Ultraformer MPT vs Ultraformer III ต่างกันอย่างไร เลือกยกกระชับแบบไหนดี
Ultraformer MPT vs Ultraformer III
Ultraformer MPT vs Ultraformer III ต่างกันอย่างไร เลือกยกกระชับแบบไหน
Ultraformer MPT vs Ultraformer III ต่างกันอย่างไร
ปัจจุบันการดูแลผิวหน้าและยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดได้รับความนิยมมากขึ้น เทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมของผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้า โดยในบรรดาเครื่อง HIFU ที่ได้รับความนิยมสูง ได้แก่ Ultraformer III และรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นอย่าง Ultraformer MPT เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองรุ่น Ultraformer MPT vs Ultraformer III ต่างก็มีข้อดี จุดเด่น และเหมาะกับผู้ใช้ที่แตกต่างกัน
บทความนี้จะพาไปเจาะลึกความแตกต่างระหว่าง Ultraformer MPT vs Ultraformer III ตั้งแต่หลักการทำงาน ผลลัพธ์ที่ได้ จำนวนช็อตที่เหมาะสม บริเวณที่สามารถทำได้ ไปจนถึงข้อควรระวังและวิธีดูแลหลังทำ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกหัตถการที่เหมาะกับตัวเอง
Ultraformer MPT vs Ultraformer III คืออะไร
Ultraformer MPT vs Ultraformer III คือเครื่องมือยกกระชับผิวหน้าและกระตุ้นคอลลาเจนที่ใช้เทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในวงการความงาม เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ในการกระชับผิวอย่างชัดเจน
โดย Ultraformer MPT vs Ultraformer III มีความแตกต่างกันในด้านเทคโนโลยีและประสิทธิภาพ ดังนี้
Ultraformer MPT คืออะไร
Ultraformer MPT คือรุ่นล่าสุดของ Ultraformer ซึ่งพัฒนาขึ้นจาก Ultraformer III โดยใช้เทคโนโลยี MPT (Micro Pulse Technology) ซึ่งสามารถยิงพลังงานได้แม่นยำมากขึ้น ปรับความลึกได้ละเอียด และครอบคลุมพื้นที่มากกว่าด้วยรูปแบบการยิงทั้งแบบจุด (Dot Mode) และเส้น (Linear Mode)
Ultraformer III คืออะไร
Ultraformer III คือเครื่องยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะจุด ( HIFU ) ที่สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้สามารถยกกระชับผิวและลดความหย่อนคล้อยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
หลักการทำงาน Ultraformer MPT vs Ultraformer III
หลักการทำงานของ Ultraformer MPT vs Ultraformer III แม้จะใช้เทคโนโลยีพื้นฐานเดียวกันคือ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) หรือคลื่นเสียงความเข้มข้นสูงที่เน้นเฉพาะจุดในการยกกระชับผิว
แต่ Ultraformer MPT vs Ultraformer III มีความแตกต่างในด้านรายละเอียดทางเทคนิค ประสิทธิภาพ และรูปแบบการปล่อยพลังงาน ซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์และประสบการณ์ของผู้เข้ารับบริการ ดังนี้
หลักการทำงานของ Ultraformer MPT 4D LIFT
Ultraformer MPT (Micro Pulse Technology) คือเวอร์ชันที่พัฒนาใหม่ของ Ultraformer โดยยังคงใช้หลักการ HIFU เช่นเดียวกัน แต่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพและความละเอียดของพลังงานที่ปล่อยออกมา
ความโดดเด่นของ Ultraformer MPT
1.Micro Pulse Technology (MPT)
ส่งพลังงานในรูปแบบไมโครพัลส์ที่สั้นและถี่กว่าเดิม ทำให้การกระจายพลังงานมีความนุ่มนวลและต่อเนื่องมากขึ้น ลดความเจ็บขณะทำ และเพิ่มความสม่ำเสมอในการยกกระชับ
2.โหมดการยิงพลังงาน 2 รูปแบบ
• Dot Mode เหมือนกับ Ultraformer III เหมาะสำหรับจุดที่ต้องการพลังงานเฉพาะเจาะจง
• Linear Mode ยิงเป็นเส้นตรงต่อเนื่อง ทำให้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น และยกกระชับได้สม่ำเสมอ
3.ระดับความลึกที่หลากหลายมากขึ้น
