Ulthera Prime VS Volnewmer แตกต่างกันยังไง เลือกทำแบบไหนดี

Ulthera Prime VS Volnewmer ต่างกันยังไง เลือกทำแบบไหนดี
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวหน้ามักเริ่มหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด รูปหน้าดูไม่กระชับเหมือนเดิม แม้จะดูแลผิวด้วยครีมหรือทรีตเมนต์ต่าง ๆ ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาในระดับโครงสร้างผิวได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้หลายคนมองหาหัตถการยกกระชับแบบไม่ต้องผ่าตัดที่เห็นผล อย่างเครื่องยกกระชับ Ulthera Prime VS Volnewmer

ในปัจจุบัน Ulthera Prime VS Volnewmer เป็นสองเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสูง ทั้งคู่ช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยไม่ต้องพักฟื้น แต่มีความแตกต่างในแง่ของหลักการทำงาน ระยะเวลาเห็นผล และความรู้สึกขณะทำ บทความนี้จะพาไปเปรียบเทียบข้อดีของ Ulthera Prime VS Volnewmer เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้ว่าหัตถการใดเหมาะกับคุณมากที่สุด

รู้จักกับ Ulthera Prime VS Volnewmer คืออะไร
ก่อนอื่นทำความรู้จักระหว่าง Ulthera Prime VS Volnewmer ว่าคืออะไร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวหน้าแบบไม่ผ่าตัด ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้

Ulthera Prime คืออะไร
• รุ่นล้ำของ Ultherapy (หรือ Ulthera เดิม) ใช้เทคโนโลยี micro-focused ultrasound (MFU-V) ยิงความร้อนลงไปลึกถึง ชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยให้ผิวกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
• มีระบบ real-time imaging เพิ่มความแม่นยำ ทำให้เห็นผลชัดเจนใช้เพียงครั้งเดียว และอยู่ได้นานถึงประมาณ 1 ปี
• พัฒนาต่อจาก Ulthera รุ่นก่อน ฟื้นฟูเร็วกว่า รับรู้ผลชัดขึ้น และเจ็บน้อยลง

Volnewmer คืออะไร
• เป็นเครื่องเทคโนโลยี Monopolar RF (คลื่นวิทยุ) จากเกาหลี ใช้ส่งพลังงานลึกลงสู่ผิว ส่งผลให้เกิด ความร้อน 40-60 °C กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน
• มีระบบวัดความต้านทานผิว Impedance Detection, มีระบบ cooling และ vibration เพื่อเพิ่มความสบายขณะทำหัตถการและลดความเจ็บ
• เห็นผลทันทีบางส่วน 15-20% และเต็มที่ภายใน 1 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน แนะนำทำปีละ 1-2 ครั้งเพื่อคงผล

หลักการทำงานของ Ulthera Prime VS Volnewmer
Ulthera Prime VS Volnewmer ถือเป็นเทคโนโลยีเด่นที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย และฟื้นฟูผิวหน้า แม้ว่าทั้งสองจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน แต่หลักการทำงานยังมีความแตกต่างกันดังนี้

หลักการทำงานของ Ulthera Prime
Ulthera Prime คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงชนิดเฉพาะที่เรียกว่า Microfocused Ultrasound with Visualization (MFU-V) จุดเด่นคือสามารถส่งพลังงานลงไปยังชั้นผิวลึกสุดที่เรียกว่า SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า

กลไกการทำงาน
• คลื่นเสียงจะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนในระดับ 60-70 องศาเซลเซียส โดยเกิดเฉพาะจุด (thermal coagulation point)
• พลังงานถูกส่งลงลึกในระดับ 1.5, 3.0 และ 4.5 มม.เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในแต่ละชั้นผิว
• ใช้ระบบ Real-time Imaging ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถเห็นชั้นผิวจริงแบบเรียลไทม์ และยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ
• หลังทำผิวจะกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำลายผิวด้านบน
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย และต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

