Morpheus8 vs Linear Z แตกต่างกันยังไง ช่วยอะไรได้บ้าง
Morpheus8 vs Linear Z
Morpheus8 vs Linear Z แตกต่างกันยังไง ช่วยอะไรบ้าง
ในยุคที่ความงามและความอ่อนเยาว์กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของหลายคน เทคโนโลยีด้านการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง Morpheus8 vs Linear Z ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ทั้งสองเครื่องมือมีจุดเด่นในการกระชับผิว ยกกระชับปรับรูปหน้า ลดความหย่อนคล้อย และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนเต่งตึง โดยใช้วิธีการและเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน
บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ Morpheus8 vs Linear Z ตั้งแต่หลักการทำงาน ข้อดี ข้อจำกัด บริเวณที่สามารถทำได้ ไปจนถึงความรู้สึกขณะทำ ผลลัพธ์ที่ได้ และการดูแลก่อน-หลังทำ เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม ว่าระหว่าง Morpheus8 vs Linear Z แบบไหนตอบโจทย์ปัญหาผิวและความต้องการด้านความงาม
Morpheus8 vs Linear Z คืออะไร
การเปรียบเทียบระหว่าง Morpheus8 vs Linear Z เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากทั้งสองเทคโนโลยีต่างมีเป้าหมายในการยกกระชับ ปรับรูปหน้า และฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนอ่อนเยาว์ แต่ใช้วิธีการและเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละบุคคล
Morpheus8 คืออะไร
Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับและกระชับผิวด้วยคลื่น RF (Radio Frequency) ร่วมกับเข็มไมโครนีดเดิล (Microneedling RF)
ลักษณะเด่นของ Morpheus8
• คลื่น RF ถูกส่งผ่านลงไปยังชั้นผิวลึกได้ถึง 4-5 มม.เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และไขมันใต้ผิว
• ปลายหัวเครื่องมีลักษณะเป็นเข็มขนาดเล็กหลายเข็ม (Microneedle) เจาะผิวลงไป และส่งพลังงาน RF โดยตรง
• เหมาะกับคนที่มี ปัญหาร่องลึก, ผิวหย่อนคล้อย, รูขุมขนกว้าง และแผลเป็นจากสิว
Linear Z คืออะไร
Linear Z คือเทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ที่มีลักษณะพิเศษในการยิงคลื่นอัลตราซาวด์แบบ “เส้นตรง” เพื่อกระตุ้นการยกกระชับในแนวลึก
ลักษณะเด่นของ Linear Z
• ใช้คลื่น HIFU ยิงพลังงานลึกถึงชั้น SMAS (ชั้นเนื้อเยื่อที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า)
• หัว Linear มีลักษณะการยิงคลื่นเป็นเส้นตรง ช่วยยกกระชับได้สม่ำเสมอและครอบคลุม
• เน้นลดไขมันส่วนเกินบริเวณแก้ม กรอบหน้า และเหนียง
Morpheus8 vs Linear Z ทำงานอย่างไร
หลักการทำงานของ Morpheus8 vs Linear Z ต่างอิงกับเทคโนโลยีการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ใช้วิธีส่งพลังงานเข้าสู่ผิวที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้
หลักการทำงานของ Morpheus8
Morpheus8 ใช้เทคโนโลยี Microneedle Fractional Radiofrequency (RF) ซึ่งรวมพลังของเข็มจิ๋ว (Microneedling) เข้ากับคลื่น RF เพื่อฟื้นฟูผิวในระดับลึก
1.Microneedling เจาะผิว
• หัวเครื่องมีเข็มขนาดเล็ก 24-40 เข็ม เจาะลึกลงไปในผิวหนังชั้นลึกได้ถึง 4-5 มิลลิเมตร
• การเจาะผิวนี้กระตุ้นกลไกซ่อมแซมเซลล์ตามธรรมชาติ
2.ปล่อยพลังงาน RF ผ่านปลายเข็ม
• คลื่น RF ถูกส่งผ่านปลายเข็มโดยตรงลงไปในผิวที่ต้องการรักษา
• คลื่นนี้เปลี่ยนเป็น พลังงานความร้อนเฉพาะจุด ทำให้เกิดการ หดตัวของเส้นใยคอลลาเจน และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่
3.Targeted Treatment ในหลายชั้นผิว
