9 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม ไม่ผ่าตัด วิธีไหนดีที่สุด เห็นผลเร็ว
ยกกระชับหน้า
9 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม ไม่ผ่าตัด วิธีไหนดีที่สุด
9 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม หน้าเรียว ผิวฟู ดูเด็ก
ยกกระชับหน้า ให้เป๊ะปังได้แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องง้อเข็ม ไม่ต้องเจ็บตัว แถมยังดูหน้าเรียว ผิวใส ฟูเด้ง แบบที่ใครเห็นก็ต้องทักว่าไปทำอะไรมาหน้าเด็กลง
ในยุคที่ทุกอย่างต้องไวและคุ้ม คนรุ่นใหม่แบบเราก็ต้องมีวิธีดูแลตัวเองให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้วยเช่นกัน บทความนี้รวมมาให้แล้วกับ 9 วิธี “ยกกระชับหน้า” แบบไม่ต้องพึ่งเข็ม ที่ทั้งไม่เป็นอันตราย ทำได้จริง เข้าใจในเรื่องยกกระชับหน้ามากขึ้น
ทำไมต้องยกกระชับหน้า เข้าใจกลไกของผิวก่อนบอกลาโครงหน้าเดิม
แม้อายุจะเป็นเพียงตัวเลข แต่ “ผิวหน้า” กลับไม่สามารถโกหกเวลาได้ สิ่งที่หลายคนเริ่มสังเกตเมื่ออายุมากขึ้นก็คือ ผิวเริ่มหย่อนคล้อย หน้าดูอ่อนแรง ขาดความเฟิร์ม และเส้นกรอบหน้าที่เคยชัดเจนก็เริ่มหายไปอย่างเงียบ ๆ นั่นคือสัญญาณแรกที่ร่างกายกำลังบอกว่า “ถึงเวลา...ยกกระชับหน้า” แล้วนะ
9 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม ไม่ผ่าตัด วิธีไหนดีที่สุด เห็นผลเร็ว
โปรแกรมยกกระชับหน้าทุกๆ ตัว ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลเกิดอะไรกับผิวเมื่อเราอายุเพิ่มขึ้น
การยกกระชับหน้าไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่คือการฟื้นฟูโครงสร้างผิว (Skin Structure) ที่เสื่อมสภาพลงตามวัย โดยมี 3 ปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
1.คอลลาเจนและอิลาสตินลดลง
โปรตีนสองชนิดนี้คือหัวใจของผิวที่เต่งตึงและยืดหยุ่น เมื่ออายุมากขึ้น (ประมาณ 25 ปีขึ้นไป) การผลิตคอลลาเจนเริ่มลดลงปีละประมาณ 1-1.5% ทำให้ผิวบางลง ขาดความยืดหยุ่น
2.ไขมันใต้ผิว (Facial Fat) เคลื่อนตัวลง
โดยเฉพาะบริเวณแก้ม กรอบหน้า และใต้ตา ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดร่องลึก หน้าดูอ่อนแรง ไม่สดใส
3.แรงโน้มถ่วง และพฤติกรรมประจำวัน
ไม่ว่าจะเป็นการนอนคว่ำ จ้องจอนาน ๆ หรือแม้แต่การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ ล้วนเร่งให้ผิวเกิดการคล้อยได้เร็วขึ้น
หย่อนคล้อยไม่ใช่แค่เรื่องอายุ
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า “ยกกระชับหน้า” คือเรื่องของคนวัย 40 ขึ้นไปเท่านั้น แต่ความจริงคือ คนรุ่นใหม่ อายุ 25-35 ปี ก็เริ่มมีสัญญาณของความหย่อนคล้อยได้แล้ว โดยเฉพาะถ้าใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ นอนน้อย ดื่มน้ำน้อย หรือมีพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาว เช่น
• ใช้มือถือขณะนอน
• ติดหวาน ทำให้ผิวเกิด “ไกลเคชั่น (Glycation)”
• ขาดการทาครีมกันแดดเป็นประจำ
ยกกระชับหน้าช่วยอะไรได้บ้าง
• การยกกระชับหน้าช่วยคืนความกระชับให้โครงสร้างผิว
• ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเข้ารูปโดยไม่ต้องพึ่งเข็ม
• ช่วยให้ผิวดูฟู อิ่มน้ำ แลดูเด็กกว่าอายุจริง
• เพิ่มความมั่นใจในการแต่งหน้าและถ่ายรูป
• ป้องกันปัญหาหน้าหย่อนก่อนวัย หากเริ่มดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ
การยกกระชับหน้า ไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่คือการดูแลสุขภาพผิวในเชิงลึก เพื่อรักษา “โครงหน้าเดิม” ของเราให้อยู่กับเราไปได้นานที่สุด โดยไม่ต้องพึ่งหัตถการหรือการศัลยกรรมให้เจ็บตัว
จุดเด่นของการยกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม
การยกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็มนั้นมีจุดเด่นหลายข้อ เลยทำให้หัตถการเกี่ยวกับการยกกระชับหน้าเป็นเทรนด์ขึ้นมาในปัจจุบัน