หลักการทำงานของ Volnewmer
Volnewmer คือเทคโนโลยีใหม่จากเกาหลีที่ใช้ Monopolar Radiofrequency (RF) เป็นพลังงานคลื่นวิทยุชนิดหนึ่งในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยลดไขมันบางส่วนใต้ผิว เหมาะกับผู้ที่ต้องการความกระชับร่วมกับการปรับรูปหน้าให้เรียวได้สัดส่วน

กลไกการทำงาน
• ส่งพลังงาน RF ความถี่ 6.78 MHz ลงลึกสู่ชั้นผิวหนังและไขมัน
• พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นอยู่ในช่วง 40-60 องศาเซลเซียส ช่วยกระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน
• มีระบบ Impedance Detection สำหรับวัดค่าความต้านทานของผิว และปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลแบบเรียลไทม์
• เสริมด้วยระบบ Cooling และ Vibration ช่วยลดความร้อนที่ผิวชั้นบนและเพิ่มความสบายขณะทำ
• เหมาะสำหรับการยกกระชับใบหน้า กรอบหน้า และแก้มล่าง โดยสามารถเห็นผลบางส่วนทันที และชัดเจนเต็มที่ภายใน 1 เดือน อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน

Ulthera Prime VS Volnewmer ช่วยอะไรบ้าง
แม้ว่า Ulthera Prime VS Volnewmer จะใช้พลังงานคนละชนิด (Ultrasound vs Radiofrequency) และมีระดับความลึกของการส่งพลังงานต่างกัน แต่ทั้งสองเทคโนโลยีมีเป้าหมายที่คล้ายกัน คือช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยกลไกที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ซึ่งสรุปข้อดีของการทำ Ulthera Prime VS Volnewmer ได้ดังนี้

1.Ulthera Prime VS Volnewmer ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
ทั้ง Ulthera Prime VS Volnewmer มีคุณสมบัติในการยกกระชับผิวบริเวณใบหน้า ลำคอ กรอบหน้า และใต้คาง โดยการกระตุ้นให้ผิวเกิดการหดตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นขึ้น ยืดหยุ่นดีขึ้น และลดความหย่อนคล้อยที่เกิดจากวัยหรือแรงโน้มถ่วง

2.Ulthera Prime VS Volnewmer ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
หัวใจสำคัญของ Ulthera Prime VS Volnewmer คือการกระตุ้นเซลล์ผิวให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงและยืดหยุ่น เมื่ออายุเพิ่มขึ้น คอลลาเจนจะลดลง ส่งผลให้เกิดริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย การใช้พลังงานความร้อนอย่างแม่นยำจากเครื่องทั้งสอง จึงช่วยย้อนวัยให้ผิวกลับมาแข็งแรง

3.Ulthera Prime VS Volnewmer ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
Ulthera Prime VS Volnewmer ผลจากการกระชับผิวและการหดตัวของชั้นไขมันบางส่วนโดยเฉพาะใน Volnewmer รวมถึงการยกกระชับลึกจาก Ulthera Prime จะทำให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแก้มล่าง กรอบหน้า และเหนียง

4.Ulthera Prime VS Volnewmer ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ
Ulthera Prime VS Volnewmer ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และการหดตัวของผิว ผิวที่ตึงขึ้นจะทำให้ ริ้วรอยขนาดเล็ก เช่น ร่องแก้ม รอยใต้ตา หรือมุมปากลดลง ผิวจะดูเรียบเนียนขึ้นอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องใช้เข็มหรือการฉีดสารเติมเต็ม

5.Ulthera Prime VS Volnewmer ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้แลดูอ่อนเยาว์
เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ผิวจะดูสดใส มีความยืดหยุ่น ผิวแน่นขึ้นและดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ร่วมของการใช้เทคโนโลยี Ulthera Prime VS Volnewmer

