romrawin

โปรแกรมผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม คืออะไร อันตรายไหม ข้อควรรู้ก่อนทำ

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม , ผ่าตัดดึงหน้า

468

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม คืออะไร อันตรายไหม ข้อควรรู้ก่อนทำ
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณร่องแก้ม มักเป็นปัญหาริ้วรอยร่องแก้มลึก ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย อ่อนล้า หรือไม่สดใส ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวัน การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มจึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการลดเลือนร่องแก้ม ให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์และเต่งตึงอีกครั้ง
บทความนี้จะพาไปรู้จักกับการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มคืออะไร ข้อดี ข้อควรระวัง ตลอดจนคำแนะนำทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงในการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มคืออะไร
การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม คือหัตถการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อยกกระชับผิวและกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อยบริเวณกลางใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดร่องแก้มลึกตามวัย การผ่าตัดนี้จะช่วยดึงเนื้อเยื่อในชั้นลึกของใบหน้าให้กลับขึ้นสู่ตำแหน่งเดิม ช่วยลดความลึกของร่องแก้มอย่างชัดเจนและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณแก้มจะเริ่มหย่อนลง เนื่องจากคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลง รวมถึงปริมาณไขมันใต้ผิวก็ลดน้อยลงเช่นกัน ส่งผลให้เกิดการพับตัวของผิวหนังที่เรียกว่าร่องแก้ม ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย

การผ่าตัดดึงหน้าจะช่วยแก้ปัญหานี้ด้วยการ
• เปิดแผลเล็กบริเวณไรผมหรือรอบใบหู
• แยกผิวหนังและยกชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) ที่หย่อนคล้อยขึ้น
• ดึงและยึดให้กระชับไปทางขมับหรือกรอบหน้า
• ตัดหนังส่วนเกินออกและเย็บแผลอย่างแนบเนียน

ผลลัพธ์หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม คือ ใบหน้าดูเต่งตึง ร่องแก้มจางลง รูปหน้ากลับมากระชับอีกครั้ง ซึ่งสามารถอยู่ได้นานหลายปี ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม ช่วยอะไรบ้าง
การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึกเท่านั้น แต่ยังมีข้อดีหลายด้าน โดยสามารถสรุปประโยชน์หลัก ๆ ได้ดังนี้

1.การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มช่วยลดความลึกของร่องแก้มอย่างชัดเจน
ร่องแก้มลึกเกิดจากแรงโน้มถ่วงที่ทำให้ผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อหย่อนคล้อยลงมาตามอายุ การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มจะช่วยยกกระชับผิวให้กลับสู่ตำแหน่งเดิม ทำให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น

2.การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มช่วยยกกระชับผิวและกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อย
การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มจะไม่ใช่แค่ดึงผิวภายนอก แต่เป็นการจัดเรียงผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อหลักที่พยุงผิวหน้า ช่วยให้ใบหน้ากระชับยิ่งขึ้น และลดปัญหาแก้มตกหรือผิวหย่อนบริเวณกราม

3.การผ่าตัดดึงหน้าช่วยลดร่องแก้มช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและได้สัดส่วนมากขึ้น
เมื่อผิวและกล้ามเนื้อได้รับการยกขึ้น ใบหน้าที่เคยดูหย่อนคล้อยหรือดูมีแก้มจะกลับมากระชับ ทำให้กรอบหน้าดูคมชัด เรียวขึ้น และได้สัดส่วนโดยไม่ต้องใช้ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็ม

4.การผ่าตัดดึงหน้าช่วยลดร่องแก้มช่วยลดริ้วรอยบริเวณข้างแก้มและมุมปาก
นอกจากร่องแก้มดูตื้นขึ้นแล้ว การยกกระชับชั้นผิวจะส่งผลให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ข้างแก้ม รวมถึงมุมปากที่ตกลงและรอยพับเล็ก ๆ จางลงไปด้วย ทำให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น

5.การผ่าตัดดึงหน้าช่วยลดร่องแก้มช่วยฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ได้นานหลายปี
ผลลัพธ์จากการผ่าตัดดึงหน้าสามารถอยู่ได้นานถึง 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง ซึ่งถือว่านานกว่าหัตถการไม่ผ่าตัดอื่น ๆ ที่มักอยู่ได้เพียง 6 เดือน-2 ปี