• สามารถควบคุมระดับความลึกของเข็มให้ลงไปที่ชั้น หนังแท้ (dermis), ไขมันใต้ผิว, หรือแม้แต่ SMAS ได้
• เหมาะกับการรักษาปัญหาทั้ง ริ้วรอย, รูขุมขนกว้าง, หลุมสิว, ผิวหย่อนคล้อย
หลักการทำงานของ Linear Z
Linear Z คือเทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่เน้นการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเส้นตรง (linear shot) ไปยังชั้นผิวลึก
1.ปล่อยคลื่นเสียงพลังงานสูง
• คลื่นเสียงถูกปล่อยลงสู่ชั้นผิวในรูปแบบของลำเส้น (linear beam) แทนการยิงจุดเหมือน HIFU รุ่นดั้งเดิม
• พลังงานนี้สามารถโฟกัสลงไปที่ SMAS (ชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิว) ได้โดยตรง ซึ่งเป็นชั้นที่ใช้ในการศัลยกรรมดึงหน้า
2.เปลี่ยนคลื่นเสียงเป็นความร้อน
• พลังงานจากคลื่นเสียงถูกแปลงเป็นความร้อนประมาณ 60-70°C
• ความร้อนทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัวทันที พร้อมกระตุ้นการสร้างใหม่ในระยะยาว
3.ไม่มีการเจาะผิวหรือทำร้ายผิวชั้นนอก
• พลังงานผ่านเข้าสู่ผิวลึกโดยไม่ทำลายผิวหนังด้านบน จึงไม่ต้องพักฟื้น
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้า ลดไขมันใต้คาง แก้ม เหนียง โดยไม่ต้องเจ็บตัว
Morpheus8 vs Linear Z ช่วยอะไรบ้าง
Morpheus8 vs Linear Z เป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการความงาม เนื่องจากสามารถช่วยยกกระชับผิว และแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด ทั้งสองเทคโนโลยีมีหลักการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในระดับหนึ่ง แต่ต่างก็มีจุดเด่นด้านการฟื้นฟูผิวและยกกระชับปรับรูปหน้า
Morpheus8 มีข้อดีอะไรบ้าง
• ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย ยกกระชับบริเวณแก้ม ร่องแก้ม คาง คอ และกรอบหน้าได้อย่างชัดเจน
• ลดหลุมสิวและแผลเป็นจากสิว RF ผ่านปลายเข็มช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้เต็มขึ้น
• กระชับรูขุมขน - ผิวเรียบเนียนขึ้น ทำให้ผิวดูละเอียดและสม่ำเสมอขึ้น
• ลดริ้วรอย ร่องลึก โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก ใต้ตา และร่องแก้ม
• ลดไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้มล่างหรือเหนียง พลังงาน RF ช่วยสลายไขมันบางส่วนได้ในระดับลึก
• ยกคิ้วและเปลือกตาบนตก กระตุ้นการหดตัวของผิว ทำให้หนังตาดูยกขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
• ฟื้นฟูความหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน / ลดน้ำหนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวเริ่มหย่อนหลังลดน้ำหนักหรือคลอดบุตร
Linear Z มีข้อดีอะไรบ้าง
• ยกกระชับผิวหน้าและลำคอ โดยเฉพาะบริเวณแก้มล่าง เหนียง และคาง
• ลดไขมันใต้คาง - คางสองชั้น พลังงาน HIFU ช่วยสลายไขมันบางส่วนในชั้นลึก
• ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น (V-shape) ยกกระชับใบหน้าให้ดูชัดเจนโดยไม่ต้องศัลยกรรม
• ฟื้นฟูโครงสร้างผิวในชั้นลึก กระตุ้นคอลลาเจนใน SMAS ทำให้ผิวตึงแน่นขึ้น
• แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยในผู้มีอายุ เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีความหย่อนคล้อยในช่วงวัย 30-50 ปี
• ไม่มีบาดแผล - ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
Morpheus8 vs Linear Z ทำบริเวณไหนได้บ้าง
การเลือกบริเวณในการทำ Morpheus8 vs Linear Z มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการยกกระชับและแก้ปัญหาผิว โดยทั้งสองเทคโนโลยีสามารถใช้ได้กับหลายตำแหน่งในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลำคอ และบางส่วนของลำตัว
