Ultraformer คืออะไร อยู่ได้กี่เดือน ควรยิงกี่ช็อตยกกระชับปรับหน้าเรียว

Ultraformer คืออะไร ควรยิงกี่ช็อต อยู่ได้นานแค่ไหน
ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และกรอบหน้าที่ไม่ชัด เริ่มกลายเป็นเรื่องกวนใจของใครหลายคน ทำให้ต้องการวิธียกกระชับที่เห็นผลและปลอดภัย Ultraformer จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยเทคโนโลยี HIFU ที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายใน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และได้ผลลัพธ์ยกกระชับปรับรูปหน้า

ในบทความนี้ ขอพาไปรู้จัก Ultraformer อย่างครอบคลุม ทั้งหลักการทำงาน จำนวนช็อตที่ควรใช้ เหมาะกับใคร มีข้อดีอะไรบ้าง ไปจนถึงระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่ พร้อมคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลตัวเองหลังทำ สำหรับผู้ที่สนใจทำ Ultraformer เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้าและดูแลผิว

Ultraformer คืออะไร
Ultraformer คือเครื่องยกกระชับผิวหน้าด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัส (HIFU: High-Intensity Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นผิวหนังระดับลึก โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น ทำให้ผิวกระชับและเต่งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเวลาอันสั้น

Ultraformer คืออะไร อยู่ได้กี่เดือน ควรยิงกี่ช็อตยกกระชับปรับหน้าเรียว

โปรแกรม Ultraformer ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

หลักการทำงานของ Ultraformer
Ultraformer ทำงานโดยใช้เทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งเป็นคลื่นเสียงความถี่สูงที่สามารถ โฟกัสพลังงานอย่างแม่นยำ ลงลึกถึงชั้นผิวหนังที่ต้องการรักษาโดยไม่ทำลายผิวหนังชั้นบนสุด พลังงานจาก Ultraformer จะถูกส่งไปเป็นจุดเล็ก ๆ ในระดับลึกต่าง ๆ ของผิวเพื่อกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติ

1.Ultraformer โฟกัสพลังงานในหลายระดับความลึก
Ultraformer สามารถยิงพลังงานลงได้ถึง 3 ระดับความลึก เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม

• ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) - ความลึกประมาณ 1.5-3.0 มม. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเนียนเรียบและกระจ่างใสขึ้น
• ชั้นไขมันใต้ผิว (Subcutaneous fat) - ความลึกประมาณ 4.5 มม. ช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณกรอบหน้า คาง และเหนียง ทำให้รูปหน้าดูชัดขึ้น
• ชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) - ลึกสุดที่ 4.5 มม. เป็นชั้นกล้ามเนื้อผิวหนังที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า Ultraformer สามารถกระตุ้นให้เกิดการหดตัวในชั้นนี้ ช่วยยกกระชับได้อย่างล้ำลึกใกล้เคียงการทำ Facelift โดยไม่ต้องผ่าตัด

2.Ultraformer กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
จุดพลังงานความร้อนที่ถูกส่งลงไปในผิวจะทำให้เซลล์ผิวเกิดการหดตัว และกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ขึ้นมาทดแทนในช่วง 4-12 สัปดาห์หลังทำ Ultraformer ทำให้ผิวยกกระชับ แน่นเฟิร์ม และเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

Ultraformer มีจุดเด่นอะไรบ้าง
Ultraformer คือเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าระดับพรีเมียมที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัส (HIFU) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่ต้องการดูแลผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด จุดเด่นหลัก ๆ ของ Ultraformer มีดังนี้

1.Ultraformer ยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS โดยไม่ต้องศัลยกรรม
Ultraformer สามารถส่งพลังงานลงลึกถึง ชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง (SMAS) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า จึงให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับใกล้เคียงการทำ Facelift แต่ ไม่ต้องเจ็บตัว หรือผ่าตัด

2.Ultraformer ปรับรูปหน้า ลดไขมัน พร้อมกระตุ้นคอลลาเจน
Ultraformer สามารถยกกระชับ ลดไขมันใต้คางและกรอบหน้า พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวแน่น เฟิร์ม และเรียบเนียนขึ้นในระยะยาว

