romrawin

Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ต่างกันอย่างไร เลือกยกกระชับแบบไหนดี

Ultraformer MPT vs Ulthera Prime

Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ต่างกันอย่างไร ถ้าหน้าไขมันเยอะต้องตัวไหนดี
Ultraformer MPT vs Ulthera Prime สองหัตถการตัวตึงเรื่องยกกระชับที่หลายคนที่อยากปรับรูปหน้าแต่กลัวเข็มมักจะสนใจและเปรียบเทียบกันว่า หัตถการสองอันนี้แตกต่างกันอย่างไร บทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนกัน

รวมทุกหัวข้อของ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
- Ultraformer MPT vs Ulthera Prime คืออะไร
- Ultraformer MPT vs Ulthera Prime มีหลักการทำงานอย่างไร
- Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ดีจริงไหม
- จุดเหมือนกันของ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
- ข้อแตกต่างของ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
- เปรียบเทียบแบบเห็นภาพระหว่าง Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
- Ultraformer MPT vs Ulthera Prime สามารถทำร่วมกันได้ไหม
- หัตถการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime เหมาะกับใคร
- ใครควรหลีกเลี่ยงทำหัตถการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
- หัตถการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง
- Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ทำหัตถการไหนเห็นผลกว่ากัน
- Ultraformer MPT vs Ulthera Prime สองหัตถการนี้ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม
- หลังทำหัตถการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ต้องดูแลตัวเองอย่างไร
- ถ้าทำ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime แล้วทำหัตถการอื่นด้วยได้ไหม
- Q and A ของ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime

Ultraformer MPT vs Ulthera Prime คืออะไร
หัตถการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime เป็นเครื่องยกกระชับทั้งคู่ เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูง ( HIFU ) เหมือนกัน แต่ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ก็มีข้อที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ก่อนจะดูว่าทั้งคู่แตกต่างกันอย่างไร เรามาเจาะลึกหลักการทำงานของแต่ละหัตถการกันก่อน เพื่อให้เราได้เข้าใจมากขึ้น

Ultraformer MPT คืออะไร
Ultraformer MPT หรือชื่อเต็มคือ Micro Pulsed Technology คือเทคโนโลยีสมัยใหม่สำหรับการ ยกกระชับผิวหน้าและผิวกาย โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนการดึงหน้าแบบศัลยกรรม

จุดเด่นของ Ultraformer MPT คือการใช้ พลังงานคลื่นเสียงความเข้มข้นสูงแบบเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งพลังงานลงลึกไปถึงชั้นผิวหนังที่เรียกว่า SMAS โดยพลังงานที่ส่งลงไปจะช่วยกระตุ้นให้ผิวหดตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูตึงกระชับขึ้น

Ulthera Prime คืออะไร
Ulthera Prime คือเทคโนโลยีเพื่อการ ยกกระชับผิวหน้าและลำคอ แบบไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเครื่องมืออัลตราซาวด์ที่พัฒนาขึ้นจากนวัตกรรม Ultherapy ดั้งเดิม ซึ่งได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพ มั่นใจได้ในคุณภาพ

ความพิเศษของ Ulthera Prime อยู่ที่การใช้ Focused Ultrasound หรือคลื่นเสียงความถี่สูงที่สามารถลงลึกถึงชั้นผิวระดับลึกสุดที่เรียกว่า SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้าแบบผ่าตัด แต่ Ulthera Prime ทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ทิ้งรอยแผล

Ultraformer MPT vs Ulthera Prime มีหลักการทำงานอย่างไร
การเลือกเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดในปัจจุบันมีหลายตัวเลือก ซึ่งสองชื่อที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดคือ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ทั้งสองต่างเป็นเทคโนโลยีที่เน้นการยกกระชับและฟื้นฟูผิวโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) เรามาดูกันว่าหลักการทำงานของแต่ละตัวเป็นอย่างไร

หลักการทำงานของ Ultraformer MPT
Ultraformer MPT (Micro Pulsed Technology) เป็นเทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เจเนอเรชันล่าสุด ที่ออกแบบมาให้ปล่อยพลังงานในรูปแบบไมโครพัลส์ ซึ่งหมายถึงพลังงานจะถูกปล่อยเป็นจังหวะเล็ก ๆ ถี่ ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดความรู้สึกเจ็บ

