หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเข้าที่ ควรดูแลตัวเองอย่างไร
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเข้าที่ ดูแลตัวเองอย่างไร
ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก หรือใบหน้าดูอ่อนล้า เป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ แม้จะพักผ่อนเพียงพอหรือแต่งหน้าแล้วก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมที่ช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดเงาใต้ตา และทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลายคนมักมีคำถามตามมาว่า กี่วันถึงเข้าที่ จะบวมกี่วัน อาการแบบไหนปกติ หรือควรดูแลตัวเองอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง
บทความนี้จะช่วยอธิบายทุกเรื่องที่ควรรู้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ตั้งแต่อาการที่พบได้ตามปกติ อาการที่ควรระวัง ไปจนถึงวิธีดูแลตัวเองและข้อห้ามสำคัญ เพื่อให้คุณเตรียมตัวและดูแลหลังทำได้อย่างถูกต้อง
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลอย่างไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผลลัพธ์ที่เห็นได้ จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปตามช่วงเวลา โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
• เห็นผลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ใต้ตาดู เต็มขึ้น ร่องลึกตื้นขึ้นทันที เงาใต้ตาและความตอบลดลง ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น ผิวบริเวณใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้นจากการเติมเต็มของฟิลเลอร์ ในช่วงนี้อาจมีอาการบวมเล็กน้อย ทำให้ผลลัพธ์ยังไม่ใช่สภาพจริง
• ช่วง 3-7 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อาการบวม ช้ำ หรือกดเจ็บเริ่มลดลง ฟิลเลอร์เริ่มกระจายตัวเข้ากับผิวมากขึ้น รูปทรงใต้ตาดูเป็นธรรมชาติขึ้น ไม่ตึงหรือแข็งเหมือนวันแรก
• ช่วง 1-2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ เข้าที่ชัดเจน ใต้ตาดูเรียบเนียน กลมกลืนกับผิวหน้า ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ พักผ่อนเพียงพอ ไม่ดูโทรม ผลลัพธ์ถือว่าใกล้เคียงสภาพจริงมากที่สุด
• ระยะยาวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ช่วย พยุงผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น ใต้ตา ลดปัญหาใต้ตาคล้ำจากเงาร่องลึก (ไม่ใช่คล้ำจากเม็ดสี) ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์ การดูแลตัวเอง และพฤติกรรมของแต่ละคน
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันถึงเข้าที่
โดยทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะใช้เวลาประมาณ 7-14 วันจึงเข้าที่ แต่ระยะเวลาที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดฟิลเลอร์ เทคนิคแพทย์ และการดูแลหลังฉีด สรุประยะเวลาในการเข้าที่ของฟิลเลอร์ใต้ตาได้ดังนี้
• วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลใต้ตาเต็มขึ้น ร่องลึกตื้นลง อาจมีอาการบวม ตึง หรือช้ำเล็กน้อย รูปทรงยังไม่ใช่สภาพจริงทั้งหมด
• วันที่ 3-5 หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาการบวมเริ่มลดลงอย่างชัดเจน ฟิลเลอร์เริ่มกระจายตัวดีขึ้น ใต้ตาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
• วันที่ 7-14 หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์เข้าที่ รูปทรงใต้ตาเรียบเนียน กลมกลืนกับผิวหน้า เป็นช่วงที่เห็นผลลัพธ์ใกล้เคียงสภาพจริงมากที่สุด
• 2 สัปดาห์ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากยังมีก้อน บวม หรือไม่เรียบ ควรกลับไปให้แพทย์ประเมิน บางรายอาจต้องมีการปรับแต่งเล็กน้อย
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน
โดยทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 9-18 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์คงอยู่จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นกับหลายปัจจัย สรุประยะเวลาการคงอยู่หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ดังนี้
• ช่วง 0-6 เดือนแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใต้ตาดูเต็ม เรียบเนียน และสดใสที่สุด
• ช่วง 6-12 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์เริ่มสลายช้า ๆ แต่ยังคงเห็นผลชัด
