romrawin

โปรแกรมแฟตเหนียง ฉีดเหนียงลดไขมัน กี่ซีซีหน้าเรียว อยู่ได้นานแค่ไหน

แฟตเหนียง

447

แฟตเหนียง ฉีดกี่ซีซี หน้าเรียวสวย อยู่ได้นานแค่ไหน
เหนียง หรือที่หลายคนเรียกว่า “คางสองชั้น” เป็นหนึ่งในปัญหากวนใจที่ทำให้รูปหน้าไม่ชัดเจน ดูอ้วนกว่าความเป็นจริง และส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะถ่ายรูปหรือเข้าสังคมก็มักรู้สึกกังวล โดยเฉพาะคนที่อยากมีรูปหน้าเรียว กรอบหน้าคมชัด ปัญหาเหนียงสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากไขมันสะสม น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น พันธุกรรม หรือแม้กระทั่งอายุที่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย

ปัจจุบันหนึ่งในวิธีแก้ไขที่ได้รับความนิยมคือ “แฟตเหนียง” ซึ่งเป็นหัตถการที่ช่วยลดไขมันใต้คาง โดยไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นน้อย และสามารถเห็นผลได้จริงเมื่อทำต่อเนื่อง บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับแฟตเหนียง ข้อดี-ข้อจำกัด ใช้กี่ซีซี กี่ครั้งถึงเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน วิธีดูแลตัวเอง ไปจนถึงเปรียบเทียบกับวิธีลดเหนียงแบบอื่น ๆ เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้อย่างมั่นใจว่าควรทำหรือไม่

ปัญหาที่เกิดจากเหนียงหรือไขมันใต้คาง
1.เหนียงทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
เหนียงหรือไขมันที่สะสมบริเวณใต้คาง ทำให้ผิวบริเวณกรอบหน้าและคอดูหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ส่งผลให้หน้าดูแก่กว่าวัยจริง แม้ผิวหน้าส่วนอื่นยังสดใสก็ตาม

2.เหนียงทำให้รูปหน้าไม่ชัดเจน
เหนียงเป็นตัวการสำคัญที่บดบังความชัดของกรอบหน้าและแนวกราม ส่งผลให้รูปหน้าดูไม่เรียว ไม่ได้สัดส่วน โดยเฉพาะคนที่อยากมีหน้าเรียว V-Shape มักกังวลกับปัญหานี้มาก

3.เหนียงส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ
การมีเหนียงทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจ โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูป มักต้องหามุมหลบเหนียง เช่น เงยหน้าขึ้นหรือใช้เส้นผมปิดคาง ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจในการเข้าสังคม

4.เหนียงทำให้หน้าดูอ้วนขึ้น
แม้บางคนไม่ได้มีน้ำหนักเกิน แต่หากมีเหนียงก็ทำให้ใบหน้าดูอ้วนกว่าความเป็นจริง คล้ายกับน้ำหนักตัวมากกว่าที่เป็นจริง

5.เหนียงทำให้เกิดปัญหาในการแต่งหน้า
เหนียงทำให้การแต่งหน้าเพื่อเน้นกรอบหน้าหรือคอนทัวร์ดูไม่ชัดเจน เพราะไขมันบริเวณคางบดบังความเด่นชัดของโครงหน้า ทำให้การแต่งหน้าดูไม่สวยตามที่ตั้งใจ

6.เหนียงเสี่ยงต่อผิวหย่อนคล้อยในอนาคต
ไขมันสะสมใต้คางเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวบริเวณนั้นเริ่มหย่อนคล้อยได้ง่าย เมื่ออายุมากขึ้น ยิ่งทำให้เหนียงดูชัดและแก้ไขยากกว่าเดิม

แฟตเหนียงคืออะไร ลดไขมันได้ผลไหม
เหนียงคือไขมันที่สะสมอยู่ใต้คางและลำคอ ทำให้เกิดลักษณะเป็นก้อนนูนหรือชั้นผิวห้อยลงมา ดูคล้ายมีคางสองชั้น ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากคนอ้วนเพียงอย่างเดียว แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในคนที่รูปร่างปกติหรือแม้แต่คนผอม เนื่องจากสาเหตุหลักมาจากไขมันสะสมและความหย่อนคล้อยของผิวหนัง

