โปรแกรม HIFU ลดร่องแก้ม อยู่ได้กี่เดือน เหมาะกับใคร ต้องทำบ่อยแค่ไหน
HIFU ลดร่องแก้ม
HIFU ลดร่องแก้ม อยู่ได้กี่เดือน เหมาะกับใคร ต้องทำบ่อยแค่ไหน
HIFU ลดร่องแก้ม อยู่ได้กี่เดือน เหมาะกับใคร ต้องทำบ่อยแค่ไหน
HIFU ลดร่องแก้มช่วยให้หน้าดูอิ่มฟูสดใสขึ้น เนื่องจากว่าการมีร่องแก้มทำให้หน้าของเราดูมีอายุดูไม่สดใส แล้วการทำ HIFU ลดร่องแก้มอยู่ได้กี่เดือน เหมาะกับใครบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับ HIFU ลดร่องแก้ม
- HIFU ลดร่องแก้มคืออะไร
- สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาร่องแก้มลึก
- HIFU ลดร่องแก้มมีหลักการทำงานอย่างไร
- HIFU ลดร่องแก้มเหมาะกับใครบ้าง
- การทำ HIFU ลดร่องแก้ม อันตรายหรือไม่
- ใครควรหลีกเลี่ยงการทำ HIFU ลดร่องแก้ม
- ข้อดีของการทำ HIFU ลดร่องแก้ม
- ข้อควรระวังในการทำ HIFU ลดร่องแก้ม
- การเตรียมตัวก่อนทำ HIFU ลดร่องแก้ม
- การดูแลตัวเองหลังทำ HIFU ลดร่องแก้ม
- ทำ HIFU ลดร่องแก้ม กี่ครั้งถึงเห็นผล อยู่ได้นานไหม
- การทำ HIFU ลดร่องแก้ม ต้องทำกี่ช็อต
- ทำ HIFU ลดร่องแก้ม คู่กับหัตถการอะไรเห็นผลชัด
- HIFU ลดร่องแก้ม Vs ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มต่างกันอย่างไร
- HIFU ลดร่องแก้ม Vs ร้อยไหมลดร่องแก้มต่างกันอย่างไร
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับ HIFU ลดร่องแก้ม
- Q and A ยอดฮิตของ HIFU ลดร่องแก้ม
HIFU ลดร่องแก้มคืออะไร
HIFU ลดร่องแก้ม คือเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง เพื่อยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก โดยเฉพาะบริเวณที่มีความหย่อนคล้อยอย่างร่องแก้ม แก้มล่าง และกรอบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ที่ดูสดใส อิ่มฟูมากขึ้น
HIFU ลดร่องแก้มได้อย่างไร
เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวจะเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดร่องลึกบริเวณร่องแก้ม HIFU ลดร่องแก้มจะส่งพลังงานลงไปยังชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า เพื่อกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อและสร้างคอลลาเจนใหม่ ผลลัพธ์คือผิวยกกระชับขึ้น ร่องแก้มตื้นลง ใบหน้าดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องเจ็บตัว
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาร่องแก้มลึก
ร่องแก้มลึกเป็นหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยเมื่อลักษณะใบหน้าเปลี่ยนไปตามวัย ซึ่งอาจมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับทั้งปัจจัยทางโครงสร้างของร่างกายและพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยมีสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
1.อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ซึ่งทั้งสองชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการคงความยืดหยุ่นและความแน่นกระชับของผิว เมื่อผิวสูญเสียความกระชับ จึงเกิดการหย่อนคล้อยและมีโอกาสที่ร่องแก้มจะดูเด่นชัดขึ้น
2.การยุบตัวของกระดูกใบหน้า
กระดูกในบริเวณแก้ม โดยเฉพาะใต้ตาและรอบ ๆ ร่องแก้ม อาจมีการยุบตัวบางส่วนตามอายุ ซึ่งส่งผลต่อการรองรับเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณนั้น เมื่อกระดูกยุบลง ผิวหนังและไขมันชั้นตื้นจะสูญเสียแรงพยุง ทำให้แก้มแบนหรือยุบ และร่องแก้มลึกขึ้นตามมา
3.การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า
การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ หรือการขมวดคิ้ว อาจทำให้กล้ามเนื้อบางมัดทำงานบ่อยและเกิดความแข็งแรงเฉพาะจุด เมื่อกล้ามเนื้อเหล่านั้นดึงผิวหนังบริเวณร่องแก้มซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ก็อาจทำให้เกิดร่องลึกถาวรได้ในระยะยาว
4.กรรมพันธุ์
