romrawin

Ulthera Prime VS Ulthera แตกต่างกันอย่างไร ยกกระชับดีไหม

Ulthera Prime VS Ulthera

Ulthera Prime VS Ulthera ต่างกันอย่างไร ยกกระชับดีไหม
เมื่อพูดถึงการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ชื่อของเครื่องยกกระชับ Ulthera Prime VS Ulthera มักเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ได้รับความไว้วางใจ ด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัส (HIFU) ที่สามารถส่งพลังงานลึกลงสู่ชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวตึงกระชับแลดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพักฟื้น

แม้ทั้งสองเทคโนโลยีจะใช้หลักการเดียวกัน แต่ Ulthera Prime เป็นรุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพิ่มความแม่นยำ ความสบาย และผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น ในบทความนี้จะพาไปรู้ว่า Ulthera Prime VS Ulthera แตกต่างกันอย่างไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง เหมาะกับใครบ้าง รวมถึงคำแนะนำในการดูแลก่อนและหลังทำ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับผิวของคุณได้อย่างมั่นใจ

Ulthera Prime VS Ulthera คืออะไร
เปรียบเทียบระหว่าง Ulthera Prime VS Ulthera ต่างเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยทั้งสองใช้หลักการเดียวกัน แต่ Ulthera Prime เป็นรุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาให้แม่นยำและทันสมัยมากขึ้น มาทำความเข้าใจความแตกต่างของ Ulthera Prime VS Ulthera ว่าคืออะไร

Ulthera คืออะไร
Ulthera หรือชื่อเต็มว่า Ultherapy เป็นเทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ตัวแรก ๆ ที่ได้รับการรับรองจากมาตรฐาน สำหรับการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด

จุดเด่นของ Ulthera
• ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความแม่นยำสูง ลงลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ยกกระชับในการทำศัลยกรรมดึงหน้า
• มีระบบ Real-Time Imaging ที่ช่วยให้แพทย์สามารถเห็นชั้นผิวระหว่างการยิงคลื่น เพื่อกำหนดความลึกได้อย่างแม่นยำ
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง ลดร่องแก้ม กรอบหน้าไม่ชัด หรือเหนียงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

Ulthera Prime คืออะไร
Ulthera Prime คือรุ่นใหม่ล่าสุดที่ต่อยอดจาก Ulthera ดั้งเดิม โดยยังคงหลักการทำงานแบบ HIFU และ Real-Time Imaging เช่นเดิม แต่มีการพัฒนาในหลายด้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และความรู้สึกสบายระหว่างทำของคนไข้มากขึ้น

จุดเด่นของ Ulthera Prime
• Smart Visualization Technology ที่ให้ภาพคมชัดขึ้น แพทย์สามารถเลือกชั้นผิวที่ต้องการโฟกัสพลังงานได้ละเอียดและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
• หัวเครื่องรุ่นใหม่ที่ออกแบบให้เจ็บน้อยลง แต่ยังคงพลังงานเท่าเดิม
• มีระบบคำนวณจำนวน Line ที่ใช้ได้อัตโนมัติ ช่วยควบคุมพลังงานได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
• ใช้เวลาในการรักษาน้อยลง แต่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนในเวลาไม่นาน เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม

หลักการทำงาน Ulthera Prime VS Ulthera
การเปรียบเทียบหลักการทำงานของ Ulthera Prime VS Ulthera มีจุดร่วมสำคัญหลายอย่าง เพราะทั้งสองเทคโนโลยีนี้ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัส (HIFU: High-Intensity Focused Ultrasound) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึกของผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่มีรายละเอียดบางจุดที่ Ulthera Prime ได้รับการพัฒนาให้เหนือกว่าเดิม

หลักการทำงานของ Ulthera (Ultherapy)
1.ใช้คลื่นอัลตราซาวด์แบบโฟกัสความเข้มสูง (HIFU)
• ส่งพลังงานลงสู่ผิวในระดับความลึกที่แม่นยำ เช่น ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้น SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างผิวที่อยู่ลึกถึงกล้ามเนื้อ
• จุดโฟกัสของพลังงานจะทำให้เกิดจุดร้อนขนาดเล็กใต้ผิว ส่งผลให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

