romrawin

โปรแกรม Rejuran คืออะไร แตกต่างจากโปรแกรมฉีดหน้าใสอื่นอย่างไร

Rejuran

Rejuran คืออะไร ช่วยอะไร กี่วันถึงเห็นผล อยู่ได้นานไหม
ในยุคที่เทรนด์ผิวสุขภาพดีมาแรง คนส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับผิวที่ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว และดูอ่อนเยาว์ แต่ปัญหาผิวที่พบได้บ่อย เช่น ผิวแห้งขาดน้ำ หมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ริ้วรอยก่อนวัย หรือผิวเสียจากปัจจัยต่าง ๆ มักไม่สามารถแก้ได้ด้วยสกินแคร์เพียงอย่างเดียว หนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน คือ Rejuran เป็นตัวช่วยฟื้นฟูผิว สำหรับผู้ที่อยากให้ผิวดูดีโดยไม่ต้องศัลยกรรม

แต่ก่อนตัดสินใจฉีด ควรรู้อะไรบ้าง เช่น Rejuran คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง เหมาะกับใคร ข้อควรระวัง และการดูแลก่อน-หลังทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ผิวสวยดูสุขภาพดีจากภายใน

โปรแกรม Rejuran คืออะไร
Rejuran หรือ รีจูรัน คือ โปรแกรมเมโสหน้าใสที่ใช้สารสกัดโพลีนิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide หรือ PN) ซึ่งสกัดมาจาก DNA ของปลาแซลมอน ที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์ จึงสามารถช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการฉีดสารนี้เข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใส ชุ่มชื้น และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากสิว หรือปัญหาผิวต่าง ๆ รวมถึงเสริมเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะและแสง UV

หลักการทำงานของโปรแกรม Rejuran
Rejuran ทำงานโดยใช้กลไกของ Polynucleotide (PN) ซึ่งเป็นสายของโมเลกุล DNA ที่มีความยาวระดับนาโน ทำหน้าที่สำคัญ คือ

1.Rejuran กระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว
PN จะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ผิว ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ช่วยเร่งการฟื้นตัวของผิวที่ถูกทำร้ายจากมลภาวะ แสงแดด หรืออายุที่เพิ่มขึ้น

2.Rejuran ลดการอักเสบและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
PN มีฤทธิ์ลดการอักเสบของเซลล์ผิว ทำให้รอยแดง รอยสิว และผิวระคายเคืองดีขึ้น ช่วยกักเก็บน้ำในชั้นผิว ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นและเรียบเนียน

3.Rejuran เพิ่มความยืดหยุ่นและความหนาแน่นของผิว
เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ผิวจะดูแน่นกระชับ รูขุมขนดูเล็กลง ริ้วรอยตื้นลง ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ

โปรแกรม Rejuran ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
Rejuran เป็นหัตถการฟื้นฟูผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีและประเทศไทย เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วย ซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ แข็งแรง และเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยประโยชน์หลักของ Rejuran มีดังนี้

1.Rejuran ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาแข็งแรง
Rejuran ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยบำรุงผิวจากภายใน สาร Polynucleotide (PN) จะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ผิวฟื้นตัวและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย ส่งผลให้ผิวที่เคยแห้งเสีย หมองคล้ำ หรือถูกทำร้ายจากมลภาวะ กลับมาดูสดใสและมีสุขภาพดีอีกครั้ง

2.Rejuran ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่
หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของ Rejuran คือการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวชั้นกลาง สาร PN จะช่วยให้เซลล์ทำงานดีขึ้น ผิวจึงดูแน่น กระชับ เต่งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

3.Rejuran ช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก
ด้วยกลไกการฟื้นฟูเซลล์ผิวและเพิ่มความหนาแน่นของชั้นผิว Rejuran จึงช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ จางลง โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา หน้าผาก ร่องแก้ม และมุมปาก เมื่อผิวมีคอลลาเจนมากขึ้น ร่องลึกจะดูตื้นขึ้น และผิวโดยรวมจะดูเรียบเนียนขึ้น

