romrawin

โปรแกรมฉีดสลายฟิลเลอร์ อันตรายไหม กี่วันถึงเห็นผล ต้องระวังอะไรบ้าง

ฉีดสลายฟิลเลอร์

ฉีดสลายฟิลเลอร์ อันตรายไหม กี่วันถึงเห็นผล มีอะไรต้องระวังบ้าง
การฉีดสลายฟิลเลอร์ เป็นการแก้ปัญหาหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วรู้สึกไม่ชอบ หรือฉีดแล้วเป็นก้อน
หลังฉีดสลายฟิลเลอร์แล้ว ผิวจะค่อย ๆ ยุบตัวลงจนกลับมาเป็นผิวปกติก่อนฉีดฟิลเลอร์ แต่การที่จะสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้ามาต้องเป็นฟิลเลอร์แท้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เท่านั้น

รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับการฉีดสลายฟิลเลอร์
- ฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร มีหลักการอะไรบ้าง
- ฟิลเลอร์มีกี่ชนิด อะไรบ้าง
- สาเหตุที่ต้องฉีดสลายฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์สามารถสลายเองได้หรือไม่
- ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายหรือไม่
- ฉีดสลายฟิลเลอร์ ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง
- ฉีดสลายฟิลเลอร์กี่วันถึงจะเห็นผล
- ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์ต้องรู้อะไรบ้าง
- ขั้นตอนการฉีดสลายฟิลเลอร์
- วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดสลายฟิลเลอร์
- ฉีดสลายฟิลเลอร์กี่วันถึงจะเห็นผล
- ฉีดสลายฟิลเลอร์ต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดซ้ำได้หรือไม่
- ฉีดสลายฟิลเลอร์มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
- หลังฉีดสลายฟิลเลอร์แล้วจะสามารถกลับไปฉีดฟิลเลอร์ได้หรือไม่
- วิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายได้นอกจากฉีดสลายฟิลเลอร์
- ฉีดสลายฟิลเลอร์ Vs ขูดฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร
- ฉีดสลายฟิลเลอร์ที่ไหนดี
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการฉีดสลายฟิลเลอร์

ฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร มีหลักการอะไรบ้าง
ฉีดสลายฟิลเลอร์ คือการใช้เอนไซม์เฉพาะชื่อว่า ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) เพื่อย่อยสลายฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) ที่เคยฉีดไว้ในชั้นผิวหนัง ให้กลับมาใกล้เคียงสภาพเดิมมากที่สุด เหมาะสำหรับกรณีที่ฟิลเลอร์เกิดปัญหา เช่น
• ฉีดแล้วเป็นก้อน ดูไม่เรียบเนียน
• รูปหน้าไม่สมดุล หรือดูไม่เป็นธรรมชาติ
• เกิดอาการบวม หรือฉีดผิดตำแหน่ง
• ต้องการแก้ไขหรือปรับแต่งผลลัพธ์จากการฉีดเดิม

การฉีดสลายฟิลเลอร์นี้ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น เพราะเป็นหัตถการที่เกี่ยวข้องกับตัวยาเฉพาะ และต้องใช้ความชำนาญสูงมากในการประเมินปริมาณและตำแหน่งของการฉีดสลายฟิลเลอร์

หลักการทำงานของเอนไซม์ Hyaluronidase ในการฉีดสลายฟิลเลอร์
การฉีดสลายฟิลเลอร์จะมี Hyaluronidase เป็นเอนไซม์ที่มีคุณสมบัติช่วย “ย่อยสลาย” สารไฮยาลูโรนิกแอซิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์แท้ชนิด HA เมื่อตัวยาถูกฉีดเข้าสู่บริเวณที่ต้องการสลาย จะเกิดกระบวนการดังนี้

1.ลดการกักเก็บน้ำของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ในกลุ่ม HA จะมีคุณสมบัติดูดน้ำและอุ้มน้ำไว้ใต้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟู แต่เมื่อฉีดสลายฟิลเลอร์เข้าไป จะลดความสามารถในการเก็บน้ำของสารนั้นลง

2.ทำลายโครงสร้างการยึดเกาะของเนื้อฟิลเลอร์
เอนไซม์จะทำปฏิกิริยากับพันธะของโมเลกุล HA ทำให้เนื้อฟิลเลอร์แตกตัวออกจากกัน จากที่เคยเป็นเจลแน่น ๆ จะกลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่ละลายได้

3.ขับออกจากร่างกาย
โมเลกุลที่ถูกย่อยสลายจะเปลี่ยนเป็นน้ำและสารธรรมชาติอื่น ๆ ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมและกำจัดออกได้เองผ่านระบบน้ำเหลืองและกระบวนการเผาผลาญตามกระบวนการทำงานของร่างกาย

ฉีดสลายฟิลเลอร์ เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสช่วยย่อยฟิลเลอร์แท้ให้สลายออกจากร่างกาย ทั้งนี้ควรทำโดยแพทย์ด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน

ฟิลเลอร์มีกี่ชนิด อะไรบ้าง
ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มที่ช่วยเพิ่มวอลุ่มให้ผิวบริเวณที่มีปัญหายุบตัว ริ้วรอย หรือความหย่อนคล้อย โดยนิยมฉีดบริเวณแก้ม ร่องแก้ม คาง ขมับ ใต้ตา หรือริมฝีปาก เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูอิ่มฟูและละมุนมากขึ้น

ฟิลเลอร์ ไม่ได้มีชนิดเดียว แต่สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติ ความคงตัว แตกต่างกันไป ดังนี้

1.ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler)
ฟิลเลอร์ชนิดนี้ถือว่า ไม่เป็นอันตรายที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีองค์ประกอบหลักเป็น กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายของเรา

คุณสมบัติเด่น
• สามารถสลายได้เองภายใน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อ
• ไม่ทิ้งสารตกค้างหรือสิ่งแปลกปลอมไว้ในร่างกาย
• มีความยืดหยุ่นสูง ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ดูไม่ตึงเกินไป
• หากต้องการปรับแก้ สามารถ “ฉีดสลายฟิลเลอร์” ได้ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase แบบไม่เป็นอันตราย

จุดเด่น ผลลัพธ์สวยไม่ตึงหน้าจนเกินไป และเหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน

2.ฟิลเลอร์กึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler)
ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีอายุการคงตัวนานกว่าแบบชั่วคราว โดยอาจอยู่ได้หลายปี แต่ ไม่ได้รับความนิยมเท่าฟิลเลอร์ HA เนื่องจากมีความเสี่ยงมากกว่า

องค์ประกอบหลัก
มักมีส่วนผสมของสารอื่น ๆ เช่น Poly-L-Lactic Acid (PLLA) หรือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว

ข้อควรรู้
• ฟิลเลอร์ชนิดนี้สลายได้ยากกว่าแบบ HA
• หากเกิดปัญหา เช่น เป็นก้อน หรือผิดตำแหน่ง การแก้ไขจะทำได้ยาก
• อาจเกิดการอักเสบ หรือเนื้อเยื่อแข็งตัวหากฉีดลึกเกินไปหรือไม่เหมาะกับตำแหน่ง

ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า แต่ต้องเลือกทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญสูง เพราะไม่สามารถสลายออกได้ง่ายเหมือนฟิลเลอร์แบบ HA

3.ฟิลเลอร์ถาวร (Permanent Filler)
ฟิลเลอร์ประเภทนี้ แทบไม่ถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ความงามยุคปัจจุบัน เพราะมีความเสี่ยงสูงและไม่สามารถสลายได้เอง

ลักษณะ
• มักผลิตจากสารซิลิโคนเหลว หรือพอลิเมอร์บางชนิดที่ไม่สามารถย่อยสลายได้
• เมื่อฉีดแล้วจะคงอยู่ในร่างกายถาวร ไม่สามารถฉีดสลายหรือดูดออกได้

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
• การอักเสบเรื้อรัง หรือเกิดพังผืดแข็งบริเวณที่ฉีด
• ฟิลเลอร์อาจเคลื่อนตัว ทำให้ใบหน้าผิดรูป
• หากต้องการแก้ไข ต้องใช้วิธีผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ซึ่งมีความเสี่ยงและอาจเกิดแผลถาวร

ในปัจจุบัน ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ถาวร เนื่องจากผลข้างเคียงระยะยาวสูง และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์

สาเหตุที่ต้องฉีดสลายฟิลเลอร์
แม้การฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่หลายคนสนใจในการช่วยปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึก และทำให้ใบหน้าดูละมุนมากขึ้น แต่หากทำโดยขาดความเชี่ยวชาญหรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม ก็อาจเกิดผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติหรือมีปัญหาตามมาได้ ซึ่งในหลายกรณี จำเป็นต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ เพื่อแก้ไขให้กลับมาใกล้เคียงสภาพผิวเดิมมากที่สุด

ปัญหาที่มักต้องฉีดสลายฟิลเลอร์
1.ฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิวไม่เรียบเนียน
หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในการที่ต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ คือ การเกิดก้อนแข็งหรือผิวไม่เรียบเสมอ หลังฉีดฟิลเลอร์ สาเหตุหลักมาจากการฉีดสารในชั้นผิวที่ไม่ถูกต้อง หรือใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไปในบริเวณเล็ก ๆ ทำให้สารไม่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ บางครั้งอาจเกิดการอุดตันของหลอดเลือดหรือการจับตัวกันของฟิลเลอร์ ซึ่งไม่เพียงทำให้ผิวดูไม่เรียบ แต่ยังอาจรู้สึกเจ็บหรือระบมเมื่อสัมผัสได้อีกด้วย

2.ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
หลายคนตัดสินใจฉีดสลายฟิลเลอร์เพราะ ไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ เช่น รูปหน้าดูไม่สมส่วน ร่องแก้มยังลึก หรือฉีดแล้วใบหน้าไม่ละมุนอย่างที่ตั้งใจไว้ ปัญหานี้มักเกิดจากการวางตำแหน่งของฟิลเลอร์ผิดจุด หรือเลือกชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด เช่น ใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่แข็งเกินไปกับบริเวณที่ต้องการความนุ่ม เช่น ใต้ตาหรือริมฝีปาก

3.ใบหน้าดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ที่มากเกินพอดีอาจทำให้ใบหน้าดูแข็ง ขาดความอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คาง หรือขมับที่ต้องอาศัยความละเอียดในการปรับวอลุ่ม หากฟิลเลอร์ถูกฉีดลึกหรือมากเกินไป จะทำให้รูปหน้าเปลี่ยนจนเห็นได้ชัด เมื่อแสดงสีหน้าหรือยิ้มอาจดู ตึงเกินไป จนไม่กลมกลืนกับโครงหน้าจริง

สาเหตุของปัญหาเหล่านี้
ปัญหาที่ทำให้ต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากตัวฟิลเลอร์เอง แต่เกิดจาก กระบวนการฉีด ที่ขาดความเข้าใจในโครงสร้างใบหน้า ได้แก่