• ช่วง 12-18 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ปริมาณฟิลเลอร์ลดลงตามธรรมชาติ อาจเริ่มเห็นร่องตื้น ๆ กลับมา สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดต่อเนื่อง
ใต้ตาเป็นบริเวณที่ขยับน้อยกว่าส่วนอื่นของใบหน้า จึงทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานกว่าบริเวณร่องแก้มหรือปาก
ปัจจัยที่มีผลต่อความคงทนของฟิลเลอร์
• ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มสำหรับใต้ตา มักสลายช้ากว่าและให้ผลดูเป็นธรรมชาติ
• เทคนิคและชั้นผิวที่ฉีด การฉีดในชั้นที่เหมาะสมช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานและไม่เป็นก้อน
• ปริมาณฟิลเลอร์ การฉีดพอดี ไม่มากเกินไป ช่วยให้ผลลัพธ์คงที่และสวยสม่ำเสมอ
• พฤติกรรมการใช้ชีวิต การพักผ่อนน้อย สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือโดนความร้อนบ่อย อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
• การดูแลหลังฉีด เลี่ยงการกด นวด หรือขยี้ใต้ตาแรง ๆ ช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ได้
อาการปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ควรรู้
อาการปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ควรรู้ เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ชั่วคราว และมักหายไปเองเมื่อฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่ การเข้าใจอาการเหล่านี้จะช่วยให้ไม่กังวลเกินไปหลังทำหัตถการ โดยอาการปกติที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
1.บวมเล็กน้อยถึงปานกลางหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เกิดจากเข็มและการกระจายตัวของฟิลเลอร์ มักบวมมากใน 1-3 วันแรก และค่อย ๆ ยุบลง ทั้งนี้ใต้ตาเป็นบริเวณผิวบาง จึงเห็นอาการบวมได้ชัดกว่าจุดอื่น
2.ช้ำหรือมีรอยเข็มหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อาจมีสีม่วง เขียว หรือเหลืองอ่อนบริเวณใต้ตา เกิดจากเส้นเลือดฝอยแตกเล็กน้อย มักจางลงภายใน 5-10 วัน
3.รู้สึกตึงหรือแน่นใต้ตาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เป็นความรู้สึกปกติจากฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่ จะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อฟิลเลอร์กระจายตัวและอาการบวมหาย
4.กดเจ็บเล็กน้อยเมื่อสัมผัสหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
พบได้ในช่วงแรกหลังฉีด อาการเจ็บจะลดลงภายในไม่กี่วัน หากไม่เจ็บมากหรือปวดรุนแรงถือว่าปกติ
5.ใต้ตาดูไม่เรียบหรือไม่เท่ากันชั่วคราวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เกิดจากอาการบวมและฟิลเลอร์ยังไม่เซ็ตตัว ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นเมื่อผ่านไปประมาณ 7-14 วัน
6.รู้สึกหนักหรืออิ่มใต้ตาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เป็นผลจากปริมาณฟิลเลอร์และการอุ้มน้ำของเนื้อฟิลเลอร์ ความรู้สึกนี้จะค่อย ๆ หายไปเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ควรระวัง
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ควรระวัง เป็นอาการที่พบได้น้อย แต่มีความสำคัญ เพราะบางกรณีอาจบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อน หากรู้เท่าทันและรีบพบแพทย์ จะช่วยลดความเสี่ยงและแก้ไขได้ทันท่วงที โดยอาการผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่ควรละเลย มีดังนี้
1.ปวดรุนแรงหรือปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ไม่ใช่อาการตึงหรือเจ็บเล็กน้อยตามปกติ อาจบ่งบอกถึงการกดทับเส้นเลือดหรือเนื้อเยื่อ หากปวดร่วมกับบวมตึงผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที
2.บวมมาก แข็ง หรือไม่ยุบเกิน 7-14 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อาการบวมปกติควรลดลงภายในไม่กี่วัน หากบวมแข็ง เจ็บ หรือขยายวงกว้าง อาจเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ
3.ใต้ตาเป็นก้อนชัด ไม่เรียบ และไม่ดีขึ้น หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อาจเกิดจากฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน หรือฉีดในชั้นผิวไม่เหมาะสม หากผ่านไป 2 สัปดาห์แล้วยังเห็นก้อนชัด ควรให้แพทย์ประเมิน
