โปรแกรมโบท็อกซ์ Xeomin คืออะไร กี่วันถึงเห็นผล มีข้อดีอย่างไร
โบท็อกซ์ Xeomin , Xeomin
โบท็อกซ์ Xeomin คืออะไร กี่วันถึงเห็นผล มีข้อดีอย่างไร
โบท็อกซ์ Xeomin คืออะไร อยู่ได้กี่เดือน กี่วันเห็นผล
หากพูดถึงการฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงาม ปัจจุบันโบท็อกซ์ Xeomin จากประเทศเยอรมนี กำลังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยจุดเด่นด้านความบริสุทธิ์สูง ซึ่งช่วยลดโอกาสการดื้อโบท็อกซ์ และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง
โบท็อกซ์ Xeomin ไม่เพียงช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ให้แลดูอ่อนเยาว์ แต่ยังสามารถใช้ลดขนาดกล้ามเนื้อ ยกกระชับปรับรูปหน้า รวมถึงแก้ปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติได้อีกด้วย ทำให้โบท็อกซ์ Xeomin เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความงามและการรักษาทางการแพทย์
สำหรับใครที่กำลังสนใจฉีดโบท็อกซ์ Xeomin การทำความเข้าใจข้อดี ข้อควรรู้ และผลลัพธ์ของโบท็อกซ์ Xeomin จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรพลาดก่อนตัดสินใจฉีด
โบท็อกซ์ Xeomin คืออะไร
โบท็อกซ์ Xeomin เป็นสาร Botulinum toxin ชนิดหนึ่งที่ผลิตโดยบริษัท Merz Pharma จากประเทศเยอรมนี ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูงและผ่านเทคโนโลยี XTRACT ในกระบวนการผลิตเพื่อกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออกจากโมเลกุลของท็อกซิน ทำให้โมเลกุลมีขนาดเล็กลงและมีความบริสุทธิ์สูงขึ้น
คุณสมบัติเด่นของ โบท็อกซ์ Xeomin
• โบท็อกซ์ Xeomin เป็นสาร Botulinum toxin ชนิด A ที่มีความบริสุทธิ์สูง เนื่องจากกำจัดโปรตีนเสริมออก ทำให้มีโอกาสดื้อยาได้น้อยลง
• โบท็อกซ์ Xeomin กระจายตัวได้ดี เนื่องจากโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ
• โบท็อกซ์ Xeomin นิยมใช้เพื่อเสริมความงามโดยลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ริ้วรอยหน้าผาก หัวคิ้ว ข้างจมูก และมุมปาก รวมถึงใช้ในกลุ่มผู้ที่เคยดื้อยาโบท็อกซ์ชนิดอื่นมาก่อน
• โบท็อกซ์ Xeomin ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและกระชับขึ้น ลดขนาดกล้ามเนื้อ รวมถึงใช้ในการรักษาปัญหาโรคกล้ามเนื้อเกร็ง เช่น ตาเข่า กระตุกกล้ามเนื้อ และป้องกันปัญหาเหงื่อออกมากเกินไป
เนื่องจากความบริสุทธิ์สูงและกระบวนการผลิตที่ช่วยลดโปรตีนเสริม ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการดื้อยา ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่เคยดื้อโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ และสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง
โบท็อกซ์ Xeomin ช่วยอะไรบ้าง
โบท็อกซ์ Xeomin มีคุณสมบัติหลักในการคลายกล้ามเนื้อเฉพาะจุด ที่เป็นต้นเหตุของริ้วรอยหรือความไม่สมดุลบนใบหน้า เมื่อกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง ร่องลึกจะค่อย ๆ จางลง และรูปหน้าดูสมส่วนมากขึ้น นอกจากนี้ โบท็อกซ์ Xeomin ยังสามารถนำมาใช้ในด้านอื่น ๆ ได้ ทั้งความงามและการรักษาทางการแพทย์
1.โบท็อกซ์ Xeomin ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า
ริ้วรอยเกิดจากการขยับซ้ำ ๆ ของกล้ามเนื้อ เช่น การยิ้ม ขมวดคิ้ว หรือเลิกคิ้ว เมื่อเวลาผ่านไปผิวหนังจะเกิดรอยย่นถาวร การฉีดโบท็อกซ์ Xeomin จะเข้าไปยับยั้งการสื่อสารระหว่างเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยจางลงอย่างดูเป็นธรรมชาติ
• หน้าผาก ลดเส้นริ้วแนวนอนที่เห็นชัดเวลาเลิกคิ้ว
• หว่างคิ้ว ลดริ้วรอยรูปเลข 11 ที่ทำให้หน้าดูดุ
• หางตา ลดตีนกา ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์
• รอบปาก ลดรอยย่นมุมปากและรอยยิ้มเห็นเหงือก (Gummy Smile)
