โปรแกรมฉีดเมโสแฟต คืออะไร ( Meso fat ) อันตรายไหม ฉีดที่ไหนดี
ฉีดเมโสแฟต
ฉีดเมโสแฟตทำไมบางคนไม่เห็นผลลัพธ์ รวมเรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำ
ฉีดเมโสแฟต เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่หลายคนก็สงสัยว่าทำไมบางคนฉีดเมโสแฟต แล้วเห็นผล แต่บางคนก็ไม่เห็นผล แล้วสาเหตุเกิดจากอะไร บทความนี้จะมาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจหัตถการฉีดเมโสแฟตกัน
รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต
- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต
- สาเหตุที่บางคนฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผล
- ตัวยาที่ใช้ฉีดเมโสแฟตสำคัญแค่ไหนต่อผลลัพธ์
- ฉีดเมโสแฟตอันตรายไหม
- ฉีดเมโสแฟตบริเวณไหนได้บ้าง
- ฉีดเมโสแฟตหน้ากับตัวต่างกันอย่างไร
- ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
- การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต
- ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต
- ใครควรหลีกเลี่ยงการฉีดเมโสแฟต
- หลังฉีดเมโสแฟตทำให้รู้สึกอาเจียนหรือไม่
- ฉีดเมโสแฟตแล้วจะทำให้ผิวหย่อนไหม
- ฉีดเมโสแฟตแล้วเห็นผลเลยหรือไม่
- ฉีดเมโสแฟตเหมาะกับผู้หญิงหรือผู้ชาย
- ฉีดเมโสแฟตลดไขมันเฉพาะจุดได้หรือไม่
- ฉีดเมโสแฟตกับฉีดเมโสหน้าใสต่างกันอย่างไร
- สรุปทุกหัวข้อเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) คือการฉีดสารที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันเข้าสู่บริเวณชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยสารที่ใช้ในการฉีดเมโสแฟตเหล่านี้มักเป็นสารสกัดที่ช่วยให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัวและถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านระบบการไหลเวียนและการขับของเสียตามกลไกตามปกติของร่างกาย ไม่ใช่การผ่าตัดหรือดูดไขมัน จึงเป็นวิธีที่จัดอยู่ในกลุ่มการทำหัตถการเพื่อความงาม (Aesthetic Treatment) ที่ไม่ต้องพักฟื้นนาน
กลไกการทำงานการฉีดเมโสแฟตกับไขมัน
เมื่อฉีดเมโสแฟตเข้าไปในชั้นไขมัน สารออกฤทธิ์จะทำให้ผนังเซลล์ไขมันเกิดการแตกตัว ไขมันที่ถูกปลดปล่อยออกมาจะถูกเม็ดเลือดขาวและระบบน้ำเหลืองช่วยเก็บกวาดออกไป จากนั้นร่างกายจะขับออกผ่านปัสสาวะและกระบวนการเผาผลาญปกติ ทำให้ ไขมันในบริเวณที่ฉีดเมโสแฟตค่อย ๆ ลดลงและผิวบริเวณนั้นดูกระชับขึ้น
อย่างไรก็ตาม ร่างกายของแต่ละคนมีการตอบสนองในการฉีดเมโสแฟต แตกต่างกัน ผลลัพธ์ในการฉีดเมโสแฟตจึงขึ้นกับปริมาณไขมันที่สะสม สภาพผิว และการดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต เช่น การดื่มน้ำมากพอและการควบคุมอาหารร่วมด้วย
เป้าหมายหลักของการฉีดเมโสแฟต
สิ่งสำคัญที่ควรเข้าใจคือ การฉีดเมโสแฟตไม่ได้เป็นการลดน้ำหนักทั้งตัว แต่เป็นการแก้ไขปัญหา ไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง คาง ต้นแขน หรือต้นขา ฉีดเมโสแฟตเหมาะสำหรับผู้ที่มีรูปร่างปกติหรือมีน้ำหนักไม่ได้มากเกินไป แต่มีไขมันสะสมบางบริเวณที่ลดด้วยวิธีทั่วไปได้ยาก
สาเหตุที่บางคนฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผล
แม้การฉีดเมโสแฟตจะเป็นวิธีที่ช่วยลดไขมันสะสมเฉพาะจุดได้ แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และบางครั้งก็อาจไม่เห็นผลอย่างที่คาดหวังไว้ ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผล ดังนี้
