romrawin

11 วิธีดูแลผิวขาวอมชมพู ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำทำอย่างไร เห็นผลจริงไหม

ผิวขาว

11 วิธีดูแลผิวขาวอมชมพู ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ
ใครที่รู้สึกว่าตอนนี้ผิวแห้งกร้าน ผิวคล้ำเสีย อยากฟื้นฟูให้ผิวขาวอมชมพู ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ให้กลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง เราได้รวมวิธีที่ฟื้นฟูผิวขาวอมชมพูแบบทันใจมาไว้ให้แล้ว เป็นการดูแลตัวเองที่ทำควบคู่ไปกับหัตถการงานผิวที่ทำให้ผิวขาวอมชมพูแบบคูณสอง

รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับการดูแลผิวขาวอมชมพูฟื้นฟูผิว
• ผิวขาวมีกี่เฉด วิธีเช็คโทนสีผิว
• สาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำมีอะไรบ้าง
• วิธีการดูแลให้ผิวขาวด้วยตัวเองจากภายในสู่ภายนอก
• การทำ Personal Color ช่วยส่งให้ผิวขาวกระจ่างใส
• หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วยเลเซอร์
• หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วยทรีตเม้นท์
• หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วยการดริปวิตามิน
• หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วย Radiesse
• หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วย Sculptra
• หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วย Profhilo
• หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วย Skinvive
• หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วย HACa
• สรุปรวมวิธีดูแลผิวขาวกระจ่างใส

ผิวขาวมีกี่เฉด วิธีเช็คโทนสีผิว
ถึงแม้ว่าคำว่า "ผิวขาว" จะเป็นคำกว้าง ๆ พูดรวม ๆ แต่ความจริงแล้ว ผิวขาวสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายเฉด ซึ่งจะอ้างอิงจาก ระดับความสว่าง (Fairness Level) และ อันเดอร์โทน (Undertone) เพื่อแยกเฉดของผิวขาว

ระดับความสว่างของผิวขาว
• Fair Skin - ผิวขาวซีดมาก มักพบในคนยุโรปหรือเอเชียเหนือ เช่น คนจีน เกาหลี ญี่ปุ่นบางกลุ่ม
• Light Skin - ผิวขาวปานกลาง มีเมลานินในผิวมากกว่า Fair Skin พบได้ทั่วไปในเอเชีย
• Light-Medium Skin - ผิวขาวแบบมีความอุ่นเล็กน้อย เช่น ผิวขาวเหลืองหรือขาวอมชมพูในบางคน

อันเดอร์โทนของผิวขาว
อันเดอร์โทนเป็นสีที่ซ่อนอยู่ใต้ผิว แม้ว่าจะมีผิวสีเดียวกัน แต่คนละอันเดอร์โทนก็ทำให้ดูแตกต่างกัน

• Cool Undertone - ผิวขาวซีดอมชมพู น้ำเงิน หรือแดง
• Warm Undertone - ผิวขาวอมเหลือง หรือโกลว์ทอง
• Neutral Undertone - ผิวขาวที่ไม่มีการอมสีชมพูหรือเหลืองมากเกินไป ดูสมดุล

วิธีเช็คโทนสีผิวของตัวเอง
การเช็คโทนสีผิวสามารถทำได้หลายวิธี ต่อไปนี้เป็นวิธีที่ง่ายและแม่นยำ
1.ดูที่เส้นเลือด (Vein Test)
• ถ้าเส้นเลือดที่ข้อมือออกสี น้ำเงินหรือม่วง - ผิวโทนเย็น (Cool)
• ถ้าเส้นเลือดออกสี เขียว - ผิวโทนอุ่น (Warm)
• ถ้าเส้นเลือดเป็น ทั้งน้ำเงินและเขียวปะปนกัน - ผิวโทนกลาง (Neutral)

2.ทดสอบกับเครื่องประดับ (Jewelry Test)
• ถ้าใส่ ทองคำ แล้วผิวดูสว่างขึ้น - โทนอุ่น (Warm)
• ถ้าใส่ เงิน แล้วผิวดูสวยขึ้น - โทนเย็น (Cool)
• ถ้าใส่ได้ทั้งทองและเงินแล้วดูดีทั้งสองแบบ - โทนกลาง (Neutral)