การยกกระชับหน้าลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
การยกกระชับหน้าแบบไม่ใช้เข็มช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการแพ้ยา ฟกช้ำ บวม หรือเส้นประสาทถูกกระทบกระเทือน ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่อาจพบได้ในหัตถการที่มีการฉีดสารหรือร้อยไหม
การยกกระชับหน้าไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น (Zero Downtime)
ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำยกกระชับหน้าเสร็จ ไม่มีบาดแผลหรือการระคายเคืองที่ต้องพักหน้า จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ไม่อยากเสียเวลา
การยกกระชับหน้าช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูตัวเองของผิว
เทคนิคส่วนใหญ่เกี่ยวกับการยกกระชับหน้า จะเน้นการกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลิตคอลลาเจนใหม่ โดยไม่ต้องเติมสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย
การยกกระชับหน้าดูไม่ตึงผิดรูป
วิธียกกระชับหน้าที่ไม่พึ่งเข็มจะไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างใบหน้าแบบทันที แต่จะค่อย ๆ ปรับผิวให้แน่น กระชับ และเรียบเนียนในลักษณะที่ดูอ่อนเยาว์โดยไม่หลอกตา
การยกกระชับหน้าลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
เนื่องจากการยกกระชับหน้าไม่มีการเปิดผิวหรือเจาะเข้าสู่ผิวชั้นลึก โอกาสติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสจึงต่ำมาก เหมาะอย่างยิ่งในช่วงที่คนเริ่มกลับมาใส่ใจเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย
การยกกระชับหน้าเหมาะกับผู้เริ่มต้นดูแลผิวในระดับลึก
ผู้ที่อายุยังน้อยหรือเริ่มเห็นสัญญาณของผิวหย่อนคล้อยในระยะแรก ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีหัตถการหนัก ๆ ก็สามารถเลือกวิธีที่อ่อนโยนแต่ได้ผลในระยะยาวได้
วิธีที่ 1 ยกกระชับหน้าด้วย EMFACE
ยกกระชับหน้าด้วย Emface คือนวัตกรรมยกกระชับใบหน้าที่ผสานพลังงานคู่ในเครื่องเดียว ยกกระชับหน้าด้วย EMFACE คือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในกลุ่ม Non-invasive Facial Lifting ที่กำลังได้รับความนิยมในคลินิกความงามระดับพรีเมียมทั่วโลก เพราะสามารถยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องเจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น แต่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับหัตถการยกกระชับหน้าอย่าง HIFU หรือร้อยไหมในแง่ของ “ความตึงและความชัดของกรอบหน้า”
ยกกระชับหน้าด้วย EMFACE ทำงานอย่างไร
ยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยี EMFACE ผสาน พลังงาน RF (Radiofrequency) และ HIFES (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) เข้าไว้ด้วยกันในเครื่องเดียว ทำให้การยกกระชับหน้าด้วย Emface สามารถกระตุ้นทั้งผิวหนังและกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้พร้อมกัน ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ต่างจากเทคโนโลยีเดิม ๆ ที่มักเน้นแค่ชั้นผิวหรือไขมันเท่านั้น
• RF (Radiofrequency)
ส่งพลังงานความร้อนอ่อน ๆ ลงไปในชั้นผิว (dermis) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ทำให้ผิวดูแน่นขึ้น เรียบเนียนขึ้น และลดริ้วรอยตื้น
• HIFES™ (เฉพาะของเทคโนโลยี ยกกระชับหน้าด้วย EMFACE)
เป็นคลื่นไฟฟ้าความเข้มสูงที่ส่งตรงไปกระตุ้น “กล้ามเนื้อใบหน้า” ที่มีบทบาทในการยกโครงหน้า เช่น frontalis (หน้าผาก), zygomaticus (แก้ม), risorius (มุมปาก) กล้ามเนื้อเหล่านี้เมื่อได้ออกแรงเหมือนการ “เวทเทรนนิ่ง” จะช่วยให้รูปหน้าดูยกกระชับขึ้นแบบไม่ดูล้น หรือแข็งตึงจนเกินไป
ยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยี EMFACE เหมาะกับใคร?