Morpheus8 ทำบริเวณใดได้บ้าง
Morpheus8 ใช้พลังงาน RF ร่วมกับเข็ม Microneedle สามารถปรับระดับความลึกได้หลายชั้น จึงเหมาะกับการรักษาหลายตำแหน่ง
บริเวณใบหน้า
• แก้ม ร่องแก้ม กรอบหน้า - ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ปรับโครงหน้าให้คมชัดขึ้น
• ใต้ตา หางตา หน้าผาก - ลดริ้วรอย ยกคิ้ว ลดรอยเหี่ยวย่น
• คาง เหนียง ลำคอ - ลดไขมันสะสม กระชับผิวบริเวณคอและแนวกรอบหน้า
• ข้างจมูก จมูก - ลดรูขุมขนกว้าง ควบคุมความมัน
• ทั่วใบหน้า - ฟื้นฟูผิวโดยรวม กระตุ้นคอลลาเจนและลดปัญหาผิวไม่เรียบ
บริเวณลำตัว
• ต้นแขน หน้าท้อง ขา - กระชับผิวที่หย่อนคล้อย เช่น หลังคลอดหรือหลังลดน้ำหนัก
• ลำคอ เนินอก - ลดริ้วรอยบริเวณคอและช่วงอก
• บริเวณผิวแตกลาย เช่น สะโพก หัวเข่า - ช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนขึ้น
Linear Z ทำบริเวณใดได้บ้าง
Linear Z เป็นเทคโนโลยี HIFU แบบ Linear Shot ที่ยิงคลื่นเสียงลงลึกถึงชั้น SMAS โดยไม่ทำร้ายผิวชั้นบน เหมาะกับการยกกระชับและลดไขมันเฉพาะจุด
• แก้มล่าง เหนียง คางสองชั้น - ลดไขมันส่วนเกิน กระชับแนวกรอบหน้า
• กรอบหน้า กราม ข้างแก้ม - ยกกระชับผิวให้ได้รูปหน้าเรียวแบบ V-shape
• หน้าผาก หางตา คิ้ว - ช่วยยกบริเวณหน้าผาก คิ้วตก หนังตาหย่อน
• ลำคอ - แก้ปัญหาผิวหย่อนที่คอโดยไม่ต้องผ่าตัด
Morpheus8 vs Linear Z ยิงกี่ช็อตถึงเห็นผล
จำนวนช็อตที่ใช้ในการทำ Morpheus8 vs Linear Z มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการยกกระชับและผลลัพธ์ โดยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น บริเวณที่ทำ ปัญหาผิว ความหย่อนคล้อย ระดับไขมัน และแผนการรักษาที่แพทย์ประเมิน
Morpheus8 ยิงกี่ช็อตถึงเห็นผล
เทคโนโลยี Microneedling RF
รูปแบบ ยิงพลังงานเป็นจุด ลึกลงไปในผิวผ่านเข็มเล็ก
ปริมาณช็อตที่ใช้โดยเฉลี่ย
• ทั่วใบหน้า 1,000 - 2,000 ช็อต
• เฉพาะจุด เช่น แก้มล่าง เหนียง ใต้ตา 300 - 800 ช็อต
• พื้นที่ใหญ่ เช่น ลำคอ + หน้าอก หรือ หน้าท้อง 2,000 - 3,000 ช็อต
เห็นผลเมื่อไหร่
• เริ่มเห็นการกระชับทันทีหลังทำประมาณ 10-20%
• เห็นผลชัดเจนภายใน 4-6 สัปดาห์
• ผลลัพธ์จะพัฒนาเรื่อย ๆ จนเต็มที่ที่ 2-3 เดือน
• แนะนำทำ 2-3 ครั้งห่างกันเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลชัดและคงผลลัพธ์ได้นาน 6-12 เดือน
Linear Z ยิงกี่ช็อตถึงเห็นผล
เทคโนโลยี HIFU แบบ Linear Shot
รูปแบบ ยิงพลังงานเป็นเส้น (ไม่ใช่จุด) โดยกระจายพลังงานครอบคลุมพื้นที่มากกว่าการยิงแบบดั้งเดิม
ปริมาณช็อตที่ใช้โดยเฉลี่ย
• ทั่วใบหน้า 300 - 500 เส้น (lines)
• เฉพาะเหนียง คาง แก้มล่าง 100 - 250 เส้น
• คอหรือเนินอก 150 - 300 เส้น
หมายเหตุ คำว่า “ช็อต” สำหรับ Linear Z มักเรียกว่า “ไลน์” หรือ “Lines” เพราะลักษณะการยิงเป็นเส้นตรงยาว
เห็นผลเมื่อไหร่
• เริ่มรู้สึกตึงขึ้นเล็กน้อยภายใน 1-2 สัปดาห์
• เห็นผลชัดเจนในช่วง เดือนที่ 1 - 2
• ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
• สามารถทำซ้ำได้ทุก 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับปัญหาและอายุผิว
Morpheus8 vs Linear Z กี่วันเห็นผลหลังทำ
การเห็นผลหลังทำ Morpheus8 vs Linear Z จะแตกต่างกันตามกลไกการทำงานของแต่ละเทคโนโลยี โดยทั้งสองไม่ได้ให้ผลแบบทันทีหลังทำ แต่จะค่อย ๆ แสดงผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นตามระยะเวลาที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่และเกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อในชั้นลึก
ระยะเวลาเห็นผลหลังทำ Morpheus8
ช่วงเวลาหลังทำ