3.Ultraformer เจ็บน้อยด้วยหัวยิงที่แม่นยำหลายขนาด
Ultraformer มีหัวสำหรับยิงในความลึกต่าง ๆ อย่างแม่นยำ (1.5, 3.0, 4.5 มม.) ทำให้สามารถเลือกใช้กับแต่ละบริเวณได้อย่างเฉพาะเจาะจง ให้ผลลัพธ์ตรงจุด และรู้สึกเจ็บน้อยกว่า HIFU ทั่วไป

4.หลังทำ Ultraformer ไม่ต้องพักฟื้น
หลังทำ Ultraformer สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที ไม่ต้องหยุดงาน ไม่มีบาดแผลหรือรอยช้ำ และเริ่มเห็นผลบางส่วนทันที โดยผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นภายใน 2-3 เดือน

5.หลังทำ Ultraformer ผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายเดือน
เมื่อทำ Ultraformer ครบตามจำนวนช็อตที่เหมาะสมกับใบหน้า ผลลัพธ์จะคงอยู่นานหลายเดือน ประมาณ 6-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุและการดูแลผิวของแต่ละบุคคล

Ultraformer คืออะไร อยู่ได้กี่เดือน ควรยิงกี่ช็อตยกกระชับปรับหน้าเรียว

โปรแกรม Ultraformer ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Ultraformer ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
Ultraformer ไม่ได้ช่วยแค่ยกกระชับหน้าเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมการฟื้นฟูผิวและปรับรูปหน้าได้หลากหลายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดหรือการฉีดสารเติมเต็ม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย

1.Ultraformer ช่วยยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย
• กระตุ้นให้ผิวแน่นขึ้น ลดความหย่อนของแก้ม มุมปาก คาง และกรอบหน้า
• เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวไม่กระชับ หรือมีแนวโน้มจะหย่อนคล้อยตามวัย

2.Ultraformer ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
• พลังงานจากคลื่น HIFU ทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ fibroblast ในผิวหนังแท้ ให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน เพิ่มขึ้น
• ผิวจะดูแน่น กระชับ มีความยืดหยุ่นและเรียบเนียนขึ้นในระยะยาว

3.Ultraformer ช่วยลดเหนียง และไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้า
• ช่วยสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เช่น ใต้คาง หรือแนวกราม
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา “หน้าบานจากไขมัน” ไม่ใช่กระดูกกราม

4.Ultraformer ช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
• ด้วยการยกกระชับพร้อมลดไขมันบางส่วน ทำให้โครงหน้าชัดเจนขึ้น
• ช่วยให้หน้าดู V-shape มากขึ้นโดยไม่ต้องฉีดหรือผ่าตัด

5.Ultraformer ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และกระชับรูขุมขน
• ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก หางตา มุมปาก
• รูขุมขนที่เคยกว้างจะดูตื้นลงเพราะโครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น

6.Ultraformer ช่วยยกคิ้ว ยกหางตา โดยไม่ต้องฉีดหรือศัลยกรรม
• Ultraformer สามารถยกหางตาให้ดูเปิดและยกขึ้นได้เล็กน้อย ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
• เหมาะกับผู้ที่มีเปลือกตาเริ่มตกหรือหางตาชี้ลงจากอายุที่มากขึ้น

Ultraformer คืออะไร อยู่ได้กี่เดือน ควรยิงกี่ช็อตยกกระชับปรับหน้าเรียว

โปรแกรม Ultraformer ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Ultraformer เหมาะกับใครบ้าง
Ultraformer เป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด จึงเหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย โดยเฉพาะกลุ่มต่อไปนี้

1.Ultraformer เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยตามวัย
• ผู้ที่มีอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งเริ่มมีการเสื่อมของคอลลาเจนและอิลาสติน
• เริ่มเห็นโครงหน้าหลวม แก้มคล้อย หรือกรอบหน้าไม่ชัด