พลังงานถูกโฟกัสไปยังผิวชั้นลึกในระดับ SMAS คลื่นพลังงานที่ปล่อยออกมา จะทำให้เกิดความร้อนเฉพาะจุด ทำให้เนื้อเยื่อหดตัว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ความพิเศษของ Ultraformer MPT คือสามารถทำงานได้หลากหลายความลึก ทั้ง 1.5, 3.0, 4.5 mm และมีหัวขนาดเล็กเฉพาะจุดสำหรับบริเวณที่บอบบาง เช่น รอบดวงตา มุมปาก หรือใต้คาง

สรุปหลักการทำงานของ Ultraformer MPT
คือการปล่อยพลังงานแบบไมโครพัลส์ลงสู่ผิวชั้นลึกเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิวในแบบที่เจ็บน้อยกว่า และครอบคลุมบริเวณได้หลากหลายมากกว่า HIFU รุ่นเดิม

หลักการทำงานของ Ulthera Prime
Ulthera Prime คือเวอร์ชันอัปเกรดของเทคโนโลยี Ultherapy ที่เป็นหนึ่งในเครื่องยกกระชับระดับพรีเมียม โดยใช้พลังงานแบบ Focused Ultrasound เช่นกัน แต่มีความแตกต่างที่โดดเด่นหลายจุด
จุดแข็งของ Ulthera Prime อยู่ที่ Real-Time Imaging หรือระบบดูภาพใต้ผิวแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้แพทย์เห็นชั้นผิวชัดเจนก่อนยิง ทำให้การปล่อยพลังงานมีความแม่นยำสูงมาก
พลังงานที่ปล่อยออกมาจะเจาะลึกถึงชั้น SMAS โดยตรงแบบเสถียร มีความร้อนคงที่ ทำให้เนื้อเยื่อหดตัวในทันทีและกระตุ้นการซ่อมแซมของร่างกาย
ความร้อนของ Ulthera Prime มีลักษณะ “Spot Heat” คือเน้นความร้อนเฉพาะจุดอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดการยกกระชับได้ชัดเจน

สรุปหลักการทำงานของ Ulthera Prime
การใช้พลังงานอย่างแม่นยำผ่านระบบภาพ และเน้นความร้อนคงที่ที่จุดเดียว ช่วยให้ผิวกระชับลึกถึงโครงสร้างโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ระดับพรีเมียม

Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ดีจริงไหม
เทคโนโลยียกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดอย่าง Ultraformer MPT vs Ulthera Prime กลายเป็นที่สนใจมากขึ้นในกลุ่มผู้ที่ต้องการดูแลผิวโดยไม่ต้องพักฟื้นหรือเข้ารับการผ่าตัด Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ทั้งสองเครื่องต่างมีจุดเด่นของตัวเอง
การตอบคำถามว่า “Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ดีจริงไหม ” จึงขึ้นอยู่กับคลินิกที่เราใช้บริการ และคุณหมอที่มีประสบการณ์ มั่นใจได้เลยว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุด

ประสิทธิภาพในการยกกระชับ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
ทั้ง Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ในการส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้าแบบผ่าตัด โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ให้ผิวดูกระชับขึ้นดูสดใสอิ่มฟู

Ultraformer MPT
พัฒนาให้ยิงพลังงานเป็นจังหวะเล็ก ๆ เรียกว่า Micro Pulsed Technology ซึ่งช่วยให้กระจายพลังงานได้ทั่วถึงและรู้สึกสบายขึ้นขณะทำ
ใช้ระบบ Real-Time Imaging ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ และเลือกจุดยิงได้ตรงเป้ามากยิ่งขึ้น
ทั้ง Ultraformer MPT vs Ulthera Prime มีผลลัพธ์ที่เห็นได้ในระดับหนึ่งหลังทำ และชัดเจนขึ้นภายใน 2-3 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และควรได้รับการประเมินโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

ความรู้สึกขณะทำและหลังทำ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ต่างก็เป็นเทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นต้องใช้เข็มหรือผ่าตัด ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที ซึ่งถือว่าเหมาะกับผู้ที่ไม่สะดวกพักฟื้น

ความรู้สึกในระหว่างการทำ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไป Ultraformer MPT อาจรู้สึกเบาสบายกว่าสำหรับบางคน เพราะการยิงพลังงานแบบไมโครพัลส์ ส่วน Ulthera Prime อาจมีความรู้สึกได้ชัดกว่า แต่ก็แลกมากับความตรงจุดและผลลัพธ์ที่ลึกขึ้น