4.ผิวเปลี่ยนสีผิดปกติ (ซีด คล้ำ ม่วง หรือเขียวเข้ม) หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อาจเป็นสัญญาณของการไหลเวียนเลือดผิดปกติ หากผิวซีดหรือคล้ำร่วมกับอาการปวด ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน
5.ใต้ตาเขียวคล้ำหรือเงาเทา (Tyndall effect) หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เกิดจากฟิลเลอร์อยู่ตื้นเกินไป ทำให้ใต้ตาดูเขียว เทา หรือเป็นเงาใสผิดธรรมชาติ มักไม่หายเอง จำเป็นต้องแก้ไขโดยแพทย์
6.ร้อน แดง ปวด และกดเจ็บมากขึ้น หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ มักเกิดร่วมกับไข้หรืออาการอักเสบชัดเจน ควรรีบพบแพทย์
7.การมองเห็นผิดปกติ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เช่น ตามัว เห็นภาพซ้อน หรือปวดตา เป็นภาวะฉุกเฉินที่พบได้น้อยมาก แต่ต้องรีบพบแพทย์ทันที
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน
โดยทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะบวมประมาณ 3-5 วัน และอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ ทั้งนี้ระยะเวลาการบวมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน
ปัจจัยที่ทำให้บวมมากหรือน้อย
• โครงสร้างใต้ตาและสภาพผิวเดิม
• ชนิดและปริมาณฟิลเลอร์
• เทคนิคการฉีดของแพทย์
• การดูแลตัวเองหลังฉีด
วิธีช่วยลดบวมให้ยุบเร็วขึ้น
• ประคบเย็นเบา ๆ ใน 24-48 ชั่วโมงแรก
• นอนหมอนสูง เลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคง
• เลี่ยงแอลกอฮอล์ อาหารเค็ม และความร้อน
• งดการนวดหรือกดใต้ตาแรง ๆ
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เกิดจากอะไร
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เป็นภาวะที่สามารถพบได้ และมีได้ทั้งสาเหตุที่ไม่อันตรายและสาเหตุที่ควรให้แพทย์ประเมิน การเข้าใจที่มาของก้อนจะช่วยให้ดูแลและแก้ไขได้อย่างเหมาะสม สาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน ได้แก่
1.ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ (อาการชั่วคราว)
มักเกิดในช่วง 1-7 วันแรกหลังฉีด เกิดจากอาการบวมและฟิลเลอร์ยังไม่กระจายตัว ก้อนจะค่อย ๆ นิ่มและเรียบขึ้นเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่ใน 7-14 วัน
2.ฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวไม่เหมาะสม
หากฉีดตื้นเกินไป อาจเห็นเป็นก้อนหรือเงาใต้ผิว ใต้ตาเป็นผิวบาง จึงเห็นความผิดปกติได้ง่าย
3.ใช้ฟิลเลอร์ชนิดหรือเนื้อไม่เหมาะกับใต้ตา
ฟิลเลอร์เนื้อแข็งหรือยืดหยุ่นสูงเกินไป ทำให้กระจายตัวยากและเกิดการจับตัวเป็นก้อน
4.ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป
การเติมเกินความจำเป็นทำให้ผิวรับไม่ไหว เกิดการดันตัวเป็นก้อนหรือดูบวมอิ่มผิดปกติ
5.การเคลื่อนไหวหรือกดนวดหลังฉีด
การขยี้ตา นวด กด หรือสัมผัสแรง ๆ ในช่วงแรก อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวและรวมเป็นก้อน
6.โครงสร้างใต้ตาเดิมของแต่ละคน
ผู้ที่ผิวบาง มีเบ้าตาลึก หรือไขมันใต้ตาน้อย มีโอกาสเห็นก้อนหรือความไม่เรียบได้ง่ายกว่าปกติ
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาการช้ำกี่วันหาย
โดยทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาการช้ำจะค่อย ๆ จางและหายภายในประมาณ 5-10 วัน ทั้งนี้ระยะเวลาการหายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ปัจจัยที่ทำให้ช้ำหายเร็วหรือช้า
• ความเปราะบางของเส้นเลือดใต้ตาแต่ละคน
• เทคนิคการฉีดและชนิดเข็ม
• การดูแลหลังฉีด เช่น การประคบเย็น
• การใช้ยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย
วิธีช่วยให้รอยช้ำหายเร็วขึ้น
• ประคบเย็นเบา ๆ ใน 24-48 ชั่วโมงแรก
• เลี่ยงการขยี้ กด หรือสัมผัสใต้ตาแรง ๆ
• งดแอลกอฮอล์ และอาหารเสริมบางชนิดตามคำแนะนำแพทย์
• พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมากขึ้น
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
• รอยช้ำไม่จางลงเกิน 10-14 วัน
• มีอาการปวด บวม แดง หรือร้อนร่วมด้วย
• สีผิวเปลี่ยนคล้ำหรือผิดปกติ
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานอนตะแคงได้ไหม
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แนะนำว่า “ยังไม่ควรนอนตะแคง” ในช่วงแรก เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัวและลดอาการบวม แล้วหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรนอนท่าไหน แนะนำดังนี้