1.ฉีดเมโสแฟต แล้วไม่เห็นผลเพราะใช้ตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่มีคุณภาพ
ตัวยาที่ใช้ในการฉีดเมโสแฟตมีความสำคัญอย่างมาก หากเป็นสารที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่มีคุณภาพ อาจทำให้การสลายไขมันไม่เกิดขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น การเลือกฉีดเมโสแฟตกับคลินิกที่ใช้ตัวยาที่ผ่านการรับรองและมีความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
2.ฉีดเมโสแฟต แล้วไม่เห็นผลเพราะปริมาณยาที่ใช้ไม่เพียงพอ หรือไม่เหมาะสมกับปัญหา
การฉีดเมโสแฟตต้องอาศัยการประเมินปริมาณที่เหมาะสมกับปริมาณไขมันและตำแหน่งที่ต้องการสลาย หากฉีดน้อยเกินไปหรือไม่ตรงจุด ไขมันอาจไม่ลดลงชัดเจน ผลลัพธ์จึงไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
3.ฉีดเมโสแฟต แล้วไม่เห็นผลเพราะลักษณะไขมันมีความหนาแน่นสูงเกินไป
ในบางกรณี ไขมันที่สะสมอาจมีความหนาแน่นหรือเกาะตัวแน่น ทำให้ยาที่ฉีดเมโสแฟตเข้าไปออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ จึงอาจต้องใช้วิธีการอื่น ๆ ร่วมด้วย หรือใช้เวลามากกว่าจะเห็นผล
4.ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการฉีดเมโสแฟต
หลังการฉีดเมโสแฟต แพทย์มักจะแนะนำให้ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายขับไขมันออกได้ดีขึ้น หากดื่มน้ำน้อยเกินไป หรือยังรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงอยู่เป็นประจำ ไขมันใหม่อาจสะสมเพิ่ม ทำให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจน
การฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีช่วยลดไขมันเฉพาะจุดที่ได้ผลสำหรับหลายคน แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับคุณภาพของยา ปริมาณที่ใช้ ลักษณะของไขมัน และการดูแลหลังฉีดเมโสแฟต รวมถึงความเข้าใจที่ถูกต้องต่อผลลัพธ์ หากต้องการให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเหมาะสม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษา
ตัวยาที่ใช้ฉีดเมโสแฟตสำคัญแค่ไหนต่อผลลัพธ์
ผลลัพธ์จากการฉีดเมโสแฟตไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดของแพทย์เพียงอย่างเดียว แต่ “ตัวยาที่ใช้” มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการฉีดเมโสแฟต เพราะตัวยาคือสิ่งที่เข้าไปออกฤทธิ์ต่อเซลล์ไขมันโดยตรง หากตัวยาในการฉีดเมโสแฟตมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีความเข้มข้นที่เหมาะสม จะช่วยให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกกำจัดออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทางกลับกัน หากใช้ยาในการฉีดเมโสแฟตที่ไม่ได้มาตรฐาน ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจน และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้
มาตรฐานและความปลอดภัยในการฉีดเมโสแฟต
ตัวยาที่ใช้ในการฉีดเมโสแฟตควรเป็นสารที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยตามข้อกำหนด เพื่อให้มั่นใจว่ามีคุณภาพสม่ำเสมอ และลดความเสี่ยงจากสิ่งเจือปนหรือสารที่ไม่เหมาะสมต่อร่างกาย คลินิกที่น่าเชื่อถือจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการรับรองและสามารถตรวจสอบที่มาได้ เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้เกิดจากสารที่ปลอดภัยจริง ๆ
