romrawin

เลเซอร์ลบแผลเป็น กี่ครั้งหาย ข้อดีข้อเสีย ที่ควรรู้ก่อนทำ

เลเซอร์ลบแผลเป็น , ลบแผลเป็น

เลเซอร์ลบแผลเป็น กี่ครั้งหาย ข้อดี-ข้อเสีย ที่ควรรู้ก่อนทำ
เลเซอร์ลบแผลเป็นเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม ในการช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้นและลดเลือนรอยแผลเป็นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแผลเป็นจากสิว แผลเป็นจากอุบัติเหตุ หรือรอยแผลผ่าตัด แต่หลายคนมักสงสัยว่า เลเซอร์ลบแผลเป็นต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน และเลเซอร์ลบแผลเป็นมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับเลเซอร์ลบแผลเป็นคืออะไร หลักการทำงาน จำนวนครั้งที่ต้องทำ พร้อมข้อควรรู้สำคัญก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา เพื่อให้ทุกคนสามารถเตรียมตัวและเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองได้อย่างมั่นใจ ลบแผลเป็นให้ดูจางลง ผิวกลับมาเรียบเนียน โดยลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง

เลเซอร์ลบแผลเป็นคืออะไร
เลเซอร์ลบแผลเป็น คือ หัตถการทางการแพทย์ที่ใช้พลังงานแสงเลเซอร์ในการปรับสภาพผิว เพื่อลดเลือนรอยแผลเป็นประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรอยแผลเป็นจากสิว รอยแผลเป็นนูน รอยแผลเป็นคีลอยด์ และอื่น ๆ โดยหลักการของเลเซอร์จะเป็นการส่งพลังงานแสงลงไปกระตุ้นผิวในชั้นหนังแท้ เพื่อให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและสีของรอยแผลเป็นจางลง

หลักการทำงานของเลเซอร์ลบแผลเป็น
1.เลเซอร์ลบแผลเป็นผลัดเซลล์ผิวเก่า พลังงานเลเซอร์จะช่วยสลายเนื้อเยื่อแผลเป็นที่หนาและกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ทำให้รอยนูนค่อย ๆ ลดลง
2.เลเซอร์ลบแผลเป็นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ความร้อนจากเลเซอร์จะกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้รอยหลุมสิวหรือแผลเป็นที่เป็นรอยบุ๋มดูตื้นขึ้น
3.เลเซอร์ลบแผลเป็นปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ แสงเลเซอร์บางชนิดสามารถลดเม็ดสีที่ทำให้รอยแผลเป็นมีสีเข้ม หรือรอยแดงจากสิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสีผิวใกล้เคียงกับผิวปกติ

ประเภทของเลเซอร์ลบแผลเป็นที่นิยม
การเลือกใช้เลเซอร์ลบแผลเป็นขึ้นอยู่กับชนิดของแผลเป็น ความลึกของรอยแผลเป็น และปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลากหลายแบบ โดยแพทย์จะเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการ ดังนี้

1.เลเซอร์ลบแผลเป็น Fractional CO2 Laser
จุดเด่น
• ใช้หลักการยิงพลังงานเลเซอร์เป็นจุดเล็ก ๆ ลงลึกถึงชั้นหนังแท้
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่
• ช่วยลดรอยหลุมสิว รอยแผลเป็นลึก และปรับผิวให้เรียบเนียน

ข้อควรระวัง
• หลังทำผิวอาจมีรอยแดงและสะเก็ดลอก ต้องดูแลความสะอาดและทาครีมบำรุง

2.เลเซอร์ลบแผลเป็น Erbium YAG Laser
จุดเด่น
• เน้นการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่แม่นยำสูง
• ให้ผลข้างเคียงน้อยกว่าการใช้ CO2 Laser
• เหมาะสำหรับรอยแผลเป็นตื้น ๆ และรอยสิวเก่า

ข้อควรระวัง
• ต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน

3.เลเซอร์ลบแผลเป็น Pico Laser (Picosecond Laser)
จุดเด่น
• ใช้คลื่นเลเซอร์ความเร็วสูงมาก (ระดับพิโควินาที) ทำให้เนื้อเยื่อเสียหายน้อย
• เหมาะกับรอยดำ รอยแดง และแผลเป็นตื้นจากสิวหรือรอยด่างดำหลังการอักเสบ

ข้อควรระวัง
• อาจไม่เหมาะกับรอยแผลเป็นลึกหรือหลุมสิวขนาดใหญ่

4.เลเซอร์ลบแผลเป็น Fractional Erbium Glass Laser

จุดเด่น
• ผสานคุณสมบัติของ Fractional Laser กับ Erbium Glass
• ช่วยฟื้นฟูผิวจากรอยสิว หลุมสิว และรอยแผลเป็นลึก
• ลดริ้วรอยและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอไปพร้อมกัน