แพทย์ขาดประสบการณ์หรือเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง
การฉีดฟิลเลอร์ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ แพทย์ต้องเข้าใจโครงสร้างใบหน้าแต่ละบุคคลอย่างละเอียด เพื่อกำหนดตำแหน่งและความลึกที่เหมาะสม หากประเมินผิดแม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้เกิดการบวม เป็นก้อน หรือฟิลเลอร์กระจายตัวไม่สม่ำเสมอ

เลือกชนิดหรือรุ่นของฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมีความยืดหยุ่น ความหนืด และความคงตัวต่างกัน หากเลือกใช้ผิดประเภท เช่น ใช้เนื้อแข็งเกินไปในบริเวณผิวบาง อาจทำให้ผิวเป็นคลื่นหรือไม่เรียบเนียน

ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่สมดุลกับโครงหน้า
การฉีดฟิลเลอร์มากเกินไปอาจทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ขณะที่ฉีดน้อยเกินไปอาจไม่เห็นผลหรือไม่เกิดการยกกระชับตามต้องการ

การฉีดสลายฟิลเลอร์จึงเป็นขั้นตอน แก้ไข เพื่อคืนความสมดุลให้ใบหน้าในกรณีที่ฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่พอใจหรือเกิดข้อผิดพลาดจากการฉีดครั้งก่อน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ควรปรึกษาและรับบริการจาก แพทย์ด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ที่สามารถประเมินสาเหตุ ปริมาณ และตำแหน่งของการสลายได้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ใบหน้ากลับมาดูละมุนและมั่นใจได้อีกครั้ง

ฟิลเลอร์สามารถสลายเองได้หรือไม่
ฟิลเลอร์สามารถสลายได้เอง หากเป็นฟิลเลอร์แท้ชนิด Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่าง ๆ
ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีโครงสร้างใกล้เคียงกับสารธรรมชาติในร่างกาย จึงสามารถถูกเอนไซม์ในร่างกายย่อยสลายได้โดยไม่ส่งผลข้างเคียงในร่างกาย ไม่มีสารตกค้างหรือสิ่งแปลกปลอมหลงเหลืออยู่

ระยะเวลาการสลายของฟิลเลอร์ตามกระบวนการ
ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปนั้น ขึ้นอยู่กับชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์ รวมถึงจุดที่ฉีด เช่น
- ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม (เช่น ใต้ตา หรือริมฝีปาก) จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
- ฟิลเลอร์เนื้อแน่น (เช่น คาง ขมับ หรือกรอบหน้า) อาจอยู่ได้ถึง 18-24 เดือน
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การออกกำลังกายบ่อย การเผาผลาญเร็ว หรือการนวดหน้าแรง ๆ ก็อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น

โดยทั่วไป ฟิลเลอร์แท้จะค่อย ๆ ย่อยสลายไปเรื่อย ๆ จนหมดในที่สุด และไม่ทิ้งสารตกค้างภายในร่างกาย

หากต้องการให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้หรือไม่
สามารถทำได้โดยใช้วิธี ฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase ซึ่งเป็นวิธีทางการแพทย์ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายและเห็นผลชัดเจน

ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายหรือไม่
โดยทั่วไป การฉีดสลายฟิลเลอร์ไม่ใช่หัตถการที่อันตราย หากดำเนินการโดย แพทย์ที่มีประสบการณ์ในการประเมินปริมาณยาและเข้าใจโครงสร้างผิวหน้าเป็นอย่างดี เพราะการฉีดสลายฟิลเลอร์ต้องอาศัยความชำนาญสูง ทั้งในเรื่องตำแหน่งของการฉีดและขนาดของตัวยา เพื่อให้สามารถฉีดสลายเฉพาะ ฟิลเลอร์ที่ต้องการได้โดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อผิวอื่น ๆ

ทำไม “ฉีดสลายฟิลเลอร์” ถึงไม่เป็นอันตราย
ตัวยาที่ใช้ในการฉีดสลายฟิลเลอร์คือ เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ซึ่งมีคุณสมบัติในการย่อยสลายสาร Hyaluronic Acid - สารชนิดเดียวกับที่เป็นส่วนประกอบของฟิลเลอร์แท้ และยังมีอยู่ตามร่างกายของเราเองอยู่แล้ว ดังนั้นการฉีดเอนไซม์เข้าไปจะไม่ก่อให้เกิดสิ่งแปลกปลอมใหม่ แต่ช่วยเร่งกระบวนการย่อยสลายให้เร็วขึ้น

แพทย์จะคำนวณปริมาณเอนไซม์ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับ
• ชนิดของฟิลเลอร์
• ปริมาณที่ต้องการสลาย
• ตำแหน่งและความลึกของการฉีด

การควบคุมและความชำนาญของแพทย์จะช่วยให้ฟิลเลอร์สลายเฉพาะจุดโดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวรอบข้าง

ฉีดสลายฟิลเลอร์ ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง
การฉีดสลายฟิลเลอร์สามารถทำได้ในทุกบริเวณที่เคยมีการฉีดฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) เข้าไป โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดปัญหา เช่น เป็นก้อน ผิวไม่เรียบ หรือดูแข็งตึงจนเกินไป ซึ่งมักเกิดขึ้นในบริเวณใบหน้า เนื่องจากเป็นส่วนที่มองเห็นได้ชัดเจนและมีผลต่อความมั่นใจของผู้ถูกฉีดโดยตรง

แพทย์จะเป็นผู้ประเมินลักษณะปัญหาและปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องสลาย เพื่อกำหนดจุดและปริมาณยาที่เหมาะสมในแต่ละตำแหน่ง เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนและใกล้เคียงสภาพเดิมที่สุด