โครงสร้างใบหน้าและลักษณะของผิวหนังมีปัจจัยทางพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คนบางกลุ่มอาจมีแนวโน้มเกิดร่องแก้มลึกมากกว่าคนอื่นตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลและไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติ
5.พฤติกรรมการใช้ชีวิต
การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดเรื้อรัง การสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ล้วนมีผลต่อสุขภาพผิว ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและหย่อนคล้อยได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อความลึกของร่องแก้มได้ในระยะยาว
6.การได้รับรังสียูวีจากแสงแดด
การอยู่กลางแดดโดยไม่ป้องกันผิวเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวหนังถูกรังสี UV ทำลายจนเกิดความเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว เมื่อโครงสร้างผิวอ่อนแอ ผิวจะบางลง และรอยพับหรือร่องลึกจะเกิดได้ง่ายกว่าผิวที่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
7.ท่านอนที่ก่อให้เกิดแรงกดทับ
การนอนในท่าตะแคงหรือนอนคว่ำซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวบริเวณแก้มถูกกดทับ จนเกิดรอยพับหรือแนวร่องลึกขึ้นตามทิศทางของแรงกด โดยเฉพาะหากผิวเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นอยู่แล้ว
HIFU ลดร่องแก้มมีหลักการทำงานอย่างไร
หลักการของ HIFU ลดร่องแก้มคือการส่งพลังงานคลื่นเสียงแบบโฟกัสลงสู่ผิวชั้นลึกในระดับต่าง ๆ ได้แก่ ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และชั้นกล้ามเนื้อส่วนลึกที่เรียกว่า SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า โดยพลังงานจะลงไปในจุดเล็ก ๆ หลายจุด ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัวเล็กน้อย
ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำ HIFU ลดร่องแก้ม คือ ผิวที่หย่อนคล้อยจะค่อย ๆ ยกกระชับขึ้น ร่องลึกดูตื้นขึ้น และผิวโดยรวมดูเรียบเนียนมากขึ้น ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง จึงได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในระยะเวลา 1-3 เดือนหลังทำ HIFU ลดร่องแก้ม
HIFU Macrofocus คืออะไร
หนึ่งในเครื่อง HIFU ลดร่องแก้มที่ได้รับความนิยมและยอมรับอย่างมาก คือ HIFU Macrofocus ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ฉบับอัพเกรด ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีเดียวกับการอัลตราซาวด์ที่ใช้ในทางการแพทย์ แต่ปรับระดับความถี่และพลังงานให้เหมาะกับการรักษาทางด้านผิวหนัง
จุดเด่นของ HIFU Macrofocus ได้แก่
• ให้พลังงานลงลึกถึงระดับ SMAS อย่างสม่ำเสมอ
• กระจายพลังงานในแต่ละจุดได้เท่ากัน
• ไม่ทำลายผิวหนังบริเวณผิวชั้นนอก เพราะไม่ใช่แสงเลเซอร์หรือคลื่นแสง
• ไม่อันตรายกับผิวรอบดวงตาและไม่กระทบต่อสายตา จึงสามารถใช้บริเวณใต้ตาและหางตาได้อย่างเหมาะสม
HIFU ลดร่องแก้มเหมาะกับใครบ้าง
การทำ HIFU ลดร่องแก้มถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าให้กระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ใช้เข็ม และไม่ต้องพักฟื้น โดยเฉพาะในกรณีของร่องแก้มที่เริ่มเห็นชัด การใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงสามารถช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนร่องลึกได้ สำหรับผู้ที่เหมาะสมกับการทำ HIFU ลดร่องแก้มมีลักษณะดังนี้
1.HIFU ลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
หากเริ่มสังเกตว่าผิวบริเวณแก้มล่างหรือกรอบหน้าดูหย่อนลงกว่าปกติ เช่น แก้มตก ร่องแก้มเริ่มเห็นชัด หรือใบหน้าเริ่มขาดความกระชับ HIFU สามารถช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวได้อย่างเหมาะสม
2.HIFU ลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยหรือร่องลึกไม่มาก
HIFU ลดร่องแก้มเหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องแก้ม ร่องใต้ตา หรือริ้วรอยเล็ก ๆ ที่ยังไม่ลึกมากนัก เพราะการทำ HIFU จะช่วยชะลอการลึกของร่องและลดโอกาสที่ผิวจะหย่อนคล้อยเพิ่มขึ้นในอนาคต