แฟตเหนียง” หมายถึง การฉีดลดไขมันสะสมบริเวณใต้คางที่เรียกว่าเหนียง ซึ่งเป็นหัตถการที่ใช้ตัวยาเฉพาะฉีดเข้าไปตรงจุดที่มีไขมันสะสม เพื่อไปทำลายผนังเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวและถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านระบบเผาผลาญตามธรรมชาติ

แฟตเหนียงถือเป็นการแก้ปัญหาเหนียงด้วยการฉีดลดไขมันใต้คาง ซึ่งช่วยลดไขมันได้ผลจริง เห็นผลชัดขึ้นหลังทำต่อเนื่องหลายครั้ง และช่วยให้รูปหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น แต่แฟตเหนียงอาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ปัญหาเหนียงมาจากความหย่อนคล้อยของผิวมากกว่าไขมัน ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ก่อนทำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

แฟตเหนียงช่วยอะไรได้บ้าง
อย่างที่ทราบกันดีว่าแฟตเหนียงช่วยลดไขมันใต้คาง ทำให้กรอบหน้าคมชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน สามารถสรุปประโยชน์ของการฉีดแฟตเหนียงได้ดังนี้

1.แฟตเหนียงช่วยลดไขมันใต้คาง
การฉีดแฟตเหนียงมีจุดประสงค์หลักคือการลดไขมันสะสมบริเวณใต้คางและลำคอ ทำให้ก้อนไขมันหรือชั้นผิวที่ดูเป็นเหนียงค่อย ๆ เล็กลง เมื่อไขมันลดลง ใบหน้าจะดูกระชับขึ้น และไม่ดูบวมอูม

2.แฟตเหนียงช่วยทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น
เมื่อเหนียงหายไป กรอบหน้าและแนวกรามจะคมชัดขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเรียวและสมส่วนมากขึ้นด้วย เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ลุคหน้าเรียว V-Shape โดยไม่ต้องผ่าตัด

3.แฟตเหนียงช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์สดใสขึ้น
เหนียงมักทำให้ใบหน้าดูหย่อนคล้อยและแก่กว่าวัย การทำแฟตเหนียงลดไขมันใต้คางจะช่วยทำให้รูปหน้าดูยกขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ สดใส และมีมิติที่ดีขึ้น

4.แฟตเหนียงเพิ่มความมั่นใจในการถ่ายรูปและเข้าสังคม
หลายคนที่มีเหนียงมักไม่กล้าเงยหน้าถ่ายรูป หรือคอยหามุมปิดบังคาง การฉีดแฟตเหนียงช่วยลดปัญหานี้ ทำให้ผู้ทำรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการโพสท่าหรือถ่ายรูป รวมถึงมีบุคลิกภาพที่ดูดีขึ้นเวลาเข้าสังคม

5.แฟตเหนียงเป็นทางเลือกแทนการดูดไขมัน
สำหรับผู้ที่ไม่อยากผ่าตัดหรือดูดไขมัน ฉีดแฟตเหนียงถือเป็นทางเลือกที่เจ็บน้อยกว่า พักฟื้นน้อย และลดความเสี่ยงกว่ามาก เพราะเป็นการใช้ตัวยาลดไขมันแทนการผ่าตัด

6.แฟตเหนียงช่วยปรับสมดุลรูปหน้า
บางคนไม่ได้มีไขมันเยอะ แต่ไขมันสะสมเฉพาะจุดตรงเหนียง ทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุล การฉีดแฟตเหนียงช่วย จัดสัดส่วนใบหน้าให้สมดุลมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีใบหน้าส่วนบนดูเรียว แต่ส่วนล่างมีไขมันสะสมตรงคาง

ข้อดีและข้อจำกัดของแฟตเหนียง
แฟตเหนียงเป็นวิธีลดไขมันใต้คางที่ถือว่าได้ผลดี เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัดและอยากเห็นผลแบบค่อยเป็นค่อยไป มีข้อดีคือเจ็บน้อย ระยะพักฟื้นสั้น แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ต้องทำหลายครั้งและไม่เหมาะกับทุกเคส ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ก่อนทำจึงสำคัญมาก โดยสรุปข้อดีและข้อจำกัดของแฟตเหนียงได้ดังนี้

ข้อดีของแฟตเหนียง
1.แฟตเหนียงช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้
• ฉีดตรงจุดที่มีปัญหาเหนียง
• เห็นผลว่าชั้นไขมันใต้คางลดลง กรอบหน้าชัดขึ้น