Ulthera Prime VS Volnewmer อยู่ได้นานแค่ไหน
หนึ่งในคำถามสำคัญที่หลายคนมักสงสัยเมื่อเลือกทำหัตถการยกกระชับผิวหน้าแบบไม่ผ่าตัด คือ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะความคุ้มค่าและระยะเวลาการเห็นผลเป็นสิ่งที่ช่วยในการตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อมีตัวเลือกมากมายในปัจจุบัน เช่น Ulthera Prime VS Volnewmer ซึ่งแม้จะมีจุดประสงค์เดียวกันในการยกกระชับผิว แต่มีช่วงเวลาการคงผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน

ระยะเวลาคงผลลัพธ์ของ Ulthera Prime
Ulthera Prime เป็นเทคโนโลยี Microfocused Ultrasound ที่ยิงพลังงานลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นโครงสร้างผิวเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความลึกแน่นและติดทนนาน
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 10-12 เดือน โดยเฉลี่ย หรืออาจนานถึง 18 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
• พลังงานส่งลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งให้การยกกระชับระดับโครงสร้าง
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่องหลังทำ
• ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำบ่อย หากดูแลสุขภาพผิวดี

คำแนะนำ สามารถทำปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อเริ่มสังเกตว่าผิวเริ่มหย่อนคล้อยอีกครั้ง

ระยะเวลาคงผลลัพธ์ของ Volnewmer
Volnewmer เป็นเทคโนโลยี Monopolar Radiofrequency ที่ทำงานในระดับชั้นหนังแท้และไขมัน โดยให้พลังงานความร้อนที่ลึกเพียงพอเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและลดไขมันบางส่วนในบริเวณกรอบหน้าและเหนียง
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน โดยเฉลี่ย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิว

ปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
• พลังงาน RF ทำให้เกิดการกระตุ้นเส้นใยคอลลาเจนและการจัดเรียงตัวใหม่
• เหมาะกับการทำเป็นคอร์ส เพื่อคงผลลัพธ์ต่อเนื่อง
• เห็นผลได้เร็ว และให้ผลลัพธ์ชัดภายใน 1 เดือน

คำแนะนำ ควรทำซ้ำทุก 6 เดือน หรือ ปีละ 2 ครั้ง เพื่อรักษาความกระชับของผิว

Ulthera Prime VS Volnewmer กี่วันถึงเห็นผล
การทำหัตถการยกกระชับผิวหน้าแบบไม่ผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็น Ulthera Prime VS Volnewmer แม้จะให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ก็ไม่ได้เห็นผลในทันที เพราะกลไกของเทคโนโลยีเหล่านี้จะอาศัยการกระตุ้นร่างกายให้สร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ จึงต้องอาศัยเวลาในการเปลี่ยนแปลงของผิว

Ulthera Prime ระยะเวลาในการเห็นผล
Ulthera Prime ทำงานโดยส่งพลังงานคลื่นเสียงลงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง ซึ่งต้องใช้เวลาในการสร้างคอลลาเจนใหม่

ระยะเวลาที่เห็นผล
• เริ่มเห็นผล ภายใน 7-14 วันแรก หลังทำ
• เห็นผลชัดเจนที่สุด ประมาณ 1-2 เดือนหลังทำ
• ผลลัพธ์เต็มที่ หลังจากทำประมาณ 90 วัน หรือ 3 เดือน

ผู้ที่ได้รับการรักษาจะสังเกตได้ว่าผิวตึงขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น และผิวโดยรวมเรียบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ

Volnewmer ระยะเวลาในการเห็นผล
Volnewmer ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและลดไขมันบางส่วน ความร้อนที่ส่งผ่านจะทำให้ผิวเกิดการหดตัวเล็กน้อยทันที และกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงในระยะต่อเนื่อง

ระยะเวลาที่เห็นผล
• เริ่มเห็นผล ทันทีหลังทำเสร็จ 15-20% จากการหดตัวของผิว
• เห็นผลชัดเจนที่สุด ประมาณ 3-4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนหลังทำ
• ผลลัพธ์เต็มที่ ภายใน 4-6 สัปดาห์