1.สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา
เป็นตำแหน่งที่พบปัญหาบ่อยที่สุด เพราะผิวใต้ตาบางและบอบบางมาก หากฟิลเลอร์ถูกฉีดตื้นเกินไปหรือใช้ปริมาณมากเกิน อาจทำให้
• ใต้ตาดูบวมเป็นก้อน
• เกิดลักษณะ “เงาฟิลเลอร์” หรือเป็นรอยคล้ำคล้ายถุงใต้ตา
• ผิวไม่เรียบเมื่อแสดงสีหน้า

ในกรณีนี้ แพทย์จะใช้เอนไซม์ Hyaluronidase ปริมาณน้อยและฉีดอย่างระมัดระวัง เพื่อสลายเฉพาะส่วนเกินโดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง

2.สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม
บริเวณร่องแก้มมักเกิดปัญหาเมื่อฟิลเลอร์ถูกฉีดลึกเกินไป หรือใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่หนืดมากเกินจำเป็น ทำให้
• ผิวดูนูนหรือเป็นคลื่น
• ร่องแก้มดูแข็ง ไม่ละมุน

การฉีดสลายในจุดนี้ช่วยให้ผิวเรียบเสมอและรูปหน้าดูละมุนยิ่งขึ้น

3.สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณหน้าผาก
หน้าผากเป็นบริเวณที่ต้องอาศัยเทคนิคสูงในการฉีดฟิลเลอร์ เพราะหากกระจายไม่สม่ำเสมอ จะเกิดอาการ
• ผิวเป็นคลื่น
• มีลักษณะนูนเป็นก้อน หรือปูดคล้ายหัวปลาทอง

การฉีดสลายฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยปรับพื้นผิวให้เรียบเนียนและลดความโป่งของฟิลเลอร์ได้ไม่อันตรายต่อผิว

4.สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปาก
ริมฝีปากเป็นอีกตำแหน่งที่มักเกิดปัญหา เมื่อฉีดฟิลเลอร์มากเกินไปหรือฉีดผิดชั้นผิว เช่น
• ปากเจ่อหรือบวมเกินจริง
• รูปปากดูแข็ง ตึงเกินไป
• มุมปากย้อยหรือไม่สมดุล

การฉีดสลายฟิลเลอร์ในบริเวณนี้จะช่วยคืนรูปปากให้ได้สัดส่วนและอวบอิ่มกำลังดี

5.สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณคาง
ฟิลเลอร์คางที่ฉีดมากเกินไปมักทำให้
• คางแหลมเกินจริง หรือดูยาวแข็งเกินไป
• เกิดก้อนแข็งใต้คาง
• เส้นกรามดูผิดรูป

แพทย์สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์เฉพาะส่วนที่เกิน เพื่อปรับให้คางกลับมามีสัดส่วนรับกับใบหน้าอย่างสมดุล

ฉีดสลายฟิลเลอร์กี่วันถึงจะเห็นผล
โดยทั่วไปแล้ว ผลของการฉีดสลายฟิลเลอร์จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 24-48 ชั่วโมงแรก หลังจากได้รับการฉีดเอนไซม์ ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ซึ่งเป็นตัวยาที่ออกฤทธิ์ในการย่อยสลายสาร Hyaluronic Acid (HA) ภายในชั้นผิว ทำให้เนื้อฟิลเลอร์ค่อย ๆ แตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายตามกระบวนการทำงานของร่างกาย

ระยะเวลาการเห็นผลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่เคยฉีด ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องการสลาย รวมถึงสภาพผิวและการตอบสนองของร่างกายต่อยา

ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของเอนไซม์ Hyaluronidase
ทันทีหลังฉีดสลายฟิลเลอร์ เอนไซม์เริ่มออกฤทธิ์ทันที โดยบางคนจะสังเกตได้ว่าบริเวณที่ฉีดเริ่มยุบตัวลงภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังฉีดสลายฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะเริ่มสลายจนเห็นความแตกต่างชัดเจน ใบหน้าจะค่อย ๆ กลับมาใกล้เคียงสภาพเดิมก่อนฉีดฟิลเลอร์
หลัง 3-7 วันหลังฉีดสลายฟิลเลอร์ อาการบวม แดง หรือรอยเข็มเล็ก ๆ จากการฉีดจะค่อย ๆ หายไป

การติดตามผลหลังฉีดสลายฟิลเลอร์
แพทย์จะนัดคนไข้กลับมาตรวจซ้ำ ภายใน 1 สัปดาห์หลังการฉีดสลายฟิลเลอร์ เพื่อประเมินผลลัพธ์ว่า
• ฟิลเลอร์สลายหมดหรือยัง
• ยังมีบางจุดที่เป็นก้อนหรือแข็งอยู่หรือไม่
• ผิวเรียบเสมอกันดีหรือยัง

หากยังพบว่าฟิลเลอร์ตกค้างอยู่ในบางบริเวณ แพทย์อาจพิจารณาฉีดสลายเพิ่มเติมในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งสามารถทำได้ซ้ำจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อจำนวนครั้งในการฉีดสลายฟิลเลอร์
1.ชนิดของฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีความหนืดและความคงตัวไม่เท่ากัน
- ฟิลเลอร์เนื้อบาง (เช่น บริเวณใต้ตา) มักสลายได้ในครั้งเดียว
- ฟิลเลอร์เนื้อแน่นหรือรุ่นที่คงตัวสูง (เช่น ฟิลเลอร์คางหรือกรอบหน้า) อาจต้องฉีด 2-3 ครั้ง

2.ปริมาณฟิลเลอร์ที่เคยฉีด หากเคยฉีดในปริมาณมาก การฉีดสลายฟิลเลอร์อาจต้องทำมากกว่าหนึ่งรอบ