2.แฟตเหนียงไม่ต้องผ่าตัด
• เป็นหัตถการที่ไม่ต้องใช้มีดผ่าตัด
• ไม่มีบาดแผลใหญ่ ไม่ต้องพักฟื้นนาน

3.แฟตเหนียงเจ็บน้อยและความเสี่ยงน้อยกว่า
• ใช้เพียงเข็มขนาดเล็กในการฉีด
• ตัวยาที่ใช้เป็นของแท้ (หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน)

4.แฟตเหนียงมีระยะพักฟื้นน้อย
• หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• บวม ช้ำ เล็กน้อยในช่วงแรก แต่หายได้เอง

5.แฟตเหนียงช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว
• เมื่อไขมันใต้คางลดลง กรอบหน้าชัดขึ้น
• ส่งผลให้หน้าดูเด็กลง สดใส และมีมิติ

ข้อจำกัดของแฟตเหนียง
1.แฟตเหนียงไม่เหมาะกับทุกคน
• แฟตเหนียงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คาง
• ถ้าเหนียงเกิดจากผิวหย่อนคล้อยอย่างเดียว การฉีดแฟตอาจไม่เห็นผล ต้องใช้หัตถการยกกระชับแทน เช่น HIFU, Thermage

2.แฟตเหนียงต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง
• ส่วนใหญ่ต้องฉีด 2-4 ครั้ง ขึ้นไปจึงเห็นผลชัดเจน
• ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและสภาพผิวของแต่ละคน

3.แฟตเหนียงให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร
• หากหลังทำไม่ควบคุมน้ำหนัก ไขมันใหม่อาจกลับมาสะสมได้
• ต้องดูแลเรื่องอาหารและการออกกำลังกายร่วมด้วย

4.แฟตเหนียงอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย
• อาจบวม แดง หรือช้ำในช่วง 2-3 วันแรก
• บางรายอาจมีอาการตึง ๆ หรือเจ็บบริเวณที่ฉีด

แฟตเหนียงต้องฉีดบริเวณไหน
โดยทั่วไปการฉีดแฟตเหนียงจะทำที่ใต้คางและรอบ ๆ กรอบคางเป็นหลัก แต่บางรายอาจต้องฉีดเพิ่มเติมบริเวณด้านข้างกรามหรือต้นคอ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ซึ่งบริเวณที่ฉีดแฟตเหนียงมีดังนี้

1.ฉีดแฟตเหนียงบริเวณใต้คาง
• เป็นตำแหน่งหลักที่นิยมฉีดมากที่สุด
• ไขมันมักสะสมตรงใต้คาง ทำให้เกิดลักษณะ “คางสองชั้น”
• เมื่อฉีดแฟตตรงนี้ จะช่วยสลายไขมันและทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น

2.ฉีดแฟตเหนียงบริเวณเหนียงด้านข้าง
• ไขมันบางคนไม่ได้อยู่แค่กลางคาง แต่กระจายไปทางซ้าย-ขวาของกราม
• การฉีดแฟตตรงนี้ช่วยให้แนวกรามดูเรียวสมดุล ไม่บวมเป็นก้อน

3.ฉีดแฟตเหนียงบริเวณรอบ ๆ กรอบคางล่าง
• สำหรับบางเคสที่ไขมันสะสมล้นออกมาทางกรอบคางล่าง
• ฉีดสลายแฟตตรงนี้ช่วยทำให้แนวคางคมชัดขึ้น เห็นรูปหน้า V-shape ชัดกว่าเดิม

4.ฉีดแฟตเหนียงบริเวณลำคอส่วนบน
• บางคนมีไขมันสะสมล้นลงมาถึงต้นคอ
• แพทย์อาจพิจารณาฉีดแฟตเพื่อช่วยปรับให้ช่วงคอ-คางดูกลมกลืน ไม่เป็นชั้น

แฟตเหนียงควรฉีดกี่ซีซีถึงหน้าเรียว
โดยทั่วไปแฟตเหนียงมักฉีด 2-10 cc ต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและการประเมินของแพทย์ โดยปกติแล้วต้องทำแฟตเหนียงมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลชัดเจนและคงอยู่ได้นาน

ปริมาณการฉีดแฟตเหนียงโดยทั่วไป
• ส่วนใหญ่จะใช้ประมาณ 2-10 cc ต่อครั้ง
• ปริมาณขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันใต้คางและขนาดเหนียงของแต่ละคน

