Ulthera Prime VS Ultraformer MPT แตกต่างกันอย่างไร ดีไหม
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT แตกต่างกันอย่างไร ดีไหม
ปัจจุบันเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึงดูอ่อนเยาว์ กลายเป็นทางเลือกยอดนิยม หนึ่งในคำถามที่ถูกถามบ่อยที่สุดคือ ควรเลือกทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ดีกว่ากัน ? ทั้งสองเทคโนโลยีต่างอยู่ในกลุ่ม HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่สามารถยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งมีข้อแตกต่างที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า Ulthera Prime VS Ultraformer MPT คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร ทำงานอย่างไร เหมาะกับใคร และต้องเตรียมตัวอย่างไร รวมถึงคำถามที่พบบ่อย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่า เทคโนโลยีไหนเหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของคุณมากที่สุด
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT คืออะไร
การเปรียบเทียบ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากทั้งสองเทคโนโลยีนี้เน้นการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด และเหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นหรือยกกระชับโดยไม่ต้องพักฟื้น ก่อนอื่นไปรู้ว่าระหว่าง Ulthera Prime VS Ultraformer MPT คืออะไร เพื่อเข้าใจความแตกต่างของทั้งสองเทคโนโลยี
1.Ulthera Prime
Ulthera Prime หรือ Ultherapy คือเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัส (Focused Ultrasound) หรือ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่มีความแม่นยำสูงมาก ใช้พลังงานส่งผ่านลงไปที่ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า
จุดเด่นของ Ulthera Prime
• มีหน้าจอแสดงผลแบบ Real-Time Visualization ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวระหว่างทำการรักษา
• ยิงพลังงานได้แม่นยำและลงลึกถึงชั้น SMAS ได้ดีที่สุด
• เห็นผลหลังทำ 20-30% และชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 เดือน
• เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก หรืออายุ 35 ปีขึ้นไป
2.Ultraformer MPT
Ultraformer MPT (Micro & Macro Focused Ultrasound) เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของ Ultraformer ที่พัฒนาจาก Ultraformer III โดยมุ่งเน้นการยิงที่เร็ว แม่นยำ ปรับแต่งพลังงานเฉพาะจุดได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับทั้งการยกกระชับและปรับผิวให้เรียบเนียน
จุดเด่นของ Ultraformer MPT
• ยิงพลังงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม (มากกว่า 2 เท่า)
• เจ็บน้อยกว่าเครื่อง HIFU แบบเก่า
• มีเทคโนโลยี Micro Pulse Technology กระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง
• สามารถยิงได้หลายความลึกในจุดเดียว เหมาะกับการปรับรูปหน้าและลดไขมันบางส่วน
• เหมาะกับคนอายุน้อย หรือผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและยกกระชับในระยะเริ่มต้น
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทำงานอย่างไร
การเปรียบเทียบหลักการทำงานของ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจว่าทั้งสองเทคโนโลยีใช้พลังงานรูปแบบใด ส่งผลต่อผิวหนังอย่างไร และมีความแตกต่างในด้านการฟื้นฟูผิวหรือยกกระชับอย่างไรบ้าง ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังต่อไปนี้
1.หลักการทำงานของ Ulthera Prime
Ulthera Prime ใช้เทคโนโลยี Focused Ultrasound หรือ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่มีความแม่นยำสูง พร้อมจอแสดงผลแบบ Real-Time Visualization
ขั้นตอนและกลไกการทำงาน
1.ปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัส (Focused Ultrasound) ลงไปใต้ผิวหนัง
2.คลื่นเสียงจะลงลึกถึง ชั้น SMAS (Superficial Musculo-Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ดึงหน้า