• ภายใน 1 - 3 วันแรก ผิวอาจมีรอยแดง รอยจุดเล็ก หรือบวมเล็กน้อยจากรอยเข็ม อาจเริ่มรู้สึกว่าผิวกระชับขึ้นเล็กน้อย
• ภายใน 7 - 14 วัน อาการบวมแดงหาย ผิวดูเรียบขึ้น รู้สึกกระชับขึ้นบางส่วน รอยสิวและหลุมสิวเริ่มจาง
• เห็นผลชัดเจนในช่วง
- 4 - 6 สัปดาห์แรก คอลลาเจนเริ่มสร้างใหม่ ผิวกระชับ เรียบเนียนขึ้น
- ผลเต็มที่ใน 2 - 3 เดือน หลังทำ โดยเฉพาะเรื่องหลุมสิว ร่องลึก และความยืดหยุ่นของผิว
ความต่อเนื่องของผลลัพธ์
• อยู่ได้นานประมาณ 6 - 12 เดือน ขึ้นอยู่กับอายุผิวและการดูแลรักษาหลังทำ
• ควรทำซ้ำ 2 - 3 ครั้งห่างกันทุก 4 - 6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่เสถียร
ระยะเวลาเห็นผลหลังทำ Linear Z
ช่วงเวลาหลังทำ
• ทันทีหลังทำ ผิวอาจรู้สึกตึงขึ้นเล็กน้อยจากผลของการหดตัวในชั้นลึก ไม่มีรอยแผล ไม่บวม ไม่มีสะเก็ด
• ภายใน 7 - 14 วัน เริ่มรู้สึกว่าหน้ากระชับขึ้น กรอบหน้าชัดเจนขึ้น ผิวแน่นขึ้นโดยเฉพาะบริเวณเหนียง คาง และกรอบหน้า
• เห็นผลชัดเจนในช่วง
- 2 - 4 สัปดาห์แรก โครงหน้าชัด ผิวเฟิร์มขึ้น
- ผลเต็มที่ใน 6 - 8 สัปดาห์ โดยเฉพาะการยกกระชับ
ความต่อเนื่องของผลลัพธ์
• อยู่ได้นานประมาณ 4 - 6 เดือน
• แนะนำทำซ้ำทุก 3 - 4 เดือน หากต้องการผลต่อเนื่องในระยะยาว
Morpheus8 vs Linear Z อยู่ได้นานแค่ไหน
Morpheus8 vs Linear Z เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากให้ผลลัพธ์ในระยะกลางถึงยาวโดยไม่ต้องผ่าตัด และสามารถฟื้นฟูโครงสร้างผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่จะแตกต่างกันตามหลักการทำงานของแต่ละเครื่อง รวมถึงปัจจัยเฉพาะบุคคล เช่น อายุผิว พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการดูแลหลังทำ
ระยะเวลาผลลัพธ์ของ Morpheus8
ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้
• อยู่ได้นาน 6 - 12 เดือน หลังจากทำครบคอร์ส
• หากดูแลผิวดี ไม่สูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงแดด ผลลัพธ์อาจอยู่ได้เกิน 1 ปี
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความคงอยู่
• อายุ คนอายุน้อยจะตอบสนองดีและอยู่ได้นานกว่า
• คุณภาพผิวเดิม ถ้าผิวมีคอลลาเจนดีอยู่แล้ว จะตอบสนองได้ดี
• จำนวนครั้งที่ทำ ถ้าทำครบ 2 - 3 ครั้ง ห่างกันทุก 4-6 สัปดาห์ จะช่วยยืดระยะเวลาให้นานขึ้น
• พฤติกรรมหลังทำ การใช้ครีมบำรุงและกันแดดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผลอยู่ได้นาน
ระยะเวลาผลลัพธ์ของ Linear Z
ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้
• อยู่ได้นานประมาณ 4 - 6 เดือน
• เห็นผลเต็มที่ใน 1.5 - 2 เดือน และค่อย ๆ ลดลงตามวงจรการเสื่อมของคอลลาเจน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความคงอยู่
• ลักษณะปัญหาผิว ถ้ามีไขมันสะสมมาก อาจต้องทำซ้ำเร็วขึ้น
• การดูแลหลังทำ เช่น การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ ความร้อน และแสงแดด
• การทำซ้ำต่อเนื่อง หากทำซ้ำทุก 3 - 4 เดือน จะช่วยคงผลได้นานและเสริมให้เห็นผลมากขึ้นในระยะยาว
Morpheus8 vs Linear Z อันตรายไหม
เทคโนโลยี Morpheus8 vs Linear Z จัดอยู่ในกลุ่มหัตถการยกกระชับที่ไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าไม่เป็นอันตราย หากดำเนินการโดยแพทย์และใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม หัตถการทุกประเภทอาจมีความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นอยู่บ้างในระดับที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำ
Morpheus8 vs Linear Z มีผลข้างเคียงไหม