2.Real-Time Imaging
• ระบบแสดงภาพขณะยิงพลังงานแบบเรียลไทม์ แพทย์สามารถมองเห็นแต่ละชั้นผิวเพื่อกำหนดตำแหน่งและความลึกของการรักษาได้อย่างแม่นยำ
• ช่วยให้พลังงานส่งลงสู่ตำแหน่งที่ต้องการได้โดยลดความเสี่ยงจากการยิงพลาดชั้นผิว

หลักการทำงานของ Ulthera Prime
Ulthera Prime ใช้หลักการเดียวกับ Ulthera รุ่นดั้งเดิม แต่ถูกพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้นในหลายด้าน เพื่อเพิ่มทั้งประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และความรู้สึกสบายของผู้รับบริการ

1.Smart DeepSEE™ (เวอร์ชันใหม่ของ Real-Time Imaging)
• ระบบการมองเห็นใต้ผิวแบบอัปเกรด ภาพชัดขึ้น แสดงรายละเอียดของแต่ละชั้นผิวได้อย่างลึกและแม่นยำ
• ทำให้แพทย์สามารถประเมินระดับความลึกและความหนาของเนื้อเยื่อเฉพาะบุคคลได้ดีกว่าเดิม ช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง

2.Automatic Line Tracking System
• ระบบคำนวณและควบคุมจำนวนช็อต (line) โดยอัตโนมัติ ช่วยให้แพทย์สามารถส่งพลังงานสม่ำเสมอในทุกตำแหน่ง
• ให้การกระจายพลังงานที่แม่นยำขึ้นในแนวเส้น ไม่เกิดการทับซ้อนหรือเว้นระยะเกินพอดี

3.หัวทิปเวอร์ชันใหม่
• หัวเครื่องได้รับการออกแบบให้ส่งพลังงานได้ดีขึ้น โดยลดความเจ็บปวดระหว่างทำ
• การระบายความร้อนและการส่งพลังงานต่อเนื่องทำได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายมากขึ้นขณะทำหัตถการ

Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยอะไรบ้าง
การทำ Ulthera Prime VS Ulthera มีจุดประสงค์หลักคือการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด และเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นลึก ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Ulthera Prime VS Ulthera มีข้อดีและจุดเด่นของแต่ละเทคโนโลยีที่น่าสนใจดังนี้

1.Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยยกกระชับผิวหน้าและลำคอ
• Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย
• Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยยกกระชับกรอบหน้าไม่ชัด แก้มล่างตก หรือเหนียงใต้คาง
• Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยยกกระชับลำคอเริ่มมีริ้วรอยหรือหนังคอหย่อน

2.Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยยกหางตาและยกคิ้ว
• Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยแก้ปัญหาหนังตาตกหรือคิ้วตก ทำให้ตาดูสดใสขึ้น
• Ulthera Prime VS Ulthera เหมาะกับคนที่ไม่อยากศัลยกรรมยกคิ้ว

3.Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ
• Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผากหรือรอบดวงตา
• Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นหนังแท้

4.Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
• Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยลดขนาดแก้ม กรอบหน้าชัดขึ้นโดยไม่ต้องดูดไขมัน
• Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยให้หน้าเรียวได้โดยไม่ต้องศัลยกรรม

5.Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• Ulthera Prime VS Ulthera ให้ผลลัพธ์ค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำภายใน 2-3 เดือน
• Ulthera Prime VS Ulthera ช่วยให้ผิวแน่นยกกระชับขึ้นจากภายใน

สรุป Ulthera Prime VS Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น แต่ Ulthera Prime ช่วยตอบโจทย์ได้ครอบคลุมกว่าในด้านความสบายขณะทำ ความแม่นยำของพลังงาน และการเห็นผลในเวลาไม่นาน ทั้งสองเหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยตั้งแต่อายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป หรือคนที่อยากฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องเจ็บตัวมาก

Ulthera Prime VS Ulthera ทำบริเวณไหนบ้าง
Ulthera Prime VS Ulthera สามารถใช้ทำหัตถการเพื่อยกกระชับผิวหน้าและลำตัวในบริเวณต่าง ๆ ได้หลากหลาย โดยจุดเด่นคือสามารถลงพลังงานได้ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างแม่นยำ โดย Ulthera Prime จะมีความแม่นยำและเหมาะกับจุดที่ละเอียดอ่อนมากกว่ารุ่นดั้งเดิม สำหรับบริเวณที่สามารถทำได้ระหว่าง Ulthera Prime VS Ulthera มีดังนี้