ความเหมาะสมกับปัญหาในการฉีดเมโสแฟต
ตัวยาที่ใช้ในการฉีดเมโสแฟต ยังต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพไขมันและตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข เนื่องจากบางตำแหน่งมีไขมันหนาแน่น บางตำแหน่งมีเพียงเล็กน้อย หากใช้ตัวยาไม่ตรงกับสภาพปัญหา อาจทำให้ไขมันไม่สลายตามที่คาดหวัง หรือใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์
ฉีดเมโสแฟตอันตรายไหม
โดยทั่วไปถือว่าไม่อันตราย หากฉีดเมโสแฟตกับแพทย์ และใช้ตัวยาที่ได้มาตรฐาน แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องเข้าใจเพื่อป้องกันความเสี่ยง ดังนี้
ความปลอดภัยในการฉีดเมโสแฟตขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
1.คุณภาพของตัวยา ในการฉีดเมโสแฟต
ตัวยาในการฉีดเมโสแฟตต้องเป็นสารที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรอง และเหมาะสมสำหรับการสลายไขมัน หากใช้ตัวยาที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง
2.แพทย์ที่เข้าใจโครงสร้างของชั้นผิว
การฉีดเมโสแฟตที่ถูกต้องจะช่วยให้ยาออกฤทธิ์เฉพาะ ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยช้ำ บวม หรือไม่สบายตัว
3.การประเมินความเหมาะสมของผู้รับบริการ
แต่ละคนมีสภาพร่างกาย ปริมาณไขมัน และโรคประจำตัวต่างกัน แพทย์จึงต้องตรวจสอบก่อนเสมอว่าไม่เป็นอันตรายต่อการฉีดเมโสแฟต
ฉีดเมโสแฟตบริเวณไหนได้บ้าง
การฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีที่ช่วยลดไขมันเฉพาะ โดยออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาไขมันสะสมที่กำจัดได้ยากด้วยวิธีทั่วไป เช่น การออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร หลายคนอาจสงสัยว่า สามารถฉีดเมโสแฟตได้ตรงไหนบ้าง เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน มาดูกันเลย
1.ฉีดเมโสแฟตบริเวณใบหน้า
แก้มกลม / แก้มยุ้ย ฉีดเมโสแฟตจะช่วยลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น
เหนียงหรือใต้คาง ฉีดเมโสแฟตลดความหย่อนคล้อยของคางสองชั้น ช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น
กรอบหน้า การฉีดเมโสแฟตเสริมความคมชัดให้โครงหน้าดูสมส่วน
2.ฉีดเมโสแฟตบริเวณลำตัว
ต้นแขน ฉีดเมโสแฟตเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแขน ทำให้แขนดูเพรียวขึ้น
หน้าท้อง ฉีดเมโสแฟตลดไขมันที่สะสมรอบเอวหรือพุง เหมาะสำหรับคนที่อยากให้สัดส่วนดูสมส่วนมากขึ้น
ด้านข้างลำตัว (เอว) ฉีดเมโสแฟตช่วยลด “ห่วงยาง” หรือไขมันรอบเอวที่ทำให้ใส่เสื้อผ้าไม่มั่นใจ
3.ฉีดเมโสแฟตบริเวณช่วงล่าง
ต้นขา ฉีดเมโสแฟตลดไขมันสะสมบริเวณต้นขาด้านในหรือด้านนอก
สะโพก ฉีดเมโสแฟตปรับสัดส่วนให้ดูสมดุลมากขึ้น
น่อง ฉีดเมโสแฟตช่วยให้ขาดูเรียวขึ้นในบางราย (ขึ้นอยู่กับลักษณะไขมันและกล้ามเนื้อ)
ฉีดเมโสแฟตหน้ากับตัวต่างกันอย่างไร
หลายคนอาจเคยได้ยินว่าการฉีดเมโสแฟตสามารถทำได้ทั้ง ใบหน้า และ ร่างกาย แต่จริง ๆ แล้วแต่ละบริเวณในการฉีดเมโสแฟตมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของ เทคนิคการฉีด ปริมาณยา และผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ มาลองทำความเข้าใจอย่างเป็นระบบกันค่ะ