ครอบคลุมตั้งแต่ 1.5 mm, 2.0 mm, 3.0 mm, 4.5 mm จนถึง 6.0 mm ช่วยจัดการทั้งปัญหาผิวตื้น ผิวลึก รวมถึงไขมันสะสมและชั้น SMAS ได้อย่างครอบคลุม
4.ความแม่นยำสูง
ระบบใหม่ช่วยควบคุมความลึกและตำแหน่งของพลังงานได้แม่นยำขึ้น ลดโอกาสที่พลังงานจะไปกระทบผิวผิดตำแหน่ง
5.ให้ผลลัพธ์รวดเร็วขึ้น
เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ และพัฒนาเต็มที่ใน 2-3 เดือน
หลักการทำงานของ Ultraformer III
Ultraformer III ทำงานโดยการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (HIFU) ลงไปยังชั้นผิวในระดับลึก ได้แก่
• 1.5 mm ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• 3.0 mm ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) เพื่อยกกระชับผิวชั้นกลาง
• 4.5 mm ชั้นพังผืด SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า
พลังงานที่ส่งลงไปจะทำให้เกิดความร้อนเฉพาะจุดประมาณ 60-70°C ทำให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนเก่า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว ส่งผลให้ผิวแน่นกระชับขึ้นตามธรรมชาติ
รูปแบบการยิงพลังงาน
• ยิงเป็น “จุดต่อจุด” (Dot Mode)
• ระยะห่างระหว่างจุดกำหนดไว้ล่วงหน้า
• ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับแต่มีความแม่นยำจำกัดเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีใหม่
จุดเด่นของ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
จุดเด่นของ Ultraformer MPT vs Ultraformer III มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แม้จะใช้เทคโนโลยี HIFU เหมือนกันในการยกกระชับผิว แต่ Ultraformer MPT ถือเป็นเวอร์ชันที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจาก Ultraformer III ทั้งในด้านความแม่นยำ ประสิทธิภาพ และประสบการณ์ของผู้เข้ารับบริการ
โดย Ultraformer MPT vs Ultraformer III มีจุดเด่นที่แตกต่างกันดังนี้
จุดเด่นของ Ultraformer MPT 4D LIFT
• เทคโนโลยี Micro Pulse Technology (MPT) ปล่อยพลังงานในรูปแบบ "ไมโครพัลส์" ที่มีความแม่นยำและนุ่มนวลกว่า ลดความรู้สึกเจ็บและให้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอมากขึ้น
• รูปแบบการยิง 2 ระบบ Dot + Linear เพิ่ม Linear Mode ที่ยิงเป็นเส้นต่อเนื่อง ทำให้สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่าและลดช่องว่างระหว่างจุดพลังงาน
• รองรับหัวยิงความลึกสูงสุดถึง 6.0 mm เข้าถึงชั้นไขมันลึกและ SMAS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยมาก
• ให้ผลลัพธ์เร็วขึ้น เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ และผลชัดเจนใน 2-3 เดือน
• อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางหรือผิวแพ้ง่าย ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังทำ เช่น รอยแดงหรือบวม
• กระตุ้นคอลลาเจนได้ลึกและทั่วถึงกว่า เพราะสามารถปรับพลังงานได้ละเอียด และยิงได้ทั้งแนวตั้ง แนวนอน และลึกในจุดที่ต้องการ
• ให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้น เมื่อเทียบกับ Ultraformer III ผลลัพธ์ของ MPT อยู่ได้นานกว่าในหลายกรณี
จุดเด่นของ Ultraformer III
• เป็นเครื่อง HIFU รุ่นมาตรฐานที่ได้รับความนิยมสูง ผ่านการใช้งานมายาวนานและมีการรับรองความปลอดภัย
• ยกกระชับด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะจุด กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึก เช่น ชั้น SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัด
• ใช้หัวส่งพลังงาน 3 ระดับความลึก 1.5 mm (ผิวชั้นตื้น), 3.0 mm (ผิวชั้นกลาง), 4.5 mm (ชั้น SMAS)
