romrawin

โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร อยู่ได้นานไหม อันตรายหรือไม่

ฟิลเลอร์ใต้ตา

677

ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานไหม อันตรายหรือไม่ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แก้ปัญหา ถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ตาโหล ขอบตาลึก มีริ้วรอยใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกหัตถการที่เห็นผลลัพธ์ทันที่หลังฉีดเสร็จ ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานานเหมือนทำศัลยกรรม

รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
- ปัญหาใต้ตา เกิดจากสาเหตุใด
- วิธีแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ริ้วรอย
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ข้อดีฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ข้อควรระวังของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ถุงใต้ตาแบบไหนไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ? เลือกยี่ห้ออย่างไร
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา VS ฉีดไขมันใต้ตา
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc ถึงเห็นผล
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล บวม เป็นก้อนเกิดจากอะไร
- ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ตาบอดจริงหรือ
- ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นก้อนเกิดจากอะไร แก้ไขได้ไหม
- การปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ควรรู้
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา
- รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มที่ชื่อว่า ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาร่องตาลึก ดวงตาหมองคล้ำ หรือริ้วรอยที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและโทรม โดยสารของ ไฮยาลูรอนิค แอซิด มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำสูง เมื่อฉีดเข้าสู่ผิว จะช่วยเติมเต็มให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียน อิ่มฟู และชุ่มชื้นขึ้นทันที ส่งผลให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับริเวณใต้ตาแล้ว ฟิลเลอร์ใต้ตายังสามารถป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคต และช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้กลับมาดูสุขภาพดีอีกครั้งโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับคนกลัวการผ่าตัดแล้วต้องการเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ

ปัญหาใต้ตา เกิดจากอะไร
ปัญหาใต้ตา เช่น ร่องลึก ถุงใต้ตา หรือความหมองคล้ำ เป็นเรื่องที่หลายคนเผชิญ ไม่ว่าจะวัยรุ่นหรือวัยทำงาน ซึ่งสาเหตุของปัญหาใต้ตานั้นมีได้หลายปัจจัย และสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ

1.เกิดจากโครงสร้างทางกายภาพของผิวและกระดูกในชั้นใต้ตาจะมีพื้นที่เฉพาะที่เรียกว่า
Tear Trough (ร่องน้ำตา) เป็นแนวร่องที่ลากยาวจากหัวตาลงไปยังแก้ม
Hollow Under Eye (เบ้าตาตื้น) พื้นที่ใต้ตาที่ดูแบนหรือยุบลง

เมื่อเราอายุมากขึ้น ไขมันและกระดูกใต้ตาจะเริ่มยุบตัวลง กล้ามเนื้อหย่อนคล้อย ทำให้เกิดร่องลึก ใต้ตาดูโบ๋หรือหมองคล้ำมากขึ้น บางคนมีปัญหาที่จุดเดียว บางคนมีทั้งสองจุดร่วมกัน ซึ่งแพทย์จะต้องประเมินอย่างละเอียดก่อนทำการรักษา เช่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุด

2.สาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับอายุ
แม้แต่คนอายุน้อยก็สามารถมีปัญหาใต้ตาได้เช่นกัน โดยมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น

พันธุกรรม บางคนมีร่องใต้ตาเด่นชัดตั้งแต่เด็ก
โรคภูมิแพ้ ทำให้ตาบวม ขอบตาคล้ำเรื้อรัง
พัฒนาการของกระดูกเบ้าตาไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้ผิวบริเวณใต้ตาขาดการพยุงที่ดี

การใช้สายตาหนักเกินไป เช่น จ้องหน้าจอนาน พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้กล้ามเนื้อตาล้า หย่อนยาน และเกิดริ้วรอยก่อนวัย

วิธีแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ริ้วรอย
ใต้ตาเป็นบริเวณที่บอบบางและสิ่งที่ส่งสัญญาณแห่งวัยได้เแบบชัดเจน หากมีร่องลึก ถุงใต้ตา หรือความหมองคล้ำ ก็จะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย ซึ่งปัจจุบันมีหลายวิธีในการแก้ปัญหาบริเวณใต้ตา ทั้งแบบไม่ผ่าตัดและผ่าตัด ขึ้นอยู่กับสาเหตุและระดับความรุนแรงของปัญหา

1.ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under Eye Filler)
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูง เพราะให้ผลลัพธ์หลังทำเลย