6.การผ่าตัดดึงหน้าช่วยลดร่องแก้มช่วยเพิ่มความมั่นใจและภาพลักษณ์ที่ดี
เมื่อใบหน้าดูสดใส เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ขึ้น จะส่งผลโดยตรงต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิต การทำงาน หรือการเข้าสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มวัย 40+ ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม กี่วันถึงเห็นผล
หลังจากการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม ผู้เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่มักจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสมบูรณ์ที่สุดจะเห็นได้เมื่อแผลหายดีและอาการบวมช้ำยุบลง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการดูแลหลังผ่าตัดของแต่ละบุคคล โดยสามารถแบ่งช่วงเวลาหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มได้ดังนี้

หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม 1-3 วันแรก
• มีอาการบวมและช้ำบริเวณใบหน้าและรอบแผลผ่าตัด
• อาจรู้สึกตึงบริเวณใบหน้า และมีผ้าพันหน้าเพื่อพยุงรูปทรง
• ควรพักผ่อนและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เลือดไหลเวียนเร็ว เช่น ก้มศีรษะหรือออกกำลังกาย

หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม 1 สัปดาห์
• อาการบวมเริ่มลดลง แต่ยังมีรอยช้ำบางจุด มักนัดตัดไหมในช่วงนี้
• บางรายสามารถกลับไปทำงานเบา ๆ ได้ หากไม่ต้องออกสื่อหรือพบปะลูกค้า

หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม 2-3 สัปดาห์
• บวมช้ำลดลงมาก เห็นความเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าและร่องแก้มได้ชัดขึ้น
• ยังอาจมีความรู้สึกตึง ๆ หรือชาชั่วคราวบริเวณผิวหนัง

หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม 1 เดือนขึ้นไป
• แผลสมานดี รอยแผลเริ่มจาง
• ใบหน้าดูเข้าที่มากขึ้น ร่องแก้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด
• สามารถแต่งหน้า ทำกิจวัตรประจำวัน หรือเข้าสังคมได้ปกติ

หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม 2-3 เดือนขึ้นไป
• ใบหน้าเข้ารูปเต็มที่ เห็นผลลัพธ์ของการดึงหน้าแบบสมบูรณ์
• ผิวดูตึง เรียบเนียน ร่องแก้มดูตื้นขึ้น
• รอยแผลบางจุดจะจางลง ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน - 1 ปีในการจางจนแทบมองไม่เห็น

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม อยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์จากการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม สามารถอยู่ได้นาน เฉลี่ย 5-10 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้

1.เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม
• หากใช้เทคนิคแบบ SMAS Lift, High SMAS, หรือ Deep Plane Facelift ซึ่งเน้นยกกระชับทั้งผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ จะให้ผลที่มั่นคงและอยู่ได้นานกว่าการดึงเฉพาะผิวด้านนอก
• เทคนิคการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มที่แม่นยำจะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน

2.อายุของผู้เข้ารับผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม
• คนที่มีอายุน้อยกว่า (เช่น อายุ 40-50 ปี) มักมีความยืดหยุ่นของผิวดีกว่า ทำให้ผลหลังผ่าตัดอยู่ได้นานกว่าคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
• ผิวที่ยังผลิตคอลลาเจนได้ดีจะช่วยคงความกระชับหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มได้ยาวนาน

3.การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม
• หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
• ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์หนัก
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ
• ใช้สกินแคร์ที่ช่วยบำรุงและป้องกันริ้วรอย

4.พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม
• คนที่ใช้สีหน้าบ่อย เช่น ขมวดคิ้ว ยิ้มกว้าง หรือเครียดเป็นประจำ อาจทำให้เกิดริ้วรอยหรือร่องลึกใหม่เร็วขึ้น
• การนอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่งตลอดเวลาอาจทำให้ผิวบริเวณแก้มหย่อนเร็วกว่าข้างอื่น

5.พันธุกรรมและปัจจัยภายในร่างกาย
• พันธุกรรมมีผลต่อการเสื่อมของคอลลาเจนในชั้นผิว
• ระบบฮอร์โมนและสุขภาพโดยรวมก็มีบทบาทต่อการคงความเต่งตึงของผิว