2.Ultraformer เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเหนียงหรือไขมันสะสมบริเวณคางและกรอบหน้า
• Ultraformer สามารถยิงพลังงานที่ความลึก 4.5 มม.เพื่อช่วยสลายไขมันใต้ผิวบางส่วน และกระชับบริเวณคางสองชั้นหรือเหนียงได้ดี

3.Ultraformer เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยตื้นๆ หรือรูขุมขนกว้าง
• การยิง Ultraformer ที่ชั้นผิวตื้น (1.5-3.0 มม.) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน ริ้วรอยลดลง และรูขุมขนเล็กลง

4.Ultraformer เหมาะกับผู้ที่ไม่สะดวกทำศัลยกรรม หรือกลัวการผ่าตัด
• เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติ ไม่ต้องพักฟื้น และไม่อยากมีบาดแผล

5.Ultraformer เหมาะกับผู้ที่เคยทำยกกระชับแบบอื่นมาแล้ว แต่อยากเห็นผลชัดขึ้น
• Ultraformer มีพลังงานแม่นยำและสม่ำเสมอมากขึ้น จึงเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่เคยผิดหวังจาก เครื่องยกกระชับทั่วไป

Ultraformer คืออะไร อยู่ได้กี่เดือน ควรยิงกี่ช็อตยกกระชับปรับหน้าเรียว

โปรแกรม Ultraformer ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Ultraformer ควรยิงกี่ช็อตถึงจะเห็นผล
การยิง Ultraformer ให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและตรงจุดที่สุดนั้น จำเป็นต้องพิจารณาจำนวน "ช็อต" (shots) ให้เหมาะสมกับ บริเวณที่ทำ และ ปัญหาผิวของแต่ละคน โดยทั่วไปแล้ว จำนวนช็อตที่แนะนำจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 300-600 ช็อตขึ้นไป ขึ้นอยู่กับพื้นที่และความหย่อนคล้อยของผิว

ปัจจัยที่กำหนดจำนวนช็อต Ultraformer
• ระดับความหย่อนคล้อยของผิว ผิวเริ่มหย่อนเล็กน้อยใช้ช็อตน้อยกว่า ส่วนผิวหย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก ต้องใช้ช็อตมากขึ้นเพื่อให้ได้ผล
• พื้นที่ของใบหน้าและลำคอที่ต้องการรักษา ทำทั้งหน้าหรือทำเฉพาะจุด (เช่น แก้ม เหนียง)
• โครงสร้างผิวและไขมันในแต่ละบุคคล คนที่มีไขมันเยอะ เช่น เหนียงหรือแก้มล่าง อาจต้องใช้พลังงานมากขึ้น
• คำประเมินจากแพทย์ เพื่อกำหนดแผนการยิงให้เหมาะสมกับเป้าหมายของแต่ละคน

Ultraformer ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน
การทำ Ultraformer ถือเป็นวิธีการยกกระชับผิวที่ให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นานโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งหนึ่งในคำถามยอดนิยมจากผู้ที่สนใจคือ หลังทำ Ultraformer ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน ? คำตอบคือขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่โดยทั่วไปจะสามารถอยู่ได้นาน ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี

ระยะเวลาที่เห็นผล Ultraformer
• ทันทีหลังทำ จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงบางส่วน เช่น ผิวตึงขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น
• ภายใน 1-2 เดือน ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเมื่อคอลลาเจนใหม่เริ่มถูกสร้างและจัดเรียงตัว
• ผลลัพธ์สูงสุด อยู่ที่ช่วงเดือนที่ 2-3
• คงผลลัพธ์ได้ โดยเฉลี่ย 6-12 เดือน แล้วแต่สภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล

ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์
1.อายุและสภาพผิว
ผู้ที่อายุน้อย หรือยังไม่มีปัญหาผิวมาก มักจะเห็นผลชัดและอยู่ได้นานกว่า

2.จำนวนช็อตที่ใช้ในการทำ
หากยิงในจำนวนที่เหมาะสม ครบตามจุดสำคัญ จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานกว่า