ข้อดีของฟิลเลอร์ใต้ตา
• เห็นผลทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
• ช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดความหมองคล้ำ
• ผิวใต้ตาดูอิ่มฟู ชุ่มชื้น และใบหน้าดูสดใส
• ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล

ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับ
ผู้ที่มีร่องลึก ขอบตาดำ หรือผิวใต้ตาแห้ง หย่อนเล็กน้อย

2.ครีมบำรุงใต้ตา
เป็นวิธีเบื้องต้นที่หลายคนเลือกใช้ โดยเน้นการบำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้น

ข้อดี
• ใช้ง่าย ไม่เจ็บ
• มีส่วนช่วยลดความแห้งและริ้วรอยเล็ก ๆ

ข้อจำกัด
• ต้องใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
• เห็นผลช้า และไม่ตอบโจทย์ปัญหาร่องลึกหรือถุงใต้ตาชัดเจน

3.การดูดไขมันใต้ตา
เหมาะกับผู้ที่มีถุงใต้ตาเด่นชัดจากไขมันส่วนเกิน

ข้อดี
• กำจัดถุงไขมันที่นูนออกมาได้ตรงจุด
• เห็นผลถาวร ไม่กลับมาอีกง่าย ๆ

ข้อจำกัด
• มีแผลเล็กประมาณ 3-5 มม.
• ไม่เหมาะกับคนที่ผิวใต้ตาหย่อนคล้อยมาก เพราะอาจเกิดผิวเหี่ยวย่นหลังทำ

4.FILORGA (เมโสบำรุงผิวใต้ตา)
การฉีดวิตามินและสารบำรุงลึกเข้าไปในผิว

ข้อดี
• ช่วยลดความหมองคล้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น
• มีส่วนผสมของ HA และวิตามินที่ช่วยฟื้นฟูผิว

ข้อจำกัด
• เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแห้งหรือคล้ำ แต่ไม่เน้นลดริ้วรอยลึก

5.ไหมน้ำใต้ตา
เป็นเทคนิคที่ใช้วัสดุเดียวกับไหมร้อยหน้า แต่แปรรูปให้เป็นของเหลว

ข้อดี
• ใช้เติมเต็มผิวคล้ายฟิลเลอร์ใต้ตา

ข้อจำกัด
• ยังไม่ผ่านการรับรองจาก อย.

6.เลเซอร์ถุงใต้ตา
ใช้เทคนิคไมโครเลเซอร์ในการตัดถุงไขมันจากด้านในเปลือกตา

ข้อดี
• ไม่มีแผลด้านนอก
• ช่วยลดถุงไขมันอย่างแม่นยำ

เหมาะกับ
ผู้ที่อายุน้อยและไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย

ข้อจำกัด
ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

7.Cytocare (ไซโตแคร์)
การฉีดสารบำรุงเข้มข้นเพื่อฟื้นฟูผิวบริเวณใต้ตา

ข้อดี
• กระตุ้นคอลลาเจน ผิวดูอิ่มฟู

เหมาะสำหรับ
• ฟื้นฟูผิวแห้ง คล้ำ

ข้อจำกัด
• ผลอยู่ได้ไม่นาน ต้องฉีดซ้ำเป็นคอร์ส
• ไม่เน้นเติมร่องลึกแบบฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
เมื่ออายุเริ่มเข้าสู่ช่วง 25 ปีขึ้นไป โครงสร้างของผิวและกระดูกบริเวณใต้ตาจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการยุบตัวของกระดูกใต้ตา และการลดลงของไขมันและคอลลาเจน ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาใต้ตาในหลายรูปแบบ เช่น ใต้ตาลึก ขอบตาคล้ำ หรือริ้วรอยรอบดวงตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุดและเห็นผลรวดเร็ว โดยฟิลเลอร์จะช่วยในด้านต่าง ๆ ดังนี้

1.ฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา และรอยตีนกา
ริ้วรอยที่เกิดจากผิวบางหรือขาดความชุ่มชื้นจะค่อย ๆ ลึกขึ้นตามวัย ฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยเติมเต็มร่องลึกให้เรียบเนียน ทำให้ผิวใต้ตาดูอ่อนเยาว์ขึ้น ลดความรู้สึกหย่อนคล้อยหรือแก่กว่าวัย