3.พลังงานที่ส่งลงไปจะ เกิดเป็นจุดความร้อน (Thermal Coagulation Points) ประมาณ 60-70°C โดยไม่ทำลายผิวด้านบน
4.ความร้อนนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง คอลลาเจนใหม่ และ หดตัวของเส้นใยคอลลาเจนเดิม
5.ผิวจะเริ่มตึง ยกกระชับขึ้น และเห็นผลอย่างต่อเนื่องใน 2-3 เดือน
2.หลักการทำงานของ Ultraformer MPT
Ultraformer MPT คือเทคโนโลยีล่าสุดของเครื่อง HIFU ที่พัฒนาจาก Ultraformer III โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเช่นกัน แต่มีระบบ Micro & Macro Focused Ultrasound พร้อมฟังก์ชันใหม่ชื่อว่า MPT (Micro Pulse Technology)
ขั้นตอนและกลไกการทำงาน
1.ปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงที่สามารถโฟกัสได้ทั้งแบบจุดเล็ก (Micro) และจุดใหญ่ (Macro)
2.คลื่นเสียงจะลงสู่ หลายระดับความลึกของผิว ได้แก่
- ชั้นผิวหนัง
- ชั้นไขมัน
- ชั้น SMAS
3.พลังงานจะเปลี่ยนเป็นความร้อน (ประมาณ 65-75°C) ทำให้เกิด จุดเล็ก ๆ ที่กระตุ้นคอลลาเจน
4.ฟังก์ชัน Micro Pulse Technology จะส่งพลังงานต่อเนื่อง ช่วยเร่งกระบวนการสร้างคอลลาเจน
5.มีการหดตัวของคอลลาเจนและยกกระชับคล้าย Ulthera แต่ทำได้เร็วและเจ็บน้อยกว่า
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ช่วยอะไรบ้าง
แม้ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของเทคโนโลยี การยิงพลังงาน หรือระดับความลึกของคลื่นเสียง แต่ทั้งสองเครื่องนี้อยู่ในกลุ่ม HIFU และมีคุณสมบัติร่วมกันหลายด้านในการช่วยฟื้นฟูผิวและยกกระชับใบหน้า จึงสามารถสรุปข้อดีที่โดดเด่นของ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ดังนี้
1.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
• ทั้งสองเทคโนโลยีสามารถส่งพลังงานลงลึกสู่ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อผิวที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า
• ช่วยแก้ปัญหาแก้มตก คางหย่อน กรอบหน้าไม่ชัด ให้กลับมาตึงกระชับขึ้น
2.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
• ลดความหย่อนคล้อยบริเวณขากรรไกรล่าง แก้มล่าง และใต้คาง
• กรอบหน้าชัดขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรมหรือฉีดสารเติมเต็ม
3.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
• พลังงานคลื่นเสียงช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
• ผิวแน่นขึ้น ยืดหยุ่นดีขึ้น ลดความแห้งและหย่อนยานในระยะยาว
4.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ช่วยลดริ้วรอยตื้นและร่องลึกบางจุด
• เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หางตา หน้าผาก ร่องแก้ม และมุมปาก
• ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
5.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ช่วยฟื้นฟูผิวใต้ตาและผิวบางบริเวณ
• สามารถยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ แม้บริเวณที่ผิวบาง เช่น ใต้ตา หรือหางตา
• ลดความหย่อนคล้อยเล็ก ๆ และทำให้ผิวดูสดใสขึ้น
6.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ช่วยลดเหนียงและไขมันสะสมบางส่วน
• ช่วยลดไขมันใต้คาง (เหนียง) หรือแก้มที่ห้อยเล็กน้อย โดยกระตุ้นการสลายไขมันบางส่วนพร้อมกับการยกกระชับผิว
7.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ช่วยกระชับรูขุมขน ผิวหน้าเรียบเนียน
• การยิงพลังงานในระดับตื้นช่วยให้ผิวดูละเอียดขึ้น
• ลดลักษณะรูขุมขนกว้างและความไม่สม่ำเสมอของผิว
8.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
• หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องหยุดงาน ไม่ต้องเลี่ยงแสงแดดมาก
• แต่งหน้าได้ในวันถัดไป และสามารถดูแลผิวต่อได้ทันที
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทำจุดไหนบ้าง
ทั้ง Ulthera Prime VS Ultraformer MPT แม้จะมีความแตกต่างในด้านเทคโนโลยีและความลึกของพลังงาน แต่ทั้งสองเครื่องสามารถทำงานในบริเวณเดียวกันได้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะจุดที่เป็นปัญหาหย่อนคล้อยหรือมีไขมันสะสมเล็กน้อยบนใบหน้าและลำคอ โดยบริเวณที่สามารถทำได้เหมือนกันระหว่าง Ulthera Prime VS Ultraformer MPT มีดังนี้