การที่รู้ว่าตัวเองผิวขาวเฉดไหนจะทำให้เรารู้ตัวเองว่าควรจะดูแลตัวเองยังไง ใส่อะไร เพื่อให้เหมาะกับโทนผิวของตัวเอง

สาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำมีอะไรบ้าง
ผิวคล้ำเกิดจากการเพิ่มขึ้นของ เมลานิน (Melanin) ซึ่งเป็นเม็ดสีในผิวหนังที่ร่างกายผลิตขึ้นเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV และปัจจัยอื่น ๆ ที่มากระตุ้น การที่ผิวคล้ำมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพันธุกรรม สภาพแวดล้อม และพฤติกรรมในการดูแลผิว

แสงแดดและรังสี UV
แสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวคล้ำ เพราะ รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) กระตุ้นการผลิตเมลานิน มากขึ้นเพื่อปกป้องผิวจากการไหม้แดดและอันตรายจากรังสี UV
• UVA - ทำให้เกิดผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัย
• UVB - กระตุ้นการสร้างเมลานิน ทำให้เกิดผิวไหม้และกระดำกระด่าง
• UVC - ถูกกรองโดยชั้นบรรยากาศ แต่หากสัมผัสมากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายได้

อายุที่เพิ่มมากขึ้น
เวลาที่เราอายุเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้คอลลาเจนที่มีในผิวเราลดน้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ทำให้ผิวดูหมองคล้ำมากขึ้น

มลภาวะ ฝุ่น
มลภาวะ และฝุ่น pm 2.5 ทำร้ายผิวโดยตรง ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ

พักผ่อนไม่เพียงพอ
การที่เรานอนน้อย พักผ่อนไม่เต็มอิ่ม หรือว่านอนดึก จะส่งผลให้ ร่างกายฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ ทำให้เซลล์ผิวของเราเสียและซ่อมแซมได้ไม่ทัน

ผิวขาดน้ำ
ร่างกายที่ขาดน้ำ หรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวของเราขาดความชุ่มชื่น เวลาบำรุงผิวทรีตเม้นท์เข้าไปได้ไม่เต็มที่

ความเครียด
ร่างกายของเราจะกระตุ้นฮอร์โมนที่เป็นตัวสร้างเม็ดสีเมลานินมากขึ้น ส่งผลให้ผิวของเราดูโทรม คล้ำเสีย
ผิวคล้ำทำให้เราดูหมองไม่สดใส บดบังร่างทองที่ผิวขาวออร่า เปล่งประกาย เพราะฉะนั้นเราไม่ควรละเลยที่จะดูแลผิวหน้าและผิวกายของเราให้ดูสดใสสุขภาพดีอยู่เสมอ

วิธีการดูแลให้ผิวขาวด้วยตัวเองจากภายในสู่ภายนอก
ดูแลผิวจากภายใน (Inside-Out) เพื่อให้ผิวขาวสว่างใส
1.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
• ดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน
• น้ำช่วยขับสารพิษ ลดการเกิดสิว และทำให้ผิวใส ผิวขาวขึ้น

2.รับประทานอาหารที่ช่วยให้ผิวขาว
• วิตามิน C - กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดจุดด่างดำ (ส้ม, ฝรั่ง, กีวี, สตรอว์เบอร์รี)
• วิตามิน E - ป้องกันผิวหมองคล้ำจากแสงแดด (อะโวคาโด, อัลมอนด์, น้ำมันมะกอก)
• กลูต้าไธโอนจากธรรมชาติ - ช่วยให้ผิวขาวขึ้น (มะเขือเทศ, อะโวคาโด, หน่อไม้ฝรั่ง)
• Zinc (สังกะสี) - ลดสิวและการอักเสบของผิว (หอยนางรม, เมล็ดฟักทอง)

3.นอนหลับให้เพียงพอ (Beauty Sleep)
• นอนวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้เซลล์ผิวฟื้นฟู
• นอนก่อน 23.00 น.เพราะช่วง 22.00 - 02.00 น.เป็นเวลาผิวซ่อมแซมตัวเองช่วยฟื้นฟูให้ผิวขาวขึ้น