• คนที่เริ่มมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
• ผู้ที่ไม่ต้องการฉีด ไม่ต้องการร้อยไหม หรือกลัวเข็ม
• คนรุ่นใหม่ที่ต้องการดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและไม่อยากพักฟื้น
• คนที่เคยทำ HIFU หรือ Thermage แล้วอยากเสริมผลลัพธ์ให้แน่นขึ้น
จุดเด่นของ ยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยี EMFACE ที่ทำให้แตกต่าง
• เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น
• ทำได้รวดเร็ว (ประมาณ 20 นาที/ครั้ง)
• ยกกระชับทั้งผิวและกล้ามเนื้อในคราวเดียว
• ใบหน้าดูสดใสขึ้นทันทีหลังทำยกกระชับหน้าด้วย Emface และพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายใน 8-12 สัปดาห์
• สามารถแต่งหน้ากลับบ้านได้ทันที
ยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยี EMFACE ทำบ่อยแค่ไหนจึงเห็นผล
โดยทั่วไปการยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยี EMFACE แนะนำให้ทำ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต่อเนื่อง 4 ครั้ง หลังจากนั้นสามารถทำเดือนละ 1 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ไว้ในระยะยาว การยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยี EMFACE คือคำตอบใหม่ของการยกกระชับหน้าแบบไร้เข็มที่ทำได้ง่าย ไม่อันตราย และเห็นผลชัดโดยไม่กระทบไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
วิธีที่ 2 ยกกระชับหน้าด้วย Thermage
การยกกระชับหน้าด้วย Thermage เป็นเทคโนโลยีคลื่นความร้อนลึกสู่ชั้นผิว คืนความตึงให้ใบหน้าแบบไม่ต้องเจ็บตัว การยกกระชับหน้าด้วย Thermage คือหนึ่งในเทคโนโลยี “ยกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม” ด้วยหลักการใช้ คลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency: RF) ส่งพลังงานลึกลงไปในผิวชั้นในเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ พร้อมกระชับคอลลาเจนเก่าที่เสื่อมสภาพ
การยกกระชับหน้าด้วย Thermage ทำงานอย่างไร
หัวเครื่องการยกกระชับหน้าด้วย Thermage จะปล่อยคลื่น RF แบบ “Monopolar” ลงลึกไปถึงชั้น SMAS และ ไขมันใต้ผิว ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่พยุงใบหน้าไว้ เมื่อโดนพลังงานความร้อนในระดับที่ควบคุมได้
• คอลลาเจนเก่าจะเกิดการหดตัวทันที ทำให้ผิวดูแน่น กระชับขึ้นตั้งแต่หลังทำ
• ในระยะยาว ร่างกายจะเริ่มสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวยืดหยุ่นดีขึ้น ริ้วรอยลดลง และใบหน้าได้รูปยิ่งขึ้น
จุดเด่นที่ทำให้การยกกระชับหน้าด้วย Thermage แตกต่าง
• ยกกระชับหน้าลึกถึงระดับ SMAS ใกล้เคียงการผ่าตัด Mini Facelift แต่ไม่ต้องเปิดแผล
• ยกกระชับหน้าด้วย Thermage เห็นผลในครั้งเดียว โดยไม่ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ หากดูแลผิวดี ผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนาน 12-18 เดือน
• ยกกระชับหน้าด้วย Thermage เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ทำให้ผิวบาง ไม่ไวต่อแสง
• ยกกระชับหน้าด้วย Thermage ไม่มีรอยแผล ไม่มีการรบกวนผิวชั้นนอก
ยกกระชับหน้าด้วย Thermage เหมาะกับใคร
• ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
• ผู้ที่มีใบหน้าดูอ่อนแรง ไม่สดใส โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้า แก้ม ใต้คาง
• คนที่เคยผ่านหัตถการฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์แล้ว อยากฟื้นฟูผิวโดยไม่ใช้เข็ม
• คนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบ ซึ่ง การยกกระชับหน้าด้วย Thermage ช่วยได้
ยกกระชับหน้าด้วย Thermage ทำครั้งเดียวอยู่ได้นานแค่ไหน
โดยทั่วไปการยกกระชับหน้าด้วย Thermage FLX รุ่นล่าสุด ให้ผลลัพธ์ยาวนานประมาณ 1-1.5 ปี ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และพฤติกรรมการใช้ชีวิต (เช่น การพักผ่อน การดื่มน้ำ และการป้องกันแสงแดด)
แนะนำการยกกระชับหน้าด้วย Thermage : ทำปีละครั้ง เพื่อคงความกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอ
ข้อควรรู้ก่อนทำยกกระชับหน้าด้วย Thermage
• ควรทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพราะระดับพลังงานที่ส่งลงผิวมีผลต่อผลลัพธ์โดยตรง บางคนอาจรู้สึกร้อนลึก ๆ ขณะทำ แต่ไม่ถึงกับเจ็บ
• หลังทำอาจมีรอยแดงเล็กน้อยบริเวณที่ยิงพลังงาน ซึ่งจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง
การยกกระชับหน้าด้วย Thermage คือเทคโนโลยี RF ที่ลึกและแม่นยำ เหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับหน้าแบบจริงจัง เห็นผลยาวนาน และไม่อยากพึ่งการฉีดหรือผ่าตัด