Morpheus8 vs Linear Z แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับว่าไม่เป็นอันตรายและไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างเกิดขึ้นได้ในบางราย ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเพียงชั่วคราว และสามารถหายได้ภายในไม่กี่วัน หากดูแลหลังทำอย่างถูกต้อง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังทำ Morpheus8
• รอยแดง หรือระคายเคืองผิว เกิดจากการเจาะผิวด้วยเข็มไมโคร รอยแดงมักหายภายใน 1-3 วัน
• บวมเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบาง เช่น ใต้ตา
• มีจุดเลือดออกเล็กน้อย บริเวณที่เข็มลงลึก
• เกิดสะเก็ดเล็ก ๆ ในบางจุดที่มีรอยเข็มลึก หรือหากผิวแห้งมาก
• ผิวลอกหรือแห้งหลังทำ พบได้ในบางเคสที่ผิวบอบบาง
• รอยช้ำจุดเล็ก โดยเฉพาะในคนที่มีหลอดเลือดใต้ผิวตื้น
• สีผิวไม่สม่ำเสมอชั่วคราว ในผู้ที่มีผิวเข้ม หรือไวต่อแสง
• รู้สึกอุ่นหรือแสบร้อนหลังทำเล็กน้อย โดยเฉพาะช่วง 24 ชั่วโมงแรก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังทำ Linear Z
• รู้สึกตึงหรือปวดเมื่อสัมผัสผิว มักพบในแนวกรามหรือโหนกแก้ม
• บวมเล็กน้อยเฉพาะจุด มักเกิดภายใน 24-48 ชั่วโมงแรก
• ผิวแดงบางจุด จากความร้อนของคลื่นเสียง (มักหายเองภายในวันเดียว)
• รู้สึกชาเบา ๆ บริเวณที่พลังงานลงลึก (เช่น คาง เหนียง) อาการจะดีขึ้นภายใน 2-7 วัน
• อาการระบมลึก (พบได้น้อยมาก) หากใช้พลังงานสูงเกินไปหรือยิงซ้ำจุดเดิม
Morpheus8 vs Linear Z เจ็บไหมระหว่างทำ
คำถามว่า Morpheus8 vs Linear Z เจ็บไหมระหว่างทำ ? เป็นเรื่องที่หลายคนกังวลก่อนเข้ารับบริการ แม้ทั้งสองเทคโนโลยีจะไม่ใช่การผ่าตัด แต่ระดับความรู้สึกเจ็บขณะทำก็มีความแตกต่างกัน เนื่องจากเทคนิคที่ใช้คนละแบบ โดยสามารถอธิบายอย่างละเอียดได้ดังนี้
ความรู้สึกระหว่างทำ Morpheus8
• ระดับความเจ็บปานกลางถึงสูง (ขึ้นกับความลึกและบริเวณที่ทำ)
• ขณะเข็มลงบนผิวจะรู้สึกเหมือนเข็มเล็ก ๆ จิ้มลงบนผิวซ้ำ ๆ และเกิดความร้อนในจุดที่พลังงานถูกปล่อยออกมา
• หากใช้พลังงานระดับสูง เช่น บริเวณกรอบหน้า หรือแนวคาง อาจรู้สึกแสบหรือเจ็บมากกว่าบริเวณอื่น
ความรู้สึกระหว่างทำ Linear Z
• ระดับความเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง (ขึ้นกับตำแหน่งและความลึกของพลังงาน)
• รู้สึกอุ่น ๆ หรือจี๊ดเล็กน้อยใต้ผิว ขณะยิงพลังงานแต่ละจุด
• บริเวณที่มีไขมันน้อย เช่น แนวกรามหรือโหนกแก้ม อาจรู้สึกจี๊ดชัดเจนกว่า
Morpheus8 vs Linear Z เหมาะกับใคร
แม้ว่า Morpheus8 vs Linear Z จะมีเทคโนโลยีต่างกัน แต่ทั้งสองมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ ยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าให้ชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งกลุ่มคนที่เหมาะกับทั้ง Morpheus8 vs Linear Z มีดังนี้
• Morpheus8 vs Linear Z เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้น เช่น แก้มตก เหนียงเริ่มเห็นชัด กรอบหน้าไม่คม คิ้วตก หนังตาหย่อน
• Morpheus8 vs Linear Z เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับโดยไม่ผ่าตัด ต้องการผลลัพธ์ใกล้เคียงการดึงหน้า แต่ไม่อยากเจ็บหรือพักฟื้น
• Morpheus8 vs Linear Z เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดบนใบหน้า เช่น ไขมันแก้มล่าง เหนียง คางสองชั้น ที่ต้องการลดให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
• Morpheus8 vs Linear Z เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น (V-shape) โดยเฉพาะคนที่กรอบหน้าไม่ชัด หน้าเริ่มบานหรือหย่อนเพราะอายุหรือไขมันสะสม