2.ฟิลเลอร์ใต้ตาลดความหมองคล้ำ ขอบตาดำ
ขอบตาดำส่วนใหญ่มาจากร่องลึกที่ทำให้แสงตกกระทบเกิดเป็นเงาคล้ำ ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมเต็มให้ผิวใต้ตาเรียบขึ้น แสงสะท้อนสม่ำเสมอ ผิวจึงดูสว่างและสดใสมากขึ้น

3.ฟิลเลอร์ใต้ตาลดถุงใต้ตา และผิวหย่อนคล้อย
ในบางกรณี ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยลดความชัดของถุงใต้ตาได้ โดยเติมให้ผิวรอบ ๆ ถุงไขมันเรียบเนียนขึ้น ลดความต่างระดับ ทำให้ใบหน้าดูไม่โทรมหรืออ่อนล้า

4.ฟิลเลอร์ใต้ตาเติมเต็มเบ้าตาลึก ตาโหล
เบ้าตาลึกมักทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยหรืออิดโรย แม้ในวันที่พักผ่อนเต็มที่ ฟิลเลอร์ใต้ตาจะเข้าไปเติมเต็มในจุดที่ยุบลง ทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น และลดความรู้สึกโทรมได้

ในผู้ชาย ใต้ตาลึกอาจให้ลุคคมเข้มได้ในบางกรณี แต่หากลึกเกินไปจะดูโทรมเกินจริง ในผู้หญิง ใต้ตายุบหรือคล้ำส่งผลให้หน้าดูแก่และอิดโรย การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาจึงช่วยคืนความสดใสและความละมุนให้ใบหน้า

ข้อดีฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวใต้ตาโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน
• การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ไม่ต้องเปิดแผล ไม่ต้องเย็บ ใช้เข็มขนาดเล็ก และใช้เวลาไม่นาน
• การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวใต้ตาได้ทันทีหลังทำ
• การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมเต็มผิวบริเวณใต้ตาที่มีร่องลึกหรือคล้ำ ให้ดูเรียบเนียนขึ้น
• การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีส่วนช่วยให้ผิวใต้ตาดูสดใสขึ้นในผู้ที่มีปัญหาความหมองคล้ำจากพันธุกรรม ภูมิแพ้ หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ
• หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำ ไม่จำเป็นต้องหยุดงานหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมทั่วไป
• หากเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคลินิกที่มีมาตรฐาน ใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้มีประสบการณ์ จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์

ข้อควรระวังของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
• ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสารเติมเต็มที่ไม่ถาวร โดยจะค่อย ๆ สลายตัวตามธรรมชาติภายในระยะเวลาที่แตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ
• หากต้องการคงผลลัพธ์ให้ต่อเนื่อง แนะนำให้กลับมาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์
• หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจมีอาการบวมเล็กน้อย แดง หรือมีรอยเข็มบริเวณที่ทำ ซึ่งมักจะหายเองภายในไม่กี่วัน
• ควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่มีทะเบียน อย.และผ่านการรับรองความปลอดภัย
• แพทย์ผู้ทำหัตถการควรมีความชำนาญเฉพาะทาง เพื่อเลือกชนิดฟิลเลอร์และเทคนิคการฉีดที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล
• หากไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจากผู้เชี่ยวชาญ อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ หรืออาจทำให้เป็นก้อนได้

ถุงใต้ตาแบบไหนไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
• ถุงใต้ตาเทียม คือถุงใต้ตาที่เกิดจากพฤติกรรมชั่วคราว เช่น
- การขยี้ตาบ่อย
- การใช้สายตาอย่างหนัก เช่น จ้องหน้าจอนาน
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ

• ความเครียดสะสม หรือร้องไห้บ่อย
- ถุงใต้ตาประเภทนี้ไม่ได้เกิดจากโครงสร้างที่ยุบตัว แต่เกิดจากการบวมของเนื้อเยื่อ ซึ่งจะดีขึ้นได้เองเมื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านั้น จึง ไม่จำเป็นต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

• ถุงใต้ตาแท้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผิวเมื่ออายุมากขึ้น เช่น
- ผนังกั้นไขมันใต้ตาเริ่มอ่อนแรง
- ไขมันดันตัวออกมาจนเห็นเป็นถุง
- กระดูกใต้ตายุบตัวลง
- ผิวหนังบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อย