1.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทำบริเวณกรอบหน้า
• ยกกระชับแนวกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น
• ลดความหย่อนคล้อยที่บริเวณขากรรไกรล่าง
2.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทำบริเวณเหนียงใต้คาง
• ลดเหนียงและความหย่อนคล้อยบริเวณคางสองชั้น
• กระชับคางให้ได้รูปมากขึ้น
3.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทำบริเวณแก้ม
• ยกกระชับแก้มที่ตกหรือหย่อนคล้อย
• เหมาะกับผู้ที่มีแก้มย้อย แก้มล่างตกตามแรงโน้มถ่วง
4.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทำบริเวณหางตา ขมับ
• ยกหางตาที่ตกขึ้น
• ลดริ้วรอยรอบดวงตาและให้ตาดูโตขึ้น
5.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทำบริเวณหน้าผาก คิ้ว
• ช่วยยกแนวคิ้ว
• ลดหนังตาตก และทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
6.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทำบริเวณใต้ตา
• ลดถุงใต้ตาเล็กน้อย และกระชับผิวใต้ตา
• ลดริ้วรอยบางๆ ใต้ตา (ใช้หัวขนาดเล็กยิงเฉพาะจุด)
7.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทำบริเวณร่องแก้ม มุมปาก
• ช่วยลดความลึกของร่องแก้ม
• ปรับมุมปากให้ไม่ตก เพิ่มความสดใสให้ใบหน้า
8.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทำบริเวณลำคอ
• ยกกระชับผิวบริเวณคอที่หย่อนยาน
• ลดเส้นคอและรอยพับ
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT กี่วันถึงเห็นผล
ระยะเวลาเห็นผลระหว่าง Ulthera Prime VS Ultraformer MPT มีความแตกต่างกันดังนี้
Ulthera Prime
• เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 20-30% ผิวยกกระชับขึ้นเล็กน้อย
• จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นภายใน 1-2 เดือนแรก เมื่อคอลลาเจนใหม่เริ่มถูกสร้าง
• เห็นผลชัดเจนที่สุดในช่วง 2-3 เดือนหลังทำ ผิวจะกระชับและเต่งตึงขึ้น
• ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน หรือมากกว่านั้น
Ultraformer MPT
• เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 20% ผิวหน้าจะดูแน่นยกกระชับขึ้น
• ผลลัพธ์จะเห็นชัดอย่างต่อเนื่องภายใน 1-3 เดือน จากการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว
• ผลลัพธ์โดยทั่วไปอยู่ได้นาน 6-12 เดือน หรือนานกว่านั้น ขึ้นกับสภาพผิวและการดูแล
สรุปทั้งสองเทคโนโลยี Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เริ่มเห็นผลเบื้องต้นทันทีหลังทำ แต่จะชัดเจนที่สุดหลัง 1-3 เดือน โดย Ulthera Prime มักจะให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า Ultraformer MPT โดยเฉลี่ย
หมายเหตุ ระยะเวลาเห็นผลและความคงทนขึ้นกับสภาพผิวและการดูแลส่วนบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินผลที่เหมาะกับแต่ละบุคคล
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT อยู่ได้นานแค่ไหน
ระยะเวลาผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานของ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT มีความแตกต่างกันดังนี้
หัตถการ |
ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน |
Ulthera Prime |
12-18 เดือน หรือมากกว่า |
Ultraformer MPT |
6-12 เดือน (มักพบบ่อยที่ 6-8 เดือน แต่บางกรณีอาจถึง 12-18 เดือน) |
• Ulthera Prime ผลลัพธ์โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน หรืออาจนานกว่านั้นหากดูแลรักษาผิวดี
• Ultraformer MPT ผลลัพธ์โดยทั่วไปอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ส่วนใหญ่จะพบที่ 6-8 เดือน แต่บางกรณีอาจนานถึง 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเอง
ระยะเวลาความยาวนานของผลลัพธ์หลังทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ขึ้นกับแต่ละบุคคล ปัจจัยเช่น อายุ สภาพผิว การดูแลผิว และไลฟ์สไตล์มีผลต่อความคงผลของหัตถการ โดยสรุป Ulthera Prime มักจะมีผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า Ultraformer MPT โดยเฉลี่ย