4.Rejuran ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส และรูขุมขนเล็กลง
เมื่อผิวได้รับการฟื้นฟูจากระดับเซลล์ ผิวชั้นบนจะเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น และความชุ่มชื้นในผิวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวดูละเอียด สดใส มีออร่าขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ

5.Rejuran ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน
Rejuran ช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและมีความยืดหยุ่น ผิวไม่แห้งลอกง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวแห้งหรือขาดน้ำจากสภาวะอากาศหรือการทำเลเซอร์บ่อย ๆ

6.Rejuran ช่วยลดรอยสิวและช่วยให้ผิวเรียบเสมอกัน
สำหรับผู้ที่มีรอยสิวหรือหลุมสิว Rejuran จะช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้รอยสิวค่อย ๆ จางลง และพื้นผิวดูเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของสิวและรอยแดงหลังสิวได้ด้วย

7.Rejuran ช่วยฟื้นฟูผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย หรือผิวเสียจากเลเซอร์
Rejuran มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบของผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผ่านการทำหัตถการ เช่น เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ที่ทำให้ผิวระคายเคือง ช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้นโดยไม่เกิดรอยแดงหรือรอยดำตามมา

8.Rejuran ช่วยชะลอการเสื่อมของผิว ชะลอการเกิดริ้วรอย
เมื่อผิวได้รับการกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ และป้องกันการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวในอนาคต จึงเป็นการบำรุงผิวแบบยั่งยืนที่ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ยาวนาน

โปรแกรม Rejuran มีกี่สูตร อะไรบ้าง
สำหรับหัตถการ Rejuran มี 4 สูตรที่นิยมใช้ในคลินิก โดยแต่ละสูตรออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนี้

1.Rejuran Healer
สูตรคลาสสิกที่ใช้ฟื้นฟูผิวทั่วใบหน้าและลำคอ มี Polynucleotide (PN) ความเข้มข้นประมาณ 1% ช่วยซ่อมแซมผิว เพิ่มความยืดหยุ่น ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวโดยรวม เช่น ผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยแรกเริ่ม และผิวอ่อนล้า

2.Rejuran I
สำหรับดูแลผิวบอบบางบริเวณรอบดวงตา มีความหนืดต่ำ ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ และฟื้นฟูคุณภาพผิวใต้ตา

3.Rejuran S
สูตรเข้มข้นสำหรับรักษาหลุมสิวและรอยแผลเป็นชนิดลึก มีความหนืดสูง ช่วยเติมเต็มและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

4.Rejuran HB
สูตรเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นพิเศษด้วยการผสม Hyaluronic Acid (HA) มี Lidocaine ช่วยลดความเจ็บขณะฉีดเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นและให้ผิวดูฉ่ำวาว

แต่ละสูตรจะเหมาะกับปัญหาผิวและบริเวณที่ต้องการฟื้นฟูแตกต่างกัน โดย Rejuran Healer และ Rejuran HB เหมาะสำหรับฟื้นฟูผิวทั่วไปทั่วใบหน้า ขณะที่ Rejuran I และ Rejuran S เน้นการดูแลเฉพาะจุด เช่น รอบดวงตาและหลุมสิว ตามลำดับ

โปรแกรม Rejuran ฉีดกี่ CC ถึงเห็นผล
Rejuran ปริมาณการฉีดที่แนะนำต่อครั้งสำหรับทั่วใบหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 2-4 ซีซี (CC) โดยทั่วไป

