที่ทำได้เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
ทำได้ทั้งสองเทคโนโลยี เพื่อกระชับผิวบริเวณลำคอและลดริ้วรอยบริเวณเนินอก
• บริเวณที่ทำได้ต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT โฟกัสเฉพาะจุดที่มีไขมันหรือความหย่อนคล้อย เช่น คอด้านล่างหรือแนวใต้กราม
- Thermage FLX ให้ผลดีในบริเวณลำคอและเนินอกด้วยพลังงานที่ครอบคลุมกว้าง

7.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ทำบริเวณบริเวณลำตัว
• บริเวณที่ทำได้เหมือนกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- ทั้งสองสามารถใช้กระชับผิวในบางบริเวณของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ได้เช่นกัน แต่ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
• บริเวณที่ทำได้ต่างกันของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
- Ultraformer MPT นิยมใช้ในบริเวณที่มีไขมันสะสมเล็กน้อยร่วมกับผิวหย่อน เช่น ต้นแขนหรือลำตัวด้านข้าง
- Thermage FLX เหมาะกับบริเวณที่มีผิวบางหรือเริ่มเหี่ยวย่น เช่น ท้องแขน หัวเข่า หรือหน้าท้องหลังคลอด

Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ควรทำกี่ช็อตถึงเห็นผล
จำนวนช็อตของการทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพและผลลัพธ์หลังทำ โดยจำนวนช็อตที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ และสภาพปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปสามารถสรุปได้ดังนี้

Ultraformer MPT 4D LIFT ควรทำกี่ช็อต
Ultraformer MPT ใช้พลังงาน HIFU ส่งผ่านเป็นจุด (shot) แบบ Micro Pulsed ลงลึกในแต่ละชั้นผิว จำนวนช็อตจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ และปัญหาผิว

จำนวนช็อตโดยประมาณ (ขึ้นอยู่กับแผนการรักษา)

บริเวณ

จำนวนช็อตที่แนะนำ

ทั่วใบหน้า + ใต้คาง

500 - 800 ช็อต

กรอบหน้า

200 - 300 ช็อต

ใต้คาง / เหนียง

100 - 150 ช็อต

รอบดวงตา

60 - 100 ช็อต

คอ

100 - 150 ช็อต

หมายเหตุ
• ควรทำจำนวนช็อตตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้พลังงานเพียงพอครอบคลุมทุกชั้นผิว
• หากทำในจำนวนช็อตที่น้อยเกินไป อาจได้ผลลัพธ์ไม่เต็มที่

Thermage FLX ควรทำกี่ช็อต
Thermage FLX วัดปริมาณพลังงานเป็น “ช็อต” หรือที่เรียกว่า “pulse” ซึ่งพลังงานแต่ละช็อตจะถูกปล่อยลงสู่ผิวในจุดที่ยิง ระบบจะนับจำนวนเป็นช็อตต่อหัวทิป (tip)

จำนวนช็อตโดยประมาณ

บริเวณ

จำนวนช็อต (pulse) ที่แนะนำ

ใบหน้าเต็ม + คอ

900 - 1200 shots

ใบหน้าอย่างเดียว

600 - 900 shots

รอบดวงตา (Eye Tip)

300 - 450 shots

ลำตัว (เช่น หน้าท้อง ต้นแขน)

900 - 1200 shots หรือมากกว่า

คำแนะนำเพิ่มเติม
• การกำหนดจำนวนช็อตที่แม่นยำที่สุดควรได้รับการประเมินโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญตามโครงหน้าและสภาพผิวของแต่ละคน
• ไม่ควรลดจำนวนช็อตเพื่อประหยัดงบ เพราะอาจได้ผลลัพธ์ไม่เต็มที่
• ทั้งสองเทคโนโลยีควรทำกับคลินิกที่ใช้เครื่องแท้และมีประสบการณ์ในการออกแบบแนวการยิง

Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX อยู่ได้นานแค่ไหน
การเปรียบเทียบระยะเวลาที่ผลลัพธ์ของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX อยู่ได้นาน เป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการตัดสินใจเลือกทำหัตถการ เพราะแต่ละเทคโนโลยีมีช่วงเวลาการคงผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกลไกการทำงานของเครื่องและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ระยะเวลาผลลัพธ์ของ Ultraformer MPT 4D LIFT
• อยู่ได้นานประมาณ 6 - 12 เดือน