ผลที่ได้คือใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย สดใสขึ้น โดยยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ
2.โบท็อกซ์ Xeomin ช่วยปรับรูปหน้าเรียวเล็ก
สำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่จากการเคี้ยวหรือการเกร็งกล้ามเนื้อกรามบ่อย ๆ โบท็อกซ์ Xeomin สามารถฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อ Masseter เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งานมากเกินไป ขนาดก็จะเล็กลง ทำให้รูปหน้าดูเรียวสวยขึ้น
• เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าสี่เหลี่ยมหรือกรามใหญ่
• ทำให้โครงหน้าดูอ่อนหวานขึ้น
• ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งเกินไป
3.โบท็อกซ์ Xeomin ช่วยยกกระชับ ปรับสมดุลใบหน้า
โบท็อกซ์ Xeomin ไม่ได้ใช้แค่ลดริ้วรอย แต่ยังช่วยปรับสัดส่วนของใบหน้าให้สมมาตรและดูกลมกลืนมากขึ้น เช่น
• ยกคิ้วเล็กน้อย ทำให้ดวงตาดูเปิดกว้างและอ่อนเยาว์
• ปรับคาง แก้ปัญหาคางบุ๋ม หรือคางเบี้ยว
• เส้นลำคอ ลดรอยเส้นคอ ทำให้ลำคอเรียบเนียนและกระชับขึ้น
4.โบท็อกซ์ Xeomin ช่วยลดเหงื่อและกลิ่นตัว
โบท็อกซ์ Xeomin สามารถช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ
• ลดปัญหาเสื้อเปียกชื้น
• ลดกลิ่นกายจากการสะสมของแบคทีเรีย
• เพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวัน
5.โบท็อกซ์ Xeomin มีประโยชน์ทางการแพทย์
นอกจากด้านความงาม โบท็อกซ์ Xeomin ยังถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ในหลายกรณี เช่น
• รักษาภาวะกล้ามเนื้อเกร็งกระตุก
• ลดอาการไมเกรน ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการเรื้อรัง
• บรรเทาอาการปวดจากกล้ามเนื้อที่หดเกร็งเรื้อรัง
โบท็อกซ์ Xeomin มีจุดเด่นอะไรบ้าง
โบท็อกซ์ Xeomin เป็นทางเลือกโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และผู้ที่มีปัญหาดื้อโบท็อกซ์จากยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งจุดเด่นของโบท็อกซ์ Xeomin มีดังนี้
• โบท็อกซ์ Xeomin ใช้เทคโนโลยี XTRACT Technology™ ในการผลิต ทำให้กำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออกจากโมเลกุลอย่างสมบูรณ์ จึงมีความบริสุทธิ์สูงมาก
• โบท็อกซ์ Xeomin เป็นโบท็อกซ์ที่มีน้ำหนักโมเลกุลน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ทำให้ตัวยากระจายตัวได้ดี เห็นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ใบหน้าแข็งตึงเกินไป
• โบท็อกซ์ Xeomin โอกาสเกิดสารต้านโบท็อก (Antibody) ต่ำมาก ซึ่งช่วยลดปัญหาดื้อยาโบท็อกซ์แม้ฉีดติดต่อกันเป็นเวลานาน
• โบท็อกซ์ Xeomin มีงานวิจัยรองรับว่ามีโอกาสออกฤทธิ์และเห็นผลในเคสดื้อยาได้ดีกว่ายี่ห้ออื่น แม้ว่าการดื้อโบท็อกจะยังไม่มีวิธีรักษาหายขาด
• โบท็อกซ์ Xeomin เหมาะกับการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ ลดกราม และลดขนาดกล้ามเนื้อบนใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
• โบท็อกซ์ Xeomin ได้รับการรับรองมาตรฐาน ทำให้มั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และลดความเสี่ยง
• โบท็อกซ์ Xeomin เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน รูขุมขนกว้าง ริ้วรอยเล็ก ๆ และผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติที่ยังสามารถแสดงสีหน้าได้โดยไม่แข็งตึง
• โบท็อกซ์ Xeomin หลังฉีดสามารถแต่งหน้าและทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
โบท็อกซ์ Xeomin ฉีดจุดไหนได้บ้าง
โบท็อกซ์ Xeomin สามารถนำมาใช้ได้หลายตำแหน่งทั้งบนใบหน้าและร่างกาย เพื่อช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และแก้ปัญหาที่เกิดจากกล้ามเนื้อหรือการทำงานของต่อมเหงื่อ จุดที่นิยมฉีดมีดังนี้
ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณใบหน้า