ข้อควรระวัง
• อาจมีอาการบวมแดงหลังทำประมาณ 1-2 วัน

5.เลเซอร์ลบแผลเป็น Q-Switched Nd:YAG Laser
จุดเด่น
• เน้นการลดรอยดำ รอยแดงจากสิว และปรับเม็ดสีผิวให้สม่ำเสมอ
• ช่วยให้รอยแผลเป็นจางลงอย่างดูเป็นธรรมชาติ

ข้อควรระวัง
• เหมาะกับรอยแผลเป็นที่มีสีเข้ม ไม่ได้แก้ปัญหาหลุมสิวลึก

การเลือกประเภทเลเซอร์ลบแผลเป็นที่เหมาะสม ควรอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง และเห็นผลตรงตามความต้องการ

เลเซอร์ลบแผลเป็นช่วยอะไรบ้าง
เลเซอร์ลบแผลเป็นคือหนึ่งในหัตถการฟื้นฟูผิวที่ได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นและให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งข้อดีของเลเซอร์ลบแผลเป็น มีดังนี้

1.เลเซอร์ลบแผลเป็นช่วยลดรอยแผลเป็นให้จางลง
พลังงานเลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รอยแผลเป็นที่เคยเข้ม เช่น รอยดำ รอยแดง หรือรอยจากสิว ค่อย ๆ จางลง สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น

2.เลเซอร์ลบแผลเป็นช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน
เลเซอร์ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลึก ส่งผลให้ผิวที่เคยเป็นหลุมสิวหรือรอยบุ๋มค่อย ๆ ตื้นขึ้น ทำให้พื้นผิวกลับมาเรียบเนียนขึ้น

3.เลเซอร์ลบแผลเป็นช่วยลดความนูนของแผลเป็น
ในกรณีแผลเป็นนูน แผลเป็นคีลอยด์ เลเซอร์บางชนิดสามารถช่วยปรับสภาพเนื้อเยื่อ ลดความหนาและความนูนของแผลเป็นได้ ทำให้ผิวดูเรียบขึ้น

4.เลเซอร์ลบแผลเป็นช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
รอยแผลเป็นที่มีรอยแดงหรือรอยคล้ำหลังการอักเสบ สามารถปรับให้ใกล้เคียงสีผิวปกติได้ ช่วยให้ผิวโดยรวมดูสว่างขึ้น

5.เลเซอร์ลบแผลเป็นช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนระยะยาว
ความร้อนจากเลเซอร์กระตุ้นการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต

6.เลเซอร์ลบแผลเป็นช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
การที่รอยแผลเป็นจางลง ผิวเรียบเนียนขึ้น สามารถแต่งตัวเผยผิวได้ตามต้องการ ช่วยเสริมบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น

จะเห็นได้ว่าเลเซอร์ลบแผลเป็นไม่เพียงช่วยลดรอยดำ รอยแดง และหลุมสิว แต่ยังช่วยฟื้นฟูผิวและสีผิวให้สม่ำเสมอ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อให้ผิวสุขภาพดีในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การเลือกประเภทเลเซอร์ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ลดความเสี่ยงและเหมาะสมกับปัญหาผิวแต่ละบุคคล

ใครเหมาะกับการทำเลเซอร์ลบแผลเป็น
การเลเซอร์ลบแผลเป็นเป็นหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูผิวและลดเลือนรอยแผลเป็นได้หลายประเภท แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน การประเมินโดยแพทย์เป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อดูว่าคุณอยู่ในกลุ่มที่ควรเข้ารับการรักษาหรือไม่ โดยผู้ที่เหมาะกับการเลเซอร์ลบแผลเป็นมีดังนี้

1.เลเซอร์ลบแผลเป็นเหมาะกับผู้ที่มีรอยแผลเป็นจากสิว
• ผู้ที่มีรอยหลุมสิวลึก หรือ รอยสิวที่เป็นแผลเป็นนูน ซึ่งใช้ครีมลดรอยแผลเป็นแล้วไม่เห็นผล
• ผู้ที่มีรอยดำ รอยแดงจากสิว ที่ต้องการให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น

2.เลเซอร์ลบแผลเป็นเหมาะกับผู้ที่มีรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัด
• แผลเป็นหลังผ่าตัดที่มีรอยนูนหรือสีเข้ม
• แผลเป็นจากอุบัติเหตุหรือแผลไฟไหม้ที่ต้องการลดเลือนให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

3.เลเซอร์ลบแผลเป็นเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับพื้นผิวผิวหน้าให้เรียบเนียน
• ผู้ที่มีผิวไม่สม่ำเสมอ เช่น หลุมจากสิวเก่า หรือแผลเป็นตื้น ๆ
• ต้องการปรับผิวหน้าให้เรียบขึ้นและกระตุ้นคอลลาเจนใหม่