รายละเอียด
• หลังทำจะเริ่มเห็นผลทันทีประมาณ 10-20% และเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือน
• ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน - 1 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อายุ, การดูแลผิว, พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการรับประทานอาหาร
• สามารถทำซ้ำได้ทุก 6 เดือน - 1 ปี เพื่อรักษาผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง

ระยะเวลาผลลัพธ์ของ Thermage FLX
• อยู่ได้นานประมาณ 12 - 18 เดือน

รายละเอียด
• หลังทำอาจรู้สึกว่าผิวแน่นขึ้นเล็กน้อยทันที แต่ผลลัพธ์จะชัดเจนในช่วง 3 - 6 เดือน หลังจากที่คอลลาเจนเริ่มสร้างใหม่อย่างต่อเนื่อง
• ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปีครึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องทำซ้ำบ่อย
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว และไม่สะดวกเข้าคลินิกบ่อย ๆ

ข้อควรทราบ
• ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่กล่าวถึงเป็นค่าเฉลี่ยโดยประมาณ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
• การดูแลหลังทำ เช่น การทาครีมบำรุง การหลีกเลี่ยงแดด และไม่สูบบุหรี่ จะช่วยยืดอายุผลลัพธ์ให้ได้นานขึ้น

Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ควรทำบ่อยแค่ไหน
เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของจำนวนครั้งที่ควรทำถึงเห็นผล ระหว่าง Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX สรุปได้ดังนี้

• Ultraformer MPT 4D LIFT แนะนำให้ทำ Ultraformer MPT ซ้ำทุก 3-6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์การยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง โดยความถี่ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัญหาความหย่อนคล้อยและเป้าหมายของแต่ละบุคคล หากต้องการคงผลลัพธ์ให้อยู่ตลอด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสม
• Thermage FLX โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ Thermage FLX ปีละ 1 ครั้ง เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน หากต้องการผลลัพธ์ที่ยกกระชับมากขึ้น สามารถทำถี่ขึ้นเป็นทุก 6 เดือน หรือทุก 3 เดือนในบางกรณีที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้น แต่โดยรวมแล้วปีละครั้งถือว่าเพียงพอสำหรับคนส่วนใหญ่

หมายเหตุ ความถี่ในการทำแต่ละโปรแกรมควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมเฉพาะบุคคลอีกครั้งก่อนตัดสินใจทำซ้ำ

Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX เจ็บไหม หน้าบวมกี่วัน
คำถามเรื่อง เจ็บไหม ? และ หน้าบวมกี่วัน ? เป็นข้อสงสัยที่คนส่วนใหญ่มักมี เมื่อต้องตัดสินใจทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX นี่คือคำอธิบายเปรียบเทียบอย่างละเอียด เพื่อให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

ความรู้สึกระหว่างทำ และอาการหลังทำ
1.Ultraformer MPT 4D LIFT
ความรู้สึกขณะทำ
• Ultraformer MPT ใช้เทคโนโลยี Micro Pulsed HIFU ที่ช่วยให้พลังงานกระจายตัวเล็กและนุ่มนวลกว่า HIFU รุ่นเก่า ทำให้ ความรู้สึกเจ็บน้อยลงอย่างชัดเจน
• บางจุดที่ยิงลึก เช่น ใต้คาง หรือแนวกราม อาจรู้สึกตึงหรือจี๊ดได้บ้าง
• ความเจ็บขึ้นอยู่กับระดับพลังงานที่ใช้และความไวของผิวแต่ละคน

อาการหน้าบวมหลังทำ
• หลังทำอาจมีอาการบวมเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณแนวกรามหรือกรอบหน้า
• อาการบวมโดยทั่วไปอยู่ประมาณ 1-3 วัน และมักหายเองโดยไม่ต้องพักฟื้น
• บางคนอาจรู้สึกตึง ๆ ใต้ผิว หรือมีอาการเมื่อกดบริเวณที่ยิงลึก ประมาณ 5-7 วัน แต่ไม่มีผลต่อการใช้ชีวิต