ผลลัพธ์ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ดีแค่ไหน
Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ให้ผลลัพธ์ในลักษณะ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่เปลี่ยนทันทีแบบศัลยกรรม แต่ผิวจะค่อย ๆ ดูกระชับ เรียบเนียน และมีโครงหน้าชัดเจนขึ้นตามระยะเวลาที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่

จุดเหมือนกันของ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
แม้ว่า Ultraformer MPT vs Ulthera Prime จะมีรายละเอียดทางเทคนิคที่แตกต่างกัน แต่โดยภาพรวมแล้ว Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ถือว่าอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อการ ยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด และมีจุดเหมือนกันอยู่ 5 ข้อใหญ่ๆ ดังนี้

1.Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (Focused Ultrasound)
Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ต่างใช้หลักการเดียวกัน คือการส่ง พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง ลงลึกไปยังผิวชั้นใน เพื่อกระตุ้นการหดตัวของเนื้อเยื่อและการสร้างคอลลาเจนใหม่โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน

2.Ultraformer MPT vs Ulthera Prime เจาะลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Musculo-Aponeurotic System)
ชั้น SMAS เป็นชั้นผิวหนังที่ลึกและมีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างของใบหน้า ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า
ทั้ง Ultraformer MPT vs Ulthera Prime สามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้นนี้โดยไม่ต้องเปิดผิว ทำให้เกิดผลลัพธ์ด้านความกระชับได้ในระดับโครงสร้าง

3. Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
การทำงานของเครื่อง Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ไม่มีการผ่าตัด ไม่มีการเปิดแผล และไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นหลังทำ
ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้เทคโนโลยีประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานและคนที่มีเวลาจำกัด

4.Ultraformer MPT vs Ulthera Prime จะมีผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไป
หลังจากรับบริการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ผู้ใช้จะเริ่มรู้สึกถึงความกระชับบางส่วนทันทีหลังทำ แต่ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นในช่วง 2-3 เดือน และสามารถคงผลได้นานหลายเดือนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

5.Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ใช้เพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย
Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ต่างก็เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น กรอบหน้าที่ไม่ชัด แก้มตก คางสองชั้น ร่องแก้ม หรือผิวรอบดวงตาที่เริ่มบางและยุบตัว

ข้อแตกต่างของ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
แม้ว่า Ultraformer MPT vs Ulthera Prime จะมีจุดร่วมในเรื่องการยกกระชับผิวโดยไม่ผ่าตัด แต่ทั้งสองเครื่องมี เทคโนโลยีภายใน วิธีการปล่อยพลังงาน และแนวทางการใช้งาน ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

1.เทคโนโลยีการปล่อยพลังงาน Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
Ultraformer MPT
ใช้เทคโนโลยี Micro Pulsed Technology หรือการยิงพลังงานแบบไมโครพัลส์ (พลังงานจังหวะสั้นและถี่) ซึ่งช่วยให้พลังงานกระจายได้สม่ำเสมอ รู้สึกเบากว่าในบางบริเวณ เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความรู้สึกระหว่างทำ

Ulthera Prime
ใช้พลังงาน Focused Ultrasound แบบเฉพาะจุด (Spot-by-Spot) โดยมีความร้อนสม่ำเสมอในแต่ละจุด ส่งผลให้พลังงานลงลึกได้ตรงเป้าหมาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความชัดเจนในบริเวณเฉพาะ เช่น แนวกรอบหน้า หรือยกหางตา

2.ระบบการมองเห็นใต้ผิว Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
Ultraformer MPT
ไม่มีระบบแสดงภาพใต้ผิว แพทย์จะประเมินตำแหน่งจากโครงสร้างภายนอกและประสบการณ์ในการยิง

Ulthera Prime
มีระบบ Real-Time Imaging ที่ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวจริงขณะทำ ช่วยให้การปล่อยพลังงานลงชั้น SMAS

3.ความลึกในการยิงและหัวที่ใช้ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
Ultraformer MPT
มีหัวหลายขนาด (เช่น 1.5, 2.0, 3.0, 4.5 mm) และมีหัวพิเศษสำหรับจุดเล็ก เช่น รอบดวงตา มุมปาก หรือใต้คาง สามารถครอบคลุมบริเวณต่าง ๆ ได้ดีในแต่ละครั้ง