1.ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณหน้าผาก ลดรอยย่นแนวนอนที่เกิดจากการเลิกคิ้วบ่อย ๆ ทำให้ผิวหน้าผากเรียบเนียนขึ้น
2.ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณหว่างคิ้ว ลดรอยขมวดคิ้วรูป “เลข 11” ที่ทำให้หน้าดูดุ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนโยนขึ้น
3.ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณหางตา ลดรอยตีนกาเวลายิ้ม ช่วยให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนวัย
4.ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณรอบปาก ลดรอยย่นมุมปากและรอยรอบริมฝีปาก แก้ปัญหายิ้มเห็นเหงือก (Gummy Smile)
5.ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณกราม ลดกล้ามเนื้อกรามที่ใหญ่เกินไป ทำให้ใบหน้าเรียวเล็ก สมส่วนมากขึ้น
6.ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณคาง แก้ปัญหาคางบุ๋ม คางเป็นคลื่น หรือคางสั้น ทำให้รูปหน้าดูสมมาตรขึ้น
7.ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณลำคอ ลดเส้นริ้วแนวตั้งที่คอ ช่วยยกกระชับกรอบหน้าและคอให้เรียบเนียน
ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณร่างกาย
1.ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณรักแร้ ลดการทำงานของต่อมเหงื่อ แก้ปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติและกลิ่นตัว
2.ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ลดเหงื่อออกมากเกินไปในชีวิตประจำวัน เพิ่มความมั่นใจในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
3.ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin บริเวณกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ใช้รักษาภาวะกล้ามเนื้อเกร็งกระตุก ช่วยให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น ลดอาการปวดจากกล้ามเนื้อหดเกร็งเรื้อรัง
โบท็อกซ์ Xeomin เหมาะกับใครบ้าง
โบท็อกซ์ Xeomin เป็นโบท็อกซ์ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีความบริสุทธิ์สูง ปลอดโปรตีนหุ้ม ทำให้เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการแก้ปัญหาทั้งเรื่องริ้วรอย ความไม่สมดุลของใบหน้า ไปจนถึงผู้ที่มีปัญหาดื้อโบท็อกซ์มาก่อน โดยกลุ่มที่เหมาะสม ได้แก่
1.โบท็อกซ์ Xeomin เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้า
เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา รอบปาก ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง
2.โบท็อกซ์ Xeomin เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียว
เหมาะสำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ใบหน้าดูเหลี่ยม ฉีดเข้าไปเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง ผลลัพธ์นุ่มนวล ไม่แข็งเกินไป
3.โบท็อกซ์ Xeomin เหมาะกับผู้ที่เคยดื้อโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น
จุดเด่นของโบท็อกซ์ Xeomin คือไม่มีโปรตีนหุ้ม จึงลดความเสี่ยงที่ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทาน เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่เคยฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นแล้วผลอยู่ไม่นานหรือไม่ได้ผล
4.โบท็อกซ์ Xeomin เหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องผลลัพธ์ดูแข็งทื่อ
โบท็อกซ์ Xeomin ออกฤทธิ์อย่างพอดี ไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งเหมือนหุ่นยนต์ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ เช่น ดารา นักแสดง หรือคนที่ต้องใช้สีหน้าในการทำงาน
5.โบท็อกซ์ Xeomin เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดเหงื่อหรือลดกลิ่นตัว
คนที่มีภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) โดยเฉพาะที่รักแร้ โบท็อกซ์ Xeomin สามารถช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้มั่นใจขึ้นในชีวิตประจำวัน