ฟิลเลอร์ใต้ตาจะเหมาะกับถุงใต้ตาประเภทนี้ เพราะสามารถเติมเต็มเนื้อเยื่อหรือโครงสร้างที่ยุบลง ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ? เลือกยี่ห้ออย่างไร
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการเสริมความมั่นใจที่เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาร่องลึก ถุงใต้ตา หรือความหมองคล้ำโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่เนื่องจากใต้ตาเป็นบริเวณที่มีโครงสร้างละเอียดอ่อน ใกล้กับกล้ามเนื้อและเส้นเลือดสำคัญ จึงมีหลายสิ่งที่ควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจ

ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เป็นอันตราย ถ้าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตามข้อปฏิบัติดังนี้

• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยแพทย์ที่เข้าใจโครงสร้างบริเวณใต้ตาอย่างแม่นยำ
• ใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล
• ต้องใช้ ฟิลเลอร์ของแท้ ที่ได้รับการรับรองจาก อย.เท่านั้น ฟิลเลอร์แท้จะเป็น สาร Hyaluronic Acid (HA) ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย และมีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

ความเสี่ยงที่ควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
• สิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายไม่ใช่ตัวฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน แต่เกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว หรือสารเติมเต็มที่ไม่สามารถสลายได้ ซึ่งอาจส่งผลข้างเคียงระยะยาว
• การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม
• เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ หรือเกิดปัญหาบวมเป็นก้อน

เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไร
ในประเทศไทยมีฟิลเลอร์ใต้ตาหลายยี่ห้อที่ได้รับการรับรองจาก อย.โดยแต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่เหมาะกับบริเวณที่แตกต่างกัน เช่น ความนิ่ม ความยืดหยุ่น หรือระยะเวลาการคงตัวในผิว ซึ่งบริเวณใต้ตาเหมาะกับฟิลเลอร์เนื้อนิ่มโดยเฉพาะ

แพทย์จะเป็นผู้แนะนำชนิดของฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูปกติที่สุด

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตานอกจากจะช่วยให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น เมื่อฟิลเลอร์ใต้ตาเริ่มสลาย ผิวยังสามารถดูดีขึ้นกว่าก่อนทำได้ เสมือนเป็นการช่วยชะลอความร่วงโรยของผิวในระยะยาว

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ไม่อันตราย หากเลือกทำอย่างถูกวิธีกับแพทย์ที่เข้าใจโครงสร้างของชั้นผิวและใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน โดยควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจากแหล่งที่ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ และไม่ควรเชื่อโฆษณาราคาถูกผิดปกติ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นตาบอดได้เลย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา VS ฉีดไขมันใต้ตา
การแก้ปัญหาริ้วรอยหรือร่องลึกใต้ตา สามารถทำได้ทั้งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและฉีดไขมัน โดยแต่ละวิธีมีข้อดี ข้อจำกัด และความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ฟิลเลอร์ใต้ตา (Hyaluronic Acid Filler)
- ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิค (HA) ที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
- เห็นผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาทันที โดยผลชัดเจนเต็มที่ในประมาณ 1-2 สัปดาห์
- ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้เวลาในการทำไม่นาน เจ็บน้อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- อาจมีอาการบวมเล็กน้อยหรือรอยเข็มหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
- ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ถาวร โดยจะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- ฟิลเลอร์ใต้ตามีความเสี่ยงต่ำ เมื่อฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง

ฉีดไขมันใต้ตา (Fat Grafting)
- ใช้ไขมันของตัวเอง โดยดูดจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง หรือต้นขา มาแยกและฉีดเติมเข้าใต้ตา
- ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ เพราะใช้เนื้อเยื่อตัวเอง
- ต้องมีขั้นตอนดูดไขมันและเตรียมไขมันก่อนฉีด ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่า
- มีแผลเล็กในตำแหน่งที่ดูดไขมัน และอาจต้องพักฟื้นมากกว่าฟิลเลอร์
- ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก เนื่องจากไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจสลายบางส่วนตามธรรมชาติ
- ในบางกรณี อาจต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ตัวและเรียบเนียน
- หากกระบวนการเตรียมไขมันไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดผิวไม่เรียบเสมอ หรือไขมันไม่อยู่ตัว

เปรียบเทียบโดยรวมของฟิลเลอร์ใต้ตาและไขมันใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว ไม่ต้องการพักฟื้น และสามารถประเมินผลได้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก
- การฉีดไขมันอาจเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาวและยอมรับการทำหัตถการที่ซับซ้อนมากขึ้น
- การเลือกวิธีไหนควรอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์ เพื่อให้ตรงกับปัญหาและความต้องการของแต่ละคน
- ทั้งสองวิธีทั้งฟิลเลอร์ใต้ตาและไขมันใต้ตามีข้อดีและข้อควรระวังเฉพาะตัว จึงควรได้รับคำปรึกษาโดยตรงจากผู้มีประสบการณ์