• ช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ควรนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ แต่ควรนอนหงาย หนุนหมอนให้ศีรษะสูงกว่าระดับหัวใจเล็กน้อย ช่วยลดแรงกดทับและลดอาการบวมใต้ตา
• หลัง 3-5 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากอาการบวมลดลง สามารถนอนตะแคงได้บ้าง ควรหลีกเลี่ยงด้านที่เพิ่งฉีดหรือบวมมาก พยายามไม่กดหน้าแนบหมอนแรง ๆ
• หลัง 7 วันขึ้นไป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่ สามารถนอนในท่าที่ถนัดได้มากขึ้น แต่ยังควรระวังการกดทับแรง
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแต่งหน้าได้เมื่อไหร่
โดยทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแต่งหน้าได้หลังประมาณ 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการบวม แดง หรือกดเจ็บผิดปกติ ทั้งนี้ควรแต่งหน้าอย่างระมัดระวังในช่วงแรก ช่วงเวลาในการแต่งหน้าหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่แนะนำ มีดังนี้
• ช่วง 0-24 ชั่วโมงแรก หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ควรแต่งหน้า โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา เพื่อป้องกันการระคายเคืองและลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือถูบริเวณที่ฉีด
• หลัง 24 ชั่วโมง หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแต่งหน้าได้เบา ๆ ใช้เครื่องสำอางที่สะอาด อ่อนโยน และไม่อุดตัน เน้นการแตะหรือเกลี่ยเบา ๆ หลีกเลี่ยงการกดหรือถูแรง
• หลัง 3-5 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาการบวมและรอยช้ำเริ่มลดลง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้แปรงแข็งหรือการลงน้ำหนักมือแรง
ข้อควรระวังในการแต่งหน้า
• หลีกเลี่ยงการใช้คอนซีลเลอร์หรือรองพื้นที่ต้องถูซ้ำหลายครั้ง
• ไม่ใช้เครื่องสำอางเก่าหรือที่อาจปนเปื้อนเชื้อ
• ล้างเครื่องสำอางออกอย่างอ่อนโยน ไม่ขยี้ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาล้างหน้าได้ไหม
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา “ล้างหน้าได้” แต่ต้องล้างอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการระคายเคืองและไม่กระทบต่อฟิลเลอร์ในช่วงที่ยังไม่เข้าที่ ช่วงเวลาที่สามารถล้างหน้าหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีคำแนะนำดังนี้
• ช่วง 0-6 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้า เพื่อให้รอยเข็มปิดสนิท ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
• หลัง 6-24 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถล้างหน้าได้เบา ๆ ใช้น้ำสะอาด อุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงการถู กด หรือขยี้บริเวณใต้ตา
• หลัง 24 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ล้างหน้าได้ตามปกติมากขึ้น สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน ยังควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรง ๆ
วิธีล้างหน้าที่แนะนำ ใช้ปลายนิ้วลูบเบา ๆ แทนการถู เลี่ยงโฟมหรือคลีนเซอร์ที่มีเม็ดสครับ ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ไม่เช็ดแรง
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง น้ำอุ่นจัดหรือน้ำร้อน เครื่องล้างหน้า หรือแปรงล้างหน้า การนวด ยกกระชับ หรือกดจุดใต้ตาในช่วง 7-14 วันแรก
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดนน้ำได้ตอนไหน
โดยทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถโดนน้ำได้หลังประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ควรโดนน้ำอย่างระมัดระวังในช่วงแรก เพื่อป้องกันการระคายเคืองและการติดเชื้อ ช่วงเวลาในการโดนน้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
• ช่วง 0-6 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนน้ำ เพื่อให้รอยเข็มปิดสนิทและลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
• หลัง 6-24 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถโดนน้ำได้ ล้างหน้าได้เบา ๆ ใช้น้ำสะอาด อุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงการถู ขยี้ หรือกดใต้ตา
• หลัง 24 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาบน้ำ ล้างหน้าได้ตามปกติมากขึ้น แต่ยังควรเลี่ยงน้ำร้อนจัด และแรงดันน้ำแรง