การประเมินฉีดแฟตเหนียงตามระดับเหนียง
1.เหนียงเล็ก (ไขมันไม่มาก)
• ใช้ประมาณ 2-4 cc
• มักเห็นผลชัดเจนหลังทำเพียง 1-2 ครั้ง

2.เหนียงปานกลาง
• ใช้ประมาณ 4-6 cc
• ส่วนใหญ่ต้องทำต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง จึงเห็นผลชัดเจน

3.เหนียงใหญ่หรือไขมันเยอะ
• ใช้ประมาณ 6-10 cc ต่อครั้ง
• มักต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อให้ได้รูปหน้าที่ชัดขึ้น

ปัจจัยที่ทำให้ปริมาณแฟตเหนียงต่างกัน
• ขนาดเหนียงและปริมาณไขมัน คนที่มีไขมันมากก็ต้องใช้ปริมาณยามากขึ้น
• โครงหน้าและสภาพผิว ถ้าโครงหน้ากว้างหรือผิวหย่อนคล้อยมาก อาจต้องใช้ตัวยาหรือหัตถการอื่น
• ความต้องการของผู้ทำ บางคนอยากลดเพียงเล็กน้อยให้ดูเป็นธรรมชาติ บางคนอยากให้กรอบหน้าคมชัดมาก

แฟตเหนียงอยู่ได้นานแค่ไหนหลังฉีด
หลังฉีดแฟตเหนียง ผลลัพธ์จะอยู่ได้เฉลี่ย 6 เดือน - 1 ปี หากดูแลตัวเองดีอาจอยู่ได้นานกว่านั้น แต่ถ้าไม่ควบคุมน้ำหนัก ไขมันก็มีโอกาสกลับมาใหม่ได้

ระยะเวลาเห็นผลแฟตเหนียงโดยทั่วไป
• ผลลัพธ์จากการฉีดแฟตเหนียงสามารถอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน - 1 ปี
• ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการดูแลหลังทำ เช่น การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย

ทำไมผลลัพธ์แฟตเหนียงถึงอยู่ได้ไม่ถาวร
• การฉีดแฟตเป็นการลดเซลล์ไขมันเฉพาะจุดที่ฉีดเข้าไป
• เมื่อไขมันถูกทำลาย ร่างกายจะค่อย ๆ กำจัดออก ทำให้เหนียงเล็กลงจริง
• แต่ถ้าหลังทำแฟตเหนียง น้ำหนักขึ้นหรือมีการสะสมไขมันใหม่ เหนียงก็อาจกลับมาได้อีก

แฟตเหนียงกี่ครั้งถึงเห็นผล ต้องทำบ่อยไหม
โดยทั่วไปการฉีดแฟตเหนียงจะเริ่มเห็นผลหลัง 2-3 สัปดาห์ และมักต้องทำ 2-4 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน

ระยะเวลาเริ่มเห็นผลแฟตเหนียง
• หลังฉีดครั้งแรกประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะเริ่มสังเกตได้ว่าเหนียงค่อย ๆ เล็กลง
• เพราะร่างกายต้องใช้เวลาย่อยสลายและกำจัดเซลล์ไขมันออกทางระบบน้ำเหลือง

ต้องทำแฟตเหนียงกี่ครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน
• ส่วนใหญ่ต้องทำ 2-4 ครั้ง ขึ้นไป
• ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและสภาพผิวของแต่ละคน

ต้องทำแฟตเหนียงบ่อยไหม
• ระยะห่างระหว่างครั้งที่ฉีดอยู่ที่ 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายกำจัดไขมันเก่าออกก่อน
• เมื่อทำครบคอร์สแล้ว หากควบคุมน้ำหนักและดูแลตัวเองดี ไม่จำเป็นต้องทำบ่อย
• แต่ถ้าน้ำหนักขึ้นมาก ไขมันอาจกลับมาสะสม ต้องทำซ้ำบ้างเพื่อคงผลลัพธ์

ใครบ้างที่เหมาะกับแฟตเหนียง
1.แฟตเหนียงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คาง
• มีปัญหาเหนียงหรือคางสองชั้นจากการสะสมของไขมัน
• เวลาถ่ายรูปหรือก้มหน้าจะเห็นชัดว่าใต้คางเป็นก้อนนูน

2.แฟตเหนียงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น
• อยากให้กรอบหน้าและแนวกรามดูคมชัด
• เหมาะกับคนที่อยากได้ลุคหน้าเรียว V-Shape โดยไม่ต้องผ่าตัด