1.Ulthera Prime VS Ulthera ทำบริเวณใบหน้า
• หน้าผาก - ช่วยลดริ้วรอยหน้าผาก และยกกระชับบริเวณคิ้ว
• รอบคิ้ว / หางตา - ยกคิ้ว แก้ปัญหาหนังตาตก ตาดูสดใสขึ้น
• แก้มส่วนกลาง - ยกผิวหน้าให้เต่งตึง ลดแก้มหย่อน
• กรอบหน้า - กรอบหน้าชัดขึ้น ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแนวกราม
• เหนียง / ใต้คาง - กระชับไขมันใต้คาง ลดเหนียง
• มุมปาก / ร่องแก้ม - ยกมุมปาก ลดความลึกของร่องแก้ม

2.Ulthera Prime VS Ulthera ทำบริเวณลำคอและเนินอก
• ลำคอ - กระชับหนังคอที่หย่อน ป้องกันคอเป็นริ้ว
• เนินอก - ลดรอยย่นในแนวตั้งบริเวณเนินอก (มักพบในคนที่นอนตะแคง)

สรุปทั้ง Ulthera Prime VS Ulthera สามารถทำได้หลายบริเวณ ทั้งใบหน้า ลำคอ และเนินอก โดยเฉพาะบริเวณ ได้แก่ กรอบหน้า เหนียง หางตา ร่องแก้ม คิ้วตก และหนังคอหย่อน แต่ Ulthera Prime เหมาะกับการใช้ในบริเวณที่ผิวบางหรือโครงสร้างละเอียด เนื่องจากมีระบบแสดงผลภาพและพลังงานที่แม่นยำกว่า หากต้องการผลลัพธ์ที่เฉพาะจุด และต้องการลดอาการเจ็บขณะทำ Ulthera Prime จะตอบโจทย์ได้มากกว่า

Ulthera Prime VS Ulthera กี่ครั้งเห็นผล
Ulthera Prime VS Ulthera โดยทั่วไปมักเห็นผลหลังการทำเพียง 1 ครั้ง

• Ulthera Prime VS Ulthera ส่วนใหญ่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่หลังทำ ประมาณ 20-30% และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 1-3 เดือนหลังทำ โดยผลลัพธ์สูงสุดมักอยู่ในช่วง 2-3 เดือน ผลสามารถคงอยู่ได้นานถึง 1 ปีหรือนานกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงวัยและคุณภาพผิวของแต่ละบุคคล
• โดยทั่วไป Ulthera Prime VS Ulthera ทำแค่ครั้งเดียวก็เพียงพอ สำหรับการยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจน แต่ในบางรายที่มีความหย่อนคล้อยมาก หรือผิวค่อนข้างหนา อาจต้องทำซ้ำ 2-3 ครั้ง ห่างกันประมาณ 4-6 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานขึ้น
• ข้อดีสำคัญคือไม่ต้องพักฟื้นและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

สรุป Ulthera Prime VS Ulthera ส่วนใหญ่เห็นผลหลัง 1 ครั้ง ผลชัดเจนใน 2-3 เดือน และอยู่นาน 1 ปี แต่จะทำซ้ำหรือไม่ขึ้นกับสภาพผิวและเป้าหมายของแต่ละคน

Ulthera Prime VS Ulthera ควรยิงกี่ช็อต
จำนวนช็อต หรือ ไลน์ (Line) ที่แนะนำสำหรับ Ulthera Prime VS Ulthera โดยทั่วไปขึ้นอยู่กับปัญหาและบริเวณที่ต้องการรักษา แต่มีแนวทางโดยประมาณดังนี้

• Ulthera Prime VS Ulthera ทั่วหน้า มักอยู่ที่ประมาณ 500-800 ช็อต เพื่อเห็นผลยกกระชับทั่วหน้าชัดเจน
• กรณีปัญหาน้อยหรือทำเฉพาะจุด เช่น เหนียง ใต้คาง หรือรอบดวงตา อาจใช้ 100-300 ช็อต
สำหรับการทำ Ulthera Prime VS Ulthera ทั่วใบหน้าหรือบริเวณใหญ่โดยทั่วไป เริ่มที่ประมาณ 300 ช็อตขึ้นไป หากมีความหย่อนคล้อยมาก หรือผิวค่อนข้างหนา แพทย์อาจแนะนำเพิ่มจำนวนช็อตขึ้นตามความจำเป็น

