Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ต่างกันอย่างไร เลือกยกกระชับแบบไหนดี
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer , Ultraformer MPT vs Volnewmer
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ต่างกันอย่างไร เลือกยกกระชับแบบไหน
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ช่วยอะไรบ้าง ต่างกันยังไง
อย่างที่ทราบกันว่าระหว่าง Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ต่างคือเทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูงในคลินิกความงามยุคใหม่ ทั้งสองนวัตกรรมถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย และฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ โดยแต่ละเครื่องมีจุดเด่นและเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล
บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จัก Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ทั้งข้อดี จุดเหมือน จุดต่าง วิธีเตรียมตัว ผลข้างเคียง และการดูแลหลังทำ เพื่อให้ตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างมั่นใจ
เทคโนโลยียกกระชับ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เป็นเทคโนโลยีด้านความงามที่เน้นการยกกระชับและฟื้นฟูผิวหน้า โดยแต่ละนวัตกรรมมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้
Ultraformer MPT 4D Lift
Ultraformer MPT 4D LIFT เป็นเครื่องยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีล่าสุดในกลุ่ม HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่พัฒนาต่อยอดจาก Ultraformer III โดยใช้เทคโนโลยี Micro-Pulse Technology (MPT) จุดเด่นคือสามารถยกกระชับผิว ลดริ้วรอยร่องลึก และสลายไขมันได้ในเครื่องเดียว การทำงานของ Ultraformer MPT คือการปล่อยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบโฟกัส (Focused Ultrasound) ที่มีความเข้มข้นสูงลงไปยังชั้นผิวหนังในระดับความลึกที่เลือกได้อย่างแม่นยำ เช่น 1.5, 3, 4.5, 6, 9 และ 13 มิลลิเมตร
จุดเด่นของ Ultraformer MPT 4D Lift
• ยกกระชับผิวหน้าและร่างกาย ลดความหย่อนคล้อย เช่น ร่องแก้ม กรอบหน้า หางตา คิ้ว
• สลายไขมันเฉพาะจุด เช่น เหนียงใต้คาง เนื้อส่วนเกิน
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแน่น เรียบเนียน กระจ่างใส
• หัวยิง (Cartridge) มีหลายแบบและความลึก ตอบโจทย์ทั้งงานยกกระชับและงานผิว (Ultraboost) เช่น หัวยิงแบบวงกลม (Circular) และแบบเส้นตรง (Linear)
• ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ไม่มีแผล สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
หลักการทำงาน
• Micro Focused Ultrasound เน้นยกกระชับผิวชั้นตื้นถึงลึก (1.5-4.5 มม.) เช่น ชั้น SMAS ที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า
• Macro Focused Ultrasound เน้นสลายไขมันและยกกระชับผิวชั้นลึก (6-13 มม.)
Volnewmer
Volnewmer เป็นเครื่องยกกระชับผิวที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ Monopolar RF (Radio Frequency) ความถี่สูง 6.78 MHz จากประเทศเกาหลีใต้ ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา เกาหลี และไทย การทำงานของ Volnewmer จะส่งคลื่น RF ลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ทั้งส่วนบนและล่าง เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน 40-60°C เพื่อกระตุ้นการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจนและสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้นทันทีและต่อเนื่องในระยะยาว
จุดเด่นของ Volnewmer
• ยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอย
• กระตุ้นคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์
• สลายไขมันเฉพาะจุด
• มีหัวทิปหลายขนาดและรูปทรง เช่น V-tip สำหรับแก้ม คอ คาง, I-tip สำหรับรอบดวงตา คิ้ว ร่องแก้ม
• มาพร้อมระบบ Cooling System ลดความร้อนที่ผิวชั้นนอก ลดโอกาสผิวเบิร์นและช่วยให้รู้สึกสบายขณะทำ
• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
หลักการทำงาน
• หัวทิปจะวัดค่าความต้านทานผิว (Impedance) อัตโนมัติ เพื่อปล่อยพลังงานเหมาะสมกับแต่ละบุคคล
• คลื่น RF ลงลึกถึงผิวหนังแท้ กระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนและสร้างใหม่
• ผิวแน่นกระชับขึ้นทันที และดีขึ้นต่อเนื่องหลังทำ
ทั้ง Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน โดยเลือกใช้ตามปัญหาและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ช่วยแก้ปัญหาผิวอะไร