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอันตรายไหม
การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม ไม่อันตรายมากนักถ้าทำโดยศัลยแพทย์และในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การติดเชื้อ บวมช้ำ ชา หรือแผลเป็น รวมถึงความผิดปกติของเส้นประสาทใบหน้า ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าเบี้ยวได้ถ้าแพทย์ขาดความชำนาญ

การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มมีข้อควรระวังดังนี้
• ต้องเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และมีทีมแพทย์ที่มีความรู้ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม
• ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน
• ผลลัพธ์การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มจะอยู่ได้ประมาณ 5-10 ปี ขึ้นกับเทคนิคและการดูแลตัวเอง
• การดึงหน้าที่ตึงเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติและเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อใบหน้าได้ไม่ดี

สรุปคือ หากคุณเตรียมตัวดี เลือกทำกับแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกได้มาตรฐาน ช่วยลดความเสี่ยงในการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม แต่หากผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มในที่ไม่มีมาตรฐานหรือโดยผู้ไม่ใช่แพทย์ จะมีความเสี่ยงสูงต่ออันตรายทั้งในระหว่างและหลังผ่าตัด

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม มีผลข้างเคียงไหม
แม้การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มจะให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างที่เกิดขึ้นได้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยแบ่งเป็นกลุ่มอาการทั่วไปที่พบได้บ่อย และกลุ่มที่พบได้น้อยแต่ต้องเฝ้าระวัง ดังนี้

ผลข้างเคียงทั่วไปที่พบได้บ่อย
• การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจมีอาการบวม
ภายหลังการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มจะมีอาการบวมเกิดขึ้นบริเวณแก้ม ขมับ หรือใต้ตา เป็นอาการปกติที่ร่างกายตอบสนองต่อการผ่าตัด โดยจะบวมมากในช่วง 3-5 วันแรก และค่อย ๆ ยุบลงภายใน 2-3 สัปดาห์

• การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจมีรอยช้ำใต้ผิวหนัง
เกิดจากเส้นเลือดฝอยถูกกระทบขณะผ่าตัด มักปรากฏเป็นรอยช้ำสีม่วงหรือเขียว ซึ่งจะค่อย ๆ จางหายไปภายใน 10-14 วัน

• การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจรู้สึกตึงหรือแน่นบริเวณใบหน้า
เมื่อผิวและกล้ามเนื้อถูกดึงขึ้น อาจทำให้รู้สึกตึงบริเวณขากรรไกรหรือมุมปากในช่วงแรก ซึ่งมักหายได้เองใน 2-4 สัปดาห์

• การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจมีอาการชา
อาจรู้สึกชาหรือแปลบบริเวณบางจุดของใบหน้า เช่น ข้างแก้มหรือหลังใบหู เป็นผลจากเส้นประสาทเล็ก ๆ ถูกกระทบกระเทือน และมักจะฟื้นตัวได้ภายใน 1-3 เดือน

• การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจมีอาการคันบริเวณแผล
เมื่อแผลเริ่มฟื้นตัว บางคนอาจรู้สึกคันบ้างเล็กน้อย เป็นสัญญาณของการสมานตัวของแผล ซึ่งไม่ใช่อาการอันตราย

ผลข้างเคียงรุนแรงที่พบได้น้อย
• ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจแผลติดเชื้อ
อาจเกิดจากการดูแลแผลไม่สะอาด มีอาการบวมแดง ปวดร้อน หรือมีหนอง หากปล่อยไว้อาจลุกลาม จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อ

• ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจเลือดคั่งใต้ผิวหนัง
อาจเกิดก้อนแข็งหรือรอยบวมช้ำผิดปกติ หากปล่อยไว้อาจกดทับเส้นเลือดหรือเนื้อเยื่อ อาจต้องผ่าตัดระบายเลือดออก

• ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจมีเส้นประสาทใบหน้าบาดเจ็บ
ในบางกรณีที่พบได้น้อย เส้นประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้าอาจได้รับผลกระทบ ทำให้ยิ้มไม่สุดหรือปากเบี้ยว อาการนี้อาจเป็นชั่วคราวหรือถาวร ขึ้นอยู่กับความรุนแรง

• ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจมีแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์
ในบางคนที่มีแนวโน้มทางพันธุกรรม อาจเกิดแผลเป็นนูนหรือแข็งขึ้นบริเวณแผลผ่าตัด ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หรือใช้ยาทาและเลเซอร์ร่วมด้วย

• ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจมีผิวหนังบางจุดขาดเลือด
หากมีแรงดึงมากเกินไป หรือมีปัจจัยเสี่ยงเช่นสูบบุหรี่ อาจทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังไม่เพียงพอจนเกิดภาวะผิวตาย ต้องรักษาโดยแพทย์ทันที

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม ต้องพักฟื้นนานไหม
การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มโดยทั่วไปต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ใบหน้าจะเข้าที่สมบูรณ์และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม

โดยในช่วง 1-3 วันแรกหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม มักจะมีอาการบวมและช้ำมากที่สุด และจะเริ่มลดลงในช่วง 4-7 วัน หลังจากนั้นในช่วงสัปดาห์ที่ 2-3 อาการบวมและฟกช้ำจะลดลงอย่างมากจนใบหน้าเริ่มเข้าที่มากขึ้น แพทย์มักแนะนำให้พักผ่อน งดกิจกรรมที่ต้องออกแรง และงดออกกำลังกายประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลยืดหรือเลือดคั่งใต้ผิว

คำแนะนำที่สำคัญในช่วงพักฟื้นคือการนอนยกศีรษะสูง ประคบเย็นรอบแผลใน 1-3 วันแรก รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หลีกเลี่ยงแสงแดดและการสูบบุหรี่ รวมถึงดูแลแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

สรุปคือ โดยทั่วไปการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม ควรเผื่อเวลาพักฟื้นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนกลับไปทำกิจวัตรปกติ และใช้เวลาฟื้นตัวเต็มที่ประมาณ 3-6 เดือนเพื่อให้ใบหน้าเข้าที่และได้ผลลัพธ์ที่ดี

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม เหมาะกับใครบ้าง
การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม เป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีอื่น เช่น ฟิลเลอร์หรือเลเซอร์เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน กลุ่มคนที่เหมาะกับการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม ได้แก่

1.การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
ช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่ผิวเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก และรูปหน้าเปลี่ยนไปจากเดิม การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มช่วยให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้

2.การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่มีร่องแก้มลึกชัดจากการหย่อนคล้อย
หากร่องแก้มเกิดจากการยุบตัวของกระดูกและไขมันเท่านั้น การฉีดฟิลเลอร์อาจเพียงพอ แต่ถ้าเกิดจากการหย่อนของผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ ต้องใช้การยกกระชับด้วยการผ่าตัดเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนและถาวรกว่า

3.การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังบริเวณแก้มตกลงมาคลุมร่องแก้ม
บางคนไม่มีร่องแก้มชัด แต่มีลักษณะแก้มหย่อนคล้อย ปิดแนวร่องแก้มและทำให้หน้าดูเหนื่อยล้า การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มจะช่วยยกกล้ามเนื้อที่ตกลงกลับสู่ตำแหน่งเดิม ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น

4.การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่เคยทำหัตถการอื่นมาแล้วไม่ได้ผล
เช่น เคยฉีดฟิลเลอร์, ทำ HIFU, Thermage หรือเลเซอร์ยกกระชับแล้วไม่ได้ผลตามต้องการ หรือผลอยู่ได้ไม่นาน ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มจะเป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและยั่งยืนกว่า

5.การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบระยะยาว
หัตถการอื่น ๆ ให้ผลลัพธ์ชั่วคราว 6 เดือนถึง 2 ปี แต่การผ่าตัดดึงหน้าสามารถอยู่ได้นานถึง 5-10 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดร่องแก้มโดยไม่ต้องมาทำซ้ำบ่อย ๆ

6.การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้าม
เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีปัญหาการแข็งตัวของเลือด เพราะการผ่าตัดต้องอาศัยการฟื้นตัวที่ดี และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน

7.การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่มีเวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
แม้การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มไม่ต้องพักฟื้นยาวนานเหมือนการผ่าตัดใหญ่ แต่อย่างน้อยควรมีเวลาพักผ่อนและดูแลแผลในช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด

ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม ไม่เหมาะกับใคร
แม้การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน แต่ก็ไม่เหมาะกับทุกคน การทำหัตถการประเภทนี้ควรพิจารณาจากสุขภาพโดยรวม ลักษณะปัญหาบนใบหน้า และความคาดหวังของคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง โดยกลุ่มที่ไม่เหมาะสมกับการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม มีดังนี้

1.ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม แต่ไม่ได้เกิดจากความหย่อนคล้อย
ถ้าร่องแก้มเกิดจากโครงสร้างใบหน้าโดยธรรมชาติ เช่น กระดูกเบ้าตาลึก โหนกแก้มสูง หรือไขมันใต้ผิวยุบตัว การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจไม่ช่วยแก้ปัญหาได้ และอาจต้องเลือกหัตถการอื่น เช่น การฉีดฟิลเลอร์ เติมไขมัน หรือทำเลเซอร์แทน

2.ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มไม่เหมาะกับผู้ที่อายุน้อยเกินไป
ในผู้ที่อายุต่ำกว่า 35-40 ปี ผิวหน้ายังมีความยืดหยุ่นดี ร่องแก้มอาจยังไม่ลึกหรือเกิดจากสาเหตุอื่นที่สามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องผ่าตัด การเลือกวิธีที่นุ่มนวลกว่า เช่น เลเซอร์ HIFU เลเซอร์ Thermage หรือฉีดฟิลเลอร์ อาจเหมาะสมกว่า

3.ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามต่อการผ่าตัด
ผู้ที่มีภาวะสุขภาพไม่เหมาะสม เช่น โรคหัวใจขั้นรุนแรง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ความดันโลหิตสูงจัด โรคเลือดผิดปกติ หรือระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง การผ่าตัดอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนและแผลหายช้า

4.ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มไม่เหมาะกับผู้ที่สูบบุหรี่จัดหรือดื่มแอลกอฮอล์ต่อเนื่อง
บุหรี่และแอลกอฮอล์มีผลโดยตรงต่อการไหลเวียนของเลือด ทำให้แผลหายช้า เพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อ แผลเปิด หรือเกิดภาวะผิวหนังขาดเลือด หากยังไม่สามารถงดพฤติกรรมเหล่านี้ได้ การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจมีความเสี่ยงอันตราย

5.ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นเพียงพอ
แม้การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มจะไม่ต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน แต่ก็ต้องการระยะพักฟื้นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้แผลยุบตัว ใบหน้าเข้ารูป และหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อน หากไม่มีเวลาพักหรือดูแลตัวเองได้เต็มที่ อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของการรักษา

6.ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
การผ่าตัดและยาที่ใช้ในระหว่างหรือหลังการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม อาจมีผลต่อทารกในครรภ์หรือผ่านทางน้ำนม จึงควรรอจนกว่าจะสิ้นสุดการให้นมก่อนพิจารณาหัตถการใด ๆ

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม
การเตรียมตัวอย่างถูกต้องก่อนเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เพิ่มโอกาสที่แผลจะหายเร็ว และทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม

1.ก่อนผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม
• ตรวจสภาพใบหน้าอย่างละเอียด เช่น จุดหย่อนคล้อย ร่องแก้ม ความสมดุลของใบหน้า
• ประเมินสุขภาพโดยรวม โรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายระหว่างผ่าตัด
• แจ้งประวัติการแพ้ยา ยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และหัตถการที่เคยทำมาก่อน เช่น ฟิลเลอร์หรือร้อยไหม

2.ก่อนผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัด
• ตรวจเลือด ความดัน ปริมาณเม็ดเลือด และความสามารถในการแข็งตัวของเลือด
• หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือความดัน ควรควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติก่อน
• ผู้สูงอายุอาจต้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ X-ray ปอดเพิ่มเติมตามดุลยพินิจของแพทย์

3.ก่อนผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มงดพฤติกรรมเสี่ยงก่อนการผ่าตัด
• งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพราะมีผลต่อการไหลเวียนเลือดและการสมานแผล
• งดยาแอสไพริน วิตามินอี ยาละลายลิ่มเลือด และสมุนไพรบางชนิดที่อาจทำให้เลือดออกง่าย เช่น โสม ใบแปะก๊วย