วิธีที่ 3 ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera
ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera เป็นการยกผิวลึกถึงรากกล้ามเนื้อ ด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มสูง ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera หรือชื่อเต็มทางการคือ Ultherapy คือเทคโนโลยียกกระชับหน้าแบบไม่ใช้เข็ม ที่ใช้ คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (High-Intensity Focused Ultrasound: HIFU) ยิงพลังงานลงลึกไปถึงระดับ “SMAS” หรือชั้นพังผืดของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้าแบบศัลยกรรม
ยกกระชับหน้าด้วยUlthera ได้รับการรับรองจาก US FDA (องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา) ว่าสามารถช่วยยกกระชับหน้า ลำคอ และใต้คางได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera ทำงานอย่างไร
หัวเครื่อง Ulthera จะส่งพลังงานคลื่นเสียงแบบโฟกัส (Focused Ultrasound) ลงสู่จุดที่ต้องการรักษา โดยมีลักษณะเฉพาะคือ สามารถเห็นชั้นผิวขณะทำแบบ Real-time ด้วยหน้าจอ Ultrasound Imaging
เมื่อพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS จะทำให้เกิดความร้อนที่ประมาณ 60-70°C ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมในการกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจน และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว
จุดเด่นที่ทำให้การยกกระชับหน้าด้วย Ulthera แตกต่าง
• ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera มีความแม่นยำสูง เพราะมีระบบมองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ แพทย์สามารถประเมินความลึกที่ยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพ
• ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera สามารถเข้าถึงชั้น SMAS ได้จริง ซึ่งเป็นชั้นที่เทคโนโลยีอื่น ๆ เข้าถึงได้ยาก
• ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับกลางถึงมาก เช่น คิ้วตก แก้มหย่อน คางไม่คม
• ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera สามารถยกได้ทั้งแนวดิ่งและแนวลึก ใบหน้าจึงดูตึงขึ้นทั้งมิติแนวนอนและแนวตั้ง
ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera เหมาะกับใคร
• ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera เหมาะกับคนที่เริ่มรู้สึกว่าใบหน้าตนเองดูหย่อนคล้อย เช่น หนังตาตก กรอบหน้าไม่ชัด หรือมุมปากตก
• ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด แต่ต้องการผลลัพธ์ระดับลึกและอยู่ได้นาน
• ผู้ที่เคยทำ HIFU รุ่นอื่นแล้วผลไม่ชัด ต้องการอัปเกรดผลลัพธ์
• เหมาะทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยเฉพาะช่วงอายุ 30-50 ปี
9 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม ไม่ผ่าตัด วิธีไหนดีที่สุด เห็นผลเร็ว
โปรแกรมยกกระชับหน้าทุกๆ ตัว ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลผลลัพธ์หลังทำยกกระชับหน้าด้วย Ulthera
• เห็นผลเบื้องต้นภายใน 1-2 สัปดาห์แรก และจะชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 เดือน
• ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 1 ปี หรือมากกว่า หากดูแลดี
• ผิวหน้าดูแน่นขึ้น ร่องแก้มลดลง กรอบหน้าชัด และเส้นคิ้วยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำยกกระชับหน้าด้วย Ulthera
• ระหว่างทำอาจรู้สึก “จี๊ด” หรือ “สะดุ้งลึก” ในบางจุด เนื่องจากพลังงานลงลึกถึง SMAS
• ควรทำกับแพทย์ที่ผ่านการอบรมเฉพาะทาง เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสามารถยกกระชับหน้าได้อย่างตรงจุด
• ไม่ควรสับสน Ulthera กับ HIFU รุ่นทั่วไป เพราะความแม่นยำและผลลัพธ์ต่างกันอย่างมาก
ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera คือนวัตกรรมยกกระชับแบบลึกจริง เห็นผลจริง และปลอดภัย เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกหน้าแบบจริงจังโดยไม่ใช้เข็ม ไม่พักฟื้น และไม่เปลี่ยนโครงหน้า
วิธีที่ 4 ยกกระชับหน้าด้วย Hifu
ยกกระชับหน้าด้วย HIFU เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียง ที่ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อโดยไม่ใช้เข็ม ยกกระชับหน้าด้วย HIFU หรือ High-Intensity Focused Ultrasound คือหนึ่งในนวัตกรรมยกกระชับผิวแบบไม่ใช้เข็ม มีหลักการทำงานคล้ายกับ Ulthera แต่แตกต่างในด้านความแม่นยำของพลังงานและลักษณะของเครื่องมือ โดยยกกระชับหน้าด้วย HIFU มักเป็นทางเลือกที่ “เข้าถึงง่าย” กว่า เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นดูแลปัญหาผิวหย่อนคล้อย