• ยิงพลังงานแบบจุด (Dot Mode) เหมาะสำหรับบริเวณที่ต้องการยกกระชับเฉพาะเจาะจง เช่น เหนียง คิ้ว หางตา
• ไม่ต้องพักฟื้น ทำแล้วสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ข้อดีของ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
Ultraformer MPT vs Ultraformer III ต่างเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงความเข้มข้นสูงแบบเฉพาะจุด (HIFU - High Intensity Focused Ultrasound) ที่ได้รับความนิยมในวงการความงาม เนื่องจากสามารถช่วยยกกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้า และฟื้นฟูสภาพผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
แม้จะใช้เทคโนโลยีพื้นฐานเดียวกัน แต่ Ultraformer MPT vs Ultraformer III มีความสามารถและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในด้านความละเอียด ความลึก และระดับประสิทธิภาพ ดังนี้
Ultraformer MPT ช่วยอะไรบ้าง
• ยกกระชับและปรับรูปหน้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น ยิงพลังงานได้ทั้งแบบจุด (Dot Mode) และเส้นตรง (Linear Mode) ครอบคลุมพื้นที่ได้ดีขึ้น
• ลดไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น เหนียง แก้มล่าง หรือไขมันใต้คาง ด้วยหัวลึกถึง 6.0 mm ที่ Ultraformer III ไม่มี
• กระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวได้ทั่วถึง ฟื้นฟูโครงสร้างผิวในหลายชั้นพร้อมกัน จึงได้ผลลัพธ์ที่แน่นและยาวนานกว่า
• ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและกระชับทั่วทั้งใบหน้า โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาผิวบางหรือเคยผ่านการทำหัตถการมาแล้วหลายครั้ง
• ลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าและลำคอ ในระดับปานกลางถึงรุนแรง เหมาะกับผู้ที่อายุมากขึ้น หรือมีไขมันสะสมในบางจุดมากกว่าปกติ
• ให้ผลลัพธ์ที่ไวและยาวนาน เริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์หลังทำ และคงผลลัพธ์ได้นานหลายเดือน
• เหมาะสำหรับปรับโครงหน้าโดยไม่ผ่าตัด เช่น ยกคิ้ว ยกหางตา ดึงแก้ม ยกคาง ลดเหนียง โดยไม่ต้องใช้เข็มหรือมีด
Ultraformer III ช่วยอะไรบ้าง
• ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย เช่น ร่องแก้ม หางตาตก คิ้วตก กรอบหน้าไม่ชัด คางสองชั้น
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวแน่นขึ้น มีความยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์
• ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ด้วยการสลายไขมันบางส่วนบริเวณกรอบหน้าและเหนียง
• ลดริ้วรอยเล็ก ๆ บนผิวหน้า เช่น รอยตีนกา รอยย่นที่หน้าผาก
• กระชับผิวบริเวณลำคอ ลดความหย่อนคล้อยของผิวใต้คางและลำคอ
Ultraformer MPT vs Ultraformer III ทำจุดไหนบ้าง
เครื่อง Ultraformer MPT vs Ultraformer III ทั้งสองรุ่นสามารถใช้ทำหัตถการยกกระชับผิวหน้าและผิวกายได้หลายบริเวณ โดยอาศัยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (HIFU) ลงลึกสู่ชั้นผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับ และสลายไขมันเฉพาะจุด
แม้ Ultraformer MPT vs Ultraformer III จะทำได้ในบริเวณคล้ายกัน แต่ Ultraformer MPT มีเทคโนโลยีที่พัฒนาให้สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างและลึกกว่ารุ่น III จึงให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและครอบคลุมมากกว่าในหลายจุด
บริเวณที่สามารถทำได้ด้วย Ultraformer MPT 4D LIFT
บริเวณใบหน้า
• ทุกจุดที่ Ultraformer III ทำได้ และให้ผลลัพธ์ที่ละเอียดกว่า
• โดยเฉพาะบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น แก้มล่าง เหนียง หรือกรอบหน้าที่ไม่ชัด
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าในระดับลึก และแม่นยำยิ่งขึ้น