3.ตำแหน่งของฟิลเลอร์ พื้นที่ที่มีชั้นผิวหนาหรือมีเส้นเลือดมาก เช่น แก้ม หรือคาง อาจต้องใช้เทคนิคเฉพาะในการสลาย

ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์ต้องรู้อะไรบ้าง
ก่อนตัดสินใจฉีดสลายฟิลเลอร์ สิ่งสำคัญที่สุดคือข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่เคยฉีดมาก่อน เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างถูกต้อง ไม่อันตราย และเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การฉีดสลายฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ต้องใช้ความละเอียดสูง การรู้ข้อมูลในการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยลดความเสี่ยงได้

1.ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดมากี่ CC
ปริมาณฟิลเลอร์ที่เคยฉีดมีผลโดยตรงต่อการคำนวณปริมาณเอนไซม์ Hyaluronidase ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ หากใช้ยาในปริมาณไม่เพียงพอ ฟิลเลอร์อาจสลายไม่หมด แต่หากใช้มากเกินไปก็อาจทำให้เนื้อเยื่อรอบข้างได้รับผลกระทบ

ฟิลเลอร์ใน 1 ไซริงค์ (Syringe) จะมี 1 CC การแจ้งแพทย์ว่าครั้งก่อนฉีดมากี่ CC จะช่วยให้สามารถคำนวณปริมาณยาสลายได้ถูกบริเวณและเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละบริเวณได้แบบไม่เป็นอันตราย

2.ฟิลเลอร์ที่ฉีดใช้ยี่ห้ออะไร
ยี่ห้อของฟิลเลอร์มีผลต่อการเลือกเทคนิคและความเข้มข้นของเอนไซม์ที่ใช้ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ เนื่องจากแต่ละยี่ห้อมีความหนืดและความคงตัวของสารแตกต่างกัน

ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เช่น บริเวณคางหรือกรอบหน้า มักต้องใช้เอนไซม์ที่มีความเข้มข้นสูงกว่า ส่วนฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เช่น ใต้ตาหรือริมฝีปาก ต้องใช้ยาในระดับความเข้มข้นต่ำ เพื่อป้องกันการฉีดสลายฟิลเลอร์เกินความจำเป็น

หากสามารถแจ้งชื่อยี่ห้อของฟิลเลอร์ เช่น Restylane, Juvederm, Belotero, Neuramis หรือ Revanesse จะช่วยให้แพทย์วางแผนการสลายได้ถูกต้องมากขึ้น

3.ฉีดฟิลเลอร์มานานเท่าไหร่
ระยะเวลาที่ฉีดฟิลเลอร์มามีผลต่อความยากง่ายในการฉีดสลายฟิลเลอร์ หากฉีดมาไม่นาน (ไม่เกิน 6 เดือน) ฟิลเลอร์จะยังอยู่ในสภาพคงตัว ทำให้สลายได้ง่ายและรวดเร็ว แต่หากฉีดมานานเกิน 1 ปี ฟิลเลอร์บางส่วนอาจเริ่มสลายเองตามธรรมชาติ หรือเกิดพังผืดในชั้นผิว ซึ่งอาจต้องใช้การฉีดสลายฟิลเลอร์หลายครั้งเพื่อให้สลายออกหมด

ในบางกรณี ฟิลเลอร์ที่อยู่มานานอาจเปลี่ยนรูปหรือกระจายตัวไปตามเนื้อเยื่อ แพทย์จึงต้องใช้เทคนิคเฉพาะในการสลายให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

4.ฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นของแท้หรือไม่
การฉีดฟิลเลอร์เป็นของแท้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเอนไซม์ Hyaluronidase จะสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้เฉพาะฟิลเลอร์แท้ที่มีส่วนประกอบเป็น Hyaluronic Acid เท่านั้น

หากเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรือเป็นฟิลเลอร์ถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว หรือสารเติมเต็มชนิดอื่น เอนไซม์จะไม่สามารถสลายได้ และอาจต้องใช้วิธีขูดหรือผ่าตัดออกแทน ซึ่งมีความซับซ้อนและเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น

ควรนำกล่องฟิลเลอร์เดิมหรือรูปถ่ายฉลากยามาให้แพทย์ตรวจสอบ เพื่อดูชื่อยี่ห้อ รุ่น เลขล็อต และวันหมดอายุ หากไม่มีกล่อง แพทย์จะประเมินจากลักษณะของก้อนฟิลเลอร์และประวัติการรักษา เพื่อวางแผนการฉีดสลายฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุด

ขั้นตอนการฉีดสลายฟิลเลอร์
1.ประเมินปัญหาและซักประวัติ
แพทย์จะตรวจดูบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เดิม ประเมินปริมาณ ตำแหน่ง และชนิดของฟิลเลอร์ พร้อมสอบถามประวัติการรักษาเดิม เพื่อวางแผนการฉีดสลายฟิลเลอร์ให้เหมาะสมที่สุด

2.ทำความสะอาดและเตรียมผิว
บริเวณที่จะฉีดจะถูกทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ พร้อมอาจใช้ยาชาหรือประคบเย็นเพื่อลดความเจ็บขณะฉีดสลายฟิลเลอร์

3.ฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase
แพทย์จะฉีดเอนไซม์เข้าไปในจุดที่ต้องการสลายฟิลเลอร์ โดยใช้ปริมาณยาที่คำนวณตามความเหมาะสมของแต่ละคน เพื่อให้ฟิลเลอร์ค่อย ๆ สลายตัว

4.ประเมินผลหลังฉีด
หลังฉีดสลายฟิลเลอร์เสร็จจะเกิดอาการบวมหรือแดงเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติ และจะค่อย ๆ หายภายใน 2-3 วัน แพทย์จะนัดติดตามผลภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อดูว่าฟิลเลอร์สลายหมดหรือไม่ และจำเป็นต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ซ้ำหรือไม่