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และฟื้นฟูผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ต่างกันที่เทคโนโลยีและระดับความลึกของพลังงานที่ใช้ Ultraformer MPT เหมาะกับงานยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS และริ้วรอยร่องลึก ส่วน Volnewmer เหมาะกับการฟื้นฟูผิวชั้นตื้น ให้ผิวละเอียด รูขุมขนเล็กลง และเพิ่มความแน่นของผิว
เมื่อเปรียบเทียบข้อดีของ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer มีจุดที่เหมือนกันดังนี้
• Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ยกกระชับผิว ทั้ง Ultraformer MPT 4D LIFT และ Volnewmer ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทั้งสองเทคโนโลยีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวดูแน่นและอ่อนเยาว์ขึ้น
• Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ลดเลือนริ้วรอย สามารถลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก และรอยย่นต่าง ๆ บนใบหน้าได้
• Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ฟื้นฟูผิวหน้า ปรับผิวให้เรียบเนียน ช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้เรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ ผิวดูสุขภาพดีขึ้น
• Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ลดไขมันเฉพาะจุด สามารถช่วยสลายไขมันในบริเวณที่ต้องการ เช่น เหนียง ใต้คาง หรือบริเวณใบหน้า
• Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทั้งสองวิธีเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ทำบริเวณไหนได้บ้าง
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer สามารถใช้ยกกระชับและฟื้นฟูผิวได้ทั้งใบหน้า ลำคอ และลำตัว แต่ Ultraformer MPT 4D LIFT จะเน้นยกกระชับลึกและสร้างกรอบหน้าอย่างชัดเจน ในขณะที่ Volnewmer จะเน้นฟื้นฟูผิว เพิ่มความละเอียดและวอลลุ่มผิว โดยมีหัวทิปเฉพาะสำหรับแต่ละบริเวณเพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสม
สำหรับบริเวณที่ทำได้เหมือนกันระหว่าง Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer มีดังนี้
• ใบหน้า Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer สามารถทำได้ทั่วบริเวณใบหน้า เช่น
- หน้าผาก
- รอบดวงตา
- แก้ม
- ร่องแก้ม
- กรอบหน้า
- คาง
• ลำคอ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer สามารถยกกระชับผิวและลดริ้วรอยบริเวณลำคอ รวมถึงใต้คางและเหนียง
• ลำตัว / ร่างกาย Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer สามารถใช้กับร่างกายเพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ยิงกี่ช็อตถึงเห็นผล
สำหรับข้อสงสัยว่า Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ยิงกี่ช็อตถึงเห็นผล ? จำนวนช็อตหรือไลน์ที่ยิงด้วยเครื่อง Ultraformer MPT 4D LIFT เพื่อให้เห็นผลขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการประเมินของแพทย์ แต่โดยทั่วไปมีคำแนะนำดังนี้
• ทั่วใบหน้า ประมาณ 400-600 ไลน์
• หน้าผาก ประมาณ 100-200 ไลน์
• รอบดวงตา ประมาณ 100-200 ไลน์
• หน้าแก้มทั้ง 2 ข้าง ประมาณ 300-500 ไลน์
• คาง หรือเหนียง ประมาณ 200 ไลน์
ผลลัพธ์จะเห็นทันทีประมาณ 15-20% หลังทำ และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 1-3 เดือน โดยผลอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นกับการดูแลตัวเองและสภาพผิวแต่ละคน
สำหรับ Volnewmer ข้อมูลจำนวนช็อตหรือไลน์ยิงเฉพาะยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนในแหล่งข้อมูลที่ค้นพบ แต่โดยทั่วไปเครื่อง RF เช่น Volnewmer จะมีการปรับพลังงานและเวลาการยิงตามบริเวณและสภาพผิวของแต่ละบุคคลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและปลอดภัย
สรุปคือ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ควรยิงกี่ช็อตถึงเห็นผล Ultraformer MPT 4D LIFT มีคำแนะนำจำนวนช็อตชัดเจนตามบริเวณผิว ส่วน Volnewmer จะขึ้นกับการประเมินของแพทย์และไม่มีจำนวนช็อตตายตัว
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล
ก่อนตัดสินใจทำ หลายคนมีคำถามว่า Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผลลัพธ์ยกกระชับปรับรูปหน้าตรงตามความต้องการ
คำตอบคือ Ultraformer MPT 4D LIFT สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยจะเห็นการยกกระชับผิวประมาณ 15-20% ทันทีหลังทำ และผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2-3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและสภาพผิวของแต่ละคน โดยแนะนำให้ทำซ้ำทุก 3-6 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์และเพิ่มประสิทธิภาพ