ยกกระชับหน้าด้วย HIFU ทำงานอย่างไร
ยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม HIFU จะปล่อยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัสไปยังจุดเฉพาะในชั้นผิว โดยพลังงานจะลงลึกได้ถึงระดับ SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า
เมื่อเนื้อเยื่อบริเวณเป้าหมายได้รับพลังงาน จะเกิด ความร้อนประมาณ 60-70°C ซึ่งช่วยให้คอลลาเจนเดิมหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว ส่งผลให้ผิวกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
จุดเด่นของยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม HIFU
• ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น พลังงานลงเฉพาะจุด ไม่ทำลายผิวชั้นบน
• ยกกระชับได้ลึกกว่าเลเซอร์ทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณแก้ม กรอบหน้า และใต้คาง
• เหมาะกับทุกสีผิว เพราะไม่กระทบเม็ดสีผิว
• ยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม Hifu สามารถเลือกความลึกของหัวที่ใช้ได้ เช่น 1.5 มม., 3.0 มม., และ 4.5 มม.เพื่อเจาะจงปัญหาในแต่ละชั้นผิว
ยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม HIFU เหมาะกับใคร
• คนที่เริ่มรู้สึกว่าผิวหน้าหย่อนเล็กน้อย เช่น แก้มเริ่มหย่อน ร่องแก้มลึก
• ผู้ที่ยังไม่พร้อมใช้วิธีฉีดสารเติมเต็ม เช่น โบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์
• ผู้ที่ต้องการกระชับใบหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องเปลี่ยนโครงหน้า
• คนที่เคยทำยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม Ulthera หรือ Thermage แล้ว อยากรักษาผลต่อเนื่องในราคาที่ยืดหยุ่นขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้จากยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม HIFU
• ผิวหน้าจะรู้สึกกระชับขึ้นทันทีหลังทำประมาณ 20-30%
• ผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 1-2 เดือน หลังคอลลาเจนเริ่มสร้างใหม่
• อยู่ได้นาน 4-6 เดือน และสามารถทำซ้ำได้ทุก 3-4 เดือนตามคำแนะนำของแพทย์
ข้อควรรู้ก่อนเลือกยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม HIFU
• คุณภาพของเครื่อง HIFU มีหลายระดับ ตั้งแต่เครื่องทั่วไป ไปจนถึงรุ่นที่ผ่านมาตรฐานทางการแพทย์ (เช่น Ultraformer III, Doublo Gold)
• ควรทำโดยแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงการยิงพลังงานผิดชั้นผิว
• เครื่องคุณภาพต่ำหรือพลังงานไม่เสถียร อาจให้ผลลัพธ์ที่สั้นหรือไม่เห็นผลชัดเจน
ยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม HIFU เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่มีความยืดหยุ่น เห็นผลได้โดยไม่ต้องพึ่งเข็ม เหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้นดูแลตัวเอง และผู้ที่ต้องการคงสภาพผิวหลังจากหัตถการอื่น เห็นผลอย่างเป็นธรรมชาติในราคาที่เข้าถึงได้
วิธีที่ 5 ยกกระชับหน้าด้วย Ultraformer
วิธียกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม Ultraformer พลังงาน HIFU เจเนอเรชันใหม่ ที่แม่นยำกว่า เร็วกว่า และเจ็บน้อยกว่าเดิม ยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม Ultraformer III เป็นเครื่องยกกระชับหน้าที่ใช้หลักการเดียวกับ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) แต่ได้รับการพัฒนาให้ แม่นยำกว่า เร็วกว่า และรู้สึกสบายขณะทำมากกว่าเครื่อง ยกกระชับหน้า HIFU รุ่นทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ใช้เข็ม และไม่ต้องพักฟื้น
เครื่องยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม Ultraformer III ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากหลายประเทศ เช่น CE (ยุโรป) และ KFDA (เกาหลีใต้) และเป็นที่นิยมใช้ในคลินิกแพทย์ผิวหนังทั่วเอเชียและยุโรป
ยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม Ultraformer ทำงานอย่างไร
ยกกระชับหน้าด้วยคือนวัตกรรม Ultraformer ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งพลังงานโฟกัสลงไปที่ชั้นผิวในระดับความลึกต่าง ๆ ได้แก่
• 1.5 mm - ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ช่วยลดริ้วรอยตื้น
• 3.0 mm - ชั้นไขมันใต้ผิว ช่วยยกกระชับผิวและลดความหย่อนคล้อย
• 4.5 mm - ชั้น SMAS (ชั้นพังผืดกล้ามเนื้อ) ช่วยให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับใกล้เคียงการผ่าตัดดึงหน้า