6.โบท็อกซ์ Xeomin เหมาะกับผู้ที่ต้องการการรักษาทางการแพทย์บางด้าน
• ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อเกร็งกระตุก
• ผู้ที่มีอาการไมเกรนเรื้อรัง (ในบางกรณีแพทย์อาจเลือกใช้โบท็อกซ์เพื่อบรรเทาอาการ)
• ผู้ที่มีปัญหาจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรื้อรัง
โบท็อกซ์ Xeomin ไม่เหมาะกับใครบ้าง
แม้ว่าโบท็อกซ์ Xeomin จะผ่านการรับรองมาตรฐาน แต่ก็ยังมีบางกลุ่มคนที่ไม่ควรฉีด หรือ ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงได้มากกว่าคนทั่วไป กลุ่มที่ไม่เหมาะฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ได้แก่
1.โบท็อกซ์ Xeomin ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร
ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยยืนยันความปลอดภัยของโบท็อกซ์ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงที่ให้นมบุตร แพทย์จึงไม่แนะนำให้ฉีดในช่วงนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทารก
2.โบท็อกซ์ Xeomin ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิด Myasthenia Gravis การฉีดโบท็อกซ์อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงมากขึ้นและเกิดอันตราย
3.โบท็อกซ์ Xeomin ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้โบทูลินัมท็อกซิน
หากเคยมีอาการแพ้ยาในกลุ่มโบทูลินัมท็อกซินมาก่อน เช่น เกิดผื่น หายใจลำบาก หรือบวมหลังฉีด ไม่ควรฉีด โบท็อกซ์ Xeomin เพราะอาจเกิดอาการแพ้ซ้ำได้
4.โบท็อกซ์ Xeomin ไม่เหมาะกับผู้ที่มีการติดเชื้อหรืออักเสบบริเวณที่จะฉีด
เช่น มีสิวอักเสบ แผลเปิด หรือผิวหนังติดเชื้อในจุดที่ต้องการฉีด ควรรักษาอาการเหล่านี้ให้หายก่อน เพื่อป้องกันการกระจายเชื้อและลดความเสี่ยงการอักเสบมากขึ้น
5.โบท็อกซ์ Xeomin ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาด้านการแข็งตัวของเลือด หรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด
เช่น Warfarin, Aspirin หรือยาต้านเกล็ดเลือดบางชนิด การฉีดอาจทำให้เกิดรอยช้ำ เลือดออกง่าย ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
6.โบท็อกซ์ Xeomin ไม่เหมาะกับผู้ที่สุขภาพร่างกายไม่พร้อม
เช่น มีโรคประจำตัวที่ยังควบคุมไม่ได้ (เบาหวานที่ไม่คุมระดับน้ำตาล, ความดันสูง, โรคหัวใจ) ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนทำหัตถการ
โบท็อกซ์ Xeomin อันตรายไหม
โบท็อกซ์ Xeomin โดยทั่วไปถือว่าอันตรายน้อยมากเมื่อใช้ตามคำแนะนำและฉีดโดยแพทย์ เพราะโบท็อกซ์ Xeomin เป็นโบทูลินัมท็อกซินชนิด A ที่ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยี XTRACT Technology™ ซึ่งกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออก ทำให้มีความบริสุทธิ์สูง ลดโอกาสเกิดสารต้านโบท็อกหรือการดื้อยา และลดความเสี่ยงของการแพ้
อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงหลังฉีดที่อาจเกิดขึ้นได้บ้าง เช่น อาการเมื่อย กล้ามเนื้อตึง หรือรอยเข็มเล็ก ๆ ซึ่งมักเป็นอาการปกติและหายเองได้ ไม่ได้ถือว่าอันตราย ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น หนังตาตก มุมปากเบี้ยว หรือการติดเชื้อ เกิดขึ้นได้ถ้าฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์หรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่ถ้าฉีดโดยแพทย์ ใช้โบท็อกซ์แท้และคลินิกได้มาตรฐาน จะมีความเสี่ยงน้อย
สรุปคือโบท็อกซ์ Xeomin ถือว่าไม่เป็นอันตราย เมื่อเลือกใช้ของแท้และฉีดโดยแพทย์ในคลินิกที่มีมาตรฐาน ส่วนผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและเป็นชั่วคราว
โบท็อกซ์ Xeomin มีผลข้างเคียงไหม
การฉีดโบท็อกซ์ Xeomin โดยแพทย์ แม้ถือว่าอันตรายน้อย แต่เช่นเดียวกับหัตถการทางการแพทย์อื่น ๆ ก็อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการชั่วคราวและหายได้เองภายในไม่กี่วัน