• Rejuran 1 ไซริงค์ มีประมาณ 2 ซีซี ซึ่งเพียงพอสำหรับฉีดทั่วใบหน้าแบบกระจายเป็นจุดเล็ก ๆ เพื่อฟื้นฟูผิวโดยรวม
• หากเน้นแก้ไขปัญหาผิวหนัก เช่น หลุมสิวหรือริ้วรอยลึก อาจต้องใช้ 1.5-2 ไซริงค์ (3-4 ซีซี) ต่อครั้ง
• ปริมาณ Rejuran HB สูตรเพิ่มความชุ่มชื้น อาจฉีดได้ประมาณ 6-12 ซีซี สำหรับฉีดทั่วใบหน้าและลำคอในบางกรณี
• คอร์สฉีดปกติแนะนำประมาณ 3-4 ครั้ง ระยะห่างครั้งละ 3-4 สัปดาห์ เพื่อเห็นผลฟื้นฟูชัดเจน และสามารถบำรุงซ้ำปีละ 1-2 ครั้ง
• ในการฉีดตามจุดเล็กอย่างรอบดวงตาหรือแก้ม อาจใช้ประมาณ 2 ซีซีต่อครั้ง

สรุปคือ 2-4 ซีซีเป็นปริมาณมาตรฐานที่ใช้ฉีด Rejuran ต่อครั้งทั่วใบหน้า ขึ้นอยู่กับสูตรและปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข แต่จะต้องทำหลายครั้งต่อคอร์สเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน

โปรแกรม Rejuran ฉีดตำแหน่งไหนบ้าง
Rejuran สามารถฉีดได้หลายบริเวณของใบหน้า ขึ้นอยู่กับสูตรที่ใช้และปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งสามารถแบ่งตามบริเวณได้ดังนี้

1.ฉีด Rejuran ทั่วใบหน้า
• ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน หรือมีรูขุมขนกว้าง
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวแน่นขึ้น
• ทำให้ผิวเรียบเนียนและชุ่มชื้นทั่วทั้งใบหน้า
• บริเวณที่ฉีด หน้าผาก แก้ม คาง ขมับ และข้างจมูก

2.ฉีด Rejuran รอบดวงตา
• ลดรอยคล้ำใต้ตาและริ้วรอยเล็ก ๆ
• เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตา
• ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
• บริเวณที่ฉีด ใต้ตา หางตา รอบเบ้าตา

3.ฉีด Rejuran ร่องแก้ม
• ฟื้นฟูผิวที่ขาดคอลลาเจนบริเวณร่องแก้ม
• ทำให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้นโดยไม่ต้องใช้ฟิลเลอร์

4.ฉีด Rejuran รอยสิวและหลุมสิว
• ฉีดเฉพาะจุดที่มีหลุมสิวหรือรอยแผลเป็นลึก
• กระตุ้นให้ผิวสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยเติมเต็มหลุมสิว
• บริเวณที่ฉีด แก้ม หน้าผาก หรือคางที่มีรอยสิวเดิม

5.ฉีด Rejuran บริเวณลำคอและเหนียง
• ช่วยให้ผิวคอที่แห้งหรือเริ่มมีริ้วรอยดูเรียบเนียน
• กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแน่นและยกกระชับขึ้น
• เพิ่มความชุ่มชื้นให้บริเวณคอและกรอบหน้า

โปรแกรม Rejuran กี่ครั้งถึงเห็นผล
ในการฉีด Rejuran แนะนำให้ฉีดอย่างน้อย 3-4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างระหว่างแต่ละครั้งประมาณ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่การฉีดครั้งแรกในช่วง 3-5 วัน ผิวจะรู้สึกเรียบเนียน นุ่มขึ้น และชุ่มชื้นขึ้น
ผลลัพธ์ชัดเจนจะเห็นได้อย่างเต็มที่หลังฉีดครบ 3-4 ครั้ง ประมาณ 4 สัปดาห์ถึง 2-3 เดือน โดยผิวจะยกกระชับ รูขุมขนกระชับขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง และสีผิวสม่ำเสมอขึ้น หลังจากคอร์สแรก สามารถเว้นระยะในการฉีดซ้ำทุก 3-6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนาน

สรุปคือต้องฉีด Rejuran ประมาณ 3-4 ครั้ง ห่างครั้งละ 2-3 สัปดาห์ จะเห็นผลชัดเจนและเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ระยะเวลาที่เห็นผลอาจแตกต่างกันขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน

โปรแกรม Rejuran กี่วันถึงเห็นผล
หลังฉีด Rejuran จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ 3-5 วันแรก ผิวจะรู้สึกเรียบเนียน นุ่มและชุ่มชื้นขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนผลลัพธ์ของการฟื้นฟูผิวที่ชัดเจนและเต็มประสิทธิภาพ จะเห็นได้ภายใน 4 สัปดาห์หลังจากฉีด รวมถึงผลลัพธ์จะยิ่งชัดเจนขึ้นหลังฉีดครบ 3-4 ครั้งในช่วง 2-3 เดือน หลังการรักษา โดยสรุปได้ดังนี้

• หลังฉีด Rejuran 3-5 วันแรก ผิวเริ่มนุ่ม ชุ่มชื้น และเรียบเนียนขึ้น
• หลังฉีด Rejuran 2-4 สัปดาห์ ผิวแน่นขึ้น รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยเล็ก ๆ เรียบลง
• หลังฉีด Rejuran 2-3 เดือน เห็นผลเต็มที่ ผิวแข็งแรง อ่อนเยาว์ และเรียบเนียนสมดุล

ผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 6-8 เดือน หากมีการดูแลผิวและฉีดซ้ำอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำแพทย์

โปรแกรม Rejuran อยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์จากการฉีด Rejuran จะเริ่มเห็นได้ภายใน 3-5 วันแรกหลังฉีด ผิวจะรู้สึกชุ่มชื้น เรียบเนียนและดูอิ่มน้ำขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเต็มประสิทธิภาพนั้นจะเห็นได้ประมาณ 4 สัปดาห์ หลังฉีดครบคอร์สที่มักแนะนำ 3-4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างระหว่างแต่ละครั้ง 2-4 สัปดาห์

ระยะเวลาของผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน หรือ 6-8 เดือน ขึ้นกับการดูแลผิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปหลังจากทำคอร์สแรกแล้ว แพทย์มักแนะนำให้ทำซ้ำทุก 4-6 เดือน หรือปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนานและคงความชุ่มชื้น ฉ่ำวาวของผิวไว้ได้ สรุปได้ดังนี้

• เริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 3-5 วันแรก
• ผลชัดเจนเต็มที่หลัง 4 สัปดาห์ (หลังครบคอร์ส 3-4 ครั้ง)
• ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน หรือ 6-8 เดือน ขึ้นกับการดูแลและการทำซ้ำ

โปรแกรม Rejuran เหมาะกับใครบ้าง
Rejuran ถือเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากภายใน เพราะเน้นกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิวและสร้างคอลลาเจนใหม่ เหมาะกับหลายกลุ่มคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการให้ผิวกลับมาดูสุขภาพดีอย่างดูเป็นธรรมชาติ

1.Rejuran เหมาะกับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ แห้ง หรือขาดความชุ่มชื้น
Rejuran ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน ทำให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียน และเปล่งปลั่งขึ้น เหมาะมากกับคนที่ผิวแห้ง ขาดน้ำ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้ผิวสูญเสียน้ำ เช่น ห้องแอร์ หรือแสงแดดจัด

2.Rejuran เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็กและผิวเริ่มหย่อนคล้อย
เนื่องจาก Rejuran มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ผิวจะค่อย ๆ กระชับขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น บริเวณหน้าผาก รอบดวงตา หรือมุมปากจะดูตื้นลง เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของผิวเสื่อมตามวัย

3.Rejuran เหมาะกับผู้ที่มีรูขุมขนกว้างและผิวไม่เรียบเนียน
Rejuran ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างของผิวให้แข็งแรงมากขึ้น ส่งผลให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวเรียบเนียนขึ้น เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่อง