Ulthera Prime
มีหัวมาตรฐาน เช่น 3.0 และ 4.5 mm เน้นการยกกระชับชั้นลึกแบบเฉพาะจุดมากกว่าการครอบคลุมทั่วใบหน้า

4.ความรู้สึกขณะทำ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
Ultraformer MPT
การยิงแบบไมโครพัลส์อาจทำให้รู้สึกเบากว่า เหมาะสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความรู้สึกระหว่างทำหรือผิวไว

Ulthera Prime
อาจรู้สึกชัดกว่าในบางจุด เนื่องจากพลังงานจุดต่อจุดและมีความร้อนสม่ำเสมอ แต่อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถรับได้ และสามารถปรับระดับพลังงานได้ตามเหมาะสม

5.ประสบการณ์หลังทำ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
Ultraformer MPT
ผิวอาจรู้สึกตึงเล็กน้อยหลังทำ ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนในช่วง 1-2 เดือน และสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

Ulthera Prime
อาจเห็นความเปลี่ยนแปลงบางจุดทันที โดยเฉพาะการยกแนวกรอบหน้า และจะชัดเจนขึ้นในช่วง 2-3 เดือน ไม่มีรอยแผลหรือการบาดเจ็บภายนอก

เปรียบเทียบแบบเห็นภาพระหว่าง Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าโดยไม่ผ่าตัดในปัจจุบัน สองชื่อที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางคือ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ซึ่งทั้งสองหัตถการต่างก็มีคุณสมบัติที่น่าสนใจและประสิทธิภาพในด้านการกระชับผิว

เพื่อให้เข้าใจง่ายและเปรียบเทียบได้ชัดเจน เราจึงสรุปมาในรูปแบบ ตารางเปรียบเทียบ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ดังนี้

ตารางเปรียบเทียบ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime

หัวข้อ

Ultraformer MPT

Ulthera Prime

เทคโนโลยี

Micro Pulsed Ultrasound (ยิงพลังงานเป็นจังหวะสั้นถี่)

Focused Ultrasound แบบ Spot Heat (ยิงพลังงานจุดต่อจุด)

ระบบภาพขณะทำ

ไม่มีระบบ Imaging

มี Real-Time Imaging เห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์

ชั้นผิวที่ยิงถึง

ยิงลึกถึง SMAS + ชั้นตื้นหลายระดับ

ยิงตรงถึงชั้น SMAS แบบแม่นยำ

ระดับความรู้สึก

รู้สึกสบายขึ้นในหลายคน เจ็บน้อยกว่ารุ่นเก่า

อาจรู้สึกมากกว่า แต่แลกกับความแม่นยำที่สูงกว่า

ผลลัพธ์หลังทำ

เห็นผลค่อยเป็นค่อยไปใน 1-2 เดือน

อาจเห็นผลทันทีบางส่วน ชัดเจนใน 2-3 เดือน

จำนวนหัวที่ใช้

หลากหลายหัว ครอบคลุมหลายบริเวณ รวมถึงจุดเล็ก ๆ

เน้นหัวมาตรฐาน เน้นการยกเฉพาะจุดสำคัญ

ความเหมาะสม

เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อย ต้องการปรับทั่วหน้า

เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกเฉพาะจุด หางตา แก้มล่าง กรอบหน้า

เวลาทำต่อครั้ง

ประมาณ 30-60 นาที

ประมาณ 45-75 นาที

ระยะเวลาคงผล

ประมาณ 6-9 เดือน (ขึ้นอยู่กับบุคคล)

ประมาณ 9-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับบุคคล)

หลังทำต้องพักฟื้นไหม

ไม่ต้องพักฟื้น

ไม่ต้องพักฟื้น

Ultraformer MPT vs Ulthera Prime สามารถทำร่วมกันได้ไหม
สามารถทำร่วมกันได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การประเมินและวางแผนโดยแพทย์อย่างรอบคอบ โดยหลักการแล้ว Ultraformer MPT vs Ulthera Prime เป็นเครื่องมือที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (Focused Ultrasound) เพื่อยกกระชับผิว แต่ใช้วิธีการปล่อยพลังงานและเน้นเป้าหมายที่แตกต่างกัน