2.Thermage FLX
ความรู้สึกขณะทำ
• Thermage FLX ใช้คลื่นวิทยุที่สร้างความร้อนใต้ผิวหนัง ทำให้บางคนรู้สึกอุ่นร้อนหรือจี๊ดลึก ๆ
• ตัวเครื่องมีระบบ Cooling + Vibration Mode เพื่อลดความร้อนสะสมและลดความรู้สึกเจ็บ
• โดยรวมแล้ว เจ็บน้อยถึงปานกลาง และอยู่ในระดับที่ทนได้โดยไม่ต้องใช้ยาชาในผู้ปกติ

อาการหน้าบวมหลังทำ
• หลังทำอาจมีอาการแดงเล็กน้อยหรือบวมอุ่น ๆ ในบางบริเวณ
• โดยทั่วไป อาการบวมจะอยู่ประมาณ 1 วัน หรืออาจไม่มีอาการเลยในหลายราย
• ผู้ที่มีผิวบอบบางอาจมีผิวแดงประมาณ 1-2 วันแต่สามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ผลข้างเคียงหลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX มีผลข้างเคียงหลังทำที่อาจคล้าย ๆ กัน และควรรู้เพื่อช่วยให้เข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง ดังนี้

1.อาการบวมหลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
ทั้งสองเทคโนโลยีอาจทำให้เกิดอาการบวมเล็กน้อยหลังทำในบางราย แต่โดยทั่วไปจะไม่รุนแรงและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

2.รอยแดงหรืออาการร้อนผิวบริเวณที่ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
อาจมีผิวแดงหลังทำชั่วคราวเล็กน้อยในบริเวณที่ทำ แต่อาการสามารถหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือ 24 ชั่วโมง

3.อาการเจ็บหรือตึงใต้ผิวบริเวณที่ทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
ผู้รับบริการบางคนอาจรู้สึกตึงหรือล้า ๆ บริเวณที่ทำ โดยเฉพาะเมื่อขยับใบหน้า

4.รอยช้ำหรือผิวไวต่อสัมผัสหลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
โอกาสเกิดน้อยมาก แต่หากเกิดจะเป็นเพียงระดับเล็กน้อยและหายเองภายในไม่กี่วัน

ใครบ้างที่เหมาะกับ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
1.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
ทั้ง Ultraformer MPT และ Thermage FLX เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวเริ่มหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เช่น กรอบหน้าไม่ชัด คางสองชั้น หนังตาตก หรือแก้มล่างตก

2.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับโดยไม่ผ่าตัด
เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้น และต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติ ไม่เปลี่ยนหน้าจนดูฝืน

3.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบางจุด เช่น เหนียง
ทั้งสองเทคโนโลยีสามารถช่วยลดความหย่อนคล้อยจากไขมันสะสมใต้คางได้ดี

4.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ระยะยาว
ทั้งสองเครื่องให้ผลลัพธ์ระยะกลางถึงยาว และสามารถยืดระยะเวลาการหย่อนคล้อยของผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด

5.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX เหมาะกับผู้ที่กลัวเจ็บหรือไม่ต้องการพักฟื้น
ทั้งสองเทคโนโลยีเป็นหัตถการแบบไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที

ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
1.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรืออุปกรณ์ฝังในร่างกาย
ผู้ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ฝังในร่างกาย เช่น
- เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
- เครื่องช่วยฟังชนิดฝัง
- โลหะ ฝังใต้ผิวบริเวณที่จะทำ

ไม่ควรรับบริการทั้ง Ultraformer MPT และ Thermage FLX เนื่องจากมีการใช้คลื่นพลังงานที่อาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์

2.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าอันตราย แต่โดยหลักการแพทย์ ไม่แนะนำให้ทำ ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และทารก

3.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลเปิด ติดเชื้อ หรือผื่นผิวหนังบริเวณที่ทำ
ไม่ควรทำทั้ง Ultraformer MPT และ Thermage FLX หากมีภาวะดังต่อไปนี้ในบริเวณที่จะทำ