3.HIFU ลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่พึ่งการผ่าตัด
หากต้องการดูแลผิวให้ดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องฉีดสารเติมเต็มหรือทำหัตถการที่ต้องใช้เข็ม HIFU ลดร่องแก้มเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะไม่ต้องลงเข็ม ไม่ต้องมีบาดแผล และไม่ต้องพักฟื้น
4.HIFU ลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวและชัดเจนขึ้น
ในบางกรณีที่กรอบหน้าดูไม่ชัดหรือมีไขมันสะสมใต้ผิวเล็กน้อย HIFU ลดร่องแก้มสามารถช่วยกระชับผิวให้แนบกระชับกับกรอบหน้า ส่งผลให้รูปหน้าดูเรียวและได้สัดส่วนมากขึ้น
5.HIFU ลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่มีเวลาจำกัดและต้องใช้ใบหน้าทำงานต่อเนื่อง
สำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ เช่น ทำงานพบปะผู้คน หรือไม่สามารถลางานได้ การทำ HIFU ลดร่องแก้มเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะหลังทำสามารถแต่งหน้า ใช้ชีวิต และออกงานได้ตามปกติทันที
การทำ HIFU ลดร่องแก้ม อันตรายหรือไม่
การทำ HIFU ลดร่องแก้ม หรือ High Intensity Focused Ultrasound เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านความงามที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด และโดยทั่วไป ถือว่ามีไม่อันตราย หากทำโดยแพทย์ในสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับอนุญาตและมีมาตรฐาน
เหตุผลที่ HIFU ลดร่องแก้มไม่อันตราย
• HIFU ลดร่องแก้ม ไม่ใช่เลเซอร์ ไม่ใช่คลื่นแสง แต่เป็นคลื่นเสียงที่โฟกัสเฉพาะจุด เพื่อให้พลังงานลงลึกถึงชั้นผิวที่ต้องการโดยไม่กระทบต่อผิวหนังชั้นนอก
• HIFU ลดร่องแก้มไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย จึงลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการแพ้สารหรือการติดเชื้อจากเข็ม
• HIFU ลดร่องแก้มไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• HIFU ลดร่องแก้มใช้เทคโนโลยีเดียวกับการตรวจอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ ที่มีความปลอดภัย และได้รับการปรับพลังงานให้เหมาะสมกับการใช้งานด้านความงาม
สิ่งที่จะทำให้ HIFU ลดร่องแก้ม ไม่เป็นอันตรายและส่งผลเสียในระยะยาว
แม้การทำ HIFU ลดร่องแก้มจะดูไม่อันตรายแต่เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด ควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้
• เลือกทำ HIFU ลดร่องแก้มในสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ
• ใช้เครื่องมือทำ HIFU ลดร่องแก้มที่ผ่านการรับรอง เช่น มีเลขที่ใบอนุญาตจาก อย.และมีการดูแลรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
• ประเมินสภาพผิวก่อนทำ เพราะ HIFU ลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง หากมีปัญหาผิวบางเฉพาะจุด หรือมีโรคผิวหนังบางชนิด อาจต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
• ไม่ควรทำบ่อยเกินความจำเป็น การทำ HIFU ลดร่องแก้มควรเว้นช่วงให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเหมาะสม ตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้ให้บริการที่มีความรู้
ใครควรหลีกเลี่ยงการทำ HIFU ลดร่องแก้ม
แม้ว่า HIFU ลดร่องแก้ม (High Intensity Focused Ultrasound) จะเป็นเทคโนโลยีที่ไม่อันตราย ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็มีบางกรณีที่อาจไม่เหมาะกับการรับบริการ HIFU ลดร่องแก้มโดยควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนการทำอย่างรอบคอบ
1.ผู้ที่มีโรคผิวหนังเฉพาะบริเวณที่จะทำการรักษาหลีกเลี่ยง HIFU ลดร่องแก้ม
หากมีการติดเชื้อผิวหนัง เช่น เริม, สิวอักเสบรุนแรง, ผื่นแพ้ หรือโรคผิวหนังเรื้อรังบริเวณใบหน้า ควรรักษาอาการเหล่านั้นให้หายก่อน เพราะคลื่นเสียงอาจกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองหรือทำให้การอักเสบลุกลามมากขึ้น