Ulthera Prime VS Ulthera อยู่ได้นานแค่ไหน
Ulthera Prime VS Ulthera ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานเท่าไรขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อายุ คุณภาพผิว และการดูแลหลังทำ แต่จากข้อมูลปัจจุบันโดยทั่วไป

• Ulthera Prime ผลลัพธ์ยกกระชับและผิวแน่นขึ้นจะเห็นชัดใน 2-3 เดือนหลังทำ และคงอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน หรือบางรายอาจอยู่ได้ถึง 2 ปี หากดูแลผิวดีและไม่มีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักหรือไลฟ์สไตล์มาก
• Ulthera ผลลัพธ์การยกกระชับอยู่ได้ประมาณ 1 ปี (12 เดือน) หรือในบางรายอาจนานถึง 1-2 ปี แต่โดยเฉลี่ยจะเริ่มเห็นผลน้อยลงหลัง 12 เดือน

ตารางสรุปเปรียบเทียบระยะเวลาผลลัพธ์ Ulthera Prime VS Ulthera

 

Ulthera Prime

Ulthera

ระยะเวลาผลลัพธ์

12-18 เดือน (บางราย 2 ปี)

1 ปี หรือสูงสุด 2 ปี

ทั้งนี้ผลลัพธ์เฉพาะบุคคลอาจแตกต่างกัน แนะนำให้มีการดูแลผิวและปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้แผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Ulthera Prime VS Ulthera เหมาะกับใครบ้าง
แม้ว่า Ulthera Prime VS Ulthera จะต่างกันในแง่ของเทคโนโลยีความแม่นยำและความสบายขณะทำ แต่จุดประสงค์หลักของทั้งสองคือยกกระชับและฟื้นฟูผิวหน้า จึงเหมาะกับกลุ่มบุคคลคล้ายกัน ดังนี้

1.Ulthera Prime VS Ulthera เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของผิวหย่อนคล้อย
• มีผิวหน้าหย่อนเล็กน้อยถึงปานกลาง
• กรอบหน้าไม่ชัด แก้มเริ่มตก หรือมีเหนียงใต้คาง
• หนังตาตก คิ้วตก ทำให้ดูง่วงหรืออ่อนล้า

2.Ulthera Prime VS Ulthera เหมาะกับผู้ที่มีอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป
• อายุที่เริ่มมีการเสื่อมของคอลลาเจนและอิลาสติน
• ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยไม่ต้องศัลยกรรม

3.Ulthera Prime VS Ulthera เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
• ไม่ต้องการมีแผล ไม่อยากพักฟื้น
• ต้องการผลลัพธ์ยกกระชับผิวแบบค่อยเป็นค่อยไป

4.Ulthera Prime VS Ulthera เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ
• ต้องการยกกระชับใบหน้าให้สมส่วน
• เหมาะกับคนที่มีรูปหน้ากลม แก้มเยอะ หรือคางสองชั้น

5.Ulthera Prime VS Ulthera เหมาะกับผู้ที่เคยทำหัตถารอื่น ๆ แล้วได้ผลไม่ชัดเจน
• ต้องการเทคโนโลยีที่แม่นยำกว่าเดิม
• เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจน

6.Ulthera Prime VS Ulthera เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางและต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัย
• โดยเฉพาะ Ulthera Prime ที่เหมาะกับผู้มีผิวบาง บอบบาง หรือบริเวณที่ละเอียด เช่น รอบดวงตา รอบปาก

Ulthera Prime VS Ulthera ไม่เหมาะกับใครบ้าง
1.Ulthera Prime VS Ulthera ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยขั้นรุนแรง
• เช่น ผิวหนังตกหรือห้อยชัดเจนมาก เนื่องจาก Ulthera เป็นการยกกระชับผิวแบบไม่ผ่าตัด จึงให้ผลลัพธ์ที่ดีในระดับเบาถึงปานกลางเท่านั้น
• หากผิวหย่อนมาก อาจต้องพิจารณาวิธีศัลยกรรม เช่น ผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า

2.Ulthera Prime VS Ulthera ไม่เหมาะกับผู้ที่มีบาดแผล ผื่น หรือการติดเชื้อบริเวณที่จะทำ
• ห้ามทำบริเวณผิวที่อักเสบ มีสิวอักเสบ ผื่นแดง หรือเป็นแผลเปิด เพราะอาจทำให้การอักเสบลุกลามหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้