4.เลเซอร์ลบแผลเป็นเหมาะกับผู้ที่มีสุขภาพผิวแข็งแรง
• ผู้ที่ไม่มีปัญหาโรคผิวหนังรุนแรง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคด่างขาว หรือผิวหนังอักเสบเรื้อรัง
• ผู้ที่ไม่มีการติดเชื้อผิวหนังในบริเวณที่จะทำเลเซอร์

เลเซอร์ลบแผลเป็น กี่ครั้งหาย
จำนวนครั้งในการทำเลเซอร์ลบแผลเป็น ไม่สามารถกำหนดได้ตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของแผลเป็น ความลึกของรอยแผลเป็น ปัญหาผิวของแต่ละคน รวมถึงชนิดเลเซอร์ที่ใช้ โดยทั่วไปควรได้รับการประเมินจากแพทย์

ปัจจัยที่กำหนดจำนวนครั้ง
• ประเภทของรอยแผลเป็น
- รอยดำ/รอยแดงจากสิว มักเห็นผลเร็วกว่า ใช้ประมาณ 2-4 ครั้ง
- รอยหลุมสิวลึก ต้องกระตุ้นคอลลาเจนหลายรอบ ใช้ประมาณ 4-6 ครั้งหรือมากกว่า
- รอยแผลเป็นนูน อาจต้องทำควบคู่กับวิธีอื่น ๆ และใช้เวลาหลายครั้งกว่าจะเห็นผล
• ขนาดและความลึกของรอย รอยลึกหรือกว้างมากย่อมต้องใช้เวลารักษานานกว่ารอยตื้น
• สภาพผิวและการสมานแผลของแต่ละคน ผู้ที่ผิวสร้างคอลลาเจนได้ดีจะฟื้นฟูเร็วกว่า
• ชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ เช่น Fractional CO2 Laser, Pico Laser หรือ Erbium YAG Laser ให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน

ระยะห่างในการทำแต่ละครั้ง
• โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้เว้นระยะ ประมาณ 4-6 สัปดาห์ ต่อครั้ง เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่
• สำหรับเลเซอร์ที่อ่อนโยน เช่น Pico Laser อาจทำได้ถี่กว่า ประมาณ 3-4 สัปดาห์ต่อครั้ง

การเห็นผลลัพธ์หลังทำ
• หลังทำครั้งแรก อาจสังเกตเห็นว่ารอยดูจางลงเล็กน้อย ผิวเรียบขึ้น แต่ไม่ใช่ผลลัพธ์เต็มที่
• หลังทำครบตามคอร์ส ส่วนใหญ่จะเห็นผลชัดเจน รอยแผลเป็นตื้นลง สีผิวสม่ำเสมอ และผิวดูเรียบเนียน

สรุปส่วนใหญ่ต้องทำประมาณ 3-6 ครั้งขึ้นไป จึงจะเห็นผลชัดเจน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของแผลเป็น ความลึก และสภาพผิวแต่ละคน การเข้ารับการประเมินโดยแพทย์จะช่วยกำหนดจำนวนครั้งและชนิดเลเซอร์ที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

เลเซอร์ลบแผลเป็น กี่วันถึงเห็นผล
เลเซอร์ลบแผลเป็นโดยทั่วไป ผู้รับการรักษาจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 2-3 สัปดาห์หลังทำ ซึ่งในช่วงแรกที่ทำเลเซอร์อาจมีอาการแดงและบวมเป็นปกติ จากนั้นผิวจะเริ่มสร้างเนื้อเยื่อใหม่และแผลเป็นจะค่อย ๆ จางลง แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนเต็มที่จะเห็นได้ในช่วง 1-3 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับชนิดและความลึกของแผลเป็น รวมถึงจำนวนครั้งที่ทำเลเซอร์ด้วย โดยแผลเป็นลึกหรือชัดเจนอาจต้องทำหลายครั้ง ระยะห่างระหว่างแต่ละครั้งมักอยู่ที่ 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวและเห็นผลอย่างเต็มที่

ควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำเลเซอร์อย่างเคร่งครัด เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดด ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามคำแนะนำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงผิวติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นใหม่

สรุปคือจะเห็นผลเริ่มต้นภายใน 2-3 สัปดาห์ และผลลัพธ์เต็มที่ใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงเดือนขึ้นไป บางกรณีต้องทำหลายครั้งจึงเห็นผลชัดเจน