2.ผู้ที่มีบาดแผลสด หรือแผลผ่าตัดบริเวณใบหน้าหลีกเลี่ยง HIFU ลดร่องแก้ม
ในกรณีที่เพิ่งมีบาดแผลจากการผ่าตัด หรือมีรอยแผลที่ยังไม่สมานดี ไม่ควรทำ HIFU ลดร่องแก้มเพราะอาจกระทบต่อกระบวนการสมานแผลและทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้
3.ผู้ที่ใส่โลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกายบริเวณใกล้เคียงหลีกเลี่ยง HIFU ลดร่องแก้ม
เช่น ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker), มีรากฟันเทียมจำนวนมาก หรือใส่โลหะบริเวณกราม ควรแจ้งแพทย์หรือผู้ให้บริการก่อน เนื่องจากคลื่นเสียงอาจส่งผลต่อวัสดุที่เป็นโลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางประเภท
4.หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตรหลีกเลี่ยง HIFU ลดร่องแก้ม
แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลที่ชี้ชัดว่า HIFU ลดร่องแก้มส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือผ่านน้ำนม แต่เพื่อความปลอดภัยในระยะยาว ผู้ให้บริการส่วนใหญ่มักไม่แนะนำให้ทำในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
5.ผู้ที่มีโรคหรือภาวะเรื้อรังที่ยังควบคุมไม่ได้หลีกเลี่ยง HIFU ลดร่องแก้ม
เช่น เบาหวานที่แผลหายยาก, ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง, โรคหัวใจขั้นรุนแรง หรือผู้ที่อยู่ระหว่างรับเคมีบำบัด ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจทำให้ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาได้ไม่ดี
ข้อดีของการทำ HIFU ลดร่องแก้ม
1.ข้อดีของ HIFU ลดร่องแก้มไม่ต้องผ่าตัด และไม่ใช้เข็ม
HIFU ลดร่องแก้มเป็นหัตถการแบบไม่รุกล้ำ (Non-invasive) จึงไม่ต้องมีการผ่าตัดหรือฉีดสารเข้าสู่ผิว ไม่มีบาดแผล ไม่เจ็บเหมือนการทำหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้เข็มหรือเครื่องมือเข้าไปในร่างกาย
2.HIFU ลดร่องแก้มไม่มีรอยช้ำหรือแดงหลังทำ
หลังทำ HIFU ลดร่องแก้มส่วนใหญ่จะไม่พบอาการบวมช้ำหรือมีรอยแดงที่ชัดเจน ผู้รับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีโดยไม่ต้องแต่งปกปิดรอย หรือรอให้ผิวฟื้นตัว
3.HIFU ลดร่องแก้มไม่ต้องพักฟื้น
HIFU ลดร่องแก้มไม่มีช่วงเวลาพักฟื้น ผู้ที่ทำสามารถแต่งหน้า ออกงาน หรือกลับไปทำงานได้ตามปกติในทันที จึงเหมาะกับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ
4.HIFU ลดร่องแก้มไม่เป็นอันตรายต่อผิวชั้นนอก
พลังงานของ HIFU ลดร่องแก้มถูกออกแบบมาให้โฟกัสลงสู่ชั้นผิวลึกโดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังชั้นบน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการไหม้ผิวหรือการอักเสบที่อาจเกิดจากเทคโนโลยีอื่นที่ใช้พลังงานผ่านชั้นผิว
5.HIFU ลดร่องแก้มช่วยยกกระชับและลดเลือนริ้วรอย
HIFU ลดร่องแก้มช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นลึกของผิว ส่งผลให้ผิวยกกระชับขึ้น ร่องแก้มดูตื้นลง ริ้วรอยต่าง ๆ ดูจางลงในระยะเวลา 1-3 เดือนหลังทำ
6.HIFU ลดร่องแก้มช่วยกระชับใต้ตาได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา
คลื่นเสียงของ HIFU ลดร่องแก้มไม่ใช่พลังงานแสงหรือเลเซอร์ จึงไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา และสามารถใช้เพื่อยกกระชับผิวบริเวณรอบดวงตาหรือใต้ตาได้อย่างไม่เป็นอันตราย (ภายใต้การประเมินและดูแลจากแพทย์)
7.HIFU ลดร่องแก้มสามารถทำได้ต่อเนื่องและไม่รบกวนหัตถการอื่น
ผู้ที่ทำ HIFU ลดร่องแก้มสามารถรับบริการหัตถการด้านความงามอื่น ๆ ได้ในเวลาที่เหมาะสม เช่น การทำทรีตเมนต์ผิว หรือเลเซอร์บางชนิด (ตามคำแนะนำของแพทย์) และยังสามารถทำ HIFU ลดร่องแก้มซ้ำในระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อคงผลลัพธ์
ข้อควรระวังในการทำ HIFU ลดร่องแก้ม
1.ควรทำโดยแพทย์