4.ก่อนผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มเตรียมตัวทางจิตใจและวางแผนชีวิตประจำวัน
• เตรียมใจรับการเปลี่ยนแปลง เช่น อาการบวมหรือช้ำในช่วงแรก
• วางแผนวันหยุดพักผ่อนจากการทำงานอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
• เตรียมอุปกรณ์จำเป็น เช่น หมอนรองคอ ผ้าประคบเย็น หน้ากากกันฝุ่น และเสื้อผ้าที่สวมง่าย

5.ก่อนผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มงดอาหารและน้ำก่อนผ่าตัดตามแพทย์แนะนำ
• หากมีการวางยาสลบหรือนอนหลับระหว่างผ่าตัด ต้องงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนเข้าห้องผ่าตัด และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

6.ก่อนผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มล้างหน้าให้สะอาดและไม่แต่งหน้าในวันผ่าตัด
• งดใช้เครื่องสำอาง ครีมบำรุง หรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ บนใบหน้า
• ล้างหน้าให้สะอาดก่อนเดินทางไปคลินิกหรือโรงพยาบาล
• สวมเสื้อที่ปลดกระดุมหรือรูดซิปด้านหน้า เพื่อไม่ให้โดนใบหน้าหลังผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม
หลังจากการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ร่างกายต้องใช้เพื่อ สมานแผล ฟื้นตัว และปรับรูปหน้าให้เข้าที่ การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยให้หายเร็วขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง และทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม

1.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
ควรประคบเย็นบริเวณที่บวมหรือช้ำทันทีหลังผ่าตัด เพื่อช่วยลดอาการบวม ห้ามใช้แรงกดมาก ให้ใช้แผ่นประคบห่อผ้าสะอาดและวางไว้เบา ๆ บนใบหน้า

2.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มนอนยกศีรษะสูง
ให้นอนหนุนหมอน 2 ใบหรือใช้หมอนสามเหลี่ยมเพื่อให้ศีรษะอยู่สูง ลดการคั่งของเลือดและน้ำเหลืองซึ่งเป็นสาเหตุของอาการบวม และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี

3.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอย่าก้มหน้า หรือหันศีรษะแรง ๆ
หลีกเลี่ยงการโน้มตัวลงต่ำ ยกของหนัก หรือออกกำลังกายแรง ๆ เพราะจะเพิ่มแรงดันในใบหน้า ทำให้บวมมากขึ้น และอาจส่งผลต่อแผล

4.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มรับประทานยาและทำแผลตามคำแนะนำของแพทย์
ทานยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวดให้ครบตามที่แพทย์จ่าย และทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับคำแนะนำ

5.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มงดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
บุหรี่และแอลกอฮอล์จะรบกวนการไหลเวียนของเลือด ทำให้แผลหายช้า เพิ่มความเสี่ยงของแผลติดเชื้อ หรือผิวหนังขาดเลือด

6.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มงดแต่งหน้าในช่วง 7-14 วันแรก
โดยเฉพาะบริเวณที่มีแผลผ่าตัด และควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคือง เช่น กรดผลไม้ วิตามินเอ หรือเครื่องสำอางกันน้ำ

7.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มไม่ควรจับหน้าแรง ๆ หรือถูใบหน้า
เลี่ยงการขยับกล้ามเนื้อใบหน้ามากเกินไป เช่น การหัวเราะรุนแรง อ้าปากกว้าง เคี้ยวของเหนียว หรือแปรงฟันแรง ๆ ควรใช้แปรงขนนุ่ม

8.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มติดตามอาการกับแพทย์ตามนัด
แพทย์จะประเมินแผล ตัดไหม และดูว่าการฟื้นตัวเป็นไปตามปกติหรือไม่ หากมีอาการผิดปกติ เช่น แดงร้อน ปวดมาก หรือมีของเหลวไหลจากแผล ควรรีบพบแพทย์ทันที

9.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 1 เดือน
เนื่องจากผิวที่ผ่านการผ่าตัดจะไวต่อแสงมากกว่าปกติ อาจทำให้เกิดรอยดำหรือแผลเป็นได้ง่าย ควรใส่หมวกปีกกว้างหรือใช้ร่มเมื่อต้องออกแดด