เลเซอร์ลบแผลเป็น อยู่ได้นานถาวรไหม
ผลการลบแผลเป็นด้วยเลเซอร์ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ถาวร แต่เป็นการช่วยให้แผลเป็นจางลงและผิวดีขึ้น โดยเลเซอร์จะกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และคอลลาเจนในชั้นผิว เพื่อช่วยให้ผิวเรียบเนียน รักษารอยแผลเป็นได้ทั้งชนิดนูน บุ๋ม และคีลอยด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้มักอยู่ได้เป็นเวลานานหลายเดือนถึงปี ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ จำนวนครั้งที่รักษา และการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์

อย่างไรก็ตาม แผลเป็นอาจมีการกลับมาได้บ้างหากมีปัจจัยกระตุ้น เช่น บาดแผลใหม่ หรือผิวโดนแสงแดดมากเกินไป ดังนั้นการดูแลผิวหลังเลเซอร์เป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้นานที่สุด รวมถึงอาจต้องทำเลเซอร์ซ้ำในบางกรณี เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นานขึ้น

สรุปคือเลเซอร์ลบแผลเป็นช่วยให้แผลเป็นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและผลลัพธ์อยู่ได้นาน แต่ไม่ได้อยู่ถาวรตลอดไป มักต้องดูแลผิวอย่างต่อเนื่องและอาจต้องทำซ้ำตามคำแนะนำแพทย์

ข้อดีของเลเซอร์ลบแผลเป็น
หนึ่งในวิธีแก้ปัญหารอยแผลเป็นที่ได้รับความนิยมคือการทำเลเซอร์ลบแผลเป็น เพราะให้ผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจนและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยข้อดีของเลเซอร์ลบแผลเป็น มีดังนี้

1.เลเซอร์ลบแผลเป็นลดรอยแผลเป็นได้หลายประเภท
เลเซอร์สามารถช่วยลดรอยหลุมสิว รอยแผลเป็นนูน และรอยดำรอยแดงหลังสิวได้ในวิธีการเดียว ช่วยปรับผิวให้ดูสม่ำเสมอขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

2.เลเซอร์ลบแผลเป็นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
พลังงานจากเลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลึก ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น และช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรงในระยะยาว

3.เลเซอร์ลบแผลเป็นปรับสภาพผิวและสีผิวให้เรียบเนียน
เลเซอร์ช่วยปรับผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น หลุมสิวหรือรอยบุ๋ม ให้เรียบขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้รอยแดง รอยดำ และสีผิวที่คล้ำกว่าปกติจางลงอย่างดูเป็นธรรมชาติ

4.เลเซอร์ลบแผลเป็นเห็นผลในเวลาไม่นาน
เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ครีมหรือทายารักษารอยแผลเป็น การเลเซอร์ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า และใช้เวลาฟื้นฟูสภาพผิวสั้นกว่า

5.เลเซอร์ลบแผลเป็นเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด
การเลเซอร์เป็นหัตถการที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด ไม่มีบาดแผลใหญ่ ลดความเสี่ยงเรื่องแผลติดเชื้อ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว

6.เลเซอร์ลบแผลเป็นปรับแต่งการรักษาได้ตามปัญหาผิว
แพทย์สามารถเลือกชนิดและพลังงานของเลเซอร์ให้เหมาะกับประเภทของรอยแผลเป็น ความลึกของรอย และสภาพผิวของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

7.เลเซอร์ลบแผลเป็นเพิ่มความมั่นใจในภาพลักษณ์
เมื่อรอยแผลเป็นจางลงและผิวเรียบเนียนขึ้น บุคลิกภาพและความมั่นใจในชีวิตประจำวันก็เพิ่มขึ้น ส่งผลดีทั้งด้านการใช้ชีวิตส่วนตัวและการเข้าสังคม

ข้อจำกัดของเลเซอร์ลบแผลเป็น
แม้การเลเซอร์ลบแผลเป็นจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลในเวลาไม่นาน แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรทราบก่อนตัดสินใจทำ ดังนี้

1.เลเซอร์ลบแผลเป็นไม่สามารถลบรอยแผลเป็นให้หายสนิท
การเลเซอร์ช่วยให้รอยแผลเป็นดูจางลง ผิวเรียบเนียนขึ้น แต่ไม่สามารถลบแผลเป็นให้หายไปจนหมดได้ โดยเฉพาะแผลเป็นที่ลึกหรือนูนมาก อาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน

2.เลเซอร์ลบแผลเป็นต้องทำหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
รอยแผลเป็นบางประเภท โดยเฉพาะรอยหลุมสิวลึกหรือแผลเป็นเก่า อาจต้องทำเลเซอร์ซ้ำหลายครั้งและใช้ระยะเวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นผลที่น่าพอใจ