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงแม้จะโดนน้ำได้แล้ว
• แช่น้ำ สระว่ายน้ำ ทะเล น้ำพุร้อน อย่างน้อย 3-5 วัน
• ซาวน่า อบไอน้ำ อย่างน้อย 7 วัน
• น้ำร้อนจัดที่โดนใต้ตาโดยตรง
ข้อควรระวังเพิ่มเติม
• ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ไม่เช็ดแรง
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองผิวในช่วงแรก
• หากมีรอยแดง บวม หรือเจ็บผิดปกติ ควรงดโดนน้ำและปรึกษาแพทย์
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่ควรมองข้าม
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่สวย เรียบเนียน และอยู่ได้นานขึ้น โดยข้อห้ามที่ควรรู้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
1.ห้ามนวด กด หรือขยี้ใต้ตาแรง ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ควรงดอย่างน้อย 7-14 วัน การกดแรงอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนหรือเป็นก้อน
2.ห้ามนอนตะแคงหรือนอนคว่ำในช่วงแรก หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดแรงกดทับและอาการบวม
3.ห้ามโดนความร้อนสูงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
งดซาวน่า อบไอน้ำ เลเซอร์ หรืออยู่กลางแดดจัด ควรงดอย่างน้อย 7 วัน เพราะความร้อนทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว
4.ห้ามดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง แอลกอฮอล์เพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้บวมและช้ำมากขึ้น
5.ห้ามออกกำลังกายหนักหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง 2-3 วันแรก เช่น วิ่งหนัก เวทเทรนนิ่ง หรือคาร์ดิโอหนัก
6.ห้ามแต่งหน้าทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ควรงดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
7.ห้ามใช้เครื่องล้างหน้า หรือสครับผิว หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
งดอย่างน้อย 7 วัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองและฟิลเลอร์เคลื่อน
8.ห้ามใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิดโดยไม่จำเป็นหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา หากจำเป็นต้องใช้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
9.ห้ามแช่น้ำ สระว่ายน้ำ หรือทะเล หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ควรงดอย่างน้อย 3-5 วัน ลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากน้ำที่ไม่สะอาด
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่สวย ลดอาการบวมช้ำ และยืดอายุผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างถูกต้อง ได้แก่
1.หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาประคบเย็นในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก ประคบเบา ๆ ครั้งละ 10-15 นาที ช่วยลดบวม ช้ำ และอาการตึงใต้ตา รวมถึงหลีกเลี่ยงการกดแรง ๆ บริเวณใต้ตา
2.หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานอนหงาย หนุนหมอนสูง ควรทำอย่างน้อย 2-3 คืนแรก ลดแรงกดทับและช่วยให้บวมยุบเร็วขึ้น
3.หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหลีกเลี่ยงการจับ กด หรือขยี้ใต้ตา งดนวดหรือสัมผัสแรงอย่างน้อย 7-14 วัน ป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนหรือจับตัวเป็นก้อน
4.หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาล้างหน้าและแต่งหน้าอย่างระมัดระวัง ล้างหน้าได้หลัง 6 ชั่วโมงแบบเบามือ แต่งหน้าได้หลัง 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการผิดปกติ เลี่ยงสครับ เครื่องล้างหน้า และแปรงแข็งในช่วงแรก
5.หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตางดความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ เลเซอร์ และแดดจัดอย่างน้อย 7 วัน และงดออกกำลังกายหนัก 2-3 วันแรก
6.หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตางดแอลกอฮอล์และอาหารเค็มจัด อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพื่อลดการบวมและช้ำ รวมถึงเพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว
7.หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดื่มน้ำมากและพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วและฟิลเลอร์กระจายตัวดี ลดใต้ตาคล้ำและอาการบวมสะสม