พลังงานของ HIFU ลดร่องแก้มต้องควบคุมความลึกและความแรง การทำโดยผู้ที่ไม่มีความชำนาญอาจส่งผลให้พลังงานลงผิดชั้นผิว ทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รู้สึกเจ็บเกินปกติ หรือผิวระคายเคืองได้
2.ควรเลือกคลินิกที่ได้รับอนุญาตและมีเครื่องมือได้มาตรฐาน
เครื่อง HIFU ลดร่องแก้มที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่มีใบรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจมีความเสี่ยงต่อผิวหนังและไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องที่ใช้มีการรับรอง และสถานพยาบาลมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง
3.หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นทันทีหลัง HIFU ลดร่องแก้มโดยไม่ปรึกษาแพทย์
หลังทำ HIFU ลดร่องแก้มควรเว้นระยะเวลาอย่างเหมาะสมก่อนรับบริการด้านความงามอื่น เช่น การฉีดสารเติมเต็ม การเลเซอร์ หรือการร้อยไหม เพื่อไม่ให้พลังงานจาก HIFU ลดร่องแก้มส่งผลกระทบต่อหัตถการเหล่านั้น
4.ไม่ควรทำบริเวณที่มีอาการอักเสบ หรือมีโรคผิวหนังเฉพาะจุด
หากบริเวณที่ต้องการทำ HIFU ลดร่องแก้มมีสิวอักเสบ รอยแดง บาดแผล หรือมีการติดเชื้อ ควรรอให้ผิวฟื้นตัวก่อน หรือปรึกษาคุณหมอก่อน เพื่อป้องกันการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากขึ้น
5.หลีกเลี่ยงการนวดแรง ๆ หรือการประคบร้อนทันทีหลังทำ HIFU ลดร่องแก้ม
ภายหลังทำ HIFU ลดร่องแก้มควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรง ๆ การทำทรีตเมนต์ร้อน หรือการออกกำลังกายหนักในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ผิวมีเวลาปรับตัว และไม่รบกวนกระบวนการฟื้นฟูของผิว
6.แจ้งข้อมูลสุขภาพกับผู้ให้บริการก่อนทำ HIFU ลดร่องแก้มทุกครั้ง
หากมีประวัติโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ภาวะเลือดออกง่าย หรือมีวัสดุฝังในร่างกาย เช่น รากฟันเทียมจำนวนมาก หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจ ควรแจ้งให้ผู้ให้บริการทราบล่วงหน้า เพื่อประเมินความเหมาะสมในการรักษา
การเตรียมตัวก่อนทำ HIFU ลดร่องแก้ม
เพื่อให้การทำ HIFU ลดร่องแก้มได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ผู้เข้ารับบริการควรเตรียมร่างกายและผิวพรรณให้พร้อมล่วงหน้า ด้วยแนวทางที่ไม่เป็นอันตรายและเหมาะสม ดังนี้
1.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
ทั้งแอลกอฮอล์และสารนิโคตินในบุหรี่มีผลต่อการไหลเวียนของเลือดและกระบวนการฟื้นฟูของผิว หากงดได้อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนทำ HIFU ลดร่องแก้มจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการบวมแดงและช่วยให้การฟื้นตัวของผิวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด
ก่อนเข้ารับบริการ HIFU ลดร่องแก้มควรงดใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น
- ยากลุ่มแอสไพริน หรือ NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Mefenamic acid (Ponstan™)
- วิตามินและสมุนไพรบางชนิด เช่น Vitamin E, Primrose oil, Ginkgo biloba, St.John’s Wort, กระเทียมสกัด, โสม
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงของการฟกช้ำหรือบวมหลังทำ หากจำเป็นต้องใช้ยาหรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการบริการ HIFU ลดร่องแก้ม
3.พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี และเตรียมพร้อมต่อการตอบสนองต่อพลังงานจาก HIFU ลดร่องแก้มได้อย่างเหมาะสม โดยแนะนำให้นอนพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงในคืนก่อนวันเข้ารับบริการ
4.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ควรเลือกอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักผลไม้ ธัญพืช และปลา เพื่อเสริมสร้างคอลลาเจนตามปกติของร่างกาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลลัพธ์หลังทำ HIFU ลดร่องแก้มให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