3.การดูแลผิวหลังทำ
การใช้ครีมบำรุง กันแดด และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะช่วยรักษาคอลลาเจนได้นาน

4.พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์
การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารที่ดี และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเสริมการฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติ

Ultraformer ควรทำบ่อยแค่ไหน
• โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ Ultraformer ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ต่อเนื่อง
• บางคนอาจเลือกทำ Ultraformer ซ้ำทุก 6 เดือน ในกรณีที่ต้องการดูแลผิวอย่างต่อเนื่องและเห็นผลชัดตลอดปี

Ultraformer มีผลข้างเคียงไหม
แม้ว่า Ultraformer จะเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัย และได้รับการรับรองมาตรฐาน เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ยังมีคำถามสำคัญที่ผู้เข้ารับบริการควรรู้ล่วงหน้า นั่นคือ Ultraformer มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
คำตอบคือ โดยทั่วไป Ultraformer มีผลข้างเคียงน้อยมาก และมักเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่ก็ควรรู้เท่าทันและเตรียมตัวไว้เพื่อความสบายใจ

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้บ่อย (ชั่วคราว)
1.หลังทำ Ultraformer อาจเกิดรอยแดง
• เกิดขึ้นทันทีหลังทำในบางจุด
• มักจางลงภายใน 1-3 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 24 ชั่วโมง

2.หลังทำ Ultraformer อาจเกิดอาการบวมเล็กน้อย
• บางคนอาจมีอาการบวมบริเวณที่ยิงพลังงาน เช่น แก้ม คาง หรือกรอบหน้า
• เป็นอาการที่พบบ่อยและจะหายไปภายใน 2-3 วัน

3.หลังทำ Ultraformer อาจรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อยใต้ผิว
• อาการคล้ายกล้ามเนื้อโดนกระตุ้นหรือเมื่อยล้า
• บางรายอาจรู้สึก "ตึงผิว" ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นผลจากการทำงานลึกถึงชั้น SMAS

4.หลังทำ Ultraformer อาจรู้สึกเสียวหรือจี๊ดเล็กน้อยขณะทำ
• เป็นผลจากพลังงาน HIFU ยิงไปกระตุ้นเส้นประสาทใต้ผิว (โดยไม่เป็นอันตราย)
• อาจลดได้ด้วยการใช้เจลเย็นหรือประคบก่อนทำ

Ultraformer ไม่เหมาะกับใครบ้าง
แม้ว่า Ultraformer จะเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย และเหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็มีบางกลุ่มที่ อาจไม่เหมาะสมหรือควรเลี่ยง การทำ Ultraformer ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพหรือประสิทธิภาพที่อาจไม่เป็นไปตามคาด เพื่อความปลอดภัยควรพิจารณาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ

1.Ultraformer ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
• แม้จะไม่มีข้อมูลที่ยืนยันว่าทำให้เกิดอันตรายโดยตรง แต่เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ หลีกเลี่ยงจนกว่าจะพ้นช่วงให้นมบุตร

2.Ultraformer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอุปกรณ์ฝังในร่างกายที่ไวต่อคลื่นพลังงาน
• เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือ โลหะฝังในบริเวณใบหน้า
• คลื่น HIFU อาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้ได้

3.Ultraformer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคผิวหนังในบริเวณที่ต้องการรักษา
• เช่น ผิวอักเสบ สิวอักเสบ แผลเปิด หรือติดเชื้อ
• ควรรักษาให้หายดีก่อน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแทรกซ้อนได้

4.Ultraformer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวบาง หรือไวต่อความร้อนมากผิดปกติ
• เช่น โรคหนังบางจากสเตียรอยด์ หรือโรคผิวหนังที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติ
• พลังงานความร้อนอาจส่งผลกระทบต่อผิวได้มากกว่าปกติ

5.Ultraformer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีความคาดหวังสูงเกินจริงในผลลัพธ์
• Ultraformer เหมาะกับการยกกระชับในระดับเบา-ปานกลาง
• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีหนังหย่อนคล้อยมาก เช่น แก้มตกชัดเจน หนังคอห้อยเยอะ - เพราะอาจต้องแก้ด้วยการผ่าตัดดึงหน้าแทน