พลังงานที่ส่งออกมาในรูปแบบจุด (Thermal Coagulation Point) จะกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนเดิม และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว ส่งผลให้ผิวตึงแน่น ยืดหยุ่นดีขึ้น และกรอบหน้าชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
จุดเด่นของนวัตกรรมยกกระชับหน้าด้วย Ultraformer ที่แตกต่างจาก HIFU ทั่วไป
• หัวปล่อยพลังงาน (Cartridge) มีหลายขนาด ทำให้แพทย์สามารถปรับความลึกได้อย่างแม่นยำในแต่ละจุดบนใบหน้า เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม หรือกรอบหน้า
• ยิงพลังงานได้เร็วกว่า ทำให้ระยะเวลาในการทำต่อครั้งสั้นลง (ประมาณ 30-45 นาที)
• เจ็บน้อยกว่า เนื่องจากเทคโนโลยีปล่อยพลังงานแบบกระจาย ไม่สะสมความร้อนเป็นจุดมากเกินไป
• ไม่ทิ้งรอยแดง ไม่บวมหลังทำ สามารถแต่งหน้าและกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
ยกกระชับหน้าด้วย Ultraformer เหมาะกับใคร
• ผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าโดยไม่ใช้เข็ม ไม่ผ่าตัด
• ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือรู้สึกว่าหน้าดูอ่อนแรง
• ผู้ที่เคยทำ HIFU แล้วรู้สึกเจ็บ หรือไม่เห็นผลชัด ต้องการเทคโนโลยีที่พัฒนาแล้ว
• ยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม Ultraformer เหมาะทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยเฉพาะช่วงวัย 25-45 ปี ที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผิว
ผลลัพธ์หลังทำยกกระชับหน้าด้วย Ultraformer
• เห็นผลเบื้องต้นทันทีหลังทำ 20-30% และชัดเจนเต็มที่ใน 4-8 สัปดาห์
• ผิวดูตึงแน่นขึ้น ร่องแก้มลดลง กรอบหน้าคมขึ้น
• ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นกับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
ข้อควรรู้เพิ่มเติมทำยกกระชับหน้าด้วย Ultraformer
• แม้จะเป็น HIFU เจเนอเรชันใหม่ แต่ควรทำกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อวางแผนการยิงพลังงานในจุดที่เหมาะสม
• การทำซ้ำมากเกินไปอาจทำให้ผิวบางลง ควรเว้นระยะตามคำแนะนำของแพทย์ (เช่น ทุก 6 เดือน - 1 ปี)
ยกกระชับหน้าด้วย Ultraformer คือคำตอบของคนที่มองหานวัตกรรมยกกระชับผิวหน้าแบบไม่เจ็บ เห็นผลเร็ว และให้ความรู้สึกขณะทำที่นุ่มนวลกว่า HIFU ทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นดูแลใบหน้าแบบไม่ใช้เข็มและอยากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
วิธีที่ 6 ยกกระชับหน้าด้วย Morpheus8
การยกกระชับหน้าด้วย Morpheus8 ยกระดับการฟื้นฟูผิวลึกถึงใต้ชั้นไขมัน ด้วยคลื่น RF ผสานหัวเข็มนาโน ยกกระชับหน้าด้วย Morpheus8 คือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในกลุ่ม Fractional Radiofrequency Microneedling (RF + เข็มนาโน) ที่ออกแบบมาเพื่อการ ยกกระชับผิว ปรับโครงสร้างใบหน้า และฟื้นฟูคอลลาเจนในทุกชั้นผิว โดยไม่ต้องศัลยกรรม
จุดเด่นของการ ยกกระชับหน้าด้วย Morpheus8 คือความสามารถในการ ปล่อยคลื่น RF ลงไปลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิว (subdermal adipose tissue) ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของรูปหน้า และสามารถปรับพลังงานได้ลึกถึง 8 มม.ซึ่งลึกกว่าเทคโนโลยีทั่วไปในกลุ่มเดียวกัน
การยกกระชับหน้าด้วย Morpheus8 ทำงานอย่างไร
หัวเครื่องของ Morpheus8 ประกอบด้วย Microneedles (เข็มขนาดเล็กมาก) ที่สามารถเจาะลงผิวลึกได้หลายระดับ และปล่อยพลังงาน คลื่น RF แบบ Bipolar ลงไปสู่จุดที่ต้องการรักษาอย่างแม่นยำ ซึ่งส่งผลใน 2 มิติหลักคือ:
1.Microneedling - กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติด้วยการเจาะผิวอย่างแม่นยำ ลดเลือนรอยหลุมสิว รูขุมขน และความไม่เรียบของผิว
2.RF (Radiofrequency) - ส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นไขมันและ SMAS เพื่อยกกระชับ ลดไขมันเฉพาะจุด เช่น ร่องแก้ม แก้มล่าง และเหนียง โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก
จุดเด่นของการยกกระชับหน้าด้วย Morpheus8 ที่ทำให้แตกต่าง
• ลึกถึงชั้นไขมัน ซึ่งเครื่อง Microneedling ทั่วไปไม่สามารถทำได้
• ลดไขมันเฉพาะจุด + ยกกระชับในคราวเดียว โดยไม่ต้องผ่าตัด
• ผิวแน่น เรียบเนียน + รูขุมขนเล็กลง ช่วยฟื้นฟูผิวโดยรวม
• สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้า ลำคอ ขอบตา และแม้แต่ใต้คาง
• ผลลัพธ์ชัดเทียบเท่าบางหัตถการแบบใช้เข็ม แต่ไม่ต้องฉีดสารใด ๆ เข้าผิว
การยกกระชับหน้าด้วย Morpheus8 เหมาะกับใคร
• ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากไขมันสะสม เช่น แก้มหย่อน เหนียง ร่องลึก
• ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบ หลุมสิว รูขุมขนกว้าง และอยากปรับผิวให้เรียบแน่น