5.หลีกเลี่ยงการตากแดดหรือความร้อนจัด
หลีกเลี่ยงการอาบแดด นอนซาวน่า หรือเข้าห้องอบร้อน อย่างน้อย 5-7 วันก่อนทำ HIFU ลดร่องแก้มเพราะความร้อนอาจทำให้ผิวไวต่อพลังงานจากเครื่อง HIFU ลดร่องแก้มและเพิ่มโอกาสเกิดอาการแดงหรือระคายเคืองหลังทำ
การดูแลตัวเองหลังทำ HIFU ลดร่องแก้ม
หลังการทำ HIFU ลดร่องแก้มแม้จะไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการผ่าตัด แต่การดูแลผิวอย่างถูกวิธีในช่วงหลังทำ ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวออกมาชัดเจนและยาวนานมากขึ้น โดยมีแนวทางปฏิบัติดังนี้
1.หากรู้สึกตึงผิวหรือเมื่อยล้า สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
ในบางรายอาจรู้สึกตึงผิว หรือเมื่อยล้าบริเวณที่ทำหัตถการ HIFU ลดร่องแก้มโดยเฉพาะช่วงแนวกรอบหน้าและร่องแก้ม อาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 1-3 วัน แต่หากรู้สึกไม่สบาย สามารถรับประทานยา พาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการได้ (หากไม่แพ้ยา)
2.หลีกเลี่ยงการจับ นวด หรือถูใบหน้าแรง ๆ
ในช่วง 2-3 วันหลังทำ HIFU ลดร่องแก้ม ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าแรง ๆ รวมถึงการนวด การขัดผิว หรือการทำทรีตเมนต์ เพราะอาจกระทบต่อกระบวนการฟื้นฟูของผิวที่กำลังตอบสนองต่อพลังงานจาก HIFU ลดร่องแก้ม
3.สามารถบำรุงผิวและทาครีมกันแดดได้ตามปกติ
หลังทำ HIFU ลดร่องแก้มสามารถทาครีมบำรุงผิวได้ตามปกติ แนะนำให้ใช้ครีมที่อ่อนโยน และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ โดยเลือกสูตรที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ซึ่งอาจกระทบต่อการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้
4.หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
ในช่วง 3-7 วันหลังทำ HIFU ลดร่องแก้ม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เนื่องจากสารในบุหรี่และแอลกอฮอล์มีผลต่อการไหลเวียนเลือดและอาจลดประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผลลัพธ์ของ HIFU ลดร่องแก้ม ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
5.หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดหรือกิจกรรมที่มีความร้อนสูง
ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดแรง ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้ผิวโดนความร้อนจัด เช่น การเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรืออยู่กลางแดดนาน ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้เต็มที่และป้องกันการระคายเคือง
ทำ HIFU ลดร่องแก้ม กี่ครั้งถึงเห็นผล อยู่ได้นานไหม
HIFU ลดร่องแก้มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกจริงหรือไม่
โดยทั่วไป ผู้ที่เข้ารับบริการ HIFU ลดร่องแก้มสามารถเริ่มสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำในระดับหนึ่ง ซึ่งมักจะอยู่ในช่วงประมาณ 15-20% ของผลลัพธ์ทั้งหมด เช่น ผิวรู้สึกตึงขึ้น กระชับเล็กน้อย หรือร่องลึกดูตื้นลง จากนั้นในช่วง 1-2 เดือนถัดมา ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นตามกระบวนการฟื้นฟูของผิว ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดหลังทำ HIFU ลดร่องแก้ม มักจะเห็นได้เต็มที่ในช่วง เดือนที่ 3-4 หลังการทำครั้งแรก
ควรทำ HIFU ลดร่องแก้มบ่อยแค่ไหนถึงจะได้ผลดี ?
ในช่วงแรกของการดูแล หากต้องการให้ผิวกระชับยิ่งขึ้น สามารถทำ HIFU ลดร่องแก้มซ้ำได้ในทุก ๆ 3 เดือน
หลังจากได้ผลลัพธ์ที่ต้องการแล้ว สามารถ ทำ HIFU ลดร่องแก้มซ้ำทุก 6 เดือน หรือปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อคงสภาพผิวให้กระชับและชะลอความหย่อนคล้อยในระยะยาว
ระยะห่างในการทำ HIFU ลดร่องแก้มควรขึ้นอยู่กับลักษณะผิว อายุ และคำแนะนำจากแพทย์ที่ดูแลเป็นหลัก
ผลลัพธ์หลังทำ HIFU ลดร่องแก้มอยู่ได้นานแค่ไหน ?