สำหรับ Volnewmer ข้อมูลเฉพาะจำนวนครั้งที่ต้องทำเพื่อเห็นผลยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนในแหล่งข้อมูลที่ค้นพบ แต่โดยทั่วไปเครื่อง RF เช่น Volnewmer จะต้องทำอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ผลลัพธ์ดีและคงทน ซึ่งมักจะคล้ายกับการทำเครื่องมือยกกระชับผิวอื่น ๆ ที่ต้องทำซ้ำเป็นระยะ
จำนวนครั้งที่ต้องทำระหว่าง Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer จะเห็นได้ว่า Ultraformer MPT 4D LIFT เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกและแนะนำให้ทำซ้ำทุก 3-6 เดือน ส่วน Volnewmer ต้องทำตามคำแนะนำแพทย์โดยทั่วไปเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เห็นผลอยู่ได้นานกี่เดือน
ระยะเวลาผลลัพธ์หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ว่าอยู่ได้นานเท่าไหร่ เมื่อเปรียบเทียบแล้วสามารถอธิบายรายละเอียดได้ดังนี้
Ultraformer MPT 4D LIFT ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน โดยจะเห็นการยกกระชับผิวทันทีประมาณ 20% หลังทำ ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 1-3 เดือนหลังทำ และอาจสามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี ขึ้นกับสภาพผิวและการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล
สำหรับ Volnewmer ข้อมูลระยะเวลาผลลัพธ์ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนในแหล่งข้อมูลที่ค้นพบโดยตรง แต่โดยทั่วไปเครื่อง RF แบบนี้จะให้ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลและจำนวนครั้งที่ทำ
สรุป Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เห็นผลอยู่ได้นานกี่เดือน หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT มีผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือนหรือมากกว่านั้นในบางกรณี ส่วน Volnewmer ผลลัพธ์มักอยู่ในช่วงเดียวกัน แต่ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อคงผลลัพธ์
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เหมาะกับใครบ้าง
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เป็นเครื่องยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับความนิยม ซึ่งสามารถกล่าวโดยสรุปว่าเหมาะกับใครบ้างดังนี้
1.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน ทำให้เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนโดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือเสียเวลาพักฟื้น
2.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอย
ทั้งสองเครื่องช่วยลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิวได้ดี เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากวัยที่เพิ่มขึ้น หรือผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กลับมาเต่งตึงและกระชับขึ้น
3.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี
ทั้งสองเครื่องกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในชั้นผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
4.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดที่ต้องการสลาย
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer สามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เช่น ใต้คาง เหนียง หรือแก้ม ทำให้รูปหน้าดูเรียวเล็กลงและกระชับขึ้น
5.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและไม่ต้องพักฟื้น
เนื่องจากทั้งสองเครื่องเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่รุกรานผิวหนัง จึงสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำและสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น
6.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าและแก้ไขปัญหาผิวหลากหลายจุด
ทั้งสองเครื่องสามารถทำงานได้ครอบคลุมหลายบริเวณบนใบหน้าและลำคอ เช่น หน้าผาก รอบดวงตา แก้ม ร่องแก้ม กรอบหน้า รวมถึงลำคอและเหนียง ทำให้เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหลายจุดและต้องการการดูแลแบบครบวงจร
7.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการการรักษาที่ปลอดภัยและได้รับการรับรองมาตรฐาน
ทั้ง Ultraformer MPT 4D LIFT และ Volnewmer ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์กรต่าง ๆ เช่น อย.ไทย และ FDA สหรัฐอเมริกา ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ไม่เหมาะกับใครบ้าง
1.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังอักเสบหรือมีแผลเปิดในบริเวณที่จะทำหัตถการ