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดสลายฟิลเลอร์
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดนวดบริเวณที่ฉีดสลายฟิลเลอร์ ภายใน 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการกระจายของตัวยา
2.งดแต่งหน้าและทาครีมบริเวณที่ฉีดสลายฟิลเลอร์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวได้พักและลดโอกาสการติดเชื้อ
3.ประคบเย็นในช่วง 6-12 ชั่วโมงแรก หากมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกอุ่นบริเวณที่ฉีดสลายฟิลเลอร์ จะช่วยให้บวมลดลงเร็วขึ้น
4.งดออกกำลังกายหนัก ดื่มแอลกอฮอล์ และอบซาวน่า อย่างน้อย 2-3 วัน เพราะอาจทำให้บวมมากขึ้นหรือมีรอยช้ำ
5.ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและขับของเสียได้ดีขึ้น
6.มาตามนัดของแพทย์ เพื่อตรวจประเมินผลว่าฟิลเลอร์สลายหมดหรือยัง และดูว่าจำเป็นต้องฉีดสลายฟิลเลอร์เพิ่มเติมหรือไม่

ฉีดสลายฟิลเลอร์กี่วันถึงจะเห็นผล
หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ จะเริ่มเห็นผลได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง โดยเอนไซม์จะเริ่มออกฤทธิ์ทันทีหลังฉีดสลายฟิลเลอร์ ทำให้ฟิลเลอร์ค่อย ๆ ยุบตัวลงตามกระบวนการของร่างกาย อาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีดสลายฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นอาการปกติและจะหายไปเองภายในประมาณ 3-7 วัน

แพทย์มักจะนัดติดตามผลหลังทำ เพื่อประเมินว่าฟิลเลอร์สลายหมดหรือยัง หากยังมีก้อนหรือสารตกค้างอยู่บางส่วน อาจต้องฉีดสลายฟิลเลอร์เพิ่มเติมจนได้ผลลัพธ์ที่เราพอใจ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดซ้ำได้หรือไม่
โดยทั่วไปการฉีดสลายฟิลเลอร์ มักเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก และสามารถสลายฟิลเลอร์ได้หมดภายในครั้งเดียว
หากปริมาณฟิลเลอร์ไม่มากหรืออยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงง่าย จำนวนครั้งที่ต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณฟิลเลอร์ที่เคยฉีด ความหนืดของเนื้อฟิลเลอร์ และระยะเวลาที่ฟิลเลอร์อยู่ในผิว

หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ แพทย์จะนัดติดตามผลภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อประเมินว่าฟิลเลอร์ยุบลงเพียงพอหรือยัง หากยังมีก้อนหรือสารตกค้าง แพทย์อาจพิจารณาฉีดสลายฟิลเลอร์เพิ่มเติมได้ โดยสามารถฉีดซ้ำได้ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนตามต้องการ

ฉีดสลายฟิลเลอร์มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
โดยทั่วไปแล้ว การฉีดสลายฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ไม่เป็นอันตราย และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง หากทำโดยแพทย์และใช้ตัวยาที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานมาตรฐาน
หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ อาจพบอาการเล็กน้อยที่ถือเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกาย เช่น
• บวม แดง หรือคันบริเวณที่ฉีดสลายฟิลเลอร์
• อาการระคายเคืองหรือช้ำเล็กน้อยจากเข็ม

อาการเหล่านี้มักหายได้เองภายใน 1-3 วัน โดยสามารถ ประคบเย็น หรือตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ใช้ยาแก้แพ้ในกรณีที่มีอาการคันมากขึ้น

ในกรณีที่มีอาการบวมมากหรือรู้สึกผิดปกติ ควรกลับมาพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินเพิ่มเติม ทั้งนี้ หากทำโดยแพทย์และใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ผลข้างเคียงจากการฉีดสลายฟิลเลอร์จะเกิดขึ้นได้น้อยมาก และสามารถควบคุมได้

หลังฉีดสลายฟิลเลอร์แล้วจะสามารถกลับไปฉีดฟิลเลอร์ได้หรือไม่
หลังจากฉีดสลายฟิลเลอร์ แพทย์ ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใหม่ทันที เนื่องจากเอนไซม์ Hyaluronidase ที่ใช้ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ยังคงออกฤทธิ์อยู่ภายในผิวประมาณ 5-7 วัน หากรีบฉีดฟิลเลอร์ใหม่ในช่วงนี้ อาจทำให้ฟิลเลอร์ที่เพิ่งฉีดเข้าไปถูกสลายไปด้วย และไม่สามารถประเมินรูปทรงได้แบบชัดเจน

จึงควร เว้นระยะเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ เพื่อให้ตัวยาสลายหมดและเนื้อเยื่อบริเวณนั้นฟื้นตัวกลับสู่สภาพปกติ จากนั้นแพทย์จะประเมินสภาพผิวและโครงหน้าอีกครั้งก่อนฉีดฟิลเลอร์ใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ละมุน

วิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายได้นอกจากฉีดสลายฟิลเลอร์
โดยทั่วไป ฟิลเลอร์แท้ชนิด Hyaluronic Acid (HA) สามารถสลายได้เองตามกระบวนการของร่างกายอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ และจะถูกย่อยสลายด้วยเอนไซม์ตามกลไกปกติของร่างกาย แต่ในบางกรณี หากไม่ต้องการฉีดเอนไซม์สลายฟิลเลอร์ แพทย์อาจแนะนำวิธีอื่น ๆ ที่สามารถช่วยเร่งกระบวนการสลายได้แบบไม่เป็นอันตรายและเป็นธรรมชาติ ดังนี้