1.ความแตกต่างของชั้นไขมันในการฉีดเมโสแฟตหน้ากับตัว
บริเวณใบหน้า ไขมันมักอยู่ตื้นและมีปริมาณไม่มาก เช่น บริเวณแก้มและเหนียง จึงต้องใช้เทคนิคการฉีดเมโสแฟตที่ละเอียด อ่อนโยน และปริมาณยาที่น้อยกว่า
บริเวณลำตัว เช่น หน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขา ไขมันจะหนาและมีปริมาณมากกว่า จึงต้องใช้ยามากขึ้น และอาจต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
2.ปริมาณยาที่ใช้ในการฉีดเมโสแฟตหน้ากับตัว
ใบหน้า ใช้ปริมาณยาน้อยต่อครั้ง เน้นความปลอดภัยและป้องกันการเกิดความไม่สมดุลของรูปหน้า
ลำตัว ใช้ยามากกว่า เพราะต้องครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างและไขมันที่มีความหนาแน่นสูงกว่า
3.ระยะเวลาเห็นผลในการฉีดเมโสแฟตหน้ากับตัว
ใบหน้า มักเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่า เพราะชั้นไขมันบางและสลายได้ง่าย
ลำตัว อาจต้องใช้เวลาและทำหัตถการในการฉีดเมโสแฟตต่อเนื่องหลายครั้ง จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เนื่องจากไขมันมีปริมาณมากกว่า
4.ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ในการฉีดเมโสแฟต
ใบหน้า ช่วยปรับรูปหน้า ลดแก้มยุ้ย ลดเหนียง และทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น
ลำตัว ช่วยลดไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ห่วงยาง ต้นแขน ต้นขา ทำให้สัดส่วนดูเพรียวและสมส่วนขึ้น
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟตเป็นหัตถการความงามที่ช่วยลดไขมันสะสมเฉพาะจุด โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นนาน เพื่อให้เข้าใจง่ายและเห็นภาพชัดเจน มาลองดูขั้นตอนทั่วไปที่มักใช้กันในคลินิกค่ะ
1.การประเมินและวางแผนโดยแพทย์
ก่อนทำการฉีด แพทย์จะตรวจประเมินปริมาณไขมัน บริเวณที่ต้องการแก้ไข รวมถึงสอบถามประวัติสุขภาพและโรคประจำตัว เพื่อพิจารณาว่าผู้รับบริการเหมาะสมกับการฉีดหรือไม่ และกำหนดแผนการรักษาที่ปลอดภัยและเหมาะสม
2.ทำความสะอาดผิวในการฉีดเมโสแฟต
บริเวณที่จะฉีดเมโสแฟตจะถูกทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของหัตถการ
3.ทายาชาหรือประคบเย็น
บางคลินิกจะทายาชาหรือใช้วิธีประคบเย็นเพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคและการประเมินของแพทย์
4.การฉีดเมโสแฟตข้าสู่ชั้นไขมัน
แพทย์จะฉีดเมโสแฟตเข้าไปในบริเวณที่มีการสะสม โดยใช้ปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละจุดและแต่ละบุคคล ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความชำนาญ เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้ตรงจุดและกระจายอย่างเหมาะสม
5.การดูแลหลังการฉีดเมโสแฟต
หลังฉีดเมโสแฟตเสร็จอาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งมักหายได้เองภายในไม่กี่วัน แพทย์จะให้คำแนะนำเพิ่มเติม
การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต
การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟตก็มีความสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟตเลย หากละเลยอาจทำให้ผลไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือไขมันกลับมาสะสมใหม่ได้ง่าย มาดูหลักการดูแลที่ควรรู้กัน
1.ดื่มน้ำให้เพียงพอหลังฉีดเมโสแฟต
ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียและไขมันที่ถูกสลายออกไปทางระบบน้ำเหลืองและปัสสาวะได้ดียิ่งขึ้น
2.หลีกเลี่ยงอาหารมันจัดและหวานจัดหลังฉีดเมโสแฟต
อาหารที่มีไขมันสูงหรือมีน้ำตาลมาก อาจกระตุ้นให้เกิดการสะสมของไขมันใหม่ ทำให้ผลลัพธ์จากการฉีดไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
3.งดการสัมผัส กดนวด หรือเกาบริเวณที่ฉีดเมโสแฟต
หลังฉีดเมโสแฟตอาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ควรหลีกเลี่ยงการกดหรือสัมผัสแรง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือรอยช้ำเพิ่มขึ้นได้
4.เลี่ยงความร้อนจัดหลังการฉีดเมโสแฟต
หลีกเลี่ยงการเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรือการใช้ความร้อนกับบริเวณที่ฉีดเมโสแฟตในช่วง 1-2 วันแรก เพื่อไม่ให้เกิดการบวมมากขึ้น
5.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย
แม้การฉีดเมโสแฟตจะช่วยลดไขมันได้ดี แต่การรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนานควรดูแลสุขภาพควบคู่ไปด้วย เช่น รับประทานอาหารที่สมดุล และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต
1.มีไขมันเฉพาะจุดที่ลดได้ยากในการฉีดเมโสแฟต
เช่น แก้มยุ้ย เหนียง ห่วงยางรอบเอว ต้นแขน หรือต้นขา แม้ควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว แต่ยังมีส่วนเกินเฉพาะจุดที่กวนใจ
2.รูปร่างโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือเกินเล็กน้อย
เป้าหมายหลักของการฉีดเมโสแฟตคือ “ปรับสัดส่วน” ไม่ใช่ลดน้ำหนักทั้งตัว ผู้ที่น้ำหนักนิ่งคงที่พอสมควรมักเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านสัดส่วนได้ชัดกว่า
3.ผิวและชั้นไขมันเหมาะสม
ชั้นไขมันบริเวณที่ฉีดเมโสแฟตไม่หนาจนเกินไป ผิวมีความยืดหยุ่นพอสมควร เมื่อไขมันยุบลง รูปทรงจึงดูเรียบเนียน
4.มีเป้าหมายและความคาดหวังสมเหตุผล
เข้าใจว่าการฉีดเมโสแฟตช่วยลดขนาดเฉพาะจุดทีละน้อย อาจต้องทำซ้ำเป็นคอร์สตามแผนที่แพทย์ประเมินร่วมกับการดูแลตนเอง
5.พร้อมปรับพฤติกรรมร่วมด้วย
ดื่มน้ำเพียงพอ เลือกอาหารที่สมดุล และเคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ร่างกายกำจัดของเสียและคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น
ใครควรหลีกเลี่ยงการฉีดเมโสแฟต
• หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการฉีดเมโสแฟต
• ผู้มีโรคประจำตัวที่ต้องระวังเป็นพิเศษ (เช่น โรคตับ ไต ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด) หรือกำลังใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อการฉีดเมโสแฟต ควรให้แพทย์พิจารณาเป็นรายกรณี
• ผู้มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของตัวยาที่ใช้ฉีดเมโสแฟต หรือมีการติดเชื้อ/ผื่น/แผลบริเวณที่จะฉีด
• ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมากและต้องการลดน้ำหนักทั้งตัว การฉีดเมโสแฟตไม่ใช่วิธีที่ตอบโจทย์ ควรเริ่มจากการปรับพฤติกรรม ร่วมกับคำแนะนำทางการแพทย์ด้านโภชนาการและการควบคุมน้ำหนัก
• ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์รวดเร็วมากหรือครบถ้วนภายในการทำเพียงครั้งเดียว ควรปรับความคาดหวังให้เหมาะสมกับธรรมชาติของหัตถการ
หลังฉีดเมโสแฟตทำให้รู้สึกอาเจียนหรือไม่