ดังนั้น การผสานการทำงานของ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ทั้งสองเครื่องในบางกรณีจะช่วยเสริมผลลัพธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับการทำร่วมกันเสมอไป

หลักการพิจารณาว่าทำ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ร่วมกันได้หรือไม่
วัตถุประสงค์ของการรักษา
หากต้องการฟื้นฟูผิวทั้งใบหน้าในหลายระดับ เช่น ต้องการยกเฉพาะจุดอย่างชัดเจน (เช่น กรอบหน้า ร่องแก้ม) ควบคู่กับการดูแลผิวทั่วใบหน้า การใช้ Ulthera Prime เพื่อเน้นจุด และใช้ Ultraformer MPT เพื่อกระตุ้นผิวโดยรวม ก็อาจเป็นแผนการรักษาที่เหมาะสม

ระยะห่างในการทำหัตถการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
แม้จะสามารถทำร่วมกันได้ แต่ไม่ควรทำพร้อมกันในวันเดียวกันโดยไม่ได้รับการวางแผนจากแพทย์ โดยทั่วไป แพทย์อาจแนะนำให้เว้นระยะอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ระหว่างหัตถการ เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นฟูตามกลไกของร่างกาย

ประวัติการดูแลผิวและสภาพผิวปัจจุบัน
หากผู้เข้ารับบริการมีประวัติการทำ HIFU หรือ Ultherapy มาก่อน ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการวางพลังงานซ้ำในชั้นผิวเดียวกัน

ความคาดหวังของผลลัพธ์ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
การใช้ Ultraformer MPT เพียงอย่างเดียว อาจเหมาะกับการดูแลเป็นระยะต่อเนื่อง ส่วน Ulthera Prime เหมาะกับการยกเฉพาะจุดที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจน ดังนั้น การผสานทั้งสอง Ultraformer MPT vs Ulthera Prime อาจเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รอบด้านและยอมรับกระบวนการดูแลระยะยาว

ตัวอย่างแนวทางการใช้ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ร่วมกัน
Ulthera Prime ใช้เน้นเฉพาะจุด เช่น บริเวณกรอบหน้า ร่องแก้ม คิ้วยกสูง หางตาตก
Ultraformer MPT ใช้กระตุ้นคอลลาเจนทั่วใบหน้า หรือบริเวณที่ต้องการฟื้นฟูผิวแต่ไม่ต้องการพลังงานเข้มข้นมาก

หัตถการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime เหมาะกับใคร
Ultraformer MPT เหมาะกับใคร
• ผู้ที่เริ่มมีสัญญาณผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย เช่น กรอบหน้าเริ่มไม่ชัด แก้มนิ่ม หรือเหนียงเบา ๆ
• ผู้ที่ต้องการดูแลผิวทั่วใบหน้าและลำคอ โดยเฉพาะบริเวณที่บอบบาง เช่น รอบดวงตา ใต้คาง มุมปาก
• ผู้ที่กังวลเรื่องความรู้สึกระหว่างทำ เพราะ Ultraformer MPT ให้ความรู้สึกเบากว่า
• ผู้ที่ต้องการทำซ้ำทุก 6-9 เดือน เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง
• เหมาะสำหรับการ “บำรุงพื้นฐาน” ของใบหน้า โดยให้ผลทั่วถึงในระดับความลึกหลายชั้น

Ulthera Prime เหมาะกับใคร
• ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในจุดเฉพาะ เช่น หางตาตก ร่องแก้มลึก หรือแนวกรอบหน้าเบลอ
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนในจุดที่ต้องการยกเฉพาะ เช่น คิ้วยกขึ้น กรอบหน้าคมชัด
• ผู้ที่มองหาหัตถการที่มี Real-Time Imaging ช่วยให้แพทย์ยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ
• ผู้ที่ยอมรับความรู้สึกขณะทำได้ในระดับปานกลางถึงมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เชิงโครงสร้าง
• เหมาะสำหรับการทำปีละ 1 ครั้ง เพื่อยกเฉพาะจุดโดยไม่ต้องทำบ่อย

แนวทางการใช้ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ร่วมกัน
ใช้ Ulthera Prime เพื่อเน้นการยกเฉพาะจุด เช่น ยกแนวกรอบหน้า แก้มล่าง หรือหางตา
ใช้ Ultraformer MPT เพื่อเสริมความกระชับทั่วใบหน้า เช่น แก้ม คาง หน้าผาก และลำคอ
Ultraformer MPT vs Ulthera Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจน ดูแลผิวโดยรวมอย่างต่อเนื่อง