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT อันตรายไหม
การทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT จัดเป็นหัตถการที่อยู่ในกลุ่มไม่ต้องผ่าตัด และลดความเสี่ยงเมื่อทำโดยแพทย์ อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่เป็นอันตราย แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของการทำหัตถการด้วยคลื่นพลังงานในระดับลึก โดยผลข้างเคียงของ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ที่เหมือนกันมีดังนี้
1.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT อาจมีผิวแดงหลังทำ
• อาจเกิดรอยแดงบริเวณที่ยิงพลังงาน ซึ่งเป็นการตอบสนองของผิวหนังชั้นตื้น
• อาการนี้มักจะหายไปภายใน 1-2 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 24 ชั่วโมง
2.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT อาจมีอาการบวมเล็กน้อย
• บางรายอาจรู้สึกบวมเล็กน้อยในจุดที่ได้รับพลังงานลึก เช่น แก้ม กราม หรือคาง
• โดยทั่วไปจะหายภายใน 1-3 วัน โดยไม่ต้องใช้ยา
3.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT อาจมีอาการตึงหรือเจ็บใต้ผิว
• หลังทำอาจรู้สึกตึง ๆ หรือระบมเล็กน้อย คล้ายกล้ามเนื้ออักเสบ
• เกิดจากการกระตุ้นเส้นใยคอลลาเจนและการหดตัวของเนื้อเยื่อชั้นลึก
• อาการนี้จะค่อยๆ ดีขึ้นใน 3-7 วัน
4.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT อาจมีรอยช้ำ
• พบได้น้อย และมักเกิดกับผู้ที่ผิวบางหรือมีเส้นเลือดฝอยใกล้ผิว
• รอยช้ำจะค่อยๆ จางลงภายใน 5-7 วัน
5.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT อาจรู้สึกเสียว/จี๊ดใต้ผิวหนัง
• บางรายอาจมีอาการเหมือนถูกกระตุกเบา ๆ หรือ ชาจุดเล็ก ๆ ใต้ผิว
• เกิดจากพลังงานที่กระตุ้นเส้นประสาทผิวตื้นชั่วคราว
• อาการนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เหมาะกับใคร
ทั้ง Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เป็นเครื่องยกกระชับที่มีหลักการทำงานคล้ายกัน ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (HIFU) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ทั้งสองเครื่องนี้ เหมาะกับกลุ่มคนที่มีลักษณะปัญหาคล้าย ๆ กัน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
1.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย
เช่น แก้มห้อย มุมปากตก กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีเหนียงใต้คาง ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
2.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ผ่าตัด
ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากพักฟื้น ต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด
3.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยบางจุด
เช่น รอยที่หางตา ร่องแก้ม รอยใต้ตา ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น
4.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบางส่วนบนใบหน้า
เช่น แก้มป่อง คางสองชั้น ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดร่วมกับการยกกระชับ
5.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เหมาะกับผู้ที่เคยทำ HIFU มาก่อนและต้องการดูแลซ้ำ
ทำต่อเนื่องเพื่อคงผลลัพธ์เดิมหรือเพิ่มประสิทธิภาพ และไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการทำครั้งก่อน
6.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แน่นกระชับ
แม้ยังไม่มีปัญหาหย่อนคล้อยชัดเจน แต่ต้องการดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป
Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ไม่เหมาะกับใคร
แม้ว่า Ulthera Prime VS Ultraformer MPT จะเป็นหัตถการที่เหมาะกับคนทั่วไปที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ยังมีกลุ่มบุคคลบางประเภทที่ไม่เหมาะสมกับการทำหัตถการนี้เหมือนกันทั้งสองเครื่อง เนื่องจากข้อจำกัดทางการแพทย์หรือสภาพผิวที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ กลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT มีดังนี้