3.Ulthera Prime VS Ulthera ไม่เหมาะกับผู้ที่ใส่อุปกรณ์ทางการแพทย์ฝังในร่างกายบางชนิด
• เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker), เครื่องกระตุ้นสมอง, หรืออุปกรณ์โลหะฝังในศีรษะหรือใบหน้า
• คลื่นอัลตราซาวด์อาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้

4.Ulthera Prime VS Ulthera ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
• แม้จะยังไม่มีรายงานอันตรายโดยตรง แต่เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง แพทย์มักแนะนำให้เลื่อนการทำออกไปก่อน

5.Ulthera Prime VS Ulthera ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันหรือเนื้อเยื่อ
• เช่น โรค SLE, โรคผิวหนังเรื้อรังบางชนิด หรือผู้ที่เพิ่งได้รับการรักษาด้วยรังสีบริเวณใบหน้า
• ผิวหนังอาจตอบสนองต่อพลังงานได้ไม่ดี หรืออาจฟื้นฟูช้ากว่าปกติ

Ulthera Prime VS Ulthera มีผลข้างเคียงไหม
แม้ว่า Ulthera Prime VS Ulthera จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยในบางกรณี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความไวของแต่ละบุคคล รวมถึงเทคนิคของแพทย์ผู้ทำหัตถการ

ผลข้างเคียงที่พบได้ (สามารถหายได้เอง)
• ผิวบวมเล็กน้อยหลังทำ มักเกิดขึ้นบริเวณที่ยิงพลังงานเข้มข้น เช่น กรอบหน้า เหนียง หรือแนวกราม อาการบวมจะหายไปภายใน 1-3 วัน
• รอยแดง อาจเกิดรอยแดงชั่วคราวหลังทำ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบาง รอยแดงจะจางลงภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่เกิน 1 วัน
• ความรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อยใต้ผิว บางรายอาจรู้สึกเมื่อยหรือเจ็บเล็กน้อยในจุดที่ยิงคลื่นพลังงาน เช่น ใต้คางหรือแนวกราม อาการนี้เป็นสัญญาณของการเริ่มกระตุ้นคอลลาเจน และจะหายเองภายใน 1-2 สัปดาห์
• รอยช้ำเล็กน้อย (พบไม่บ่อย) อาจพบได้ในบางรายที่มีผิวบางหรือมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก หากเกิดจะหายภายใน 7-10 วัน โดยไม่เป็นอันตราย

ผลข้างเคียงที่ควรระวัง (พบได้น้อยมาก)
• ปวดหรือแสบบริเวณที่ทำมากกว่าปกติ ควรแจ้งแพทย์ทันทีหากรู้สึกผิดปกตินานเกิน 7 วัน
• อาการชาบริเวณผิว พบได้ในบางรายที่เนื้อเยื่อมีความไวสูง แต่เป็นภาวะชั่วคราว และมักหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์

การเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera Prime VS Ulthera
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ Ulthera Prime VS Ulthera มีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยให้การทำหัตถการเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง และช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด แม้ว่าทั้งสองเทคโนโลยีจะไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น แต่ก็มีข้อแนะนำบางประการที่ควรปฏิบัติตาม การเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera Prime VS Ulthera ได้แก่

1.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ulthera หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิวหรือเลเซอร์ก่อนหน้า
ควรเว้นระยะอย่างน้อย 5-7 วันก่อนทำ Ulthera หรือ Ulthera Prime โดยเฉพาะเลเซอร์ที่มีผลกระทบต่อชั้นผิว เช่น Fractional, IPL เพื่อป้องกันการระคายเคือง

2.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ulthera งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้หรือวิตามิน A
ควรงดใช้ล่วงหน้า 3-5 วันก่อนทำ เพื่อลดความเสี่ยงของผิวไวต่อพลังงานที่ปล่อยลงสู่ผิว

3.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ulthera งดการรับประทานยาและอาหารเสริมบางชนิดชั่วคราว
เช่น ยากลุ่มแอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา, โสม, กระเทียม หรือสมุนไพรบางชนิด เพราะอาจทำให้เลือดแข็งตัวยาก และเพิ่มโอกาสฟกช้ำหลังทำ (ควรงดอย่างน้อย 3-5 วันล่วงหน้า)