4.ออกกำลังกายเป็นประจำ
• ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง
• เหงื่อช่วยขับสารพิษ ลดโอกาสการเกิดสิว

5.ลดของหวาน ของทอด และแอลกอฮอล์
• น้ำตาลและอาหารทอดกระตุ้นการเกิดริ้วรอย และทำให้ผิวหมองคล้ำ
• แอลกอฮอล์ทำให้ผิวขาดน้ำและดูแก่ก่อนวัย

ดูแลผิวจากภายนอก (Outside-In) เพื่อผิวขาวใส
6.ทาครีมกันแดดทุกวัน (แม้ไม่ได้ออกแดด)
• ใช้ SPF 30-50+++ ป้องกันผิวคล้ำเสียช่วยให้ผิวขาว ปรับผิวใสมากขึ้น
• ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หากต้องออกแดด

7.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้น
• เซรั่มหรือครีมที่มีส่วนผสมของ
- วิตามิน C - ลดจุดด่างดำและช่วยให้ผิวขาวใส
- อาร์บูติน - ลดการสร้างเมลานิน ทำให้ผิวกระจ่างใส
- ไนอาซินาไมด์ (วิตามิน B3) - ลดความหมองคล้ำ ปรับสีผิวขาวให้สม่ำเสมอ

8.สครับผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
• ใช้สครับน้ำตาล + น้ำผึ้ง หรือ สครับขมิ้น + โยเกิร์ต เพื่อลดเซลล์ผิวเก่า
• ช่วยให้ผิวขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

9.หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าบ่อย ๆ
• ลดการเกิดสิวและการอักเสบของผิว
• หลีกเลี่ยงการแกะสิวหรือถูผิวแรง ๆ

10.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้ผิว
• เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)
• ผิวที่ชุ่มชื้นช่วยให้ดูใส อิ่มน้ำ ไม่หมองคล้ำช่วยให้ผิวขาวสว่างใส

การทำ Personal Color ช่วยส่งให้ผิวขาวกระจ่างใส
Personal Color เป็นการที่เราเลือกสีนำมาใช้ในการแต่งหน้า การแต่งตัว เพื่อให้เหมาะกับผิวของคน ๆ นั้นมากที่สุด  เพื่อให้เวลาที่เราลือกสิ่งที่เหมาะกับเราจะทำให้ดูผิวขาวมีออร่า แต่ถ้าเราเลือกสีที่ดูไม่เข้ากับเราอาจส่งผลให้ดูหมองได้

Personal Color ส่งผลต่อความกระจ่างใสช่วยให้ผิวขาวอย่างไร
1.ช่วยขับผิวขาวให้ดูสว่างขึ้น
• หากเลือกสีที่เข้ากับโทนสีผิว ผิวขาวใสขึ้นโดยอัตโนมัติ
• สีที่เหมาะสมช่วยสะท้อนแสงทำให้ใบหน้าดูมีมิติและเปล่งปลั่ง

2.ลดความหมองคล้ำ และรอยดำใต้ตา
• สีที่เหมาะสมจะลดเงาและจุดด่างดำบนใบหน้า
• สีที่ไม่เหมาะกับโทนผิวอาจทำให้ดูซีดหรือหมองมากขึ้น

3.ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย
• สีที่เหมาะสมทำให้ผิวดูสดใส ไม่หมองคล้ำหรือดูเหนื่อยล้า
• สีโทนอุ่นช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดี ในขณะที่สีโทนเย็นอาจให้ลุคที่ดูหรูหรา

4.ปรับลุคให้ดูมีออร่าโดยไม่ต้องแต่งหน้าหนา
เลือกสีที่ใช่จะช่วยให้ดูดีขึ้น แม้แต่งหน้าหรือแต่งตัวแบบธรรมชาติ

วิธีวิเคราะห์ Personal Color ของตัวเอง
Personal Color แบ่งเป็น 4 ฤดูหลัก ซึ่งแต่ละฤดูเหมาะกับสีที่แตกต่างกัน

1.โทนอุ่น (Warm Tone)
• Spring (โทนสดใส สว่าง)
- เหมาะกับคนที่มีผิวขาวอมเหลือง ผิวโกลว์สุขภาพดี
- สีที่เหมาะสม เหลืองพาสเทล, ชมพูพีช, สีครีม, เขียวมิ้นต์
- หลีกเลี่ยงสี เทาเข้ม, น้ำเงินเข้ม, ม่วงเข้ม