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
• ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีร่องลึกใต้ตา หรือปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้า หรือดูเหนื่อยตลอดเวลา
• ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยใต้ตา หรือผิวใต้ตาหย่อนคล้อยในระดับที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
• ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ จากโครงสร้างผิวหรือเงาร่องลึกใต้ตา
• ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีถุงใต้ตาเล็กน้อย ที่ต้องการปรับให้ดูเรียบเนียนขึ้น
• ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด หรือต้องการเลี่ยงการเจ็บตัวจากหัตถการขนาดใหญ่
• ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำ
• ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกหรือเนื้อเยื่อใต้ตาตามวัย
• ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาจากลักษณะทางพันธุกรรม เช่น ขอบตาลึกหรือคล้ำตั้งแต่เด็ก

ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc ถึงเห็นผล
• ปริมาณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ใช้ ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาเฉพาะของแต่ละบุคคล
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะเป็นผู้ประเมินโครงสร้างผิวใต้ตา ความลึกของร่องใต้ตา รวมถึงปัจจัยด้านอายุและสภาพผิว เพื่อแนะนำปริมาณที่เหมาะสม
• โดยทั่วไป ปริมาณของฟิลเลอร์ใต้ตาที่นิยมใช้คือประมาณ 1-2 CC ต่อข้าง สำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
• สำหรับผู้ที่มีโครงสร้างกระดูกยุบตัวมาก เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีร่องลึกชัดเจน แพทย์อาจพิจารณาใช้ฟิลเลอร์ใต้ตามากกว่านั้น เช่น ข้างละ 2-3 CC
• การใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนและสมดุลมากขึ้น โดยไม่ทำให้ดูบวมเกินไป
• ควรหลีกเลี่ยงการเติมฟิลเลอร์ใต้ตามากเกินจำเป็น เพราะอาจส่งผลให้ผิวดูไม่เป็นธรรมชาติ
• การปรับปริมาณให้เหมาะสมควรทำโดยแพทย์ และมีประสบการณ์ด้านการฉีดใต้ตาโดยเฉพาะ

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี
การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาควรใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดเป็นพิเศษ เนื่องจากผิวใต้ตาบาง และไวต่อการเปลี่ยนแปลง การใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์เรียบเนียน ไม่บวม ไม่ฟูเกินไป

แบรนด์ฟิลเลอร์ใต้ตายอดนิยม
1.Juvederm (เทคโนโลยี Vycross / Hylacross)
• มี Crosslink สูง ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานและมีความคงตัว
• อุ้มน้ำน้อย ทำให้ไม่บวมหลังฉีดมากเกินไป
• เนื้อเนียนละเอียด เหมาะกับบริเวณที่ผิวขยับบ่อยอย่างใต้ตา

รุ่นแนะนำสำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- Voluma เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง
- Volite เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับใต้ตาชั้นตื้น ผิวบางเล็กน้อย
- Volux เนื้อแข็ง ใช้เติมใต้ตาชั้นลึก บริเวณใกล้กระดูก

2.Restylane (เทคโนโลยี NASHA / OBT)
• โดดเด่นด้านความยืดหยุ่นและสามารถเก็บรายละเอียดได้ดี
• เนื้อฟิลเลอร์มีหลายขนาด ช่วยให้เลือกได้ตามระดับปัญหา
• ให้สัมผัสที่เนียนเรียบ และดูเป็นธรรมชาติ

รุ่นแนะนำสำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- Defyne เนื้อเจลแข็งปานกลาง ยืดหยุ่นดี
- Vital Light เนื้อละเอียดมาก เหมาะกับผิวบางมาก ๆ
- Vital เนื้อละเอียด ปรับผิวให้เรียบสม่ำเสมอ
- Perlane Lyft เนื้อแข็ง คงรูปดี ไม่ฟู
- Classic เนื้อแข็ง สำหรับชั้นลึกของผิวใต้ตาในเคสที่ต้องการความแน่นและคงตัว