จุดเด่นของ Volnewmer คือสามารถเห็นผลเบื้องต้นได้เร็ว และมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป

Ulthera Prime VS Volnewmer เจ็บไหมขณะทำ
หนึ่งในคำถามที่หลายคนกังวลก่อนทำหัตถการยกกระชับหน้าแบบไม่ผ่าตัด คือ Ulthera Prime VS Volnewmer เจ็บหรือไม่ เพราะแม้จะไม่ใช่การผ่าตัด แต่พลังงานที่ถูกส่งลงสู่ผิวหนังในระดับลึกอาจทำให้รู้สึกไม่สบายได้ในบางราย

ความรู้สึกขณะทำ Ulthera Prime
Ulthera Prime ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (Microfocused Ultrasound) ยิงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งอยู่ลึกใต้ผิวหนัง และเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า จึงอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายในบางขณะ

• รู้สึก “จี๊ด ๆ” หรือ “สะเทือนลึก ๆ” บริเวณที่ยิงพลังงาน
• ความรู้สึกเจ็บจะขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเนื้อเยื่อและบริเวณที่ทำ เช่น บริเวณกรอบหน้าและใต้คางมักรู้สึกมากกว่าบริเวณอื่น
• ในปัจจุบัน Ulthera Prime มีการปรับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และใช้เทคนิคใหม่ที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า
• ก่อนทำมักมีการประคบเย็น ทายาชา หรือให้รับประทานยาแก้ปวดเล็กน้อยก่อนเริ่มหัตถการ

สรุปรู้สึกเจ็บในระดับปานกลาง แต่สามารถทนได้ และคลินิกส่วนใหญ่มักมีวิธีช่วยลดความไม่สบายขณะทำ

ความรู้สึกขณะทำ Volnewmer
Volnewmer ใช้พลังงานคลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF ซึ่งปล่อยพลังงานลงไปที่ชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน พร้อมกับมีระบบควบคุมความเย็นและการสั่นสะเทือนเพื่อเพิ่มความสบายระหว่างทำ

• รู้สึก “อุ่น ๆ” หรือ “ร้อนสบาย ๆ” บริเวณที่หัวเครื่องสัมผัสกับผิว
• ไม่รู้สึกเจ็บหรือสะท้านลึกเหมือน Ulthera เพราะพลังงานไม่ลงลึกถึงชั้น SMAS
• มีระบบ Cooling ช่วยป้องกันผิวชั้นบนร้อนเกินไป และ Vibration Mode ช่วยเบี่ยงเบนความรู้สึกเจ็บให้ลดลง
• ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องทายาชา

สรุปรู้สึกอุ่นและผ่อนคลาย เจ็บน้อยมาก หรือแทบไม่เจ็บเลย เหมาะสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความรู้สึกขณะทำหัตถการ

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ Ulthera Prime VS Volnewmer
แม้ว่า Ulthera Prime VS Volnewmer จะถือเป็นหัตถการที่มีมาตรฐานในระดับสากล แต่การใช้พลังงานความร้อนในการกระตุ้นคอลลาเจน อาจส่งผลให้เกิดอาการบางอย่างได้ชั่วคราว ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเทคโนโลยีทั้งสองนี้ โดยเฉพาะในช่วงหลังทำภายในไม่กี่วันแรก

1.Ulthera Prime VS Volnewmer อาจมีผิวบวมเล็กน้อยหลังทำ
หลังจากทำหัตถการ Ulthera Prime VS Volnewmer ผู้รับบริการอาจมีอาการบวมบริเวณที่ยิงพลังงานได้เล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น กรอบหน้า ใต้คาง หรือบริเวณแก้ม อาการนี้เป็นเพียงชั่วคราว และมักหายได้เองภายใน 1-3 วัน