ผลข้างเคียงทั่วไป (พบได้บ่อยและไม่อันตราย)
• รอยแดง บวม หรือช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
• รู้สึกตึง ๆ หรือเจ็บเล็กน้อยช่วงแรก
• อาการบวมอาจอยู่ 1-3 วัน แล้วค่อย ๆ ดีขึ้นเอง
• ในบางรายอาจมีอาการคันเล็กน้อยบริเวณรอยเข็ม
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นแต่พบไม่บ่อย
• ปวดศีรษะเล็กน้อย หลังฉีดบริเวณหน้าผากหรือขมวดคิ้ว
• หนังตาตก หรือคิ้วตก หากฉีดในตำแหน่งไม่ถูกต้อง
• ใบหน้าดูไม่สมมาตร (เช่น มุมปากยกไม่เท่ากัน) แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับฉีดเพิ่มเติม
ผลข้างเคียงรุนแรง (พบได้น้อยมาก)
• อาการแพ้รุนแรง เช่น ผื่นลมพิษ หายใจลำบาก หรือบวมมาก
• กล้ามเนื้ออ่อนแรงผิดปกติ หากฉีดในปริมาณมากเกินไปหรือฉีดผิดตำแหน่ง
• ในกรณีนี้ต้องรีบพบแพทย์ทันที
โบท็อกซ์ Xeomin อยู่ได้นานแค่ไหน
โบท็อกซ์ Xeomin อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 3-7 วัน หลังฉีด และผลลัพธ์จะชัดเจนเต็มที่ในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและลักษณะกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคลด้วย
ในกรณีที่ฉีดเพื่อลดริ้วรอยทั่วใบหน้า จะเห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ ส่วนหากใช้ลดขนาดกราม อาจต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนถึงจะเห็นผลเต็มที่
หากดูแลตัวเองดีและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้โบท็อกซ์ Xeomin อยู่ได้นานขึ้นได้ นอกจากนี้ โบท็อกซ์ Xeomin ยังเหมาะกับผู้ที่เคยดื้อโบท็อกซ์ เพราะมีงานวิจัยระบุว่าสามารถออกฤทธิ์ได้ในเคสดื้อยา หากเว้นระยะจากการฉีดยาเดิมประมาณ 2-3 ปี โดยสรุป
• เห็นผลภายใน 3-7 วัน
• ชัดเจน 1-2 สัปดาห์ (ใช้ลดริ้วรอย)
• ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน บางกรณีอาจได้นานถึง 8-12 เดือน ขึ้นกับการดูแลและปัจจัยส่วนบุคคล
• เหมาะสำหรับเคสดื้อโบท็อกซ์ที่ยี่ห้ออื่นไม่ได้ผล
โบท็อกซ์ Xeomin ฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล
การเห็นผลและจำนวนครั้งที่ควรฉีดโบท็อกซ์ Xeomin มีดังนี้
• ผลลัพธ์เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดประมาณ 2-3 วัน
• ผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 7-14 วัน สำหรับการลดริ้วรอยทั่วไป
• สำหรับการลดกล้ามเนื้อกราม กรามจะเริ่มนิ่มลงใน 4-6 สัปดาห์ และยุบเต็มที่ใน 2-3 เดือน
• โดยทั่วไป ฉีดเพียงครั้งเดียวก็เห็นผลลัพธ์แล้ว และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน หรือบางกรณีอาจนานถึง 8-12 เดือน ขึ้นกับการดูแลและปัจจัยแต่ละบุคคล
• การฉีดซ้ำควรเว้นระยะอย่างน้อย 3-4 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์และลดความเสี่ยงดื้อยา
สำหรับผู้ที่มีปัญหาดื้อโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น อาจต้องเว้นช่วงฉีดนาน 2-3 ปีก่อนเริ่มฉีด Xeomin เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี การฉีดโบท็อกซ์ Xeomin โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 2-3 วัน และเห็นผลชัดเจนใน 7-14 วันสำหรับลดริ้วรอย ส่วนการลดกล้ามเนื้อกรามจะเริ่มนิ่มลงใน 4-6 สัปดาห์และยุบเต็มที่ใน 2-3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน และควรฉีดซ้ำโดยเว้นระยะอย่างน้อย 3-4 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์และลดโอกาสดื้อยา สำหรับคนที่เคยดื้อโบท็อกซ์จากยี่ห้ออื่น อาจต้องเว้นช่วง 2-3 ปีก่อนใช้โบท็อกซ์ Xeomin เพื่อให้ได้ผลดีขึ้น
โบท็อกซ์ Xeomin ฉีดกี่วันถึงเห็นผล