3.Belotero (เทคโนโลยี CPM)
• ขึ้นชื่อเรื่องการเกลี่ยเรียบ ไม่เป็นก้อน
• เนื้อฟิลเลอร์รวมตัวกันเป็นเนื้อเดียวอย่างแนบสนิท
• เหมาะสำหรับฉีดทั้งชั้นตื้นและชั้นลึกของใต้ตา

รุ่นแนะนำสำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- Volume เนื้อแข็ง ยืดหยุ่นสูง ใช้เสริมกระดูกใต้ตา
- Soft เนื้อละเอียด เหมาะกับเก็บรายละเอียดใต้ตา ให้ผิวดูเรียบเนียน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้อง
ตรวจสอบได้ว่าได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และตั้งอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม มีระบบดูแลความสะอาด

• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ถูกต้อง
ควรเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยสามารถตรวจสอบชื่อ-นามสกุลผ่านเว็บไซต์แพทยสภา เพื่อความมั่นใจว่าได้รับการดูแลโดยแพทย์จริง ๆ

• ใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาแท้ที่มี อย.รับรอง
ฟิลเลอร์ใต้ตาที่นำมาใช้ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สามารถตรวจสอบกล่องและเลขล็อตผลิตภัณฑ์ได้

• มีรีวิวจากผู้ใช้จริงในแหล่งที่เชื่อถือได้
เช่น รีวิวใน Facebook, Google Maps หรือเว็บไซต์ที่คลินิกไม่สามารถแก้ไขหรือลบข้อมูลได้ เพื่อดูผลลัพธ์จริงและประสบการณ์จากลูกค้าคนอื่น

• มีการติดตามผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
คลินิกควรมีการให้คำแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การนัดตรวจซ้ำ หรือช่องทางให้คำปรึกษาเพิ่มเติมหากมีข้อสงสัย เช่น โทรศัพท์, Line OA, หรือแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ

• ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ขายเกินจริง
คลินิกควรอธิบายผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่คาดหวังได้อย่างเหมาะสม ไม่โฆษณาเกินจริง และไม่มีการชักจูงให้ซื้อคอร์สเกินจำเป็น

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล บวม เป็นก้อนเกิดจากอะไร
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสดใส ขึ้นได้ โดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาใต้ตาลึกหรือคล้ำ แต่หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหลายคนอาจมีคำถามว่า “จะเห็นผลเมื่อไหร่?” หรือ “ถ้ามีอาการบวม หรือรู้สึกเป็นก้อนใต้ผิว เกิดจากอะไร?” ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำความเข้าใจ เพราะแม้จะเป็นหัตถการเล็ก ๆ แต่ผิวใต้ตานั้นบอบบาง และต้องการการดูแลเฉพาะทางเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีในวันเดียวกัน แม้อาจมีอาการบวมหรือรอยเข็มเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปจะเริ่มเข้าที่ภายใน 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาชัดเจนประมาณ 2 สัปดาห์ แพทย์มักนัดติดตามผลเพื่อประเมินความเรียบร้อยอีกครั้งหลังจากนั้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน
หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผู้เข้ารับบริการอาจมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งเป็นปกติของร่างกายที่ตอบสนองต่อการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิว อาการบวมนี้มักเกิดจาก

• การที่เข็มสัมผัสกับเส้นเลือดฝอยหรือเนื้อเยื่อบางจุด
• การที่เนื้อฟิลเลอร์ยังอยู่ระหว่างการปรับตัวเข้ากับชั้นผิว

โดยทั่วไป อาการบวมจะเริ่มลดลงภายใน 2-3 วันแรก และค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เช่น การประคบเย็นในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเริ่มเข้าที่ชัดเจนภายใน ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่เนื้อฟิลเลอร์เซ็ตตัวสมบูรณ์ และผิวรอบดวงตาจะดูเรียบเนียนมากขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสารเติมเต็มที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยทั่วไปฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ใต้ตาที่ใช้ พื้นที่ที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังทำ หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาของแท้และได้รับการฉีดจากแพทย์

ผลลัพธ์จะดูอิ่มฟู เติมเต็มและคงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ตาบอดจริงหรือไม่
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น การมองเห็นผิดปกติหรือสูญเสียการมองเห็น ได้จริง แต่เป็นกรณีที่พบได้น้อยมาก และมักเกี่ยวข้องกับ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผิดตำแหน่ง หรือการฉีดเข้าสู่หลอดเลือดโดยไม่ได้ตั้งใจ