2.Ulthera Prime VS Volnewmer อาจรู้สึกตึง ๆ หรือเจ็บเล็กน้อยใต้ผิว
บางคนอาจรู้สึกตึงบริเวณผิว หรือรู้สึกระบมเล็กน้อยเมื่อสัมผัส โดยเฉพาะเมื่อกดลงไปที่ผิวหนังในบริเวณที่ทำหัตถการ เป็นผลมาจากการที่พลังงานลงไปกระตุ้นชั้นผิวลึก อาการนี้มักหายไปได้เองใน ไม่เกิน 1 สัปดาห์

3.Ulthera Prime VS Volnewmer อาจมีรอยแดงบริเวณผิว
หลังจากทำ Ulthera Prime VS Volnewmer เสร็จทันที ผิวหนังในบริเวณที่ทำอาจเกิดรอยแดงจากความร้อนหรือแรงกดจากหัวเครื่อง ซึ่งมักเป็นรอยชั่วคราว และจะค่อย ๆ จางหายภายใน ไม่กี่ชั่วโมงถึง 1 วัน

4.Ulthera Prime VS Volnewmer อาการชาบริเวณผิว
ในบางกรณี โดยเฉพาะการทำบริเวณที่มีเส้นประสาทอยู่ใกล้ เช่น ใต้คางหรือแนวขากรรไกร อาจทำให้รู้สึก “ชาหรือแปลบ” บริเวณผิวได้เล็กน้อย เนื่องจากพลังงานเข้าใกล้เส้นประสาท อาการนี้พบได้น้อย และมักหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์

5.Ulthera Prime VS Volnewmer อาจผิวไวต่อการสัมผัส
บางรายอาจรู้สึกว่า “ผิวไว” หรือรู้สึกแสบร้อนเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัสหรือโดนความร้อน เช่น แสงแดด น้ำอุ่น หลังทำใหม่ ๆ จึงควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดและความร้อนในช่วง 2-3 วันแรก

6.Ulthera Prime VS Volnewmer ผลลัพธ์ไม่สมมาตรในช่วงแรก
หลังทำหัตถการใหม่ ๆ อาจมีบางด้านของใบหน้าที่ดูยกกระชับมากกว่าด้านอื่นชั่วคราว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากการตอบสนองของผิวแต่ละข้างอาจไม่เท่ากัน ผลลัพธ์จะค่อย ๆ สมดุลเมื่อคอลลาเจนเริ่มสร้างใหม่ในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังทำ

7.Ulthera Prime VS Volnewmer อาจมีรอยช้ำจาง ๆ (พบได้น้อย)
ในบางคนที่มีผิวบอบบาง หรือมีเส้นเลือดฝอยใกล้ผิว อาจเกิดรอยช้ำจาง ๆ จากแรงกดของหัวเครื่องหรือความร้อนที่ส่งลงใต้ผิว รอยช้ำเหล่านี้จะค่อย ๆ จางไปใน 5-7 วัน โดยไม่ทิ้งรอยแผล

ใครบ้างที่เหมาะกับ Ulthera Prime VS Volnewmer
แม้ว่า Ulthera Prime VS Volnewmer จะใช้เทคโนโลยีต่างชนิดกันในการยกกระชับผิว แต่ทั้งสองก็มีวัตถุประสงค์ร่วมกันคือ การฟื้นฟูความกระชับของผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ใช้เข็ม และไม่ต้องพักฟื้น จึงมีหลายกลุ่มที่สามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการเฉพาะตัว

1.Ulthera Prime VS Volnewmer เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
ทั้ง Ulthera Prime VS Volnewmer เหมาะกับผู้ที่มีผิวเริ่มหย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับเหมือนเดิม เช่น กรอบหน้าไม่ชัด คางสองชั้น หรือผิวแก้มล่างที่ตก เนื่องจากทั้งสองหัตถการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวกลับมาตึงขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

2.Ulthera Prime VS Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น
Ulthera Prime VS Volnewmer สามารถช่วยกระชับผิวบริเวณแก้ม กรอบหน้า และใต้คาง ส่งผลให้รูปหน้าเรียวขึ้น ดูชัดเจนมากขึ้นโดยไม่ต้องฉีดสารเติมเต็ม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใบหน้าได้รูปและลดปัญหาเหนียงหรือคางสองชั้น