3.แฟตเหนียงเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือดูดไขมัน
• กลัวการผ่าตัดหรือไม่อยากพักฟื้นนาน
• ต้องการวิธีที่เจ็บน้อย ฟื้นตัวไม่นาน

4.แฟตเหนียงเหมาะกับผู้ที่สุขภาพโดยรวมแข็งแรง
• ไม่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับตับ ไต หรือระบบน้ำเหลือง
• ไม่ได้อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

5.แฟตเหนียงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับบุคลิกภาพและความมั่นใจ
• รู้สึกขาดความมั่นใจเวลาเข้าสังคมหรือถ่ายรูป
• อยากให้หน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ และมีมิติ

ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับแฟตเหนียง
1.แฟตเหนียงไม่เหมาะกับคนที่เหนียงเกิดจากผิวหนังหย่อนคล้อยมากกว่าไขมัน
• หากปัญหาไม่ได้เกิดจากไขมันสะสม แต่เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวและกล้ามเนื้อ
• การฉีดแฟตอาจไม่ช่วยให้เหนียงหาย แต่กลับทำให้ผิวดูหย่อนกว่าเดิม
• ควรเลือกวิธีอื่นแทน เช่น HIFU, Thermage, หรือยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ

2.แฟตเหนียงไม่เหมาะกับผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
• ไม่ควรฉีดแฟตเหนียง เพราะความปลอดภัยของตัวยาและผลข้างเคียงต่อทารก ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจน

3.แฟตเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด
• โรคเกี่ยวกับตับ ไต ระบบน้ำเหลือง
• ผู้ที่มีโรคเลือดออกง่ายหรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด
• ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของตัวยา

4.แฟตเหนียงไม่เหมาะกับคนที่คาดหวังผลลัพธ์รวดเร็วเกินไป
• การฉีดแฟตเหนียง ไม่เห็นผลทันที ต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ และมักต้องทำ 2-4 ครั้ง
• หากต้องการผลชัดเจนในครั้งเดียว อาจต้องเลือกวิธีดูดไขมันเหนียงแทน

5.แฟตเหนียงไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองหลังทำได้
• คนที่ควบคุมน้ำหนักไม่ได้ กินอาหารไขมันสูงหรือไม่ออกกำลังกาย
• ไขมันใหม่อาจกลับมาสะสมได้ ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน

6.แฟตเหนียงไม่เหมาะกับคนที่มีการติดเชื้อหรืออักเสบบริเวณที่จะฉีด
• หากมีสิวอักเสบ แผล หรือติดเชื้อที่ใต้คางและลำคอ ควรเลื่อนการฉีดออกไปก่อน จนกว่าจะหาย

แฟตเหนียง vs โบท็อกซ์กราม ต่างกันอย่างไร
แฟตเหนียงและโบท็อกซ์กราม มักถูกพูดถึงคู่กันในเรื่องการปรับรูปหน้า แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนละวิธี ใช้แก้ปัญหาคนละแบบ สามารถอธิบายเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ ได้ดังนี้

1.จุดประสงค์การรักษา
• แฟตเหนียง ใช้เพื่อลดไขมันสะสมใต้คาง ที่เรียกว่าเหนียงหรือคางสองชั้น ทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น
• โบท็อกซ์กราม ใช้เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อกราม เหมาะกับคนที่กรามใหญ่หรือรูปหน้าเหลี่ยม

2.ตำแหน่งที่ฉีด
• แฟตเหนียง ฉีดบริเวณใต้คาง เหนียง ด้านข้างกรามเล็กน้อย (ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน)
• โบท็อกซ์กราม ฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อกรามด้านข้างใบหน้า (ข้างแก้ม-แนวขากรรไกร)

3.กลไกการทำงาน
• แฟตเหนียง ใช้ตัวยาเข้าไปทำลายผนังเซลล์ไขมัน ร่างกายกำจัดออกทางระบบน้ำเหลือง ทำให้ไขมันลดลง
• โบท็อกซ์กราม ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินไปยับยั้งการทำงานของเส้นประสาทในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและเล็กลงเมื่อใช้งานน้อยลง

4.เหมาะกับใคร
• แฟตเหนียง คนที่มีไขมันสะสมใต้คางหรือเหนียง แต่ผิวไม่ได้หย่อนคล้อยมาก
• โบท็อกซ์กราม คนที่มีกรามใหญ่เพราะกล้ามเนื้อ ไม่ใช่เพราะไขมันหรือน้ำหนักเกิน