10.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มดูแลสุขภาพโดยรวม
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีที่สุด

ข้อห้ามหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม
1.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มห้ามก้มหน้า หรือยกของหนัก
การโน้มตัวลงต่ำหรือยกของหนักอาจเพิ่มแรงดันเลือดที่ใบหน้า ทำให้อาการบวมมากขึ้น หรือเสี่ยงต่อแผลฉีกขาด ควรนั่งหรือนอนยกศีรษะสูงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก

2.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มห้ามนอนตะแคงหรือคว่ำหน้า
แรงกดจากหมอนหรือที่นอนอาจทำให้แผลบวมช้ำมากขึ้น หรือรูปหน้าไม่สมมาตร ควรนอนหงายโดยใช้หมอนหนุนศีรษะสูง และอาจใช้หมอนข้างประคองไม่ให้พลิกตัว

3.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มห้ามจับหน้า แกะ เกา หรือถูใบหน้าแรง ๆ
ใบหน้าในช่วงหลังผ่าตัดจะบอบบางและไวต่อแรงกด ห้ามลูบ ถู หรือเกาบริเวณแผล แม้จะคัน ให้ใช้ผ้าสะอาดซับเบา ๆ แทน

4.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มห้ามแต่งหน้า ทาครีม หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับคำแนะนำ
เครื่องสำอาง ครีม หรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม กรด หรือสารระคายเคืองอาจทำให้แผลอักเสบ ควรงดแต่งหน้าอย่างน้อย 7-14 วัน และใช้ผลิตภัณฑ์ที่แพทย์แนะนำเท่านั้น

5.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
สารพิษจากบุหรี่และแอลกอฮอล์จะลดประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ทำให้แผลหายช้า เพิ่มความเสี่ยงของแผลติดเชื้อ หรือผิวหนังขาดเลือดได้ ควรงดอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด

6.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มห้ามออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมหนัก
กิจกรรมที่มีแรงกระแทก หรือทำให้เลือดสูบฉีดมาก เช่น วิ่ง ยกเวท ว่ายน้ำ อาจทำให้ใบหน้าบวมซ้ำ หรือแผลฉีกได้ ควรรออย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ก่อนกลับไปออกกำลังกายเบา ๆ

7.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มห้ามโดนน้ำโดยตรงบริเวณแผล
แผลผ่าตัดไม่ควรถูกน้ำในช่วงแรกเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดหน้าบริเวณรอบ ๆ อย่างเบามือ และหลีกเลี่ยงการสระผมจนกว่าแพทย์จะอนุญาต

8.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มห้ามสัมผัสแสงแดดโดยตรง
แสง UV อาจกระตุ้นให้แผลกลายเป็นรอยดำหรือแผลเป็นนูน ควรหลีกเลี่ยงการออกแดด และหากต้องออกนอกบ้านให้ใส่หมวกปีกกว้าง หรือใช้ร่มช่วยป้องกัน

9.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มห้ามละเลยการนัดติดตามผล
หลายคนพอแผลเริ่มหายดีแล้วมักละเลยการกลับไปพบแพทย์ ทั้งที่การติดตามผลหลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม เป็นช่วงสำคัญในการประเมินความคืบหน้า และตรวจหาภาวะแทรกซ้อนที่อาจยังไม่แสดงชัด

10.หลังผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มห้ามเครียดหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
ความเครียดและการนอนหลับไม่เพียงพอจะส่งผลให้ร่างกายฟื้นตัวช้าลง ควรนอนพักให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง และดูแลโภชนาการให้เหมาะสม

สรุปเกี่ยวกับการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม
สรุปว่า การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มเป็นการยกกระชับผิวและกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อย ช่วยลดร่องแก้มลึกให้ดูตื้นขึ้น และทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานหลายปี อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม ควรประเมินสุขภาพ ปัญหาร่องแก้ม และการเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม หากกำลังมองหาวิธีแก้ไขร่องแก้มลึก การผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้มอาจเป็นคำตอบที่เหมาะกับคุณ

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
โปรโมชั่นต่างๆ
เรื่อง โปรแกรมยกกระชับใบหน้า ที่คุณอาจสนใจ