สาเหตุที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วตาบอด ได้แก่
- การใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่ได้มาตรฐาน
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม
- การใช้เทคนิคหรืออุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณใต้ตา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเส้นเลือดสำคัญจำนวนมาก

หากฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรอง และดำเนินการภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน ความเสี่ยงจะลดลงอย่างมากจนอยู่ในระดับที่ต่ำมาก

ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นก้อนเกิดจากอะไร แก้ไขได้ไหม
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความชำนาญสูง เพราะผิวบริเวณนี้บางมาก และมีเส้นเลือดสำคัญจำนวนมาก หากเกิดอาการ เป็นก้อน บวม สาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่

• เลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับใต้ตา
เช่น ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแน่นเกินไป ทำให้ไม่กระจายตัวดีในผิวชั้นตื้น

• เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ถูกต้อง
เช่น ฉีดตื้นเกินไป หรือฉีดผิดชั้นผิว จนเกิดการรวมตัวเป็นก้อน

• ใช้ฟิลเลอร์ปลอม / ไม่มีมาตรฐาน
ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่ได้รับรองจาก อย.อาจไม่เข้ากับเนื้อเยื่อใต้ผิว และทำให้เกิดปัญหาระยะยาว

• แพทย์ไม่มีประสบการณ์เฉพาะทางในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องอาศัยความเข้าใจเอย่างละเอียด หากแพทย์ไม่มีทักษะ อาจทำให้ผลลัพธ์ผิดพลาดได้

สามารถแก้ไขได้ไหม
สามารถแก้ไขได้ โดยขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด

- หากใช้ฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA)
สามารถใช้ยา Hyaluronidase (HYAL) เพื่อฉีดสลายเฉพาะจุดได้อย่างปลอดภัย

- หลังฉีดสลาย อาการบวมและก้อนจะค่อย ๆ ลดลงภายในไม่กี่วัน
หลังจากนั้นแพทย์จะสามารถประเมินและฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใหม่ได้อย่างถูกต้อง

การปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และดูรีวิวจากผู้ใช้จริง
- งดยาแอสไพริน, NSAIDs, วิตามินบางชนิด และยาทาผลัดเซลล์ผิวล่วงหน้าอย่างน้อย 5-7 วัน
- งดแอลกอฮอล์ และกิจกรรมกระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น ออกกำลังกายหนัก ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ขั้นตอนขณะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและเลือกชนิดฟิลเลอร์ให้เหมาะสม
- แพทย์จะทำความสะอาด แปะยาชา และฉีดฟิลเลอร์ในท่านั่งหรือนอนเอียง เพื่อควบคุมความดันเลือด
- ใช้เทคนิคเฉพาะให้ฟิลเลอร์กระจายตัวสม่ำเสมอ ลดโอกาสบวมช้ำ

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- อาจมีบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อยใน 1-3 วันแรก ถือว่าเป็นอาการปกติ
- รับประทานยาแก้ปวดหรือยาลดบวมได้ตามแพทย์สั่ง
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น แสงแดด ซาวน่า เลเซอร์ร้อน อย่างน้อย 48 ชั่วโมง - 1 เดือน
- ดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูและอยู่ได้นานขึ้น

ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ควรรู้
การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีผลต่อทั้ง ความปลอดภัย และ ความสวยแบบเนียนเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะช่วง 72 ชั่วโมงแรก ซึ่งเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์ใต้ตากำลังเข้าที่ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่อไปนี้

- ห้ามแตะ แกะ เกา หรือกดนวดใต้ตา
เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง หรือเกิดการระคายเคือง

- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด 3 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก แสงแดดแรง หรือเลเซอร์ที่ใช้ความร้อน เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วผิดปกติ

- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เพราะแอลกอฮอล์ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด และอาจทำให้บวมช้ำมากขึ้น

- หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นการอักเสบ
เช่น อาหารเผ็ดจัด อาหารหมักดอง และอาหารดิบจากแหล่งที่ไม่สะอาด

- งดสูบบุหรี่
เพราะนิโคตินจะลดประสิทธิภาพการฟื้นฟูของผิว และทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง

- หลีกเลี่ยงการขยับใบหน้าหนัก ๆ
เช่น ยิ้มแรง หัวเราะเยอะ หรือขมวดคิ้วมากเกินไปในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว

- พลาสเตอร์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถลอกออกได้ภายใน 1 ชั่วโมง
ไม่จำเป็นต้องติดไว้นาน หากไม่มีอาการผิดปกติ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา
ราคาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในคลินิกความงามทั่วไปจะแตกต่างกันตาม ยี่ห้อฟิลเลอร์, ประสบการณ์แพทย์, และ มาตรฐานของคลินิก โดยเฉลี่ยแล้วมีช่วงราคาดังนี้

ราคาทั่วไป (ต่อ 1 CC) ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อยู่ที่ประมาณ 12,000 - 20,000 บาท

กรณีต้องใช้มากกว่า 1 CC
บางคนอาจมีร่องลึกมากหรือผิวแห้งมากใต้ตา อาจต้องใช้ 1.2 - 1.5 CC แพทย์จะประเมินเป็นรายบุคคล

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของฟิลเลอร์ใต้ตา
- ยี่ห้อของฟิลเลอร์
ยี่ห้อยอดนิยมที่ใช้ใต้ตา เช่น Restylane Vital Light, Belotero Soft, Juvederm Volbella จะมีราคาสูงกว่าเนื้อฟิลเลอร์ทั่วไป เพราะเนื้อละเอียด ไม่เป็นก้อนง่าย

- แพทย์ผู้ฉีด
แพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะคิดค่าบริการสูงกว่าแพทย์ทั่วไป เพื่อความไม่เป็นอันตรายและผลลัพธ์ที่สวยเนียน

- มาตรฐานคลินิกและบริการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
คลินิกที่มีระบบติดตามผลหลังทำ มีบริการปรับแต่งหรือดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม อาจมีราคาสูงกว่าแต่คุ้มค่าระยะยาว

รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา
ใครที่มาใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ รมย์รวินท์ New Gen ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
ตอนแรกมีปัญหาใต้ตาลึก ดูโทรมตลอดเวลา แม้จะนอนครบ 8 ชั่วโมงก็ยังดูเหมือนคนไม่ได้นอน พอได้ลองฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เปลี่ยนลุคไปเลยค่ะ ใบหน้าดูสดใสขึ้นทันที ร่องลึกดูตื้น ผิวใต้ตาเรียบเนียนขึ้นแบบไม่โป๊ะ ไม่บวม

คุณหมอใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่เหมาะกับผิวบริเวณนี้ และอธิบายดีมาก รู้สึกมั่นใจตั้งแต่ก่อนทำ หลังฉีดแค่มีบวมนิดหน่อย 1-2 วัน แล้วก็เข้าที่เร็วมาก ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ปกติเลยค่ะ

โดยรวมคือประทับใจมาก ใครที่มีร่องใต้ตาลึก หรือดูโทรมตลอดเวลา แนะนำเลยค่ะ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยให้หน้าดูเฟรชขึ้นแบบชัดเจนจริง ๆ

สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีแก้ปัญหาร่องลึก ใต้ตาคล้ำ หรือใบหน้าดูโทรมได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลทันทีหลังทำ และไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่แม้นอนเต็มที่แล้วก็ยังดูเหนื่อยล้า หรือมีปัญหาเบ้าตาลึกมาตั้งแต่เด็ก การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องใต้ตาให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ทำให้ใบหน้าสดใส อ่อนเยาว์ขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ

การเลือกใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาต้องใช้ฟิลเลอร์ที่เนื้อละเอียดโดยเฉพาะ และฉีดด้วยเทคนิคที่แม่นยำ เพราะผิวบริเวณนี้บอบบางและมีเส้นเลือดสำคัญจำนวนมาก หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดโดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจเกิดปัญหาเป็นก้อน บวม หรืออักเสบได้

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 12,000-20,000 บาทต่อ 1 CC โดยขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์และมาตรฐานของคลินิก ซึ่งควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีเลข อย.และเปิดกล่องใหม่ต่อหน้าคนไข้ทุกครั้ง

หลังฉีด ควรดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงความร้อน งดแอลกอฮอล์ และดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ

สุดท้าย ฟิลเลอร์ใต้ตาอาจเป็นแค่จุดเล็ก ๆ บนใบหน้า แต่สามารถเปลี่ยนลุคได้อย่างชัดเจน หากเลือกทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ จะได้ทั้งความสวย และความมั่นใจในแบบที่เป็นตัวคุณเอง

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
โปรโมชั่นต่างๆ
เรื่อง โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่คุณอาจสนใจ