4.Rejuran เหมาะกับผู้ที่มีรอยสิว หลุมสิว หรือแผลเป็นจากสิว
Rejuran บางสูตรออกแบบมาเพื่อซ่อมแซมผิวบริเวณหลุมสิวและรอยแผลเป็น ช่วยกระตุ้นให้เกิดเนื้อเยื่อใหม่ เติมเต็มหลุมสิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น

5.Rejuran เหมาะกับผู้ที่ผ่านการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์บ่อย ๆ
หลังจากทำเลเซอร์ ผิวอาจเกิดการระคายเคืองหรืออักเสบได้ง่าย การฉีด Rejuran จะช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูผิว ลดอาการแดงและอักเสบ และช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรงได้เร็วขึ้น

6.Rejuran เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือมีอาการอักเสบบ่อย
Rejuran มีคุณสมบัติในการ ลดการอักเสบ และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ผิวไวต่อแสง หรือระคายเคืองง่ายจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ

7.Rejuran เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้ต้องการปรับรูปหน้า แต่ต้องการให้ผิวดูอิ่มฟู สุขภาพดี มีความยืดหยุ่น และลดสัญญาณความร่วงโรยของผิว

โปรแกรม Rejuran ไม่เหมาะกับใครบ้าง
แม้ว่า Rejuran จะเป็นหัตถการที่สามารถทำได้กับทุกสภาพผิว แต่ก็มีบางกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงหรือเลื่อนการฉีดออกไปก่อน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง ดังนี้

1.Rejuran ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้สาร Polynucleotide หรือส่วนประกอบใน Rejuran
แม้สาร PN (Polynucleotide) จะผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์สูงจาก DNA ของปลาแซลมอนและมีโอกาสแพ้น้อยมาก แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่บางคนอาจมีอาการแพ้เฉพาะบุคคล เช่น บวม แดง คัน หรือมีผื่นขึ้นหลังฉีด ดังนั้นก่อนทำควรแจ้งแพทย์ หากมีประวัติแพ้อาหารทะเลหรือผลิตภัณฑ์จากปลา เพื่อให้แพทย์พิจารณาความเหมาะสม

2.Rejuran ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีการศึกษาทางคลินิกที่ยืนยันความปลอดภัยของ Rejuran ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรโดยเฉพาะ ดังนั้นควรเลื่อนการฉีดออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกน้อย

3.Rejuran ไม่เหมาะกับผู้ที่มีบาดแผล เปิด หรือการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
หากมีสิวอักเสบ รอยแดง หรือแผลเปิด ควรรอให้หายก่อน เพราะการฉีดในบริเวณนั้นอาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น หรือเชื้อแบคทีเรียกระจายเข้าสู่ผิวได้ง่าย

4.Rejuran ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคผิวหนังเรื้อรังในบริเวณใบหน้า
เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ หรือโรค SLE ผิวของกลุ่มนี้มักมีการอักเสบง่าย การฉีดอาจกระตุ้นให้เกิดอาการกำเริบได้

5.Rejuran ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
เพราะหลังฉีด Rejuran อาจเกิดจุดแดงหรือรอยช้ำได้ หากผู้ป่วยมีภาวะเลือดแข็งตัวช้า อาจทำให้รอยช้ำนั้นหายช้ากว่าปกติ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

6.Rejuran ไม่เหมาะกับผู้ที่เพิ่งทำหัตถการรุนแรงอื่น ๆ มาในระยะใกล้เคียง
เช่น เลเซอร์ RF หรือการทำ Subcision ตัดพังผืดหลุมสิว การฉีด Rejuran ทันทีหลังจากหัตถการเหล่านี้อาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ก่อนทำ Rejuran

7.Rejuran ไม่เหมาะกับผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์แบบรวดเร็วหรือเห็นผลเกินจริง
Rejuran ไม่ได้ให้ผลลัพธ์เติมเต็มทันที แต่จะค่อย ๆ ฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ ดังนั้นผู้ที่ต้องการผลในเวลาที่เร็วกว่า เช่น เติมแก้ม ร่องแก้ม หรือปรับรูปหน้า ควรเลือกฟิลเลอร์แทน