3.เลเซอร์ลบแผลเป็นอาจเกิดผลข้างเคียงชั่วคราว
หลังทำเลเซอร์อาจมีอาการผิวแดง บวม รู้สึกแสบร้อน หรือเกิดสะเก็ดลอก ซึ่งเป็นเรื่องปกติแต่ต้องดูแลผิวอย่างเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือรอยดำถาวร

4.เลเซอร์ลบแผลเป็นอาจมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
เมื่อเทียบกับวิธีทายาหรือครีมลดรอยแผลเป็น การทำเลเซอร์มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า และเนื่องจากต้องทำหลายครั้ง ค่าใช้จ่ายรวมอาจมากขึ้น

5.เลเซอร์ลบแผลเป็นไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว
ผู้ที่มีผิวคล้ำหรือมีปัญหาผิวบางประเภท อาจมีความเสี่ยงเกิดรอยดำหลังการทำเลเซอร์ ซึ่งต้องให้แพทย์ประเมินอย่างละเอียดก่อนรักษา

6.เลเซอร์ลบแผลเป็นต้องดูแลผิวหลังทำอย่างเคร่งครัด
หลังเลเซอร์ผิวจะบอบบาง ต้องปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเข้มงวด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการเกิดรอยใหม่

7.เลเซอร์ลบแผลเป็นอาจไม่เหมาะในบางกรณี
เช่น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคผิวหนังบางชนิด หรือผู้ที่เพิ่งผ่านการรักษาผิวที่ทำให้ผิวบอบบาง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

ใครที่ไม่เหมาะกับเลเซอร์ลบแผลเป็น
แม้การเลเซอร์ลบแผลเป็นจะช่วยฟื้นฟูผิวและลดเลือนรอยแผลเป็นได้ดี แต่ก็มีบางกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำเป็นต้องได้รับการประเมินจากแพทย์อย่างละเอียดก่อน เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงหรือไม่ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ

1.เลเซอร์ลบแผลเป็นไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
• การเลเซอร์อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองหรือบวมแดง
• ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอว่าปลอดภัยต่อหญิงตั้งครรภ์และทารก
• ควรเลื่อนการรักษาออกไปจนกว่าจะพ้นช่วงให้นมบุตร

2.เลเซอร์ลบแผลเป็นไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคผิวหนังรุนแรงหรือการติดเชื้อ
• เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคด่างขาว โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง หรือมีผื่น/สิวอักเสบที่รุนแรง
• หากผิวมีการติดเชื้อ เช่น เริม หรือสิวที่กำลังอักเสบ ควรรักษาให้หายก่อน

3.เลเซอร์ลบแผลเป็นไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นคีลอยด์รุนแรง
• หากมีแนวโน้มเกิด Keloid ง่าย การเลเซอร์อาจกระตุ้นให้เกิดแผลเป็นนูนมากขึ้น
• ควรให้แพทย์ประเมินอย่างรอบคอบก่อนทำ

4.เลเซอร์ลบแผลเป็นไม่เหมาะกับผู้ที่เพิ่งผ่านการทำหัตถการหรือใช้ยาบางชนิด
• ผู้ที่เพิ่งทำหัตการผลัดเซลล์ผิว หรือเลเซอร์ชนิดอื่นจนผิวบอบบาง
• ผู้ที่กำลังใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือเรตินอยด์ ควรหยุดยาอย่างน้อย 6 เดือนก่อน

5.เลเซอร์ลบแผลเป็นไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง
• ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้ เพราะแผลอาจหายช้า
• ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน หรือมีประวัติป่วยด้วยโรคที่ทำให้แผลหายยาก

เลเซอร์ลบแผลเป็นอันตรายไหม
เลเซอร์ลบแผลเป็นถือว่าไม่เป็นอันตราย ถ้าได้รับการทำโดยแพทย์และใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน เพราะเลเซอร์จะยิงคลื่นพลังงานสูงลงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมผิว แต่อาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาการผิวแดง แสบร้อน มีรอยสะเก็ด คัน หรือผิวแห้ง ซึ่งมักจะหายได้เองภายใน 7-14 วัน

ข้อควรระวังคือเลเซอร์ลบแผลเป็นไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง มีแผลสด กำลังตั้งครรภ์ หรือมีโรคผิวหนังบางชนิด รวมถึงต้องระวังเครื่องเลเซอร์ปลอมที่อาจทำให้ผิวเสียหาย การทำเลเซอร์ผิดวิธีอาจเกิดผิวไหม้ พุพอง หรือแผลติดเชื้อได้ หากมีอาการรุนแรงควรพบแพทย์ทันที

เลเซอร์ลบแผลเป็นมีผลข้างเคียงไหม
แม้ว่าเลเซอร์ลบแผลเป็นจะเป็นวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ โดยความรุนแรงมักขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ สภาพผิว และการดูแลหลังการทำ การเข้าใจผลข้างเคียงจะช่วยให้เตรียมตัวและป้องกันได้อย่างเหมาะสม