4.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ulthera ดื่มน้ำให้เพียงพอ และพักผ่อนให้เพียงพอ
เพื่อให้ผิวพร้อมต่อการกระตุ้นคอลลาเจน และลดอาการบวมหรือฟกช้ำหลังทำ การดื่มน้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

5.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ulthera งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
เพราะอาจส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด การซ่อมแซมเซลล์ผิว และเพิ่มโอกาสฟกช้ำ

6.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ulthera ล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ
ควรล้างเครื่องสำอางออกทั้งหมด และไม่ควรทาครีมหรือเซรั่มใด ๆ ก่อนทำ

7.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ulthera แจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบ
เช่น ประวัติการแพ้ยา, โรคประจำตัว, การใช้ยาอย่างต่อเนื่อง หรือหากเคยมีประวัติทำ HIFU หรือศัลยกรรมบริเวณใบหน้ามาก่อน

การดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera Prime VS Ulthera
การดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera Prime VS Ulthera ซึ่งสามารถใช้ร่วมกันได้ เนื่องจากทั้งสองเทคโนโลยีมีหลักการทำงานเหมือนกัน และไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น แต่การดูแลผิวที่ดีหลังทำจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานมากขึ้น การดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera Prime VS Ulthera ได้แก่

1.หลังทำ Ulthera Prime VS Ulthera หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
หลังทำผิวจะไวต่อแสงมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัดประมาณ 1 สัปดาห์ หากต้องออกกลางแจ้ง ควรสวมหมวกหรือกางร่ม และทาครีมกันแดด SPF 50+ เป็นประจำ

2.หลังทำ Ulthera Prime VS Ulthera งดการขัดผิว/เลเซอร์/ทรีตเมนต์แรง ๆ ชั่วคราว
หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ที่รบกวนผิว เช่น การขัดผิวแรง ๆ เลเซอร์ หรือการนวดหน้าลึก ๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่และลดการระคายเคือง

3.หลังทำ Ulthera Prime VS Ulthera บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นการเติมความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง เช่น เจลว่านหางจระเข้ ครีมกลุ่ม CICA หรือ Hyaluronic Acid ช่วยลดอาการตึงหรือแห้งผิวหลังทำ

4.หลังทำ Ulthera Prime VS Ulthera ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ควรดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนจากภายใน

5.หลังทำ Ulthera Prime VS Ulthera งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ชั่วคราว
อย่างน้อย 3-5 วันหลังทำ เพราะสารเหล่านี้อาจรบกวนการฟื้นฟูของเซลล์ผิว และลดประสิทธิภาพของคอลลาเจนที่กำลังถูกกระตุ้น

6.หลังทำ Ulthera Prime VS Ulthera หากมีอาการบวมเล็กน้อย สามารถประคบเย็นได้
อาการบวมแดงเล็กน้อยหลังทำเป็นเรื่องปกติ สามารถใช้เจลประคบเย็น หรือถุงเจลห่อนุ่มมาวางไว้เบา ๆ ได้ หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดแรง ๆ ที่ผิว

7.หลังทำ Ulthera Prime VS Ulthera งดการออกกำลังกายหนัก 1-2 วัน
โดยเฉพาะกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก เช่น คาร์ดิโอ, ซาวน่า, ว่ายน้ำ หรือโยคะร้อน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดอาการบวมช้ำเพิ่มขึ้น

สรุปความแตกต่าง Ulthera Prime VS Ulthera
สรุปว่า Ulthera Prime VS Ulthera ต่างก็เป็นทางเลือกยอดนิยมในการฟื้นฟูผิวหน้าให้กระชับ เต่งตึง โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยพลังงาน HIFU ที่ได้มาตรฐาน พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นลึกให้ผิวแน่นขึ้น อย่างไรก็ตามการเตรียมตัวก่อนทำ และการดูแลตัวเองหลังทำอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นถึง 1-2 ปี และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงให้น้อยที่สุด ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาวิธียกกระชับผิวที่เห็นผลชัดเจน และไม่ต้องพักฟื้น เครื่องยกกระชับ Ulthera หรือ Ulthera Prime คือคำตอบที่ควรพิจารณา

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
โปรโมชั่นต่างๆ
เรื่อง โปรแกรมยกกระชับใบหน้า ที่คุณอาจสนใจ