8.หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้สกินแคร์ที่อ่อนโยน เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีกรดแรง วิตามินเอ หรือสารระคายเคือง อย่างน้อย 5-7 วันแรก
9.หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดมาก บวมไม่ยุบ ก้อนแข็ง ผิวเปลี่ยนสี หรือการมองเห็นผิดปกติ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
อาหารที่ควรเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อาหารที่รับประทานหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีผลต่ออาการบวม ช้ำ และการเข้าที่ของฟิลเลอร์ หากหลีกเลี่ยงบางอย่างได้ในช่วงแรก จะช่วยให้ฟื้นตัวเร็วและได้ผลลัพธ์ที่สวยดูเป็นธรรมชาติ โดยอาหารที่ควรเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
1.แอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เบียร์ ไวน์ เหล้า ควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพราะทำให้หลอดเลือดขยาย บวมและช้ำมากขึ้น
2.อาหารเค็มจัด โซเดียมสูง เช่น ของดอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแปรรูป ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ เพิ่มอาการบวมใต้ตา
3.อาหารเผ็ดจัด เพราะกระตุ้นการไหลเวียนเลือด อาจทำให้บวม แดง และระคายเคืองมากขึ้น
4.อาหารหมักดองหรือสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ปลาร้า กุ้งแช่น้ำปลา ซูชิบางชนิด เพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อในช่วงที่แผลเข็มยังไม่สมบูรณ์
5.อาหารที่ทำให้เลือดไหลง่าย เช่น กระเทียมดิบ ขิง โสม ในปริมาณมาก รวมถึงอาหารเสริมบางชนิด เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี ควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อย 3-5 วัน หรือปรึกษาแพทย์
6.เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง (ในปริมาณมาก) เช่น กาแฟเข้ม ชาเข้ม เครื่องดื่มชูกำลัง อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและฟื้นตัวช้าลง
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรกลับไปพบแพทย์เมื่อไหร่
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรกลับไปพบแพทย์เมื่อไหร่ เป็นคำถามสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงเกิดอันตรายและได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณีหลัก คือ การนัดติดตามตามปกติ และการพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ
ควรกลับไปพบแพทย์ตามนัดปกติ
• หลังฉีดประมาณ 7-14 วัน เป็นช่วงที่ฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่ แพทย์จะประเมินรูปทรง ความเรียบเนียน และความสมดุลของใต้ตา หากจำเป็น อาจมีการปรับแต่งหรือเติมเล็กน้อย
• หลังฉีด 1-3 เดือน ในบางเคส เพื่อติดตามผลระยะยาว ความคงทน และความพึงพอใจของคนไข้
ควรรีบพบแพทย์ทันที หากมีอาการต่อไปนี้
• ปวดรุนแรง หรือปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ
• บวมมาก แข็ง แดง หรือร้อนผิดปกติ
• ใต้ตาเป็นก้อนชัด และไม่ดีขึ้นภายใน 7-14 วัน
• ผิวเปลี่ยนสี ซีด คล้ำ ม่วง หรือเขียวเข้มผิดปกติ
• ใต้ตาเขียวเทาเป็นเงา (ลักษณะฟิลเลอร์อยู่ตื้น)
• มีไข้ หนาวสั่น หรือสงสัยการติดเชื้อ
• การมองเห็นผิดปกติ เช่น ตามัว ปวดตา เห็นภาพซ้อน
สรุป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำอย่างไร
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่างกายต้องใช้เวลาในการปรับตัว โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ภายในประมาณ 7-14 วัน อาการบวม ช้ำ หรือความตึงใต้ตาเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้และจะค่อย ๆ ดีขึ้น หากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงการกดนวดใต้ตา งดความร้อน งดแอลกอฮอล์ และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นานขึ้น
ในขณะเดียวกัน ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น บวมไม่ยุบ เป็นก้อนแข็ง ปวดรุนแรง หรือผิวเปลี่ยนสี และรีบกลับไปพบแพทย์ทันทีหากพบความผิดปกติ การเข้าใจขั้นตอนและการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวย ดูเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง และช่วยเสริมความมั่นใจในระยะยาว
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