5.ระยะเวลาเห็นผล
• แฟตเหนียง เริ่มเห็นผลใน 2-3 สัปดาห์ ต้องทำต่อเนื่อง 2-4 ครั้ง
• โบท็อกซ์กราม เห็นผลเร็วกว่า ประมาณ 2-4 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

6.ผลลัพธ์ที่ได้
• แฟตเหนียง กรอบหน้าคมขึ้น คางสองชั้นเล็กลง ใบหน้าดูเรียวโดยการลดไขมัน
• โบท็อกซ์กราม หน้าเรียวเล็กลงเพราะกล้ามเนื้อกรามเล็กลง ทำให้กรอบหน้าดูนุ่มนวลขึ้น

7.ข้อจำกัด
• แฟตเหนียง ไม่เหมาะกับคนที่เหนียงเกิดจากผิวหย่อนคล้อย
• โบท็อกซ์กราม ไม่เหมาะกับคนที่กรามใหญ่เพราะกระดูกหรือมีไขมันแก้มเยอะ เพราะจะไม่เห็นผล

แฟตเหนียง vs Ulthera เลือกแบบไหนดี
ทั้งแฟตเหนียง และ Ulthera ต่างก็ใช้แก้ปัญหาบริเวณคางและกรอบหน้า แต่ทำงานคนละแบบและเหมาะกับคนละปัญหาโดยตรง สรุปเปรียบเทียบให้ละเอียดแบบเข้าใจง่ายได้ดังนี้

1.จุดประสงค์หลัก
• แฟตเหนียง ลดไขมันสะสมใต้คาง (เหนียง, คางสองชั้น) ช่วยให้คางเรียว กรอบหน้าชัด
• Ulthera ยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย ทำให้ผิวใต้คางตึงขึ้น กรอบหน้าคมขึ้น

2.กลไกการทำงาน
• แฟตเหนียง ฉีดตัวยาลดไขมันเข้าไปใต้คาง เพื่อทำลายผนังเซลล์ไขมันให้แตกตัว แล้วร่างกายกำจัดออกทางระบบน้ำเหลือง
• Ulthera ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ (Focused Ultrasound) ยิงลึกลงไปถึงชั้น SMAS (ชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับขึ้น

3.เหมาะกับใคร
• แฟตเหนียง คนที่มีปัญหาไขมันสะสมใต้คาง และคนที่ยังไม่มีผิวหย่อนคล้อยมาก
• Ulthera คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดเพราะผิวหนังไม่ตึง และคนอายุ 30 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีความหย่อนคล้อย

4.ระยะเวลาเห็นผล
• แฟตเหนียง เริ่มเห็นผลใน 2-3 สัปดาห์ ต้องทำ 2-4 ครั้ง เพื่อให้ชัดเจน
• Ulthera เริ่มเห็นผลทันทีเล็กน้อย และชัดขึ้นเรื่อย ๆ ใน 2-3 เดือน อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

5.ผลลัพธ์ที่ได้
• แฟตเหนียง คางสองชั้นหาย กรอบหน้าคมขึ้นเพราะไขมันลด
• Ulthera กรอบหน้าชัดขึ้นเพราะผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย

6.ข้อจำกัด
• แฟตเหนียง ถ้าเหนียงเกิดจากผิวหย่อนคล้อยมากกว่ามีไขมัน อาจไม่เห็นผล
• Ulthera ถ้ามีไขมันสะสมเยอะ แต่ผิวไม่ได้หย่อน อาจไม่เห็นผลเท่าที่ควร

แฟตเหนียงบวมกี่วัน ต้องพักฟื้นไหม
หลังฉีดแฟตเหนียงจะบวมอยู่ประมาณ 3-7 วัน แล้วค่อย ๆ ยุบลงเอง ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เพียงแค่ดูแลตัวเองเพื่อให้อาการบวมยุบเร็วและได้ผลลัพธ์ที่ชัดขึ้น

อาการบวมหลังฉีดแฟตเหนียง
• หลังฉีดแฟตเหนียง จะมีอาการบวมทันที บริเวณที่ฉีด
• อาการบวมจะชัดที่สุดใน 1-3 วันแรก
• จากนั้นอาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลง และส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายใน 5-7 วัน