บริเวณลำตัว
• หน้าท้อง กระชับผิวที่หย่อนคล้อย หรือช่วยลดไขมันบางส่วน
• ต้นแขน กระชับผิวแขนและลดไขมันใต้ผิว
• ต้นขา ลดผิวเปลือกส้มหรือเซลลูไลท์
• แผ่นหลังและเอว กระชับและลดไขมันเฉพาะจุด
• เข่า ลดความหย่อนคล้อยของผิวหนังรอบเข่า
จุดเด่นของ MPT คือสามารถเลือกใช้หัวลึกได้ถึง 6.0 mm และโหมดยิงแบบ Linear ทำให้เหมาะกับพื้นที่กว้าง เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือเอว มากกว่ารุ่น III
บริเวณที่สามารถทำได้ด้วย Ultraformer III
บริเวณใบหน้า
• หน้าผาก ยกคิ้ว ลดรอยย่นหน้าผาก
• รอบดวงตา ยกหางตา ลดรอยตีนกา
• แก้ม กระชับแก้มที่หย่อนคล้อย
• ร่องแก้ม ลดความลึกของร่องแก้ม
• กรอบหน้า (Jawline) สร้างกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
• คาง/เหนียง ลดไขมันใต้คางและกระชับผิวคอ
• ลำคอ กระชับผิวบริเวณลำคอ
บริเวณลำตัว
• ท้องแขน กระชับต้นแขนที่เริ่มหย่อน
• หน้าท้อง ช่วยให้ผิวกระชับหลังคลอดหรือน้ำหนักลด
หมายเหตุ Ultraformer III ออกแบบมาเน้นสำหรับการทำบริเวณใบหน้ามากกว่าลำตัว
ใครที่เหมาะกับ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
การเลือกใช้เครื่อง Ultraformer MPT vs Ultraformer III ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยทั้งสองเทคโนโลยีเป็นการยกกระชับผิวด้วยคลื่น HIFU แต่ Ultraformer MPT vs Ultraformer III มีจุดเด่นที่ทำให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ดังนี้
Ultraformer MPT เหมาะกับใคร
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ละเอียดและแม่นยำสูงกว่า MPT ใช้เทคโนโลยี Micro Pulse Technology ยิงคลื่นพลังงานแบบเฉพาะจุด (Dot Mode) และเส้นตรง (Linear Mode) ให้ผลลัพธ์แน่น กระชับ และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
• ผู้ที่มีผิวบางหรือผิวแพ้ง่าย MPT ปรับพลังงานได้ละเอียดและอ่อนโยนมากขึ้น จึงลดโอกาสเกิดการระคายเคืองหรือบวมแดงหลังทำ
• ผู้ที่เคยทำ HIFU มาแล้วและต้องการยกระดับผลลัพธ์ เป็นเวอร์ชันอัปเกรดจาก Ultraformer III ให้ประสิทธิภาพมากกว่าในระดับลึกและครอบคลุมกว่า
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและกระตุ้นคอลลาเจนทั่วหน้า เพราะมีหัวที่ลงลึกหลากหลายและยิงได้ละเอียดในหลายทิศทาง
• ผู้ที่มีอายุ 35-60 ปี เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยชัดเจน เช่น คางสองชั้น ร่องแก้มลึก หรือผิวหน้าไม่กระชับ
Ultraformer III เหมาะกับใคร
• ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น แนวกรอบหน้าเริ่มไม่ชัด คิ้วตก แก้มเริ่มคล้อย
• ผู้ที่ยังไม่เคยทำหัตถการยกกระชับ Ultraformer III เป็นตัวเลือกพื้นฐาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะให้ผลลัพธ์ดีในราคาที่เข้าถึงง่าย
• ผู้ที่ต้องการยกกระชับเฉพาะจุด เช่น ยกหางตา กระชับเหนียง แก้มล่าง ฯลฯ
• ผู้ที่มีอายุ 30-45 ปี อยู่ในช่วงที่คอลลาเจนเริ่มเสื่อมแต่ยังไม่มากเกินไป
ใครที่ไม่เหมาะกับ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
แม้ว่าเครื่อง Ultraformer MPT vs Ultraformer III จะเป็นหัตถการยกกระชับที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็มีบางกรณีที่ไม่แนะนำให้ทำ จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบหรือปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ โดยเปรียบเทียบ Ultraformer MPT vs Ultraformer III ไม่เหมาะกับกลุ่มคนต่อไปนี้
• Ultraformer MPT vs Ultraformer III ไม่เหมาะกับผู้ที่มีบาดแผลเปิด ในบริเวณที่ต้องการทำ เช่น แผลสด รอยสิวอักเสบ หรือการติดเชื้อบนผิว เพราะอาจกระตุ้นให้แย่ลง