ควรเว้นระยะ 2-4 สัปดาห์ระหว่างหัตถการ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวและลดความเสี่ยงจากพลังงานทับซ้อน
การทำร่วมกันควรอยู่ภายใต้แผนการรักษาเฉพาะบุคคล โดยแพทย์มีประสบการณ์

ใครควรหลีกเลี่ยงทำหัตถการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
• ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยง Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
• ผู้ที่มีโรคเรื้อรังที่ยังควบคุมไม่ได้ เช่น โรคหัวใจที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
• ผู้ที่มีแผลเปิด บาดแผลติดเชื้อ หรือผื่นอักเสบในบริเวณที่จะทำหัตถการ
• ผู้ที่มีการฝังโลหะหรือซิลิโคนในบริเวณใบหน้าหรือคาง
• ผู้ที่เพิ่งทำหัตถการผิวอื่น ๆ เช่น เลเซอร์ลอกผิว หรือฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณเดียวกันภายในระยะเวลาอันใกล้
• ผู้ที่มีผิวบอบบางขั้นรุนแรง หรือมีประวัติแพ้ง่ายจนเคยเกิดรอยแดง บวม หรือแผลลึกจากคลื่นพลังงาน

หัตถการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง
Ultraformer MPT สามารถทำได้ในตำแหน่งใดบ้าง
• ใบหน้าทั่วทั้งหน้า เช่น หน้าผาก แก้ม คาง
• ใต้ตาและรอบดวงตา (รวมถึงเปลือกตาบนที่เริ่มหย่อน)
• ร่องแก้ม มุมปาก และบริเวณรอยย่นข้างปีกจมูก
• ใต้คาง คางสองชั้น และแนวกรอบหน้า
• ลำคอด้านหน้า และลำคอด้านข้าง
• ผิวหน้าเนินอก (Décolleté) สำหรับคนที่มีรอยย่นจากแสงแดดหรืออายุ
• เหมาะกับบริเวณที่ต้องการพลังงานที่ไม่รุนแรงมาก และครอบคลุมหลายจุด

Ulthera Prime สามารถทำได้ในตำแหน่งใดบ้าง
• แนวกรอบหน้าและคางล่าง (เน้นยกกระชับเฉพาะจุด)
• คิ้วและหน้าผาก (ช่วยยกคิ้ว ลดความหย่อนคล้อยของเปลือกตาบน)
• หางตาและใต้ตา (ช่วยยกหางตาให้ดูสดใสขึ้น)
• ร่องแก้มลึก แก้มส่วนล่าง (เพื่อปรับความกระชับ)
• ลำคอและใต้คาง (โดยเฉพาะปัญหาคางสองชั้น)
• เนินอก (เฉพาะในบางเคสที่มีความหย่อนคล้อยระดับปานกลาง)
• เหมาะสำหรับจุดที่ต้องการความแม่นยำสูงและผลลัพธ์ที่ลึกถึงโครงสร้างผิว

Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ทำหัตถการไหนเห็นผลกว่ากัน
คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตของคนที่สนใจการยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งคำตอบไม่ได้ตายตัว เพราะทั้ง Ultraformer MPT vs Ulthera Prime มีจุดเด่นต่างกัน และความ “เห็นผลมากหรือน้อย” ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิว อายุ ระดับปัญหาผิว และความคาดหวังของแต่ละคน

หากถามในแง่ "ผลลัพธ์เฉพาะจุด ชัดเจน และแม่นยำ"
Ulthera Prime มักให้ผลลัพธ์ชัดเจนกว่า โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องการการยกเฉพาะจุด เช่น ยกแนวกรอบหน้า ยกคิ้ว หางตา หรือกระชับใต้คาง
เพราะ Ulthera Prime มีระบบ Real-Time Imaging ที่ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวจริง ทำให้ปล่อยพลังงานได้แม่นยำมากขึ้น

หากถามในแง่ "ดูแลผิวทั่วหน้า กระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง"
Ultraformer MPT อาจตอบโจทย์มากกว่า เพราะสามารถยิงครอบคลุมทั่วใบหน้าและบริเวณที่กว้างได้ดี เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มมีปัญหา และต้องการดูแลพื้นฐานโดยไม่รู้สึกเจ็บมาก
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลค่อยเป็นค่อยไป และสามารถทำซ้ำได้ทุก 6-9 เดือน