การพักฟื้นหลังฉีดแฟตเหนียง
• การฉีดแฟตเหนียงถือว่าแทบไม่ต้องพักฟื้น
• หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เช่น ทำงาน ออกไปข้างนอก หรือแต่งหน้าได้
• สิ่งที่มักเกิดร่วมกับอาการบวม คือ แดง ตึง หรือช้ำเล็กน้อย แต่ไม่รบกวนการใช้ชีวิต

ผลข้างเคียงที่ควรระวังในการฉีดแฟตเหนียง
แฟตเหนียงมีผลข้างเคียงหลัก ๆ คือ บวม ช้ำ ตึง หรือเจ็บเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาการปกติและหายได้เองในไม่กี่วัน ส่วนผลข้างเคียงรุนแรงพบได้น้อยมาก และสามารถป้องกันได้ด้วยการเลือกทำกับแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (ปกติและหายได้เอง)
• บวม เกิดขึ้นทันทีหลังฉีด และชัดที่สุดใน 1-3 วันแรก มักยุบลงภายใน 5-7 วัน
• รอยแดงและรอยช้ำ เกิดจากการใช้เข็มฉีด จะค่อย ๆ จางหายไปใน 3-7 วัน
• รู้สึกตึง ๆ หรือเจ็บเล็กน้อย บริเวณที่ฉีดอาจมีอาการตึงหรือหน่วง มักหายได้เองภายในไม่กี่วัน
• คันหรือระคายเคืองเล็กน้อย เกิดจากการอักเสบชั่วคราว หากไม่รุนแรง มักหายได้เอง

ผลข้างเคียงที่พบได้แต่ไม่บ่อย
• ก้อนแข็งหรือเป็นไตใต้ผิวหนัง เกิดจากตัวยายังไม่สลายหรือกระจายไม่ทั่ว มักหายไปเองในไม่กี่สัปดาห์ หรือแพทย์อาจนวดช่วย
• อาการชาเล็กน้อย บางรายอาจรู้สึกชาบริเวณที่ฉีด มักเป็นชั่วคราวและหายเอง
• ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ อาจเกิดจากไขมันสลายไม่เท่ากัน แก้ไขโดยการทำซ้ำหรือปรับเทคนิคฉีดกับแพทย์

ผลข้างเคียงที่ควรระวัง (พบได้น้อยมาก)
• การแพ้ตัวยา (บวม แดง คันรุนแรง)
• การติดเชื้อบริเวณที่ฉีด (หากดูแลความสะอาดไม่ดีหรือคลินิกไม่ได้มาตรฐาน)
• เส้นประสาทถูกกดทับ ทำให้มีอาการชา/อ่อนแรงชั่วคราว

ข้อห้ามที่ไม่ควรทำหลังฉีดแฟตเหนียง
1.ห้ามนวด กด หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ฉีดแฟตเหนียง
เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนที่ ไม่กระจายตรงจุด เสี่ยงทำให้เกิดก้อนแข็งหรือผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ

2.หลีกเลี่ยงการประคบร้อนทันทีหลังฉีดแฟตเหนียง
ควรใช้การประคบเย็น ใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดบวมและช้ำ หากต้องการประคบอุ่น ควรรออย่างน้อย 48 ชั่วโมงขึ้นไป และทำตามคำแนะนำแพทย์

3.ห้ามออกกำลังกายหนักใน 1-2 วันแรก หลังฉีดแฟตเหนียง
การออกแรงมาก ๆ ทำให้เลือดสูบฉีดเพิ่ม อาจทำให้บวมและช้ำมากขึ้น

4.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่หลังฉีดแฟตเหนียง
• แอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายบวมน้ำและช้ำง่าย
• บุหรี่ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี กระทบต่อการฟื้นฟูของผิว

5.ห้ามทานอาหารเค็มจัดหรือโซเดียมสูงในช่วงแรกหลังฉีดแฟตเหนียง
เช่น อาหารหมักดอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะทำให้บวมนานขึ้น

6.หลีกเลี่ยงซาวน่า อบไอน้ำ หรือการโดนความร้อนจัด หลังฉีดแฟตเหนียง
ควรงดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะความร้อนอาจเร่งการอักเสบ ทำให้บวมช้ำมากกว่าเดิม

7.ห้ามใช้ยาแก้อักเสบบางชนิดหรือยาละลายลิ่มเลือดโดยไม่ปรึกษาแพทย์
เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพราะอาจทำให้เลือดออกง่ายและรอยช้ำหายช้า