3.Ulthera Prime VS Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือพักฟื้น
เนื่องจากทั้ง Ulthera Prime VS Volnewmer เป็นหัตถการแบบไม่ผ่าตัด จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า ไม่อยากมีแผล หรือไม่สะดวกในการพักฟื้นหลังการรักษา สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำ

4.Ulthera Prime VS Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องฉีด
ทั้งสองเทคโนโลยีเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการใช้วิธีฉีดสารเติมเต็ม เช่น ฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ แต่ยังต้องการผลลัพธ์ในการทำให้ผิวดูอ่อนวัยขึ้น ด้วยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเอง

5.Ulthera Prime VS Volnewmer เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยหรือต้องการชะลอวัย
หากเริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยเล็ก ๆ หรือรู้สึกว่าผิวหน้าดูโรยลงจากอายุที่เพิ่มขึ้น การเลือกทำ Ulthera Prime หรือ Volnewmer เป็นการดูแลแบบชะลอวัยที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ผิวหย่อนชัดเจนแล้วจึงเริ่มรักษา

6.Ulthera Prime VS Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ทั้ง Ulthera Prime VS Volnewmer ไม่ได้ให้ผลลัพธ์แบบเปลี่ยนใบหน้าอย่างชัดเจนในทันทีเหมือนการศัลยกรรม แต่จะค่อย ๆ ปรับผิวให้แน่นกระชับขึ้นตามธรรมชาติ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป

7.Ulthera Prime VS Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลตัวเองก่อนออกงานหรือโอกาสพิเศษ
สำหรับผู้ที่มีแผนเตรียมตัวก่อนออกงานสำคัญ เช่น งานแต่ง งานถ่ายภาพ งานสัมภาษณ์ หรืออีเวนต์ต่าง ๆ การทำหัตถการ Ulthera Prime VS Volnewmer สามารถช่วยให้ผิวดูดีขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และให้ผลชัดเจนภายในเวลาไม่นาน

ใครที่ไม่เหมาะกับ Ulthera Prime VS Volnewmer
แม้ว่า Ulthera Prime VS Volnewmer จะเป็นเทคโนโลยีเพื่อความงามที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณาก่อนรับบริการ เนื่องจากพลังงานความร้อนที่ใช้ในการกระตุ้นคอลลาเจน อาจไม่เหมาะกับบางกลุ่มบุคคลที่มีภาวะเฉพาะหรือโรคประจำตัวบางชนิด

1.Ulthera Prime VS Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอุปกรณ์โลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกาย
ทั้งสองหัตถการใช้พลังงานที่สามารถมีผลกระทบต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น

• ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
• ผู้ที่มีโลหะฝังในใบหน้า หรือบริเวณศีรษะและคอ
• ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นประสาทหรืออวัยวะเทียมอิเล็กทรอนิกส์

กลุ่มนี้ควรหลีกเลี่ยงการทำ เนื่องจากพลังงานจากเครื่องอาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์ หรือทำให้เกิดความร้อนสะสมบริเวณที่มีโลหะ

2.Ulthera Prime VS Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
แม้ยังไม่มีรายงานว่าหัตถการเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อทารกในครรภ์หรือการให้นม แต่ในทางปฏิบัติ คลินิกส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ทำ ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นม เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

3.Ulthera Prime VS Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลเปิด ติดเชื้อ หรือผิวอักเสบในบริเวณที่จะทำ
หากมีปัญหาผิวหนัง เช่น

• ผิวอักเสบ บวมแดง มีผื่น
• แผลเปิด หรือมีสิวอักเสบขนาดใหญ่
• การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสในบริเวณใบหน้า

ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการจนกว่าผิวจะหายดี เพราะการส่งพลังงานความร้อนอาจทำให้การอักเสบรุนแรงขึ้น หรือทำให้ผิวเกิดรอยดำหรือแผลเป็นได้ง่าย