ผลลัพธ์ของ HIFU ลดร่องแก้มสามารถอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน เป็นมาตรฐานในคนทั่วไป แต่ในบางราย โดยเฉพาะผู้ที่ดูแลผิวอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงปัจจัยที่เร่งการเสื่อมของคอลลาเจน เช่น แสงแดดจัด การสูบบุหรี่ หรือการนอนดึก ผลลัพธ์อาจ อยู่ได้นานถึง 9 เดือน-1 ปี เลยทีเดียว
ปัจจัยที่มีผลต่อความยาวนานของผลลัพธ์ในการทำ HIFU ลดร่องแก้ม
• โครงสร้างผิวและอายุของแต่ละบุคคล
• ความสามารถในการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ
• การดูแลตัวเองหลังทำ HIFU ลดร่องแก้ม เช่น การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนเพียงพอ และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการเสื่อมของผิว
• การทำ HIFU ลดร่องแก้มอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหมาะสม
การทำ HIFU ลดร่องแก้ม ต้องทำกี่ช็อต
ในการทำ HIFU ลดร่องแก้ม (High Intensity Focused Ultrasound) แต่ละครั้ง เครื่องจะยิงพลังงานเป็นจุด ๆ ซึ่งเรียกว่า “ช็อต” หรือ “ไลน์ (Line)” ไปยังผิวหนังชั้นลึกเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิว การจะใช้กี่ไลน์ในแต่ละบริเวณนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ต้องประเมินเฉพาะรายบุคคล
ปริมาณไลน์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
• ระดับความหย่อนคล้อยของผิว
• บริเวณที่ต้องการรักษา
• ความกว้างของพื้นที่ที่ทำ
• เป้าหมายของผลลัพธ์ที่ต้องการ
• งบประมาณของผู้เข้ารับบริการ
ก่อนทำ HIFU ลดร่องแก้มแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและวางแผนร่วมกับผู้รับบริการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมภายใต้งบประมาณที่ตั้งใจไว้
จำนวนไลน์โดยประมาณในแต่ละบริเวณ (ใช้เพื่อประเมินเบื้องต้น)
บริเวณที่ทำ |
จำนวนไลน์โดยประมาณ |
เฉพาะบริเวณแก้มหรือเหนียง |
100 ไลน์ |
แก้ม + เหนียง |
300 ไลน์ |
ใต้ตา + ร่องแก้ม |
300 ไลน์ |
ทั่วใบหน้า หรือ ต้นแขน |
600 ไลน์ |
ทั่วหน้า + คอ หรือ ต้นขา |
1,000 ไลน์ |
หมายเหตุ จำนวนไลน์ที่ใช้จริงอาจแตกต่างจากนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะใบหน้าของแต่ละคนและการวางแผนของแพทย์ผู้ดูแล
ทำ HIFU ลดร่องแก้ม คู่กับหัตถการอะไรเห็นผลชัด
การทำ HIFU ลดร่องแก้ม สามารถเสริมผลลัพธ์ให้ชัดเจนและยาวนานยิ่งขึ้น หากทำร่วมกับหัตถการอื่นที่ช่วยเติมเต็มผิวหรือกระตุ้นการฟื้นฟูผิวในชั้นต่าง ๆ เช่น
• ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยเติมเต็มร่องลึกทันที เห็นผลไว ควบคู่กับการยกกระชับจาก HIFU ลดร่องแก้ม ( ฉีดฟิลเลอร์ลดร่องแก้ม คืออะไร อันตรายไหม ก่อนฉีดต้องรู้อะไรบ้าง )
• เมโส ช่วยลดส่วนเกินบริเวณแก้มหรือเหนียง ให้หน้าดูเรียวชัดขึ้น ( เมโส คืออะไร มีทั้งหมดกี่แบบ ช่วยเรื่องอะไร อันตรายหรือไม่ )
• เลเซอร์กระตุ้นคอลลาเจน (เช่น LDM หรือ RF) ช่วยฟื้นฟูผิวชั้นตื้น เสริมการทำงานร่วมกับ HIFU ลดร่องแก้ม
HIFU ลดร่องแก้ม Vs ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มต่างกันอย่างไร
การลดร่องแก้มสามารถทำได้หลายวิธี โดยเฉพาะสองทางเลือกยอดนิยมคือ HIFU ลดร่องแก้มและ การฉีดฟิลเลอร์ลดร่องแก้ม ซึ่งแต่ละวิธีมีหลักการทำงาน จุดเด่น และข้อเหมาะสมที่ต่างกัน ดังนี้
1.หลักการทำงานของ HIFU ลดร่องแก้มและ การฉีดฟิลเลอร์ลดร่องแก้ม
HIFU ลดร่องแก้ม (High Intensity Focused Ultrasound)
ใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นให้ผิวเกิดการหดตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยยกกระชับผิวจากภายใน ทำให้ร่องแก้มดูตื้นลงแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องใช้เข็มหรือสารเติมเต็ม