Ultraformer MPT vs Ulthera Prime สองหัตถการนี้ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม
Ultraformer MPT vs Ulthera Prime เป็นหัตถการที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Focused Ultrasound) ส่งพลังงานลงลึกไปถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นให้ผิวหดตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งให้ผลลัพธ์ด้านความกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด และแม้จะไม่ถาวร แต่ก็อยู่ได้นานพอสมควรเมื่อเทียบกับหัตถการทั่วไป

ผลลัพธ์ของ Ultraformer MPT
• อยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน
• ผิวจะเริ่มกระชับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปภายใน 1-2 เดือนหลังทำ
• หากต้องการคงผลลัพธ์ไว้สม่ำเสมอ แนะนำให้ทำซ้ำ ปีละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับอายุและสภาพผิว

ผลลัพธ์ของ Ulthera Prime
• ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน หรือมากกว่านั้นในบางคน
• ผิวบางจุดอาจเห็นความกระชับทันทีหลังทำ และชัดเจนเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือน
• เนื่องจากมีพลังงานลึกและแม่นยำกว่า จึง มักทำเพียงปีละครั้ง ก็เพียงพอในหลายกรณี

หลังทำหัตถการ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ต้องดูแลตัวเองอย่างไร
• หลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรง ๆ หรือกดผิวบริเวณที่ทำหัตถการ อย่างน้อย 5-7 วัน
เพื่อไม่ให้พลังงานที่ถูกส่งลงไปในชั้นผิวลึกเคลื่อนหรือถูกรบกวน

• งดความร้อนทุกชนิด เช่น การซาวน่า อบไอน้ำ หรืออยู่กลางแดดจัด ประมาณ 7 วัน
เพื่อลดการอักเสบที่อาจเกิดขึ้นหลังผิวโดนพลังงาน

• ทาครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้น เป็นประจำ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวไวและลดความแห้งตึง

• ทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป ทุกวัน และควรหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรง
เพราะหลังทำผิวอาจไวต่อแสงแดดมากขึ้นชั่วคราว

• งดใช้สกินแคร์ที่มีกรดผลไม้ วิตามินเอ หรือเรตินอล ประมาณ 3-5 วัน
เพื่อลดโอกาสการระคายเคืองผิว

• สามารถแต่งหน้าเบา ๆ ได้ในวันถัดไป หากไม่มีอาการแดงหรือระคายเคือง

• ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายใน

• หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้พลังงาน เช่น เลเซอร์ หรือ RF ในบริเวณเดียวกัน ประมาณ 2 สัปดาห์
เพื่อไม่ให้พลังงานซ้อนทับและรบกวนกระบวนการฟื้นฟูของผิว

• สังเกตอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก แดงร้อน หรือเจ็บลึก ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ถ้าทำ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime แล้วทำหัตถการอื่นด้วยได้ไหม
สามารถทำหัตถการอื่นร่วมได้ แต่ควร วางแผนให้เหมาะสม และ เว้นระยะเวลาให้ผิวได้ฟื้นตัว โดยอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้ผิวได้รับพลังงานหรือสารบางชนิดซ้ำซ้อนมากเกินไป

หัตถการที่สามารถทำร่วมกันได้ (เมื่อเว้นระยะเหมาะสม)
โบท็อกซ์ (Botox)
 โบท็อกซ์ สามารถทำได้หลังจากทำ Ultraformer หรือ Ulthera ไปแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์ ช่วยลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา

ฟิลเลอร์ (Filler)
แนะนำให้ทำฟิลเลอร์ หลังจากหัตถการคลื่นเสียงไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไป เพราะการยิงคลื่นอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หากทำก่อน

เลเซอร์ผิว เช่น IPL, Q-switch, Laser Toning
สามารถทำได้ แต่ควร เว้นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวไม่รับพลังงานต่อเนื่องมากเกินไป

เมโสหน้าใส/วิตามินบำรุงผิว
ทำได้หลังจาก Ultraformer MPT หรือ Ulthera ประมาณ 5-7 วัน ขึ้นอยู่กับอาการระคายเคืองผิว