• Morpheus8 vs Linear Z เหมาะกับผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป หรือเริ่มมีสัญญาณของผิวเสื่อม เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย ผิวขาดความยืดหยุ่น ต้องการดูอ่อนเยาว์แบบไม่พึ่งศัลยกรรม
• Morpheus8 vs Linear Z เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องการให้หน้าตึงจนเกินจริง ต้องการผลที่เห็นชัดแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติของใบหน้า
• Morpheus8 vs Linear Z เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หรือไม่สะดวกมีแผล ทั้งสองเทคโนโลยีใช้เวลาไม่นานหลังทำและสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ (Morpheus8 อาจมีรอยแดงเล็กน้อย 1-2 วัน)
Morpheus8 vs Linear Z ไม่เหมาะกับใคร
แม้ว่า Morpheus8 vs Linear Z จะเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและใช้กันอย่างแพร่หลายในการยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ยังมีบางกลุ่มบุคคลที่ ไม่ควรรับการรักษา หรือ ควรได้รับการประเมินอย่างละเอียดจากแพทย์ก่อนทำ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับทั้ง Morpheus8 vs Linear Z มีดังนี้
• Morpheus8 vs Linear Z ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลเปิด หรือติดเชื้อในบริเวณที่จะทำ เช่น มีสิวอักเสบรุนแรง แผลติดเชื้อ หรือผื่นผิวหนังเฉียบพลัน
• Morpheus8 vs Linear Z ไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร แม้ไม่มีข้อห้ามทางตรง แต่ไม่แนะนำเนื่องจากยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยเพียงพอในกลุ่มนี้
• Morpheus8 vs Linear Z ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคผิวหนังเรื้อรังในบริเวณใบหน้า เช่น โรคสะเก็ดเงิน, โรคลูปัส, ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่ยังไม่หายดี
• Morpheus8 vs Linear Z ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติเป็นคีลอยด์ง่ายหรือแผลเป็นนูน โดยเฉพาะกรณี Morpheus8 ซึ่งมีการเจาะผิวด้วยเข็ม อาจกระตุ้นให้เกิดรอยแผลเป็นนูนได้ในบางราย
• Morpheus8 vs Linear Z ไม่เหมาะกับผู้ที่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรืออุปกรณ์ฝังในร่างกายที่ไวต่อคลื่นไฟฟ้า โดยเฉพาะ Morpheus8 ที่ใช้คลื่น RF อาจรบกวนสัญญาณของอุปกรณ์ได้
• Morpheus8 vs Linear Z ไม่เหมาะกับผู้ที่เพิ่งทำศัลยกรรม หรือฉีดสารเติมเต็ม ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์เพื่อป้องกันการกระทบต่อผลลัพธ์เดิม
• Morpheus8 vs Linear Z ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีประวัติติดเชื้อแทรกซ้อนง่าย ทั้งนี้แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
วิธีเตรียมตัวก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z
แม้ว่า Morpheus8 vs Linear Z จะใช้เทคโนโลยีต่างกัน แต่การเตรียมตัวก่อนรับบริการสามารถใช้แนวทางเดียวกันได้ โดยมีจุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผิวอยู่ในสภาพพร้อมที่สุด ลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง และเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับและฟื้นฟูผิว โดยแนวทางการเตรียมตัวก่อนทำ ใช้ได้กับทั้ง Morpheus8 vs Linear Z ได้แก่
1.ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนจัด
• ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z หลีกเลี่ยงการตากแดดโดยตรงอย่างน้อย 5-7 วันก่อนทำ
• ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z ห้ามอาบแดด ซาวน่า หรืออบไอน้ำ เพราะผิวอาจระคายเคืองง่ายขึ้น