1.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคหรือภาวะเกี่ยวกับระบบประสาทใบหน้า
เช่น โรคปลายประสาทอักเสบ ใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก เสี่ยงต่อการกระตุ้นเส้นประสาทเพิ่มเติม ทำให้เกิดอาการชา เจ็บ หรือกล้ามเนื้อกระตุก
2.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
แม้ไม่มีหลักฐานว่าทำอันตราย แต่ไม่แนะนำให้ทำเพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์และเด็กเล็ก
3.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลเปิดหรือการอักเสบในบริเวณใบหน้าหรือคอ
เช่น สิวอักเสบขั้นรุนแรง, แผลติดเชื้อ, ผื่นแพ้ หรือผิวลอก เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อและระคายเคืองจากพลังงานที่ส่งลงสู่ผิว
4.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ไม่เหมาะกับผู้ที่ใส่โลหะหรือซิลิโคนฝังในใบหน้า
เช่น รากฟันเทียม ซิลิโคนคาง หรือไหมทองคำ พลังงานคลื่นเสียง Ulthera Prime VS Ultraformer MPT อาจสะท้อนหรือรบกวนโลหะ/วัสดุที่ฝังอยู่ ทำให้เกิดความร้อนหรือผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์
5.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ไม่เหมาะกับผู้ที่เพิ่งทำศัลยกรรมหรือหัตถการฉีดสารเติมเต็มไม่นาน
ควรรอให้ใบหน้าฟื้นตัวหรือให้สารเติมเต็มเข้าที่ก่อนอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงพลังงาน Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของหัตถการก่อนหน้า
6.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคแพ้ภูมิตัวเอง
เช่น SLE, โรคผิวหนังเรื้อรัง, โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เนื่องจากพลังงานความร้อนของ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT อาจกระตุ้นให้โรคกำเริบได้
การเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT มีความสำคัญ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง ถึงแม้เครื่องทั้งสองจะมีระบบต่างกัน แต่ก็อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี HIFU ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกัน ดังนั้นการเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT จึงสามารถใช้แนวทางเดียวกันได้ทั้งสองเครื่อง ดังนี้
1.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT พักผ่อนให้เพียงพอ
• ควรนอนหลับให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนวันทำ
• ช่วยให้ผิวอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และลดอาการบวมแดงหลังทำ
2.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีนก่อนทำ 24 ชั่วโมง
• ป้องกันการขยายตัวของเส้นเลือดฝอยที่อาจทำให้ผิวบอบบางกว่าปกติ
• ลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำหรือบวมหลังทำ
3.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT งดการทานยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อเลือด
• เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา, โสม, กระเทียม
• ควรงดอย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ เพื่อลดโอกาสเลือดออกง่ายและช้ำ
4.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นบริเวณใบหน้า
• งดการทำเลเซอร์, ฉีดฟิลเลอร์, โบท็อกซ์ หรือร้อยไหม ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์
• เพื่อให้สภาพผิวฟื้นตัวเต็มที่ และไม่รบกวนผลลัพธ์ของหัตถการอื่น
5.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ
• ไม่ควรมีเมคอัพหรือครีมกันแดดบนใบหน้า
• หากมีการแต่งหน้า ทางคลินิกจะมีบริการเช็ดทำความสะอาดก่อนทำ
6.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT แจ้งข้อมูลทางการแพทย์กับแพทย์ผู้ดูแล
• ประวัติโรคประจำตัว การตั้งครรภ์ การแพ้ยา หรือเคยผ่าตัด/ฝังโลหะบนใบหน้า
• เพื่อพิจารณาความปลอดภัยและปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิว
การดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT
การดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ของการยกกระชับเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงต่าง ๆ ถึงแม้ทั้งสองเครื่องจะต่างกันในเชิงเทคโนโลยี แต่การดูแลหลังทำสามารถใช้แนวทางเดียวกันได้ เพราะอยู่ในกลุ่มหัตถการแบบไม่ผ่าตัดที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงลงสู่ชั้นผิว โดยการดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT มีดังนี้
1.หลังทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT หลีกเลี่ยงความร้อนในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
• งดการเข้าซาวน่า แช่น้ำร้อน อบไอน้ำ หรือใช้ไดร์ร้อนเป่าหน้าใกล้ผิว
• เพื่อป้องกันการกระตุ้นผิวที่อาจยังไวต่อความร้อน
2.หลังทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT หลีกเลี่ยงออกกำลังกายหนักในช่วง 1-2 วันแรก
• เพราะการออกแรงอาจทำให้ผิวบวมมากขึ้น หรือน้ำเหลืองไหลเวียนผิดปกติ
3.หลังทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT งดการนวดหน้า หรือกดแรงบริเวณที่ทำ
• ควรงดการกด นวด หรือถูแรงบริเวณใบหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์
• เพื่อให้พลังงานที่ลงไปกระตุ้นชั้นผิวทำงานเต็มที่โดยไม่ถูกรบกวน
4.หลังทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดเป็นประจำ
• แนะนำให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ที่ช่วยปลอบประโลมผิว
• ทาครีมกันแดดที่มี SPF 50+ ทุกวัน เพื่อป้องกันการเกิดฝ้า กระ หรือผิวไวแดด
5.หลังทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ
• ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น
6.หลังทำ Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ไม่ควรใช้ครีมผลัดเซลล์ผิวหรือสารที่ก่อการระคายเคือง
• เช่น กรด AHA, BHA, Retinol, Vitamin C เข้มข้น ในช่วง 3-5 วันหลังทำ
• เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือผิวแห้งลอก
คำถามที่พบบ่อย Ulthera Prime VS Ultraformer MPT
1.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT เจ็บไหมตอนทำ
คำตอบ Ulthera Prime อาจเจ็บจี๊ดลึก ๆ บริเวณชั้น SMAS ส่วน Ultraformer MPT เจ็บน้อยกว่า เพราะยิงพลังงานเร็วขึ้นและเทคโนโลยีทันสมัยกว่า ทั้งสองสามารถทายาชาก่อนทำเพื่อลดอาการเจ็บได้
2.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT หลังทำเป็นแผลไหม
คำตอบ ไม่ไหม้ ไม่ลอก ไม่เป็นแผล เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ทำลายผิวชั้นบน แต่อาจมีอาการแดง บวม ตึง ซึ่งจะหายเองภายใน 1-3 วัน
3.Ulthera Prime VS Ultraformer MPT หลังทำต้องพักฟื้นไหม
คำตอบ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที แต่งหน้า ออกแดด หรือทำกิจกรรมเบา ๆ ได้เลย
สรุปความแตกต่าง Ulthera Prime VS Ultraformer MPT
สรุปว่า Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ต่างเป็นเทคโนโลยี HIFU ที่ได้รับความนิยมสูงและมีจุดเด่นเฉพาะตัว โดย Ulthera Prime โดดเด่นเรื่องความแม่นยำลึกถึงชั้น SMAS ด้วยระบบภาพแบบ Real-Time เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นาน ส่วน Ultraformer MPT เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเจ็บน้อยและฟื้นตัวเร็ว
ทั้งสองสามารถช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอย ยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และสามารถทำในจุดเดียวกัน เช่น กรอบหน้า ใต้คาง หน้าผาก หางตา และลำคอ โดยไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง เมื่อทำกับแพทย์และใช้เครื่องแท้
สุดท้าย การเลือกเครื่องยกกระชับระหว่าง Ulthera Prime VS Ultraformer MPT ที่เหมาะสมกับตัวเอง ควรขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ เป้าหมาย และคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ลดความเสี่ยงและตรงกับความต้องการด้านความงาม
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