โบท็อกซ์ Xeomin จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ประมาณ 2-3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นในช่วง 7-14 วันหลังฉีด สำหรับการลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ส่วนการลดขนาดกล้ามเนื้อกรามจะเริ่มนิ่มลงในช่วง 4-6 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ประมาณ 2-3 เดือน โดยระยะเวลาเห็นผลอาจแตกต่างกันไปตามตำแหน่งฉีด ขนาดกล้ามเนื้อ และความแตกต่างของแต่ละบุคคล
สรุปคือ หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin จะเริ่มเห็นผลใน 2-3 วัน และเห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์สำหรับริ้วรอย และ 4-6 สัปดาห์สำหรับกล้ามเนื้อกราม
ข้อควรระวังในการฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง ผู้ที่สนใจฉีดควรใส่ใจข้อควรระวังดังต่อไปนี้
1.เลือกสถานพยาบาลและแพทย์ที่มีมาตรฐาน
• ควรฉีดกับแพทย์เฉพาะทางผิวหนังหรือศัลยกรรมตกแต่งเท่านั้น
• ตรวจสอบว่าเป็นโบท็อกซ์ Xeomin ของแท้ มีการผสมตัวยาอย่างถูกวิธี
• การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยกำหนดปริมาณยาและตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น หน้าเบี้ยว หรือหนังตาตก
2.การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
• งดการใช้ยาละลายลิ่มเลือด วิตามินอี โสม น้ำมันปลา แอสไพริน และยาต้านการอักเสบบางชนิดอย่างน้อย 3-7 วัน (เพื่อป้องกันรอยช้ำ)
• หากมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ หรือกำลังตั้งครรภ์ ควรแจ้งแพทย์ก่อนเสมอ
3.การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• หลีกเลี่ยงการนอนราบภายใน 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
• งดการนวด กด หรือสัมผัสแรง ๆ ที่บริเวณฉีด เพื่อป้องกันตัวยาไหลไปผิดตำแหน่ง
• หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ ออกกำลังกายหนัก ๆ ภายใน 24 ชั่วโมงหลังฉีด
• หากมีรอยบวม แดง หรือช้ำ สามารถประคบเย็นเบา ๆ ได้
4.กลุ่มที่ไม่เหมาะฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร
• ผู้ที่มีโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
• ผู้ที่แพ้ยาในกลุ่มโบทูลินัมท็อกซิน
• ผู้ที่มีแผลติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
เพื่อให้การฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง ผู้ที่กำลังจะเข้ารับบริการควรเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างเหมาะสม ทั้งในด้านสุขภาพ การใช้ยา และการปฏิบัติตัวก่อนเข้าคลินิก โดยมีข้อแนะนำดังนี้
1.แจ้งประวัติสุขภาพและการใช้ยา ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ควรบอกแพทย์ถึงโรคประจำตัวที่มี เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin แจ้งยาที่ใช้อยู่เป็นประจำ รวมถึงอาหารเสริม วิตามิน สมุนไพร เช่น วิตามินอี โสม น้ำมันปลา เพราะอาจเพิ่มโอกาสการช้ำหลังฉีด
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin หากเคยมีประวัติแพ้โบท็อกซ์หรือยากลุ่มโบทูลินัมท็อกซิน ต้องแจ้งแพทย์ทันที
2.งดพฤติกรรมเสี่ยงก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น เพิ่มโอกาสช้ำ
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin งดยาต้านการอักเสบ แอสไพริน หรือยาละลายลิ่มเลือด อย่างน้อย 3-7 วัน (ถ้าแพทย์อนุญาต) เพื่อลดรอยช้ำ
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin หลีกเลี่ยงการขัดหน้า เลเซอร์ ทำทรีตเมนต์รุนแรง บริเวณที่จะฉีด 1 สัปดาห์ก่อนทำ
3.ดูแลสุขภาพร่างกายให้พร้อม ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงในคืนก่อนทำหัตถการ
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ดื่มน้ำให้มากพอ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและร่างกายฟื้นตัวได้ดีหลังฉีด
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin หากมีอาการป่วย ไข้หวัด หรือการติดเชื้อ ควรเลื่อนการฉีดออกไปก่อน
4.ข้อควรปฏิบัติในวันฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ล้างหน้าให้สะอาด และหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า (แพทย์จะทำความสะอาดซ้ำก่อนฉีดอยู่แล้ว)
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin สวมเสื้อผ้าที่สบาย โดยเฉพาะถ้าจะฉีดบริเวณรักแร้หรือคอ
• ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ทำใจให้ผ่อนคลาย ลดความกังวล เพราะการฉีดใช้เวลาไม่นาน และอาการเจ็บปวดมีเพียงเล็กน้อย
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
หลังจากฉีดโบท็อกซ์ Xeomin แล้ว การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่ ผลลัพธ์ออกมาสวยงามดูเป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ โดยหลักการดูแลหลังฉีด มีดังนี้
1.ช่วง 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ห้ามนอนราบ ควรนั่งหรือนอนหนุนหมอนสูง เพื่อป้องกันตัวยาไหลไปยังตำแหน่งอื่น
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin งดการก้มศีรษะนาน ๆ เช่น การผูกเชือกรองเท้า ก้มอ่านหนังสือ หรือทำงานกับคอมพิวเตอร์ในท่าก้ม
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ห้ามจับ กด หรือ นวดแรง ๆ บริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการกระจายของโบท็อกซ์
2.ภายใน 24 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin งดออกกำลังกายหนัก ๆ เช่น วิ่ง ยกน้ำหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เพราะอาจทำให้ตัวยากระจายผิดตำแหน่ง
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin งดดื่มแอลกอฮอล์ และ งดสูบบุหรี่ เพราะส่งผลต่อการฟื้นตัวและเพิ่มโอกาสบวมช้ำ
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin เลี่ยงความร้อนจัด เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ อาบน้ำร้อน เพราะความร้อนจะทำให้ตัวยาเสื่อมสภาพได้เร็ว
3.ภายใน 1-2 สัปดาห์แรก หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์บนใบหน้าที่รุนแรง เช่น เลเซอร์, HIFU, RF, หรือการนวดกดแรง ๆ
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ควรปฏิบัติตามนัดหมายของแพทย์ เพื่อประเมินผลและดูว่าจำเป็นต้องฉีดเพิ่มหรือไม่
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรระวังไม่กดทับหรือเสียดสีมากเกินไปในบริเวณที่ฉีด
4.การดูแลทั่วไปหลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin หากมีอาการบวมแดงหรือช้ำเล็กน้อย สามารถ ประคบเย็นเบา ๆ ได้
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin หากมีอาการปวดศีรษะเล็กน้อย สามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้ แต่ควรงดยาแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน เพราะอาจทำให้ช้ำมากขึ้น
• หลังฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนเพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว
สรุปเกี่ยวกับโบท็อกซ์ Xeomin
สรุปว่า โบท็อกซ์ Xeomin ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการความสวยงามดูเป็นธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติความบริสุทธิ์สูง ปลอดโปรตีนส่วนเกิน ลดโอกาสดื้อยา และช่วยให้ผลลัพธ์เรียบเนียน ไม่แข็งตึง นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้ได้หลากหลาย ทั้งลดริ้วรอย ยกกระชับปรับรูปหน้า ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ไปจนถึงการรักษาทางการแพทย์ เช่น ลดเหงื่อ หรือบรรเทาอาการกล้ามเนื้อเกร็ง
อย่างไรก็ตามควรเลือกฉีดกับแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน พร้อมใช้โบท็อกซ์แท้ที่ผ่านการรับรอง เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงและได้ผลลัพธ์ที่ดี
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