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม (Dermal Filler)
เป็นการฉีดสารเติมเต็ม (ส่วนใหญ่เป็นกรดไฮยาลูโรนิก) ลงในบริเวณร่องแก้ม เพื่อเพิ่มปริมาตรของผิวหนังและเติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้นทันที เห็นผลไว และสามารถปรับรูปหน้าได้ตามต้องการ
2.HIFU ลดร่องแก้มและ การฉีดฟิลเลอร์ลดร่องแก้มเห็นผลเมื่อไหร่
HIFU ลดร่องแก้ม เห็นผลบางส่วนทันที และค่อย ๆ ชัดขึ้นใน 1-3 เดือนหลังทำ เนื่องจากต้องรอให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่
ฟิลเลอร์ลดร่องแก้ม เห็นผลทันทีหลังฉีด ร่องแก้มดูตื้นขึ้นชัดเจนในเวลาไม่กี่นาที
3.ระยะเวลาของผลลัพธ์
HIFU ลดร่องแก้ม ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและอายุ
ฟิลเลอร์ลดร่องแก้ม อยู่ได้เฉลี่ย 6-18 เดือน ขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์และพฤติกรรมของแต่ละบุคค
HIFU ลดร่องแก้ม Vs ร้อยไหมลดร่องแก้มต่างกันอย่างไร
ทั้ง HIFU ลดร่องแก้มและการร้อยไหมเป็นหัตถการที่ช่วยลดร่องแก้มและยกกระชับผิว แต่ใช้วิธีการต่างกัน และเหมาะกับปัญหาผิวที่ต่างระดับกัน ดังนี้
HIFU ลดร่องแก้ม
• ใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงลงลึกถึงชั้น SMAS โดยไม่ต้องฉีดหรือผ่าตัด
• เหมาะกับผู้ที่มีร่องแก้มไม่ลึก ผิวเริ่มหย่อนคล้อย
• เห็นผลบางส่วนหลังทำทันที และชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน
• ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
• ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีบาดแผลหรือรอยเข็ม
• ไม่มีวัสดุแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย จึงเสี่ยงต่อการแพ้น้อยมาก
ร้อยไหมลดร่องแก้ม
• ใช้เส้นไหมละลายสอดใต้ผิวเพื่อดึงผิวให้ยกขึ้นทันที
• เหมาะกับผู้ที่มีร่องแก้มลึกหรือผิวหย่อนคล้อยชัดเจน
• เห็นผลทันทีหลังทำ และจะค่อย ๆ กระชับมากขึ้นใน 1-2 เดือนจากการกระตุ้นคอลลาเจน
• ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 8-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมและการดูแลผิว
• อาจมีรอยเข็มหรือบวมแดงเล็กน้อย ต้องระวังเรื่องการติดเชื้อและดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม
สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับ HIFU ลดร่องแก้ม
HIFU ลดร่องแก้ม คือเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงความเข้มข้นสูงที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนลึกถึงชั้น SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ช่วยให้แก้มดูเต่งตึง ร่องแก้มดูตื้นลง ใบหน้าดูอิ่มฟู สดใส แต่เพื่อให้ม่เป็นอันตรายและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เครื่องมือผ่านการรับรอง และมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด
Q and A ยอดฮิตของ HIFU ลดร่องแก้ม
Q1 ทำ HIFU ลดร่องแก้มแล้วเจ็บไหม ?
A ระหว่างทำอาจรู้สึกตึง ๆ หรืออุ่น ๆ ใต้ผิวเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปไม่เจ็บมาก และไม่ต้องใช้ยาชาในคนส่วนใหญ่
Q2 ทำ HIFU ลดร่องแก้มแล้วเห็นผลทันทีไหม ?
A เห็นผลบางส่วนทันทีหลังทำ และผลจะชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือนเมื่อคอลลาเจนเริ่มสร้างตัวใหม่
Q3 ทำ HIFU ลดร่องแก้มต้องทำบ่อยแค่ไหน ?
A สามารถทำทุก 6 เดือน หรือปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ให้ผิวกระชับและดูสดใสอย่างต่อเนื่อง
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