• Autumn (โทนอุ่นเข้ม ละมุน)
- เหมาะกับคนที่มีผิวขาวเหลือง หรือผิวสีน้ำผึ้ง
- สีที่เหมาะสม น้ำตาลคาราเมล, สีส้มอิฐ, สีเขียวมะกอก, สีแดงก่ำ
- หลีกเลี่ยงสี พาสเทลจาง ๆ, สีฟ้าสว่าง, สีเงิน

2.โทนเย็น (Cool Tone)
• Summer (โทนอ่อนหวาน สดชื่น)
- เหมาะกับผิวขาวอมชมพู หรือขาวซีดแบบคนยุโรป
- สีที่เหมาะสม ฟ้าพาสเทล, ชมพูอ่อน, สีลาเวนเดอร์, สีเทาอ่อน
- หลีกเลี่ยงสี สีส้มสด, น้ำตาลเข้ม, เขียวมะกอก

• Winter (โทนเข้ม คมชัด)
- เหมาะกับคนผิวขาวมาก หรือผิวโทนขาวอมชมพูที่ชัดเจน
- สีที่เหมาะสม ดำ, ขาว, แดงสด, น้ำเงินเข้ม, ชมพูบานเย็น
- หลีกเลี่ยงสี สีพาสเทลอ่อน ๆ, สีครีม, สีเหลืองมัสตาร์ด

แค่ลองเลือกสีให้เหมาะกับเราก็ช่วยให้ขับผิวขาว สว่างได้ สีส่งชุด ชุดส่งคนได้แบบสุดๆ

หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วยเลเซอร์
การทำเลเซอร์เพื่อให้ผิวขาวกระจ่างใสเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้ผลเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยตัวของเลเซอร์จะช่วยลดเม็ดสีเมลานินที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ลดจุดด่างดำ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อให้ผิวเรียบเนียน ผิวขาวสว่างขึ้น

ประเภทของเลเซอร์ที่ช่วยให้ผิวขาว
1.Q-Switch Nd:YAG Laser (เลเซอร์ลดเม็ดสี จุดด่างดำ)
หลักการทำงาน
• ยิงพลังงานเลเซอร์ที่ความยาวคลื่น 532 nm และ 1064 nm ลงไปสลายเม็ดสีเมลานิน
• เหมาะสำหรับการลดฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว และทำให้ผิวขาวใสขึ้น
• กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดความหมองคล้ำ

เหมาะกับ
คนที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำจากแดด

ผลลัพธ์
ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นใน 3-5 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับสภาพผิว)

ระยะเวลาในการทำ
ควรทำทุก 2-4 สัปดาห์

2.Pico Laser (เลเซอร์หน้าใส ลดเม็ดสีลึก)
หลักการทำงาน
• ปล่อยพลังงานเลเซอร์เป็นพัลส์สั้น ๆ ระดับ Picosecond (1 ในล้านล้านวินาที)
• ทำให้เม็ดสีเมลานินแตกตัวละเอียดและถูกกำจัดออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น ส่งผลให้ผิวขาวสว่าง
• ช่วยลดความหมองคล้ำ กระ จุดด่างดำ และปรับสีผิวขาวให้สม่ำเสมอ

เหมาะกับ
คนที่ต้องการผิวขาวใส ลดรอยดำ ฝ้า กระ และกระตุ้นคอลลาเจน

ผลลัพธ์
ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก และดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำต่อเนื่อง

ระยะเวลาในการทำ
ควรทำทุก 2-4 สัปดาห์

3.IPL (Intense Pulsed Light) - เลเซอร์แสงความเข้มข้นสูง
หลักการทำงาน
• ใช้คลื่นแสงความเข้มข้นสูงหลายช่วงคลื่นเพื่อกำจัดเม็ดสีเมลานินส่วนเกิน
• ช่วยลดจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และกระตุ้นคอลลาเจนส่งผลให้ผิวขาวขึ้น
• ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นโดยไม่ทำลายผิว