ทรีตเมนต์ผิวทั่วไป เช่น มาสก์หน้า ผลัดเซลล์ผิวเบา ๆ
สามารถทำได้หลังจากผิวฟื้นตัว ไม่มีอาการตึง แดง หรือบวมแล้ว ซึ่งโดยทั่วไปประมาณ 3-5 วัน

หัตถการที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงใกล้เคียง
หัตถการที่ใช้ความร้อนซ้ำ เช่น RF, Thermag , หรือ HIFU เครื่องอื่น ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3-6 เดือน

การลอกผิวด้วยกรดเข้มข้น หรือ สกินแคร์กลุ่มผลัดผิวแรง ๆ ควรเลี่ยงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก

Q and A ของ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
Q1 Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ต่างกันอย่างไร?
A ทั้งสองเครื่องใช้พลังงานคลื่นเสียงเพื่อยกกระชับผิว แต่ Ulthera Prime มีระบบภาพ (Real-Time Imaging) ช่วยให้แพทย์เห็นชั้นผิวจริง ทำให้การยิงพลังงานแม่นยำกว่า ส่วน Ultraformer MPT ยิงพลังงานแบบไมโครพัลส์ เจ็บน้อยกว่า เหมาะกับการดูแลทั่วใบหน้า

Q2 ทำเครื่องไหนแล้วเห็นผลชัดกว่ากัน?
A ถ้าต้องการยกเฉพาะจุด เช่น กรอบหน้า คิ้ว หรือหางตา Ulthera Prime มักเห็นผลชัดเจนกว่า แต่ถ้าต้องการดูแลทั่วหน้าแบบต่อเนื่อง Ultraformer MPT ก็ให้ผลดีในแบบค่อยเป็นค่อยไป

Q3 ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
A Ulthera Prime อยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน ส่วน Ultraformer MPT อยู่ได้ประมาณ 6-9 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ

Q4 สามารถทำสองเครื่องนี้ร่วมกันได้ไหม?
A ทำร่วมกันได้ในบางเคส โดยอาจใช้ Ulthera Prime ยกจุดสำคัญ และใช้ Ultraformer MPT ดูแลผิวทั่วหน้า แต่ควรเว้นระยะห่างระหว่างการทำ และอยู่ภายใต้การวางแผนของแพทย์

Q5 หลังทำต้องพักฟื้นไหม?
A ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ผิวอาจตึง บวมเล็กน้อย หรือแดงจาง ๆ ในบางคน ซึ่งมักหายเองใน 1-3 วัน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime
การยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมของผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือพักฟื้น ซึ่งเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปัจจุบัน คือ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime ทั้งสองเครื่องนี้เป็นนวัตกรรมที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (Focused Ultrasound) ยิงลงสู่ชั้นผิวลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวค่อย ๆ กระชับขึ้นทำให้หน้าดูอิ่มฟู

ถึงแม้จะมีจุดมุ่งหมายเหมือนกัน แต่ Ultraformer MPT vs Ulthera Prime มีความแตกต่างในแง่ของรูปแบบพลังงานและเทคนิคที่ใช้ โดย Ultraformer MPT ใช้เทคโนโลยีแบบไมโครพัลส์ ซึ่งเน้นยิงพลังงานเป็นจังหวะถี่ ๆ รู้สึกเบาขณะทำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลทั่วใบหน้า หรือเริ่มต้นการยกกระชับโดยไม่รู้สึกเจ็บมาก ส่วน Ulthera Prime เน้นการยิงเฉพาะจุด ด้วยจุดเด่นคือระบบ Real-Time Imaging ที่ช่วยให้แพทย์เห็นชั้นผิวจริง ทำให้ปล่อยพลังงานได้ตรงจุดและลึกลงไปยังจุดที่ต้องการยกกระชับอย่างชัดเจน เช่น หางตา คิ้ว หรือกรอบหน้า

สุดท้ายแล้ว การเลือกว่าเครื่องไหนเหมาะกับเราที่สุด ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ และความคาดหวังของผลลัพธ์ หากคุณเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย Ultraformer MPT อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่หากต้องการยกเฉพาะจุดแบบเห็นผลชัดเจน Ulthera Prime ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และในบางคน การใช้ทั้งสองเทคโนโลยีร่วมกันภายใต้แผนการรักษาที่เหมาะสม ก็อาจให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
เรื่อง โปรแกรมยกกระชับใบหน้า ที่คุณอาจสนใจ