1.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นอาจมีอาการแดงและบวม
หลังทำเลเซอร์ผิวมักมีอาการ แดง บวม หรือรู้สึกร้อนคล้ายถูกแดดเผา อาการนี้เป็นปกติและจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 2-5 วัน หากดูแลผิวอย่างถูกวิธี

2.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นอาจเกิดสะเก็ดหรือลอกเป็นขุย
ผิวอาจเกิด สะเก็ดหรือขุยลอก ในช่วง 5-7 วันหลังทำ โดยเฉพาะเลเซอร์ที่ลอกผิวลึก เช่น Fractional CO2 Laser การไม่แกะหรือเกาเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันรอยดำ

3.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นอาจผิวแห้งหรือระคายเคือง
หลังทำเลเซอร์ผิวมักสูญเสียความชุ่มชื้น อาจทำให้รู้สึกแห้งหรือคัน จำเป็นต้องทาครีมบำรุงและหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคือง

4.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นอาจเกิดรอยดำหรือรอยแดง
พบได้บ่อยในผู้ที่มีผิวคล้ำ หรือไม่ได้ป้องกันแดดอย่างเคร่งครัดหลังทำเลเซอร์ รอยดำอาจคงอยู่นานหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน

5.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นอาจเกิดการติดเชื้อ
หากไม่ดูแลผิวให้สะอาด อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส เช่น การกระตุ้นให้ เริมกำเริบในผู้ที่เคยเป็น ควรแจ้งแพทย์หากมีประวัติ

6.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นอาจรู้สึกเจ็บ แสบร้อน หรือคัน
เป็นอาการชั่วคราวจากการที่ผิวได้รับพลังงานเลเซอร์ อาจเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันแรก สามารถประคบเย็นหรือใช้ยาลดอาการตามที่แพทย์แนะนำ

7.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นอาจเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็นใหม่
ในผู้ที่มีประวัติเป็นคีลอยด์หรือมีผิวที่สร้างแผลเป็นได้ง่าย การเลเซอร์อาจกระตุ้นให้เกิดแผลเป็นใหม่ จึงต้องปรึกษาแพทย์ก่อน

8.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นอาจมีผลข้างเคียงระยะยาว (พบได้น้อย)
หลังทำเลเซอร์อาจผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงสีผิวถาวร เช่น จุดขาวหรือคล้ำกว่าปกติ

ข้อควรระวังในการทำเลเซอร์ลบแผลเป็น
การเลเซอร์ลบแผลเป็นสามารถช่วยลดรอยหลุมสิว รอยนูน หรือรอยดำแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงและได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรใส่ใจข้อควรระวังทั้งก่อนทำ ระหว่างทำ และหลังทำ ดังนี้

1.ก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็นควรปรึกษาแพทย์
• ให้แพทย์ตรวจสภาพผิว ประเภทของรอยแผลเป็น และเลือกชนิดเลเซอร์ที่เหมาะสม
• แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือยาที่กำลังใช้ เช่น สเตียรอยด์หรือเรตินอยด์ เพราะมีผลต่อการสมานแผล

2.เตรียมผิวก่อนเข้ารับการเลเซอร์ลบแผลเป็น
• หลีกเลี่ยงการทำหัตถการผิวที่ทำให้ผิวบาง เช่น การผลัดเซลล์ผิว หรือการสครับแรง ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนเลเซอร์
• งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดผลไม้ (AHA, BHA) หรือวิตามิน A (Retinol) อย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ

3.หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ลบแผลเป็นในช่วงที่ผิวติดเชื้อ
• หากมีการติดเชื้อ เช่น เริม หรือสิวอักเสบรุนแรง ควรรักษาให้หายก่อนเพื่อลดความเสี่ยงของการลุกลามและผลข้างเคียง

4.ปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเคร่งครัด
• ก่อนและหลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นควรหลีกเลี่ยงการตากแดดจัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
• ทาครีมกันแดด SPF 30-50++ ทุกวัน เพื่อป้องกันรอยดำหรือการเกิดเม็ดสีผิดปกติ

5.การดูแลหลังการเลเซอร์ลบแผลเป็น
• หลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือแกะสะเก็ดผิว ควรปล่อยให้สะเก็ดหลุดเองตามธรรมชาติ
• ใช้ครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นสูง และยาที่แพทย์สั่ง เช่น ครีมลดการอักเสบหรือครีมสมานผิว
• งดใช้สครับ ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในช่วงแรก