หลายคนที่สนใจการฉีดเมโสแฟตมักกังวลเรื่องผลข้างเคียง โดยเฉพาะอาการ คลื่นไส้หรืออาเจียน ซึ่งจริง ๆ แล้วถือเป็นอาการที่ พบไม่บ่อย แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในบางราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตัวยาที่ใช้ ปริมาณที่ฉีดเมโสแฟต และการตอบสนองของร่างกายแต่ละคน
สาเหตุที่อาจทำให้รู้สึกคลื่นไส้หรืออาเจียนหลังฉีดเมโสแฟต
1.การตอบสนองของร่างกายต่อยา
ร่างกายบางคนอาจไวต่อสารที่ใช้สลายไขมัน จึงเกิดอาการคลื่นไส้เล็กน้อยหลังฉีดเมโสแฟตได้ แต่โดยทั่วไปจะเป็นเพียงชั่วคราวและหายไปเอง
2.ปริมาณยาที่ฉีดเมโสแฟต
หากฉีดเมโสแฟตในปริมาณมากเกินไปต่อครั้ง อาจทำให้ร่างกายรู้สึกไม่สบายได้บ้าง เช่น มึนศีรษะ หรือคลื่นไส้
3.สภาพร่างกายก่อนทำ
หากพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือรับประทานอาหารไม่เหมาะสมก่อนเข้ารับบริการ อาจทำให้มีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ หรือไม่สบายหลังทำได้ง่ายขึ้น
ควรทำอย่างไรหากมีอาการอาเจียนหลังฉีดเมโสแฟต
• อาการคลื่นไส้หรืออาเจียนที่เกิดขึ้นหลังฉีดเมโสแฟต มักเป็นเพียงชั่วคราวและไม่รุนแรง
• หากอาการไม่มาก ควรพักผ่อน ดื่มน้ำให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงอาหารมันจัด
• แต่ถ้ามีอาการต่อเนื่อง หรือรุนแรงผิดปกติ ควรรีบติดต่อแพทย์เพื่อประเมินและดูแลอย่างเหมาะสม
ฉีดเมโสแฟตแล้วจะทำให้ผิวหย่อนไหม
หนึ่งในข้อกังวลที่หลายคนมักถามคือ “ถ้าไขมันลดลงแล้ว ผิวหนังบริเวณนั้นจะหย่อนคล้อยหรือไม่” ซึ่งคำตอบคือ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดผิวหย่อนหลังฉีดเมโสแฟต
เหตุผลที่บางคนกังวลเรื่องผิวหย่อนหลังการฉีดเมโสแฟต
เมื่อมีการสลายไขมันออกไป พื้นที่ที่เคยมีไขมันอาจเล็กลง ทำให้บางคนกลัวว่าผิวหนังจะเหลือมากเกินไปและเกิดการหย่อนคล้อย
ปัจจัยที่มีผลต่อการหย่อนคล้อยในการฉีดเมโสแฟต
1.ปริมาณไขมันที่สลายออกไป
หากเป็นไขมันในปริมาณเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น แก้ม เหนียง หรือต้นแขน ผิวมักไม่หย่อนชัดเจน แต่หากไขมันหนามาก อาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วยเพื่อป้องกันการหย่อนคล้อย
2.ความยืดหยุ่นของผิว
คนที่ผิวยังมีคอลลาเจนและอิลาสตินเพียงพอ ผิวมักกระชับกลับมาได้ดีหลังไขมันลด แต่หากผิวขาดความยืดหยุ่นอยู่แล้ว เช่น มีอายุที่มากขึ้น อาจมีโอกาสเห็นความหย่อนมากกว่า
3.การดูแลหลังทำ
การดื่มน้ำมากพอ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และดูแลผิวให้แข็งแรง ช่วยให้ผิวฟื้นตัวและกระชับได้ดียิ่งขึ้น
การฉีดเมโสแฟต โดยทั่วไปไม่ได้ทำให้ผิวหย่อนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะถ้าฉีดในปริมาณที่เหมาะสมและทำโดยแพทย์ บางรายกลับรู้สึกว่าผิวดูกระชับขึ้นด้วยซ้ำ เพราะปริมาณไขมันที่ลดลงช่วยให้โครงหน้าหรือสัดส่วนดูชัดเจน
ฉีดเมโสแฟตแล้วเห็นผลเลยหรือไม่
ฉีดเมโสแฟตไม่ได้ให้ผลลัพธ์แบบฉับพลัน เพราะตัวยาที่ฉีดเข้าไปต้องใช้เวลาออกฤทธิ์ต่อเซลล์ไขมันก่อน
ระยะเวลาที่มักเริ่มเห็นผล
• โดยทั่วไป จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 2-3 สัปดาห์ หลังฉีดเมโสแฟต เนื่องจากร่างกายต้องค่อย ๆ สลายและกำจัดไขมันออกทางระบบน้ำเหลืองและปัสสาวะ
• หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน มักต้องทำต่อเนื่อง ประมาณ 2-4 ครั้งขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและสภาพร่างกายของแต่ละคน