• Ultraformer MPT vs Ultraformer III ไม่เหมาะกับผู้ที่มีเพิ่งฉีดฟิลเลอร์ ในบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะภายใน 3-6 เดือน ควรให้แพทย์ประเมินก่อนว่าฟิลเลอร์อยู่ลึกแค่ไหน
• Ultraformer MPT vs Ultraformer III ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เช่น SLE, โรคสะเก็ดเงิน อาจเกิดอาการแพ้หรือการกระตุ้นโรคให้กำเริบได้
• Ultraformer MPT vs Ultraformer III ไม่เหมาะกับผู้ที่มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker) หรืออุปกรณ์ฝังในร่างกายบางประเภท คลื่นเสียงความถี่สูงอาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์ได้
• Ultraformer MPT vs Ultraformer III ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร ยังไม่มีข้อมูลรองรับความปลอดภัยโดยสมบูรณ์ในกลุ่มนี้ จึงควรหลีกเลี่ยง
Ultraformer MPT vs Ultraformer III ควรยิงกี่ช็อต
จำนวนช็อต (Shots) ที่ควรใช้ในการทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล พื้นที่ที่ต้องการรักษา และวัตถุประสงค์ในการทำหัตถการ เช่น ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้า หรือลดไขมันเฉพาะจุด
อย่างไรก็ตาม Ultraformer MPT vs Ultraformer III มีแนวทางทั่วไปที่ใช้พิจารณา ดังนี้
แนวทางยิงช็อต Ultraformer MPT vs Ultraformer III
Ultraformer MPT 4D LIFT
บริเวณ |
จำนวนช็อต (โดยประมาณ) |
ทั่วใบหน้า (Full Face) |
250-450 ช็อต |
ใบหน้า + คอ |
400-600 ช็อต |
แก้ม / กรอบหน้า |
120-180 ช็อต |
เหนียง / คาง |
60-120 ช็อต |
รอบดวงตา / หน้าผาก |
40-80 ช็อต |
ข้อดีของ MPT เทคโนโลยี Micro Pulse + Linear Mode ช่วยให้ใช้จำนวนช็อตน้อยลง แต่ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างและลึกกว่า จึงให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและสม่ำเสมอ
หมายเหตุ
• จำนวนช็อตที่แน่นอนควรประเมินโดยแพทย์ตามปัญหาผิวเฉพาะบุคคล
• ผู้ที่มีใบหน้ากว้าง หรือมีปัญหาความหย่อนคล้อยมาก อาจต้องใช้จำนวนช็อตมากกว่าค่าเฉลี่ย
• ไม่ควรเลือกคลินิกที่โฆษณาราคาถูกแต่ใช้ช็อตน้อยเกินไป เพราะอาจได้ผลลัพธ์ไม่เต็มประสิทธิภาพ
Ultraformer III
บริเวณ |
จำนวนช็อต (โดยประมาณ) |
ทั่วใบหน้า (Full Face) |
300-500 ช็อต |
ใบหน้า + คอ |
500-700 ช็อต |
แก้ม / กรอบหน้า |
150-200 ช็อต |
เหนียง / คาง |
80-150 ช็อต |
รอบดวงตา / หน้าผาก |
50-100 ช็อต |
ข้อควรรู้ Ultraformer III เป็นการยิงแบบ Dot Mode (จุดต่อจุด) การครอบคลุมพื้นที่กว้างอาจต้องใช้จำนวนช็อตมากกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีใหม่
Ultraformer MPT vs Ultraformer III อยู่นานแค่ไหน
ระยะเวลาที่ผลลัพธ์ของ Ultraformer MPT vs Ultraformer III จะคงอยู่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ การดูแลผิวหลังทำ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และสภาพผิวเดิมของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไป Ultraformer MPT vs Ultraformer III มีแนวโน้มของผลลัพธ์ดังนี้
ระยะเวลาผลลัพธ์ของ Ultraformer MPT 4D LIFT
• เริ่มเห็นผลเมื่อไหร่ บางคนเริ่มเห็นผลใน 7-14 วันแรก และชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
• เห็นผลเต็มที่ ภายใน 1-2 เดือน
• อยู่นานแค่ไหน ประมาณ 6-12 เดือน หรือมากกว่านั้นในบางราย
ด้วยเทคโนโลยี Micro Pulse Technology (MPT) และการยิงแบบ Linear Mode ทำให้พลังงานลงลึกและกระตุ้นคอลลาเจนได้ทั่วถึงกว่า ส่งผลให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและแน่นขึ้น
ระยะเวลาผลลัพธ์ของ Ultraformer III
• เริ่มเห็นผลเมื่อไหร่ ภายใน 2-3 สัปดาห์แรกหลังทำ
• เห็นผลเต็มที่ ประมาณ 2-3 เดือน หลังจากคอลลาเจนถูกกระตุ้นและเริ่มสร้างใหม่