6.เว้นการใช้ยาและการรักษาบางประเภท
• หากใช้ยากลุ่มเรตินอยด์ควรหยุดยาก่อนทำอย่างน้อย 6 เดือน เนื่องจากอาจทำให้ผิวสมานแผลช้า
• หากเพิ่งทำหัตถการอื่น เช่น การฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพราะบางหัตถการอาจต้องเว้นระยะ

7.ความคาดหวังผลลัพธ์เลเซอร์ที่สมเหตุสมผล
• เข้าใจว่าเลเซอร์ลบแผลเป็น ช่วยให้รอยแผลเป็นจางลง แต่ไม่สามารถทำให้หายสนิท
• รอยลึกหรือรอยเก่าอาจต้องทำหลายครั้ง และใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นผลเต็มที่

8.เลือกคลินิกทำเลเซอร์ลบแผลเป็นที่ได้มาตรฐาน
• เลือกสถานพยาบาลที่มีแพทย์ เครื่องมือที่ทันสมัย ได้รับการรับรองมาตรฐาน
• ตรวจสอบประสบการณ์และรีวิวของคลินิกก่อนตัดสินใจรักษา

การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็น
การเตรียมผิวและร่างกายให้พร้อมก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็นมีความสำคัญ เพราะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ทำให้ฟื้นตัวในเวลาไม่นาน และช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยมีขั้นตอนการเตรียมตัวดังนี้

1.ก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็นปรึกษาแพทย์
• เข้ารับการประเมินสภาพผิว ประเภทของรอยแผลเป็น และเลือกชนิดเลเซอร์ที่เหมาะสม
• แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือยาที่กำลังใช้อยู่ เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาเรตินอยด์ หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด เพื่อให้แพทย์พิจารณาปรับแผนการรักษา

2.ก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็นหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด
• ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์
• หากจำเป็นต้องออกแดด ควรทาครีมกันแดด SPF 30-50++ และสวมหมวกหรือใช้ร่มป้องกัน

3.ก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็นงดใช้ผลิตภัณฑ์หรือการรักษาที่ผลัดเซลล์ผิว
• หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ (AHA, BHA) หรือวิตามินเอ (Retinol, Retinoid) อย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ
• งดการสครับหน้า การทำทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิว อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

4.ก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็นรักษาผิวให้แข็งแรง
• ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อลดการระคายเคืองหลังทำเลเซอร์
• ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดี

5.ก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็นหลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิดก่อนการรักษา
• หากรับประทานยาที่มีผลต่อการสมานแผล ควรหยุดใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ (โดยปกติแนะนำให้เว้น 6 เดือน)
• หากต้องใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยาอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนปรับลดยา

6.ก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็นรักษาโรคผิวหนังหรือการติดเชื้อให้หายก่อน
• หากมีสิวอักเสบรุนแรง แผลเปิด หรือการติดเชื้อ เช่น เริม ควรรักษาให้หายก่อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังทำเลเซอร์

7.ก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็นควรเตรียมใจและวางแผนเรื่องเวลา
• หลังทำเลเซอร์บางประเภท อาจมีรอยแดง สะเก็ด หรือผิวลอก 3-7 วัน ควรวางแผนเรื่องเวลาให้ดี
• ทำความเข้าใจว่าอาจต้องทำหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน

8.ก่อนทำเลเซอร์ลบแผลเป็นหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
• ควรงดอย่างน้อย 1-2 วันก่อนทำเลเซอร์ เพราะมีผลต่อการสมานแผลและการไหลเวียนเลือด

การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็น
หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็น ผิวจะอยู่ในสภาวะบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้เร็ว ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยดำ รอยแดง หรือการติดเชื้อ การปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ผลลัพธ์ชัดเจนและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง

1.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
• ล้างหน้าด้วย น้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ และใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์
• หลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือเช็ดแรง ๆ เพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองและเสี่ยงเกิดรอยแผลใหม่

2.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นทาครีมบำรุงที่ช่วยสมานผิว
• ใช้ครีมบำรุงที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสมานผิว เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของ Panthenol, Ceramide หรือ Hyaluronic Acid
• หากแพทย์ให้ยาทาเฉพาะ เช่น ครีมลดการอักเสบ หรือครีมป้องกันการติดเชื้อ ควรทาตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ

3.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเข้มงวด
• หลังทำเลเซอร์ผิวไวต่อแสง ควรทาครีมกันแดด SPF 30-50++ ทุกวัน แม้อยู่ในร่ม
• หลีกเลี่ยงการตากแดดจัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และสวมหมวกหรือใช้ร่มเมื่อออกกลางแจ้ง