4.Ulthera Prime VS Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังในบริเวณใบหน้า
เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคด่างขาว หรือโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง หากอยู่ในระยะกำเริบ หรือมีความไม่มั่นคงของผิว ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังก่อนพิจารณาทำหัตถการ

5.Ulthera Prime VS Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะระบบเลือดผิดปกติหรือเลือดออกง่าย
เช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาจมีความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำหรือเลือดคั่งได้ง่ายกว่าปกติเมื่อทำหัตถการ แม้ว่าจะเป็นหัตถการแบบไม่รุนแรงก็ตาม

6.Ulthera Prime VS Volnewmer ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ความร้อนหรือไวต่อพลังงาน
บางคนอาจมีผิวที่ไวต่อพลังงานความร้อนเป็นพิเศษ หรือมีประวัติแพ้เครื่องมือที่ใช้พลังงาน เช่น RF หรือ Ultrasound ควรแจ้งแพทย์หรือผู้ทำหัตถการล่วงหน้า เพื่อประเมินความเสี่ยงและปรับรูปแบบการรักษาให้เหมาะสม

คำแนะนำการเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera Prime VS Volnewmer
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ดี และลดความเสี่ยงในการทำ Ulthera Prime VS Volnewmer ผู้รับบริการควรดูแลตัวเองล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการอย่างเหมาะสม โดยสามารถใช้แนวทางเดียวกันได้ทั้งสองเทคโนโลยี

1.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Volnewmer ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
ร่างกายที่พักผ่อนไม่เพียงพออาจทำให้ผิวไวต่อพลังงานหรือรู้สึกไม่สบายขณะทำมากกว่าปกติ จึงควรนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ในคืนก่อนวันนัดหมาย เพื่อให้ร่างกายและผิวฟื้นฟูเต็มที่

2.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Volnewmer ควรดื่มน้ำให้มาก
การดื่มน้ำอย่างเพียงพอช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน ทำให้พลังงานความร้อนส่งผ่านได้ดีและลดโอกาสระคายเคืองผิว ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน ในช่วง 1-2 วันก่อนเข้ารับบริการ

3.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Volnewmer งดการแต่งหน้าและการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในวันที่ทำ
ในวันเข้ารับบริการ ควรล้างหน้าให้สะอาด และงดใช้เครื่องสำอาง ครีมกันแดด หรือโลชั่น เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินสภาพผิวได้อย่างแม่นยำ และป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดจากสารตกค้าง

4.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Volnewmer งดกิจกรรมที่ระคายเคืองผิวล่วงหน้า
ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือหัตถการที่อาจทำให้ผิวอ่อนแอก่อนทำ เช่น การขัดผิว เลเซอร์ การลอกผิวด้วยกรดผลไม้ การนวดหน้าหรือกดสิว ช่วงเวลาที่แนะนำให้เว้นอย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ เพื่อให้ผิวอยู่ในสภาพที่แข็งแรงและพร้อมรับพลังงาน

5.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Volnewmer หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนล่วงหน้า 24 ชั่วโมง เพราะสารเหล่านี้อาจส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดไวเกินไป ทำให้ผิวอาจช้ำหรือบวมง่ายขึ้นหลังทำ

6.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Volnewmer งดทานยาและอาหารเสริมบางชนิด
หากรับประทานยาในกลุ่มที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) ควรงดก่อนทำอย่างน้อย 3-5 วัน หรือแจ้งแพทย์ก่อนเพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล

7.ก่อนทำ Ulthera Prime VS Volnewmer แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์อย่างครบถ้วน
ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ประจำ การตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ประวัติการแพ้ หรือการใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย เพื่อให้แพทย์วางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมกับสุขภาพของคุณ

คำแนะนำการดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera Prime VS Volnewmer
แม้ว่า Ulthera Prime VS Volnewmer จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเปิด และไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่การดูแลตัวเองหลังทำยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ความสบายของผิว และการป้องกันอาการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในบางราย

1.หลังทำ Ulthera Prime VS Volnewmer หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดดโดยตรง
หลังทำหัตถการ ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัดโดยตรง และงดกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายสัมผัสความร้อนสูง เช่น อบซาวน่า แช่น้ำร้อน ออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดรอยแดงเพิ่มเติม

2.หลังทำ Ulthera Prime VS Volnewmer งดการนวดหน้า ขัดผิว หรือแต่งหน้าแรง ๆ
ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรง ๆ การขัดผิว หรือการใช้แปรงแต่งหน้าหยาบ ๆ ในช่วง 3-5 วันแรก หลังทำ เพื่อให้ผิวได้ฟื้นตัว และลดความเสี่ยงของการเกิดรอยแดงหรืออักเสบ

3.หลังทำ Ulthera Prime VS Volnewmer หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ระคายเคือง
ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA/BHA, Retinol, Vitamin C เข้มข้น และสารผลัดเซลล์ผิว ในช่วง 1 สัปดาห์แรก หลังทำ เพราะผิวอาจไวต่อสารเหล่านี้ชั่วคราว

4.หลังทำ Ulthera Prime VS Volnewmer ทาครีมบำรุงที่ช่วยปลอบประโลมผิว
แนะนำให้ใช้ครีมหรือเจลที่มีคุณสมบัติลดการระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื้น และฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว เช่นเจลว่านหางจระเข้ ครีมที่มี Panthenol หรือ Centella Asiatica มอยเจอร์ไรเซอร์สูตรอ่อนโยน ควรทาทุกวัน เช้า-เย็น เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น

5.หลังทำ Ulthera Prime VS Volnewmer ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำอย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน จะช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นจากภายใน ส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน และช่วยให้ผิวกระชับดูอิ่มฟูยิ่งขึ้นหลังการทำหัตถการ

6.หลังทำ Ulthera Prime VS Volnewmer หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดไหลง่าย
หากไม่จำเป็น ควรงดรับประทานยาหรืออาหารเสริมในกลุ่มที่อาจทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน น้ำมันปลา วิตามินอี อย่างน้อย 3 วันหลังทำ เพื่อหลีกเลี่ยงรอยช้ำหรือเลือดคั่งใต้ผิว

7.หลังทำ Ulthera Prime VS Volnewmer ไม่ควรจับหน้า บีบหน้า หรือเกาแรง ๆ
ในช่วงแรกหลังทำ ผิวอาจไวต่อการสัมผัส จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กดหรือบีบผิวแรง ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือรอยแดงได้ง่าย ควรปล่อยให้ผิวได้ฟื้นตัวเองโดยไม่รบกวนมากเกินไป

8.หลังทำ Ulthera Prime VS Volnewmer สังเกตอาการผิดปกติและปรึกษาแพทย์หากจำเป็น
หากมีอาการบวมแดงนานผิดปกติ รู้สึกปวดมาก มีตุ่ม ผื่น หรืออาการที่ไม่เคยเกิดขึ้น ควรติดต่อคลินิกหรือแพทย์ผู้ดูแลทันที เพื่อประเมินอาการและให้คำแนะนำที่เหมาะสม

สรุป Ulthera Prime VS Volnewmer
จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า Ulthera Prime VS Volnewmer ต่างก็มีจุดแข็งเฉพาะตัวในการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด Ulthera Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยาวนาน เข้าถึงชั้นลึกของผิว และสามารถทนความรู้สึกขณะทำได้บ้าง ขณะที่ Volnewmer เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เจ็บน้อย และไม่ต้องพักฟื้น

การเลือกทำแบบใด ระหว่าง Ulthera Prime VS Volnewmer จึงขึ้นอยู่กับสภาพผิว งบประมาณ ความคาดหวังในผลลัพธ์ และความสะดวกของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับการยกกระชับที่เหมาะสมที่สุด ลดความเสี่ยง และเห็นผลดี