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูทั้ง “ผิว + โครงสร้างหน้า” แบบไม่พึ่งเข็มและไม่พักฟื้น
• ผู้ที่เคยทำ HIFU, RF, หรือ Thermage มาแล้ว แต่อยากเสริมผลลัพธ์ในระดับลึก
ผลลัพธ์หลังทำยกกระชับหน้าด้วย Morpheus8
• ผิวจะรู้สึกแน่นขึ้นใน 1-2 สัปดาห์แรก
• เห็นผลชัดเจนใน 1-3 เดือน เมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนและไขมันปรับตัว
• รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบขึ้น และกรอบหน้าชัดเจนขึ้น
• ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9-12 เดือน หากดูแลอย่างเหมาะสม
ข้อควรรู้ก่อนทำนวัตกรรมยกกระชับหน้าด้วย Morpheus8
• ขณะทำอาจรู้สึกอุ่นลึก ๆ และจิ๊ดเล็กน้อยจากการเจาะของเข็ม
• อาจมีรอยแดงหลังทำเล็กน้อย 1-3 วัน ซึ่งหายได้เอง
• ควรหลีกเลี่ยงแดดและงดแต่งหน้าในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
วิธีที่ 7 ยกกระชับหน้าด้วย Volnewmer
ยกกระชับหน้าด้วย Volnewmer คือเทคโนโลยียกกระชับหน้าแบบใหม่ที่พัฒนาโดยใช้หลักการ ปล่อยพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเฉพาะ (Multi-polar RF หรือ Hybrid Energy) ที่สามารถลงลึกได้ทั้งผิวชั้นกลางและชั้นลึก โดยไม่ต้องเจาะผิวหรือใช้เข็ม
จุดเด่นของการยกกระชับหน้าด้วย Volnewmer คือความสามารถในการ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ควบคู่ไปกับ การสลายไขมันใต้ผิวบางส่วน อย่างอ่อนโยน ส่งผลให้ผิวหน้าดูแน่นขึ้น เรียวขึ้น และมีความกระชับจากภายใน
จุดเด่นที่ทำให้การยกกระชับหน้าด้วย Volnewmer น่าสนใจ
• ยกกระชับหน้าได้ทั่วใบหน้า รวมถึงบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม กรอบหน้า
• เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น ผิวไม่แดงหลังทำ
• เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือกรอบหน้าไม่ชัด
• ทำได้บ่อย เช่น ทุก 2-4 สัปดาห์ เพื่อรักษาความกระชับอย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์หลังทำยกกระชับหน้าด้วย Volnewmer
• ผิวกระชับขึ้นทันทีบางส่วนหลังทำครั้งแรก
• เห็นผลชัดเจนขึ้นใน 4-6 สัปดาห์ เมื่อคอลลาเจนใหม่เริ่มฟื้นตัว
• ผิวดูฟู รูขุมขนกระชับ และรูปหน้าเข้ารูปมากขึ้น
ยกกระชับหน้าด้วย Volnewmer เหมาะกับใคร
• ผู้ที่ไม่ต้องการฉีดหรือผ่าตัด
• ผู้เริ่มต้นดูแลผิวระยะยาว และอยากป้องกันการหย่อนคล้อยล่วงหน้า
• เหมาะทั้งเพศหญิงและชาย โดยเฉพาะช่วงอายุ 25-45 ปี
วิธีที่ 8 ยกกระชับหน้าด้วย Ultraclear
การยกกระชับหน้าด้วย Ultraclear คือเลเซอร์ระดับ Medical Grade รุ่นใหม่ที่ใช้ เทคโนโลยี Nano Fractional Laser ในการฟื้นฟูผิวและยกกระชับพร้อมกันในคราวเดียว โดยเลเซอร์จะลงลึกถึงชั้นผิวแท้เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ และช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพออกอย่างอ่อนโยน
จุดเด่นของการยกกระชับหน้าด้วย Ultraclear
• ยกกระชับผิว + ปรับผิวใส เรียบเนียนในขั้นตอนเดียว
• ไม่มีแผลเปิด ไม่ต้องพักฟื้น ผิวไม่บาง
• เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีริ้วรอย รูขุมขนกว้าง และผิวขาดความกระชับ
การยกกระชับหน้าด้วย Ultraclear เหมาะกับใคร
• ผู้ที่ต้องการทั้ง ยกกระชับ + ฟื้นฟูผิว โดยไม่ต้องใช้เข็ม
• เหมาะกับคนเริ่มมีริ้วรอย ผิวไม่สม่ำเสมอ หรือกรอบหน้าเริ่มหย่อน
• เหมาะกับผู้ที่มีเวลาไม่มาก เพราะใช้เวลาในการฟื้นตัวน้อยมาก
วิธีที่ 9 ยกกระชับหน้าด้วย Oligio
การยกกระชับหน้าด้วยนวัตกรรม Oligio คือเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่น Monopolar RF (Radiofrequency) เจ็บน้อยกว่า ทำเร็วขึ้น และเข้าถึงง่ายกว่าในแง่ของราคา โดยยังคงประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจนลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นพยุงโครงสร้างใบหน้า
จุดเด่นของการยกกระชับหน้าด้วย Oligio
• ใช้คลื่น RF ลงลึกถึงผิวชั้นลึก ช่วยให้ผิวแน่น เรียบตึง และลดริ้วรอย
• หัวทิปมีระบบควบคุมอุณหภูมิแบบเรียลไทม์ ทำให้แม่นยำและปลอดภัย
• เจ็บน้อย ไม่ต้องใช้ยาชา หรือใช้เพียงเล็กน้อย
• ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำ
การยกกระชับหน้าด้วย Oligio เหมาะกับใคร
• ผู้ที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น แก้มตก กรอบหน้าไม่ชัด
• ผู้ที่อยากได้ผลลัพธ์ใกล้เคียง Thermage แต่ต้องการประสบการณ์ที่สบายกว่า
• เหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้นดูแลตัวเอง และผู้ที่เคยทำ HIFU หรือเลเซอร์อื่นมาก่อน
9 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม ไม่ผ่าตัด วิธีไหนดีที่สุด เห็นผลเร็ว