แฟตเหนียงเตรียมตัวก่อนฉีดอย่างไร
1.ก่อนทำแฟตเหนียงปรึกษาแพทย์ให้ละเอียด
ให้แพทย์ประเมินสภาพเหนียงว่าเกิดจากไขมันสะสมหรือผิวหย่อนคล้อย เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม เช่น ฉีดแฟต, HIFU หรือการดูดไขมัน

2.ก่อนทำแฟตเหนียงตรวจสอบสุขภาพและโรคประจำตัว
• แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ ไต โรคเลือด หรือแพ้ยาบางชนิด
• แจ้งประวัติการใช้ยา โดยเฉพาะยาละลายลิ่มเลือด แอสไพริน หรือสมุนไพรบางชนิด ที่ทำให้เลือดออกง่าย

3.ก่อนทำแฟตเหนียงหลีกเลี่ยงยาบางชนิดและอาหารเสริม
• ควรงดทานยาลดการแข็งตัวของเลือด (เช่น Aspirin, Ibuprofen) อย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ
• งดอาหารเสริมบางชนิด เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี โสม แปะก๊วย เพราะทำให้เสี่ยงช้ำง่าย

4.ก่อนทำแฟตเหนียงงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
ควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนฉีด เพราะส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดและทำให้บวมช้ำได้ง่าย

5.ก่อนทำแฟตเหนียงพักผ่อนให้เพียงพอ
นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ในคืนก่อนวันฉีด ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีและลดการเกิดอาการช้ำ

6.ก่อนทำแฟตเหนียงทำความสะอาดใบหน้าและบริเวณลำคอ
ในวันที่เข้ารับบริการควรล้างหน้าให้สะอาด งดการแต่งหน้าหรือทาครีมบำรุงที่หนามาก เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

แฟตเหนียงดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างไร
1.หลังทำแฟตเหนียงประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก
• ช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ
• หลังจากนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นประคบอุ่น เพื่อช่วยให้ตัวยากระจายดีขึ้น (ควรรออย่างน้อย 48 ชั่วโมง)

2.หลังทำแฟตเหนียงหลีกเลี่ยงการนวด กด หรือสัมผัสแรง ๆ
• อย่านวดหรือกดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนที่
• เสี่ยงทำให้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอหรือเกิดก้อนแข็งใต้ผิว

3.หลังทำแฟตเหนียงควรดื่มน้ำมาก ๆ
• ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร
• ช่วยกระตุ้นการขับของเสียและไขมันที่ถูกสลายออกจากร่างกาย

4.หลังทำแฟตเหนียงงดออกกำลังกายหนัก 1-2 วันแรก
• เพราะการออกแรงมากจะทำให้เลือดสูบฉีดเพิ่ม เสี่ยงบวมและช้ำ
• หลังจากนั้นสามารถกลับไปออกกำลังกายได้ตามปกติ

5.หลังทำแฟตเหนียงเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่
• ควรงดอย่างน้อย 3-7 วัน
• เพราะทำให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ ร่างกายฟื้นตัวช้าลง และผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

6.หลังทำแฟตเหนียงควรควบคุมอาหาร
• ลดอาหารมันจัด หวานจัด เค็มจัด เพราะทำให้ร่างกายบวมน้ำและไขมันสะสมง่าย
• ควรทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ผัก ผลไม้ เพื่อช่วยระบบเผาผลาญ

7.หลังทำแฟตเหนียงควรพักผ่อนให้เพียงพอ
• นอนหลับให้เต็มที่ 6-8 ชั่วโมงต่อคืน
• ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี

8.หลังทำแฟตเหนียงควรติดตามผลกับแพทย์
• เข้าพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อประเมินผลการรักษา
• หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงรุนแรง เจ็บมาก หรือมีก้อนแข็งที่ไม่ยุบ ควรรีบพบแพทย์ทันที

สรุปเกี่ยวกับแฟตเหนียง
สรุปว่าเหนียงไม่ใช่แค่ปัญหาความงาม แต่ยังส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ การฉีดแฟตเหนียงจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คาง เพราะช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้น หน้าเรียว และดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน อย่างไรก็ตาม การฉีดแฟตเหนียงไม่ได้เหมาะกับทุกคน และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและไขมัน วางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ

* ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
* ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง*
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ
ปรึกษาฟรี พร้อมรับ โปรโมชั่นพิเศษ ก่อนใคร
โปรโมชั่นต่างๆ
เรื่อง บทความน่ารู้ ที่คุณอาจสนใจ