โปรแกรม Rejuran เจ็บไหม อันตรายหรือไม่
Rejuran ขณะฉีดจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง เนื่องจากเป็นการฉีดเป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า และตัวยามีความหนืดและอาจทำให้แสบผิวบ้าง อย่างไรก็ตาม แพทย์มักใช้ยาชาก่อนฉีดประมาณ 30-45 นาที ซึ่งช่วยลดความเจ็บได้มาก Rejuran บางสูตรจะมี Lidocaine ผสมในตัวยา ทำให้รู้สึกแสบหรือเจ็บน้อยลงมาก

หลังฉีดอาจมีตุ่มนูนเล็ก ๆ บนผิวซึ่งจะยุบลงภายใน 1-3 วัน บางคนอาจมีรอยแดงหรือรอยช้ำเล็กน้อย อาการเหล่านี้เป็นปกติและไม่อันตราย สามารถประคบเย็นหรือใช้ยาแก้ปวดช่วยบรรเทาได้
โดยสรุป Rejuran ไม่ถือว่าอันตรายถ้าได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่อยู่ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ความเจ็บปวดมีระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่สามารถลดความเจ็บได้ด้วยยาชาและเทคนิคการฉีดที่เหมาะสม

โปรแกรม Rejuran มีผลข้างเคียงที่ควรระวังไหม
โดยทั่วไป Rejuran ถือเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงน้อย เนื่องจากใช้สาร Polynucleotide (PN) ที่สกัดจาก DNA ของปลาแซลมอน ซึ่งผ่านการทำให้บริสุทธิ์และมีความเข้ากันได้ดีกับร่างกายมนุษย์ อย่างไรก็ตาม หลังการฉีดยังอาจเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการชั่วคราว และจะหายไปภายในไม่กี่วัน

1.อาการบวม แดง และรอยช้ำเล็กน้อย
เป็นอาการปกติที่เกิดจากการเจาะเข็มเข้าสู่ผิวหนังชั้นกลาง โดยเฉพาะเมื่อฉีดทั่วหน้าในจุดตื้น ๆ จะเกิดเป็นตุ่มเล็ก ๆ (คล้ายรอยยุงกัด) อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ยุบลงภายใน 24-48 ชั่วโมง

2.รอยจ้ำเลือด
อาจเกิดขึ้นได้ในบางจุด โดยเฉพาะผู้ที่มีเส้นเลือดฝอยมากใต้ผิว หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามิน E น้ำมันปลา มักหายได้เองภายใน 5-7 วัน

3.อาการคันหรือระคายเคืองเล็กน้อย
บางคนอาจรู้สึกคันเล็กน้อยหลังฉีด ซึ่งเป็นการตอบสนองของผิวต่อการฟื้นฟู ไม่ควรเกา เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น สามารถใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นได้ หากอาการคันไม่หายภายใน 2-3 วัน ควรแจ้งแพทย์

4.การอักเสบหรือติดเชื้อ
เกิดขึ้นได้น้อยมากหากทำโดยแพทย์ในคลินิกที่มีมาตรฐาน สะอาด ปลอดเชื้อ แต่หากเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ อาการอาจมีบวมแดงรุนแรง เจ็บปวด หรือมีหนอง หากสงสัยว่ามีการติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์ทันที

5.อาการแพ้
มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก เนื่องจากสาร PN มีความเข้ากันได้กับผิวสูง หากเกิดอาการบวมมาก แดงร้อน หรือมีผื่นขึ้น ควรหยุดใช้ยาและพบแพทย์ทันที

6.อาการเจ็บหรือตึงผิวบริเวณที่ฉีด
อาจเกิดจากแรงดันของสาร PN ที่ฉีดเข้าไปใต้ผิว มักเป็นเพียงชั่วคราว และจะหายภายใน 1-3 วัน หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือกดทับบริเวณที่ฉีดในคืนแรก และดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น