เหมาะกับ
คนที่ต้องการปรับสีผิวให้ขาวใส ลดรอยแดงและรอยดำจากสิว

ผลลัพธ์
ผิวกระจ่างใสขึ้นใน 3-5 ครั้ง

ระยะเวลาในการทำ
ควรทำทุก 2-4 สัปดาห์

4.Fractional Laser (เลเซอร์ฟื้นฟูผิว)
หลักการทำงาน
• ยิงพลังงานเลเซอร์เป็นจุดเล็ก ๆ ลงไปกระตุ้นเซลล์ผิว
• ลดรอยดำ ฝ้า จุดด่างดำ และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการผิวเรียบเนียนและผิวขาวกระจ่างใส

เหมาะกับ
คนที่มีรอยดำ ฝ้า ผิวหมองคล้ำจากแดด และต้องการกระชับรูขุมขน

ผลลัพธ์
ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นและเนียนขึ้นหลังทำ 3-5 ครั้ง

ระยะเวลาในการทำ
ควรทำทุก 4-6 สัปดาห์

หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วยทรีตเม้นท์
การทำ Skin Treatment เป็นวิธีที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสอย่างอ่อนโยน โดยเน้นการบำรุงผิวลึกถึงระดับเซลล์ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เปล่งปลั่ง และลดเลือนความหมองคล้ำ

ประเภทของทรีตเม้นท์ที่ช่วยให้ผิวขาว
1.ผลัดเซลล์ผิวด้วย AHA/BHA หรือ Chemical Peeling
• ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำออก เผยผิวใหม่ที่ผิวขาวกระจ่างใส
• ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดจุดด่างดำ ฝ้า และรอยสิว
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน
• เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผิวขาวใส ลดรอยดำ และปรับสภาพผิว

ระยะเวลาในการทำ ทุก 2-4 สัปดาห์

2.เมโสหน้าใส (Mesotherapy)
• ฉีดสารบำรุงเข้าผิวโดยตรง เช่น วิตามิน C, ไฮยาลูรอนิค แอซิด และเปปไทด์
• ช่วยลดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
• ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ทำให้ดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง
• เหมาะกับคนที่ต้องการให้ผิวขาวใสขึ้นเร็ว

ระยะเวลาในการทำ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

3.ไอออนโต (Iontophoresis) และโฟโน (Phonophoresis)
• ใช้กระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ (ไอออนโต) หรือคลื่นเสียง (โฟโน) ผลักสารบำรุงเข้าสู่ชั้นผิว
• วิตามิน C และอาร์บูตินที่ใช้ในทรีตเม้นท์นี้ช่วยให้ผิวขาวขึ้น ลดจุดด่างดำ
• เหมาะกับคนที่ต้องการการบำรุงอย่างล้ำลึกแบบไม่ใช้เข็ม

ระยะเวลาในการทำ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

4.เลเซอร์ทรีตเม้นท์หน้าใส (Laser Facial Treatment)
• ใช้พลังงานเลเซอร์ในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• ช่วยลดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวใสขึ้น ลดรอยดำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวขาวใสขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้น

ระยะเวลาในการทำ ทุก 2-4 สัปดาห์

5.มาส์กบำรุงผิวสูตรเข้มข้น (Brightening Mask Treatment)
• ใช้มาส์กที่มีส่วนผสมของวิตามิน C, อาร์บูติน หรือกรดไฮยาลูรอนิค
• ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส
• เหมาะกับทุกสภาพผิว และสามารถทำควบคู่กับทรีตเม้นท์อื่น ๆ

ระยะเวลาในการทำ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วยการดริปวิตามิน
การดริปวิตามิน (IV Drip Therapy) เพื่อผิวขาว เป็นหัตถการที่ใช้การให้สารอาหารเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือดดำโดยตรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมและการนำไปใช้ของร่างกาย

หลักการทำงานของการดริปวิตามินผิวขาว
การให้วิตามินทางเส้นเลือดช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างรวดเร็วและเต็มที่ ต่างจากการรับประทานวิตามินที่ต้องผ่านระบบย่อยอาหาร ซึ่งอาจทำให้ร่างกายดูดซึมได้น้อยกว่า วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่นิยมใช้ในการดริปเพื่อผิวขาว ได้แก่

• วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเม็ดสีเมลานิน
• กลูตาไธโอน (Glutathione) มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวคล้ำ ทำให้ผิวดูขาวขึ้น
• วิตามินบีรวม (B Complex) ช่วยให้ผิวแข็งแรง กระตุ้นการเผาผลาญและซ่อมแซมเซลล์ผิว
• คอลลาเจน (Collagen) เสริมความยืดหยุ่นของผิว ลดริ้วรอย ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและสุขภาพดี

ผลลัพธ์ที่ได้จากการดริปวิตามินผิวขาว
• ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น ดูเรียบเนียนขึ้น
• ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยดำจากสิว
• ผิวดูชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง มีสุขภาพดีขึ้น
• เสริมภูมิคุ้มกันและลดความเหนื่อยล้า

สูตรดริปวิตามินเพื่อผิวขาว
1.IV White & Fresh  สูตรปรับผิวขาวกระจ่างใส มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินผิวที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูสดใสจากภายใน
2.IV White Skin & Detox สูตรขับสารพิษและฟื้นฟูผิว เน้นบำรุงผิว เหมาะกับคนที่ต้องการดีท็อกซ์ และฟื้นฟูผิวไปพร้อม ๆ กัน

ใครสนใจสามารถสอบถามได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก ที่มี IV สูตรพิเศษและดูแลและประเมิณโดย Specialist มั่นใจได้เลยว่าแก้ปัญหาได้ตรงจุด และได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจอย่างแน่นอน

หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วย Radiesse
Radiesse เป็นฟิลเลอร์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยให้ ผิวขาวกระจ่างใสและดูอ่อนเยาว์ โดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน ซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่เน้นเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มวอลลุ่มเท่านั้น

Radiesse คืออะไรช่วยให้ผิวขาวยังไง ?
Radiesse เป็นสารเติมเต็มประเภท Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย เมื่อฉีดเข้าไปในชั้นผิวจะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับเซลล์ผิว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

คุณสมบัติเด่นของ Radiesse ที่ทำให้ผิวขาว
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
• ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น
• ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
• ปรับโครงสร้างผิวให้ดูแน่นกระชับและอิ่มฟูขึ้น

Radiesse ช่วยให้ผิวขาวได้อย่างไร?
1.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
• Radiesse ทำหน้าที่เป็น Biostimulator กระตุ้นให้เซลล์สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ
• ผิวที่มีคอลลาเจนเพียงพอจะดูขาวใส เนียนละเอียด และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

2.เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวขาวดูมีออร่า
• เมื่อผิวได้รับการกระตุ้นจาก Radiesse การไหลเวียนของเลือดจะดีขึ้น ส่งผลให้ ออกซิเจนและสารอาหารเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
• ทำให้ผิวดู กระจ่างใส เปล่งปลั่ง และมีสุขภาพดีขึ้น

3.ลดเม็ดสีเมลานินที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ
• Radiesse มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ทำให้ เม็ดสีเมลานินกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
• ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

4.ปรับโครงสร้างผิวให้เนียนละเอียด และอิ่มน้ำ
• ผิวที่ได้รับการเติมเต็มด้วย Radiesse จะดูอิ่มน้ำและสุขภาพดีดูผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
• ริ้วรอยเล็ก ๆ และความแห้งกร้านที่ทำให้ผิวดูหมองคล้ำจะลดลง

หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วย Sculptra
Sculptra เป็นสารเติมเต็มประเภท Poly-L-lactic Acid (PLLA) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกาย ไม่ใช่ฟิลเลอร์ที่เติมเต็มแบบทันที แต่ทำงานโดยกระตุ้นให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง ส่งผลให้ผิวดูเต่งตึง กระชับ และผิวขาวกระจ่างใสขึ้นในระยะยาว

Sculptra ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างไร
แม้ว่า Sculptra จะไม่ใช่สารที่ออกฤทธิ์โดยตรงในการเปลี่ยนสีผิวให้ขาวขึ้นเหมือนกลูตาไธโอนหรือวิตามินซี แต่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นผ่านกลไกต่อไปนี้

1.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen Stimulation)
• Sculptra ช่วยให้ผิวสร้าง คอลลาเจนประเภท I ซึ่งเป็นโปรตีนหลักที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและเรียบเนียน
• ผิวที่มีคอลลาเจนมากขึ้นจะดูแน่น กระชับ และมีความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส

2.ปรับโครงสร้างผิวให้เรียบเนียนขึ้น (Skin Texture Improvement)
• ลดเลือนริ้วรอย รูขุมขนกว้าง และรอยแผลเป็นจากสิว
• ผิวดูสม่ำเสมอขึ้น ส่งผลให้แสงสะท้อนผิวดีขึ้น ทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสขึ้นโดยธรรมชาติ

3.เพิ่มความชุ่มชื้นของผิว (Skin Hydration & Glow Effect)
• การมีคอลลาเจนและกรดไฮยาลูโรนิกมากขึ้นช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำได้ดี
• ผิวที่ชุ่มชื้นดูสดใส เปล่งปลั่ง และสุขภาพดีขึ้น

4.ช่วยลดความหมองคล้ำ (Reduction of Dullness & Uneven Tone)
• เมื่อโครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น การไหลเวียนเลือดบริเวณผิวดีขึ้น ทำให้ผิวดูมีเลือดฝาด
• ผิวหมองคล้ำจากความแห้งกร้านหรือริ้วรอยจากวัยดูจางลง ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น

ผลลัพธ์ที่คาดหวังจาก Sculptra นอกจากช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส
• ผิวขาวดูเต่งตึง กระชับ และอ่อนเยาว์ขึ้น
• สีผิวขาวดูสม่ำเสมอ และกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
• ลดริ้วรอยเล็กๆ และรูขุมขนกว้าง
• ผิวดูฉ่ำน้ำและสุขภาพดีขึ้น

หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วย Profhilo
Profhilo เป็นเทคนิคการฉีด Hyaluronic Acid (HA) เข้มข้น ที่ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวอย่างล้ำลึก โดยไม่ได้ทำหน้าที่เติมเต็มหรือเปลี่ยนโครงสร้างผิวแบบฟิลเลอร์ แต่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ผิวขาวกระจ่างใส และอ่อนเยาว์ขึ้น

Profhilo ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างไร
แม้ว่า Profhilo จะไม่ใช่สารฟอกผิว แต่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและสุขภาพดีขึ้นผ่านกระบวนการฟื้นฟูจากภายใน ซึ่งเกิดจาก 3 กลไกหลัก

1.เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว (Intensive Hydration)
• Profhilo มี Hyaluronic Acid บริสุทธิ์ ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปถึง 5 เท่า
• HA ทำหน้าที่ กักเก็บน้ำในชั้นผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ และลดความแห้งกร้าน
• ผิวที่อิ่มน้ำจะดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใสขึ้นโดยธรรมชาติ

2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน (Collagen & Elastin Boosting)
• Profhilo กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว
• ผิวจะดูเนียนละเอียดขึ้น ลดความหมองคล้ำ และริ้วรอย
• เมื่อผิวแข็งแรงขึ้น จะสะท้อนแสงดีขึ้น ทำให้ใบหน้าดูผิวขาวกระจ่างใสขึ้น

3.ฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดรอยดำและความหมองคล้ำ (Skin Regeneration & Brightening)
• ช่วยปรับสมดุลโครงสร้างผิวและลดเม็ดสีที่ทำให้ผิวดูหมอง
• ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำจากสิวและแสงแดด
• ผิวดูเรียบเนียนและเปล่งปลั่งผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์ที่นอกจากช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสของ Profhilo
• ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นโดยไม่ต้องใช้สารฟอกผิว
• ผิวชุ่มชื้นขึ้น ช่วยลดความหมองคล้ำจากผิวแห้ง
• ริ้วรอยเล็กๆ และความหย่อนคล้อยลดลง
• ผิวดูเรียบเนียน อิ่มฟู และสุขภาพดีขึ้น

หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วย Skinvive
Skinvive by Juvederm เป็นหัตถการด้านความงามที่ใช้ Hyaluronic Acid (HA) เข้มข้น ในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับสภาพผิวขาวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น โดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างของใบหน้าแบบฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ Skinvive ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ ผิวขาวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว (Glass Skin) และสุขภาพดีขึ้นจากภายใน

Skinvive ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างไร ?
แม้ว่า Skinvive จะไม่ใช่สารฟอกผิว แต่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นจากการบำรุงลึกระดับเซลล์ของ Skinvive โดยทำงานผ่าน 3 กลไกหลัก