การทำ Ultraformer MPT หรือ Volnewmer ในบริเวณที่มีผิวหนังอักเสบ แผลเปิด หรือผิวที่มีการติดเชื้อ อาจทำให้อาการแย่ลง หรือเกิดการระคายเคืองรุนแรงขึ้นได้ เพราะพลังงานความร้อนหรือคลื่นวิทยุที่ปล่อยลงไปอาจกระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบมากขึ้นและชะลอการหายของแผล ดังนั้นควรรอให้ผิวหายดีและไม่มีการติดเชื้อก่อนเข้ารับการรักษา
2.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยลึกมาก ๆ
แม้ Ultraformer MPT จะช่วยยกกระชับผิวและลดริ้วรอยได้ดีในระดับหนึ่ง แต่สำหรับผู้ที่มีริ้วรอยลึกหรือผิวหย่อนคล้อยขั้นรุนแรง อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเท่าที่ควร และ Volnewmer ที่เน้นฟื้นฟูผิวชั้นตื้นก็อาจไม่เพียงพอเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาขั้นรุนแรงควรพิจารณาวิธีการรักษาอื่น ๆ เช่น การผ่าตัด ดึงหน้า หรือใช้ฟิลเลอร์ร่วมด้วย
3.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ หรือมีเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
เครื่อง Volnewmer ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงซึ่งอาจรบกวนการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจ ส่วน Ultraformer MPT แม้จะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ แต่ก็ยังควรระวังและปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจหรือโรคประจำตัวรุนแรง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
4.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
ยังไม่มีข้อมูลวิจัยหรือหลักฐานที่ชัดเจนถึงความปลอดภัยของการทำ Ultraformer MPT และ Volnewmer ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร จึงไม่แนะนำให้ทำในช่วงนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งแม่และทารก
5.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวบางมาก
ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือมีประวัติผิวไวต่อการทำหัตถการความร้อน อาจเกิดอาการระคายเคือง บวม แดง หรือผิวไหม้ได้ง่ายหลังทำทั้งสองเครื่อง จึงควรแจ้งแพทย์และประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนเข้ารับการรักษา
6.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่เคยทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้าหรือบริเวณที่จะทำในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนหน้า
หากเพิ่งทำเลเซอร์ ร้อยไหม หรือฉีดสารเติมเต็ม ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนทำ Ultraformer MPT หรือ Volnewmer เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นฟูและลดความเสี่ยงผลข้างเคียง
7.Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ได้ในช่วงก่อนและหลังทำ
การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อการสร้างคอลลาเจนและการฟื้นฟูผิว อาจทำให้ผลลัพธ์จากการทำ Ultraformer MPT และ Volnewmer ลดลง และเพิ่มความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวแห้งกร้าน ริ้วรอยเพิ่มขึ้น หรือผิวบวมแดงนานกว่าปกติ
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer มีผลข้างเคียงไหม
เปรียบเทียบระหว่าง Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer มีผลข้างเคียงที่พบได้โดยทั่วไปเป็นอาการชั่วคราว เช่น ผิวแดง บวมเล็กน้อย ตึงหรือเมื่อยกล้ามเนื้อ และรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะหายได้เองภายในไม่กี่วัน
แม้ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer จะมีความปลอดภัย แต่ควรทำโดยแพทย์และใช้เครื่องแท้เพื่อป้องกันผลข้างเคียงรุนแรง และปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำอย่างเคร่งครัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยง โดยผลข้างเคียงที่ควรรู้มีดังนี้
• Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer อาการผิวแดงและบวมเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติหลังทำ
หลังทำ Ultraformer MPT หรือ Volnewmer อาจพบผิวแดงระเรื่อหรือบวมเล็กน้อยบริเวณที่ได้รับการรักษา ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของผิวที่ตอบสนองต่อพลังงานความร้อนและคลื่นวิทยุ อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองภายใน 4-6 ชั่วโมงจนถึง 1-2 วันโดยไม่ต้องรักษาเพิ่มเติม
• Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer รู้สึกตึงหรือเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อผิวหนัง
บางรายอาจรู้สึกตึงหรือเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณกรามหรือใบหน้า ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นชั้นผิวลึกและกล้ามเนื้อใต้ผิว อาการนี้มักจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 5-7 วัน และสามารถบรรเทาได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล
• Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer อาการเสียวฟันหรือจี๊ด ๆ ขณะทำ
ในระหว่างทำ Ultraformer MPT ผู้รับบริการอาจรู้สึกจี๊ด ๆ หรือเสียวฟันได้บ้าง ซึ่งเป็นอาการชั่วคราวและไม่เป็นอันตราย โดยเกิดจากพลังงานที่ปล่อยลงไปกระตุ้นเส้นประสาทบริเวณใบหน้า
• Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer อาการช้ำหรือรอยเขียวใต้ผิวหนังในบางราย
อาจพบรอยช้ำหรือเขียวใต้ผิวหนังได้เล็กน้อย โดยเฉพาะในคนที่มีผิวบางหรือมีแนวโน้มช้ำง่าย อาการนี้มักจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์โดยไม่ต้องรักษา
Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer เจ็บไหมระหว่างทำ
การทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ระหว่างทำจะมีความรู้สึกดังนี้
• Ultraformer MPT 4D LIFT
ผู้รับบริการจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย มีความรู้สึกอุ่นถึงร้อน และบางครั้งอาจรู้สึกจี๊ด ๆ หรือเสียวแปลบบริเวณชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิว ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติจากการปล่อยพลังงานอัลตราซาวด์ลงลึกในผิว
ก่อนทำจะมีการแปะยาชาเพื่อช่วยลดความเจ็บปวด ทำให้ระหว่างทำรู้สึกสบายขึ้นและเจ็บน้อยลง
ระยะเวลาการทำประมาณ 30-45 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่รักษาและระดับพลังงานที่ใช้
ความเจ็บปวดสามารถปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ และส่วนใหญ่ผู้รับบริการจะทนได้โดยไม่รู้สึกเจ็บมาก
• Volnewmer
แม้ไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงจากแหล่งที่ค้นพบ แต่เนื่องจากใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงพร้อมระบบทำความเย็นและระบบสั่นเพื่อลดความเจ็บปวด จึงคาดว่าระหว่างทำจะรู้สึกสบายมากขึ้นและเจ็บน้อย
สรุปคือ Ultraformer MPT 4D LIFT อาจมีความรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ เล็กน้อยแต่สามารถควบคุมได้ด้วยยาชาและการปรับพลังงาน ส่วน Volnewmer มีระบบช่วยลดความเจ็บปวด ทำให้รู้สึกสบายระหว่างทำมากขึ้น ทั้งสองเครื่องเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องทนความเจ็บมาก
วิธีเตรียมตัวก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer
การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงผลข้างเคียง และทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามเป้าหมายการรักษา
• ก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา
ควรเข้ารับคำปรึกษาและประเมินสภาพผิวจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์วางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงประเมินจำนวนช็อตและระดับพลังงานที่เหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัย
• ก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer แจ้งประวัติสุขภาพและประวัติการทำหัตถการอื่น ๆ
แจ้งให้แพทย์ทราบอย่างละเอียดเกี่ยวกับโรคประจำตัว การแพ้ยา หรือการทำหัตถการความงามอื่น ๆ บนใบหน้าที่ผ่านมา เช่น การทำเลเซอร์ ร้อยไหม หรือฉีดสารเติมเต็ม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและปรับแผนการรักษาให้เหมาะสม
• ก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer งดใช้ยากลุ่มแอสไพริน วิตามิน อาหารเสริม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ควรงดรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน และงดวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด รวมถึงงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1-2 วันก่อนทำ เพื่อป้องกันเลือดออกง่ายหรือเกิดรอยช้ำหลังทำ
• ก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer งดทำหัตถการหรือทรีตเมนต์ผิวหน้าอื่น ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำ
เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นฟูและลดความเสี่ยงการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงจากการทำหัตถการหลายอย่างพร้อมกัน ควรงดทำเลเซอร์ สครับผิว หรือทรีตเมนต์รุนแรงอื่น ๆ ก่อนทำ Ultraformer MPT หรือ Volnewmer
• ก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนทำ
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อการไหลเวียนเลือดและการสร้างคอลลาเจน อาจทำให้ผลลัพธ์จากการทำหัตถการลดลง และเพิ่มโอกาสเกิดผลข้างเคียง
• ก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำให้มาก
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้ดีขึ้น และการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เตรียมพร้อมสำหรับการรับพลังงานจากเครื่องมือ