• อยู่นานแค่ไหน ประมาณ 4-6 เดือน แล้วแต่สภาพผิวและการดูแลตนเอง
ผลข้างเคียงของ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
การทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III ถือว่าเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล แต่เช่นเดียวกับหัตถการความงามทุกประเภท อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย ที่เกิดขึ้นชั่วคราวได้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของแต่ละคน โดยเปรียบเทียบผลข้างเคียง Ultraformer MPT vs Ultraformer III ดังนี้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นของ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
• ความรู้สึกเจ็บหรือจี้ดขณะทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III พบได้บ่อย โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบาง เช่น ใต้คาง กรอบหน้า หน้าผาก
• ผิวบวมแดงเล็กน้อยหลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III เกิดจากการอักเสบชั่วคราวของเนื้อเยื่อผิวหนัง มักหายภายใน 1-2 ชั่วโมง
• รู้สึกตึงผิวหรือชาเล็กน้อยหลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III เกิดจากพลังงานที่กระทบเส้นประสาทบางส่วน อาจรู้สึกชาชั่วคราว 1-7 วัน
• มีรอยช้ำบริเวณที่ยิงซ้ำหรือใกล้เส้นเลือดฝอย หลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III มักพบในคนที่ผิวบางหรือมีเส้นเลือดฝอยชัด
• อาการระบมลึกภายใต้ผิว หลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III พบได้บางราย โดยเฉพาะหากยิงช็อตจำนวนมากหรือแรงเกินไป อาการจะหายภายใน 3-7 วัน
การเตรียมตัวก่อนทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
การเตรียมตัวก่อนทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III มีแนวทางที่คล้ายกัน เพราะทั้งสองใช้เทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งเป็นการปล่อยคลื่นเสียงลงสู่ผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงของ Ultraformer MPT vs Ultraformer III ควรมีการเตรียมตัวอย่างเหมาะสม ดังนี้
การเตรียมตัวก่อนทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
1.Ultraformer MPT vs Ultraformer III งดการทำหัตถการอื่นล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ ร้อยไหม เลเซอร์แรง ๆ หรือทรีตเมนต์ที่ระคายเคืองผิว เช่น Chemical Peel หรือ Dermabrasion ก่อนทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
2.Ultraformer MPT vs Ultraformer III งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองผิวชั่วคราว
• เช่น ครีมผลัดเซลล์ผิว กลุ่ม Retinol, AHA, BHA หรือวิตามินซีความเข้มข้นสูง อย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
3.Ultraformer MPT vs Ultraformer III หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด หรือมีผิวไหม้แดด
• หากผิวอักเสบจากแดด ควรรอให้ผิวฟื้นตัวก่อนทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบวม แดง หรือเจ็บมากขึ้น
4.Ultraformer MPT vs Ultraformer III แจ้งประวัติทางการแพทย์กับแพทย์ก่อนทำ
• แจ้งประวัติทางการแพทย์กับแพทย์ก่อนทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III เช่น เคยมีโรคผิวหนังเรื้อรัง, กำลังตั้งครรภ์, ให้นมบุตร, ติดเครื่องกระตุ้นหัวใจ, มีฟิลเลอร์/ไหมอยู่ในผิว
5.Ultraformer MPT vs Ultraformer III งดดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนก่อนทำ 24 ชั่วโมง
• แนะนำงดดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนก่อนทำ 24 ชั่วโมง ก่อนทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำหรือบวม
6.Ultraformer MPT vs Ultraformer III พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมากขึ้น
• แนะนำพักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมากขึ้น ก่อนทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III เพื่อให้ผิวและร่างกายอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมสำหรับการกระตุ้นคอลลาเจน
การดูแลหลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
หลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III การดูแลผิวอย่างเหมาะสมมีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของการยกกระชับ ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
โดยทั้งสองเครื่องใช้เทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็ยังมีข้อแนะนำที่ควรปฏิบัติหลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III เหมือนกันหลายอย่าง
แนวทางการดูแลหลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
1.Ultraformer MPT vs Ultraformer III หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดใน 48 ชั่วโมงแรก
• ห้ามอบซาวน่า แช่น้ำร้อน โดนแดดจัด หรือใช้ไดร์ร้อนเป่าหน้า หลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักที่ทำให้หน้าแดงหรือเหงื่อออกมาก หลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
2.Ultraformer MPT vs Ultraformer III งดนวดหน้าหรือกดผิวแรง ๆ
• ภายใน 5-7 วันหลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III ควรหลีกเลี่ยงการนวดแรง เพราะอาจรบกวนพลังงานที่เพิ่งถูกส่งลงชั้นผิว
3.Ultraformer MPT vs Ultraformer III หลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์ที่ระคายเคือง
• งดใช้ Retinol, AHA, BHA, Vitamin C ความเข้มข้นสูง ประมาณ 3-5 วัน หลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
4.Ultraformer MPT vs Ultraformer III เน้นเติมความชุ่มชื้นและปกป้องผิว
• ใช้ครีมบำรุงที่อ่อนโยน เน้นการเติมน้ำให้ผิว หลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
• ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน แม้ไม่ได้ออกแดดโดยตรง หลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III
5.Ultraformer MPT vs Ultraformer III ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนเพียงพอ
• หลังทำ Ultraformer MPT vs Ultraformer III แนะนำดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนเพียงพอ เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวจากภายใน
สรุปความแตกต่าง Ultraformer MPT vs Ultraformer III
สรุปทั้ง Ultraformer MPT vs Ultraformer III ต่างก็เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงแบบเฉพาะจุดในการยกกระชับผิว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
หากเปรียบเทียบ Ultraformer MPT vs Ultraformer III สำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิว การทำ Ultraformer III ถือเป็นตัวเลือกที่ดีและคุ้มค่า ส่วนผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่แม่นยำ ลึกแน่น ชัดเจน และอยู่ได้นานกว่า Ultraformer MPT คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากขึ้น ด้วยความสามารถในการยิงพลังงานได้ทั้งแบบจุดและเส้น รวมถึงเทคโนโลยี Micro Pulse ที่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่า
ไม่ว่าจะเลือกทำระหว่าง Ultraformer MPT vs Ultraformer III การปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการ คือสิ่งสำคัญที่สุดในการได้ผลลัพธ์ที่ดี
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