1.เพิ่มความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึก (Deep Hydration)
• Skinvive มี Hyaluronic Acid บริสุทธิ์ ซึ่งสามารถกักเก็บน้ำในชั้นผิวได้ดี
• ผิวที่มีความชุ่มชื้นเพียงพอ จะดูฉ่ำน้ำ เปล่งปลั่ง และผิวขาวสว่างขึ้นโดยธรรมชาติ
• ลดปัญหาผิวแห้ง หมองคล้ำ และผิวขาดน้ำที่ทำให้หน้าดูโทรม

2.ปรับผิวให้เรียบเนียนและสะท้อนแสงได้ดีขึ้น (Smooth & Light-Reflecting Skin)
• Skinvive ไม่ได้ทำให้ผิวขาวขึ้นโดยตรง แต่ช่วยปรับ Texture ของผิว ให้เรียบเนียนขึ้น
• ผิวที่เรียบเนียนจะสะท้อนแสงดีขึ้น ทำให้ ใบหน้าดูสว่าง ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ
• ลดเลือนรูขุมขน ทำให้ผิวดูเนียนละเอียด

3.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิว (Collagen & Skin Repair)
• Hyaluronic Acid ใน Skinvive ช่วยให้ เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น และกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ผิว ให้ผิวขาวกระจ่างใส
• ผิวดูอิ่มฟูและสุขภาพดีขึ้น ลดความหมองคล้ำ
• ลดเลือนจุดด่างดำ ช่วยให้ผิวขาวและรอยคล้ำจากแสงแดดหรือรอยสิว

ผลลัพธ์ที่ได้จาก Skinvive นอกเหนือจากผิวขาวสว่างใส
• ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ ดู Glow แบบเป็นธรรมชาติ
• ผิวเรียบเนียน รูขุมขนดูเล็กลง
• ผิวกระจ่างใสขึ้นจากภายใน ดูสุขภาพดีขึ้น
• ลดความหมองคล้ำและช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
• อยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน

หัตถการงานผิวที่ช่วยให้ผิวขาวด้วย HACa
HACa (Hyaluronic Acid + Calcium Hydroxyapatite) เป็นนวัตกรรมหัตถการด้านความงามที่ผสานคุณสมบัติของ Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยให้ผิว อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว กระจ่างใส และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว

HACa ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างไรบ้าง
แม้ว่า HACa จะไม่ใช่สารฟอกสีผิว แต่ช่วยให้ ผิวดูกระจ่างใสขึ้นจากภายใน ผ่านกลไก 3 ประการ
1.เติมความชุ่มชื้นให้ผิว (Hydration Boost)
• Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารที่ช่วย กักเก็บน้ำในชั้นผิว ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นและฉ่ำน้ำ
• ผิวที่อิ่มน้ำจะสะท้อนแสงได้ดีขึ้น ทำให้ดู กระจ่างใสและสุขภาพดี

2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน (Collagen & Elasticity Enhancement)
• Calcium Hydroxyapatite (CaHA) มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของผิว
• เมื่อคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวจะดู เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง และเปล่งปลั่งมากขึ้น

3.ฟื้นฟูและปรับสมดุลสีผิว (Skin Repair & Brightening)
• HACa ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ผิว
• ลดเลือน จุดด่างดำ รอยหมองคล้ำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ
• ช่วยให้ผิวดูสดใส เปล่งปลั่ง และขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

สรุปรวมวิธีดูแลผิวขาวกระจ่างใส
การดูแลผิวขาวอมชมพู ถือเป็นการเปิดไฟให้ผิวสามารถทำดูแลได้ตั้งแต่ การดูแลตัวเองแบบง่ายๆ ไปจนถึงการเข้าคลินิก รับบริการหัตถการที่น่าดูแลผิว

ใครที่สนใจอยากดูแลผิวขาวแบบปลอดภัยสามารถปรึกษาแพทย์ Specialist ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก เพื่อเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิม นัดพบแพทย์เพื่อจองคิวปรึกษาได้เลย

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
เรื่อง โปรแกรมดูแลผิวหน้า ที่คุณอาจสนใจ