• ก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer มาที่คลินิกด้วยใบหน้าที่สะอาด ไม่แต่งหน้า
ก่อนเข้ารับการทำหัตถการ ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด ไม่มีคราบเครื่องสำอางหรือครีมบำรุง เพื่อให้แพทย์ทำความสะอาดผิวและเริ่มขั้นตอนการรักษาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
• ก่อนทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่ต้องกังวล
• การเตรียมตัวทางจิตใจช่วยให้การทำหัตถการเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความตึงเครียดและความรู้สึกกังวลระหว่างทำ ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับบริการมีประสบการณ์ที่ดีและผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจมากขึ้น
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer
การดูแลตัวเองหลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer อย่างถูกวิธีและเคร่งครัดตามคำแนะนำ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ กระชับ และสุขภาพดี
• หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 4-5 วันแรก
หลังทำหัตถการ ผิวจะมีความไวต่อแสงมากขึ้น การโดนแสงแดดแรงโดยตรงอาจทำให้ผิวระคายเคือง แดง หรือเกิดฝ้ากระได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงและทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพื่อปกป้องผิวและช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
• หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer งดกิจกรรมที่ทำให้ผิวสัมผัสกับความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือออกกำลังกายหนัก
ความร้อนจะกระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบหรือบวมได้ง่ายในช่วงแรกหลังทำ ควรงดกิจกรรมเหล่านี้อย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อให้ผิวฟื้นฟูอย่างเต็มที่และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
• หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมาก ๆ
การนอนหลับเต็มที่ช่วยให้ผิวฟื้นฟูเร็วขึ้น และการดื่มน้ำช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์
สารพิษจากบุหรี่และแอลกอฮอล์ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผลลัพธ์จากการทำหัตถการลดลง และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวแห้งกร้าน หรือบวมแดงนานกว่าปกติ
• หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer งดการนวดหน้าหรือขัดผิวแรง ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
การนวดหรือขัดผิวแรง ๆ อาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดการอักเสบได้ง่ายในช่วงที่ผิวยังฟื้นตัว ควรรอจนกว่าแพทย์อนุญาตก่อนทำทรีตเมนต์หรือขัดผิวอย่างรุนแรง
• หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ใช้ครีมบำรุงและครีมกันแดดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหลังทำ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกที่อาจทำลายคอลลาเจนที่กำลังสร้างใหม่
• หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ประคบเย็นหากมีอาการบวมแดงหรือรู้สึกไม่สบาย
การประคบเย็นช่วยลดอาการบวมและระคายเคืองได้ดี โดยใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งและประคบบริเวณที่ทำ ไม่ควรวางน้ำแข็งโดยตรงบนผิวหนังเพื่อป้องกันการเกิดบาดแผลจากความเย็นจัด
• หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ติดตามผลและแจ้งแพทย์ทันทีหากพบอาการผิดปกติ
หากมีอาการบวมแดงรุนแรง ผิวลอก หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่ไม่หายไปภายใน 2-3 วัน ควรรีบติดต่อแพทย์เพื่อรับการตรวจและดูแลอย่างเหมาะสม
• หลังทำ Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเร่งผลัดผิว เช่น Retinol, AHA, BHA ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
สารเหล่านี้อาจทำให้ผิวระคายเคืองและชะลอการฟื้นฟูผิวหลังทำหัตถการ ควรรอจนกว่าแพทย์อนุญาตก่อนกลับมาใช้
สรุป Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer
สรุปว่า Ultraformer MPT 4D LIFT vs Volnewmer ต่างเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเห็นผลจริงสำหรับการยกกระชับและฟื้นฟูผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกทำยกกระชับผิวด้วยเครื่องใด ๆ ควรพิจารณาจากปัญหาผิว ความต้องการ และคำแนะนำของแพทย์ พร้อมทั้งดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผิวกระชับ อ่อนเยาว์ และมั่นใจในทุกมิติของความงาม
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