4.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นหลีกเลี่ยงการแกะหรือเกาสะเก็ด
• ผิวอาจเกิดสะเก็ดหรือขุยลอกในช่วง 5-7 วันแรก ควรปล่อยให้หลุดเองตามธรรมชาติ
• การแกะสะเก็ดอาจทำให้เกิดรอยดำหรือรอยแผลเป็นใหม่

5.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นงดการใช้สกินแคร์หรือหัตถการที่ระคายผิว
• ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรงดผลิตภัณฑ์ที่มีกรดผลไม้ (AHA, BHA), Retinol หรือแอลกอฮอล์
• หลีกเลี่ยงการสครับ การทำทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิว หรือหัตถการที่ทำให้ผิวระคายเคือง

6.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นรักษาความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อ
• ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสผิวหน้า
• หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวม แดงมาก หรือมีหนอง ควรพบแพทย์ทันที

7.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ
• การพักผ่อนที่เพียงพอและดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร ช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้น

8.หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็นปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
• เข้าพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อประเมินผลลัพธ์และวางแผนการทำครั้งต่อไป
• หากต้องรับประทานยาหรือใช้ยาทาเฉพาะ ควรใช้ตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด

เลเซอร์ลบแผลเป็น vs ครีมลดรอยแผลเป็น
การเลือกวิธีลดรอยแผลเป็น ควรพิจารณาทั้งประสิทธิภาพ ระยะเวลา ผลข้างเคียง และความเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน เปรียบเทียบข้อดี-ข้อจำกัด และกลุ่มคนที่เหมาะสมของทั้งสองวิธีได้ดังนี้

เลเซอร์ลบแผลเป็น
ข้อดีเลเซอร์ลบแผลเป็น
• ให้ผลลัพธ์ชัดเจนในเวลาไม่นาน เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำไม่กี่ครั้ง
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียนขึ้นในระยะยาว
• ฟื้นฟูผิวและสีผิวได้พร้อมกัน ลดรอยดำ รอยแดง และความไม่สม่ำเสมอของผิว

ข้อจำกัดเลเซอร์ลบแผลเป็น
• ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยเฉพาะหากต้องทำหลายครั้ง
• อาจเกิดผลข้างเคียงชั่วคราว เช่น ผิวแดง บวม แสบ หรือเกิดรอยดำหากดูแลไม่ดี
• ต้องดูแลผิวหลังทำอย่างเคร่งครัด เช่น การทาครีมกันแดดและใช้ครีมบำรุงตามคำแนะนำแพทย์

เลเซอร์ลบแผลเป็นเหมาะกับใคร
• ผู้ที่มีรอยแผลเป็นลึก เช่น หลุมสิว รอยแผลเป็นนูน หรือรอยจากการผ่าตัด
• ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในระยะสั้น
• ผู้ที่สามารถดูแลผิวหลังทำและเข้ารับการรักษาตามนัดอย่างต่อเนื่องได้

ครีมลดรอยแผลเป็น
ข้อดีครีมลดรอยแผลเป็น
• ใช้ง่าย สามารถทำเองที่บ้านได้
• ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการทำเลเซอร์
• ผลข้างเคียงน้อย หากเลือกครีมที่เหมาะกับสภาพผิว

ข้อจำกัดครีมลดรอยแผลเป็น
• ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล โดยทั่วไปหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน
• ประสิทธิภาพจำกัด เหมาะกับรอยตื้นหรือรอยใหม่เท่านั้น ไม่สามารถแก้รอยหลุมลึกหรือนูนมากได้
• ต้องใช้ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ หากหยุดใช้ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจน

ครีมลดรอยแผลเป็นเหมาะกับใคร
• ผู้ที่มีรอยแผลเป็นตื้น หรือรอยสิวใหม่
• ผู้ที่ต้องการรักษาแบบไม่ซับซ้อนและทำเองได้
• ผู้ที่มีงบประมาณจำกัดหรือไม่สะดวกเข้ารับการรักษาในคลินิก

สรุปเกี่ยวกับเลเซอร์ลบแผลเป็น
สรุปว่าเลเซอร์ลบแผลเป็นถือเป็นทางเลือก ที่ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นให้จางลงและทำให้ผิวเรียบเนียน แต่จำนวนครั้งที่ต้องทำขึ้นอยู่กับชนิดและความลึกของแผลเป็น รวมถึงสภาพผิวของแต่ละบุคคล ข้อดีของเลเซอร์ลบแผลเป็นคือเห็นผลในเวลาไม่นาน ขณะที่ข้อจำกัดอาจมีผลข้างเคียง เช่น รอยแดงหรือระคายเคืองที่เกิดขึ้นชั่วคราว ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังทำเลเซอร์ลบแผลเป็น ที่ลดความเสี่ยงและตรงกับความต้องการมากที่สุด

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
เรื่อง โปรแกรมดูแลผิวหน้า ที่คุณอาจสนใจ