6.Ultraformer ไม่เหมาะกับผู้ที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มในบริเวณใกล้เคียง
• HIFU อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
• ควรรออย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังฉีด ก่อนทำ Ultraformer หรือปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม

Ultraformer มีกี่รุ่น แตกต่างกันอย่างไร
Ultraformer เป็นเครื่องยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันมี 3 รุ่นหลัก ที่ได้รับการใช้งานในคลินิกความงาม และรุ่นล่าสุดที่เป็นที่นิยมอย่างมากคือ Ultraformer III

Ultraformer แต่ละรุ่นมีอะไรบ้าง?
1.Ultraformer I (รุ่นแรกเริ่ม)
• Ultraformer I เป็นเครื่อง HIFU รุ่นแรกจากบริษัท Classys ประเทศเกาหลีใต้
• Ultraformer I ทำงานด้วยคลื่นเสียง HIFU แต่อาจยังไม่สามารถควบคุมความลึกได้หลากหลาย
• Ultraformer I ประสิทธิภาพและความเสถียรของพลังงานยังจำกัด
• ปัจจุบัน Ultraformer I แทบไม่มีใช้งานแล้วในคลินิกชั้นนำ

2.Ultraformer II
• Ultraformer II พัฒนาให้แม่นยำมากขึ้นกว่ารุ่นแรก
• Ultraformer II มีการปรับความลึกของหัวยิงได้มากขึ้น (เช่น 3.0, 4.5 มม.)
• Ultraformer II เหมาะสำหรับยกกระชับระดับปานกลาง
• Ultraformer II เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น แต่ยังเจ็บขณะทำมากกว่ารุ่นใหม่ ๆ และยังมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาคงผลลัพธ์

3.Ultraformer III (รุ่นล่าสุดและนิยมในปัจจุบัน)
จุดเด่นของ Ultraformer III
• Ultraformer III มีหัว (Cartridge) ให้เลือกหลายขนาดความลึก 1.5 / 2.0 / 3.0 / 4.5 / 6.0 / 9.0 มม. (สำหรับใช้ทั้งใบหน้าและร่างกาย)
• Ultraformer III ปรับพลังงานได้แม่นยำ เห็นผลไว เจ็บน้อยกว่าเดิม
• Ultraformer III มีระบบควบคุมพลังงานที่สม่ำเสมอและเสถียร ทำให้ผลลัพธ์สม่ำเสมอทั่วทั้งหน้า
• Ultraformer III ใช้เวลาในการทำไม่นาน และมีหัวที่รองรับการทำบริเวณเล็ก ๆ เช่น รอบตา มุมปาก
• Ultraformer III สามารถกระชับได้ทั้งผิวตื้น ผิวลึก และช่วยลดไขมันบางส่วนในบริเวณที่ต้องการได้ในเครื่องเดียว

Ultraformer คืออะไร อยู่ได้กี่เดือน ควรยิงกี่ช็อตยกกระชับปรับหน้าเรียว

โปรแกรม Ultraformer ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

การเตรียมตัวก่อนทำ Ultraformer
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ Ultraformer เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และลดความเสี่ยงของอาการข้างเคียงต่าง ๆ แม้ว่า Ultraformer จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น แต่การเตรียมผิวและร่างกายให้พร้อมจะช่วยให้การรักษาราบรื่นมากยิ่งขึ้น มีคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนทำ Ultraformer ดังนี้

1.ก่อนทำ Ultraformer พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนวันทำ
• ควรนอนหลับให้ครบ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายและระบบไหลเวียนเลือดสมดุล
• ช่วยลดความบวมหลังทำได้ดี

2.ก่อนทำ Ultraformer งดทาครีมหรือเครื่องสำอางในวันที่ทำ
• โดยเฉพาะครีมที่มีกรดผลไม้ (AHA), BHA, เรตินอล หรือไวท์เทนนิ่งแรง ๆ
• เพื่อป้องกันการระคายเคืองเมื่อสัมผัสกับพลังงาน HIFU