- แผลเปิด
- สิวอักเสบขนาดใหญ่
- ผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ หรือโรคผิวหนังเฉพาะจุด

คำแนะนำก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
1.งดการใช้ผลิตภัณฑ์หรือหัตถการบางประเภทก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
• ควรงดการ ขัดหน้า, นวดหน้า, ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว (เช่น AHA/BHA/Retinol) อย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ
• ควรงดการทำหัตถการที่ระคายเคืองผิว เช่น เลเซอร์, IPL, โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์ ในบริเวณที่จะทำอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

2.พักผ่อนและดูแลร่างกายก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
• พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนทำ
• ดื่มน้ำมาก ๆ ในช่วง 1-2 วันก่อนทำ เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น พร้อมรับพลังงาน
• งดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำ

3.ล้างหน้าและงดการแต่งหน้าก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
• ในวันเข้ารับบริการ ควร ล้างหน้าให้สะอาด และ งดการแต่งหน้า โดยเฉพาะในบริเวณที่จะทำ
• หากมีเครื่องสำอางหรือครีมกันแดดตกค้าง ควรให้คลินิกช่วยทำความสะอาดก่อนทำหัตถการ

4.ประวัติสุขภาพและข้อควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
• ควรแจ้งแพทย์หากมี โรคประจำตัว, การแพ้ยา, การตั้งครรภ์, ให้นมบุตร หรือมีอุปกรณ์ฝังในร่างกาย
• แจ้งหากเคยทำหัตถการอื่นมาก่อนในบริเวณเดียวกัน เพื่อป้องกันการยิงซ้ำหรือพลังงานเกินจำเป็น

ข้อห้ามหลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
1.หลีกเลี่ยงสัมผัสความร้อนและแสงแดดหลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
• หลังทำควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัด, อบไอน้ำ, ซาวน่า, น้ำร้อน อย่างน้อย 48-72 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดการอักเสบซ้ำซ้อนได้

2.หลีกเลี่ยงนวดหน้า กดหน้า หรือทำทรีตเมนต์ หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
• ห้ามนวดหน้าหรือกดจุดแรง ๆ ในช่วง 5-7 วัน หลังทำ เนื่องจากผิวอยู่ในระยะฟื้นตัว และเนื้อเยื่อกำลังสร้างคอลลาเจนใหม่

3.หลีกเลี่ยงแต่งหน้าหลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX หากระคายเคือง
สามารถแต่งหน้าและใช้สกินแคร์ได้ตามปกติในวันถัดไป หากไม่มีอาการระคายเคืองหรือแดง แต่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน

4.หลีกเลี่ยงออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
• ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น ออกกำลังกายหนัก โยคะร้อน วิ่งกลางแจ้ง อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการติดเชื้อจากรูขุมขนเปิด

5.หลีกเลี่ยงทำหัตถการเพิ่มเติม เช่น เลเซอร์, โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์ หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
• ไม่ควรทำหัตถการอื่นที่ผิวหน้าในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังทำ เพราะผิวอยู่ในช่วงสร้างคอลลาเจนและสมานตัว ควรรอให้ผิวฟื้นตัวก่อน

สรุป Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX
สรุปได้ว่า Ultraformer MPT 4D LIFT vs Thermage FLX ต่างก็เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และกระตุ้นคอลลาเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้แตกต่างกันตามสภาพผิวและเป้าหมายของผลลัพธ์ที่ต้องการ

• หากคุณต้องการยกกระชับเฉพาะจุด ให้กรอบหน้าคมชัด เน้นการทำงานลึกถึงชั้น SMAS และเห็นผลในระยะเวลารวดเร็ว Ultraformer MPT 4D LIFT คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์
• หากคุณต้องการผลลัพธ์ระยะยาว ผิวเรียบตึงทั่วหน้า ลดริ้วรอยลึก และมีผิวที่เริ่มหย่อนคล้อยมากขึ้น Thermage FLX จะเหมาะสมกว่า

ไม่ว่าจะเลือกเทคโนโลยีใด การประเมินโดยแพทย์คือสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย ตรงจุด และเหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
เรื่อง โปรแกรมยกกระชับใบหน้า ที่คุณอาจสนใจ