1.การปล่อยให้ฟิลเลอร์สลายเองตามกระบวนการของร่างกาย
ฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid จะค่อย ๆ สลายตัวไปตามระยะเวลา โดยทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่น ยี่ห้อ ตำแหน่งที่ฉีด และการเผาผลาญของร่างกายแต่ละคน

ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เช่น ใต้ตาหรือริมฝีปาก มักสลายเร็วกว่า ส่วนฟิลเลอร์เนื้อแน่น เช่น คางหรือกรอบหน้า จะอยู่ได้นานกว่า การสลายตามธรรมชาติจึงเป็นวิธีที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราที่สุด แต่ต้องใช้เวลาและความอดทน

2.การกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย
กระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายมีผลโดยตรงต่อการสลายของฟิลเลอร์ ยิ่งร่างกายมีการเผาผลาญมากเท่าไร ฟิลเลอร์ก็จะสลายเร็วขึ้น เช่น
• การออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ หรือโยคะ
• การพักผ่อนเพียงพอ เพื่อให้ระบบการทำงานของร่างกายสมดุล
• การดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
• วิธีนี้ช่วยให้ฟิลเลอร์ค่อย ๆ ย่อยสลายอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องพึ่งการฉีดยา

3.การสัมผัสความร้อนหรืออบอุ่นบริเวณใบหน้า
ฟิลเลอร์เป็นสารที่ไวต่อความร้อน ความร้อนจะทำให้โมเลกุลของ Hyaluronic Acid เสื่อมสภาพและสลายเร็วขึ้น ดังนั้น การสัมผัสความร้อนในระดับที่พอดี เช่น
• การอบไอน้ำ อบซาวน่า
• การทำทรีตเมนต์อุ่น เช่น Hot Stone หรือ Radio Frequency (RF)
• การอยู่ในอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน เช่น การออกแดดจัด

อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการทำความร้อนในระดับสูงเกินไปหรือทำบ่อยเกินไป เพราะอาจกระทบต่อสภาพผิวและทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้

4.การนวดหรือขยับกล้ามเนื้อใบหน้าบ่อย ๆ
ในบางกรณี ฟิลเลอร์ที่ฉีดอาจจับตัวเป็นก้อนเล็ก ๆ การนวดเบา ๆ หรือขยับกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น การยิ้ม พูด หรือแสดงสีหน้า จะช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวดีขึ้นและสลายได้เร็วขึ้น แต่ควรทำด้วยความระมัดระวัง

แพทย์บางท่านอาจแนะนำให้ นวดบริเวณที่ฉีด หลังจากผ่านไป 1-2 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และสภาพผิว) เพื่อช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียนและไม่จับตัวกัน แต่ไม่ควรนวดเองโดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง

5.การใช้เทคโนโลยีความร้อนจากเลเซอร์หรือคลื่นพลังงาน
ในบางคลินิก แพทย์อาจใช้เทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานความร้อน เช่น คลื่นวิทยุ (Radio Frequency - RF) หรือ เลเซอร์บางชนิด เพื่อช่วยกระตุ้นการสลายของฟิลเลอร์ ซึ่งวิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น เพราะหากใช้พลังงานไม่เหมาะสม อาจเกิดการอักเสบหรือทำลายคอลลาเจนใต้ผิวได้

ฉีดสลายฟิลเลอร์ Vs ขูดฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร
แม้ทั้ง “การฉีดสลายฟิลเลอร์” และ “การขูดฟิลเลอร์” จะมีจุดประสงค์เดียวกัน คือ กำจัดฟิลเลอร์ที่เกิดปัญหาออกจากผิว แต่ทั้งสองวิธีไม่ว่าจะเป็นการฉีดสลายฟิลเลอร์ และการขูดฟิลเลอร์มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในด้านหลักการ ขั้นตอน และความปลอดภัย

การฉีดสลายฟิลเลอร์
เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะไม่เป็นอันตราย เจ็บน้อย และไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์จะฉีดเอนไซม์ที่ชื่อว่า Hyaluronidase เข้าไปยังบริเวณที่มีฟิลเลอร์ เพื่อย่อยสลายสาร Hyaluronic Acid ให้แตกตัวจนร่างกายสามารถดูดซึมและขับออกได้เองตามกระบวนการทำงานของร่างกาย

ข้อดีของการฉีดสลายฟิลเลอร์
- ฉีดสลายฟิลเลอร์เห็นผลเร็วภายใน 24-48 ชั่วโมง
- ฉีดสลายฟิลเลอร์ไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน
- ฉีดสลายฟิลเลอร์สามารถควบคุมปริมาณและตำแหน่งที่ต้องการสลายได้
- ฉีดสลายฟิลเลอร์เหมาะสำหรับฟิลเลอร์แท้ชนิด Hyaluronic Acid เท่านั้น

ข้อจำกัดของการฉีดสลายฟิลเลอร์
- ฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่สามารถสลายฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ชนิดถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว ได้
- หากฉีดสลายฟิลเลอร์มากเกินไปอาจทำให้ผิวบางหรือเกิดรอยยุบชั่วคราว

การขูดฟิลเลอร์
เป็นวิธีที่ใช้ในกรณีที่ฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายได้ด้วยเอนไซม์ เช่น ฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ถาวร (Non-HA) ซึ่งจะไม่ละลายตามธรรมชาติ แพทย์จึงต้องทำการ ขูดหรือผ่าตัดนำออก โดยใช้เครื่องมือแพทย์เฉพาะภายใต้การฉีดยาชา หรือดมยาสลบ ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ

ข้อดีของการขูดฟิลเลอร์
- สามารถเอาสารเติมเต็มที่ไม่ละลายได้ออกอย่างถาวร
- เหมาะสำหรับกรณีฟิลเลอร์ปลอม หรือเกิดพังผืดแข็งใต้ผิว

ข้อควรระวัง
- เป็นหัตถการที่มีความซับซ้อน ต้องทำโดยศัลยแพทย์
- มีโอกาสเกิดบวม ช้ำ หรือเป็นแผลได้
- อาจต้องพักฟื้นหลายวัน และมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น

ฉีดสลายฟิลเลอร์ที่ไหนดี
หากกำลังมองหาคลินิกที่ให้บริการ ฉีดสลายฟิลเลอร์แบบไม่เป็นอันตรายและได้มาตรฐาน “รมย์รวินท์คลินิก (Romrawin Clinic)” ถือเป็นหนึ่งในคลินิกที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจำนวนมาก

ด้วยประสบการณ์ด้านความงามมากกว่า 20 ปี และแพทย์ผู้เฉพาะทางที่เข้าใจโครงสร้างใบหน้าอย่างลึกซึ้ง รมย์รวินท์คลินิกจึงเป็นคลินิกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความไม่เป็นอันตราย ความละเอียด และผลลัพธ์ที่ดูละมุนขึ้น

คลินิกมาตรฐานสูงและน่าเชื่อถือ
รมย์รวินท์คลินิกเป็นคลินิกความงามที่เปิดให้บริการมานานกว่า 20 ปี มีชื่อเสียงด้านผิวพรรณและการปรับรูปหน้าที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว ได้รับการรับรอง

ดูแลโดยแพทย์
การฉีดสลายฟิลเลอร์จะทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์โดยตรง เข้าใจโครงสร้างผิวและเส้นเลือดบนใบหน้าอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถสลายฟิลเลอร์ได้ถูกกับบริเวณมากที่เกิดปัญหา

ใช้เอนไซม์แท้ที่ผ่านการรับรอง
ที่รมย์รวินท์คลินิกเลือกใช้เอนไซม์ Hyaluronidase ของแท้ ที่มีความบริสุทธิ์สูง ช่วยย่อยสลายฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อรอบข้าง

ประเมินและวางแผนอย่างละเอียดก่อนทำ
แพทย์จะซักประวัติและประเมินสภาพผิวก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์ โดยพิจารณาจากปริมาณ ชนิด และตำแหน่งของฟิลเลอร์ที่เคยฉีด เพื่อกำหนดปริมาณยาและเทคนิคการสลายที่เหมาะสมในแต่ละเคส

ติดตามผลหลังทำอย่างใกล้ชิด
หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ แพทย์จะนัดติดตามผลภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อดูว่าฟิลเลอร์สลายหมดหรือยัง และให้คำแนะนำเพิ่มเติมหากจำเป็นต้องฉีดซ้ำ เพื่อให้ผลลัพธ์เรียบเนียนและสมดุลที่สุด

คลินิกสะอาด ปลอดเชื้อ บรรยากาศพรีเมียม
ห้องหัตถการทุกห้องผ่านการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ใหม่ทุกครั้ง มาพร้อมบรรยากาศที่ทันสมัยและเป็นส่วนตัว ทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกมั่นใจและผ่อนคลาย

มีหลายสาขาให้เลือกทั่วประเทศ
รมย์รวินท์คลินิกมีสาขาในศูนย์การค้าชั้นนำ เช่น สยามพารากอน เซ็นทรัลลาดพร้าว เมกาบางนา และอีกกว่า 20 สาขาทั่วประเทศ เดินทางสะดวกและได้รับมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาฟิลเลอร์
เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน บวม ผิดรูป หรือไม่พอใจกับผลลัพธ์เดิม แพทย์จะช่วยประเมิน เพื่อให้ใบหน้ากลับมาดูสมดุลอีกครั้ง

ใครสนใจฉีดสลายฟิลเลอร์สามารถทักมานัดคิวปรึกษาคุณหมอได้เลย

สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการฉีดสลายฟิลเลอร์
การฉีดสลายฟิลเลอร์คือหัตถการทางการแพทย์ที่ใช้เอนไซม์ Hyaluronidase เพื่อย่อยสลายฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) ที่เคยฉีดไว้ในผิวหนังให้แตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายตามกระบวนการของร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดปัญหา เช่น เป็นก้อน บวม ผิดรูป หรือไม่พอใจกับผลลัพธ์เดิม

เอนไซม์จะเริ่มออกฤทธิ์ทันทีหลังฉีดสลายฟิลเลอร์ และเห็นผลชัดเจนภายใน 24-48 ชั่วโมง อาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อยซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน หลังจากนั้นแพทย์จะนัดติดตามผลเพื่อประเมินว่าฟิลเลอร์สลายหมดหรือยัง และสามารถฉีดซ้ำได้หากจำเป็น ทั้งนี้การฉีดสลายจะได้ผลเฉพาะฟิลเลอร์แท้ที่เป็น Hyaluronic Acid เท่านั้น ส่วนฟิลเลอร์ปลอมหรือชนิดถาวรต้องใช้วิธีอื่นในการนำออก เช่น การขูดหรือผ่าตัด

การฉีดสลายฟิลเลอร์ถือว่าไม่เป็นอันตราย หากทำโดยแพทย์และ ใช้ยาที่ผ่านการรับรองและอยู่ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงกับบริเวณที่เกิดปัญหา และคืนความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติให้กับผิวหน้าอีกครั้ง

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
เรื่อง โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่คุณอาจสนใจ