7.อาการตุ่มนูนคงค้าง (เป็นบางราย)
หากมีการฉีดตื้นเกินไป หรือผิวตอบสนองช้า อาจมีตุ่มเล็ก ๆ ค้างอยู่ 3-5 วัน จะค่อย ๆ ยุบลงเอง ไม่จำเป็นต้องกดหรือนวด

การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรมฉีด Rejuran
การฉีด Rejuran ถือเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้นมาก แต่หากเตรียมตัวให้ถูกต้องก่อนเข้ารับบริการ จะช่วยให้ผิวพร้อมรับสารบำรุงได้ดียิ่งขึ้น ลดโอกาสเกิดรอยช้ำ บวม หรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์หลังฉีดได้มาก

1.ก่อนฉีด Rejuran งดการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
เพื่อป้องกันรอยช้ำหลังฉีด ควรงดยาและอาหารเสริมบางชนิดอย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ ได้แก่ แอสไพริน ยากลุ่ม NSAIDs วิตามิน E น้ำมันปลา โสม กระเทียม แปะก๊วย หากจำเป็นต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่อง ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง

2.ก่อนฉีด Rejuran งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก่อนทำอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
เพราะแอลกอฮอล์และนิโคตินอาจทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เกิด รอยช้ำและบวมมากขึ้นหลังฉีด รวมถึงอาจทำให้การฟื้นฟูผิวช้าลง

3.ก่อนฉีด Rejuran พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนเข้ารับบริการ
การนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองและผิวแข็งแรง พร้อมรับการฉีด Rejuran ได้ดียิ่งขึ้น

4.ก่อนฉีด Rejuran งดการทำหัตถการอื่น ๆ ก่อนทำอย่างน้อย 1 สัปดาห์
เช่น เลเซอร์ สครับหน้า มาส์กผลัดเซลล์ผิว เลเซอร์ RF หรือ HIFU เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองหรืออักเสบของผิวขณะฉีด

5.ก่อนฉีด Rejuran แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือเคยมีอาการแพ้ยา
โดยเฉพาะผู้ที่เคยแพ้ผลิตภัณฑ์จากปลาหรืออาหารทะเล มีประวัติแพ้ยาชา หรือมีโรคผิวหนังเรื้อรัง แพทย์จะช่วยประเมินความเหมาะสมในการฉีด Rejuran ของแต่ละบุคคล

6.ก่อนฉีด Rejuran ทำความสะอาดใบหน้าและงดแต่งหน้า
ควรล้างหน้าให้สะอาด ปราศจากเครื่องสำอางและครีมบำรุง เพื่อป้องกันการอุดตันและลดโอกาสการติดเชื้อระหว่างฉีด

7.ก่อนฉีด Rejuran เตรียมใจสำหรับตุ่มเล็ก ๆ หลังฉีด
หลังทำอาจเห็นตุ่มนูนเล็ก ๆ คล้ายรอยยุงกัดทั่วใบหน้า เป็นเพราะสาร PN ถูกฉีดเข้าไปใต้ผิว ซึ่งจะ ยุบลงภายใน 1-2 วัน และไม่ทิ้งรอย

8.ก่อนฉีด Rejuran ดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนเข้ารับการฉีด
ผิวที่มีความชุ่มชื้นจะช่วยให้ตัวยา Rejuran กระจายตัวได้ดีและฟื้นฟูได้เร็วขึ้น

การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมฉีด Rejuran
หลังฉีด Rejuran ผิวจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมจากภายใน การดูแลตนเองอย่างถูกวิธีหลังทำ จะช่วยให้ผลลัพธ์ดี ผิวฟื้นตัวเร็ว และลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น รอยช้ำหรือการอักเสบได้อย่างมาก

1.หลังฉีด Rejuran หลีกเลี่ยงการแตะ หรือนวดบริเวณที่ฉีด
หลังฉีดจะมีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นทั่วใบหน้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติจากสาร PN ที่อยู่ใต้ผิว ห้ามนวด กด หรือเกา เพราะอาจทำให้สารเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง หรือเกิดการอักเสบ ตุ่มเหล่านี้จะค่อย ๆ ยุบลงภายใน 24-48 ชั่วโมง