โปรแกรมยกกระชับหน้าทุกๆ ตัว ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลใครเหมาะกับการยกกระชับหน้าด้วยเครื่องเหล่านี้
ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
เช่น แก้มตก คิ้วตก ร่องแก้มลึก กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีเหนียงเล็กน้อย
วัย 25 ปีขึ้นไป
ที่เริ่มมีการเสื่อมของคอลลาเจนและอิลาสติน แม้ยังไม่มีริ้วรอยชัดก็สามารถเริ่มดูแลได้เพื่อชะลอความหย่อนคล้อย
ผู้ที่ไม่ต้องการฉีดหรือผ่าตัด
เช่น กลัวเข็ม ไม่อยากใช้สารเติมเต็ม หรือยังไม่พร้อมสำหรับการศัลยกรรม
ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเป็นธรรมชาติ
เทคโนโลยียกกระชับหน้าเหล่านี้ช่วยให้ผิวแน่นขึ้นโดยไม่เปลี่ยนโครงหน้าเดิม
ผู้ที่มีเวลาน้อย ไม่สะดวกพักฟื้น
เหมาะกับคนทำงานหรือไลฟ์สไตล์เร่งรีบ เพราะสามารถทำแล้วกลับไปใช้ชีวิตได้ทันที
ผู้ที่เคยทำหัตถการอื่นมาแล้ว และอยากคงผลลัพธ์
เช่น ทำ HIFU, โบท็อกซ์ หรือร้อยไหม แล้วต้องการดูแลต่อเนื่องโดยไม่เพิ่มความเสี่ยง
ผู้ที่มีปัญหาผิวเสื่อม ริ้วรอย หรือรูขุมขนกว้าง
โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง Morpheus8 หรือ Ultraclear ที่ช่วยฟื้นฟูผิวพร้อมยกกระชับหน้าในคราวเดียว
ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ที่ต้องการดูดีแบบไม่โป๊ะ เห็นผลในระยะยาว และรักษาใบหน้าให้ดูอ่อนวัย
9 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม ไม่ผ่าตัด วิธีไหนดีที่สุด เห็นผลเร็ว
โปรแกรมยกกระชับหน้าทุกๆ ตัว ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลเคล็ดลับเสริมผลลัพธ์ยกกระชับหน้าให้ปังขึ้น
ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 - 2 ลิตร
เพราะน้ำช่วยให้ผิวอิ่มฟู คอลลาเจนทำงานได้ดี และเซลล์ฟื้นฟูเร็วขึ้น
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่
สารเหล่านี้เร่งการเสื่อมของผิวและคอลลาเจน ทำให้ผลลัพธ์ของเครื่องยกกระชับอยู่ได้ไม่นาน
ใช้สกินแคร์กลุ่มกระตุ้นคอลลาเจนร่วมด้วย
เช่น เซรั่มที่มีวิตามินซี เปปไทด์ หรือเรตินอล จะช่วยเสริมผลการฟื้นฟูผิวให้เห็นผลไวขึ้น
ทาครีมกันแดดทุกวัน
เพื่อป้องกันรังสียูวีทำลายคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของความหย่อนคล้อยซ้ำซ้อน
นวดหน้าด้วยมือเบา ๆ ทุกวัน
ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดการบวมน้ำบนใบหน้า และทำให้ผิวกระชับยิ่งขึ้น
นอนท่าหงาย และใช้หมอนต่ำ
ลดแรงโน้มถ่วงที่ดึงผิวหน้า และป้องกันไม่ให้แก้มยุบหรือบิดเบี้ยวจากการนอนตะแคงนาน ๆ
เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ผิวหย่อนซ้ำ
เช่น ก้มหน้าเล่นมือถือบ่อย ขยี้หน้าแรง ๆ หรือแต่งหน้าลากลงบ่อย ๆ
เข้ารับบริการตามรอบที่แพทย์แนะนำ
เทคโนโลยีส่วนใหญ่จะเห็นผลต่อเนื่องเมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุก 3-6 เดือน
ทานอาหารบำรุงผิวอย่างสมดุล
เช่น วิตามินซี, ซิงก์, โอเมก้า-3 และโปรตีนดี ๆ ช่วยเสริมการสร้างคอลลาเจนจากภายใน
9 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม ไม่ผ่าตัด วิธีไหนดีที่สุด เห็นผลเร็ว
โปรแกรมยกกระชับหน้าทุกๆ ตัว ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลสรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการยกกระชับหน้า
การยกกระชับหน้าในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งเข็มหรือผ่าตัดอีกต่อไปแล้วเพราะเทคโนโลยีความงามใหม่ๆ เช่น HIFU, Ulthera, Thermage, Morpheus8, Ultraformer, Oligio และอื่น ๆ ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการดูดีไม่เป็นอันตราย ไม่เจ็บตัว และไม่เสียเวลาพักฟื้น เครื่องยกกระชับหน้าเหล่านี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่อยากหน้าเรียว ผิวแน่น กระชับขึ้น แต่ไม่ชอบการฉีดหรือสารเติมเต็ม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรืออยากเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ในขณะเดียวกัน ถ้าเสริมด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ นอนให้พอ ใช้สกินแคร์กระตุ้นคอลลาเจน และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ผิวเสีย ผลลัพธ์ของการยกกระชับหน้าก็จะอยู่ได้นานขึ้นและเห็นผลชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
“ไม่ต้องใช้เข็ม ก็หน้าเป๊ะได้” เพียงแค่เลือกวิธีที่ใช่ ดูแลอย่างสม่ำเสมอ และเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ความเด็กอยู่กับคุณได้นานที่สุด แบบฉบับคน New Gen ที่ฉลาดเลือกและใส่ใจตัวเอง
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