ทำไมถึงไม่เห็นผลทันทีหลังฉีดเมโสแฟต
1.กลไกการสลายไขมันต้องใช้เวลา
ตัวยาที่ฉีดเมโสแฟตเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว แต่ร่างกายยังต้องใช้เวลาเก็บกวาดและขับออก
2.ความแตกต่างระหว่างบุคคล
บางคนระบบเผาผลาญทำงานได้ดี อาจเห็นผลเร็วกว่า ขณะที่บางคนใช้เวลานานกว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
3.ปริมาณไขมันและการดูแลตัวเอง
ถ้ามีไขมันปริมาณมาก อาจต้องทำหลายครั้ง และหากยังทานอาหารมันจัดหรือดื่มน้ำน้อย ผลลัพธ์ก็อาจช้าลง
ฉีดเมโสแฟตเหมาะกับผู้หญิงหรือผู้ชาย
การฉีดเมโสแฟต เหมาะได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพราะเป็นหัตถการที่ช่วยลดไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขา โดยไม่ได้จำกัดเพศ ความแตกต่างมีเพียงลักษณะของไขมันและสัดส่วนร่างกายที่ต่างกัน ซึ่งแพทย์จะประเมินเป็นรายบุคคล เพื่อกำหนดปริมาณและตำแหน่งที่เหมาะสม
ฉีดเมโสแฟตลดไขมันเฉพาะจุดได้หรือไม่
การฉีดเมโสแฟตสามารถช่วย ลดไขมันสะสมเฉพาะได้ เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขา โดยตัวยาจะเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกขับออกตามกลไกของร่างกาย แต่ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักทั้งตัว ผลลัพธ์จะค่อย ๆ เห็นชัดเมื่อทำต่อเนื่องและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเหมาะสม
ฉีดเมโสแฟตกับฉีดเมโสหน้าใสต่างกันอย่างไร
1.จุดประสงค์ของการฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟต เน้นลดไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน หน้าท้อง ช่วยปรับรูปหน้าและสัดส่วน
เมโสหน้าใส เน้นบำรุงผิวหน้าโดยตรง ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ความกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำ และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
2.ตัวยาที่ใช้ในการฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟต ใช้ตัวยาที่มีคุณสมบัติช่วยให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกกำจัดออกจากร่างกาย
เมโสหน้าใส ใช้สารบำรุงผิว เช่น วิตามิน แร่ธาตุ กรดไฮยาลูรอนิก หรือสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อฟื้นฟูผิว
3.ผลลัพธ์ที่ได้
ฉีดเมโสแฟต ใบหน้าดูเรียวลง สัดส่วนเล็กลง ไขมันเฉพาะจุดลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เมโสหน้าใส ผิวดูสดใส เนียนละเอียดขึ้น จุดด่างดำและความหมองคล้ำลดลง
4.กลุ่มที่เหมาะสม
ฉีดเมโสแฟต เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบางจุดที่ลดได้ยาก
เมโสหน้าใส เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าให้สุขภาพดีขึ้น แก้ปัญหาความหมองคล้ำหรือผิวไม่สดใส
สรุปทุกหัวข้อเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต
ก่อนการฉีดเมโสแฟตต้องมีการเตรียมตัวที่ดี ดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟตก็เป็นเรื่องสำคัญ และที่สำคัญที่สุดคือการเลือกคลินิกในการฉีดเมโสแฟต ทั้งในเรื่องตัวยาแท้ คุณหมอที่ฉีดจะต้องมีใบรับรอง และต้องทำควบคู่ไปกับการดูแลตัวเอง ทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