2.หลังฉีด Rejuran ประคบเย็นเบา ๆ ภายใน 24 ชั่วโมงแรก
หากมีอาการบวม แดง หรือรอยช้ำ สามารถประคบเย็นได้ ช่วยลดการอักเสบและทำให้ผิวสบายขึ้น หลีกเลี่ยงการประคบร้อน เพราะอาจทำให้บวมมากขึ้น

3.หลังฉีด Rejuran งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรก
เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน หรือการติดเชื้อจากเครื่องสำอาง หลังจากครบ 1 วันสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน

4.หลังฉีด Rejuran หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ความร้อน และการออกกำลังกายหนัก
ภายใน 3-5 วันหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ ออกกำลังกายหนัก การตากแดดนาน ๆ เพราะความร้อนจะกระตุ้นการขยายของหลอดเลือด ทำให้รอยช้ำหรือบวมอยู่นาน

5.หลังฉีด Rejuran งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 2-3 วัน
แอลกอฮอล์และนิโคตินมีผลต่อการไหลเวียนของเลือด อาจทำให้เกิดรอยช้ำและฟื้นตัวช้าลง ควรงดเพื่อให้ผิวซ่อมแซมได้เต็มประสิทธิภาพ

6.หลังฉีด Rejuran ดื่มน้ำมาก ๆ และบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์
ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์หรือกรดผลไม้ เพื่อป้องกันการระคายเคือง สามารถใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดผิวเพื่อเพิ่มความสดชื่นได้

7.หลังฉีด Rejuran หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่น ๆ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
เช่น เลเซอร์ HIFU เลเซอร์ RF หรือการลอกผิว ควรรอให้ผิวฟื้นตัวเต็มที่ก่อน เพื่อป้องกันการระคายเคืองและอักเสบ

8.หลังฉีด Rejuran หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์
เช่น บวมแดงมากผิดปกติ ปวดร้อน หรือมีตุ่มหนอง ไม่ควรซื้อยาทาเอง ควรให้แพทย์ประเมินอาการทันที

9.หลังฉีด Rejuran เวลาพักฟื้นและผลลัพธ์ที่คาดหวัง
อาการบวมแดงจะหายภายใน 1-3 วัน ผิวจะเริ่มดูชุ่มชื้น เรียบเนียนขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ หากฉีดต่อเนื่องครบคอร์ส 3-4 ครั้ง จะเห็นผลชัดเจนว่าผิวแน่น กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์ขึ้น

สรุปเกี่ยวกับโปรแกรม Rejuran
สรุปว่า Rejuran เป็นหัตถการฟื้นฟูผิวที่ตอบโจทย์เทรนด์ผิวสุขภาพดีในปัจจุบัน เพราะไม่ได้เพียงช่วยให้ผิวดูสวยภายนอก แต่ยังซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่จากภายใน ช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรง ชุ่มชื้น และดูอ่อนเยาว์อย่างดูเป็นธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติของสาร Polynucleotide (PN) ที่ใกล้เคียงกับโครงสร้างของ DNA มนุษย์ Rejuran จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มผู้ที่มีปัญหาผิวเสียจากมลภาวะ เริ่มริ้วรอย หรือผู้ที่ต้องการให้ผิวดูเปล่งปลั่งยาวนาน

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง ควรเลือกฉีดกับแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน พร้อมทำความเข้าใจข้อมูลก่อนทำ การดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีดอย่างถูกวิธี เพราะเมื่อทำอย่างเหมาะสม โปรแกรมฉีด Rejuran จะช่วยให้ผิวอิ่มฟูและดูอ่อนเยาว์ได้จากภายในสู่ภายนอก

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
เรื่อง โปรแกรมดูแลผิวหน้า ที่คุณอาจสนใจ