3.ก่อนทำ Ultraformer หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดล่วงหน้า 2-3 วัน
• ผิวที่ถูกแดดแรงอาจมีอาการแสบ แดง หรือบางลง ซึ่งเสี่ยงต่อการระคายเคืองเมื่อลงพลังงาน Ultraformer

4.ก่อนทำ Ultraformer งดการทำทรีตเมนต์แรง ๆ หรือเลเซอร์ก่อนทำ
• เว้นช่วงการทำหัตถการอื่น เช่น เลเซอร์, Dermabrasion, Chemical Peeling อย่างน้อย 1 สัปดาห์
• เพื่อไม่ให้ผิวเกิดอาการอักเสบซ้ำซ้อน

5.ก่อนทำ Ultraformer แจ้งประวัติสุขภาพหรือโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
• เช่น ประวัติการแพ้ยา, การฝังโลหะในร่างกาย, เครื่องกระตุ้นหัวใจ, โรคผิวหนัง, โรคเรื้อรังต่าง ๆ
• เพื่อให้แพทย์ประเมินว่าปลอดภัยต่อการทำหรือไม่

6.หากเพิ่งฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ ควรเว้นระยะก่อนทำ Ultraformer
• แนะนำเว้นอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการกระทบต่อสารที่ฉีดไว้

การดูแลตัวเองหลังทำ Ultraformer
แม้ว่า Ultraformer จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีบาดแผล และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังทำ แต่ การดูแลตัวเองหลังทำที่ถูกต้อง จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการยกกระชับอยู่ได้นานขึ้น และลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ได้อย่างมาก มีแนวทางการดูแลตัวเองหลังทำ Ultraformer ดังนี้

1.หลังทำ Ultraformer หลีกเลี่ยงความร้อน 24-48 ชั่วโมงแรก
• งดการอบซาวน่า อบไอน้ำ หรือทำกิจกรรมกลางแดดแรง
• หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจัด เพื่อป้องกันผิวอักเสบหรือระคายเคือง

2.หลังทำ Ultraformer งดนวดหน้าแรง ๆ หรือกดใบหน้า
• ไม่ควรขัดถูหรือนวดบริเวณที่ทำภายใน 3-5 วันหลังทำ
• ควรล้างหน้าด้วยความเบามือ และใช้ผ้าซับเบา ๆ เท่านั้น

3.หลังทำ Ultraformer ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ
• ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวที่อาจรู้สึกตึงหลังทำ
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคือง เช่น AHA, BHA, เรตินอล, วิตามินซีเข้มข้น อย่างน้อย 3-5 วัน

4.หลังทำ Ultraformer ทาครีมกันแดดทุกวันอย่างสม่ำเสมอ
• ใช้ครีมกันแดด SPF 30-50+ เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี
• เพราะแสงแดดอาจส่งผลให้คอลลาเจนเสื่อมเร็ว และลดประสิทธิภาพของการทำ Ultraformer

5.หลังทำ Ultraformer หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
• อย่างน้อย 3 วันหลังทำ เพราะทั้งสองพฤติกรรมนี้มีผลต่อกระบวนการฟื้นฟูของร่างกายและการสร้างคอลลาเจน

6.หลังทำ Ultraformer ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
• ช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็ว และส่งเสริมกระบวนการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติให้ดียิ่งขึ้น

สรุปเกี่ยวกับ Ultraformer เทคโนโลยียกกระชับ
สรุปว่า Ultraformer เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัส (HIFU) ที่สามารถฟื้นฟูผิวจากภายในอย่างล้ำลึก โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้า โดยสามารถเลือกจำนวนช็อตให้เหมาะกับแต่ละบุคคลและพื้นที่ที่ต้องการดูแลได้อย่างแม่นยำ ผลลัพธ์หลังทำ Ultraformer จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้หากดูแลตัวเองหลังทำ Ultraformer อย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานยิ่งขึ้น

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธียกกระชับปรับรูปหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด Ultraformer ถือเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่คุ้มค่าในการดูแลตัวเองระยะยาว