2.ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z งดการขัดผิวและทำหัตถการผิวหน้าอื่น ๆ
• ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z งดการลอกผิว (chemical peel), ทำเลเซอร์, AHA, Retinol หรือ Dermabrasion อย่างน้อย 5 วันก่อนทำ
• ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z ห้ามนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์รุนแรงในบริเวณที่จะรับการรักษา
3.ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z งดการฉีดสารเติมเต็มหรือศัลยกรรมในบริเวณใบหน้า
• หากเคยฉีดฟิลเลอร์หรือไขมัน ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z
• หากเพิ่งทำศัลยกรรม เช่น ตัดหนังตา เสริมคาง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z
4.ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z งดใช้ยาและอาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย
• เช่น แอสไพริน, น้ำมันปลา, วิตามินอี, กระเทียม หรือโสม ควรงดก่อนทำ 3-5 วัน
• หากมียาที่ต้องใช้ประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z ทุกครั้ง
5.ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมาก ๆ
• การนอนหลับและดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวอยู่ในสภาพพร้อมรับพลังงาน
• ผิวที่ชุ่มชื้นจะตอบสนองต่อหัตถการได้ดีกว่าผิวแห้งหรือขาดน้ำ
6.ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z งดแต่งหน้าในวันทำ
• ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z ควรล้างหน้าให้สะอาด ไม่แต่งหน้า ไม่ทาครีมหรือกันแดด เพื่อให้เครื่องมือสัมผัสผิวได้เต็มประสิทธิภาพ
7.ก่อนทำ Morpheus8 vs Linear Z แจ้งประวัติสุขภาพและโรคประจำตัว
• เช่น ประวัติแพ้ยาชา, เป็นโรคผิวหนังเฉพาะที่, มีอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น Pacemaker
• หากมีการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรแจ้งแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Morpheus8 vs Linear Z
แม้ว่า Morpheus8 vs Linear Z จะมีเทคโนโลยีที่ต่างกัน แต่การดูแลตัวเองหลังทำสามารถใช้แนวทางเดียวกันได้เกือบทั้งหมด เพื่อให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับและฟื้นฟูผิวที่น่าพึงพอใจ และช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยแดง บวม หรือผิวลอก แนวทางการดูแลตัวเองหลังทำ ใช้ได้กับทั้ง Morpheus8 vs Linear Z ได้แก่
1.หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนจัดอย่างน้อย 7 วัน
• หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z ห้ามออกแดดโดยตรงโดยไม่ป้องกัน
• หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z หลีกเลี่ยงการอาบแดด ซาวน่า อบไอน้ำ หรือกิจกรรมที่ทำให้ผิวร้อน เช่น ออกกำลังกายหนัก
2.หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z งดการขัดผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์
• หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z ห้ามใช้ AHA, BHA, เรตินอล หรือกรดวิตามินชนิดใด ๆ ในช่วง 5-7 วันหลังทำ
• หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์สูงในช่วงผิวกำลังฟื้นตัว
3.หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z ทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นประจำ
• เน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลอบประโลมผิว (เช่น ceramide, hyaluronic acid, centella asiatica)
• เพิ่มการปกป้องผิวเพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือผิวแห้งลอก
4.หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
• หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30-50 ขึ้นไป
• ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหากต้องออกกลางแจ้ง
5.หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
• ช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้นจากการกระตุ้นคอลลาเจนและการอักเสบเล็กน้อยใต้ผิว
6.หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าใน 24 ชั่วโมงแรก
• โดยเฉพาะหลังทำ Morpheus8 ที่มีรอยเข็มเล็ก ๆ ควรปล่อยให้ผิวฟื้นตัวก่อน
7.หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z ห้ามแกะ เกา หรือกดผิวบริเวณที่ทำ
• หากมีสะเก็ดเล็ก ๆ หรือรอยแดงบางจุด ควรปล่อยให้หลุดลอกตามธรรมชาติ
8.หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z งดทรีตเมนต์หรือเลเซอร์อื่น ๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังทำ
• หลังทำ Morpheus8 vs Linear Z ควรเว้นระยะให้ผิวฟื้นตัวก่อนเริ่มหัตถการใหม่
FAQ คำถามที่พบบ่อย Morpheus8 vs Linear Z
Morpheus8 vs Linear Z ต้องพักฟื้นไหม นานกี่วัน
คำตอบคือ ทั้ง Morpheus8 vs Linear Z เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นในระยะยาวเหมือนการทำศัลยกรรม แต่ในที่นี้การพักฟื้นหมายถึงระยะเวลาที่ผิวต้องการการดูแลพิเศษ หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า แสงแดด หรือกิจกรรมบางอย่าง เพื่อให้ผลลัพธ์ดีและลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง
Morpheus8 vs Linear Z ทำยกกระชับร่วมกันได้ไหม
คำตอบคือ Morpheus8 vs Linear Z สามารถใช้ร่วมกันได้ในการยกกระชับใบหน้า เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ครอบคลุมทั้งชั้นผิวต่าง ๆ และแก้ปัญหาได้หลายมิติในคราวเดียว แต่ไม่ควรทำในวันเดียวกันบริเวณเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองผิว แนะนำให้เว้นระยะห่างประมาณ 1-2 สัปดาห์ หากทำบริเวณซ้อนทับกัน เช่น แก้ม เหนียง หรือกรอบหน้า และต้องวางแผนอย่างเหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์
Morpheus8 vs Linear Z ฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ได้ไหม
คำตอบคือ ทำ Morpheus8 vs Linear Z สามารถฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ได้ แต่ควรทำด้วยการวางแผนที่เหมาะสม และจัดลำดับเวลาที่ถูกต้อง โดยขึ้นอยู่กับว่าจะทำหัตถการใดก่อน ฉีดในบริเวณเดียวกันหรือคนละบริเวณ เวลาที่เว้นระหว่างแต่ละการรักษา แนะนำปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
สรุปความแตกต่างของ Morpheus8 vs Linear Z
สรุปว่า Morpheus8 vs Linear Z ต่างเป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ทันสมัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าให้คมชัดโดยไม่ต้องผ่าตัด จุดแตกต่างสำคัญอยู่ที่เทคโนโลยีและระดับความลึกของพลังงานที่ลงสู่ชั้นผิว โดย Morpheus8 ใช้คลื่น RF ผ่านเข็ม Microneedle เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในระดับลึกและซ่อมแซมผิวอย่างตรงจุด ขณะที่ Linear Z ใช้คลื่น HIFU แบบ Linear Shot เพื่อยกกระชับชั้น SMAS โดยไม่ทำให้ผิวเกิดบาดแผล
การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมจึงควรพิจารณาจากสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข ระดับความเจ็บที่ยอมรับได้ รวมถึงระยะเวลาการฟื้นตัวที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและครอบคลุมยิ่งขึ้น ยังสามารถนำเทคโนโลยีทั้งสองมาใช้ร่วมกันได้ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